โรสชะงักไปเล็กน้อย ใจของเธอรู้ดีว่าเขาไม่ได้แค่ชวนไปดื่มธรรมดา การได้เห็นนายแบบหนุ่มหล่อเหลามาทักทายเธอแล้วเสนอให้ไปดื่มด้วยกัน มันเก็ชัดเจนอยู่แล้วว่ามันจะไม่ได้จบลงเพียงแค่การดื่มแน่นอน เธอรู้สึกได้ถึงบางอย่างในตัวลูคัสที่กำลังดึงดูดเธอเข้าสู่ความปรารถนาอันเย้ายวน
แต่เธอก็รู้ดีว่าการมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนายแบบชื่อดังที่ทำงานในบริษัทเดียวกันนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาได้ มันไม่ใช่สิ่งที่มืออาชีพควรทำ เธอควรจะปฏิเสธ... ควรจะตั้งสติและเดินออกจากสถานการณ์นี้ แต่แววตาสีฟ้าของเขาที่จ้องตรงมา เหมือนกับมีอำนาจบางอย่างที่ทำให้เธอตัดสินใจลำบาก
"ผ่อนคลายบ้างก็ดีนะครับ" ลูคัสเอ่ยพร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคอ น้ำเสียงนุ่มๆ ของเขาทำให้โรสรู้สึกสบายใจ "หรือคุณกลัวว่าไปกับผมแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?" นายแบบหนุ่มเย้าแหย่เธอเล็กน้อย
คำถามนั้นทำให้เธอชะงัก ลูคัสเอียงศีรษะเล็กน้อย ขยับโน้มเข้ามาใกล้เธอ รอยยิ้มของเขาดูเหมือนจะหยอกล้อ แต่ก็ซ่อนอะไรบางอย่างที่เธอไม่อาจคาดเดาได้ "บางที... เราอาจจะสนุกด้วยกันนะครับ โรส… "
หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นทุกขณะเมื่อได้ยินเสียงที่เรียกชื่อเธอ ราวกับเสียงของเขาได้แทรกซึมเข้าไปในความคิดของเธอ ทำให้ความคิดเริ่มปั่นป่วน
ความลังเลที่เคยถาโถมราวกับโซ่พันธนาการ ทั้งกฎของบริษัท ความคาดหวังในฐานะดีไซเนอร์ผู้มีชื่อเสียง และความจริงที่ว่าเขาอายุน้อยกว่าเธอถึงสิบปี กลับถูกความปรารถนาอันแรงกล้าเผาไหม้จนมลายหายไปหมดสิ้น ความคิดที่เคยพยายามยึดมั่นอย่างมีเหตุผลกลับถูกกลบจนสิ้น ราวกับว่าในตอนนี้ เธอไม่เหลืออะไรนอกจากความต้องการที่กำลังครอบงำทั้งตัวของเธอ
“ก็ได้...แค่ดื่ม...” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาราวกับพยายามย้ำเตือนตัวเองเสียมากกว่าพูดให้เขาฟัง
คำตอบนั้นทำให้มุมปากของเขายกขึ้น ลูคัสจ้องเธอด้วยสายตาที่ราวกับอ่านทะลุถึงจิตใจ
"แค่ดื่มครับ..." เขาพูดซ้ำด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยบางสิ่งที่เกินกว่านั้น ราวกับกำลังบอกเป็นนัยว่าเขาก็รู้ทันเธอเหมือนกัน
ความเย้ายวนที่ส่งผ่านมาในทุกอิริยาบถของเขานั้นทำให้โรสรู้ว่าผู้ชายตรงหน้าไม่ได้เร่งร้อน เขาทำราวกับเป็นนักล่าที่รู้ดีว่าเหยื่อจะยอมเดินเข้ามาหาในที่สุด เธอเจ็บใจแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอเลือกที่จะเดินเข้าไปเองจริง
“ไปกันเถอะครับ” ลูคัสเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะยื่นมือออกมาหาเธอด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่เธอไม่สามารถต้านทานเขาได้
โรสรู้ดีว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่มีทางย้อนกลับได้ หากแต่ความคิดที่ว่า ถ้าลองสักครั้งจะเป็นอะไรไป ก็แล่นวาบขึ้นมาในใจ
"ลูคัส..." โรสกล่าวชื่อของเขาแผ่วเบา แต่ก่อนที่เธอจะทันได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น ลูคัสก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนเธอใจเต้นเกือบจะกระเด็นออกมาจากอก
"ครับ?" เขาตอบรับด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ถ้าเธอทำให้ฉันเสียเวลา...” เธอแกล้งทำเสียงเข้ม แต่ดวงตากลับมีประกายยั่วเย้าอย่างเปิดเผย
“ผมสัญญา...ว่ามันจะเป็นช่วงเวลาที่คุณไม่มีวันลืม” เขาตอบกลับทันควันโดยที่เธอยังไม่ทันได้พูดจบ
โรสชะงักไปเล็กน้อยและจ้องมองมือของเขา ก่อนตัดสินใจคว้ามือของเขา และเมื่อปลายนิ้วได้สัมผัสกัน เธอก็รู้สึกความร้อนที่ปลายนิ้วนั้นราวกับจะเผาไหม้ทุกความลังเลที่เหลืออยู่ ในจังหวะนั้นเอง เหมือนเส้นแบ่งบางอย่างระหว่างพวกเขาพังทลายลง เธอไม่ได้ปฏิเสธเขาอีกต่อไป...
