คอนโดมิเนียมหรู
แกร๊ก ~
ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมด้วยร่างกายกำยำที่เดินเข้ามาด้านในอย่างใจเย็น ในมือของคลินต์ถือของกินเข้ามามากมาย จนเตชินทร์อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากแซวเพื่อนสนิท
"เดี๋ยวนี้กลับไวนะ ปกติเห็นกลับดึกๆ ทุกวัน"
"กินข้าวก่อนออกไปดิ"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูไปหากินข้างหน้าเอา มันจะสาย"
"อะไรนักหนาวะ ตั้งแต่น้องสาวมึงมา กูยังไม่เห็นมึงนั่งกินข้าวพร้อมกับน้องมึงเลย"
"กู..."
เตชินทร์อึกอักเหมือนคนพูดไม่ออก ก่อนจะปรายตามองไปที่น้องสาวด้วยความรู้สึกผิด ถึงจะทำหน้าที่พี่ชายที่แสนดีได้ดีตลอดมา แต่เรื่องนี้เขากลับแย่ไม่ได้เรื่องเลย
"ไม่เป็นไรค่ะพี่เต้ ถ้ากลัวเข้าทำงานไม่ทัน ก็รีบไปเถอะ เดี๋ยวชากินคนเดียวได้"
"เห็นมะ เสาร์อาทิตย์มึงก็ไม่ว่าง อย่างน้อยก็นั่งกินข้าวตอนเย็นด้วยกันหน่อยก็ยังดี"
"เออๆ"
เตชินทร์ไม่อยากขัดอะไร เพราะส่วนหนึ่งก็รู้ว่าตัวเองผิด ที่ไม่มีเวลาให้กับน้องสาวเลย กินข้าวด้วยกันสักนิดมันจะเป็นอะไรมากมาย
เวลาต่อมา
"พี่กลับเวลาเดิมนะ ถ้าอยากกินอะไร ให้ส่งข้อความบอกก่อนห้าทุ่ม เข้าใจหรือเปล่า" เตชินทร์เอ่ยบอกกับน้องสาว ขณะที่กำลังเตรียมตัวกำลังจะออกไปทำงานในช่วงค่ำ
"อีกนานไหมคะ" ใบชาถามด้วยสีหน้าเศร้าๆ
"หือ?" เตชินทร์หันมองน้องสาวอย่างงงๆ สีหน้าเศร้าๆ นั้นมันทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายใจบอกไม่ถูก "เป็นอะไรไป"
"พี่ต้องทำงานหนักแบบนี้ อีกนานมั้ย"
"ไม่รู้สิ แต่อีกหน่อยเดี๋ยวพี่ก็เรียนจบแล้ว คงมีเวลาทำงานมากขึ้น เวลาพักผ่อนก็มากขึ้น"
"เดินทางปลอดภัยนะคะ"
"ครับ"
ใบชารู้สึกแปลกแบบบอกไม่ถูกเหมือนกัน ก่อนหน้าที่อยู่ต่างจังหวัด เธอรับรู้มาโดยตลอดว่าพี่ชายต้องทำงานช่วงเรียนเพื่อหารายได้เสริม แต่ก็ไม่คิดว่าการทำงานมันจะเป็นแบบนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะเธอไม่ได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้ เธอก็เลยคิดไปเองว่ามันคงไม่ใช่งานหนักอะไร
"ยื่นเหม่ออะไรอยู่ได้?"
"....." เสียงของคนที่ยังอยู่ในห้อง ปลุกใบชาให้ตื่นจากภวังค์ ก่อนที่เธอจะหันกลับไปมอง และก็เห็นคลินต์หยิบกล่องอะไรบางอย่างออกมาจากตู้เย็น
"กินคาวแล้วก็ต้องกินหวานสิ"
"คะ?"
