หลังจากฝึกจนหมดเวลา เคียนโต้ปล่อยให้พวกเราไปพักตามอัธยาศัย ฟรีไทม์มีถึงแค่สี่ทุ่มเท่านั้น หลังจากนั้นต้องเข้านอนกันทุกคน อเล็กซิสรู้สึกว่าตัวเองเป็นนักเรียนประจำอย่างไรก็ไม่รู้ เมื่อรับประทานอาหารเย็น เธอต้องรีบไปหาเวด เด็กสาวไม่อยากปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวแม้เพียงวันเดียว เทสซ่ากับมินนี่แวะไปเยี่ยมทุกวันเช่นกัน แต่พวกเธอมักตามไปทีหลังด้วยเหตุผลที่ว่าเผื่อ
อเล็กซิสกับเวดอยากคุยเป็นการส่วนตัว แต่มันก็ไม่เคยส่วนตัวเลยเพราะมีไมเคิลเป็นเงา เบ็กกี้กับเรมีสลับกันขึ้นมาบ้าง แต่ส่วนใหญ่เรมีมาคนเดียวเพราะเด็กสาวพุ่งตัวเข้านอนตั้งแต่หกโมง นับว่าเวดยังโชคดีกว่าคนไข้ที่เหลือ เพราะถ้าไม่ใช่กลุ่มเดียวกัน บางคนรอดมาคนเดียวจึงไม่มีเพื่อนมาเยี่ยม“ชั้นเจ็ดสิบสอง”
“ชั้นเจ็ดสิบสอง”
“ไมเคิล นายไม่เบื่อเหรอ เวลาฉันคุยกับเวด นายพูดได้นะ พอเขาชวนนายคุย นายก็เอาแต่เงียบ”
หนุ่มผมเงินมองออกไปนอกลิฟต์ “ก็ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอคุยอะไรกัน แล้วก็ไม่รู้จะทำอะไรด้วย ที่เก่ายังมีหนังให้ดู มีกีฬาให้เล่น หรือว่า...” เขาเว้นจังหวะ “เธอรำคาญ”
“ไม่มีทาง” อเล็กซิสตอบทันที “ไม่ต้องทำตาแบบ
สองทุ่มกว่า เธอออกจากลิฟต์เพื่อเดินเล่นในชั้นที่พัก ตอนแรกคิดไปหาไมเคิลที่ห้องฝึก แต่ตัดสินใจอยู่คนเดียวบ้าง เธออยากดูดาว อันที่จริง ถ้าหากพวกเขาอนุญาตให้อยู่กับเวดได้ถึงสี่ทุ่มเธอคงอยู่ท้องฟ้าในยามนี้กระจ่างชัดจนสามารถเห็นดาวระยิบระยับมากมาย ไม่รู้ว่าครอบครัวเป็นอย่างไรบ้าง อเล็กซิสแนบฝ่ามือกับกระจก เมื่อไหร่เธอจะทำลายกำแพงที่ขวางกั้นนี้ออกไปได้ หรือไม่มีวันนั้นนาฬิกาข้อมือสีเงินประดับอยู่บนมือขวา เธอมองมันแล้วนึกถึงเบน ทั้งนาย ออสโล่ โนเอล ทุกคนเป็นอิสระแล้วนะทว่าเงาสะท้อนในกระจกไม่ได้มีแค่คนเดียว ใบหน้าอเล็กซ์ปรากฏอยู่ข้างตัว เธอหันไปมอง ไม่รู้ตัวเลยว่าเขามายืนตรงนี้ตั้งแต่ตอนไหน“เวลาเธอหลอมรวมไปกับพวกมัน เธอจะไม่รู้สึกตัวแบบนี้ตลอดเลยงั้นสิ”แม้ไม่มีกัญชา แต่อเล็กซ์มักพกไอหมอกบางอย่างติดตัว ยิ่งช่วงนี้ ต่อให้เขาไม่สูบ เธอยังเห็นหมอกหนาห่อหุ้มรอบตัว เด็กสาวหันกลับไปมองดวงดารา หลายประโยคติดอยู่ในคอ แต่คำพูดที่ออกไปกลับเป็นแค่เพียง “มีอะไร”อเล็กซ์เงียบไปพักใหญ่ คงจับน้ำเสียงเย็นชานั้นได้ ฉับพลันเธอกลับร
