ดวงหน้าสวยลืมตามองคนที่หลับอยู่ข้างๆ เธอได้แต่เก็บความสงสัยว่าทำไมถึงปักใจเชื่อใจเขาขนาดนั้น ทั้งที่เขาปิดบังเรื่องราวส่วนตัวของเขาเองมาตลอด
เมื่อคืนเธอกับเขานัวเนียกันไม่ต่างจากคืนแรก หลังจากเธองอแงจะนอนเขาถึงได้ยอมโอนอ่อนและกอดเธอเข้านอนไปด้วยกัน
นั่นยิ่งสร้างความสงสัยในใจของพราวมุกไม่น้อย
เธออยากรู้จักเขามากกว่า ต้องการเขามากกว่านี้ อยากเข้าไปเป็นส่วนนึงในชีวิตเขา แต่อีกใจก็ยังกลัวทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น..
“มองจนผมจะท้องแล้วนะ” เขาลืมตาขึ้นมา ดวงตาสีนิลและสีอำพันเผลอสบกันโดยอัตโนมัติ
คนที่ตื่นตระหนกกลับเป็นเธอแทน เขาจ้องมองนัยน์ตาแสนจะนิ่ง
“ฉันทำคุณตื่นหรือเปล่าคะ?” พราวมุกขยับตัวออกห่าง แต่กลับถูกมือหนารวบเข้าหาตัวเขาเองจนสองกายแนบแน่น
“ผมชอบนะ คุณมองหน้าผม ผมไม่มีอะไรจะเสียแล้ว” จมูกโด่งซุกไซร้ที่ลำคอขาวผ่องไปมา
“คุณเจย์ ไม่ทำงานเหรอคะ?” วันนี้เป็นวันปกติเลยนะ งานการเขาไม่ทำ จะนอนกกกับเธอแบบนี้งั้นเหรอ?
“ตั้งแต่มีคุณผมก็ไม่อยากไปทำงานเลยสักวัน” เสียงออดอ้อนทำเอาคนฟังขนลุก เขาเป็นผู้ชายที่จัดได้ว่าหน้าตาดีระดับนึง ไม่สิ หลายระดับเลยล่ะ เพราะความเจ้าเล่ห์บวกกับความดุดันของนัยน์ตา ต่างก็ทำให้สาวๆหลายคนใจสั่นระรัว
“ทำไมตาคุณสีแปลกจังเลยคะ?” ในที่สุดก็เอ่ยคำถามที่เธอออดสงสัยไม่ได้
“แปลกยังไง? คนตาสีอื่นก็มีครับ” เขาตอบ แต่จมูกและปากยังคงคลอเคลียร์ลำคอระหง
“ฉันไม่เคยเห็นคนตาสีนี้ สีทอง...”
“แล้วมันสวยไหม?” ใบหน้าหล่อเหลาช้อนมองเธอ มือหนาลูบริมฝีปากบางๆไปมา
“สวยค่ะ” ทุกอย่างบนใบหน้าเขามันครบเครื่อง ลงตัวไปหมด เอาที่ไหนมาไม่สวยไม่หล่อ?
“งั้นก็มองตาผมบ่อยๆสิ ผมชอบให้คุณมอง” เขายิ้มกว้าง
“แล้วผู้หญิงคนอื่นมองละคะ คุณชอบหรือเปล่า?”
“พูดงี้เริ่มหวงผมแล้วงั้นเหรอ?” ชรัณมองหน้าเธอนิ่ง
“ปละ เปล่าค่ะ ฉันคิดว่าคุณต้องมีผู้หญิงเยอะแน่ๆ” เธอรีบหันหน้าหลบสายตาของเขา
“พูดไปนั่น”
ปากหยักกดจูบลงบนปากบางอย่างบางเบา ก่อนจะเด้งตัวเองลุกจากที่นอนด้วยความอ้อยอิ่ง
“ไปทำงานก่อนนะ” ว่าแล้วก็ลุกไปอาบน้ำชำระร่างกายตัวเอง
แต่ความรู้สึกของพราวมุกตอนนี้เธอเริ่มสับสนหนักกว่าเดิม เขาชอบเปลี่ยนเรื่องตลอดเวลาที่ถามว่าเขามีใครหรือไม่?
