LOGINจะผิดไหม ถ้าเพื่อนรักจะกลายเป็นรักเพื่อน “สัญญาได้ไหมวะ ถ้ากูยังไม่มีแฟน มึงก็ห้ามคบใครเหมือนกัน”
View More“ไอ้แว่น นายมาอยู่หน้าห้องทำงานพ่อฉันได้ยังไง”
เด็กสาวหน้าตาน่ารักสดใส ตะโกนเสียงแหลมใส่เด็กชายไม่คุ้นหน้า ที่มายืนทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่หน้าห้องทำงานพ่อของเธอ
มารีน สาวน้อยวัยเจ็ดขวบ ลูกสาวเพียงคนเดียวของทะเลและปลาดาวผู้เป็นเจ้าของรีสอร์ทชื่อดัง เธอไม่เคยเห็นเขามาก่อน แสดงว่าต้องไม่ใช่คนแถวนี้แน่ และด้วยนิสัยแก่นแก้วตั้งแต่เด็ก จึงทำให้เด็กสาวมัดผมเปียทั้งสองข้าง ยกมือเท้าเอวเอียงใบหน้าจ้องมองเด็กชายรุ่นราวคราวเดียวกันอย่างไม่วางตา
“เธอเรียกใครไอ้แว่น”
เด็กชายคนดังกล่าวเอ่ยอย่างไม่เต็มเสียง หันมาจ้องใบหน้าจิ้มลิ้ม พลางเลื่อนมือขยับแว่นตาขึ้นบนสันจมูก
“แล้วตรงนี้มีใครใส่แว่นอีกล่ะถ้าไม่ใช่นาย คิดจะเข้ามาขโมยของใช่ไหม พ่อคะ มีไอ้เด็กที่ไหนไม่รู้มาขโมยของที่บ้านเราค่ะ”
มารีนตะโกนเรียกผู้เป็นพ่อซึ่งกำลังคุยธุระอยู่ในห้องทำงานเสียงดังลั่น ทำเอาผู้ใหญ่ด้านในทั้งสองคนต่างตกใจ รีบลุกออกจากเก้าอี้ เดินออกมาหาอย่างเร็วพลัน
“ไหนขโมย” ทะเล พ่อของมารีนและเป็นเจ้าของรีสอร์ตแห่งนี้เอ่ยถามลูกสาว
“นี่ไงคะ” เธอชี้ไปที่เด็กชายตรงหน้าอย่างมั่นใจ
“หนูคงเข้าใจผิดแล้วล่ะ นี่คือลูกชายของลุงเอง” ไต้ฝุ่น หนุ่มนักธุรกิจวัยกลางคน ผู้มีฉายานามว่าเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ที่วันนี้มีธุระสำคัญจะคุยกับพ่อของเด็กสาวเอ่ยอธิบาย
วายุ คือลูกชายของไต้ฝุ่นและนับดาว ปีนี้อายุเจ็ดขวบ ได้ติดตามผู้เป็นพ่อมาคุยธุระเรื่องการร่วมหุ้นสร้างบ้านพักตากอากาศบนเกาะริมทะเล ทว่าตอนคุยงานพ่อได้ให้เขานั่งรออยู่ในห้องรับรองซึ่งอยู่ถัดไปอีกห้อง นั่งกินขนมและดูการ์ตูนจนเวลาหมุนไปกว่าหนึ่งชั่วโมงจึงเกิดอาการเบื่อหน่ายตามประสาเด็ก เลยมาชะเง้อคอแอบมองผ่านกระจกกั้นห้องทำงาน และถูกลูกสาวเจ้าของรีสอร์ตเข้าใจผิด
มารีนยู่ปากออกมาเล็กน้อยจ้องมองวายุราวกับผิดหวังปนกับความรู้สึกผิด เธอคิดเป็นตุเป็นตะว่าเด็กชายคนนี้คือหัวขโมยที่แอบลักลอบเข้ามา พ่อของเธอจึงย่อตัวลงแล้วโอบเอาลูกสาวเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด เอ่ยกับเธอด้วยน้ำเสียงละมุน เพื่อให้เธอเปิดใจรับเพื่อนใหม่
“หนุ่มน้อยคนนี้ชื่อวายุ อายุเท่ากันกับลูก ต่อไปทั้งสองคงได้เจอกันบ่อย ๆ หนูพาเพื่อนลงไปเล่นที่ชายหาดรอพ่อคุยงานได้ไหมคะ แต่ห้ามพากันไปเล่นน้ำเด็ดขาด”
“ก็ได้ค่ะคุณพ่อ”
