Home / มาเฟีย / กรงปรารถนา / บทที่ 8 เด็กเสี่ย - 100%

Share

บทที่ 8 เด็กเสี่ย - 100%

last update Last Updated: 2025-07-13 20:32:13

“ไม่เป็นไรหรอกบอย รักกลับเองดีกว่า อีกอย่างนะ ทางไปบ้านบอยกับบ้านรักมันคนละทางกันเลยนะ บอยไม่ต้องไปส่งเราหรอก”

ต้องรักรีบปฏิเสธออกมาทันทีพร้อมกับยกแขนของยุวรรณดาขึ้นมาดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือของเพื่อน

“จะสี่โมงแล้วเดี๋ยวเรากลับบ้านก่อนดีกว่า พรุ่งนี้เจอกันนะ บาย”

เมื่อเห็นว่าอีกสิบนาทีจะบ่ายสี่โมง ต้องรักจึงรีบตัดบทแล้วหาทางเลี่ยงออกมาทันที เพราะกลัวว่าอนุวัฒน์จะดึงดันขอไปส่งบ้านให้ได้ เพื่อนชายคนนี้คิดกับตนอย่างไรใช่ว่าเธอจะไม่รู้ แม้ว่าเขาจะดีและมีน้ำใจกับเธอมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถคิดกับเขาเกินเพื่อนได้จริงๆ

เดินห่างเพื่อนออกมาได้ไม่เท่าไร โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าก็สั่นเตือนขึ้นมาว่ามีคนโทร.เข้า ต้องรักเอามือควานหาโดยไม่หยุดเดิน เมื่อเจอแล้วก็กดรับสายทันที โดยไม่ต้องดูชื่อเพราะรู้ว่าใครโทร.มา

“ค่ะ รักกำลังจะถึงหน้ามอแล้วค่ะคุณธิป...ได้ค่ะ”

หลังจากวางสาย ร่างเล็กก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปทางหน้ามหาวิทยาลัย ยิ่งเขาบอกว่ากำลังจอดรถรออยู่ หญิงสาวก็ยิ่งลนลานรีบไปให้ถึงโดยเร็วที่สุดเพราะไม่อยากให้เขารอนาน จึงไม่ทันสังเกตว่ามีใครคนหนึ่งแอบตามเธอมาห่างๆ อย่างไม่ให้คลาดสายตา

รถยุโรปที่แสนคุ้นตาจอดเลยห่างออกไปจากป้ายรถประจำทางประมาณสามสิบเมตร ต้องรักจึงรีบเดินให้เร็วขึ้นพร้อมกับนึกขอบคุณเขาในใจที่ไม่จอดใกล้กับป้ายรถประจำทางอันเป็นจุดเด่นและคนพลุกพล่าน มิเช่นนั้นหากมีคนรู้จักมาเห็นคงเอาไปพูดแน่ว่าเธอมีเสี่ยเลี้ยงอยู่

เอกรัฐมองกระจกรถด้านข้าง เห็นหญิงสาวในชุดนักศึกษากำลังเดินมาก็อดขำไม่ได้

“หัวเราะอะไรวะเอก” ชัชวาลที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยหันมาถาม เอกรัฐจึงเอี้ยวตัวไปมองเจ้านายที่นั่งนิ่งอยู่เบาะหลัง

“เห็นรักใส่ชุดนักศึกษาแบบนี้แล้วรู้สึกเหมือนคุณธิปเป็นอาเสี่ยกำลังเลี้ยงต้อยเลย” ชายหนุ่มพูดพลางหัวเราะ ในขณะที่คนถูกพาดพิงทำเพียงเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะพูดออกมายิ้มๆ

“ไม่เถียง ก็ฉันกำลังเลี้ยงต้อยอยู่จริงๆ นี่”

เพียงแต่เจ้าตัวยังไม่รู้เท่านั้นว่าตัวเองจะถูกเขาจับกินวันไหน ตอนนี้เขาก็แค่รอเวลาให้อะไรๆ มันลงตัวเสียก่อน ช่วงนี้จึงได้แต่สร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกับเธอไปทีละนิด และถ้าเธอพร้อมสำหรับความสัมพันธ์ที่ก้าวไปอีกขั้นเมื่อไร เมื่อนั้นเธอจะได้รู้เองว่าการเป็นผู้หญิงของเขานั้นโชคดีแค่ไหน