แบบนี้หมายความว่ายังไง..
แต่พอคิดไปคิดมา ข้อนึงที่เธอไม่ได้ถามเขาเลยก็คือ เขารู้จักคอนโดของทิมได้ยังไง?
เขาเป็นใครกันแน่?
“คุณเจย์ เดี๋ยวค่ะ” ขณะที่เขากำลังเดินออกไป เธอก็รีบคว้าแขนกำยำนั่นไว้ก่อน เพื่อถามสิ่งที่ตนเองสงสัย
“หืม?” ร่างสูงหันมาประชันหน้ากับเธอก่อนจะมองดูเวลา
“ฉันมีเรื่องอยากถามคุณค่ะ”
“เอาไว้ตอนเย็นได้ป่าว ผมมีเรื่องสำคัญต้องไปทำก่อน” มัวแต่อ้อนเธอตอนนี้กรรมการที่นัดมาคงนั่งรอเขาจนแห้งแล้วกระมัง
“ตอนนี้ไม่ได้เหรอคะ?” น้ำเสียงเธอเริ่มเคร่งเครียด
“ผมจะกลับมาตอนเย็น รอที่นี่นะครับ”
จมูกโด่งกดลงที่หน้าผากมันหนักๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปในที่สุด
พราวมุกสับสนและงุนงงไปหมด เขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่ ร่างกาย? หัวใจ?
หรือเมียเก็บที่ทิมตั้งใจให้เธอเป็นแบบนั้น?
หลังเสียงประตูปิดลง เธอก็ตกอยู่ในภวังค์ของตนเอง ผู้ชายที่คุยกับเธอทุกเช้าไม่ขาด ผู้ชายที่เทคแคร์ดีมากๆในแชทลับๆ
ผู้ชายที่คอยใส่ใจ ตอนนี้เขาได้เธอแล้ว..
เขากำลังเปลี่ยนไปใช่ไหม?
ไม่ได้การ เธอต้องรู้ให้ได้ว่าเขามีครอบครัวจริงๆแล้วหรือไม่?
นับจากนี้ไป เธอจะไม่ให้เขาแตะต้องตัวเธออีกจนกว่าจะแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์มาชรัณมีเมียซุกไว้ที่บ้านจริงไหม!
J Car Auto
“ในที่สุด ข้อตกลงของเราก็ได้เริ่มสักทีนะครับ” มือหนายื่นไปยังชายวัยกลางตรงหน้า
“โอ๊ย สำหรับคุณเจย์ ผมมีเวลาให้เหลือเฟือครับ” ชาญวิทย์ผู้นำเขารถยนต์รายใหญ่ยิ้มกรุ่มกริ่ม
“เกรงใจมากครับ” ชรัณยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหุบยิ้นเมื่อได้ยินประโยคต่อมา
“คืนนี้มีปาร์ตี้วันเกิดพริ้งลูกสาวคนเดียวของผม อยากเชิญคุณเจย์เข้าร่วมให้ได้ครับ”
“ผมเกรงว่าจะหาของขวัญไม่ทัน” เขาบ่ายเบี่ยงเพื่อจะปฏิเสธ
“แค่มายัยพริ้งก็พอใจแล้วครับ” ชาญวิทย์ยังตื้อ
“ถ้าผมว่างจากการดูงานแล้ว จะแวะไปสักครู่นะครับ” เขาส่งยิ้มเป็นมารยาททางสังคม
“ยินดีมากๆเลยครับ”
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็แยกย้าย สิ่งที่ทำให้ชรัณหนักใจที่สุดตอนนี้คงไม่ใช่พริ้งพราว แต่เป็นแม่เสือสาวที่นอนรอเขาอยู่ในโรงแรมต่างหาก
IE
JJ : วันนี้ทานข้าวไปก่อนผมเลยนะครับ ผมสั่งไว้ให้แล้ว คาดว่าจะกลับดึก แต่ไม่เกินสองทุ่มแน่นอน
ข้อความขึ้นว่าอ่านแล้ว แต่ไม่ตอบกลับ ยิ่งทำให้คนส่งข้อความนั่งไม่ติดที่ เธอจะโกรธไหมเนี่ย?
