@ห้างสรรพสินค้า
พอมาถึงห้างฯ ยัยเดียกับยัยฮันน่าก็ชวนกันถ่ายรูปโพสต์ลงไอจีกันแบบรัวๆ เรียกได้ว่าไปที่ไหนก็ต้องเช็กอินให้คนทั้งโซเชียลได้รับรู้ แถมยังตั้งแคปชั่นเหมือนกับว่าฉันไม่ได้ไปไหนมาไหนเป็นชาติอีกด้วย
‘พาเพื่อนรักมาเปิดหูเปิดตา’
หลังจากถ่ายรูปลงไอจีกันจนเป็นที่พอใจแล้ว ยัยฮันน่าก็รีบเดินตรงดิ่งเข้าช็อปกระเป๋าแบรนด์ดังที่เล็งเอาไว้ทันที
กระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่ถูกตั้งโชว์เอาไว้ตรงกลางร้านอย่างสวยงาม ซึ่งเวลานี้มันคือสวรรค์ของผู้หญิงอย่างฉันจริงๆ ทำเอาฉันลืมเรื่องออสตินไปอย่างสนิทใจ นานแล้วนะที่ฉันไม่ได้ออกมาช็อปปิ้งอะไรแบบนี้ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนสายตาของฉันก็แพรวพราวไปหมด กิเลสก็เกิดขึ้นมาทันที
“ฉิบหายแล้วงานนี้ สวยทุกสีเลยว่ะ” เสียงยัยฮันน่าที่กำลังลองสะพายกระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่อยู่ก็พูดขึ้น สวยทุกสีเลยจริงๆ ตัดสินใจยากแน่งานนี้
“สวยจริง เอาคนละสีไปเลยมั้ย เผื่อวันไหนเบื่อจะได้เปลี่ยนกันใช้” ฉันรีบพูดขึ้น เมื่อเห็นว่ากระเป๋ามีอยู่สี่สีพอดี
“เออ…ความคิดดี” ยัยเดียรีบเห็นด้วยทันที ก่อนจะหันไปสนใจเลือกกระเป๋ากับยัยฮันน่าต่อ
“รินไม่เอานะ” ยัยรินรีบปฏิเสธขึ้นมาด้วยความเกรงใจ เพราะไม่อยากเป็นภาระใคร กระเป๋าใบนึงราคาก็เกือบแสน สำหรับยัยรินมันคือราคาที่แพงอย่างมหาศาล แต่สำหรับพวกฉันแล้วราคาแค่นี้ถือว่าสบายมาก
“ไม่เอาก็ต้องเอา” ยัยเดียพูดขึ้นก่อนจะละสายตาจากกระเป๋าแล้วมองหน้ายัยริน ด้วยสายตาที่บังคับกันสุดๆ ยัยเดียไม่เคยมองยัยรินเป็นคนใช้เลยซักนิด ทั้งสองคนโตมาด้วยกัน เรียนมาด้วยกัน จนยัยเดียมองยัยรินเป็นเหมือนพี่น้องมากกว่าเป็นเพื่อนซะอีก
“แต่ใบเก่าที่เดียให้มามันยังใช้ได้อยู่เลยนะ” ยัยรินไม่พูดเปล่ารีบยกกระเป๋าแบรนด์ดังที่ยัยเดียเอาให้ใช้ขึ้นโชว์ทันที เรียกได้ว่าสภาพยังดีๆ อยู่เลย
“หัดใช้ของใหม่บ้างสิ” ยัยเดียยังคงตั้งใจเลือกกระเป๋าต่ออย่างไม่สนใจที่ยัยรินพูดเลยสักนิด
“มีคนซื้อให้จะไปปฏิเสธทำไม รีบรับไว้เถอะ ไม่ใช่ว่ามันจะซื้อให้บ่อยๆ ซักหน่อย” ฉันที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่ก็พูดไปตามความเป็นจริง ของแบบนี้ใครเค้าซื้อให้กันบ่อยๆ ล่ะ นานทีปีหนเค้าถึงซื้อให้ มีโอกาสก็รีบรับไว้เถอะ
“กูเอาสีนี้นะ” ยัยฮันน่าพูดพร้อมกับยกกระเป๋าสีแดงราสเบอร์รี่ให้ทุกคนดู ซึ่งมันดูเหมาะกับยัยฮันน่ามากจริงๆ