“เบนไม่อยากเป็นเหมือนพวกซอมบี้” อเล็กซ์สรุปก่อนที่เธอจะพูดจบ “หมอนั่นไม่ยอมให้ใครมายุ่งกับตัวเองหรอก แม้ตายแล้ว” เสียงหัวเราะแรกดังออกมา แต่มันเป็นเพียงเสียงที่ออกจากลำคอและความรู้สึกขมขื่นมากกว่าร่าเริง “แต่เขาไม่ควรตายแบบนั้น ในลาวา ให้ตายเถอะ” ชายหนุ่มทุบกระจกพร้อมกับที่ไฟดับลงแต่วิวข้างนอกยังปรากฏอยู่ก่อนที่ไฟจะกลับมา โคดี้คงเป็นโพลเตอร์ไกสท์อย่างที่เทสซ่าเปรียบ“พวกเขาทิ้งฉันไปหมด” เขารำพัน “ทั้งแม่และเบน” ก่อนเริ่มรัวกำปั้นกับกระจก“พอแล้ว” อเล็กซิสพยายามห้ามเมื่อเขาทุบกระจกไม่หยุด “ข้อร้องล่ะ อย่าทำแบบนี้” กำปั้นของเขาแดงเถือก อเล็กซ์ยังคงทำร้ายตัวเองต่อไป “หยุด” เธอกระชากตัวเขาให้หันมาเผชิญหน้า“แล้วไง หมอนั่นคิดว่าจะได้ไปอยู่กับแม่ฉันใช่ไหม!” ทันใดนั้นอเล็กซ์หน้าเจื่อนเมื่อเห็นสีหน้าเธอ “ขอโทษ ขอโทษที่ตะโกนใส่หน้า ฉันหมายถึง แนท เขาเคยพูดถึงใช่ไหม”อเล็กซิสพยักหน้าใบหน้าชายหนุ่มบิดเบี้ยวเหมือนมีใครบีบอวัยวะภายใน “ห
เธอไม่รู้ว่าตัวเองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไรท่ามกลางความมืดมิดแต่ยังไม่มืดสนิท ไฟสีเขียวสีแดงประดับข้างเตียงส่งแสงริบหรี่เป็นจุดเล็กจุดน้อย เธอพลิกตัวหลายสิบรอบ พยายามข่มตาหลับ แต่หัวใจกลับเต้นระวิงรอเวลา หากเป็นคืนอื่น เทสซ่าคงแค่พลิกตัวไปมา ใจหนึ่งอยากนอน ใจหนึ่งกลัวฝัน รอจนกระทั่งร่างกายเหนื่อยล้าเอาชนะความคิดในสมองหลับไปเอง ปกตินอนวันละไม่กี่ชั่วโมงเพราะภาพโนเอลจมกองเลือดเล่นซ้ำอยู่ในหัว แม้อเล็กซิสบอกว่าเขาตายเพราะระเบิดในห้องเงียบสงบเพราะทุกคนตกอยู่ในห้วงนิทรา เทสซ่าไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นเหมือนเธอหรือไม่ แต่ละคนมีภาพติดตาแบบไหนกันบ้าง ทว่าคืนนี้ค่อนข้างแปลกกว่าคืนอื่น ไม่ใช่ความกลัวแต่เป็นความตื่นเต้นเป็นอะไรนะเราหญิงสาวเงี่ยหูฟังเสียงคร่ำครวญของมินนี่ แต่เมื่อผ่านมาหลายอาทิตย์ เสียงเงียบลง เธอไม่รู้ว่าน้องสาวหลับหรือตื่นอยู่ พลิกตัวไปมาจนกว่าสติจะล้าเหมือนเธอหรือไม่ แต่เธออยากให้มินนี่หลับมือขวาเขยิบหมอนแล้วซุกหน้าลงไป มันคงดีกว่านี้ถ้าเธอหมกมุ่นกับภาพโนเอลหรือแม่และบ้านที่จากมา แม้ว่าเธอเกลียดบ้านหลังนั้น แต่ไม่เคยเกลียดสภาวะของการมีค
สักพักประตูดังกึกเลื่อนออก เทสซ่าอ้าปากเหวอ นายตาเดียวยืนยิ้มกริ่มเหมือนเห็นเทพีแห่งชัยชนะ มุมปากเชิดสูงขึ้นเมื่อเห็นอากัปกิริยาของเธอ“สายไปสิบห้านาที”เขาโค้งตัว ทันใดนั้นพุ่งตัวรวบเอวอุ้มขึ้น เทสซ่าเกือบร้องออกมาแล้ว แต่นึกขึ้นได้ว่าเพื่อนต่างหลับอยู่จึงตีหลังแทนเมื่อพ้นอาณาเขตห้อง ประตูเลื่อนปิดอัตโนมัติเหมือนมันทำงานในเวลากลางวัน เทสซ่าสะบัดตัวจนเขาปล่อยลง