“กรี๊ดดดด หมอน่าน”
ชุตา ไฮโซสาวที่เขาเคยคั่วด้วยกรีดร้องดังลั่นแล้วจิกหัวดาราสาวมาตบอย่างแรงจนร่างบางกระเด็นไปกองกับพื้นในสภาพเปิดเผยเนื้อตัวอย่างน่าสงสาร
หมอหนุ่มรีบเดินเข้าห้องน้ำ รูดปลอกป้องกันทิ้ง ล้างทำความสะอาดลูกชายคนโตก่อนจะเช็ดจนแห้งแล้วเก็บมันเข้าไปอยู่ในกางเกงจนเรียบร้อย ก่อนจะออกจากห้องน้ำแล้วตรงเข้าไปแยกสองสาวที่ตอนนี้ตีกันพัลวันจนผมเผ้ารุงรังแทบดูไม่ได้
“หยุดได้แล้ว อย่ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่”
หมอหนุ่มตวาดก้อง เขาเบื่อที่จะมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงที่ไม่ได้หาซื้อมาด้วยเงินก็ตรงนี้ แม้จะมีคลาสขึ้นมาหน่อย แต่ก็ควบคุมยากและน่ารำคาญ จนเขาเทพวกหล่อนทิ้งไปหลายรายแล้ว
“หมอทำแบบนี้ได้ยังไง หมอมีคนอื่น ชุตาจะฟ้องพ่อ ให้มาเอาเรื่องหมอถึงบ้านเลย ส่วนแก นังดาราสำส่อน ฉันจะเล่นงานให้แกไม่มีที่ยืนในวงการเลย”
“หุบปากซะทีชุตา คุณไม่มีสิทธิ์มาวุ่นวายอะไรกับผมและผู้หญิงคนไหนของผมทั้งนั้น”
“ทำไมจะไม่มี ชุตาเป็นเมียคุณนะ”
“ตอนผมเอาคุณ ผมใส่ถุงยางไหม”
“ใส่ค่ะ”
“หึ คนที่ผมไม่ใส่ถุงเท่านั้นล่ะ ถึงจะได้ขึ้นชื่อว่าเมียผมน่ะ กลับไปได้แล้ว แล้วก็ไม่ต้องมายุ่งกับผมอีก ผมไม่กลับไปนอนกับคุณอีกแล้ว”
“หมอ ทำไมพูดแบบนี้”
“เราเป็นอะไรกันหรือชุตา ตอนที่คุณวิ่งโร่เข้ามาให้ผมเอา เราตกลงกันว่าแค่สนุกๆ ไม่ใช่หรอ แล้วตอนนี้ผมก็หมดสนุกกับคุณแล้ว”
“กรี๊ดดดดด หมออออ”
“ออกไป ก่อนที่ผมจะให้การ์ดมาลากคุณออกไป”
ไฮโซสาวกรีดร้องและผลุนผลันออกจากห้องไป คนอย่างเธอก็ไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอก แม้จะอยากได้เขาเป็นสามีแค่ไหน แต่มาไล่กันเหมือนหมูเหมือนหมาแบบนี้ ก็ไม่เอาเหมือนกัน
“หมอคะ นีน่าเจ็บ”
ดาราสาวขยับเสื้อผ้าให้เข้าที่แล้วลุกขึ้นไปยืนกอดร่างใหญ่ของเขาเอาไว้ แต่เขากลับสะบัดแขนของเธอออก
“ผมบอกแล้วใช่ไหม ว่าไม่ชอบความวุ่นวาย ถ้าคุณมีเรื่องกับผู้หญิงคนไหนของผม เราจะจบกันทันที”
“หมอก็เห็น ว่านังนั่นมันมาตบนีน่าก่อน นีน่าก็มีมือมีเท้านะ จะให้ยอมนอนให้มันตบเฉยๆ หรอ ในเมื่อหมอเองก็ไม่ได้คิดจะมาแยแสนีน่าสักนิด”
“รู้ก็ดีแล้วนีน่า ผมเบื่อความวุ่นวายที่สุด ก่อนเข้ามาในชีวิตผม พวกคุณรู้ว่าผมเป็นยังไง และบอกว่ารับได้ทุกอย่าง แต่พอเอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น คุณกลับไปซะเถอะ แล้วเราก็หยุดยุ่งเกี่ยวกันแค่นี้”
“หมอ”
“กลับไปซะ ผมอารมณ์ไม่ดี”
ดาราสาวคว้ากระเป๋าสะพายใบหรูแล้วเดินปึงปังออกจากห้องไป คอยดูนะ เธอจะจับผู้ชายที่ทั้งหล่อทั้งรวยยิ่งกว่าเขาให้ได้เลย
รถยนต์สัญชาติยุโรปขับเข้ามาจอดในคฤหาสน์หลังงามในเวลาเกือบเที่ยงคืน เสียงห้ามล้อไม่เบานักบ่งบอกอารมณ์ของคนขับ