ประตูรถด้านหลังเปิดออกพร้อมกับร่างเล็กของต้องรักแทรกเข้ามานั่งคู่กับชนาธิปที่เบาะหลัง หลังจากปิดประตูเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็หันไปยกมือไหว้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างกัน ทำเอาสองหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหน้าถึงกับขำพรืดออกมา

“หืม...มีอะไรหรือคะ”

ต้องรักทำหน้าเหลอหลาหันมองคนนั้นทีคนนู้นทีอย่างสงสัย กระทั่งรถเคลื่อนตัวออกสู่ถนนแล้ว เอกรัฐจึงหันมาไขข้อข้องใจให้สาวน้อยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาสักอย่าง

“ไม่มีอะไร แค่รู้สึกว่าตอนที่รักไหว้คุณธิปน่ะ เหมือนลูกกำลังไหว้พ่อเลย” พูดจบเจ้าตัวก็หัวเราะร่าโดยมีชัชวาลเป็นลูกคู่หัวเราะตามไปด้วยอย่างสนุกสนาน ส่วนคนที่ถูกเปรียบเทียบให้เป็นพ่อนั้นได้แต่ยิ้มมุมปากบางๆ พลางส่ายหน้าไปมาอย่างไม่ใส่ใจ และไม่คิดจะเก็บมาเป็นอารมณ์กับการแซวเล่นของลูกน้อง

เอกรัฐกับชัชวาลอยู่กับเขามานานมาก สองคนนี้นอกจากจะเป็นลูกน้องคู่ใจแล้ว ยังเป็นเหมือนเพื่อน เหมือนน้องชายก็ว่าได้ พวกนี้จึงกล้าคุยเล่นกับเขาในยามปกติเพราะรู้ดีว่าเขาไม่ถือสา แต่เวลาทำงานให้เขา สองคนนี้ก็ทำแบบถวายหัว

“พวกพี่ก็พูดเกินไป คุณธิปไม่แก่ขนาดนั้นสักหน่อย”

ต้องรักอดเถียงแทนเขาไม่ได้ แม้จะรู้อยู่ว่าอายุเขาน่าจะเกินสามสิบแล้ว แต่หน้าตาและผิวพรรณของชนาธิปแทบไม่ต่างจากเพื่อนผู้ชายที่มหาวิทยาลัยเลย ทั้งยังดูดีกว่าด้วยซ้ำ

“เฮ้ย...พวกพี่ยังไม่ได้พูดสักคำเลยว่าคุณธิปแก่ มีแต่รักนั่นแหละพูด”

ชัชวาลคลี่ยิ้มกว้างเมื่อมองเห็นสีหน้าเถียงไม่ออกของหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในรถ ในขณะที่ต้องรักได้แต่ปิดปากเงียบ แต่หางตาแอบชำเลืองมองไปยังคนข้างกาย แล้วก็ต้องรีบถอนสายตาออกมาเมื่อเห็นว่านัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้นกำลังมองเธออย่างคาดโทษ

สิ่งที่ต้องรักไม่รู้เลยก็คือตอนที่เธอเปิดประตูรถแล้วก้าวเข้าไปนั่งด้านใน จนกระทั่งรถเคลื่อนตัวออกไปนั้น ร่างสูงโปร่งของอนุวัฒน์ที่แอบเดินตามมาตั้งแต่อยู่ในมหาวิทยาลัย ตอนนี้กำลังทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้ในป้ายรถประจำทางอย่างหมดแรง

รถคันนั้นเขาจำได้ว่าเป็นรถของใคร แต่ที่เขาไม่เข้าใจคือทำไมต้องรักถึงไปกับรถคันนั้น

“ไม่จริงใช่ไหมรัก”

ชายหนุ่มยกสองมือขึ้นปิดหน้าก่อนจะลูบแรงๆ แล้วมองท้ายรถหรูที่ขับห่างออกไปเรื่อยๆ อีกครั้งราวกับหลอกตัวเองว่าเมื่อครู่เขาแค่ตาฝาด แต่ไม่ว่าจะดูกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง สีของรถ รุ่นรถ หรือแม้แต่เลขทะเบียนของรถก็ยังเป็นคันเดิมอยู่นั่นเอง...รถของคุณชนาธิป เจ้านายของเขา

