ปัง! ปัง! ปัง!
“โอ้ย…ใครวะ” ฉันตะโกนถามออกไปเสียงดังด้วยความหงุดหงิดพร้อมกับเดินไปเปิดประตูอย่างคนที่ไร้วิญญาณ คนยิ่งปวดหัว อยากจะนอนพักให้เต็มอิ่ม แต่ก็ดันมีคนมาขัดจังหวะเวลานอนซะงั้น
“ซวยแล้วๆ”
เพื่อนทุกคนต่างพูดโวยวายเข้ามาในห้องกันเสียงดัง แต่มีเหรอที่ฉันจะสนใจ ฉันทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆ ต่อทันที ก็คนมันง่วงอะนะ
“ลุกขึ้นมาเลยนะ มึงรู้มั้ยว่าตอนนี้เกิดเรื่องแล้ว” เสียงแหลมๆ ของยัยฮันน่าพูดด้วยท่าทางตื่น
“เรื่องอะไร” ฉันที่นอนหลับตาอยู่บนเตียงก็ถามออกมาอย่างไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นัก
“ไอ้ตินกับแฟนทะเลาะกันใหญ่แล้ว”
ยังไม่ทันที่ยัยเดียจะพูดจบฉันก็ดีดตัวลุกขึ้นมานั่งอย่างอัตโนมัติ พร้อมกับมองหน้าเพื่อนๆ ด้วยความดีใจอยู่ลึกๆ และอยู่ๆ ฉันก็สึกว่าโลกนี้มันสดใสน่าอยู่ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ดูสวยงามไปหมด
“มึงไม่ต้องมาทำหน้าดีใจเลยนะ” เป็นยัยฮันน่าที่รู้ทันฉันตลอดเลย คนกำลังมีความสุขไม่รู้จะมาขัดทำไม
“ใครดีใจ มึงจะบ้าเหรอ!” ฉันตอบไปแบบส่งๆ ซึ่งมันก็ขัดกับความเป็นจริงเป็นอย่างมาก
“มึงเป็นตัวต้นเหตุแท้ๆ ยังจะมาดีใจอีก” ตามด้วยเสียงยัยเดีย ตอนนี้ทั้งยัยฮันน่า และยัยริน ทุกคนต่างมองหน้าฉันอย่างกับว่าฉันไปฆ่าใครตายอย่างไงอย่างงั้นแหละ
“อะไร! ทำไมพวกมึงต้องมองหน้ากูแบบนี้ ใครเป็นต้นเหตุ กูไม่เห็นรู้เรื่อง แล้วกูไปเกี่ยวอะไรด้วย” ฉันถามกลับด้วยความงงๆ คนพึ่งจะตื่น จะมาโยนความผิดให้ฉันไม่ได้นะ
ฉันรีบทุกขึ้นเดินหนีจากตรงนี้ทันที รู้สึกเหมือนมีอะไรบ้างอย่างที่น่ากลัวก็ไม่รู้
“มึงจะไปไหน!” ยัยฮันน่าถามขึ้นพร้อมกับจับตัวฉันให้นั่งลงบนเตียงเหมือนเดิม
“มาจับกูไว้ทำไม กูไม่เกี่ยว กูจะไปอาบน้ำ” ฉันพูดไปตามความรู้สึก ก็ฉันไม่เกี่ยวจริงๆ อะ
“จ้ะ! ไม่เกี่ยว มึงดูนี่ก่อน” ยัยฮันน่าพูดพร้อมกับยื่นโทรศัพท์มาให้ฉันดู
“ดูให้ชัดๆ ดูให้เต็มตาเลยนะ!” ยัยเดียพูดเน้นย้ำเหมือนกับมีอะไรบางอย่าง
ฉันมองคลิปที่ยัยฮันน่าเป็นคนไลฟ์สดเมื่อคืน ดูแล้วก็สงสารตัวเอง สภาพฉันตอนเมาทำไมมันถึงได้แย่ขนาดนี้ รับไม่ได้เลยจริงๆ แล้วนี่มันไปไลฟ์สดตอนไหนทำไมฉันถึงจำไม่ได้เลย
