การเดินทางจากไทยไปอิตาลีใช้เวลาค่อนข้างนานพอสมควร กว่าจะถึงก็เข้าสู่วันใหม่
ขณะนี้ณิชาไม่สามารถขัดขืนอะไรได้เลย หญิงสาวจำเป็นต้องทำทุกอย่างตามคำสั่งของเจย์เดน ไม่ว่าเขาจะพูดหรือกระทำสิ่งใดก็ตาม หากยังอยากมีชีวิตก็ควรเชื่อฟัง
“รีบเดินสิวะ ลีลาอยู่ได้” มาเฟียหนุ่มสั่งเสียงเข้ม ขณะกำลังย่างกรายไปขึ้นรถตู้ที่จอดรอ
“ฉันอยากกลับบ้าน” กวาดสายตามองรอบข้างซึ่งเป็นสถานที่แปลกใหม่ ไม่คุ้นเคยสำหรับหญิงสาวสักนิด
“กล้าดียังไงมาพูดแบบนี้ เธอไม่มีสิทธิ์นั้นสักหน่อย” มาเฟียหนุ่มผลักไหล่บอบบาง กระทั่งณิชาล้มลงบนพื้น ส่วนเขาจากไปทันใด ไม่วายสั่งลูกน้องคนสนิทให้พาเธอไปยังรถตู้
“ลุกไหวไหมครับ” ไททันถามอย่างอ่อนโยน เขายื่นมือให้เธอ
“ทำไมเจ้านายของพวกคุณใจร้ายจัง”
“รีบไปเถอะ ถ้าคุณไม่อยากโดนไปมากกว่านี้” ไททันไม่ตอบคำถามณิชา เขาตัดบทและช่วยพยุงหญิงสาว จากนั้นพาเธอไปยังรถตู้คันหรู ก่อนมุ่งหน้าสู่คฤหาสน์
รถตู้เคลื่อนตัวตามท้องถนน กระทั่งถึงสถานที่มุ่งหมาย ณิชามองประตูรั้วเปิดกว้างต้อนรับเจ้าของ เธอทอดสายตามองความงดงามตั้งตระหง่านเด่นเบื้องหน้าอย่างตกตะลึง
‘รวยขนาดนี้เลย’ พูดในใจพร้อมเหลือบมองเขาที่นั่งไขว่ห้างข้างกัน ไม่ว่าเขาจะทำสีหน้าอย่างไรยังคงดูดีไม่เปลี่ยน จนเธอแอบเคลิ้มชั่วขณะได้มองหน้าหล่อ
“ถึงแล้วครับ”
“คะ” เสียงของบอดี้การ์ดหนุ่ม ทำให้เธอสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เมื่อมองข้างกายปรากฏว่าคนตัวโตหายไปแล้ว
“ลงไปตอนไหน” บ่นพึมพำ แล้วก้าวเท้าเล็กลงจากรถและตามหลังไททันเข้าไปข้างในบ้าน
นัยน์ตากลมโตหันมองอย่างแอบชื่นชมในใจเงียบ ๆ ภายในคฤหาสน์ตกแต่งได้สวยงาม เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นราคาไม่ต่ำกว่าหลักแสน ระยิบระยับจนแสบตาไปหมด
คนตัวเล็กไปหยุดหน้ามาเฟียหนุ่มที่นั่งบนโซฟา โดยมีเหล่าแม่บ้านและบอดี้การ์ดหลายสิบคนยืนเรียงรายกัน
“กว่าจะมา”
“ขอโทษค่ะ” ก้มหน้าสำนึกผิด เม้มริมฝีปากเข้าหากันด้วยความโกรธ เธอโมโหเขามากแต่ทำอะไรไม่ได้
