หนึ่งเดือนต่อมา
@TK PUB (ผับของไทเกอร์)
หลังจากไปเที่ยวทะเลกลับมาเพื่อนๆ ก็นัดกันไปเที่ยวตามปกติ อย่างน้อยๆ ก็นัดเที่ยวกันอาทิตย์ละครั้ง เพราะช่วงนี้ปิดเทอมอาจจะไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนตอนที่เปิดเรียนอยู่
ถึงเพื่อนๆ จะนัดกันไปเที่ยวหลายครั้งแล้วก็ตาม แต่ออสตินก็ยังปฏิเสธที่จะไปด้วยทุกครั้ง อ้างว่าติดธุระบ้างแหละ ติดงานบ้างแหละ ไม่ว่างบ้างแหละ ไม่รู้ว่าจะเหตุผลเยอะไปไหน ตอนนี้เรียกได้ว่าที่ไหนมีฉัน ที่นั่นจะไม่มีออสติน จนบางครั้งมันก็ทำให้ฉันรู้สึกอะไรบางอย่างอยู่ภายในใจ
“นี่กูกำลังเป็นตัวปัญหาใช่มั้ยวะ!” ฉันถามขึ้นด้วยท่าทางเซ็งๆ เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันทำให้ฉันอดคิดแบบนี้ไม่ได้เลยจริงๆ
“มึงจะคิดมากไปทำไมวะ” ยัยนาเดียพูดขึ้นมาอย่างปลอบใจฉัน (ฉันรู้สึกได้)
“คริสอย่าคิดมากนะ ตินเขาอาจจะไม่ว่างจริงๆ ก็ได้” ตามด้วยเสียงของยัยไอรินที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉัน ที่ยังคงพูดอย่างให้กำลังใจฉันไม่ต่างกัน
“ถ้าวันไหนมันว่างมันก็คงมาเองแหละ” กวินที่กำลังนั่งมองสาวๆ โต๊ะข้างๆ อยู่ก็หันมาบอกฉัน
“มาๆ ชนแก้วกันหน่อย มึงจะไปคิดมากทำไม” ยัยฮันน่าที่ยืนเต้นอยู่ไกลออกไปก็พูดขึ้นมาซะเสียงดังเชียว สงสัยจะกลัวว่าฉันจะไม่ได้ยิน
เสียงแก้วชนกันดังขึ้นจากนั้นทุกคนก็ยกดื่มกันจนหมดแก้ว อย่างกับคนที่ไม่ได้กินน้ำมาเป็นอาทิตย์
เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ทุกคนเริ่มเมาได้ที่กันแล้ว ยัยฮันน่าก็ชวนฉันออกไปเต้น เสียงดนตรีในผับที่เร่งจังหวะให้เร็วขึ้น ทำเอานักท่องราตรีเต้นกันจนลืมเหนื่อย
ในขณะที่ฉันกำลังเต้นอยู่สายตาของฉันก็ดันไปเจอกับใบหน้าที่คุ้นเคยที่นั่งอยู่ไม่ไกล นี่เหรอที่บอกว่าไม่ว่าง! นี่เหรอที่บอกว่าติดงาน! อยู่ๆ คำถามมากมายต่างก็วิ่งเข้ามาในหัวของฉัน คนที่บอกเพื่อนๆ ว่าไม่ว่างแต่ตอนนี้กลับนั่งอยู่กับแฟนตัวเอง และยังมีเพื่อนของยัยไข่มุขนั่งอยู่ด้วยกันอีกเป็นสิบ
สายตานิ่งๆ ของออสตินหันมาสบตากับฉันเพียงแค่เสี่ยววินาที ก่อนที่ออสตินจะหันไปมองทางอื่น ความรู้สึกมากมายกลับถาโถมเข้ามาในใจฉัน นี่ออสตินไม่อยากจะเจอหน้าฉันถึงกับต้องโกหกเพื่อนๆ แบบนี้เลยเหรอ
ฉันยกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่มจนหมด เพื่อดับความรู้สึกมากมายที่อยู่ภายในใจ ก่อนที่ฉันจะเลิกสนใจเรื่องของออสติน แล้วหันมาเต้นกับเพื่อนๆ ต่อโดยไม่คิดที่จะสนใจเรื่องอะไรทั้งนั้น
ในระหว่างที่ฉันกำลังเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกอยู่กับยัยฮันน่า และยัยเดีย ก่อนที่ทั้งสองคนจะไปเข้าห้องน้ำ อยู่ๆ ก็มีผู้ชายร่างกายกำยำเดินเต้นเข้ามาใกล้ๆ ฉัน
ฉันหันไปมองผู้ชายที่ยืนเต้นอยู่ใกล้ๆ ด้วยสายตาที่ไม่พอใจ พื้นที่ว่างมีตั้งเยอะไม่รู้ว่าจะมาเต้นเบียดฉันทำไม