หมอน่านฟ้าปิดประตูรถเสียงดังแล้วตรงดิ่งขึ้นห้องนอนของตัวเองทันที ทั้งเมาทั้งหงุดหงิด ไม่รู้วันนี้มันวันอะไร ถึงมีแต่เรื่องไม่สบอารมณ์ตั้งแต่เช้า
เมื่อขึ้นมาถึงห้องนอนก็รีบเดินไปที่ประตูระเบียงเพื่อปิดม่าน แต่สายตาอันแหลมคมของเขากลับเห็นเด็กในปกครองเดินออกมาจากบ้านไม้หลังเล็กพร้อมด้วยเพื่อนผู้หญิง 3 คน และเพื่อนผู้ชายอีก 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคนที่เขาเคยเห็นมันแย่งหนังสือจากมือของเธอไปถือ
เด็กๆ พวกนั้นจอดรถเอาไว้นอกประตูรั้วอีกด้านที่อยู่ใกล้กับบ้านไม้หลังน้อยของเธอ สาวสวยยืนโบกไม้โบกมือส่งเพื่อนทั้ง 6 คน เรียบร้อยแล้วก็เดินกลับเข้าบ้านของตัวเองทันที
มะลินุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่มัดปมแน่นๆ ไว้ที่หน้าอกอวบใหญ่ บนลำตัวขาวสว่างมีหยดน้ำเกาะพราวน่าเอามือไปลูบไล้ สาวน้อยสะดุ้งสุดตัวทันทีที่ออกจากห้องน้ำมาแล้วเจอผู้ปกครองของตัวเองนั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียง
“ว๊ายย หมอ เข้ามาทำไมคะ”
“ตกใจหรอ เป็นฉันเธอตกใจ แต่ถ้าเป็นไอ้หนุ่มนั่นเธอคงรีบวิ่งมาขึ้นเตียงกับมันเลยสินะ ใช้บ้านฉันเป็นที่มั่วสุมแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว”
“หมอพูดเรื่องอะไรคะ หนูแค่นัดเพื่อนๆ มาติวหนังสือ อาทิตย์หน้าก็จะสอบปลายภาคแล้ว แล้วหนูก็ขออนุญาตคุณลุงกับคุณป้าแล้วด้วย”
“ขอพ่อกับแม่ แต่ไม่ขอฉัน ดีนี่ ใครเป็นผู้ปกครองเธอกันแน่ มะลิ”
“หนูเห็นว่าคุณลุงคุณป้าเป็นผู้ใหญ่ที่สุด เป็นเจ้าของบ้าน หนูก็เลย”
“ทำอะไรข้ามหัวผู้ปกครองอย่างฉัน อย่างนั้นใช่ไหม”
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ หนูขอโทษค่ะหมอ”
“ต่อไปอย่าให้เห็นว่าทำตัวเหลวแหลกแบบนี้อีก อยู่กันเป็นคู่ๆ ทำอะไรกันไปบ้าง ไม่อายเลยหรือไง”
“หนูไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น หมออย่ามาดูถูกหนูนะ”
“แล้วมันควรหรือไง เธออายุเท่าไหร่ พาผู้ชายมามั่วสุมกันในที่ลับตาจนครึ่งค่อนคืน ใครจะคิดดีได้ ถ้าเธอทำตัวเหลวไหล ท้องก่อนที่จะเรียนจบ ทำพ่อแม่ฉันเสียใจ ทำชื่อเสียงของบ้านฉันเสียหาย ฉันเล่นงานเธอยับแน่ มะลิ”
“หนูบอกว่าไม่ได้ทำไงคะ ทำไมหมอไม่เชื่อหนูบ้าง คนไม่มีเหตุผล หงุดหงิดอะไรมาถึงเอามาลงกับหนูแบบนี้”
“คนไม่มีเหตุผลหรอ ได้ เธอจะได้เห็นว่าตอนไม่มีเหตุผล ฉันเป็นยังไง มานี่”
คนตัวโตพุ่งตัวไปกระชากร่างบางลงไปนอนทาบทับกับบนเตียงกว้าง แรงฉุดรั้งทำให้ผ้าเช็ดตัวผืนน้อยหล่นกองลงที่พื้นตั้งแต่ในจุดที่เธอยืนแล้ว
“ว๊ายยยย หมอ ปล่อยหนูนะ”
ดวงตาแข็งกร้าวเต็มไปด้วยไฟโทสะจับจ้องไปยังดวงตากลมโตที่มีแววตื่นกลัว แต่คนที่กำลังโกรธจนหูอื้อตาลายก็ไม่ได้ฟังเสียงร้องประท้วงใดๆ ของคนใต้ร่างแม้แต่น้อย
“ไอ้นั่น มันเป็นอะไรกับเธอ”
“ใคร..”