มารีนขานรับเสียงแผ่ว พร้อมกับเผยรอยยิ้มอย่างน่ารักให้กับผู้เป็นพ่อ ก่อนจะช้อนดวงตากลมโตดุจตุ๊กตาขึ้นมองเด็กชายหน้านิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้า หลังจากผละออกจากอ้อมกอดอันอบอุ่น เด็กสาวก็เดินเข้าไปจับมือของวายุ แล้วพากันลงไปเล่นที่ชายหาด โดยที่มีพี่เลี้ยงของเธอคอยดูแลความปลอดภัยอยู่ไม่ห่าง
“คุณหนูเล่นอยู่ตรงนี้ห้ามไปไหนนะคะ พี่อบเชยขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงค่ะ”
เสียงของพี่เลี้ยงเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง แต่ทว่าลูกของเจ้านายนั้นเป็นคนรู้ความ ถ้ารับปากแล้วก็จะไม่หนีหายไปไหนอย่างแน่นอน
“ค่ะพี่อบเชย”
เด็กทั้งสองนั่งเล่นของเล่นและก่อกองทรายอยู่ด้านหน้ารีสอร์ต ซึ่งอยู่ห่างจากแนวคลื่นซัดสาดพอสมควร
“ฮือ… ฮึก ฮึก”
“วายุ นายเป็นอะไร”
มารีนรีบวิ่งเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่บนผืนทราย วายุบีบฝ่ามือจับที่เท้าของตนเอาไว้แน่น ซึ่งมีรอยบาดและเลือดออกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ก่อนหน้านี้วายุได้เดินไปเก็บเปลือกหอยแล้วถูกบาด เนื่องด้วยเขาเป็นคนกลัวเลือด จึงทำให้เด็กหนุ่มส่งเสียงร้องไห้ออกมาอย่างคนใจเสาะ
“เจ็บแค่นี้ร้องไห้จะเป็นจะตาย ผู้ชายภาษาอะไร มานี่ ฉันช่วยพยุง”
มารีนขมวดคิ้วเป็นปมพลางส่ายหน้าลอบถอนหายใจ แต่ด้วยความมีน้ำใจที่บิดามารดาเฝ้าสอนมาตั้งแต่จำความได้ จึงเลื่อนมือทั้งสองข้างสอดเข้าไปใต้รักแร้ของเด็กหนุ่ม ออกแรงประคองเขาลุกขึ้นยืน พาคนเดินขากะเผลกเข้าไปหย่อนก้นลงม้านั่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่พวกเขาเล่นกัน จากนั้นก็ใช้น้ำดื่มสะอาดที่พี่เลี้ยงนำมาด้วยล้างเท้าให้ แล้วเลื่อนมือไปหยิบปลาสเตอร์ปิดแผลที่อยู่ในกระเป๋าสะพายใบเล็กลายการ์ตูนออกมาปิดทับบาดแผลให้คนที่ส่งเสียงสูดน้ำมูก
“เรียบร้อย เลิกร้องไห้ได้แล้ว เป็นผู้ชายต้องเข้มแข็งสิ” เด็กสาวเอ่ยพลางตบไหล่วายุเบา ๆ เพื่อปลอบใจ
“อื้ม ขอบใจนะ”
วายุใช้หลังมือปาดคราบน้ำตา เผยรอยยิ้มให้คนตรงหน้าราวกับได้รับความเข้มแข็งที่อีกคนส่งมอบให้ จากนั้นทั้งสองก็นั่งเล่นกองทรายด้วยกันต่ออย่างสนุกสนาน ในสายตาของพี่เลี้ยงที่ไปเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วก็มานั่งเฝ้าจนกระทั่งผู้ใหญ่คุยเรื่องงานกันเสร็จ ไต้ฝุ่นก็ลงมาเรียกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพื่อเดินทางกลับคฤหาสน์หรู
“เรากลับก่อนนะ”
เด็กชายเอ่ยล่ำลาเพื่อนใหม่ที่มีโอกาสเล่นด้วยกันได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
“แล้วนายจะมาที่นี่อีกไหม”