ผู้หญิงที่เขาหลงรักไปเป็นนกน้อยในกรงทองของผู้ชายคนอื่นแล้วอย่างนั้นหรือ

เมื่อมาถึงห้องพัก ชนาธิปเดินเข้าห้องนอนของตัวเองเพื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า ต้องรักก็เช่นกัน หลังจากที่หญิงสาวเปลี่ยนเป็นชุดลำลองสบายๆ แล้วเธอก็หอบเลกเชอร์ของยุวรรณดาออกมาที่ห้องนั่งเล่น โดยตัวเธอนั่งลงกับพื้นพรมและวางสมุดเลกเชอร์ไว้บนโซฟา

“จะอ่านหนังสือหรือ ไปนั่งอ่านที่ห้องทำงานก็ได้นะ” ชายหนุ่มเห็นเธอนั่งลงกับพื้นจึงเสนอให้ไปใช้ห้องทำงานของตน

“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอก รักว่านั่งอย่างนี้สบายกว่า”

ในเมื่อเธอบอกอย่างนั้นเขาก็ไม่เซ้าซี้ต่อ ชายหนุ่มจึงเดินไปหยิบโน้ตบุ๊กในห้องทำงานแล้วออกมานั่งที่โซฟาอีกตัว ราวกับต้องการอยู่เป็นเพื่อนเธอไปเงียบๆ ต่างคนต่างจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้าของตัวเองโดยไม่มีใครพูดอะไร แต่ในใจของทั้งคู่กลับสัมผัสได้ถึงสายใยอบอุ่นบางเบาที่ค่อยๆ ก่อตัวเข้ามาโอบล้อมทั้งสองคนไว้ให้แน่นแฟ้นขึ้นกว่าเดิม

ต้องรักแอบชำเลืองมองไปยังร่างสูงที่นั่งอยู่บนโซฟาด้านข้าง ก่อนหน้านี้เขาใส่สูทเต็มยศดูภูมิฐานเสียจนเธอต้องลอบถอนหายใจให้แก่ความน่าหลงใหลของเขา ทว่าตอนนี้เขาอยู่ในชุดที่แสนสบาย เสื้อยืดคอวีสีขาวไม่มีลวดลายกับกางเกงกีฬาขาสามส่วน กระนั้นเขาก็ยังดูดีได้ทุกกระเบียดนิ้ว

“มีอะไรจะถามรึเปล่าต้องรัก”

ชนาธิปประสานสายตากับเธอนิ่ง เห็นเธอสะดุ้งเล็กน้อยเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่ากำลังนั่งจ้องเขาอยู่แล้วก็อดขำไม่ได้ มุมปากหยักยกขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาสีนิลลึกล้ำเจือแววขบขัน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรักใคร่เอ็นดู

“ปละ...เปล่าค่ะ แต่จริงๆ แล้วก็มีเรื่องสงสัย” ต้องรักหลบสายตาเขาเป็นพัลวัน ใบหน้าค่อยๆ ขึ้นสีระเรื่อด้วยความอับอายที่ถูกจับได้ว่าแอบมอง

“สงสัยว่า?” ชายหนุ่มเว้นช่วงให้เธอพูด ต้องรักเองก็ดูเหมือนกำลังชั่งใจว่าจะถามดีหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ถามออกมา

“สงสัยว่าตอนนี้...เอ่อ...คุณธิปอายุเท่าไรแล้วคะ”

ถามจบเจ้าตัวก็ก้มหน้างุด ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง ด้วยเกรงว่าจะเจอกับสายตาพิฆาตคู่นั้นประหัตประหารเธอทางสายตา

“สามสิบห้า” เสียงทุ้มตอบอย่างนุ่มนวล ต้องรักจึงกล้าเงยหน้าขึ้นมองเขา ครั้นเห็นเขากำลังยิ้มบางๆ ส่งมาให้เธอก็อดยิ้มตอบไม่ได้

“งั้นฉันขอถามเธอบ้าง”

นัยน์ตาคมกริบไม่ละไปจากใบหน้าของหญิงสาว ต้องรักเลิกคิ้วขึ้น รอฟังว่าเขาจะถามอะไร

“สามสิบห้าแก่เกินไปสำหรับเธอรึเปล่า ต้องรัก”

