LOGINกลางดึกคืนหนึ่ง
ขณะที่ใบชากำลังจะเข้านอนหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ และทำอะไรต่อมิอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว เสียงโทรศัพท์พร้อมกับเบอร์แปลกที่โชว์บนหน้าจอมันทำให้เธอยืนมองและครุ่นคิด เธอไม่รู้ว่าควรจะรับดีไหม ไม่รู้ว่าปลายสายคือใคร และโทรมาทำไมดึกป่านนี้ แต่แล้วสุดท้ายเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดรับสาย
"สวัสดีค่ะ โทรหาใครคะ?"
( สวัสดีครับ นี่ใช่เบอร์ญาติของคุณเตชินทร์หรือเปล่าครับ ) เสียงของปลายสายที่กำลังพูดถึงพี่ชายของเธอมันเริ่มทำให้ใบชาถึงกับใจหล่นวูบ
"ชะ ใช่ค่ะ ฉันเป็นน้องสาว มีอะไรคะ เกิดอะไรขึ้น?"
( ตอนนี้คุณเตชินทร์ประสบอุบัติเหตุครับ กำลังจะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล รบกวนญาติมาที่โรงพยาบาลด้วยนะครับ )
"ค-ค่ะๆ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย"
ใบชาถึงกับนั่งไม่ติด เสียงของเธอสั่นเครือไปหมดเพราะกลัวว่าพี่ชายที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวนั้นจะเป็นอะไรไป
ร่างบางรีบโยนผ้าเช็ดผมก่อนจะเดินออกไปทั้งที่ใส่แค่ชุดนอน เธอเดินไปที่ห้องนอนของคลินต์ก่อนจะเคาะประตูรัวๆ
ก๊อกๆๆๆ !!
"พี่คลินต์ อยู่หรือเปล่าคะ"
"มีอะไรใบชา ดึกแล้วนะทำไมยังไม่นอน" คลินต์เดินออกมาเปิดประตู เขาเองก็ยังไม่นอนเช่นกัน
"มะ เมื่อกี้กู้ภัยโทรมา บอกว่าพี่เต้เกิดอุบัติเหตุ ให้รีบไปโรงพยาบาล พี่พาชาไปหน่อยได้มั้ย" เธอพยายามตั้งสติและพูดให้เป็นประโยคมากที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นน้ำเสียงก็ยังคงสั่นเครือเหมือนคนที่พร้อมจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา
"ดะ ได้สิ เดี๋ยวพี่ไปหยิบเสื้อแป๊บนึง"
ร่างสูงหันหลังเดินเข้าไปข้างในก่อนจะหยิบเสื้อเชิ้ตมาสวมใส่อย่างลวกๆ พร้อมกับมือที่คว้ากุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับหญิงสาว จากนั้นก็ขับรถมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลที่พี่ชายของใบชาถูกส่งตัวไป
พอมาถึงที่โรงพยาบาลใบชาก็รีบลงจากรถแล้ววิ่งเข้าไปทันที เธอรีบชนิดที่ว่าไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่า เธอจะสะดุดล้มหรือเปล่า
"สวัสดีค่ะ ฉันเป็นน้องสาวที่รับโทรศัพท์ พี่ชายของฉันอยู่ไหนคะ" ใบชารีบเข้าไปถามกู้ภัยที่ยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน
"ตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉินครับ"
"ขะ เขาเป็นอะไรมากมั้ยคะ"
"เดี๋ยวรอหมอออกมาแจ้งอาการนะครับ"
"หนักขนาดนั้นเลยหรอคะ"
"ใบชาใจเย็นๆ ไม่มีอะไรหรอก ไอ้เต้มันไม่เป็นอะไรหรอก" คลินต์รีบเข้ามาปลอบใจ มือหนาโอบที่ไหล่เล็กของหญิงสาวและประคองตัวเธอเอาไว้ เพราะตอนนี้เธอแทบจะยืนไม่อยู่แล้ว
"พะ พี่เต้ อย่าเป็นอะไรนะ ไม่มีพี่ ชาก็ไม่เหลือใครแล้ว ฮึก.."