วายุไม่รู้จะตอบคำถามนี้อย่างไร จึงเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นพ่อ แล้วท่านก็เอ่ยตอบแทน
“ลุงจะพาวายุมาที่นี่อีกครั้งในช่วงปิดเทอม”
“ไว้มาเล่นด้วยกันอีกนะวายุ”
เด็กชายพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม
“อะ ฉันให้”
มารีนเปิดกระเป๋าสะพายใบเดิม แล้วหยิบปลาสเตอร์ปิดแผลลายการ์ตูนยื่นออกไปตรงหน้า วายุก็เลื่อนมือออกมารับของชิ้นแรกที่ได้รับจากเพื่อนใหม่ด้วยรอยยิ้ม จากนั้นพ่อของเขาก็จูงมือเดินออกไป
ขณะที่บิดาของเด็กทั้งสองคนตกลงทำธุรกิจร่วมกัน ไต้ฝุ่นก็ได้พาลูกชายและภรรยามาพักผ่อนในช่วงปิดภาคเรียนที่บ้านพักตากอากาศ เด็กทั้งสองได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และเป็นเพื่อนเล่นกันนับตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งถึงวัยใกล้จะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย
“ไอ้วา มึงสมัครเรียนที่ไหน ส่งใบสมัครมาให้หน่อยสิ กูจะไปเรียนด้วย”
ในช่วงนี้มหาวิทยาลัยทั่วประเทศได้ประกาศรับสมัครนักศึกษาใหม่ แต่ทว่าเธออยากเรียนที่เดียวกันกับเพื่อนชาย จึงได้เอ่ยถามผ่านการโทรคุยกัน เนื่องจากวายุเรียนชั้นมัธยมอยู่ที่กรุงเทพฯ และด้วยความสนิทและนิสัยสุดห้าวที่ผิดแปลกไปจากบิดาและดูจะแสบกว่ามารดาตอนยังเป็นวัยรุ่น เวลาพูดคุยกับเพื่อนจึงใช้ภาษาแบบเป็นกันเองเพราะมันดูสนิทกันดี แต่ถ้าคนไม่คุ้นเคยมักจะเรียกแทนว่าเธอหรือนาย
(อืม เดี๋ยวส่งไปให้)
วายุตอบพลางลากเมาส์กดเข้าอีเมล แล้วส่งใบสมัครที่เขาดาวน์โหลดผ่านทางออนไลน์ไปให้มารีนอย่างรวดเร็วทันใจ
แม้จะเรียนคนละจังหวัดและเจอกันแค่ตอนปิดเทอม ทว่าพอโตขึ้นจนมีโทรศัพท์เป็นของตนเอง ทั้งสองก็มักจะโทรหากันเป็นประจำ ทำให้สนิทกันราวกับเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก
ไม่รู้ว่าความสนิทนี้เป็นเธอที่คิดไปเองฝ่ายเดียวหรือเปล่า แต่หนึ่งในเหตุผลที่เลือกไปเรียนที่นั่นก็เป็นเพราะวายุ
“ได้ละ ขอบใจ”
หญิงสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ ก่อนจะกดวางสายในทันทีโดยไม่รีรอให้อีกฝ่ายได้ตอบกลับ จากนั้นก็พิมพ์ข้อความไปหาเพื่อนสนิทอีกคนที่เรียนโรงเรียนเดียวกับเธอตั้งแต่ชั้นอนุบาล เพื่อชวนสมัครเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกัน ในใจก็แอบหวังว่าผู้เป็นพ่อและแม่จะไม่คัดค้าน เนื่องจากเธอยังไม่ได้บอกว่าจะไปเรียนไกลถึงกรุงเทพฯ