อุตส่าห์บอกว่าจะรีบกลับ
หรือจะกลับไปตอนนี้เลย?
ถ้าไม่ติดว่าทำงานใหญ่ใจต้องนิ่ง พราวมุกคงอยู่ในอ้อมอกเข้าทั้งวันทั้งคืนแน่นอน!
***
หลังจากที่นั่งคาดเดาปริศนาชีวิต ข้อความของชายหนุ่มก็ปรากฎยิ่งสร้างความน่าสงสัยเข้าไปใหญ่
เอาอะไรมาให้เธอมั่นใจได้อีก? กับทิมก็บอกมีธุระ สุดท้ายแล้วไง ก็แอบไปแต่งงาน แล้วเขาจะเชื่อใครได้ที่ไหน
เอาอะไรมาเป็นหลักประกัน
นึกๆย้อนไป ทำไมเธอให้เขาได้ง่ายขนาดนี้ เพราะความหล่อที่พร้อมจะคร่าทุกสายตาให้มาบรรจบที่เขาหรือไรกัน
“ตอนนี้เหมือนคนไม่มีที่ไปเลยแฮะ ว่าแต่ เราจะอยู่กับใครในฐานะอะไรก่อน?”
บ้านของชาญวิทย์
“มันจะดีเหรอคะคุณพ่อ แบบนี้เท่ากับเรามอมคุณเจย์เลยนะคะ” พริ้งพราว ลูกสาวเจ้าของบริษัทนำเข้า ถามผู้เป็นบิดา
“สิ่งเดียวที่จะทำให้ตระกูลของเรามั่นคง คือการไปเกี่ยวดองกับตระกูลเจ้าสัว เชื่อพ่อเถอะพริ้ง คุณเจย์นี่แหละ” เขาหยอดยาลงแก้วที่เตรียมไว้ให้ชายหนุ่ม
“คุณเจย์มาถึงแล้วค่ะท่าน” เสียงแม่บ้านดังเข้ามาขณะที่สองพ่อลูกคุยกัน
พริ้งพราวสายตาหม่นลงเล็กน้อย เธอไม่ถูกชะตากับชายคนนั้นเป็นอย่างมาก สายตาและท่าทางเขาดูน่ากลัว พร้อมที่จะเหวี่ยงทุกคนออกจากทางเดินหากเขาไม่สบอารมณ์ จุดนั่นเธอก็เคยเห็นมาแล้ว
“เอานี่ไปพริ้ง เอาไปให้เขา แล้วพาเขาไปที่ลับตาคนให้ได้!” คำสั่งของบิดาทำให้พริ้งพราวตื่นกลัว เธอหยิบแก้วใบนั่นแม้มือจะสั่นเทามากแค่ไหนก็ตาม
“สวัสดีค่ะ คุณเจย์” เจ้าของวันเกิดเดินออกมาต้อนรับแขกด้วยตนเอง
“สุขสันต์วันเกิดนะครับ นี่เป็นของขวัญที่ผมไม่ได้ใช้เวลาเลือกนัก”
แค่คำพูดคนฟังก็สะอึกแล้ว
“ขอบคุณนะคะ พริ้งนึกว่าคุณจะไม่มา” พริ้มพราวรับของมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ไม่เป็นไรครับ ยังไงผมก็ต้องผ่านมาทางนี้”
ครั้งที่สองที่เขาพูดด้วยความเสียดแทงจิตใจ
อยากรู้จริงๆว่าผู้ชายคนนี้นอกจากหน้าตาแล้วมีอะไรดี?