แสงไฟและวิวภายนอกมืดสนิท“ทำไมเวลานายดับไฟ หน้าต่างถึงมืดล่ะ” เรื่องนี้คาในใจมานานแล้ว หลายคนสงสัยว่าวิวข้างนอกอาจเป็นของปลอม“มันเป็นกระจกพิเศษ ทำงานด้วยไฟฟ้า หากไฟดับมันจะเปลี่ยนเป็นกระจกฝ้า ฉันต้องทำนะ” โคดี้ชี้นิ้วขึ้นไปรอบเพดาน “ในนี้มีกล้องคอยจับตลอด”“แล้วนายทำได้ยังไง” ในใจอดทึ่งไม่ได้ คนไร้สาระอย่างหมอนี่จะสามารถปลดล็อกประตูได้อย่างง่ายดายเชียวหรือ พลังของเขาคืออะไรกันแน่ “ถ้าอย่างนั้น...นายพาทุกคนหนีออกจากที่นี่ได้สิ”เขาส่ายหน้า “ถ้าทำได้ เราคงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ”เทสซ่ายืดคอข
เขายกมือ “โอเค ๆ ไม่ขัดแล้ว แล้วเบลินดากับอเล็กซิสล่ะ เห็นว่ามาจากซานโบซ่าด้วยกันนี่”เธอกอดอกพร้อมกับตอบเลี่ยง ๆ “ฉันไม่เคยถามละเอียด ทั้งเวดและอเล็กซิสไม่คุยกับเบลินดา ยิ่งเวดนะ ตอนอยู่ด้วยกัน...” เทสซ่าจำได้ว่าเพื่อนผมบลอนด์สรรหาคำมาด่าเบลินดาจนเธอนึกสงสาร เทสซ่ากับเบลินดาเป็นมิตรกันดี เธอถูกอัธยาศัยเด็กสาวคนนี้ แม้จะทราบสาเหตุผิวเผิน เธอก็ไม่อยากพูดถึงในทางไม่ดี“เอาเถอะ เราพูดเรื่องของเรากันดีกว่า มานี่สิ” เขาดึงแขนเธอไปทางกล้องส่องทางไกลตัวหนึ่ง มีสี่ตัวตั้งอยู่ตามทิศสี่ทิศ “รู้ไหม แม้แต่กระจกใสยังไม่ใช่แค่กระจก มันมีระบบ มีแผนผังการทำงานซ่อนอยู่ ฉันใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะรู้ว่ากลไกในประตูทำงานอย่างไร”“แล้วนายทำได้ยังไง” เธอสงสัย “ประตูมันก็...ประตู” เธออยากจะอธิบายว่าไม่มีใครเห็นกลไกข้างในแต่พูดไม่ถูก “บาน...เปล่า ๆ นายเห็นกลไกได้ไง”เขายกมือขึ้น “พอฉันสัมผัสจะเห็นกลไกข้างใน ความสามารถนี้ได้มาหลังจากผ่านเช็กพ็อยต์วันมาแล้ว ฉันเคยนอนในห้องนั้นเหมือนเพื่อนเธอ...
“ที่นี่เหรอ” คำตอบนี้ดึงให้สติกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ “พวกเขาเอาลูกตานายออกไป? บ้าน่า”เขาก้มหน้าลงไม่ยอมสบตา “ประมาณนั้น”“นี่อย่ากั๊กได้ไหม” เธอซัก “พูดแล้วอย่าอมไว้ บอกฉันให้หมด”โคดี้ลังเล “สัญญาว่าห้ามบอกใครในนี้”เทสซ่าตอบทันที “สัญญา”“ฉันกับจีฮุน พวกเราเป็นเพื่อนกัน ถูกจับมาและรอดด้วยกัน แถมยังบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ พวกเรามีกันทั้งหมดสองร้อยเจ็ดสิบก่อนเหลือไม่หลักสิบ รุ่นเธอถือว่ารอดเยอะกว่า อ้อ มีสามคนที่ไม่ได้บาดเจ็บหนักจะถูกฝึกซ้อมและปล่อยไปอยู่ในทอยซิตี้ เหมือนที่พวกเรากำลังทำ ตอนนั้นฉันเป็นกลุ่มตกค้างอยู่กับจีฮุน มีทั้งหมดแปดคนรวมอาคุสะและฟีบี้ รอเวลาหายดีและฝึกพร้อมกับกลุ่มพวกเธอ”ราวกับว่าอากาศภายในอันตรธานไปในพริบตา ประกายไฟในตัวเมื่อครู่ดับมอด “นายบอกว่ามีแปดคน แต่ฉันเห็นสาม”โคดี้กลืนน้ำลาย“อีกห้าคนไปไหน”เขาทำหน้าเหมือนกับว่าไม่น่าหลุดปากแต่แรก “เทสที่รัก ถ้าฉันรู้ก็คงดีน่ะสิ