"ไอ้เต้มันไม่เป็นอะไรหรอก มันต้องไม่เป็นอะไร"
"พี่คลินต์..."
"ไม่ต้องร้องไห้ พี่บอกแล้วไง ว่ามันต้องไม่เป็นอะไร มันดวงแข็ง"
เขาพยายามปลอบใจแต่หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาก็อ่อนแอซะเหลือเกิน เพราะกลัวว่าพี่ชายจะจากโลกนี้ไป กลัวว่าตัวเองจะไม่เหลือใคร และพี่ชายคนนี้ก็สำคัญกับเธอมากจนเธอไม่อยากเสียเขาไป
"ฮึก..."
"ใบชา..."
เสียงเรียกที่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้หญิงสาวที่กำลังซุกหน้าอยู่กับอกแกร่งชะงักเงียบไป เหลือเพียงเสียงสะอื้นเบาๆ ก่อนที่เธอจะหันกลับไปมองทางด้านหลังตามเสียง
"ร้องไห้อะไรขนาดนั้น"
"พี่เต้!" ใบชารีบวิ่งเข้าไปกอดพี่ชายที่นอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาล ถูกเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉิน ถึงจะดูไม่เป็นอะไรมากแต่ทั้งแขนและขารวมถึงใบหน้าก็ถูกพันผ้าเอาไว้เต็มไปหมดเลย
"อั่ก! บะ เบาลูกเอ้ย"
"พี่ไม่ได้เป็นอะไรมากใช่มั้ย" ใบชาถามเสียงสั่นๆ
"ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่ถลอกลึกไปหน่อย กระดูกกระเดี้ยวยังแข็งแรงดี"
"ฮึก...ชาตกใจมากเลยนะรู้มั้ย"
"พี่รู้ พี่รู้ เลิกร้องไห้ได้แล้ว พี่ก็ไม่เป็นอะไรแล้วนี่ไง" เตชินทร์ยกมือที่พันด้วยผ้าก๊อตหนาค่อยๆ เช็ดน้ำตาบนใบหน้าให้กับน้องสาวด้วยความอ่อนโยน
"ขอโทษนะครับ ต้องพาคนไข้ไปห้องพักฟื้นครับ"
"อ๋อ..ค่ะ"
เตชินทร์ถูกเข็นไปห้องพักคนไข้ และจะต้องแอดมิทเพื่อดูอาการ ถึงร่างกายภายในจะไม่ได้เป็นอะไร แต่แผลภายนอกก็ค่อนข้างลึกพร้อมที่จะติดเชื้อได้ตลอดเวลา
"เดี๋ยวชาเฝ้าพี่เองนะ"
"ไม่ต้องหรอก หมอให้ดูอาการคืนเดียวเอง พรุ่งนี้ก็ได้กลับแล้ว กลับไปนอนเถอะ เดี๋ยวก็ต้องไปเรียนอีก"
"หยุดเรียนสักวันมันจะเป็นไร พี่เป็นถึงขนาดนี้เลยนะ"
"แค่นี้ไกลหัวใจ"
"ไม่เอา ชาอยากอยู่กับพี่"
"อย่าดื้อสิ พี่ไม่เป็นอะไรจริงๆ พี่ไม่ได้อยู่คนเดียวสักหน่อยนะ มีพยาบาลเขาคอยมาดูแลตลอด"
"แต่ว่า..."
"กลับไปเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ก็ได้กลับแล้ว ออกจากโรงพยาบาลแล้วเราค่อยดูแลพี่ โอเคมั้ย"
"ก็ได้ค่ะ"
"เกิดอะไรขึ้นวะ ทำไมรถล้มเป็นสภาพนี้ได้" คลินต์เอ่ยถามขึ้นมา หลังจากที่สองพี่น้องนั้นพูดคุยกันเสร็จแล้ว ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาเตชินทร์ไม่เคยรถล้มเลย เขาเป็นคนที่ระวังมากๆ และก็ไม่ใช่คนที่ประมาทขนาดนั้นด้วย
"รถออกจากซอยมาชนว่ะ"
"ห๊ะ? แล้วคู่กรณีล่ะ?"