ในขณะที่ฉันกำลังนั่งสมเพชสภาพตัวเองอยู่ฉันก็ได้ยินคำถามที่เพื่อนๆ ถามฉัน ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงของฉันที่ตอบพวกมันอย่างชัดเจน ตอนนี้ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูกแล้ว อยากจะหายตัวไปจากตรงนี้ ไม่อยากเจอใครอีก โลกที่สดใสก่อนหน้าตอนนี้กลับมืดมน เพียงเพราะทำพูดไม่กี่คำของฉันเอง
“จะเอายังไงต่อวะ จะอยู่ต่อหรือจะกลับ” เสียงของกวินที่เดินเข้ามากับไทเกอร์ถามขึ้น
“มีเรื่องอะไรอีก” ยัยเดียถามขึ้นอย่างสงสัย
“คือไอ้ตินกับน้องมุขจะกลับวันนี้” กวินรีบตอบทันที
ฉันที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว แล้วเดินเข้าห้องน้ำอย่างไม่รอช้า ตอนนี้ทุกอย่างกำลังพังเพราะฉัน…เพราะฉันเป็นตัวต้นเหตุ
“มึงรู้อะไร เล่ามาให้หมดเลยนะ!”
ถึงฉันจะอยู่ในห้องน้ำแต่ฉันก็ได้ยินในสิ่งที่เพื่อนๆ พูดกันอย่างชัดเจน
“คืองี้ ไอ้ตินมันถูกน้องมุขบอกเลิก เพราะเรื่องเมื่อคืน แล้วน้องมุขก็คิดว่าคลิสกับไอ้ตินต้องมีอะไรกันมากกว่าเพื่อนแน่ๆ” กวินอธิบายให้ทุกคนฟัง
“นางคิดมากไปเองรึป่าววะ เพื่อนกันจะมีอะไรกันได้ยังไง”
ยัยฮันน่าพูดอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่แฟนของออสตินคิด แต่ประโยคหลังทำเอาไอรินถึงกับสะดุ้ง เพราะเธอพลาดไปมีอะไรกับเพื่อนในกลุ่มไปแล้ว
ใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน ฉันก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เพื่อนทุกคนต่างอยู่ในห้องของฉันเหมือนเดิมไม่ไปไหน และเป็นจัังหวะเดียวกับที่ออสตินเดินเข้ามาในห้อง
“มีอะไรวะ” ไทเกอร์ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าออสตินดูรีบกว่าทุกครั้ง
“กูเอากุญแจเรือมาให้…” ออสตินหันมามองฉันที่ยืนอยู่ไม่ไกลด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนที่จะหันไปมองไทเกอร์
“กูจะกลับก่อน ถ้าพวกมึงอยากอยู่ต่อก็อยู่ได้เลย ตามสบาย” พูดจบออสตินก็เดินออกไป โดยที่ไม่หันมามองหน้าฉันอีกเลย
“เอาไงต่อวะ” เป็นเสียงยัยเดียที่ถามขึ้นมา
“อยู่ต่ออีกสักวันดีกว่า กลับไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก” กวินเสนอความคิดขึ้นมา ไหนๆ ก็ได้มาแล้วอยู่ต่ออีกสักวันคงไม่เป็นไรหรอก
“ก็ดีเหมือนกัน งั้นตามนี้เลยนะ” ยัยฮันน่าพูดพร้อมรอยยิ้ม
เวลา 20:00 น.