“งั้นกูเอาสีนี้ ปีนี้กำลังมาเลย” ตามด้วยยัยเดียที่หยิบกระเป๋าสีเขียวขึ้นมาสะพาย เขียวเหนี่ยวทรัพย์กำลังมาแรงสุดๆ
“กูเอาสีดำ” ฉันพูดขึ้นอย่างไม่ต้องคิด ผู้หญิงอย่างฉันคงไม่เหมาะกับสีขาวหรอก เดี๋ยวจะทำกระเป๋าสกปรกเปล่าๆ
“งั้นยัยรินก็เอาสีขาว เหมาะแล้วแหละ ยัยรินรักษาของดีจะตาย” ยัยฮันน่ารีบพูดสรุปให้ยัยรินทันที
“งั้นไปจ่ายตังค์เถอะ หิวแล้วจะได้ไปหาอะไรกิน” ยัยเดียเองก็รีบไม่ต่างกัน เผลอแป๊บเดียวอยู่ในช็อปกระเป๋าจะสองชั่วโมงแล้ว
ฉันรีบหยิบบัตรเครดิตในกระเป๋าให้ยัยฮันน่าไปจัดการให้ทันที เมื่อสายตาของฉันไปสะดุดกับคนสองคนที่กำลังเดินเข้ามาในร้าน ฉันพยายามที่จะถอยให้ห่าง แต่ไม่รู้ว่าทำไมยิ่งฉันถอยฉันก็ยิ่งเจอ (โลกนี้มันใจร้ายชะมัด)
“อ้าว! บังเอิญจังเลยเน้อะ” เป็นยัยเดียที่ทักออสตินกับแฟนขึ้น ทำเอาทุกคนต่างหันไปมองทั้งสองคนที่เดินเข้ามาหา
“สวัสดีค่ะพี่ๆ” ไข่มุขรีบยกมือไหว้ทักทายทุกคน ยกเว้นฉัน! (ดูเหมือนจะมีมารยาทนะแต่สุดท้ายก็ไม่มี)
“เดี๋ยวกูไปดูของร้านนั้นก่อนนะ” ฉันรีบพูดแทรกขึ้นก่อนที่ทุกคนจะได้คุยกันต่อ
“รินไปด้วยนะ” ยัยรินพูดขึ้นแล้วเดินตามหลังฉันออกมาทันที ฉันก็ไม่ได้อยากจะเดินหนีหรอก ก็แค่ไม่ชอบพวกคนไม่มีมารยาทก็แค่นั้น ก็เลยเลือกที่จะเดินออกมา (จริงๆ ก็ไม่อยากจะร่วมสนทนาด้วยหรอกนะปล่อยให้ยัยเดียกับยัยฮันน่าคุยจะดีกว่า)
“คริส…คริสโอเคมั้ย” เมื่อเดินออกมาได้ไกลพอสมควรยัยรินก็ถามฉันขึ้นมา คงจะเป็นห่วงฉันแหละไม่งั้นคงไม่เดินตามฉันออกมาหรอก
“โอเคสิ ทำไมฉันจะไม่โอเค” ฉันพยายามพูดให้ทุกอย่างดูปกติทั้งน้ำเสียงและท่าทางที่ฉันแสดงออกมา
“ถ้าโอเคจริงจะเดินออกมาทำไมล่ะ” ยัยรินยังคงพูดต่ออย่างรู้ทันฉัน
“เฮ้อ! ก็แค่ไม่อยากอยู่ให้ใครต้องอึดอัด” ฉันตอบไปอย่างหงุดหงิด ก่อนที่จะเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนมที่อยู่ใกล้ๆ กัน
ไม่นานยัยเดียกับยัยฮันน่าก็ตามเข้ามาพร้อมกับถุงใส่กระเป๋าแบรนด์เนมขนาดใหญ่ ที่ดูแค่ถุงที่ถือก็รู้เลยว่าราคาแพงแค่ไหน
“จัดชุดใหม่ไปผับคืนนี้กันดีกว่า” ยัยฮันน่าพูดขึ้นทันทีที่เดินเข้ามาถึง
“ดีเหมือนกันยิ่งเบื่อๆ อยู่” ตามด้วยยัยเดียที่สนับสนุนกันตลอด ไม่เคยปฏิเสธเพื่อนเลยซักครั้ง
“ไปก็ไป เดี๋ยวกูเลือกชุดให้เอง” ฉันหันไปพูดกับยัยรินที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ไม่เป็นไร แค่นี้ก็มากพอแล้ว” ยัยรินรีบปฏิเสธเสียงแข็ง คงจะเกรงใจจริงๆ แหละ