“นี่! เป็นพวกโรคจิตเหรอ!” ฉันพูดขึ้นเสียงดังเมื่อไอ้ผู้ชายคนเดิมมันมาจับก้นฉัน
“ขายเท่าไหร่เหรอ?” ผู้ชายคนนี้ไม่ได้สนใจในสิ่งที่ฉันพูดไปเลยสักนิด แถมยังมาถามคำถามไร้สาระอีก
“ฉันดูเหมือนขายมากเหรอ!” ฉันถามกลับด้วยสายตาที่เอาเรื่อง
ไร้เสียงตอบกลับ มีเพียงสายตาที่มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาที่แสนจะดูถูก
“แต่งตัวขนาดนี้ใครจะไปเชื่อว่าไม่ขาย หรือคิดจะโก่งราคา” ทั้งสายตาและคำพูดที่ดูถูกฉัน ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครมาดูถูกฉันทั้งสายตาและคำพูดแบบนี้เลยสักครั้ง สงสัยจะรู้จักผู้หญิงอย่างคริสตัลน้อยไปซะแล้ว
ฉันกำแก้วเหล้าที่อยู่ในมือเอาไว้แน่นด้วยความโกรธ ความอดทนที่ฉันมีอยู่เริ่มจะหมดลงไปทุกที ก่อนที่ฉันจะยกแก้วเหล้าที่มีน้ำแข็งเพียงไม่กี่ก้อนและน้ำที่มีอยู่เพียงน้อยนิดขึ้นมาแล้วสาดใส่หน้าไอ้ผู้ชายปากไม่ดีคนนี้ทันที
“โอ้ย!” กลับกลายเป็นฉันที่ต้องร้องเสียงหลงออกมา เมื่อไอ้ผู้ชายคนนี้ผลักฉัน จนฉันล้มลงก้นกระแทกพื้นเสียงดัง
“เจ็บตรงไหนมั้ย” อยู่ๆ ออสตินก็วิ่งเข้ามาช่วยพยุงฉันให้ลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะถามฉันด้วยความเป็นห่วง (ในฐานะเพื่อน) แต่ฉันยังไม่ได้ตอบอะไร ไอ้ผู้ชายโรคจิตก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน
“มึงเป็นใครวะ มาเกี่ยวอะไรด้วย” ไอ้ผู้ชายคนนั้นถามขึ้นเสียงดัง ตอนนี้ทุกคนที่อยู่รอบข้างต่างหันมามองกันเป็นสายตาเดียว
ผัวะ!!
ออสตินหันไปชกหน้าไอ้ผู้ชายคนนั้นทันที ก่อนที่กวินกับไทเกอร์ที่เป็นเจ้าของผับวิ่งเข้ามาช่วย
ไทเกอร์สั่งให้พนักในร้านลากตัวไอ้ผู้ชายโรคจิตคนนั้นออกไปจากร้านทันที ส่วนฉันยังคงยืนนิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พอเจอเข้าจริงๆ มันก็น่ากลัวเหมือนกันนะ ถ้าเกิดไม่มีออสตินกับคนอื่นๆ เข้ามาช่วย ป่านนี้ฉันจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้
และตอนนี้เหมือนมีใครกำลังจับมือฉันเอาไว้ ก่อนที่ฉันจะหันไปมอง ก็เป็นมือของออสตินที่จับมือฉันไว้ตลอด อยู่ๆ สมองของฉันก็คิดไปถึงเรื่องราวเมื่อก่อน ตอนที่ออสตินยังไม่มีแฟน ออสตินคอยดูแลฉันเป็นอย่างดีไม่ให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ฉันเลยซักคน ยิ่งคิดความรู้สึกของฉันมันก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น จนฉันเผลอใจให้กับเพื่อนสนิทของตัวเอง (ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้า)
“ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย? เจ็บตรงไหนรึป่าว?” หลังจากที่เคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยออสตินก็หันมาถามฉันด้วยสายตานิ่งๆ ตามสไตล์
“ไม่” ฉันตอบไปเสียงเบาพร้อมกับส่ายหน้าไปมาเผื่อว่าออสตินจะไม่ได้ยิน
“เดินกลับโต๊ะเองได้มั้ย หรือจะให้ไปส่ง” ออสตินยังคงถามด้วยความเป็นห่วง (คงจะห่วงในฐานะเพื่อนล่ะมั้ง)