วันนี้ทั้งวันฉันแทบไม่ได้ออกจากห้องไปไหน เกิดมาฉันยังไม่เคยคิดมากอะไรแบบนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ ฉันนั่งอ่านคอมเมนท์ของหลายๆ คน ที่สาปแช่งฉันกับเรื่องที่เกิดขึ้น จนฉันสำนึกผิดแทบไม่ทัน
ฉันเดินลงไปข้างล่างอย่างคนไร้เรี่ยวแรง มันเหนื่อยจนฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไปดี
“ทำหน้าให้สดชื่นๆ หน่อยดิวะ” ยัยเดียที่กำลังนั่งดื่มอยู่ก็ทักฉันขึ้นมาทันที
ฉันไม่ตอบอะไร ก่อนที่จะเดินไปนั่งลงข้างๆ ยัยเดียแล้วรับแก้วเหล้าจากฮันน่าที่ยื่นมาให้ ฉันกระดกเหล้าในแก้วจนหมด ราวกับคนกระหายน้ำมาเป็นปี
“กูผิดมากเลยใช่มั้ยวะ! กูแค่บอกว่าชอบ กูยังไม่ได้แย่งเลยด้วยซ้ำ”
เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง ฉันนั่งดื่มกับเพื่อนแก้วแล้วแก้วเล่า ก่อนที่ฉันจะพูดประโยคนี้ขึ้นมา ทำเอาทุกคนที่นั่งอยู่ถึงกับเงียบ
“มันไม่ผิดหรอก ถ้าคนที่มึงชอบไม่ใช่เพื่อนสนิท มึงลองคิดดูว่าต่อไปนี้พวกมึงจะมองหน้ากันยังไงเวลาเจอกัน” ยัยเดียพูดตามความเป็นจริง ทุกคนต่างคิดหนักเป็นห่วงทั้งฉันและออสติน
จากนั้นทุกคนก็นั่งดื่มกันต่อจนเมากันได้ที่แล้ว
“เดี๋ยวกูโทรหาไอ้ตินก่อน ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไงบ้าง” ไทเกอร์พูดขึ้นก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาออสติน
“ไม่รับว่ะ”
ไม่ว่าจะโทรไปกี่สาย ออสตินก็ไม่ยอมรับสายจากเพื่อนๆ เลยสักครั้ง ไทเกอร์เลยกดเข้าไปดูไอจีว่าออสตินได้โพสต์อะไรบ้างรึป่าว แต่ก็ไม่มีการเคลื่อนไหว มีเพียงไข่มุขที่เป็นคนโพสต์รูปหัวใจที่แตกสลาย
เพื่อนทุกคนต่างมองหน้าฉัน เป็นสายตาเดียวกัน แต่กลับไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยสักคน
“กูต้องโทรไปเคลียร์กับนางมั้ย?” ฉันถามขึ้นเมื่อทุกคนยังมองฉันอยู่
“เงียบไปก่อนดีกว่า” กวินพูดขึ้น
“กูก็ว่างั้น รอดูสถานการณ์ก่อน แล้วค่อยคิดหาทางออก” ตามด้วยเสียงของฮันน่าที่คิดเหมือนกันกับกวิน
“รินเข้าใจความรู้สึกน้องมุขนะ ตอนนี้น้องมุขอาจจะคิดมาก เพราะเห็นว่าคริสกับตินอยู่ด้วยกันตลอด” ไอรินพูดขึ้นอีกเสียง
“มึงก็อย่าพึ่งไปคิดมากอะไร” ยัยเดียรีบพูดให้กำลังใจฉัน
“กูไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้จะได้เก็บของกลับแล้ว” ฉันพูดพร้อมกับยิ้มบางๆ ฉันเข้าใจความรู้สึกทุกคนนะ เพราะไม่ว่าตินหรือฉันต่างก็เป็นเพื่อนกัน ทุกคนคงจะคิดมากไม่ต่างจากฉันเท่าไหร่หรอก…
