บทที่5
ก็แค่อยากลอง
“แบบนี้นี่เอง แล้วที่คุณบอกสนใจฉันและนั่งมองอยู่ตลอด ทำไมไม่เดินมาทักทายล่ะคะ” ได้ยินว่าเขาพูดได้หลายภาษาเธอไม่ติดใจอะไรเพราะส่วนใหญ่นักธุรกิจที่เดินทางไปคุยงานหลายประเทศก็มักจะพูดได้หลายภาษาอยู่แล้ว อย่างเธอก็พูดได้หลายภาษาเช่นเดียวกันเว้นก็แต่ภาษาญี่ปุ่นเนี่ยแหละที่ยังไม่ได้เรียนจริงจัง
“หึ เพราะผมยังไม่แน่ใจว่าคุณเองสนใจผมอยู่หรือเปล่า หากเดินเข้ามาทักเลยคุณอาจจะเมินผมก็ได้” จะล่อเหยื่อให้ติดกับก็ต้องมีชั้นเชิงหน่อยสิ เพราะเหยื่อของเขาไม่ใช่คนธรรมดา เขาดูออกว่าเธอไม่ได้โง่ แต่ที่เธอยอมเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาทักทายคงเพราะเธอคิดว่าเขาไม่รู้จักตัวตนของเธอ และเธอก็คงถูกใจเขาด้วย
“อ่อ ก็เลยเล่นตัวสักนิดเพื่อให้ฉันสนใจสินะคะ” เธอย่นจมูกใส่เขาอย่างหมั่นไส้ เอาจริงนะ นี่คือครั้งแรกที่เธอรู้สึกผ่อนคลายและสนุกที่ได้คุยกับคนอื่นแถมยังเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่เคยเจอกันอีก อาจเพราะที่ผ่านมามีแต่คนไม่กล้าเข้าหาและมักจะระมัดระวังตัวเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าเธอ
ส่วนเธอเองก็ต้องทำตัวให้น่าเคารพและเข้มแข็งตลอดเวลาเหมือนกัน เกิดเป็นลูกคนโตมันไม่ง่ายและแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงแต่สุดท้ายเธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอคือทายาทตระกูลมาเฟีย ยังไงก็ต้องแบกรับความกดดันและมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบไม่ต่างจากน้องชาย
“ประมาณนั้น” เคนเซยักไหล่เบาๆ ไม่ได้ปฏิเสธเพราะเขาต้องการให้เธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆ
“คุณนี่ร้ายใช่เล่นเลยนะ ตอนแรกฉันคิดว่าคุณจะดุและเย็นชามากกว่านี้ เพราะบางครั้งสายตาคุณมันดูราบเรียบจนฉันอ่านไม่ออก แต่พอได้คุยด้วยกลับรู้สึกดีกว่าที่คิด”
“ที่คุณคิดคือถูกแล้วครับ ผมดุจริง หมายถึงบนเตียง” คราวนี้เคนเซขยับไปกระซิบข้างหูเธออย่างถือวิสาสะจนได้กลิ่นหอมละมุนจากตัวเธอซึ่งมันทำให้เขาพอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็นะ คนอย่างเขาไม่ใช่คนที่จะหลงไปกับรูปลักษณ์ภายนอกและเขาก็ไม่ใช่คนหมกมุ่นกับเรื่องบนเตียงขนาดนั้น นี่ทำอยู่เนี่ยก็แค่เล่นละครเท่านั้นแหละ
ที่เธอบอกว่าเขาดุและเย็นชา นั่นแหละคือความจริงและมันก็คือตัวตนของเขาเพราะตอนนี้เขาก็ชักจะเริ่มหมดความอดทนกับการเล่นละครของตัวเอง เขาว่าเขาใจเย็นเกินไปแล้ว ควรจะปิดจ็อบสักที ตอนนี้จิโร่คงแอบถ่ายภาพความสนิทสนมของเขากับเธอพอสมควร แต่มันยังไม่มากพอที่จะทำให้เธอไม่สามารถปฏิเสธการแต่งงานกับเขาได้