"หนีไปละ"
"เฮ้อ...เดี๋ยวกูให้ทนายที่กูรู้จักช่วยคดีนี้เอง อย่างน้อยแม่งก็ต้องมารับผิดชอบอ่ะ ไม่ใช่ซิ่งชนคนแล้วหนี"
"ขอบใจๆ"
"แล้วนี่อาการเป็นไงบ้างวะ สภาพดูไม่ได้เลย"
"ก็เจ็บอยู่ รถล้มแล้วก็ไถลไปอีกไกลเลย แผลก็เลยเป็นอย่างที่เห็น"
"งี้ก็คงต้องหยุดงานยาวเลยดิ"
"เออ คงต้องเป็นงั้นแหละ สภาพนี้ให้ไปทำงานยังไงไหววะ"
"เดี๋ยวกูช่วยเอง"
"อือ...ดึกแล้ว พาน้องกูกลับไปได้แล้ว"
"แต่ชายังไม่อยากกลับ" หญิงสาวพูดแทรกขึ้นมา
"ต้องกลับแล้วนะมันดึกแล้ว ต้องกลับไปนอน เราต้องตื่นเช้าไปเรียนนะ"
"อยู่นานกว่านี้อีกหน่อยไม่ได้หรอคะ"
"ไม่ได้ค่ะ ต้องกลับแล้ว"
"....." ใบชาทำหน้างอเพราะไม่อยากกลับ แต่เธอก็ไม่สามารถขัดใจพี่ชายได้
"ฝากดูแลน้องสาวกูด้วยนะ อยากพาไปเถลไถลที่ไหนล่ะ กลับคอนโดเลยนะ ไม่แวะเที่ยวที่ไหนด้วย"
"เออๆ รู้แล้วไม่พาไปไหนหรอก"
"พรุ่งนี้เลิกเรียนแล้ว เดี๋ยวชามาหานะ"
"ครับ คืนนี้เด็กดีของพี่ นอนคนเดียวไปก่อนนะ ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย"
"ไม่เป็นอะไรค่ะ นอนคนเดียวได้ แต่พี่เต้สิจะนอนหลับหรอ"
"หลับสิ หมอให้กินยาไปแล้ว เดี๋ยวก็หลับ"
"งั้นชากลับแล้วนะ"
"ครับ บ๊ายบายนะ"
"บ๊ายบายค่ะ"
#สองเดือนต่อมา ที่มีคนบอกว่าเลี้ยงเด็กไม่ใช่เรื่องง่ายเลยตอนแรกคลินต์ก็ไม่ได้เชื่ออะไรหรอก ตอนนี้เชื่อแล้วล่ะว่ามันไม่ง่ายเลยจริงๆ คลินต์ต้องคอยป้อนนมลูกเพื่อให้ใบชาได้พักผ่อนเพียงพอเพื่อที่จะได้ตื่นขึ้นมาตามเวลาและปั๊มนม และตอนกลางคืนเขาก็ต้องตื่นบ่อย แทบจะทุกชั่วโมงเพราะลูกตื่นแล้วร้องงอแงขอบตาจะเป็นแบบหมีแพนด้าให้ได้แล้วเนี่ย"อึกแง ~ แง ~""....." คลินต์ที่เพิ่งข่มตาหลับ ยังไม่ทันจะรู้สึกว่าพักสายตาได้พอประมาณเลย จู่ๆ เสียงทารกน้อยในเปลก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงกระดิ่งข้อเท้าที่คุณปู่เอามาใส่ให้ดังกรุ้งกริ้งเพราะเด็กขยับขาคนตัวใหญ่ดีดตัวลุกขึ้นในทันที ก่อนจะเดินไปดูลูกน้อยที่นอนอยู่ในเปล จากนั้นก็อุ้มลูกน้อยออกไปด้านนอกไม่นานนักใบชาก็ตื่นขึ้นมาตามเวลาที่จะต้องปั๊มนมเก็บไว้ให้ลูกตัวน้อย"ส่งลูกมาให้ชาสิคะ เดี๋ยวชาจะป้อนนม""อืมครับ"คลินต์ส่งลูกน้อยในอ้อมอกให้แต่โดยดี ก่อนที่ตัวเขาจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ด้วยความหมดแรง"เฮ้อ...พี่ไม่ได้นอนเต็มอิ่มมากี่คืนแล้วเนี่ย" พูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเพดาน ทุกครั้งที่หลับตาเขาพร้อมจะหลับสนิทในทันที แต่ก็ต้องพยายามข่มใจเอาไว้ไม่ให้หลับสนิท"แล้ว