“ไอ้คนที่มันมองเธอตาละห้อยนั่นไง คนที่มันถือหนังสือให้เธอตอนที่อยู่มหาลัย มันเป็นแฟนเธอหรอ”
“มะ ไม่ หนู ยังไม่มีแฟน”
“โกหก”
“จริง หนูไม่ได้มีแฟน หนูไม่ได้มีใคร”
“ถ้าฉันพิสูจน์ได้ว่าเธอโกหกฉัน ฉันจะลงโทษเธอให้หนักเลย”
“หมอ อย่าทำอะไรหนูเลย หนูไม่ได้คบกับใครเป็นแฟนจริงๆ ค่ะ หนูแค่นัดเพื่อนมาติวหนังสือจริงๆ ฮือ ฮือ”
ท่าทีดุดัน ดวงตาแดงก่ำเหี้ยมเกรียมของคนตัวโต ไหนจะร่างกายเปลือยเปล่าไร้ซึ่งอาภรณ์ห่อหุ้มมันทำให้คนตัวบางใจฝ่อจนกลั่นออกมาเป็นน้ำตาไหลอาบแก้มนวล เธอกลัวเขาที่เป็นคนเกรี้ยวโกรธไม่มีเหตุผลแบบนี้จริงๆ
และเพราะน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนวลนั้นทำให้เขามีสติอีกครั้ง นี่เขาโมโหที่เธอมีเพื่อนผู้ชายมาหาถึงบ้าน จนทำอะไรแบบนี้ไปได้ยังไง ร่างเปลือยเปล่านุ่มนิ่มหอมกรุ่นที่เขานอนทับอยู่ทำเอาตัวตนเหยียดขยายแข็งตั้งอย่างรวดเร็ว
หมอหนุ่มไม่กล้าแม้แต่จะก้มหน้าลงไปมองหน้าอกอวบอิ่มของเธอที่กำลังถูไถบดเบียดกับหน้าอกหนั่นแน่นเต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขา ทำได้เพียงกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แล้วเช็ดหยาดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยนด้วยความรู้สึกผิดจากหัวใจ
“ไม่ร้องแล้วมะลิ ฉันขอโทษ ขอโทษที่ทำรุนแรงและด่าเธอ ฉันไม่อยากให้เธอเป็นเด็กใจแตก เอาผู้ชายมานอนที่นี่ ที่จริงนอกจากที่นี่ ก็ห้ามไปนอนที่ไหน สรุปก็คือ ฉันไม่อนุญาตให้เธอมีแฟน จนกว่าจะเรียนจบ เข้าใจไหม”
“ฮึก ฮึก หมอน่ากลัว หนูกลัว”
“ฉันมีสติแล้ว ต่อไปอย่าทำอะไรข้ามหัวฉัน มีอะไรต้องบอกต้องขอฉันทุกเรื่อง เข้าใจไหม”
“ขะ เข้าใจค่ะ ฮึก หนูขอโทษ”
“เห้อ เอาล่ะ เลิกร้องได้แล้ว เด็กดี”
หมอหนุ่มตวัดผ้าห่มขึ้นคลุมร่างกายของเธอกับเขาเอาไว้ กอดกระชับคนตัวบางแล้วขยับพาเธอขึ้นไปนอนหนุนหมอน โดยที่ยังมีเขานอนอยู่ด้านบนในท่าเดิมไม่กล้าขยับออกไปไหน เพราะตอนนี้ท่อนร้อนของเขามันตั้งโด่ดันกางเกงนอนผ้าบางเบาที่ไม่ได้มีกางเกงชั้นใน และการเสียดสีจากการขยับตัวเมื่อสักครู่มันทำให้ความอดทนของเขาใกล้จะหมดลงไปแล้ว
ร่างบางขาวผ่องหอมกรุ่นตรงหน้า ทำเอาสติและจิตสำนึกของผู้ปกครองอย่างเขากระเจิดกระเจิงไปหมด รู้เพียงอย่างเดียวคืออยากจะลองชิมความหวานในวัยสาวของเธอเหลือเกิน และจะเป็นอะไรไหมนะ..ถ้าเขาจะขอลองชิมเธอสักนิด แค่นิดเดียวเท่านั้น
“อือออ หมอคะ หนูหนัก ลงไปได้แล้วค่ะ”
“เดี๋ยวสิ ฉันยังไม่ได้พิสูจน์เลย ว่าเธอโกหกหรือเปล่า”
“เรื่องอะไรคะ”
“เรื่องที่เธอบอกว่าเธอกับไอ้หมอนั่น ไม่ได้มีอะไรกันไง”
“หมอจะพิสูจน์ได้ยังไงคะ”
“ฉันเป็นหมอนะ เธอโกหกฉันไม่ได้หรอก นอนอยู่เฉยๆ ห้ามขยับเด็ดขาด ถ้าเธอขยับ ฉันไม่รับรองความปลอดภัย ว่าจะแค่เช็กร่างกายเฉยๆ หรือเปล่า”
หมอหนุ่มขยับตัวลงไปใต้ผ้าห่มจับขาทั้งสองข้างของสาวน้อยแบอ้าจนกว้าง ที่จริงในนี้มันมืดจนเขามองไม่เห็นอะไรสักนิด แต่ก็ทำให้เขาจินตนาการไปไกลเหลือเกิน
น่านฟ้าก้มหน้าลงสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ เฉพาะตัวของเธอจนสุดปอด กลิ่นของวัยสาวมันทำให้เขาหัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก ตอนแรกแค่จะขู่ให้เธอกลัว แต่เมื่อได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ดอกโต ก็อยากที่จะมองเห็นกลีบของมัน ว่าจะงดงามสักเพียงไหน จึงตวัดผ้าห่มให้พ้นตัว
ทันทีที่มีแสงสว่าง ดอกไม้ดอกโตก็ปรากฏแก่สายตาของเขา กลีบดอกสีชมพูสดกลีบเล็กเต่งตึงลอยเด่นอยู่ตรงหน้า รูรักเล็กแคบปิดสนิทแน่นจนมองไม่เห็นทางเข้าและไม่มีร่องรอยของความเสียหายใดๆ มันเป็นหลักฐานชั้นดียืนยันได้ว่าเธอยังคงเป็นเด็กดีคนเดิมของเขาอยู่ จึงให้รางวัลเด็กดีด้วยการกดจูบลงบนเนินเนื้ออวบอูมไร้เส้นขนโคตรน่ารักนั้น
“อุ๊ย หมอ”
น่านฟ้า : “มะลิคบกับใครเป็นแฟนหรอครับ ทั้งผม ทั้งกวิน มีใครได้เป็นแฟนของมะลิ ถึงบอกว่ามะลิคบซ้อนได้”นักข่าวที่อยู่ข้างมะลิแต่แรกพยักหน้าเห็นด้วย เพราะตลอดเวลาที่กวินแสดงออกว่าจีบมะลิ เขาก็บอกเสมอว่ามะลิให้โอกาส และมะลิเองก็ยังมีโอกาสพิจารณาผู้ชายคนอื่นด้วยนักข่าว : “แปลว่า คุณหมอรู้มาตลอดว่ากวินจีบมะลิ และกวินก็รู้มาตลอดว่าคุณหมอก็ชอบมะลิ งั้นหรอคะ”น่านฟ้า : “ครับ ผมรู้มาตลอด และผมก็แน่ใจว่ากวินก็รู้ เราแข่งขันกัน ใครสามารถทำให้มะลิรู้สึกรักได้ ก็เป็นฝ่ายได้เป็นตัวจริงของมะลิ แค่นั้นเอง และกวินเองก็เข้าใจเรื่องนี้ดีครับ”นักข่าว : “คุณหมอคิดว่าอะไรทำให้คุณหมอชนะใจมะลิคะ”น่านฟ้า : “ไม่รู้สิครับ มะลิเองก็ไม่เคยมีแฟน ไม่รู้ว่าตัวเองชอบผู้ชายแบบไหน