"พี่ซื้อขนมเค้กมา แช่ตู้เอาไว้จนลืมเลย มากินสิ"
"อ๋อ...ขอบคุณนะคะ"
"ไม่ต้องไปห่วงไอ้เต้มันหรอก มันดูแลตัวเองได้ กินข้าวอิ่มไปแบบนั้นแล้วมันคงทำงานคล่องปรื๋อ"
"....." หญิงสาวได้แต่ยิ้มแบบฝืนๆ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะอาหารดังเดิม มองดูกล่องเค้กที่ถูกนำออกมาจากถุงกระดาษ ตามด้วยกล่องนั้นถูกเปิดออก เผยให้เห็นเค้กก้อนเล็กๆ ที่ตกแต่งมาดูน่ารับประทานไม่น้อยเลย
"ทำไมล่ะ ไม่ชอบหรอ?"
"เปล่าค่ะ"
"ผู้หญิงส่วนใหญ่คงจะชอบเค้กกัน พี่เดาถูกใช่มั้ย" คลินต์พูดแบบยิ้มๆ
"ก็คงใช่มั้งคะ"
"ทำไมถึงมั้งล่ะ เราไม่ชอบหรอ"
"ไม่ใช่ไม่ชอบค่ะ แต่ไม่เคยกินแบบนี้ต่างหาก"
"แล้วตอนที่อยู่ที่นู่นล่ะ"
"แค่มีข้าวกิน ก็ถือว่าดีแล้วค่ะ"
"....." คลินต์ถอนหายใจออกมาอย่างแรง เมื่อได้เห็นใบชานั้นพูด ดูเหมือนเธอเป็นคนที่พูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอพูดออกมา ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องจริงและเป็นเรื่องที่เธอเผชิญมาทั้งนั้น
"เดี๋ยวพี่ล้างจานเอง"
"ห๊ะ!? ไม่ได้นะคะ" ใบชารีบห้าม พร้อมกับดึงแขนของคลินต์ที่กำลังจะยกจานที่เธอวางซ้อนเอาไว้เข้าไปในครัว
"ทำไม?"
"ยังจะถามอีกว่าทำไม พี่เป็นคนจ้างให้ชาทำงานบ้านเองนะคะ ถ้าชาปล่อยให้พี่ทำ แล้วชาจะได้เงินเดือนหรอ?"
"หึหึ" คลินต์หัวเราะชอบใจ ราวกับว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นมันเป็นเรื่องตลก ในขณะที่สีหน้าของเธอกำลังจริงจังเป็นอย่างมาก "มันจะเป็นอะไรไป แค่ล้างจาน เดี๋ยวเราก็ต้องทำงานอีก"
"ตะ แต่ว่า..."
"พี่เป็นเจ้านายนะ สั่งอะไรก็ต้องทำ"
"ก็ได้ค่ะ ห้ามบอกพี่เต้นะ ไม่งั้นชาโดนดุแน่ๆ เลย"
"พี่ไม่บอกมันอยู่แล้ว"
"ถ้าอย่างนั้นก็...ขอบคุณนะคะ"
"แล้วทีนี้ ปล่อยแขนพี่ได้แล้วหรือยัง?"
"อะ อ๋อ...ขอโทษค่ะ!" ใบชารีบชักมือกลับออกมาจากแขนแกร่งของอีกฝ่าย ก่อนที่คลินต์นั้นจะเดินเข้าไปในครัวพร้อมกับจานในมือ
ผ่านไปสักพัก
ขณะที่คลินต์กำลังยืนล้างจานอยู่ในห้องครัว ใบชาก็ปรากฏตัวเข้ามาทางด้านหลังของเขา และชายหนุ่มเองก็รับรู้ได้โดยสัญชาตญาณ
"กินอิ่มแล้วหรือไง?" เขาเอ่ยทักทาย ทั้งที่ไม่ได้หันกลับไปมอง แต่กลับรู้ได้เพราะที่นี่มีแค่เขากับเธอ
"อร่อยมากเลยค่ะ"
"เอาไว้วันหลังพี่จะซื้อให้อีก"
"ปกติ พี่ซื้อให้ผู้หญิงแบบนี้ทุกคนมั้ยคะ"
"ไม่นะ ปกติพี่ไม่ใช่คนซื้อของสักเท่าไหร่ ยิ่งพวกกับข้าวขนมหวาน ยิ่งไม่ต้องคิดเลย"
"แล้วทำไม..?"