เก้าเดือนต่อมาหลังเรียนจบวายุก็ได้ปรึกษาผู้เป็นพ่อและแม่เรื่องขอหมั้นหมายกับแฟนสาว ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายต่างก็รับรู้ว่าทั้งคู่นั้นอยู่ด้วยกันมาแล้วประมาณสองปีกว่า ทว่ายังไม่ถึงวันรับปริญญาซึ่งก็คงอีกแรมปีกว่าสภาจะอนุมัติจบการศึกษา เขาจึงไม่อยากรอฤกษ์แต่งงานที่ยังไม่มีกำหนดพิธีหมั้นได้ถูกจัดขึ้นที่รีสอร์ตของครอบครัวหญิงสาว มีเพียงญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายมาร่วมเป็นสักขีพยานรักและความซื่อตรงที่วายุมีให้ต่อมารีน ในงานหมั้นตลบอบอวนไปด้วยความอบอุ่น ทุกคนต่างมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าด้วยความยินดีแม้จะเป็นเพียงพิธีเล็ก ๆ ที่ฝ่ายชายอยากมอบความมั่นคงและอยากให้ทางฝ่ายหญิงเชื่อมั่นเชื่อใจ ว่าเขาจะมีเพียงเธอคนเดียวตลอดไป แต่ทว่ากลับเต็มไปด้วยความสุขของคู่หมั้นหมายและผู้มาร่วมงาน“ลูกชายของดิฉันใจร้อนอีกแล้ว ต้องขอโทษด้วยนะคะ เพิ่งจะเรียนจบกันได้ไม่ถึงอาทิตย์เลย”นับดาวเอ่ยขอโทษปลาดาวแม่ของว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงเอ็นดูเด็กทั้งสอง ริมฝีปากเผยรอยยิ้มขึ้นจ้องอีกฝ่ายที่ตอบรับงานนี้อย่างไม่ขัดข้อง“เด็กทั้งสองรักกัน ดิฉันก็ไม่ขัดหรอกค่ะ ลูก ๆ มีความสุข พวกเราก็มีความสุขไปด้วย” ปลาดาวเอ่ยด้วยรอยยิ้มเช่น
ความรักที่เริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนเลื่อนสถานะมาเป็นแฟนยังคงดำเนินมาอย่างราบรื่น ทั้งสองต่างเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่วัยเด็ก แม้จะเจอกันแค่ช่วงปิดเทอมแต่ก็สนิทกันมากจนกระทั่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ทำให้เข้าอกเข้าใจ ไม่ต้องปรับตัวกันมาก เพราะต่างก็รู้จักนิสัยใจคอกันดีอยู่แล้ว ที่เหลือก็แค่ปรับจูนในบางเรื่องให้มาอยู่ตรงกลางระหว่างคนทั้งสอง ก็ทำให้ความรักของวายุและมารีนนั้นหวานฉ่ำ จนหลายคนต่างก็พากันอิจฉาไม่ต่างจากวันแรกที่เปิดตัวคบกันและแม้จะคบกันในวัยเรียน ทว่าทั้งสองก็ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องเรียนไม่เป็นสองรองจากความรัก พอจบปีสามวายุก็ได้เข้าไปฝึกงานที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของผู้เป็นพ่อ ส่วนมารีนนั้นฝึกงานที่บริษัทซอฟต์แวร์แห่งหนึ่ง แต่ดีที่ว่าอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน วายุจึงไปส่งมารีนที่ทำงานและรอรับกลับพร้อมกันในช่วงเย็นจุ๊บ!หญิงสาวเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถเฟอร์รารีคันโปรดของแฟนหนุ่ม ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายโน้มตัวเข้ามาคาดเข็มขัดให้อย่างทุกครั้ง และเธอก็จะมอบรอยลิปสติกไว้ที่แก้มของเขาเพื่อเป็นการขอบคุณเช่นเดียวกันมารีนเผยรอยยิ้มหวานส่งไปให้เขาด้วยแววตาที่เปล่งประกายไปด้วยความรัก ก่อนจะเอ่ย