ทันทีที่ได้ยินคำถาม ก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายก็กระหน่ำเต้นเสียจนมือสั่นตามไปด้วย ริมฝีปากคลี่ยิ้มออกเองโดยอัตโนมัติ แม้ว่าเธอจะพยายามฝืนมันแล้วก็ตามที

“สำหรับรัก...ไม่ค่ะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กรงปรารถนา   บทที่ 4 ในอุ้งมืออุ่น - 35%

    ต้องรักพยายามจะยันกายลุกขึ้นนั่ง ทว่ามือของดิลกก็เลื่อนขึ้นมาตรึงข้อมือไว้ทั้งสองข้าง หญิงสาวจึงก่นด่าพร้อมทั้งข่มขู่ด้วยความแค้นเคือง“ไอ้หลก แกฆ่าแม่ฉัน ฉันจะเอาแกเข้าคุกให้ได้ ไอ้เลว!”“กูไม่ได้ฆ่าแม่มึง นังจงมันตกบันไดลงมาเอง”ดิลกรีบแก้ต่างให้ตัวเอง ก่อนจะพูดบางอย่างที่ต้องรักได้ฟังก็ยิ่งโกรธแค้นเป็นร้อยเท่าพันทวี“กะอีแค่ทองเส้นเท่าหนวดกุ้ง แม่มึงจะหวงไว้ทำไมนักหนา กูแค่ขอยืมไปหมุนหน่อยเดียวแต่มันไม่ยอมให้ กูก็ต้องขโมยเอาสิ แม่มึงวิ่งตามกูจะเอาคืนแล้วพลาดตกบันไดมาเองไม่เกี่ยวกับกูสักหน่อย”“ไอ้ชาติชั่ว! ปล่อยนะ ไอ้ทุเรศ! ปล่อยฉัน” ต้องรักดิ้นรนสุดแรงเท่าที่ตัวเองจะมี ปากก็ร้องด่าทอดิลก พ่อเลี้ยงไปด้วย“ปล่อยก็โง่แล้ว กูเล็งมึงมาตั้งนาน ตอนแม่มึงอยู่กูทำอะไรไม่ได้เพราะติดคำสาบานที่ให้ไว้กับแม่มึง แต่ตอนนี้แม่มึงมันก็ตายไปแล้ว ยอมๆ กูไปเถอะน่ากูรู้ว่ามึงเองก็ไม่ได้สดซิงอะไรนักหรอกทำงานกลางคืนอย่างนั้นน่ะ”ถ้อยคำต่ำทรามที่พ่นออกมาจากปากของดิลกทำเอาหญิงสาวแ

  • กรงปรารถนา   บทที่ 3 สูญเสีย - 100%

    “ไปคุยกันที่บ้านเอ็งดีกว่า” พูดจบก็เดินนำหน้าหญิงสาวไปอย่างเชื่องช้า ต้องรักจึงเดินไปข้างๆ พร้อมกับชะลอฝีเท้าให้ช้าลงตามไปด้วยยายสาเป็นคนแก่คนหนึ่งที่คนในซอยมักไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไรนัก อาศัยอยู่เพียงลำพังในบ้านเช่าใกล้วัด นานๆ จึงจะมีลูกหลานมาเยี่ยมมาหาสักครั้ง ซึ่งเธอเองก็ไม่ค่อยเข้าใจลูกหลานของยายสานักว่ากำลังคิดอะไรกันอยู่ ถึงได้ปล่อยปละละเลยให้คนชราที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงอยู่เพียงลำพังได้“ยายมีของมาคืนให้เอ็งน่ะ”เมื่อเข้ามาในบ้าน หญิงชราก็นั่งลงที่เก้าอี้แล้วรูดซิปล้วงหยิบเอาถุงกำมะหยี่สีแดงออกมาจากกระเป๋าเสื้อคอกระเช้าพลางยื่นให้หญิงสาวตรงหน้าต้องรักเอื้อมมือไปรับมา คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างงุนงงสงสัย เห็นยายสาพยักพเยิดให้เธอเปิดถุงออกดูจึงได้รู้ว่าสิ่งที่อยู่ด้านในคือแหวนทองประดับด้วยทับทิมสีแดงเม็ดเดี่ยวๆ ไม่ใหญ่มากนัก แต่มันกลับทำให้หญิงสาวน้ำตารื้นขึ้นมาทันที เพราะจำได้ดีว่าแหวนวงนี้มีความสำคัญกับมารดามากเพียงใด“นังจง แม่เอ็งน่ะเอามาฝากยายไว้ตั้งนานแล้ว เพราะขืนเอาเก็บไว้ที่บ้านไอ้หลกมันคงขโมยไปขายเอาเงิ