"ก็ไอ้เต้มันให้พี่ดูแลเรา เหมือนน้องสาว พี่ก็ต้องดูแลสิ"
"....."
ชายหนุ่มหันหลังกลับมาพร้อมกับสะบัดมือที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำอย่างลวกๆ ตามประสาคนที่ไม่ได้เป็นงานบ้าน ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดกับริมฝีปากของเธอ ที่มีครีมของขนมเค้กเลอะติดอยู่
คลินต์อมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาหาหญิงสาวด้วยท่าทางใจเย็น จากนั้นก็ใช้นิ้วเช็ดครีมที่เลอะอยู่บนปากของเธอออก แล้วเอาใส่ปากตัวเองอย่างลืมตัว เขาได้รับรสชาติหวานๆ จากปลายลิ้น ไม่รู้ว่ามันหวานที่ครีมหรือหวานตรงปากของเธอกันแน่
"พะ พี่คลินต์ ทำอะไรคะ ทำไมถึงกินแบบนั้น"
เมื่อถูกเธอทักแบบนั้นชายหนุ่มก็เหมือนจะรู้ตัวว่าเขาไม่ควรทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าเธอเลย แต่ด้วยความสัญชาตญาณผู้ชายเจ้าชู้ เขาลืมตัวและทำแบบนั้นลงไป
"เปล่าไม่มีอะไร ช่างมันเถอะ อย่าไปคิดมากเลย"
"???"
ใบชาถึงกับทำตัวไม่ถูกเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เพื่อนสนิทของพี่ชายปฏิบัติอย่างนี้กับเธอ ที่ผ่านมาเขาดีกับเธอมาตลอดก็จริง แต่การกระทำของเขามันก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่า เขาเป็นพี่ชายอีกคนนึง แต่การกระทำเมื่อครู่นี้มันทำให้เธอคิดกับเขา ในแบบที่ไม่ใช่ พี่ชาย
แล้วมันจะเป็นอะไรไปล่ะ ถ้าเธอจะมีความรู้สึกดีๆ กับเพื่อนสนิทของพี่ชาย เขาก็ดูเป็นคนดีนี่นา และอีกอย่างก็เป็นเพื่อนสนิทที่พี่ชายของเธอไว้ใจด้วย
#เช้าวันต่อมา เสียงเคาะประตูดังขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ ตามด้วยเสียงเรียกของเด็กน้อยที่ดังอ้าวอยู่ตรงหน้าประตูห้อง ทำให้คลินต์ที่กำลังนอนกอดภรรยาสาวสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมา ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างระมัดระวังไปเปิดประตู "พ่อครับ มะตื่นแล้ว แม่ล่ะครับตื่นหรือยัง?" เด็กน้อยเอ่ยถามพร้อมกับชะโงกหน้าไปมองข้างใน "จุ๊ๆ เมื่อวานแม่เหนื่อยมากเลย ให้แม่นอนพักก่อนนะครับ" คลินต์เอามือจ่อปากตัวเองพร้อมกับบอกให้ลูกชายเงียบเสียงลง "อ้าวเหรอครับ""มะลงไปกินข้าวกับคุณปู่คุณย่าก่อนนะครับ""ก็ได้ครับ" "เก่งมากเลยครับลูกพ่อ" หลังจากที่จัดการกับเจ้าลูกชายตัวแสบเสร็จเรียบร้อยแล้วคลินต์ก็กลับเข้ามาในห้อง