***ณ บาร์แห่งหนึ่ง***
บรรยากาศในบาร์ที่สลัวไหวไปตามแสงสี ยิ่งขับให้โต๊ะเล็กๆ ที่โรสและลูคัสนั่งอยู่เหมือนเป็นโลกส่วนตัว ท่ามกลางเสียงหัวเราะและบทสนทนารอบข้าง ลูคัสเอนตัวพิงเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย ดวงตาสีฟ้าสวยของเขาจับจ้องโรสด้วยความสนใจที่อย่างไม่ปิดบัง
“คุณชอบไวน์หรือเปล่าครับ? หรืออยากลองอะไรแรงกว่านี้หน่อย?” เขายิ้มบางๆ พลางถามเสียงทุ้ม เย้าแหย่ แฝงด้วยความเย้ายวน
โรสสบตาเขา พลางยกแก้วขึ้นจิบไวน์ การเริ่มเกมที่ต่างฝ่ายต่างรู้กันดีแต่ไม่มีใครแสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง ความคิดที่ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะพยายามเล่นเกมยั่วเย้าเธอทำให้โรสหัวเราะในใจ
"ฉันชอบทุกอย่าง… ที่รสชาติดีน่ะ...." โรสตอบพลางวางแก้วลงช้าๆ เธอยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย รู้สึกถึงความสนุกที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ลูคัสคงคิดว่าเธอจะปล่อยให้เขาควบคุมทุกอย่างไปตามแผนที่เขาวาง แต่เธอก็มีวิธีของตัวเองเหมือนกัน
“เหมือนผมเลยครับ…” ลูคัสพูดขึ้น น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความเจ้าเล่ห์ รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนริมฝีปาก ดวงตาสีฟ้าคมกริบที่จ้องมองโรสอยู่ทำให้บรรยากาศรอบตัวอึดอัดเล็กน้อย แต่ก็ดึงดูดในเวลาเดียวกัน
โรสเลิกคิ้วขึ้น เธอรู้ว่าเขากำลังยั่วเย้าเธอ และเธอก็ไม่ใช่คนที่จะยอมให้ถูกรุกเร้าได้ง่ายๆ “แล้วเธอล่ะ?” โรสถามกลับอย่างยั่วเย้า
เธอเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ กอดอกอย่างผ่อนคลาย เธอลองหยั่งเชิงเขาดู "ทำไมถึงสนใจฉันล่ะ ทั้งๆ ที่เธอมีคนอื่นที่...เด็กกว่า สวยกว่า… ฉันอายุ 40 แล้วนะ"
ลูคัสหัวเราะในลำคอก่อนจะตอบเธอ “คุณรู้ตัวใช่ไหมครับ ว่าคุณไม่ได้ดูเหมือนคนอายุ 40 เลย...”
โรสขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำตอบนั้น แต่ก็รู้ดีว่าเขากำลังชักนำเธอไปในทางที่เขาต้องการ ทว่าเธอไม่ได้หวั่นไหวง่ายๆ แบบนั้น “คำตอบง่ายจัง เธอไม่กลัวบ้างเหรอ...ถ้าเรื่องของเราหลุดออกไป....” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่ลากยาว พลางจ้องเขาราวกับจะทดสอบปฏิกิริยา
“ทำไมผมต้องกลัวด้วยล่ะครับ?” ลูคัสโน้มตัวเข้ามาใกล้ รอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ที่มุมปากยังไม่หายไป “ความสัมพันธ์ที่ดี… มันต้องมีความเสี่ยงนิดหน่อยอยู่แล้ว หรือคุณไม่คิดอย่างนั้น?” เขามองเธอด้วยสายตาที่นิ่งลึกและมั่นคง มันเต็มไปด้วยความหมายที่โรสอ่านไม่ออก
โรสหัวเราะในลำคอออกมา เธอชื่นชมในความมั่นใจของเขาไม่น้อย เด็กหนุ่มคนนี้รู้จักวิธีเล่นกับความรู้สึกและความต้องการของคนอื่น และเธอเองก็ไม่ต่างกัน
โรสยังคงขยับสะโพกรับการกระแทกของเขาอย่างไม่ยอมให้เขาหยุด เธอรู้สึกถึงความเสียวซ่านที่ทวีคูณขึ้นทุกครั้งที่เขากระแทกเข้าไป“อ๊า... ลูคัส... ไม่ไหวแล้ว... ฉันจะเสร็จแล้ว!” โรสบอกเสียงกระเส่า ขาของเธอสั่นระริก มือของเธอยังบีบยอดอกของตัวเองเพื่อระบายความเสียวซ่านไปพร้อมๆกับสะโพกที่ขยับรับการกระแทกจากเขาลูคัสมองดูร่างของเธอด้วยสายตาที่มืดลง พยายามเก็บอารมณ์ของตัวเองไว้จนแทบจะทนไม่ไหว “คุณไม่ไหวแล้วใช่ไหม?” เขาพูดเสียงต่ำ ขยับสะโพกเข้าไปลึกและแรงขึ้น “ผมไม่อยากหยุดเลย โรส...”แต่เขารู้ดีว่าโรสต้องการอะไร และเขาก็รู้ว่าต้องการทำให้เธอถึงจุดสูงสุดก่อนถึงเวลาของเขา เขาหลับตาลงก่อนจะกระแทกอีกครั้งด้วยความแรงที่เพิ่มขึ้น “ปล่อยออกมาเลยครับ เสร็จออกมาเลย”ทันใดนั้นโรสก็ปล่อยเสียงครางออกมาในลำคออย่างไม่อาจควบคุมได้ ร่างกายของเธอกระตุกไปตามจังหวะที่เขากระแทกเข้าออก ความเสียวที่พุ่งเข้ามาทำให้เธอหลุดเสียงร้อง "อ๊า... ลูคัส... ฉัน... ฉันเสร็จแล้ว!" ร่างของเธอสั่นระริก ขาเกร็งจนเกือบจะล้มแต่ยังคงยืนอยู่ได้เพราะลูคัสยังคอยจับเธอไว้แน่นลูคัสกระแทกเข้าไปอีกครั้ง เขาครางเสียงแหบพร่า ในที่สุดเขาก็ปลดปล่อ
หลังจากกิจกรรมอันเร่าร้อนหลังโขดหินนั้นจบลง ลูคัสพาเธอกลับมาที่ห้องเพื่อทำความสะอาดและพักผ่อนเมื่อถึงห้องพัก ลูคัสกุมมือโรสแน่น รู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดสามารถกั้นเขาไม่ให้เข้าใกล้เธอได้อีกแล้ว เมื่อประตูปิดลง เขาจูงเธอตรงไปยังห้องน้ำ เสียงน้ำอุ่นที่กระทบพื้นดังแว่วเป็นจังหวะ แต่สิ่งที่ก้องอยู่ในใจเขาเป็นเพียงเสียงหายใจของเธอ ที่แผ่วเบาแต่สะกดเขาไว้จนไม่อาจหันเหสายตาไปทางอื่นได้ในแสงสลัวจากไฟในห้องน้ำ ลูคัสมองโรสอย่างที่เขาทำไม่ได้ในที่แจ้ง ร่างกายที่ยังมีละอองน้ำทะเลเคลือบผิวดูเย้ายวนจนเขาต้องเผลอกลืนน้ำลายอย่างลืมตัว มือหนาเอื้อมไปปลดปมบิกินี่ของเธอออกอย่างแผ่วเบา ดวงตาของเขาจ้องมองเธออย่างไม่ปิดบังความรู้สึก“คุณสวย...