  • กรงปรารถนา   บทที่ 3 สูญเสีย - 75%

    ร่างผอมบางของจงรักถูกลุงเพิ่มอุ้มพาไปยังเบาะรถสามล้ออย่างทุลักทุเล โดยมีต้องรักและนวลตามขึ้นไปนั่งอยู่บนพื้นด้วย จากนั้นรถก็มุ่งไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันทีเวลาผ่านไปนานเท่าไรก็สุดรู้เพราะต้องรักไม่ได้สนใจ ตอนนี้สายตาของหญิงสาวจ้องเขม็งไปยังประตูห้องฉุกเฉินที่มารดาเข้าไปอยู่ในนั้นได้พักใหญ่แล้ว การรอคอยช่างแสนทรมาน ยิ่งยาวนานก็ยิ่งรู้สึกราวกับหัวใจถูกบีบอัดให้เล็กลงเรื่อยๆ จนเหมือนจะหายใจไม่ออก“รักเอ๊ย...แม่เอ็งถึงมือหมอแล้ว เอ็งไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ”นวลที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เดินเข้ามาบีบหัวไหล่เบาๆ อย่างปลุกปลอบ ต้องรักหันมามองครู่หนึ่งก่อนน้ำตาที่สู้อุตส่าห์กักเก็บไว้จะไหลทะลักออกมาจากหน่วยตาอีกครั้ง“รักไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น รักกลับมาจากทำงานก็เห็นแม่นอนอยู่หน้าบันไดแล้ว” ต้องรักพูดปนสะอื้น ในขณะที่นวลนั้นทำท่านึกอะไรบางอย่าง“รู้สึกป้าจะได้ยินไอ้หลกมันทะเลาะกับแม่เอ็งนะ เหมือนมันจะเอาอะไรสักอย่างแล้วแม่เอ็งไม่ยอมให้น่ะ ป้าเองก็ไม่ได้สนใจเพราะเห็นทะเลาะกันเกือบทุกวันอยู่แล้ว”ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรกันต

  • กรงปรารถนา   บทที่ 3 สูญเสีย - 50%

    ต้องรักเดินเกาะกลุ่มกับเพื่อนพนักงานออกมาจากอาคารเพื่อกลับบ้านดังเช่นทุกวัน นัยน์ตาคู่สวยชะเง้อมองไปยังที่จอดรถทางฝั่งของผู้บริหารอย่างลืมตัว รถยุโรปคันหรูที่เธอเคยนั่งยังคงจอดนิ่งอยู่ที่เดิม อันเป็นการบอกว่าเขาคนนั้นยังไม่ได้ออกจากที่นี่ อยากหยุดยืนเพื่อรอส่งตอนที่รถของเขาแล่นผ่าน แต่ก็เกรงว่าหากทำอย่างนั้นเขาจะมองว่าเธอกำลังทอดสะพานให้เขา คิดได้ดังนั้นจึงตัดสินใจเดินตามกลุ่มเพื่อนออกไปทว่ายังไม่ทันเดินพ้นเขตลานจอดรถดี รถคันที่ต้องรักมองดูอยู่เมื่อครู่ก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวแล่นผ่านหน้าของทุกคนไป ต้องรักมองไปยังกระจกของที่นั่งตอนหลังพร้อมกับคลี่ยิ้มให้ มองผิวเผินอาจจะดูเหมือนว่าเธอกำลังยิ้มให้เงาของตัวเองที่สะท้อนกลับมา แต่ใครเลยจะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเธอกำลังยิ้มให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะหลังนั้นต่างหาก“รัก!”ได้ยินเสียงของใครคนหนึ่งเรียกมาจากด้านหลัง แต่เจ้าของชื่อไม่ได้หันกลับไปเพราะมัวแต่มองส่งรถคนนั้นจนกระทั่งลับสายตา พร้อมกับที่ผู้ตะโกนเรียกมาหยุดรถมอเตอร์ไซค์อยู่ข้างๆ“รักขึ้นรถเราเถอะ เดี๋ยวเราไปส่ง”อน