ก่อนจะค่อยๆ ขึ้นไปนอนข้างๆ ใบชาตามเดิม แต่เขาไม่ได้นอนหลับ เขานอนมองใบชาที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ พร้อมกับนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่เพิ่งจะจัดหนักกันกว่าจะได้นอนก็เกือบรุ่งสางแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งมีความสุข นึกว่าตัวเองจะไม่ได้ลงเอยแบบนี้ซะแล้วสิ "อือ....พี่คลินต์กี่โมงแล้วคะเนี่ย""ยังเช้าอยู่เลย นอนต่อเถอะ ไม่ต้องห่วงลูกหรอก เขาอยู่กับปู่กับย่า" "อือ..." ใบชาหลับไปอีกครั้งด้วยความเพลีย กว่าจะตื่นขึ้นมาอีกทีก็
และแล้วค่ำคืนที่คลินต์รอคอยก็มาถึง หลังจากที่งานเลี้ยงของงานแต่งเล็กๆ นั้นจบลง แขกในงานก็พากันกลับบ้านพักของตัวเอง เพราะพรุ่งนี้มีงานที่ต้องทำ ใบชาเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเพราะกลิ่นบางอย่างในห้องนอน และด้วยท่าทางของคลินต์มันก็ทำให้เธออดถามไม่ได้จริงๆ "พี่ฉีดน้ำหอมเหรอคะ กลิ่นฉุนเชียว" "เหม็นเหรอ?" คลินต์ดีดตัวลุกขึ้นด้วยความร้อนใจ สีหน้าของเขาดูตกใจมากจริงๆ "เปล่าค่ะ ไม่ได้เหม็น แค่ปกติมันไม่มี..." มันไม่ได้เหม็นฉุนขนาดนั้น และไม่เชิงเป็นกลิ่นน้ำหอมที่เรามักจะฉีดใส่ตัวเอง แต่มันเป็นกลิ่นหอมเย็นๆ ที่ได้กลิ่นแล้วรู้สึกสดชื่น "แม่ให้มาน่ะ บอกว่ามันช่วยทำให้เราผ่อนคลาย" "อ๋อ..." "พี่พร้อมแล้วนะ" "....." ใบชามองเงียบๆ เธอสังเกตเห็นตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำแล้วล่ะ ห้องถูกจัดใหม่พร้อมด้วยแสงไฟโทนอุ่น แถมด้วยกลิ่นน้ำหอมอบอวลอยู่อีก "มามะ มาหาพี่ที่เตียงหน่อยครับ ปุปุ ~ " คลินต์เอามือตบที่เตียงนอนเป็นจังหวะ พร้อมกับส่งสายตายั่วยวน แต่แทนที่ใบชาจะเดินไปตามคำขอ เธอกลับยืนยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆ ออกมา "ชา อย่ามาแกล้งพี่นะ ให้พี่รอกลางคืน พี่ก็รอแล้วนี่ไ
และแล้วก็มาถึงวันที่คลินต์และใบชาได้แต่งงานกัน งานถูกจัดขึ้นแบบเรียบง่ายตามความต้องการของใบชา ณ กลางไร่องุ่นถูกจัดแต่งให้เป็นซุ้มเล็กๆ และประดับประดาไปด้วยดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมและมีความหมายในงานแต่งพื้นที่รอบๆ ก็มีโต๊ะสำหรับรองรับแขกที่มีไม่เท่าไหร่ ส่วนมากก็เป็นคนงานของที่นี่ ใบชาไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่จะต้องมางาน พวกญาติๆ ที่เคยอยู่ด้วยสมัยเด็กๆ เธอไม่อยากไปยุ่งกับใครแล้ว กลัวว่าจะเข้ามาทำให้ครอบครัวที่มีความสุขตอนนี้ของเธอต้องลำบากทางฝั่งของคลินต์ก็มีพ่อแม่ของเขาและคุณอาที่เป็นเจ้าของไร่ตัวจริงที่นี่ ครั้งแรกเลยที่ใบชาได้เห็นหน้าตาของเจ้าของไร่เมื่อถึงเวลาใบชาก็เดินมาพร้อมกับพี่ชาย ญาติผู้ใหญ่คนเดียวของเธอ ด้วยชุดเดรสสีขาวสะอาด กระโปรงพลิ้วแต่ไม่รุ่มร่าม สวยเข้ากับรูปร่างของเธอพอดี ทรงผมถูกม้วนเก็บครึ่งศีรษะแบบเรียบร้อย และประดับด้วยดอกไม้สวยๆ ดูเข้ากับใบหน้าแสนหวานของเธอด้านหน้าคือเจ้าบ่าวที่ใส่ชุดสูทหล่อเหลากับลูกชายที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน คลินต์กำลังยิ้มให้กับเจ้าสาวแสนสวยของเขา จนกระทั่งเธอเดินเข้ามาถึง"แม่สวยมากเลยครับ""ขอบคุณครับ เราก็หล่อมากเลยนะ สูทตัวนี้หล่อมาก""ขอบคุณครับ"ค
#เวลาผ่านไป หลังจากวันนั้นฉันย้ายมาอยู่ที่บ้านของพี่คลินต์ และเราก็ใช้ชีวิตอยู่ดั่งเช่นสามีภรรยาทั่วไป อยู่ในครอบครัวที่เล็กๆ แต่มีความสุขและอบอุ่นมาก ส่วนบ้านหลังนั้นพี่เต้ก็อยู่คนเดียวโดยปริยาย แต่ฉันก็แอบคิดนะว่ารายนั้นก็น่าจะหาแฟนสักคนจะได้มาอยู่ด้วยกันจะได้ไม่เหงา แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงยังครองโสดอยู่จนปัจจุบันนี้ฉันเริ่มปรับตัวให้คุ้นชินกับคำว่าครอบครัว แต่ก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนเดิม ฉันทำงานอยู่ที่บริษัทนึง มะโซวก็เข้าโรงเรียนอนุบาล พี่คลินต์ก็ทำงานเป็นผู้ดูแลไร่นี้ และก็ทำงานที่บริษัทของตัวเองบ้าง เราต่างก็มีหน้าที่ของกันและกันพี่คลินต์อยากให้ฉันลาออกจากงานแล้วคอยดูแลบ้าน แต่ที่นี่ก็มีแม่บ้านคอยทำอะไรหมดทุกอย่างอยู่แล้ว ฉันอยากทำงานอยากมีเงินเก็บเป็นของตัวเองโดยที่เงินนั้นไม่ได้มาจากการที่พี่คลินต์เป็นคนให้ อยากทำงานเก็บเงินเอาไว้ในส่วนของตัวเองครึ่งนึง อีกครึ่งหนึ่งก็เก็บเอาไว้ให้มะโซวเป็นค่าเล่าเรียนของเขา ถึงตอนนี้ฉันจะไม่ต้องลำบากแล้วก็เถอะ เพราะมีพี่คลินต์จัดการทุกอย่าง แต่ฉันก็ยังอยากทำสิ่งที่ตัวเองตั้งมั่นเอาไว้ให้มันสำเร็จตอนนี้เรามีลูกและมะโซวก็เหมือนเชือกสานร