หลังจากที่เรื่องทุกอย่างจบลงพี่สาวของไข่มุขก็บอกอยากจะเลี้ยงข้าวขอบคุณทุกคนที่ช่วยน้องสาว แต่ก็ต้องหาวันว่างๆ แล้วค่อยนัดกันอีกที เพราะวันนี้ไข่มุขเจอเรื่องเลวร้ายมาทั้งวันแล้ว ถ้าจะไปกินข้าวกันวันนี้คงจะดูไม่เหมาะเท่าไหร่ ทุกคนก็ตกลงเห็นด้วย ด้วยความเต็มใจ ก่อนที่พี่สาวของไข่มุขจะขอตัวกลับเพื่อพาน้องสาวไปพัก“ไปหาอะไรกินกันมั้ยวะ หิวแล้ว” ฮันน่าพูดขึ้นเพราะกว่าจะเคลียร์ทุกอย่างจบก็เป็นช่วงเย็นพอดี ก็ทำเอาทุกคนหิวไม่ต่างกัน“ดีเหมือนกัน กูก็เริ่มหิวแล้ว” ตามด้วยเสียงนาเดียพูดขึ้นที่ดูท่าจะหิวไม่ต่างกัน“ไปก็ไป” กวินตามใจสาวๆ อย่างขัดไม่ได้ ไปไหนก็ต้องไปด้วยกันอยู่แล้ว เพราะถ้าไม่ไปด้วย มีหวังได้เป็นเรื่องแน่ๆ สาวๆ ยิ่งเอาแต่ใจกันอยู่ด้วย“จะไปกินร้านไหนวะ” คริสตัลถามขึ้นอย่างไม่รอช้า“ไปร้านอาหารแถวคอนโดมึงก็ได้ กินเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ” ฮันน่ารีบตอบทันทีดูท่าแล้วน่าจะหิวหนักกว่าใครคนอื่น“งั้นก็ไปเจอกันที่ร้านxxx” ออสตินที่รู้จักร้านอาหารที่อยู่แถวนั้นเป็นอย่างดี ก็รีบพูดตัดบทขึ้นมาทันที ก่อนที่ชายหนุ่มจะจับมือคริสตัลแล้วเดินจูงมือเธอตรงไปที่รถทันที“อีคริสมันไม่ได้ตาบอดนะ ทำไมต้องจั
ออสตินกับคริสตัลมาถึงยังสถานที่ที่ไข่มุขบอกเอาไว้ก่อนหน้า ก่อนจะเจอกับกลุ่มเพื่อนที่มากันครบหมดทุกคน เพราะคริสตัลได้โทรบอกเพื่อนให้ออกมาช่วยกันก่อนที่เธอจะออกมา“ทำไมไม่เห็นมีใครเลยวะ” นาเดียพูดขึ้นพร้อมกับมองซ้าย มองขวาอย่างสำรวจซอยเปลี่ยวที่เงียบและไร้ผู้คนจนดูน่ากลัว“ปล่อยนะ! ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”เสียงตะโกนขอความช่วยเหลือดังขึ้นจนทุกคนหันไปมองหน้ากัน คิดว่ายังไงก็ต้องเป็นเสียงร้องขอความช่วยเหลือของไข่มุกแน่ๆเอี๊ยด!เสียงรถตู้คันใหญ่แล่นมาจอดอยู่ไม่ไกล ก่อนจะปรากฎร่างกายกำยำของชายชุดดำสามคนที่กำลังเดินลงจากรถ ก่อนจะเดินไปกระชากหญิงสาวที่อยู่กับชายชุดดำอีกคนให้รีบเดินตรงไปขึ้นรถที่จอดรออยู่“รีบเดินหน่อยสิวะ!” ชายชุดดำที่ดูน่ากลัวตะคอกบอกไข่มุขเสียงดัง ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งตกใจกลัวขึ้นมาอีกครั้ง“ขึ้นไปอยู่บนรถกันก่อนนะ” ออสตินบอกกับคริสตัลด้วยความเป็นห่วง เพราะเขาไม่อยากให้หญิงสาวเป็นอันตราย“เดี๋ยวพวกกูจัดการเอง” กวินพูดขึ้นก่อนที่จะเดินนำไปยังรถตู้ที่จอดอยู่ พร้อมกับมีออสตินและไทเกอร์เดินตามมาด้วยสาวๆ รีบวิ่งขึ้นไปอยู่บนรถอย่างว่าง่าย โดยที่ไม่มีใครบ่นเลยซักคำ เพราะเหตุการณ์ตรงหน้
เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง เพื่อนๆ ต่างทยอยกันกลับไปจนหมด ตอนนี้ภายในห้องก็มีแค่คริสตัลกับออสตินเพียงสองคน แต่ชายหนุ่มก็เอาแต่เงียบไม่ยอมคุยกับหญิงสาวเลยซักคำ“หิวมั้ย” คริสตัลถามขึ้นเมื่อบรรยากาศภายในห้องนั้นเงียบเกินไป“….”ไร้เสียงตอบรับจากอีกฝ่าย ภายในห้องยังคงปกคลุมไปด้วยความเงียบอยู่เหมือนเดิม“ออกไปหาอะไรกินมั้ย” หญิงสาวยังคงถามต่อ พยายามถาม พยายามหาเรื่องมาคุยด้วยแต่ก็ไม่เป็นผล“….”ไม่ว่าเธอจะถาม จะพูดอะไร ชายหนุ่มเอาแต่งอนไม่ยอมตอบเธอเลยซักอย่าง“เป็นอะไร…” คริสตัลเดินเข้าไปถามชายหนุ่มใกล้ๆ แต่ออสตินก็เงียบ ไม่สนใจ แถมเขายังเดินหนีเข้าไปอาบน้ำอีกด้วยคริสตัลรีบเดินตามไปแต่ก็ไม่ทัน เพราะชายหนุ่มนั้นล็อกประตูห้องน้ำเอาไว้เรียบร้อยแล้ว“รีบออกมาน๊าาา” คริสตัลไม่ยอมแพ้ ถึงจะเข้าไปในห้องน้ำด้วยไม่ได้ เธอก็ตะโกนบอกเขาเสียงดังอย่างไม่ลดละความพยายามลงเลยซักนิดออสตินใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องน้ำมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันเอวหนาเอาไว้ร่างหนาเดินผ่านหญิงสาวไปอย่างไม่สนใจ ถึงแม้เธอจะเดินตามง้อเขาแทบจะทุกฝีก้าวก็ตาม“หายงอนเถอะนะ” คริสตัลพูดพร้อมกับโอบกอดเอวหนา
สองวันต่อมาคริสตัลนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่โซฟากลางห้อง ฮันน่ากับกวินก็นั่งกินขนมกันอยู่ไม่ไกล ส่วนไอรินกับไทเกอร์ก็นั่งเงียบไม่พูดไม่จา เรียกได้ว่าตอนนี้ห้องของคริสตัลได้กลายเป็นที่รวมตัวของกลุ่มเพื่อนไปแล้ว จะขาดก็แต่นาเดียที่ออกไปข้างนอกตั้งนานแล้วไม่ยอมกลับมาซักที“ดูอะไรอยู่เหรอ” ออสตินถามขึ้นพร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ คริสตัลอย่างเคยชินเหมือนที่เคยทำอยู่ตลอด“ก็ดูไปเรื่อยแหละ” คริสตัลตอบพร้อมกับหันหน้าไปมองออสตินก่อนที่เธอจะหันกลับมาสนใจเล่นโทรศัพท์ที่อยู่ในมือต่อ“ถามอะไรหน่อยสิ” ร่างหนาถามขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าหญิงสาว รอดูว่าเธอจะหันมามองเขาอีกหรือเปล่า“อะไรเหรอ” หญิงสาวถามออกมา แต่เธอยังคงก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ไม่สนใจมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ เลยซักนิด“ไม่คิดอะไรจริงเหรอ” ชายหนุ่มทิ้งตัวนอนลงหนุนตักหญิงสาวอย่างที่เคยทำเป็นประจำ พร้อมกับถามเธอออกมา“คิดเรื่องอะไร” คริสตัลก้มมองหน้าออสตินนิ่งๆ ก่อนที่เธอจะถามออกมา พร้อมกับทำหน้างงๆ ไม่รู้ว่าชายหนุ่มกำลังถามเรื่องอะไรอยู่“ก็เรื่องที่ไข่มุขยังมาวนเวียนมาอยู่แบบนี้ไง” ออสตินถามไปด้วยความเป็นห่วงเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะคิดมากเรื่