เหล้าหมดลงทุกคนก็แยกย้ายกันกลับคอนโด โดยที่เมษาเดินทางกลับพร้อมเพื่อนสนิทอย่างมารีนและวายุและเมื่อคู่รักที่หลายคนต่างอิจฉาได้เข้าไปในห้อง วายุก็อุ้มร่างของแฟนสาวขึ้นคีบเอว บดจูบริมฝีปากของกันและกันอย่างดูดดื่ม ในขณะที่ขาของเขาก็ก้าวเดินเข้าไปในห้องนอน แล้วอุ้มเธอวางลงปลายเตียง มารีนก็เลื่อนมือเล็กไปปลดเข็มขัดของแฟนหนุ่มแล้วตามด้วยกางเกงยีนราคาแพงของเขาต่อแก่นกายขนาดใหญ่ผงาดอยู่ตรงหน้า เธอก็ใช้ปากครอบครองพร้อมกับมือที่จับรูดขึ้นลง วายุเลื่อนมือไปสอดใต้กลุ่มผมของแฟนสาวสุดที่รัก เชิดหน้าสูดปากคราง และพอเธอทำให้น้ำสีขาวขุ่นไหลเยิ้มออกมาที่ปลายหัวบาน ก็ถึงคราวที่วายุจะปรนเปรอความสุขให้เธอบ้างหลังจากผลัดกันมอบความสุขให้กันด้วยปาก หญิงสาวก็นอนราบกับพื้นที่นอน เพื่อให้แฟนหนุ่มส่งตัวตนความเป็นชายเข้ามาในร่องอ่อนนุ่มโดยไร้เครื่องป้องกันอย่างที่เธอชอบ ออกแรงกระแทกร่องสาวของเธออย่างหนักหน่วง จากนั้นก็ผลัดเปลี่ยนให้เธอขึ้นไปนั่งขย่มอยู่ด้านบนเสียงครวญครางดังลั่นห้องนอน ไม่ต่างจากเสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังเป็นเวลานานนับชั่วโมง ก็แตะขอบสวรรค์กันอีกคราปลดปล่อยน้ำแห่งความสุขจนเปรอะเปื้อนหว่างขาและ
ช่วงบ่ายของวันนี้ได้มีการออกหมายเรียกให้โยเกิร์ตเข้าพบตำรวจ หลังจากสอบปากคำโยเกิร์ตได้แต่โยนความผิดไปให้พี่สายรหัสของวายุ“ฉันไม่ได้เป็นคนทำ ฉันถูกใส่ร้าย นังกอหญ้าต่างหากที่เป็นคนจ้างตัดต่อคลิป ฉันมีหลักฐานที่มันโอนเงินให้ไอ้หมอนั่นด้วย”“นี่น่ะเหรอหลักฐานที่คุณว่า”ตำรวจนายหนึ่งปริ้นรูปภาพข้อความที่ทั้งสองคนคุยกัน เนื่องจากโทรศัพท์ของโยเกิร์ตได้ถูกยึดเป็นของกลางเพื่อตรวจสอบ เลื่อนไปวางตรงหน้านักศึกษาสาวที่ใส่เสื้อคลุมเพื่อปกปิดสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย“เห็นได้ชัดว่าคุณหลอกให้อีกฝ่ายโอนเงินไปให้กับบัญชีนั้น ซึ่งทางเราได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นบัญชีของลูกจ้างร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือ ตอนนี้กำลังออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวน”โยเกิร์ตเริ่มนั่งไม่ติด ดวงตาของเธอเลิ่กลั่กไม่กล้าสบตานายตำรวจ มือทั้งสองข้างที่อยู่ใต้โต๊ะบีบเข้าหากันแน่น แต่พอนึกย้อนไปถึงวันว่าจ้าง เธอได้ปกปิดใบหน้าไว้อย่างแน่นหนา ไม่มีทางที่ลูกจ้างคนนั้นจะจำได้ว่าเป็นเธอแน่แต่ทว่าเธอกลับคิดผิด หลังจากเจ้าพนักงานสืบสวนได้มีการเรียกสอบปากคำทั้งกอหญ้าและคนตัดต่อคลิป ก็ได้ข้อสรุปว่ากอหญ้าเป็นเพียงบุคคลที่โยเกิร์ตจะใช้เป็นแพะรับบา