“เดี๋ยวกูจ่ายให้เอง” ฉันพูดก่อนจะหันไปเลือกชุด ไม่อยากจะคิดถึงเรื่องออสตินอีก ปล่อยให้มันเป็นเรื่องบังเอิญเถอะ คงจะต่างคนต่างไป ไม่มาเจอกันอีกหรอก ห้างก็ออกจะใหญ่ขนาดนี้
“ไปลองชุดกัน!” ยัยฮันน่าพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกคนเลือกเสื้อผ้ากันไปเยอะแล้ว ก่อนที่ทุกคนจะบังคับให้ยัยรินไปเปลี่ยนชุดตามที่ฉันเลือกให้
หลังจากที่ลองชุดกันไปซักพัก และตกลงที่จะซื้อทุกชุดที่หยิบมา อยู่ๆ ยัยเดียก็เดินมาสะกิดแขนยัยฮันน่า
“มึงดูซิ! ตามมาอีกแล้ว มึงว่ามันจะบังเอิญเกินไปรึป่าววะ” ยัยเดียหันไปพูดกับยัยฮันน่า แต่ฉันกับยินรินที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็รับรู้ในสิ่งที่ทั้งสองคนคุยกันด้วย
“กูก็คิดเหมือนมึงแหละ” ยัยฮันน่าก็เห็นดีเห็นงามตามยัยเดีย
“อาจจะบังเอิญก็ได้” ยัยรินที่โลกสวยก็พูดขึ้นมาอย่างไร้เดียงสา
“กูว่าไม่บังเอิญหรอก กระเป๋าก็ซื้อสีเดียวกัน แบบเดียวกันกับมึง แล้วยังจะมาซื้อเสื้อผ้าร้านเดียวกันอีก” ยัยฮันน่ารีบพูดเสริมขึ้นพร้อมกับมองหน้าฉัน
ฉันไม่พูดอะไร หันไปสนใจเลือกเสื้อผ้าต่อ นานๆ จะได้มาที ไหนๆ ก็ได้ออกมาช็อปแล้วก็ช็อปให้มันสุดๆ ไปเลยดีกว่า (แต่ความจริงคือไม่อยากจะเห็นภาพบาดตาบาดใจ)
“กูว่าไม่ใช่แล้ว ดูนางเลือกเสื้อสิ แบบเดียวกับมึงเป๊ะเลยอีคริส” เสียงยัยเดียพูดขึ้นมา แต่ฉันก็ยังคงเงียบไม่พูดอะไร ทั้งๆ ที่ในใจแทบจะไม่ไหวแล้ว ยิ่งฉันไม่สนใจ ยิ่งฉันหนี กลับเหมือนว่าฉันต้องเจออยู่ตลอด
“พี่ตินคะ…ชุดโป๊แบบนี้มีคนใส่ด้วยเหรอคะ มุขนึกว่าเศษผ้า” เสียงนางดังแว่วมา ทำเอาพวกฉันได้ยินชัดทุกคำ นางก็แรงเหมือนกันนะ เข้าใจพูดเปรียบเทียบอีก แล้วแต่ละชุดที่ยกขึ้นมาดู ล้วนแต่เป็นชุดที่พวกฉันหยิบใส่ตะกร้าจะไปจ่ายเงินแล้วทั้งนั้น
หลังจากที่เรื่องทุกอย่างจบลงพี่สาวของไข่มุขก็บอกอยากจะเลี้ยงข้าวขอบคุณทุกคนที่ช่วยน้องสาว แต่ก็ต้องหาวันว่างๆ แล้วค่อยนัดกันอีกที เพราะวันนี้ไข่มุขเจอเรื่องเลวร้ายมาทั้งวันแล้ว ถ้าจะไปกินข้าวกันวันนี้คงจะดูไม่เหมาะเท่าไหร่ ทุกคนก็ตกลงเห็นด้วย ด้วยความเต็มใจ ก่อนที่พี่สาวของไข่มุขจะขอตัวกลับเพื่อพาน้องสาวไปพัก“ไปหาอะไรกินกันมั้ยวะ หิวแล้ว” ฮันน่าพูดขึ้นเพราะกว่าจะเคลียร์ทุกอย่างจบก็เป็นช่วงเย็นพอดี ก็ทำเอาทุกคนหิวไม่ต่างกัน“ดีเหมือนกัน กูก็เริ่มหิวแล้ว” ตามด้วยเสียงนาเดียพูดขึ้นที่ดูท่าจะหิวไม่ต่างกัน“ไปก็ไป” กวินตามใจสาวๆ อย่างขัดไม่ได้ ไปไหนก็ต้องไปด้วยกันอยู่แล้ว เพราะถ้าไม่ไปด้วย มีหวังได้เป็นเรื่องแน่ๆ สาวๆ ยิ่งเอาแต่ใจกันอยู่ด้วย“จะไปกินร้านไหนวะ” คริสตัลถามขึ้นอย่างไม่รอช้า“ไปร้านอาหารแถวคอนโดมึงก็ได้ กินเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ” ฮันน่ารีบตอบทันทีดูท่าแล้วน่าจะหิวหนักกว่าใครคนอื่น“งั้นก็ไปเจอกันที่ร้านxxx” ออสตินที่รู้จักร้านอาหารที่อยู่แถวนั้นเป็นอย่างดี ก็รีบพูดตัดบทขึ้นมาทันที ก่อนที่ชายหนุ่มจะจับมือคริสตัลแล้วเดินจูงมือเธอตรงไปที่รถทันที“อีคริสมันไม่ได้ตาบอดนะ ทำไมต้องจั
ออสตินกับคริสตัลมาถึงยังสถานที่ที่ไข่มุขบอกเอาไว้ก่อนหน้า ก่อนจะเจอกับกลุ่มเพื่อนที่มากันครบหมดทุกคน เพราะคริสตัลได้โทรบอกเพื่อนให้ออกมาช่วยกันก่อนที่เธอจะออกมา“ทำไมไม่เห็นมีใครเลยวะ” นาเดียพูดขึ้นพร้อมกับมองซ้าย มองขวาอย่างสำรวจซอยเปลี่ยวที่เงียบและไร้ผู้คนจนดูน่ากลัว“ปล่อยนะ! ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”เสียงตะโกนขอความช่วยเหลือดังขึ้นจนทุกคนหันไปมองหน้ากัน คิดว่ายังไงก็ต้องเป็นเสียงร้องขอความช่วยเหลือของไข่มุกแน่ๆเอี๊ยด!เสียงรถตู้คันใหญ่แล่นมาจอดอยู่ไม่ไกล ก่อนจะปรากฎร่างกายกำยำของชายชุดดำสามคนที่กำลังเดินลงจากรถ ก่อนจะเดินไปกระชากหญิงสาวที่อยู่กับชายชุดดำอีกคนให้รีบเดินตรงไปขึ้นรถที่จอดรออยู่“รีบเดินหน่อยสิวะ!” ชายชุดดำที่ดูน่ากลัวตะคอกบอกไข่มุขเสียงดัง ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งตกใจกลัวขึ้นมาอีกครั้ง“ขึ้นไปอยู่บนรถกันก่อนนะ” ออสตินบอกกับคริสตัลด้วยความเป็นห่วง เพราะเขาไม่อยากให้หญิงสาวเป็นอันตราย“เดี๋ยวพวกกูจัดการเอง” กวินพูดขึ้นก่อนที่จะเดินนำไปยังรถตู้ที่จอดอยู่ พร้อมกับมีออสตินและไทเกอร์เดินตามมาด้วยสาวๆ รีบวิ่งขึ้นไปอยู่บนรถอย่างว่าง่าย โดยที่ไม่มีใครบ่นเลยซักคำ เพราะเหตุการณ์ตรงหน้
เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง เพื่อนๆ ต่างทยอยกันกลับไปจนหมด ตอนนี้ภายในห้องก็มีแค่คริสตัลกับออสตินเพียงสองคน แต่ชายหนุ่มก็เอาแต่เงียบไม่ยอมคุยกับหญิงสาวเลยซักคำ“หิวมั้ย” คริสตัลถามขึ้นเมื่อบรรยากาศภายในห้องนั้นเงียบเกินไป“….”ไร้เสียงตอบรับจากอีกฝ่าย ภายในห้องยังคงปกคลุมไปด้วยความเงียบอยู่เหมือนเดิม“ออกไปหาอะไรกินมั้ย” หญิงสาวยังคงถามต่อ พยายามถาม พยายามหาเรื่องมาคุยด้วยแต่ก็ไม่เป็นผล“….”