“พวกเขาทำเรื่องไม่ดีมาแน่ ๆ”พอมองตามสายตาเบ็กกี้ อย่างที่เด็กสาวว่า ไม่รู้โคดี้กับเทสซ่าทำอะไรให้เคียนโต้ไม่พอใจถึงเอาแต่เรียกสลับสองคนนี้เป็นคู่ซ้อมทั้งวัน โคดี้น่วมไปทั้งตัว ส่วนเทสซ่าได้แผลฟกช้ำตามแรงปะทะ แต่ทั้งสองกอดคอกันบอกว่า “ไม่เป็นไร”เป็นสิ คงมีแต่ไมเคิลที่อยากประมือกับเคียนโต้ ครูฝึกสาวอาจไม่ใช่ผู้หญิงตัวใหญ่ แต่แรงดีเกินกว่าผู้หญิงทั่วไปแถมทักษะยังระดับครูฝึก ถ้าเขาได้สู้กับเธอ หมายถึงเป็นคู่ซ้อมกับเธอต้องสนุกมากกว่าประมือกับเพื่อนอีกเรื่องที่น่าคิดคือโรคติดต่อที่ชื่อว่า ความรัก เมื่อสองอเล็กซ์กุ๊กกิ๊กกันจนเห็นชินตา ต่อมาจัสตินกับเอมมี่แสดงออกว่าคบกัน และต่อมาก็คือโคดี้กับเทสซ่าที่เอาชนะทุกคนด้วยการอวดความหวานไปทั่ว“เลิกมองคนอื่นแล้วพยายามชกฉันให้ได้ดีกว่า” เขาเตือนสติเบ็กกี้ เด็กสาวจึงเหวี่ยงหมัดเบาหวิวใส่ ไมเคิลขยับตัวนิดเดียวเพื่อหลบ สู้กับเบ็กกี้ไม่ต่างจากสู้กับลมให้มันได้อย่างนี้สิตาชำเลืองมองอเล็กซ์ฝึกคราฟมากากับเรมี พวกเขาสู้กันจริงจัง เห็นแล้วน่าอิจฉา เร
“อ้าว” เวดเงยหน้ามองคนทั้งสอง อเล็กซิสเดินกระย่องกระแย่งพร้อมกับไม้เท้าค้ำยันหนีบใต้รักแร้ เขามักเห็นเวดเล่นเกมบนจอสกรีนเสมอ ไมเคิลอยากลองเล่นเหมือนกัน เห็นว่าเป็นเกมแนววางแผน “แล้วหน้าโดนอะไรมา รอยข่วนนี่นา”“ข้อเท้าแพลงระหว่างซ้อม ส่วนตรงแก้มก็ระหว่างสู้” อเล็กซิสมองจอสกรีนในมือเวด “นายติดเกมมากเลยนะ”“ลองเล่นสิ” เขาเอื้อมตัวจะลากโต๊ะกินข้าว ไมเคิลอาสาเลื่อนให้เอง“นายนั่งลง” เขาแปะมือตรงที่ว่าง ไมเคิลจึงหย่อนก้นลงข้างเพื่อนสาว เวดหมุนจอมาทางอีกสองคนแล้ววนนิ้วตรงมุมขวาล่าง “ตรงนี้คือสถานะของเรา พอกดตรงนี้มันจะขึ้นภารกิจที่ต้องทำ อย่างอันนี้คือการตามหาสปายที่เข้ามาสอดแนมในเมือง”“เกมนี้เกี่ยวกับอะไร”“ปกป้องอาณาจักรจากกลุ่มผู้รุกราน” เวดเลื่อนหน้าจอกลับไปกลับมา คล่องมือ “มันจะมีสปายเข้ามาในอาณาจักรเพื่อหาข้อมูล จุดอ่อน อะไรพวกนี้ นี่คือสถานะของฉัน เห็นไหม คะแนนสูงสุดเลย” เขาหรี่เสียงลง “คนที่เหลือโคตรอ่อน”อเล็