นาฬิกาปลุกของเช้าวันใหม่ดังขึ้น เนื่องจากวันนี้มารีนมีเรียนในช่วงเก้าโมง ทำให้ทั้งสองสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกันหลังจากทั้งสองจบบทรักกันเมื่อคืน วายุก็แต่งตัวแล้วลงไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าของเขา พอกลับขึ้นมาก็อาบน้ำแล้วเข้านอนด้วยกัน“ที่รักจะอาบก่อนไหม” มารีนเอ่ย“อือ อาบเสร็จเดี๋ยวลงไปซื้อข้าวให้”“วานี่น่ารักที่สุดเลย”สาวสวยส่งน้ำเสียงออดอ้อนแต่เช้า ทำเอาคนฟังอยากจับแฟนสาวกดลงเตียงอีกสักรอบ แต่ก็ต้องอดใจไว้ เพราะแค่สองคืนแรกน้องสาวของเธอก็แทบไม่ได้พักแล้วเขาอาบน้ำเสร็จ มารีนก็เข้าไปอาบน้ำต่อ วายุจึงลงไปซื้อมื้อเช้าที่ร้านหน้าคอนโด หลังจากกลับมาแฟนสาวก็แต่งตัวเสร็จพอดี เหลือแค่รอแต่งหน้า“จะแต่งสวยไปไหน”เสียงทุ้มเอ่ยขณะเข้าไปยืนอยู่ด้านหลังคนที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เขานำอาหารที่ซื้อมาเทใส่จานเสร็จแล้ว แต่มารีนก็ยังแต่งหน้าไม่เสร็จ“ไปเรียนไง ก็แต่งแบบนี้ทุกวันอยู่แล้วปะ ทำไมวันนี้หึงเหรอ”“อืม หึง อย่าลืมล่ะว่าเธอเป็นของฉันแล้ว” เขาว่าพลางเลื่อนมือไปเชยปลายคางของแฟนสาวให้หันมาสบตากัน“แค่รอตอกบนเตียงก็พอ ไม่ต้องมาตอกย้ำ ยังไงมารีนก็เป็นของวายุแค่คนเดียว คิกคิก”หญิงสาวส่งเสียงหั
ใบหน้าของหญิงสาวร้อนผ่าวขึ้นในทันที แล้วเขาก็จับเธอลุกขึ้นยืน ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างปิดดวงตาของเธอไว้ราวกับกำลังจะเซอร์ไพรส์อะไรบางอย่าง วายุพาแฟนสาวเดินไปที่โต๊ะข้างหัวเตียง แล้วผละมือหนาออกไปข้างหนึ่ง ทว่าแม้ดวงตาทั้งสองข้างจะถูกปิด แต่หูของเธอก็ได้ยินเสียงคล้ายกับเลื่อนลิ้นชัก“สุขสันต์วันเกิด”เสียงละมุนดังขึ้นทำให้หญิงสาวจับมืออีกข้างของเจ้าของน้ำเสียงที่ปิดตาของเธอออก แล้วหมุนตัวกลับมาหาคนตัวสูงที่มองเธอด้วยแววตาอ่อนโยน ในมือมีกล่องสี่เหลี่ยมผูกด้วยริบบิ้นสีแดงยื่นออกมาด้านหน้า“จำวันเกิดได้ด้วยเหรอ”“จำได้สิ เสียดายที่ไม่มีเค้ก”“ขอบคุณนะ ไม่มีก็ไม่เป็นไร แค่จำวันเกิดฉันได้ ฉันก็ดีใจแล้ว”วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ เดิมทีคิดจะชวนพวกเพื่อนไปกินเลี้ยงกันเสียหน่อย ทว่าดันเกิดเรื่องคลิปหลุดขึ้นมาก่อนเธอจึงไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ และไม่คิดว่าวายุจะจำวันเกิดของเธอได้ แถมยังแอบเตรียมของขวัญเอาไว้ได้อย่างแนบเนียนมากหญิงสาวยื่นมือออกไปรับกล่องของขวัญด้วยรอยยิ้มอันปลาบปลื้ม ก่อนจะนั่งลงบนเตียงแล้วแกะออกมาดูว่าเขาซื้ออะไรให้ แล้วพบว่าเป็นนาฬิกาแบรนด์หรูจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งราคานั้นก็
Comments