ไม่ว่าเธอจะถาม จะพูดอะไร ชายหนุ่มเอาแต่งอนไม่ยอมตอบเธอเลยซักอย่าง“เป็นอะไร…” คริสตัลเดินเข้าไปถามชายหนุ่มใกล้ๆ แต่ออสตินก็เงียบ ไม่สนใจ แถมเขายังเดินหนีเข้าไปอาบน้ำอีกด้วยคริสตัลรีบเดินตามไปแต่ก็ไม่ทัน เพราะชายหนุ่มนั้นล็อกประตูห้องน้ำเอาไว้เรียบร้อยแล้ว“รีบออกมาน๊าาา” คริสตัลไม่ยอมแพ้ ถึงจะเข้าไปในห้องน้ำด้วยไม่ได้ เธอก็ตะโกนบอกเขาเสียงดังอย่างไม่ลดละความพยายามลงเลยซักนิดออสตินใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องน้ำมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันเอวหนาเอาไว้ร่างหนาเดินผ่านหญิงสาวไปอย่างไม่สนใจ ถึงแม้เธอจะเดินตามง้อเขาแทบจะทุกฝีก้าวก็ตาม“หายงอนเถอะนะ” คริสตัลพูดพร้อมกับโอบกอดเอวหนา
สองวันต่อมาคริสตัลนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่โซฟากลางห้อง ฮันน่ากับกวินก็นั่งกินขนมกันอยู่ไม่ไกล ส่วนไอรินกับไทเกอร์ก็นั่งเงียบไม่พูดไม่จา เรียกได้ว่าตอนนี้ห้องของคริสตัลได้กลายเป็นที่รวมตัวของกลุ่มเพื่อนไปแล้ว จะขาดก็แต่นาเดียที่ออกไปข้างนอกตั้งนานแล้วไม่ยอมกลับมาซักที“ดูอะไรอยู่เหรอ” ออสตินถามขึ้นพร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ คริสตัลอย่างเคยชินเหมือนที่เคยทำอยู่ตลอด“ก็ดูไปเรื่อยแหละ” คริสตัลตอบพร้อมกับหันหน้าไปมองออสตินก่อนที่เธอจะหันกลับมาสนใจเล่นโทรศัพท์ที่อยู่ในมือต่อ“ถามอะไรหน่อยสิ” ร่างหนาถามขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าหญิงสาว รอดูว่าเธอจะหันมามองเขาอีกหรือเปล่า“อะไรเหรอ” หญิงสาวถามออกมา แต่เธอยังคงก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ไม่สนใจมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ เลยซักนิด“ไม่คิดอะไรจริงเหรอ” ชายหนุ่มทิ้งตัวนอนลงหนุนตักหญิงสาวอย่างที่เคยทำเป็นประจำ พร้อมกับถามเธอออกมา“คิดเรื่องอะไร” คริสตัลก้มมองหน้าออสตินนิ่งๆ ก่อนที่เธอจะถามออกมา พร้อมกับทำหน้างงๆ ไม่รู้ว่าชายหนุ่มกำลังถามเรื่องอะไรอยู่“ก็เรื่องที่ไข่มุขยังมาวนเวียนมาอยู่แบบนี้ไง” ออสตินถามไปด้วยความเป็นห่วงเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะคิดมากเรื่