“เดินไปส่งหน่อย” ฉันตอบไปแบบไม่ต้องคิดอะไรเลยด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าปากไวกว่าความรู้สึกไปอี๊กกก
ดีใจได้ไม่นาน ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ก้าวขาเดินออกไปไหน สายตาของฉันกับออสตินก็ไปเจอกับไข่มุขที่ยืนมองมาที่ฉันกับออสติน ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรเอาซะเลย ก่อนที่นางจะสบัดหน้าแล้วเดินหนีออกไปจากตรงนี้ทันที
บางครั้งฉันก็เข้าใจความรู้สึกนางนะ แต่นางจะไม่เว้นช่องว่างมองฉันกับออสตินในฐานะเพื่อนกันซักหน่อยเหรอ อย่างน้อยๆ ฉันกับตินก็เป็นเพื่อนกัน (ถึงแม้ฉันจะไม่ได้ต้องการสถานะนี้อีกแล้วก็ตาม)
หลังจากที่เรื่องทุกอย่างจบลงพี่สาวของไข่มุขก็บอกอยากจะเลี้ยงข้าวขอบคุณทุกคนที่ช่วยน้องสาว แต่ก็ต้องหาวันว่างๆ แล้วค่อยนัดกันอีกที เพราะวันนี้ไข่มุขเจอเรื่องเลวร้ายมาทั้งวันแล้ว ถ้าจะไปกินข้าวกันวันนี้คงจะดูไม่เหมาะเท่าไหร่ ทุกคนก็ตกลงเห็นด้วย ด้วยความเต็มใจ ก่อนที่พี่สาวของไข่มุขจะขอตัวกลับเพื่อพาน้องสาวไปพัก“ไปหาอะไรกินกันมั้ยวะ หิวแล้ว” ฮันน่าพูดขึ้นเพราะกว่าจะเคลียร์ทุกอย่างจบก็เป็นช่วงเย็นพอดี ก็ทำเอาทุกคนหิวไม่ต่างกัน“ดีเหมือนกัน กูก็เริ่มหิวแล้ว” ตามด้วยเสียงนาเดียพูดขึ้นที่ดูท่าจะหิวไม่ต่างกัน“ไปก็ไป” กวินตามใจสาวๆ อย่างขัดไม่ได้ ไปไหนก็ต้องไปด้วยกันอยู่แล้ว เพราะถ้าไม่ไปด้วย มีหวังได้เป็นเรื่องแน่ๆ สาวๆ ยิ่งเอาแต่ใจกันอยู่ด้วย“จะไปกินร้านไหนวะ” คริสตัลถามขึ้นอย่างไม่รอช้า“ไปร้านอาหารแถวคอนโดมึงก็ได้ กินเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ” ฮันน่ารีบตอบทันทีดูท่าแล้วน่าจะหิวหนักกว่าใครคนอื่น“งั้นก็ไปเจอกันที่ร้านxxx” ออสตินที่รู้จักร้านอาหารที่อยู่แถวนั้นเป็นอย่างดี ก็รีบพูดตัดบทขึ้นมาทันที ก่อนที่ชายหนุ่มจะจับมือคริสตัลแล้วเดินจูงมือเธอตรงไปที่รถทันที“อีคริสมันไม่ได้ตาบอดนะ ทำไมต้องจั
ออสตินกับคริสตัลมาถึงยังสถานที่ที่ไข่มุขบอกเอาไว้ก่อนหน้า ก่อนจะเจอกับกลุ่มเพื่อนที่มากันครบหมดทุกคน เพราะคริสตัลได้โทรบอกเพื่อนให้ออกมาช่วยกันก่อนที่เธอจะออกมา“ทำไมไม่เห็นมีใครเลยวะ” นาเดียพูดขึ้นพร้อมกับมองซ้าย มองขวาอย่างสำรวจซอยเปลี่ยวที่เงียบและไร้ผู้คนจนดูน่ากลัว“ปล่อยนะ! ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”เสียงตะโกนขอความช่วยเหลือดังขึ้นจนทุกคนหันไปมองหน้ากัน คิดว่ายังไงก็ต้องเป็นเสียงร้องขอความช่วยเหลือของไข่มุกแน่ๆเอี๊ยด!เสียงรถตู้คันใหญ่แล่นมาจอดอยู่ไม่ไกล ก่อนจะปรากฎร่างกายกำยำของชายชุดดำสามคนที่กำลังเดินลงจากรถ ก่อนจะเดินไปกระชากหญิงสาวที่อยู่กับชายชุดดำอีกคนให้รีบเดินตรงไปขึ้นรถที่จอดรออยู่“รีบเดินหน่อยสิวะ!” ชายชุดดำที่ดูน่ากลัวตะคอกบอกไข่มุขเสียงดัง ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งตกใจกลัวขึ้นมาอีกครั้ง“ขึ้นไปอยู่บนรถกันก่อนนะ” ออสตินบอกกับคริสตัลด้วยความเป็นห่วง เพราะเขาไม่อยากให้หญิงสาวเป็นอันตราย“เดี๋ยวพวกกูจัดการเอง” กวินพูดขึ้นก่อนที่จะเดินนำไปยังรถตู้ที่จอดอยู่ พร้อมกับมีออสตินและไทเกอร์เดินตามมาด้วยสาวๆ รีบวิ่งขึ้นไปอยู่บนรถอย่างว่าง่าย โดยที่ไม่มีใครบ่นเลยซักคำ เพราะเหตุการณ์ตรงหน้
เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง เพื่อนๆ ต่างทยอยกันกลับไปจนหมด ตอนนี้ภายในห้องก็มีแค่คริสตัลกับออสตินเพียงสองคน แต่ชายหนุ่มก็เอาแต่เงียบไม่ยอมคุยกับหญิงสาวเลยซักคำ“หิวมั้ย” คริสตัลถามขึ้นเมื่อบรรยากาศภายในห้องนั้นเงียบเกินไป“….”ไร้เสียงตอบรับจากอีกฝ่าย ภายในห้องยังคงปกคลุมไปด้วยความเงียบอยู่เหมือนเดิม“ออกไปหาอะไรกินมั้ย” หญิงสาวยังคงถามต่อ พยายามถาม พยายามหาเรื่องมาคุยด้วยแต่ก็ไม่เป็นผล“….”ไม่ว่าเธอจะถาม จะพูดอะไร ชายหนุ่มเอาแต่งอนไม่ยอมตอบเธอเลยซักอย่าง“เป็นอะไร…” คริสตัลเดินเข้าไปถามชายหนุ่มใกล้ๆ แต่ออสตินก็เงียบ ไม่สนใจ แถมเขายังเดินหนีเข้าไปอาบน้ำอีกด้วยคริสตัลรีบเดินตามไปแต่ก็ไม่ทัน เพราะชายหนุ่มนั้นล็อกประตูห้องน้ำเอาไว้เรียบร้อยแล้ว“รีบออกมาน๊าาา” คริสตัลไม่ยอมแพ้ ถึงจะเข้าไปในห้องน้ำด้วยไม่ได้ เธอก็ตะโกนบอกเขาเสียงดังอย่างไม่ลดละความพยายามลงเลยซักนิดออสตินใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องน้ำมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันเอวหนาเอาไว้ร่างหนาเดินผ่านหญิงสาวไปอย่างไม่สนใจ ถึงแม้เธอจะเดินตามง้อเขาแทบจะทุกฝีก้าวก็ตาม“หายงอนเถอะนะ” คริสตัลพูดพร้อมกับโอบกอดเอวหนา
สองวันต่อมาคริสตัลนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่โซฟากลางห้อง ฮันน่ากับกวินก็นั่งกินขนมกันอยู่ไม่ไกล ส่วนไอรินกับไทเกอร์ก็นั่งเงียบไม่พูดไม่จา เรียกได้ว่าตอนนี้ห้องของคริสตัลได้กลายเป็นที่รวมตัวของกลุ่มเพื่อนไปแล้ว จะขาดก็แต่นาเดียที่ออกไปข้างนอกตั้งนานแล้วไม่ยอมกลับมาซักที“ดูอะไรอยู่เหรอ” ออสตินถามขึ้นพร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ คริสตัลอย่างเคยชินเหมือนที่เคยทำอยู่ตลอด“ก็ดูไปเรื่อยแหละ” คริสตัลตอบพร้อมกับหันหน้าไปมองออสตินก่อนที่เธอจะหันกลับมาสนใจเล่นโทรศัพท์ที่อยู่ในมือต่อ“ถามอะไรหน่อยสิ” ร่างหนาถามขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าหญิงสาว รอดูว่าเธอจะหันมามองเขาอีกหรือเปล่า“อะไรเหรอ” หญิงสาวถามออกมา แต่เธอยังคงก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ไม่สนใจมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ เลยซักนิด“ไม่คิดอะไรจริงเหรอ” ชายหนุ่มทิ้งตัวนอนลงหนุนตักหญิงสาวอย่างที่เคยทำเป็นประจำ พร้อมกับถามเธอออกมา“คิดเรื่องอะไร” คริสตัลก้มมองหน้าออสตินนิ่งๆ ก่อนที่เธอจะถามออกมา พร้อมกับทำหน้างงๆ ไม่รู้ว่าชายหนุ่มกำลังถามเรื่องอะไรอยู่“ก็เรื่องที่ไข่มุขยังมาวนเวียนมาอยู่แบบนี้ไง” ออสตินถามไปด้วยความเป็นห่วงเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะคิดมากเรื่