#หลายเดือนต่อมา ช่วงนี้ก็ใกล้วันคลอดเข้ามาเต็มทีแล้วล่ะ ใบชายังคงใช้ชีวิตตามปกติเพราะยังไม่มีอาการปวดท้องใดๆ แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนในที่นี้ก็ช่วยกันสอดส่องและคอยดูแลเธออย่างใกล้ชิดคลินต์หายจากอาการแพ้ท้องแล้วเมื่อช่วงสี่ห้าเดือนที่ผ่านมา แต่กว่าจะหายก็เล่นน้ำหนักหายไปเยอะเลยเหมือนกัน"ผลไม้ค่ะคุณชา" แม่บ้านเดินขึ้นมาที่หน้าระเบียงด้านบน เพราะใบชาชอบมานั่งรับลมตรงนี้ อากาศดีและลมพัดเย็นสบายตลอดวัน"ขอบคุณค่ะ""เที่ยงนี้ทานอะไรดีคะ จะได้เตรียมไว้ให้""อะไรก็ได้ค่ะ""ได้ค่ะ คุณชาจะทานตรงนี้ใช่ไหมคะ""ค่ะ ลำบากหน่อยนะคะ แต่ตรงนี้อากาศดี""ไม่ลำบากเลยค่ะ คุณชาท้องใหญ่แล้ว เดินลำบาก ให้แม่บ้านคอยดูแลถูกแล้วค่ะ""ขอบคุณนะคะ"อย่างที่แม่บ้านก็ถูกนั่นแหละ เธอท้องใหญ่แล้วทำอะไรก็ลำบาก จะให้ขึ้นลงบันไดเพื่อกินข้าวแป๊บๆ มันก็ดูลำบากไปหน่อย สู้ให้แม่บ้านที่ไม่ได้ลำบากเพราะท้องใหญ่แบบเธอเป็นฝ่ายเหนื่อยแทนจะดีกว่า...สักพักต่อมา "ภรรยาครับ สามีมาแล้ว" เสียงของคลินต์ดังมาก่อนที่เจ้าตัวจะขึ้นมาถึงชั้นบนตรงระเบียงที่ใบชาอยู่ซะอีก"กินข้าวแล้วหรือยังคะ?""ยังครับ รอกินพร้อมชาแหละ แม่บ้านเอาข้าวมาให้แล้
สองเดือนต่อมา ณ บ้านไร่เรือนหอของคลินต์"อึก อ้วกก !!" เสียงอาเจียนโอกอากของคลินต์ดังจากด้านบนลงมาที่ด้านล่าง แม่บ้านที่ได้ยินก็ถึงกับพากันยิ้มหัวเราะ เพราะคลินต์เป็นแบบนี้มาสักพักแล้ว ซึ่งก็เป็นอาการแพ้ท้องแทนใบชาตามระเบียบนั่นแหละตอนนี้ใบชากำลังท้อง สมใจอยากคนเป็นพ่อแล้วล่ะ และเขาก็ต้องแบกรับหน้าที่แพ้ท้องแทนภรรยาด้วย"ไหวไหมคะพี่คลินต์ เอาน้ำกลั้วปากก่อนนะ""อืม..."