จนผมไม่อยากละสายตาเลย” ลูคัสเอ่ยเสียงพร่า เขาโน้มตัวเข้าใกล้ ปลายจมูกแตะหน้าผากเธอเบาๆ ก่อนจะเลื่อนลงมาที่แก้ม โรสหลับตา ปล่อยให้เขาละเลียดจูบที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน“พอเถอะลูคัส...” โรสพูดเสียงกระเส่า แต่มือของเธอกลับเผลอเกาะต้นแขนเขาแน่นลูคัสยิ้มมุมปาก เขารู้ดีว่าเธอกำลังสู้กับตัวเอง “คุณพูดให้ผมหยุด...แต่ร่างกายคุณบอกให้ผมไปต่อ คุณจะเอายังไงดีครับ คุณโรส” น้ำเสียงแฝง
อีกภาพที่เขาจับได้คือตอนที่เธอก้มลงเก็บลิปสติกที่ตกอยู่บนพื้น ผมของเธอปรกลงมาบังใบหน้า เธอปัดมันไปด้านหลังอย่างไม่ใส่ใจ ท่าทางธรรมดานั้นกลับดูดึงดูดจนเขารู้สึกว่ามือที่จับกล้องสั่นเล็กน้อย แล้วก็มีภาพหนึ่ง เป็นช่วงที่โรสหัวเราะพร้อมกับเพื่อนร่วมงาน แสงสะท้อนจากรอยยิ้มของเธอดูอบอุ่นจนทำให้ห้องทั้งห้องดูมีชีวิตชีวาขึ้น ลูคัสมองผ่านเลนส์ เขารู้สึกเหมือนเธอเป็นภาพถ่ายที่ยังไม่ได้ใส่กรอบ เป็นชั่วขณะที่เขาอยากหยุดเวลาไว้ตรงนั้นลูคัสรู้ดีว่าการกระทำแบบนี้อาจจะไม่ถูกต้อง แต่เขาก็ไม่อาจห้ามตัวเองได้ ทุกครั้งที่เธอเคลื่อนไหว กล้องในมือก็เหมือนเป็นเพียงทางเดียวที่เขาจะยึดโยงเธอไว้ได้ในโลกของเขาเองเขาเริ่มสะสมภาพของเธอไว้ในแฟ้มส่วนตัวอย่างเงียบๆแต่ความอยากรู้อยากเห็นไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อเขารู้ว่าโรสทำงานที่ไหน และพักอาศัยอยู่ที่ใด ลูคัสก็เริ่มสะกดรอยตามเธอในวันหยุดที่เขาควรจะพักผ่อน ลูคัสกลับขับรถไปจอดอยู่ใกล้คาเฟ่ที่โรสชอบแวะไป เขานั่งอยู่ในมุมร้านที่เธอไม่สังเกตเห็น มองดูเธอจิบกาแฟและอ่านหนังสือ บางครั้ง เขาเดินตามเธอไปในห้างสรรพสินค้า จับภาพเธอผ่านหน้าจอโทรศัพท์ขณะเธอเลือกซื้อของใช้เ
บ้านหลังเล็กในเขตชานเมืองยามค่ำคืน เงาของแสงไฟจากหลอดไฟเก่าๆกระพริบอยู่เหมือนมันกำลังจะดับ ลูคัสในวัยเด็กนั่งตัวสั่นอยู่ในมุมมืดของห้องเก็บของเล็กๆ ซึ่งเป็นที่เดียวที่เขารู้สึกปลอดภัย ตุ๊กตาเก่าๆที่มีรอยเย็บซ่อมเต็มตัวอยู่ในอ้อมแขนเล็กๆของเขาราวกับมันเป็นสิ่งเดียวที่ปกป้องเขาได้ เสียงทะเลาะวิวาทดังระงมมาจากห้องนั่งเล่น เป็นเสียงของผู้ชายตะคอกด่าทอผสมกับเสียงผู้หญิงที่พยายามห้ามปรามแล้วเสียงขวดแก้วก็แตกกระจายดังสนั่น เศษแก้วปลิวกระจายไปทั่วพื้น ทำให้ลูคัสสะดุ้งเฮือก น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ก็ไหลรินออกมา เขากดหน้าซุกกับตุ๊กตาและเอามือน้อยๆปิดหูทั้งสองข้างของตัวเองเอาไว้ เพื่อปิดกั้นเสียงเอาไว้ แต่เสียงที่น่าสะพรึงนั้นยังดังอยู่ เสียงแห่งความเจ็บปวด เสียงแห่งความโกรธที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด"ลูคัส!" เสียงกระซิบดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่พี่สาวของเขาจะปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู เธอพุ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับปิดประตูอย่างรวดเร็วก่อนจะกอดเขาไว้แน่น ร่างกายของเธอสั่นระริกไม่ต่างจากเขา "ไม่ต้องกลัว พี่จะปกป้องเธอเอง"ลูคัสเงยหน้าขึ้นมองพี่สาว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความความอ่อนโยน เธอพยายามจะปลอบเขาทั้ง