แต่ผมเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ ผมดูแลมะลิ เข้มงวดเรื่องเรียน เรื่องการวางตัว การเข้าสังคม รวมไปถึงการสังสรรค์ตามประสาวัยรุ่น ถึงผมจะเคยมีข่าวเสียหายเรื่องผู้หญิงมามาก แต่พอผมแน่ใจว่าผมชอบมะลิ ผมก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครอีก อีกอย่างอาจเป็นเพราะอายุผมห่างจากเธอมากก็ได้ เลยให้ความรู้สึกอบอุ่นมั้งครับ”นักข่าว : “น่ารักจังเลยค่ะ แต่ขออนุญาตถามแท
“พี่กับลิน ไม่ได้มีอะไรกันแบบที่มะลิเข้าใจ วันนั้นพี่เป็นไข้ ตื่นสาย ยุเข้ามาปลุกที่ห้องนอน เอายาเอาข้าวมาป้อนให้พี่นอนพัก พี่บอกให้ยุโทรตามมะลิให้มาหาพี่ที แล้วพี่ก็หลับไป พี่ตื่นมาอีกทีจะค่ำแล้ว คนที่นอนกอดพี่อยู่ไม่ใช่มะลิ แต่เป็นลิน พี่ตกใจมาก คิดว่าถ้ามะลิมาหาพี่ต้องเจอลินแน่ๆ พี่เลยรีบกลับบ้าน แต่กลับไปถึง มะลิหนีพี่ไปแล้ว พี่ช็อกเพราะไข้ก็ยังไม่ลด หลับไปอีกคืนนึง ตื่นมาถึงหาย พี่เรียกกวินมาหา ถามจากเพื่อนๆ ทุกคนไม่มีใครรู้ว่ามะลิไปไหน ทุกคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นมะลิถึงหนีพี่ไป แต่ลินยืนยันว่าไม่รูว่ามะลิเข้ามาหาหรือเปล่า เพราะลินเองก็หลับ”“หนูเข้าไปค่ะ เข้าไปเจอคุณลินด้วย เธอบอกว่าพี่ตั้งใจเรียกหนูมาเจอภาพนี้ เพราะไม่กล้าจะบอกให้หนูออกไปจากชีวิต เธอบอกว่าพี่เลือกเธอและกำลังจะแต่งงานกัน ขอให้หนูไปให้พ้นจากชีวิตพี่ หนูเลยไป”“หนูไป ทั้งๆ ที่หนูรู้ตัวว่าท้องลูกของพี่อยู่งั้นหรอ”“พี่น่าน รู้ได้ไงคะ”คนตัวบางร้องออกมาด้วยความตกใจ เรื่องนี้เธอไม่เคยแพร่งพรายให้ใครรู้ เพราะตรวจเจอเช้าวันนั้น ก็มีเรื่องให้หอบผ้าหอบผ่อนหนีในเช้าวันนั้นเลย“เผือกเจอที่ตรวจท้องตกอยู่ใต้เตียงหนู”คนตัวบางก
“คุณพูดอะไรกับมะลิ”ดวงตาวาววับแดงก่ำเอาเรื่อง ไม่หลงเหลือแม้เศษเสี้ยวของความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กันอีกต่อไป“ทำไมคะ คุณแคร์เด็กนั่นขนาดนี้เลยหรอน่าน”“ผมบอกคุณไปกี่ครั้งแล้ว ว่าผมรักมะลิ เรื่องของเรามันจบแล้ว ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณอีก”“แต่ลินไม่ยอมไง”“ไม่ยอมแล้วคุณจะทำอะไรได้ คนอย่างคุณมันหมดศักดิ์ศรีจนถึงขั้นต้องสร้างเรื่องโกหกแบบนี้เลยหรอ น่าสมเพชว่ะลิน”“ลินทำได้ทุกอย่าง ที่จะให้น่านกลับมาเป็นของลินอีกครั้ง