ในเมื่อเธอเปิดโอกาสให้เขา เขาก็จะสนองให้เธออย่างถึงใจเพราะสุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดก็คือตัวเขาเอง เรื่องบนเตียงถึงไม่ได้อยู่ในแผนการแต่แรก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่อยากได้เธอ ต่อให้ไม่ได้หมกมุ่นกับเรื่องเซ็กซ์แต่ทว่าเขาก็ไม่ได้ตายด้านซะหน่อย เขายังมีความต้องการอยู่ เมื่อมีโอกาสดึงเรื่องนี้เข้ามาอยู่ในแผนการมีหรือเขาจะปล่อยโอกาสไป ดีซะอีกเธอจะได้ดิ้นไม่หลุด
ตัวเขาไม่ได้ชอบมีเซ็กซ์กับคนแปลกหน้าไปเรื่อยแต่เพราะเธอคือเป้าหมายที่เขาต้องการใช้ประโยชน์เพราะฉะนั้นอะไรที่ทำให้เขาบรรลุเป้าหมายของตัวเองได้ เขาก็จะทำ อีกอย่างยอมรับว่าเขาถูกใจเธอด้วย อยากรู้ว่าเวลาที่เธอนอนอยู่ใต้ร่างของเขาและครางออกมา เธอจะเปิดเผยความรู้สึกจริงๆ ของตัวเองออกมาด้วยหรือเปล่า
เพราะตอนนี้เขารู้ว่าสิ่งที่เธอแสดงออกไม่ใช่ตัวตนทั้งหมดของเธอ เธอเองก็ใส่หน้ากากและเล่นละครเป็นสาวสวยพราวเสน่ห์เพื่อตบตาเขาอยู่เหมือนกัน ซึ่งเขาไม่ติดเพราะตัวเขาก็กำลังเล่นละครและใส่หน้ากากเข้าหาเธอไม่ต่างกัน
“เห็นนิ่งๆ ไม่คิดว่าคุณจะอ่อยเก่งขนาดนี้” ฌาณายิ้มโปรยเสน่ห์คืนบ้าง คืนนี้ไม่น่าเบื่ออีกต่อไปแล้วสินะ เพราะเขาทำให้เธอลืมความเสียใจไปชั่วขณะได้จริงๆ เธอมองเห็นแต่ใบหน้าหล่อๆ ของเขาจนชักอยากทำความรู้จักมากกว่านี้ แต่ก็นะ ไม่มีใครอยากทำความรู้จักกับคนแปลกหน้าจริงๆ หรอก เขากับเธอก็แค่ผ่านมาเจอกันและถูกใจกันเท่านั้นเอง
เพราะงั้นถ้าคืนนี้เธอจะไปต่อกับเขาเพราะรู้สึกถูกใจเขาก็คงไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เธอโตแล้วดูแลตัวเองได้ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีผู้ชายคนอื่นกล้ามานั่งพูดคุยกับเธอก่อน ซึ่งก่อนหน้านั้นจะมีแค่พี่หมอคนเดียว เธอถึงได้รู้สึกชอบเขามากกว่าคนอื่น เพราะเขาทั้งสุภาพและใจดีสุดๆ แถมยังปฏิบัติกับเธอแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เกร็งหรือทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจ
“ผมอ่อยขนาดนี้แล้ว สนใจไปต่อกับผมหรือยังล่ะ” เขายกยิ้มมุมปากและมองเธออย่างสื่อความหมายจนคนตัวเล็กยิ้มเขินเล็กน้อย
“จริงๆ ฉันชอบที่คุณพูดจาสบายๆ แบบนี้นะคะ เวลาคุณพูดครับมันดูไม่เป็นตัวคุณเท่าไร” เธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆ เขาดูเหมาะกับการทำตัวสบายๆ พูดจาปกติไม่ต้องถึงขั้นสุภาพแต่ก็ไม่ได้หยาบคาย
“หึ คุณนี่พูดตรงอีกแล้วนะ แต่ก็ดี งั้นผมจะพูดสบายๆ กับคุณละกัน” บอกตามตรงเขาเองก็โคตรอึดอัด โคตรไม่เป็นตัวของตัวเอง ยังดีที่เธอไม่ได้สนใจว่าเขาจะพูดจาสุภาพหรือไม่สุภาพ นับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจไม่น้อย การได้มานั่งคุยกับเธอแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเพราะมันทำให้เขาได้มาทำความคุ้นเคยกับว่าที่เมียในอนาคตก่อนจะได้ไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจริงๆ
และเขาคิดว่าถ้าได้ใช้ชีวิตด้วยกันจริงๆ เธอคงไม่ได้อ่อนหวานและหว่านเสน่ห์ใส่เขาไม่หยุดแบบนี้หรอก เขาคิดว่าเธอน่าจะดื้อรั้นและพยศใส่เขามากกว่า ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็คงดีไม่น้อย ชีวิตเขาจะได้ไม่น่าเบื่อจนเกินไปเพราะเขาชอบปราบพยศคนที่สุด