“อันนี้น้ำค่ะ พริ้งตั้งใจจะเอามาให้คุณ” มือขาวยื่นให้ชายหนุ่ม
“ที่จริงผมไม่อยากดื่ม เพราะต้องขับรถ”
“ถือเสียว่านิดหน่อย เพราะคนอื่นมองมาที่เรานะคะ” เธอยิ้มพราวเสน่ห์
“ถ้างั้นก็ขอบคุณนะครับ” เขายกแก้วขึ้นมาดื่มอึกสองอึก ก่อนจะยื่นแก้วคืน
“ขอตัวกลับนะครับ ช่วงนี้ผมไม่อยากให้เตี่ยอยู่คนเดียว” เขายกเอาพ่อตัวเองขึ้นมาอ้าง
“ขะ คุณเจย์!” พริ้งพราวคิดจะคว้าแขนเขาไว้แต่ร่างสูงกลับเดินหนีจากไปด้วยความรวดเร็ว
พริ้งพราวยืนเหวอกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชายผู้นี้ เขามีความรู้สึกหรือเปล่า?
เจอผู้หญิงสวยเซ็กซี่แบบเธอขนาดนี้ ไม่คิดจะชายตามองเลยรึ?
หรือข่าวที่ลือกันว่าเขานกเขาไม่ขันกับผู้หญิงมันเป็นเรื่องจริง!
ร่างระหงสวมชุดเจ้าสาวกี่เพ้าสีแดงตามประเพณีของบ้านเจ้าบ่าว เธอมองชุดที่ขับสีผิวตนเองด้วยความปลื้มใจ แม้ว่าตอนเช้าจะไม่ได้สวมชุดไทยตามที่สาวๆหลายคนหมายปอง แต่เธอก็ได้เป็นเจ้าสาวที่ถือว่ามีความสุขที่สุด “มะม๊าขา” เสียงเด็กหญิงตัวน้อยเรียกมารดาของตนเองดังขึ้น เมื่อเห็นเธอดกำลังเหม่อมองตัวเองในกระจก “เฟิ่งของม๊า วันนี้น่ารักมาเลยค่ะ” พราวมุกลูบแก้มเด็กหญิงวัยสามขวบด้วยความเอ็นดู “ปะป๊ามาแล้ว” เสียงเล็กๆบอกมารดาพร้อมกับคลอเคลีย ร่างเล็กๆที่สวมกี่เพ้าเหมือนกับมารดาทำให้เธอหยิกแก้มยุ้ยๆด้วยความหมั่นเขี้ยว “โอเคค่ะ เฟิ่งไปรอปะป๊านะคะ” มือบางลูบหัวนุ่มลื่น
หลังจากที่ชรัณรู้ตัวคนก่อการเรื่องของพริ้งพราว เขาก็ไม่อยู่นิ่ง รีบมาฟาดเพื่อนหนุ่มที่สถานนีตำรวจด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว “ไอ้เหี้ยเจย์!” เจษฎากรสารวัตรหนุ่มลูบหัวตัวเองปอยๆพร้อมกับมองเหลือบสายตามองไปยังนอกห้องว่ามีใครเห็นหรือไม่ที่เขาโดนเพื่อนมาเขกกะบาล “มึงสิเหี้ย ไปทำคนเขาท้องไม่รับผิดชอบ” น้ำเสียงบ่งบอกว่าหงุดหงิด เกือบเขาซวยไปด้วยแล้วไหมล่ะ “กูหาตัวแม่นั่นไม่เจอ!” เขาใช้มือเคาะโต๊ะย้ำๆเป็นการเตือนเพื่อน “กูเจอแล้ว” ชรัณนั่งลงเก้าอี้ตรงข้ามของเพื่อนรัก ถอนหายใจยาวเหยียดขณะที่อีกคนตื่นตาเพ่งมาที่เขา “ใคร??” เจษฎากรตาโตหูตั้งขึ้นมาทันที
“ที่นี่ใช่บ้านเจ้าสัวใจภักดิ์ไหมคะ?” เสียงใสเอ่ยถามแม่บ้านที่วิ่งมาต้อนรับแขก “ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงมาหาใครคะ?” แม่บ้านวัยชราเอ่ยถามด้วยน้ำเสียเป็นมิตร “ถ้าไม่เป็นการรบกวน ช่วยเรียนคุณเจย์ลูกเจ้าของบ้านว่ามีเพื่อนมาหาได้ไหมคะ?” พราวมุกพูดเสียงเบา “ให้เรียนว่าเพื่อนชื่ออะไรดีคะ?” “พราวค่ะ” “ได้เลยค่ะ รอสักครู่นะคะ” แม่บ้านวัยกลางคนเดินเข้าบ้านก่อนจะออกมาในเวลาต่อมา “เชิญคุณพราวไปรอด้านในก่อนค่ะ”&n