เด็กนั่นมันหนีไปแล้ว คุณจะไปอาลัยอาวรณ์มันอีกทำไม คุณเคยรักลินมาก ทำไมจะกลับมารักอีกไม่ได้”“ฟังนะ ต่อให้มะลิหนีผมไปจนผมตามหาไม่เจอ ตลอดชีวิตนี้ผมก็ไม่คิดจะกลับไปยุ่งเกี่ยวกับคุณอีก กลับไปซะ แล้วอย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก เพราะคราวต่อไป ผมคงไม่พูดจากับคุณดีๆ แบบนี้แล้ว และคุณจะได้เห็น ว่าคนอย่างผม มันทำอะไรคุณได้บ้าง”“น่าน”เด็กเผือกวิ่งตึงตังเข้ามาในห้องรับแขก มือหนึ่งถือไม้กวาด อีกมือหนึ่งกำแท่งสีขาวแน่นๆ หอบหายใจกระชั้น แต่ก็ละล่ำละลักพูดเรื่องสำคัญออกมาจนได้“คุณหมอคะ หนู หนูเจออันนี้ ตกอยู่ใต้เตียงคุณมะลิค่ะ”หมอหนุ่มรับแท่งสีขาวนั้นมาดูทันที แค่เพียงเห็นแวบแรก ก็รู้ได้ท
น่านฟ้ารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยความเมื่อยขบเพราะพิษไข้ในเวลาบ่ายคล้อย หลายวันที่ผ่านมาเขาหักโหมทำงานจนแทบไม่ได้พักผ่อน แถมยังอยู่กับเชื้อโรคทุกวัน ร่างกายที่อ่อนแอทำให้เขาเป็นไข้จนได้สำนึกสุดท้ายที่เขาจำได้คือสั่งให้ยุวดีโทรตามมะลิให้มาหา ถ้าอย่างนั้น น้ำหนักของร่างกายที่นอนกอดก่ายซุกซบอกแกร่งของเขา คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากสุดยอดดวงใจของเขาเท่านั้นแม้จะยังมึนงงเพราะพิษไข้ แต่คนตัวโตกลับอิ่มเอมในหัวใจ เขากดจูบหน้าผากโหนกนูนอย่างแสนรัก แม้จะอดแปลกใจไม่ได้ว่ากลิ่นหอมอ่อนๆ เฉพาะตัวของเธอเปลี่ยนไป“อืมม หนูมานานแล้วหรอครับ”คนที่เพิ่งตื่น เงยหน้ามองเขาทันทีที่เขาทักทายเธอเป็นคนอื่น คนที่ยังไม่ทันหายป่วยตกใจจนขยับตัวหนีอัตโนมัติ ความรีบลุกขึ้นมานั่งทำให้เขาเวียนหัวจนต้องกุมขมับและนั่งพิงหัวเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรงร่างกายที่เย็นวาบหลังจากผ้าห่มผืนหนาตกลงไปที่เอว ทำให้เขาได้สติ ยกผ้าห่มขึ้นสำรวจร่างกายก็พบว่าตัวเองไม่มีเสื้อผ้าติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว“เกิดอะไรขึ้น ทำไมผมอยู่ในสภาพนี้”“ลินมาหาคุณ เห็นว่าคุณป่วยเลยเช็ดตัวและอยู่ดูแลคุณค่ะ”“มะลิล่ะ มะลิไปไหน”“ไม่รู้สิคะ ตั้งแต่ลินมาก็ไม่เห็นใคร