  • กรงปรารถนา   บทที่ 8 เด็กเสี่ย - 100%

    “ไม่เป็นไรหรอกบอย รักกลับเองดีกว่า อีกอย่างนะ ทางไปบ้านบอยกับบ้านรักมันคนละทางกันเลยนะ บอยไม่ต้องไปส่งเราหรอก”ต้องรักรีบปฏิเสธออกมาทันทีพร้อมกับยกแขนของยุวรรณดาขึ้นมาดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือของเพื่อน“จะสี่โมงแล้วเดี๋ยวเรากลับบ้านก่อนดีกว่า พรุ่งนี้เจอกันนะ บาย”เมื่อเห็นว่าอีกสิบนาทีจะบ่ายสี่โมง ต้องรักจึงรีบตัดบทแล้วหาทางเลี่ยงออกมาทันที เพราะกลัวว่าอนุวัฒน์จะดึงดันขอไปส่งบ้านให้ได้ เพื่อนชายคนนี้คิดกับตนอย่างไรใช่ว่าเธอจะไม่รู้ แม้ว่าเขาจะดีและมีน้ำใจกับเธอมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถคิดกับเขาเกินเพื่อนได้จริงๆเดินห่างเพื่อนออกมาได้ไม่เท่าไร โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าก็สั่นเตือนขึ้นมาว่ามีคนโทร.เข้า ต้องรักเอามือควานหาโดยไม่หยุดเดิน เมื่อเจอแล้วก็กดรับสายทันที โดยไม่ต้องดูชื่อเพราะรู้ว่าใครโทร.มา“ค่ะ รักกำลังจะถึงหน้ามอแล้วค่ะคุณธิป...ได้ค่ะ”หลังจากวางสาย ร่างเล็กก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปทางหน้ามหาวิทยาลัย ยิ่งเขาบอกว่ากำลังจอดรถรออยู่ หญิงสาวก็ยิ่งลนลานรีบไปให้ถึงโดยเร็วที่สุดเพราะไม่อยากให้เขารอนาน จึง

  • กรงปรารถนา   บทที่ 3 สูญเสีย - 25%

    ต้องรักตื่นนอนประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่ง รู้สึกว่าอาการปวดตึงที่ข้อเท้าเริ่มดีขึ้นมาก อาจเป็นเพราะเมื่อตอนเช้ามืดที่ผ่านมาเธอได้เล่าให้มารดาฟังว่าเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนเล็กน้อยจนข้อเท้าแพลง ท่านจึงนวดจับเส้นให้จนสามารถเดินลงน้ำหนักได้เต็มเท้ามากขึ้นหญิงสาวจัดการทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ เสร็จเรียบร้อยก็เดินลงไปชั้นล่าง ได้ยินเสียงตำน้ำพริกอยู่ในครัวจึงเดินเข้าไปดูเผื่อมีอะไรที่พอช่วยได้บ้าง“มีอะไรให้ช่วยไหมแม่”ร่างเล็กเดินเข้าไปยืนเมียงมองที่โต๊ะเล็กข้างเตาแก๊สปิกนิก เห็นมีไข่ไก่วางไว้ในชามใบเล็กสองฟอง มีต้นหอมที่ยังไม่ได้ซอยวางอยู่บนเขียง เธอจึงเดินเข้าไปจัดการต่อให้ทันที“งั้นรักเจียวไข่เองนะ” พูดพลางลงมือหั่นต้นหอมสำหรับใส่ไข่เจียว พอดีกับที่มารดาตำน้ำพริกเสร็จจึงหันมาถามบุตรสาวอย่างเอาใจใส่ เพราะเห็นเวลาเพิ่งจะเที่ยงเท่านั้น เท่ากับว่าต้องรักเพิ่งนอนไปได้แค่ห้าชั่วโมง“นอนอิ่มแล้วเหรอลูก น่าจะนอนอีกสักหน่อยไหนๆ ก็หยุดเรียนแล้ว”“ไม่ไหวละจ้ะแม่ ท้องร้องโครกครากเลยต้องลงมาหาอะไรกินนี่แหละ อีกอย่างนะ วันนี้รักจะไปแถวที่ทำงานเร็วกว่าเดิมสักหน่อย ว่าจะลองไปเดินดูห้องเช่าหรืออพาร์ตเมนต์แถว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status