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาตั้งแต่ที่ออสตินกับคริสตัลเปิดตัวว่าคบกันออกสื่ออย่างเป็นทางการ ชีวิตของทั้งสองคนก็ดูมีความสุขมากขึ้น ทุกคนรอบข้างต่างก็สบายใจไปด้วย ไม่มีอะไรที่จะอึดอัดใจเหมือนก่อนหน้านี้ออสตินได้ย้ายมาอยู่ที่คอนโดของคริสตัลอย่างถาวร เพราะหญิงสาวให้เหตุผลว่า เธอไม่อยากจะย้ายไปอยู่ในห้องที่ชายหนุ่มเคยอยู่กับแฟนเก่ามาก่อน ซึ่งชายหนุ่มก็เข้าใจและตามใจหญิงสาวทุกอย่างตลอดทั้งอาทิตย์ออสตินกับคริสตัลก็แทบจะไม่ได้ออกไปไหนนอกจากไปเรียน เรียนเสร็จก็กลับห้อง ทำเอาเพื่อนๆ ทุกคนต่างก็มาคลุกอยู่ที่ห้องของคริสตัลเป็นประจำ และวันนี้ก็เช่นกัน“เรื่องน้องมุขเป็นไงบ้างวะ” กวินถามขึ้นด้วยความสงสัย“ก็โดนตามขู่อยู่เหมือนเดิมแหละ” ไทเกอร์ตอบไปด้วยท่าทางนิ่งๆ“แรกๆ กูไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่านางจะโดนคุกคามจริงๆ นึกว่านางสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อเรียกร้องความสนใจซะอีก” ฮันน่าพูดออกมาตามตรง เพราะไม่ค่อยเชื่อเรื่องอะไรแบบนี้“ตอนแรกกูก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่วันนั้นกูไปเห็นมากับตา แม่งโดนทำลายด้วย โชคดีที่เข้าไปช่วยทัน” ไทเกอร์พูดถึงวันที่เอาเงินไปแล้วเห็นว่าไข่มุขกำลังโดนขู่ โชคดีที่เขาเอาเงินไปให้เธอทันเวลาพอ
เข้าวันต่อมาชายหนุ่มตื่นขึ้นมาก่อนหลังจากที่เพิ่งจะได้นอนเพียงไม่กี่ชั่วโมง เพราะมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ถ้าเขาไม่รับก็กลัวว่าหญิงสาวที่นอนอยู่ข้างๆ จะตื่นเสียก่อน“มีอะไรวะ” ออสตินถามเสียงเบาเพราะกลัวหญิงสาวจะตื่น ทั้งๆ ที่ในใจเขาตอนนี้อยากจะด่าออกไปให้มันจบๆ(ฮ่าฮ่าฮ่า) ไม่มีเสียงพูดตอบกลับใดๆ มีเพียงแค่เสียงหัวเราะของไทเกอร์ที่ดังขึ้นมาอย่างพอใจ ก่อนที่ปลายสายจะกดวางสายไปเอง“อย่าให้ถึงทีมึงบ้างก็แล้วกัน” ออสตินพูดออกมาด้วยความโกรธที่โดนแกล้งตอนเช้าแบบนี้ ชายหนุ่มรีบปิดเครื่องแล้วนอนกอดร่างบางต่อทันที“มีอะไรเหรอ” คริสตัลงัวเงียถามขึ้นมา เมื่อเห็นท่าทางหัวร้อนของออสติน“ไม่มีอะไรหรอก” พูดจบชายหนุ่มก็โน้มใบหน้าเข้าไปสูดดมซอกคอขาวอย่างไม่รอช้า“อือออ…ขอพักก่อนได้มั้ย” หญิงสาวบอกชายหนุ่มเสียงเบาอย่างไร้เรี่ยวแรง เพราะพึ่งจะได้พักเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงนี้เอง“นอนพักเลย…เดี๋ยวทำเอง” ออสตินกระซิบบอกที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงหื่นกระหาย หญิงสาวได้แต่นอนหลับตานิ่งไม่มีแม้แรงจะห้าม จึงปล่อยให้ชายหนุ่มได้ทำตามใจตัวเองร่างหนาทาบทับร่างสวยเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเริ่มบทรักครั้งใหม่กับเธออีกครั้ง..ช่ว