ยุวดี เลขาสาวสวยของหมอหนุ่มผู้อำนวยการโรงพยาบาล หอบหิ้วแฟ้มเอกสารเข้ามาวางในห้องทำงาน ก่อนจะช่วยแม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดจัดข้าวของในห้องของเจ้านายหนุ่มให้เป็นระเบียบเรียบร้อย“คุณยุ คุณหมอยังไม่ตื่นเลยค่ะ ขนาดป้าดูดฝุ่นเสียงดังขนาดนี้ ป้าว่าแปลกๆ นะคะ”“อ้าว คุณหมอยังอยู่ในห้องหรอคะ ยุคิดว่าท่านไปตรวจคนไข้แล้วซะอีก”ยุวดียืนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจเคาะประตูห้องนอนของเจ้านายหนุ่มแล้วเปิดเข้าไป เป็นอย่างที่ป้าแม่บ้านบอกจริงๆ สายป่านนี้แล้วแต่เจ้านายของเธอยังนอนนิ่งๆ ผิดวิสัยของเขาเป็นอย่างมาก เลยตรงดิ่งเข้าไปยกมือขึ้นมาอังหน้าผากแล้วก็ต้องหดมือกลับอย่างรวดเร็ว“อุ๊ย ตัวร้อนจี๋เลย คุณหมอคะ คุณหมอ ผอ. รู้สึกตัวไหมคะ”ยุวดีตกใจ ละล่ำละลักเรียกเขาแบบที่เคยเรียกทุกอย่าง ก่อนจะเขย่าตัวเพื่อปลุกให้คนป่วยรู้สึกตัว“อืม ยุ”“ค่ะ ยุเอง คุณหมอป่วยค่ะ ตัวร้อนจี๋เลย ให้ยุตามหมอมาดูอาการไหมคะ”“ไม่ต้อง ขอยาแก้ไข้ให้ผม แล้วโทรเรียกมะลิให้ผมที”ยุวดีเบิกตาโตด้วยความแปลกใจ เป็นไข้ทำไมไม่ให้ตามหมอ ทั้งๆ ที่เดินกันวุ่นอยู่เต็มโรงพยาบาล แต่กลับให้โทรตามน้องสาวนอกไส้ที่ครอบครัวของเขารับมาอุปการะเสี
“งั้นหนูนอนพักเถอะนะ เดี๋ยวพี่ต้องดูเคสต่อ จะเข้าไปประชุมกับอาจารย์หมอด้วย ช่วงนี้พี่คงไม่ได้กลับบ้านหลายวันเลย หนูมานอนกับพี่ที่นี่ไหม”“ไม่ได้หรอกค่ะ ช่วงนี้หนูไม่ได้ไปกองถ่าย ถ้าหายไปทั้งคืน คุณป้าสงสัยแน่ๆ แล้วคุณป้าก็มีโปรแกรมให้หนูพาไปหลายที่เลย ไม่รู้จะว่างไปหาพี่ได้หรือเปล่า”“อืม ไม่เป็นไรครับ ไปทำหน้าที่ลูกสะใภ้ที่ดีก่อนนะ พี่ทนคิดถึงหนูได้ งานพี่ก็หนัก คงไม่ค่อยได้พักเท่าไหร่ ถ้าหนูมาพี่ก็คงอดใจไม่ไหว สงสัยจะไม่มีแรงจับมีดผ่าตัด”“บ้า พี่น่าน ลูกสะใภ้อะไรกันคะ”“อ้าว หนูเป็นเมียพี่ไม่ใช่หรอครับ”“ก็แค่ทางพฤตินัย ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเราเป็นอะไรกัน”“พี่ว่ามีคนรู้นะ”“ใครคะ ก็ไอ้เหนือกับไอ้พีทไง”“พี่สองคนเขารู้ได้ไงคะ พี่บอกหรอ”“กับไอ้เหนือ พี่ไม่ต้องบอกหรอก มันรู้เอง มันเห็นพี่แอบย่องเข้าบ้านหนู ส่วนไอ้พีท พี่ปรับทุกข์กับมันน่ะ เมียเด็กของพี่ไม่รัก”“หนูอยากจะตีพี่จริงๆ เลย เห็นไหม บอกแล้วว่าจะต้องมีคนเห็น บอกว่าไม่ต้องมาทุกวันก็ไม่ยอม หื่นจนได้เรื่อง ดีที่พี่เหนือเป็นคนเห็น ถ้าเป็นคนอื่นหนูซวยแน่ๆ แบบนี้หนูไม่กล้ามองหน้าพี่เหนือแล้ว”“ฮ่าฮ่าฮ่า อะไรกัน ไม่เห็นต้องอายเลย