1 เดือนต่อมา “เปิดร้านอาหารตามสั่งที่บ้านก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย” พราวมุกยืนยิ้มให้กับผลงานใหม่ของตนเอง เธอได้ก่อสร้างร้านเล็กๆที่หน้าบ้าน ติดป้ายไวนิลประกาศบอกว่ามีอาหารตามสั่งและข้าวแกงรสชาติดั้งเดิมของป้าภา ก็มีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาแต่เช้าแล้ว “สองแฝดพายายทำกำไรได้งามทุกอย่างเลยนะ” จันทราภาวางมือลงบนหน้าท้องโตๆของหลานสาว “หลานๆอยากให้คุณยายมีขาเทียมไวๆเลยต้องรีบหาทางทำงานช่วยแม่จ้ะ” ใบหน้าสวยเปื้อนยิ้มมองหน้าท้องสลับกับหญิงพิการ “อดใจไม่ไหว อยากเจอหน้าหลานๆแล้ว” คนมากอายุยิ้มกว้าง&nbs
“คุณเจย์ไม่มาแล้วเหรอพราว?” จันทราภาเอ่ยถามหลานสาวที่ขับรถอยู่ พราวมุกตั้งแต่ออกจากบ้านก็ไม่เอ่ยคำพูดใดเลย เอาแต่นิ่งเงียบมาตลอดทาง เขาบอกไม่ใช่หรือไงว่าจะไปโรงพยาบาลด้วยเหตุใดถึงไม่มีแม้แต่วี่แววสักนิด? “ไม่จ่ะป้าภา เขาติดงานด่วน” เธอตอบสั้นๆ แล้วตั้งใจขับรถต่อไป หลังจากตื่นมาก็ไม่เจอชรัณเลยแม้แต่เงา เธอนั่งรอคิดว่าเดี๋ยวเขาหายโกรธก็คงกลับมาตอนเช้าๆ แต่รอจวนจะแปดโมงแล้วก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา เธอจึงตัดสินใจมากับจันทราภาเพียงสองคน พราวมุกพาจันทราภาเข้ามาตรวจสุขภาพตั้งแต่เช้าจนบ่าย พอเสร็จทุกอย่างแล้วจึงพาคนป่วยเดินทางกลับบ้าน แต่พอถึงบ้านใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอมอง
ดวงตาคู่สวยค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมามองรอบๆห้องนอนของตนเอง เธอขมวดคิ้วยุ่ง แปลกใจที่ตนเองขึ้นมายังห้องนอนได้ยังไง? “ตื่นแล้วเหรอครับ?” ประตูบานเล็กเปิดเข้ามาพร้อมกับร่างสูงที่ถือแก้วนมมาให้ “คุณเจย์” เสียงสะลึมสะลือเอ่ยถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าห้อง เธอมองแก้วนมที่เขาใส่มาก่อนจะเบิกตาโต เพราะว่านมที่ชรัณถือมันคือนมผงสำหรับคนท้องที่ต้องกินก่อนนอนเท่านั้น “คุณต้องดื่มนี่ทุกวันถูกไหม?” เขานั่งลงมองใบหน้าที่แตกตื่นของเธอ มือหนายกแก้วขึ้นมาก่อนจะยิ้มบางๆ “อันนี้.. คุณไปชงมาจากไหนคะ?” พราวมุกเอียงหน้ามอง ทำตาใสแจ๋วอย่างมึนงง