โรสถอยเท้าหนี ความรู้สึกสงสารและโกรธแค้นประดังเข้ามาในใจ เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เธอพยายามพูดด้วยเสียงที่นิ่งที่สุด แต่ก็ยังสั่นอย่างเห็นได้ชัด “ความรักของเธอมันหนักเกินไปสำหรับฉัน ลูคัส ฉันไม่สามารถทนรับมันได้อีกแล้ว ฉันแค่...อยากให้ทุกอย่างจบ...”เขาทรุดลงไปอีกครั้ง หมอบกราบแทบเท้าของเธอ ร่างสูงใหญ่ดูอ่อนแอและสิ้นหวังอย่างน่าเวทนา “ได้โปรด...อย่าพูดแบบนั้น ผมขอโทษ...ขอโทษจริงๆ...ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะครับ”โรสมองเขาด้วยสายตาเปื้อนน้ำตา หัวใจเธอเจ็บปวดเหมือนโดนบีบให้แตกสลาย แต่เธอก็ต้องรวบรวมความเข้มแข็งไว้ เธอไม่สามารถให้ตัวเองใจอ่อนได้อีกแล้วเอมี่ขยับมายืนข้างๆ สายตาจ้องมองลูคัสอย่างไม่ไว้ใจ ก่อนจะหันมาพูดกับโรส “เธอไม่จำเป็นต้องอยู่ฟังอะไรแบบนี้แล้ว ไปจากที่นี่กันเถอะโรส”ลูคัสเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง น้ำตาอาบแก้ม เขาดูเหมือนคนที่หมดสิ้นทุกสิ่ง “โรส...ได้โปรด...ผมไม่มีคุณไม่ได้...”โรสหลับตาลง พยายามสะกดน้ำตาที่ไหลไม่หยุด เธอรู้ดีว่าการกลับไปหาลูคัสไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แม้หัวใจของเธอจะเจ็บปวดกับสภาพของเขา แต่เธอก็ไม่สามารถลืมสิ่งที่เขาเคยทำได้...โรสทรุดตัวลงนั่
เมื่อโรสย้ายเข้าไปอยู่กับเอมี่ เธอใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เรื่องของลูคัสจนถึงเอเดน เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยเมื่อเล่าถึงช่วงเวลาที่เธอถูกหักหลัง ความรู้สึกอับอายและเจ็บปวดผสมปนเปจนแทบพูดไม่ออก แต่เอมี่ฟังอย่างเงียบๆโดยไม่ขัดอะไร จนกระทั่งทุกอย่างถูกถ่ายทอดออกไปจนหมด"แล้วทำไมเธอไม่บอกฉันตั้งแต่แรก?!" เอมี่พูดขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธและผิดหวัง "ถ้าเธอเล่าให้ฉันฟัง บางทีเรื่องมันอาจจะไม่บานปลายแบบนี้ก็ได้"โรสก้มหน้าลง น้ำตารื้นขึ้นมาอีกครั้ง เธอพึมพำด้วยความรู้สึกผิด "ฉันไม่กล้าเล่า... ฉันอาย"เอมี่ขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ "อายเรื่องอะไร? เรื่องแบบนี้เธอต้องบอกฉันสิ ฉันคือเพื่อนของเธอนะ""ฉันรู้สึกอายที่จะบอกว่าฉันคบกับคนที่อายุน้อยกว่าตัวเองมากขนาดนั้น ตอนแรกมันเหมือนแค่เรื่องสนุก ฉันไม่คิดว่ามันจะลากยาวมาจนถึงจุดนี้... ฉันไม่คิดว่ามันจะซับซ้อนและเลวร้ายแบบนี้เลย"เอมี่ถอนหายใจออกมายาว ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลง "ไม่ว่ามันจะเป็นยังไง เธอไม่ควรเก็บไว้คนเดียวแบบนี้อีก เข้าใจไหม? ต่อไปถ้าเกิดอะไรขึ้น เธอต้องบอกฉันทันที เราจะหาทางแก้ไปด้วยกัน"โรสพยักห