“จริงๆ วันนี้ฉันอกหักมาค่ะ เลยรู้สึกเศร้านิดหน่อย” อันที่จริงไม่หน่อยหรอกแต่เพราะเธอไม่ได้อยากอ่อนแอให้คนอื่นเห็นถึงต้องพยายามทำตัวเข้มแข็งตลอดเวลา ใครจะไม่เสียใจในเมื่อพี่หมอเป็นรักแรกของเธอ เธอแอบรักเขามาตั้งนานแต่สุดท้ายก็ไม่ได้แม้แต่สารภาพรัก มันเจ็บมากนะ แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มรับและยินดีกับคนที่เธอรักทั้งคู่
“ถ้าเศร้าก็ระบายออกมา ไม่จำเป็นต้องทำตัวเข้มแข็งตลอดเวลาก็ได้ ผมเป็นแค่คนแปลกหน้า คุณจะกลัวเสียฟอร์มทำไม อยากดื่มหนักๆ หรืออยากระบายความอัดอั้นก็ทำเถอะ”
นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนบอกให้เธอระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมาและเป็นคนแรกที่บอกให้เธอไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดเวลาเพราะที่ผ่านมาเธอถูกฝึกให้อดทนและเก็บซ่อนความรู้สึกให้เก่ง ต้องเข้มแข็งและแข็งแกร่งให้สมกับเป็นทายาทตระกูลใหญ่
“คุณรู้มั้ยว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินคำพูดอะไรแบบนี้ ขอบคุณมากนะที่ทำให้ฉันรู้สึกดี คุณทำให้ฉันสนใจจนอยากไปต่อด้วยแล้วสิ เพราะงั้นคืนนี้ฉันจะไปต่อกับคุณค่ะ” เธอโตแล้วและก็ใช้ชีวิตอยู่ในกรอบมาโดยตลอด ถ้าคืนนี้เธออยากจะทำอะไรนอกกรอบดูบ้าง คงไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่สำคัญมันดูน่าตื่นเต้นดีไม่ใช่เหรอ เกิดมาจนอายุยี่สิบหกแม้แต่จูบยังไม่เคยเลยด้วยซ้ำ
“พูดแล้วผมไม่ให้คุณคืนคำนะ” เคนเซแสยะยิ้มและยกแก้วเหล้าที่เขาชงเองขึ้นมาชนกับเธอ ซึ่งเธอก็ชนตอบเป็นการตกลงที่จะไปต่อกับเขาด้วยความเต็มใจ ทุกอย่างเข้าทางเขาหมดจริงๆ
“ฉันพูดคำไหนคำนั้นค่ะ ไหนๆ ก็อกหักแล้ว ก็อยากลองมีวันไนต์กับคนแปลกหน้าดูบ้างเผื่อว่าจะทำให้ฉันหายเศร้า อีกอย่างฉันกับคุณก็คงไม่ได้เจอกันอีกเพราะฉันจะไม่สานต่อใดๆ กับคุณหลังจากคืนนี้จบลง”
การมีเซ็กซ์เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องน่าอายและเธอก็ไม่ได้ยึดติดว่าครั้งแรกต้องเก็บไว้ตอนแต่งงานเท่านั้น วันนี้เธอถูกใจคนแปลกหน้าคนนี้ก็แค่อยากไปต่อกับเขา อีกอย่างเขาหล่อและหุ่นดีขนาดนี้ เรียกได้ว่าตรงสเป็กเธอมาก ยังไงก็คงคุ้มกับการเสียตัวครั้งแรกแหละ และเธอมั่นใจว่าเขาจะมอบประสบการณ์สุดวิเศษให้กับเธอด้วย
“งั้นคืนนี้ผมจะจัดคุณให้หนักและทำให้คุณลืมคนที่มันทำคุณเสียใจ คืนนี้คุณจะนึกถึงแต่หน้าผมและเปลี่ยนมาลืมผมไม่ลงแทน” เชื่อเถอะว่ามันไม่ใช่แค่คืนนี้หรอกที่เธอจะลืมเขาไม่ลง เพราะหลังจากคืนนี้ไปชีวิตเธอจะเปลี่ยนไปแน่นอนและเธอจะจดจำเขาจนลืมไม่ลงไปตลอดชีวิต เธอบอกว่าคงไม่ได้เจอเขาอีกงั้นเหรอ งั้นมาดูกันว่าเธอกับเขาจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า…