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาตั้งแต่ที่ออสตินกับคริสตัลเปิดตัวว่าคบกันออกสื่ออย่างเป็นทางการ ชีวิตของทั้งสองคนก็ดูมีความสุขมากขึ้น ทุกคนรอบข้างต่างก็สบายใจไปด้วย ไม่มีอะไรที่จะอึดอัดใจเหมือนก่อนหน้านี้ออสตินได้ย้ายมาอยู่ที่คอนโดของคริสตัลอย่างถาวร เพราะหญิงสาวให้เหตุผลว่า เธอไม่อยากจะย้ายไปอยู่ในห้องที่ชายหนุ่มเคยอยู่กับแฟนเก่ามาก่อน ซึ่งชายหนุ่มก็เข้าใจและตามใจหญิงสาวทุกอย่างตลอดทั้งอาทิตย์ออสตินกับคริสตัลก็แทบจะไม่ได้ออกไปไหนนอกจากไปเรียน เรียนเสร็จก็กลับห้อง ทำเอาเพื่อนๆ ทุกคนต่างก็มาคลุกอยู่ที่ห้องของคริสตัลเป็นประจำ และวันนี้ก็เช่นกัน“เรื่องน้องมุขเป็นไงบ้างวะ” กวินถามขึ้นด้วยความสงสัย“ก็โดนตามขู่อยู่เหมือนเดิมแหละ” ไทเกอร์ตอบไปด้วยท่าทางนิ่งๆ“แรกๆ กูไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่านางจะโดนคุกคามจริงๆ นึกว่านางสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อเรียกร้องความสนใจซะอีก” ฮันน่าพูดออกมาตามตรง เพราะไม่ค่อยเชื่อเรื่องอะไรแบบนี้“ตอนแรกกูก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่วันนั้นกูไปเห็นมากับตา แม่งโดนทำลายด้วย โชคดีที่เข้าไปช่วยทัน” ไทเกอร์พูดถึงวันที่เอาเงินไปแล้วเห็นว่าไข่มุขกำลังโดนขู่ โชคดีที่เขาเอาเงินไปให้เธอทันเวลาพอ
เข้าวันต่อมาชายหนุ่มตื่นขึ้นมาก่อนหลังจากที่เพิ่งจะได้นอนเพียงไม่กี่ชั่วโมง เพราะมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ถ้าเขาไม่รับก็กลัวว่าหญิงสาวที่นอนอยู่ข้างๆ จะตื่นเสียก่อน“มีอะไรวะ” ออสตินถามเสียงเบาเพราะกลัวหญิงสาวจะตื่น ทั้งๆ ที่ในใจเขาตอนนี้อยากจะด่าออกไปให้มันจบๆ(ฮ่าฮ่าฮ่า) ไม่มีเสียงพูดตอบกลับใดๆ มีเพียงแค่เสียงหัวเราะของไทเกอร์ที่ดังขึ้นมาอย่างพอใจ ก่อนที่ปลายสายจะกดวางสายไปเอง“อย่าให้ถึงทีมึงบ้างก็แล้วกัน” ออสตินพูดออกมาด้วยความโกรธที่โดนแกล้งตอนเช้าแบบนี้ ชายหนุ่มรีบปิดเครื่องแล้วนอนกอดร่างบางต่อทันที“มีอะไรเหรอ” คริสตัลงัวเงียถามขึ้นมา เมื่อเห็นท่าทางหัวร้อนของออสติน“ไม่มีอะไรหรอก” พูดจบชายหนุ่มก็โน้มใบหน้าเข้าไปสูดดมซอกคอขาวอย่างไม่รอช้า“อือออ…ขอพักก่อนได้มั้ย” หญิงสาวบอกชายหนุ่มเสียงเบาอย่างไร้เรี่ยวแรง เพราะพึ่งจะได้พักเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงนี้เอง“นอนพักเลย…เดี๋ยวทำเอง” ออสตินกระซิบบอกที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงหื่นกระหาย หญิงสาวได้แต่นอนหลับตานิ่งไม่มีแม้แรงจะห้าม จึงปล่อยให้ชายหนุ่มได้ทำตามใจตัวเองร่างหนาทาบทับร่างสวยเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเริ่มบทรักครั้งใหม่กับเธออีกครั้ง..ช่ว