เย็นวันหนึ่งหลังเลิกงาน ขณะที่สองพ่อลูกกำลังจอดรถรอใบชาเลิกงานอยู่ที่หน้าบริษัทพนักงานคนอื่นๆ ก็เริ่มพากันทยอยออกมาเมื่อถึงเวลาเลิกงาน ไม่นานนักใบชาเดินออกมา"พ่อครับ แม่มาแล้วอยู่นั่น" มะโซวลูกชายตัวน้อยเอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้ออกไปยังเบื้องหน้า ตรงกลุ่มพนักงานที่กำลังพากันเดินออกมามีผู้เป็นแม่ของตัวเองกำลังเดินออกมาอยู่ด้วย"ไปรับแม่กันป่ะ""ครับ"คลินต์กับลูกชายพากันจูงมือเดินตรงไปหาใบชาที่กำลังเดินออกมา แต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินไปถึงตัวของใบชา ก็มีพนักงานผู้ชายคนนึงเข้ามาสะกิดเธอจากด้านหลังและคุยด้วยต่อหน้าต่อตาเลยนะนั่น!ไม่รู้ว่ากำลังคุยอะไรกันแต่เห็นแค่นี้ก็หงุดหงิดจนลมออกหูแล้ว"ใบชาครับ""???""ถ้าผมจะขอไลน์ จะว่าอะไรไหมครับ เผื่อเอาไว้คุยกัน""ว่าครับ ขอไม่ได้" คลินต์พูดแทรกเข้าไป เพราะรีบเดินเข้าไปจนได้ยินการสนทนาพอดี"แล้วคุณเป็นใครครับ มาเกี่ยวอะไรด้วย""เกี่ยวสิครับ เพราะผมเป็นสามี""ส่วนมะก็เป็นลูกครับ คนนี้แม่ของมะเอง คุณลุงห้ามยุ่งนะครับ" มะโซวพูดขึ้นอย่างเด็กรู้ทัน ก่อนจะยิ้มกว้างให้คนตรงหน้าที่เข้ามาขายขนมจีบแม่ของตนเอง"เอ่อ จริงเหรอครับใบชา?""ค่ะ นี่ลูกฉันเอง"เธอยอมร
ณ บ้านไร่องุ่น หลังจากกลับมาที่บ้านไร่ใบชาก็ได้ใบตอบรับจากบริษัทที่ไปสมัครงานทิ้งไว้ให้เข้าทำงานพอดี ส่วนเจ้าลูกชายก็เข้าเรียนตามปกติเหมือนเดิม โดยที่มีคลินต์คอยไปส่งเหมือนที่ผ่านมา ส่วนเตชินทร์ที่เคยรับหน้าที่ก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยคลินต์ทำหน้าที่แทนหมดแล้วไม่สิ ไม่ใช่การทำแทน แต่มันเป็นหน้าที่ที่เขาต้องทำอยู่แล้ว หน้าที่สามีและหน้าที่พ่อ"แต่งตัวแบบนี้จริงๆ เหรอ?" คลินต์เอ่ยถามใบชา พร้อมกับมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ชุดที่เธอใส่แม้มันจะไม่โป๊ แต่ในสายตาของเขามันก็ดูแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้สิเสื้อเชิ้ตกระโปรงทรงเอรัดรูป ก็ปกติของพนักงานออฟฟิศนั่นแหละ แต่ดูมันรัดรูปมากไปหน่อย"อื้อ ทำไมอ่ะ?" ใบชาถามกลับพร้อมกับมองตามที่คลินต์มองเธอ มันแปลกยังไง หรือมันไม่ดียังไงล่ะ"พี่ว่ามันรัดไป""ยังไง บ้าเหรอ กระโปรงทรงเอนะพี่คลินต์ เอาจริงดิ?""ใช่ เอาจริง เปลี่ยนเถอะ"ใบชามองหน้าคลินต์แบบเหนื่อยหน่าย นี่วันแรกของการไปทำงานของเธอนะ จะเจออุปสรรคตั้งแต่ก้าวออกบ้านเลยเหรอแขนเรียวยกขึ้นเพื่อดูนาฬิกาที่ข้อมือ ก่อนที่คิ้วจะขมวดย่นเข้าหากันเหมือนกำลังคิดหนัก"สายแล้ว เปลี่ยนตอนนี้ไม่ทันหรอก ฉันต้องไปรายงานต