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาตั้งแต่ที่ออสตินกับคริสตัลเปิดตัวว่าคบกันออกสื่ออย่างเป็นทางการ ชีวิตของทั้งสองคนก็ดูมีความสุขมากขึ้น ทุกคนรอบข้างต่างก็สบายใจไปด้วย ไม่มีอะไรที่จะอึดอัดใจเหมือนก่อนหน้านี้ออสตินได้ย้ายมาอยู่ที่คอนโดของคริสตัลอย่างถาวร เพราะหญิงสาวให้เหตุผลว่า เธอไม่อยากจะย้ายไปอยู่ในห้องที่ชายหนุ่มเคยอยู่กับแฟนเก่ามาก่อน ซึ่งชายหนุ่มก็เข้าใจและตามใจหญิงสาวทุกอย่างตลอดทั้งอาทิตย์ออสตินกับคริสตัลก็แทบจะไม่ได้ออกไปไหนนอกจากไปเรียน เรียนเสร็จก็กลับห้อง ทำเอาเพื่อนๆ ทุกคนต่างก็มาคลุกอยู่ที่ห้องของคริสตัลเป็นประจำ และวันนี้ก็เช่นกัน“เรื่องน้องมุขเป็นไงบ้างวะ” กวินถามขึ้นด้วยความสงสัย“ก็โดนตามขู่อยู่เหมือนเดิมแหละ” ไทเกอร์ตอบไปด้วยท่าทางนิ่งๆ“แรกๆ กูไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่านางจะโดนคุกคามจริงๆ นึกว่านางสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อเรียกร้องความสนใจซะอีก” ฮันน่าพูดออกมาตามตรง เพราะไม่ค่อยเชื่อเรื่องอะไรแบบนี้“ตอนแรกกูก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่วันนั้นกูไปเห็นมากับตา แม่งโดนทำลายด้วย โชคดีที่เข้าไปช่วยทัน” ไทเกอร์พูดถึงวันที่เอาเงินไปแล้วเห็นว่าไข่มุขกำลังโดนขู่ โชคดีที่เขาเอาเงินไปให้เธอทันเวลาพอ
เข้าวันต่อมาชายหนุ่มตื่นขึ้นมาก่อนหลังจากที่เพิ่งจะได้นอนเพียงไม่กี่ชั่วโมง เพราะมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ถ้าเขาไม่รับก็กลัวว่าหญิงสาวที่นอนอยู่ข้างๆ จะตื่นเสียก่อน“มีอะไรวะ” ออสตินถามเสียงเบาเพราะกลัวหญิงสาวจะตื่น ทั้งๆ ที่ในใจเขาตอนนี้อยากจะด่าออกไปให้มันจบๆ(ฮ่าฮ่าฮ่า) ไม่มีเสียงพูดตอบกลับใดๆ มีเพียงแค่เสียงหัวเราะของไทเกอร์ที่ดังขึ้นมาอย่างพอใจ ก่อนที่ปลายสายจะกดวางสายไปเอง“อย่าให้ถึงทีมึงบ้างก็แล้วกัน” ออสตินพูดออกมาด้วยความโกรธที่โดนแกล้งตอนเช้าแบบนี้ ชายหนุ่มรีบปิดเครื่องแล้วนอนกอดร่างบางต่อทันที“มีอะไรเหรอ” คริสตัลงัวเงียถามขึ้นมา เมื่อเห็นท่าทางหัวร้อนของออสติน“ไม่มีอะไรหรอก” พูดจบชายหนุ่มก็โน้มใบหน้าเข้าไปสูดดมซอกคอขาวอย่างไม่รอช้า“อือออ…ขอพักก่อนได้มั้ย” หญิงสาวบอกชายหนุ่มเสียงเบาอย่างไร้เรี่ยวแรง เพราะพึ่งจะได้พักเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงนี้เอง“นอนพักเลย…เดี๋ยวทำเอง” ออสตินกระซิบบอกที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงหื่นกระหาย หญิงสาวได้แต่นอนหลับตานิ่งไม่มีแม้แรงจะห้าม จึงปล่อยให้ชายหนุ่มได้ทำตามใจตัวเองร่างหนาทาบทับร่างสวยเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเริ่มบทรักครั้งใหม่กับเธออีกครั้ง..ช่ว