สาวผมแดงนั่งมองพวกเขาอยู่บนเตียง ผ้าห่มคลุมร่างกายเปลือยเปล่าเพราะเสื้อผ้าถูกถอดออกทิ้งไว้บนพื้น อเล็กซิสกระตุกแขนไมเคิลที่ยืนแข็งเป็นท่อนไม้ เธอส่งยิ้มให้เด็กหนุ่มมากกว่าแสดงออกว่าโกรธ “อยากร่วมด้วยเหรอ” เสียงของหล่อนแหบกระเส่าจงใจยั่วอีกฝ่าย สุดท้ายอเล็กซิสลากไมเคิลออกไปได้สำเร็จไมเคิลมองหน้าเธอ ใบหน้าแดงก่ำ “ฉันคิดว่าเธอถูกทำร้าย” แล้วชี้ไปที่บลูชายหนุ่มชี้หน้าตัวเอง “ฮะ ถูกทำร้าย?” จากนั้นระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น จากที่โมโหดูจะพอใจมากกว่า “ขอโทษที่รุนแรงจนนายตกใจ แต่ช่วยไม่ได้เพราะลีลาชั้นมันเผ็ดร้อน” เขาตบไหล่ชายหนุ่ม แต่ไมเคิลมีกะใจเบี่ยงตัวออก“คือ...บลู ไมเคิลค่อนข้างจะสับสนนิดหน่อย ฉันขอโทษจริง ๆ เขาไม่ได้ตั้งใจ” อเล็กซิสแก้ตัวให้เพื่อนและพยายามมองแค่หน้าของบลู ปกติแล้วเขาไม่ใช่ผู้ชายในแบบที่เธอชอบ หรือตรงสเป็ก แต่หุ่นของเขานี่มัน...หน้าอกชายหนุ่มยังคงสั่นไปตามแรงหัวเราะ “พูดจริงดิ เพื่อนเธอไม่รู้จักเสียงเมื่อกี้เหรอ เอ แล้วที่อยู่ในห้องกันสองคนทำอะไรกันวะ” เขาหันไป
ไมเคิลพยายามทำตัวเป็นปกติ เขามานอนเล่นในห้องเธอตั้งแต่สี่โมงเย็น เพราะในห้องตัวเองเต็มไปด้วยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และสามหนุ่มไอทีอย่างโคดี้ เรมี กับอาคุสะที่พยายามถอดรหัสเข้าเครื่องให้ได้ ทอยซิตี้ไม่ใช่เมืองพักตากอากาศ หากพวกเขาไม่ดื่มหรือชมลานประลองก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรอีก ทั้งสองคุยกันว่าจะหางานทำช่วงเย็นดีไหม อย่างน้อยอาจแก้เบื่อแถมได้ชิปนิดหน่อย ไมเคิลเคยลองทำแล้วออกมาและอาจจะกลับเข้าไปใหม่วันนี้จึงผ่านไปอย่างช้า ๆ สำหรับทั้งสองคน บางครั้งเธอนั่งจดบันทึกอยู่ เขาจะเริ่มเข้ามากระแซะ หลายครั้งเธออยากให้ตัวเองคล้อยตามแต่มันมีบางอย่างที่ทำให้เธอหยุด สัมผัสของไมเคิลไม่ได้ทำให้เธอใจสั่น ทั้งที่หน้าตาและรูปร่างเป็นต่อ อาจเป็นเพราะแววตาของเขาแสดงความอยากรู้อยากเห็นมากกว่าต้องการจริง ๆ และอาจเป็นเพราะเขาทำให้เธอรู้สึกกึ่ง ๆ ระหว่างออสโล่กับลิ้ตเติ้ลชาร์ลีมากเกินไป ความใกล้ชิดของพวกเขายิ่งกว่าก่อนอเล็กซ์จะตีจากเสียอีก แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องนอนตัก กอด หรือถูกเนื้อต้องตัว พวกเขาไม่เคยไปไกลเกินกว่านี้ ถ้าไม่นับจูบทดลองคราวนั้นและสุดท้าย เด็กหนุ่มมักผล็อยหลับบนตักเธอเสมอ ไมเคิลชอบให้เธอเ