จากคนที่แข็งแรงหน้าตาดูสดใสอยู่ทุกวัน ตอนนี้กลับหมดเรี่ยวแรงพร้อมกับใบหน้าที่ซีดเซียวไร้สีเลือดฝาด เขามีอาการเหมือนกับผู้หญิงแพ้ท้องทั่วไปเลย กินอะไรไม่ได้ เช้ามาก็อ้วกแตก มึนหัว ได้กลิ่นอาหารคืออาเจียนออกมาจากหมดไส้หมดพุง"กินยาก่อนนะคะ""ไม่เอา พี่ไม่อยากกิน มันจะอ้วก"อย่าว่าแต่อาหารหรือยาเลย แค่น้ำเปล่าๆ กินเข้าไปเขาก็ยังรู้สึกคลื่นไส้อยากจะอาเจียนออกมาให้ได้"จะได้ดีขึ้นไงคะ""ไม่เอา พี่อยู่แบบนี้ดีกว่า เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น" คลินต์ปฏิเสธอย่างหนักแน่นด้วยสภาพที่ไร้เรี่ยวแรงของตัวเองก๊อกๆๆ "คุณคลินต์ คุณชา น้ำหวานๆ มาแล้วค่ะ" แม่บ้านเดินเข้ามาพร้อมกับน้ำหวานเย็นๆ หวังจะให้คลินต์ได้จิบเบาๆ พอชื่นใจ"กินสักหน่อยนะพี่ค
#เช้าวันต่อมา เสียงเคาะประตูดังขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ ตามด้วยเสียงเรียกของเด็กน้อยที่ดังอ้าวอยู่ตรงหน้าประตูห้อง ทำให้คลินต์ที่กำลังนอนกอดภรรยาสาวสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมา ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างระมัดระวังไปเปิดประตู "พ่อครับ มะตื่นแล้ว แม่ล่ะครับตื่นหรือยัง?" เด็กน้อยเอ่ยถามพร้อมกับชะโงกหน้าไปมองข้างใน "จุ๊ๆ เมื่อวานแม่เหนื่อยมากเลย ให้แม่นอนพักก่อนนะครับ" คลินต์เอามือจ่อปากตัวเองพร้อมกับบอกให้ลูกชายเงียบเสียงลง "อ้าวเหรอครับ""มะลงไปกินข้าวกับคุณปู่คุณย่าก่อนนะครับ""ก็ได้ครับ" "เก่งมากเลยครับลูกพ่อ" หลังจากที่จัดการกับเจ้าลูกชายตัวแสบเสร็จเรียบร้อยแล้วคลินต์ก็กลับเข้ามาในห้อง ก่อนจะค่อยๆ ขึ้นไปนอนข้างๆ ใบชาตามเดิม แต่เขาไม่ได้นอนหลับ เขานอนมองใบชาที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ พร้อมกับนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่เพิ่งจะจัดหนักกันกว่าจะได้นอนก็เกือบรุ่งสางแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งมีความสุข นึกว่าตัวเองจะไม่ได้ลงเอยแบบนี้ซะแล้วสิ "อือ....พี่คลินต์กี่โมงแล้วคะเนี่ย""ยังเช้าอยู่เลย นอนต่อเถอะ ไม่ต้องห่วงลูกหรอก เขาอยู่กับปู่กับย่า" "อือ..." ใบชาหลับไปอีกครั้งด้วยความเพลีย กว่าจะตื่นขึ้นมาอีกทีก็
และแล้วค่ำคืนที่คลินต์รอคอยก็มาถึง หลังจากที่งานเลี้ยงของงานแต่งเล็กๆ นั้นจบลง แขกในงานก็พากันกลับบ้านพักของตัวเอง เพราะพรุ่งนี้มีงานที่ต้องทำ ใบชาเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเพราะกลิ่นบางอย่างในห้องนอน และด้วยท่าทางของคลินต์มันก็ทำให้เธออดถามไม่ได้จริงๆ "พี่ฉีดน้ำหอมเหรอคะ กลิ่นฉุนเชียว" "เหม็นเหรอ?" คลินต์ดีดตัวลุกขึ้นด้วยความร้อนใจ สีหน้าของเขาดูตกใจมากจริงๆ "เปล่าค่ะ ไม่ได้เหม็น แค่ปกติมันไม่มี..." มันไม่ได้เหม็นฉุนขนาดนั้น และไม่เชิงเป็นกลิ่นน้ำหอมที่เรามักจะฉีดใส่ตัวเอง แต่มันเป็นกลิ่นหอมเย็นๆ ที่ได้กลิ่นแล้วรู้สึกสดชื่น "แม่ให้มาน่ะ บอกว่ามันช่วยทำให้เราผ่อนคลาย" "อ๋อ..." "พี่พร้อมแล้วนะ" "....." ใบชามองเงียบๆ เธอสังเกตเห็นตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำแล้วล่ะ ห้องถูกจัดใหม่พร้อมด้วยแสงไฟโทนอุ่น แถมด้วยกลิ่นน้ำหอมอบอวลอยู่อีก "มามะ มาหาพี่ที่เตียงหน่อยครับ ปุปุ ~ " คลินต์เอามือตบที่เตียงนอนเป็นจังหวะ พร้อมกับส่งสายตายั่วยวน แต่แทนที่ใบชาจะเดินไปตามคำขอ เธอกลับยืนยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆ ออกมา "ชา อย่ามาแกล้งพี่นะ ให้พี่รอกลางคืน พี่ก็รอแล้วนี่ไ
และแล้วก็มาถึงวันที่คลินต์และใบชาได้แต่งงานกัน งานถูกจัดขึ้นแบบเรียบง่ายตามความต้องการของใบชา ณ กลางไร่องุ่นถูกจัดแต่งให้เป็นซุ้มเล็กๆ และประดับประดาไปด้วยดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมและมีความหมายในงานแต่งพื้นที่รอบๆ ก็มีโต๊ะสำหรับรองรับแขกที่มีไม่เท่าไหร่ ส่วนมากก็เป็นคนงานของที่นี่ ใบชาไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่จะต้องมางาน พวกญาติๆ ที่เคยอยู่ด้วยสมัยเด็กๆ เธอไม่อยากไปยุ่งกับใครแล้ว กลัวว่าจะเข้ามาทำให้ครอบครัวที่มีความสุขตอนนี้ของเธอต้องลำบากทางฝั่งของคลินต์ก็มีพ่อแม่ของเขาและคุณอาที่เป็นเจ้าของไร่ตัวจริงที่นี่ ครั้งแรกเลยที่ใบชาได้เห็นหน้าตาของเจ้าของไร่เมื่อถึงเวลาใบชาก็เดินมาพร้อมกับพี่ชาย ญาติผู้ใหญ่คนเดียวของเธอ ด้วยชุดเดรสสีขาวสะอาด กระโปรงพลิ้วแต่ไม่รุ่มร่าม สวยเข้ากับรูปร่างของเธอพอดี ทรงผมถูกม้วนเก็บครึ่งศีรษะแบบเรียบร้อย และประดับด้วยดอกไม้สวยๆ ดูเข้ากับใบหน้าแสนหวานของเธอด้านหน้าคือเจ้าบ่าวที่ใส่ชุดสูทหล่อเหลากับลูกชายที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน คลินต์กำลังยิ้มให้กับเจ้าสาวแสนสวยของเขา จนกระทั่งเธอเดินเข้ามาถึง"แม่สวยมากเลยครับ""ขอบคุณครับ เราก็หล่อมากเลยนะ สูทตัวนี้หล่อมาก""ขอบคุณครับ"ค