คำสุดท้ายแรงเหมือนตบหน้าโดยไม่ใช่มือ แววตาหยิ่งผยองเมื่อครู่กลายเป็นหวาดหวั่น และเมื่ออเล็กซิสเห็นเงาตัวเองในดวงตาคู่นั้นก็ตกใจไม่แพ้กัน ความเกลียดชังในตัวเธอส่งผ่านออกมาจนเห็นชัดผ่านเงาสะท้อน และแม้แต่ตัวเองยังแทบรับไม่ได้กับใบหน้านั้น ดวงตาเธอเหลือบมองเทสซ่าและรีเวอร์ที่ยังคุยกันดี ไม่มีทะเลาะ จึงจับตัวมินนี่เลื่อนออกไป ให้ตัวเองมีช่องว่างปลีกตัวมินนี่ไม่สนใจ เธอเขยิบตัวแล้วก้าวไปเกาะกำแพงข้างหน้าแทน สายตาจดจ่ออยู่ที่พี่สาวตัวเองมากกว่าคนรอบข้าง เวลานี้อเล็กซิสไม่สนใจแล้วว่าต้องรอเทสซ่าหรือไม่ แต่ฉวยโอกาสนี้กลับเขต ใบหน้าอาฆาตเมื่อครู่ยังติดอยู่ในหัว“ฉันไม่เคยอยากให้พวกเขาตาย”เท้าเธอหยุดกะทันหัน เบลินดาเดินตามมา “เวดยังไม่ตาย” เธอสวน หันกลับไปเผชิญหน้ากับผู้ที่มาจากที่เดียวกัน “เธอไม่เคยขอโทษ ไม่เคยรู้สึกผิด ตลอดเวลาฉันเห็นเธอลอยหน้าลอยตาราวกับตัวเองเป็นเหยื่อ...”“เพราะฉันเป็นเหยื่อ” เด็กสาวตรงหน้ากำหมัดแน่น มือทั้งสองข้างสั่นอเล็กซิสหัวเราะ “กล้าพูด”“เหยื่อของผองเพื่อ
“โอ้” ทำไมเราต้องรู้เรื่องที่ไม่ควรรู้ด้วยนะ เธอเหลือบมองเพื่อนสาวอีกที สองคนนั้นยังหัวเราะคิกคัก ไม่รู้ตัวว่ามีคนกล่าวถึง “หมอนั่นไม่ได้เป็นโรคจิตใช่ไหม” เธอถาม เพราะมินนี่ไม่เคยเก็บความลับของพี่สาวอยู่มินนี่ส่ายหัว “รีเวอร์น่ารักจะตาย ไม่กวนประสาทเหมือนโคดี้ด้วย เขาเป็นผู้ใหญ่ โนเอลก็ชอบ” แววตาสีฟ้าอ่อนสลดลงเมื่อนึกถึงพี่ชายที่จากไป อเล็กซิสลุกขึ้นกอดเธอเป็นการปลอบโยน “ถ้าเขาไม่หายไปและไม่ทำให้เทสซ่าเสียใจก็ดี แต่มันไม่ได้แปลว่าฉันเชียร์เขาแทนโคดี้นะ” เด็กสาวเงยหน้าทำตาปริบ ๆ ถึงแม้เธอค่อนข้างประหลาดไปสักหน่อย แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เอ็นดูน้องเล็กของพวกโธมัสคนนี้อเล็กซิสยิ้ม “ฉันรู้”เธอมองรีเวอร์อีกครั้ง ครั้งนี้เขารู้ตัวจึงเดินหายไป เธอไม่เคยรู้เรื่องเขาเลย ไม่แน่ใจว่าเทสซ่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับแฟนเก่า แต่ภาวนาว่าอย่าให้มีเรื่องขัดข้องใจกับแฟนปัจจุบันก็คงดี อเล็กซิสถอนหายใจ เธอนึกถึงวันที่อเล็กซ์เจอเธอแอบอยู่หลังถังขยะข้างตึกที่พักไมเคิล สติตกอยู่ใต้อำนาจฤทธิ์ยา ถึงแม้เธอไม่อาจตอบได้
พวกผู้หญิงมีวิธีบรรเทาความเครียดต่างกับผู้ชาย ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ไหน การได้จับจ่ายซื้อของคือความสุขและวิธีปลดปล่อยมวลพลังลบทั้งปวง ถึงแม้ที่นี่ไม่มีร้านบูติกแบรนด์ชั้นนำ หรือแม้แต่ร้านโนเนมดีไซน์ล้ำ มีเพียงตลาดมือสองและแผนกเสื้อผ้าในซูเปอร์ตั้งราวเรียงกันเป็นตับ ไร้รสนิยม แม้ทอยซิตี้ไม่มีตัวเลือกให้กับผู้หญิงมากนัก แต่แค่ได้สวมใส่ ลอง และซื้อ ก็สนองนี้ดได้ไม่ยาก และเพราะมันเป็นหนทางเดียวสำหรับพวกเธอคงมีแค่อเล็กซิสที่นั่งเท้าคางรอเทสซ่าแต่งตัวคนอย่างอเล็กซิสหรือจะแค่นั่งรอ เด็กสาวผู้ชื่นชอบสะสมเสื้อผ้าสวยและน้ำหอมเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งที่ค่าตัวจากงานพิเศษต่าง ๆ ละลายไปกับของพวกนี้ เหตุใดเธอจึงนั่งเบื่อ ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ใครคือคนที่ช้อปด้วยต่างหาก และก็ไม่ใช่เพราะเทสซ่าแน่นอนเทสซ่าเดินออกจากห้องลองเสื้อพร้อมเบลินดา สวมเสื้อแจ็กเกตดำแบบเดียวกับที่เธอชอบยืมอเล็กซิสใส่สมัยอยู่ในหอพัก (ท่าทางจะชอบจริง ๆ) เสื้อนอกทับเสื้อสายเดี่ยวสีเขียวข้างใน ด้วยบุคลิกทะมัดทะแมง ผิวสีเชสนัทเกลี้ยงเกลา และรองเท้าบูตส์หนัง เธอยิ่งสวยและเท่เหมือนนางเอกเดินออกจากหนังแอคชั่น “สามพันสองร้อยชิป ไม่ใช่หนั
ไมเคิลส่ายหัวปัดมือให้เธอถอยออกไป (ไม่กล้าแตะตัวเธออีก) อเล็กซิสในอ้อมกอดอเล็กซ์ไม่ได้นอนหรือหลับ หากแต่ตื่นอยู่แต่เหมือนไม่ค่อยมีสติ ริมฝีปากพึมพำว่า “ปล่อย” เบา ๆ ในลำคอ“เปิดประตูสิ” อเล็กซ์สั่งเพราะมือทั้งสองอุ้มเพื่อนของเขาไว้“นายก็เขยิบสิ” เขาสั่งกลับ อเล็กซ์เลื่อนตัวเข้ามาใกล้ประตู เขาจับมืออเล็กซิสแตะที่ตัวสแกนเพื่อปลดกลอน มีเสียงดังกริ๊ก มือผลักบานประตูเปิดให้อเล็กซ์เข้าข้างใน “นี่” ไมเคิลไม่สนใจหญิงสาวเลยปิดประตูใส่หน้าหล่อนดังปัง เธอทุบครั้งหนึ่งก่อนจะด่าออกมา เมื่อนั้นเสียงฝีเท้าห่างออกไป ในที่สุด“ฉันอยากได้ผ้าชุบน้ำ”ไมเคิลพยักหน้า ส่วนอเล็กซิสก็พยายามจะลุกขึ้นจากเตียงให้ได้ “ไม่...ต้อง...” จนอเล็กซ์ดันตัวเธอลง “ไม่” สภาพอเล็กซิสไม่ต่างจากคนเมายา เขาไม่รู้ว่าเธอไปโดนอะไรมาแต่ก็ทำตามที่อเล็กซ์บอก นั่นคือเข้าไปในห้องน้ำแล้วคว้าผ้าขนหนูผืนเล็ก พอเปิดก๊อกก็พบว่าน้ำแรงปกติ โกหกจริงด้วย มือทั้งสองรีบบิดน้ำหมาด ๆ พอออกมาก็เห็นสองอเล็กซ์เถียง
ไมเคิลรุดไปยังหน้าต่างตรงทางเดิน ยกบานหน้าต่างจนสุดแล้วชะโงกหน้าออกไป ลมแรงตีปะทะหน้า ถึงแม้เขาจะชอบอากาศเย็นสบายมากกว่าร้อน แต่เมื่อทอยซิตี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ลมกลับไม่น่าพิสมัย สายตาของเขาเลื่อนไปช้า ๆ ทีละจุด ทีละจุด แต่ไร้ประโยชน์ ถึงอเล็กซิสอยู่แถวนี้ก็ยากที่จะเห็นอยู่ดี ทำไมต้องโกหก เธอไปไหนกันแน่ หัวใจบีบรัดเมื่อความผิดหวังจู่โจม เขาคิดว่าเธอไม่ไว้ใจเขา ทั้งที่เข้าใจว่าตนเองคือคนที่เธอสนิทใจที่สุด มากกว่าเทสซ่า แต่สุดท้าย เขาคิดผิดอเล็กซ์โผล่หน้าออกมาข้าง ๆ ผมของเขายาวจนต้องจับมันไว้ไม่ให้ปลิวและพัดเข้าหน้า “เขามีท่าทีแบบนี้มาสักพักแล้วยัง”ไมเคิลไม่แน่ใจว่าจะตอบอย่างไร ตอนนี้ดูเหมือนทั้งสองจะพักอารมณ์เหม็นขี้หน้าชั่วคราว ถึงแม้ทุกคนเห็นว่าเธอค่อนข้างโทรมและเงียบกว่าตอนอยู่ในศูนย์ฝึก แต่ไม่ได้นึกถึงเรื่องอื่นเลย ใช่แล้ว ไม่มีใครสังเกตเลยรวมทั้งตัวเขาเองด้วย“เขาบอกอะไรนายบ้าง” ชายหนุ่มเริ่มยิงคำถาม “มันเกี่ยวกับที่โดนจับไปหรือเปล่า หรือไม่ใช่”“ไม่รู้!” ไมเคิลตอบอย่างมีอารมณ์ “แล้วนาย
ห้องของไมเคิลกับเรมีแออัดยิ่งกว่าเดิมเมื่อรองรับคนถึงเก้าคน คอมพิวเตอร์จอแบนขนาดสิบห้านิ้วตั้งกลางวง หน้าตามันดูดีจนไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาประกอบกันเอง เรมีเสียบปลั๊กแล้วกดเปิด หน้าจอสีดำกะพริบถี่ ๆ ก่อนเปลี่ยนเป็นสีฟ้าน้ำทะเลปรากฏเปลวไฟเป็นตัวอักษรรูปตัวเอทับต้นไม้ มันพลิ้วไหวเหมือนไฟมีชีวิต “โอ้โห” พวกเขาตื่นเต้น ไม่นานกล่องสีขาวเด้งออกมาเพื่อให้กรอกรหัส“ข้างในมีอะไรบ้าง” อเล็กซิสยื่นหน้าเข้ามา มือกำขวดน้ำแน่นท่าทางกระหายน้ำตั้งแต่เข้ามาในห้อง“ต้องกรอกรหัสก่อน” เรมีย้ำ สายตาจดจ่อกับหน้าจอดังกล่าว“กรอกสิ” เทสซ่าเร่ง “ฉันอยากรู้แล้ว”“เอ่อ” หนุ่มน้อยวัยสิบหกเคาะคีย์บอร์ดสัมผัส “เรายังแฮคมันไม่ได้”“หา?” พวกที่เหลือร้องออกมาพร้อมกัน “ถ้าอย่างนั้น...พวกนายเรียกให้พวกเราดูแค่ว่ามันเปิดได้”“ใช่” เรมีพยักหน้าหงึก ๆ “ไม่ตื่นเต้นกันเหรอ”“ฉันบอกแล้วว่าเราควรเจาะรหัสให้ได้ก่อน” อาคุสะพูดเสียงเรียบ เข
อเล็กซิสเงยหน้ามองไฟข้างบนอย่างกับจะจับผิดระบบ แต่ไมเคิลรู้ตัวการดีจึงเหยียดเท้าถีบเก้าอี้ข้างหน้า แม้ยั้งแรงไว้บ้างแต่ตัวอเล็กซ์อัดเข้ากับขอบโต๊ะจัง ๆ ไม่ทันร้องว่าเจ็บก็ลุกพรวดจนเก้าอี้กระแทกโต๊ะข้างหลังซึ่งก็คือระหว่างไมเคิลและอเล็กซิส เขาหมุนตัวเตรียมจะพุ่งเข้ามา ไมเคิลรออยู่แล้วง้างหมัดเตรียมสวน ทว่าสงครามยุติก่อนที่มันจะเริ่ม อเล็กซิสกับเรมีพร้อมใจกันกดเขาไว้กับโต๊ะ ส่วนอาคุสะและฟีบี้ทำแบบเดียวกันกับอเล็กซ์“ตรงนั้นมีอะไรกัน!”“เข้าใจผิดครับ เข้าใจผิด” เรมีตะโกน “พวกนายหยุดเดี๋ยวนี้”ทั้งสองจ้องหน้ากันราวกับเป็นศัตรูมาช้านาน ยิ่งอเล็กซ์ไม่ได้ตัดผมโกนหนวด หน้าตารุงรัง ยิ่งทำให้สีหน้านั้นเอาเรื่องกว่าตอนใบหน้าเกลี้ยงเกลา “บอกให้เขาหยุดสิ” ไมเคิลเถียง เสียงแหบแห้งเพราะน้ำลายติดคอ“นายนั่นแหละที่หยุด” เรมีกดศีรษะเขาลง“เบา ๆ เรมี ไมเคิลนายอยู่นิ่ง ๆ” อเล็กซิสว่า“ฉันไม่ได้เริ่ม!” เขาจ้องหน้าอเล็กซ์เขม็ง“เฮ้ ๆ พวกนาย” เทสซ่ายืนขึ้นเตรียมพ