“ทุกคนจงฟังให้ดี ผู้หญิงคนนี้มาอยู่ในฐานะเชลยของฉัน เพราะฉะนั้นถ้าใครเห็นผู้หญิงคนนี้หนีไปเมื่อไร รีบแจ้งฉันทันทีหรือถ้าใครคิดช่วย ฉันเอาตายแน่!” เจย์เดนเด้งตัวไปหาคนตัวเล็ก มือหนาเชยคางมนพร้อมกับประสานสายตากัน รังสีอํามหิตแผ่ซ่านจากตัวเขาส่งผลให้ณิชาตัวสั่น
“เข้าใจไหม” เอ่ยถามเสียงดังลั่นระหว่างกวาดสายตามองทุกคน
“ครับ/ค่ะ” ทั้งหมดประสานเสียงตอบรับเจ้านาย
“ส่วนเธออย่าคิดที่จะหนีถ้ายังอยากมีชีวิต”
“คุณมันเลวที่สุด”
“หึ! ฉันจะถือว่าเป็นคำชมละกัน” เขาปล่อยมือจากคางกลมกลึง แล้วดันเธอเล็กน้อย ทว่าอีกคนกลับล้มลงกระแทกพื้นง่ายดาย
ณิชาชำเลืองดูผู้คนรอบข้าง สายตาแต่ละคนจ้องเธออย่างไม่เป็นมิตร ทุกคนทำราวกับเธอเป็นศัตรูคู่แค้นกันมาเนิ่นนาน
“ป้าแมรี่พาเชลยของผมไปพักหน่อย”
“ค่ะ” หัวหน้าแม่บ้านตอบรับคำสั่งของเจ้านายหนุ่ม เมื่อได้ยินว่าณิชาคือเชลยจึงไม่ถนอมก่อนกระชากแขนเล็กของสาวเอเชียรุนแรงจนแทบหลุดจากบ่า
“เจ็บนะคะ” ณิชาบอกหญิงวัยกลางคนด้วยโทนเสียงไม่พอใจ
“ไม่ตายหรอก” ไม่ใช่คำพูดของแมรี่ แต่เจย์เดนเป็นคนกล่าว เขามองเธออย่างเย้ยหยัน ใครก็ตามที่ทำร้ายน้องสาวเขาจะไม่มีวันปล่อยไปเด็ดขาด
ณิชาหันขวับมองเขา ผู้ชายคนนี้ไม่เห็นเธอเป็นมนุษย์เลย
“พาไปได้แล้ว”
“ค่ะบอส” แมรี่โค้งตัวทำความเคารพเจ้านาย จากนั้นจูงแขนของณิชากึ่งลากพาไปที่พัก
ภายในห้องขนาดเล็กมีเฟอร์นิเจอร์เพียงไม่กี่ชิ้น ณิชานั่งกอดเข่ามุมหนึ่งของห้อง ทบทวนเรื่องราวมากมายที่พรั่งพรูเข้ามาในชีวิตอย่างไม่เข้าใจ
ทุกอย่างเกิดขึ้นค่อนข้างเร็วมากทำเอาตั้งรับไม่ทัน แค่เพียงไม่กี่วันเธอก็มาอยู่อิตาลีแล้ว ทั้งที่ชีวิตก่อนหน้านี้ค่อนข้างธรรมดามาก ๆ แค่บังเอิญช่วยคริสตัลจากสมายล์ในวันนั้น เรื่องราวต่าง ๆ เปลี่ยนผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ
“ทำไมเขาคิดว่าเราทำร้ายคริสตัลกัน” เธอบ่นพึมพำและทอดสายตามองวิวนอกหน้าต่าง
ขณะนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่ง จากท้องฟ้าสดใสก่อนหน้ากลายเป็นมืดมิด เธอเพิ่งรับรู้ประเดี๋ยวนี้ว่าตัวเองจมปลักกับความคิดนานขนาดนี้ ก่อนความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว
“หรือว่าเขาจะเข้าใจว่าเราเป็นคนผลักคริสตัลตกบันได” คนตัวเล็กเด้งตัวลุกขึ้นยืนพรวด ไม่ว่าอย่างไรต้องอธิบายความจริงให้กระจ่าง เธอจะไม่ยอมอยู่ที่นี่ให้เขารังแกเด็ดขาด
หญิงสาวรีบออกจากห้องมุ่งหน้าไปยังห้องโถงที่คาดว่าเขาน่าจะอยู่ที่นั่น
“เธอ ๆ เห็นเจ้านายเธอไหม” ณิชาสะกิดสาวใช้คนหนึ่งที่บังเอิญผ่านมาพอดี ทว่าอีกคนมองเธอเหยียด ๆ ก่อนจากไป
“เฮอะ! รู้หรอกว่าไม่ชอบ ไม่เห็นต้องแสดงออกชัดเจนขนาดนั้น” เธอบอกอย่างไม่สบอารมณ์
เมื่อไม่รู้ว่าคนตัวโตไปไหน จึงรอคอยเขายังห้องโถงเกือบหนึ่งชั่วโมง กระทั่งได้ยินเสียงรถไม่รีรอรีบวิ่งไปยังที่หมาย ก่อนพบกับเจย์เดนมีสภาพโซซัดโซเซ โดยไททันช่วยพยุงผู้เป็นนายเข้าข้างใน
“คุณคะ”
“ใครวะ” คนเมาพอมีสติเงยหน้ามองณิชา
“ฉันขอคุยด้วยได้ไหมคะ”
“เชิญกลับไปพักก่อนเถอะ คืนนี้บอสไม่ค่อยสะดวก” ไททันเอ่ยขึ้น
“แต่ฉันมีเรื่องสำคัญ” เธอมองบอดี้การ์ดหนุ่มอย่างอ้อนวอน
“เชื่อผมเถอะครับ”
“นะคะ”
“แต่ว่า…” ไททันพูดได้เพียงเท่านั้น เจย์เดนยกแขนกำยำขึ้น บ่งบอกให้หยุดโต้เถียง
“ไปพักเถอะไททัน ฉันจัดการเอง”
“ครับ” เมื่อเป็นคำสั่งของเจ้านาย บอดี้การ์ดจำยอมจากไปง่ายดาย ปล่อยให้ณิชาและเจย์เดนอยู่ตามลำพัง
“มีอะไร”
“ฉันอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงคิดว่าฉันเป็นคนทำร้ายคริสตัล ฉันเป็นคนช่วยชีวิตน้องสาวของคุณต่างหาก”
“ช่วยชีวิตเหรอ น่าเชื่อถือตายแหละ” จบคำพูด เจย์เดนเดินผ่านหน้าณิชา
“คุณต้องเชื่อฉันนะคะ” เมื่อเขาหนี เธอไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นจึงวิ่งไปขวางหน้า
“ถอยไป”
“คุณต้องฟังฉันค่ะ ฉันไม่ได้ทำร้ายคริสตัล ฉันไม่รู้หรอกนะว่าใครเป็นคนบอกคุณ แต่คุณต้องปล่อยฉันกลับบ้าน”
“ปล่อยกลับเหรอ ฝันไปเถอะ” ฝ่ามือใหญ่บีบท่อนแขนเล็กรุนแรง เขาแค้นผู้หญิงตรงหน้ามากที่ทำผิดแล้วไม่ยอมรับ ยิ่งเห็นหน้ายิ่งขยะแขยง
“เจ็บนะคะ”
“แล้วตอนทำร้ายคนอื่นล่ะ คิดว่าคนอื่นไม่เจ็บหรือไง เธอทำให้คริสต้องเสียลูก” เจย์เดนผลักคนตัวเล็กก่อนย่อตัวลงอยู่ระดับเดียวกับเธอ จากนั้นบีบปลายคางมนกลมกลึงแทบแหลกคามือ
“ไอ้หน้าตัวเมีย ทำร้ายได้แม้กระทั่งผู้หญิง” เสียงหวานพ่นคำด่าใส่หน้าหล่อเหลา
“หน้าตัวเมียเหรอ” โน้มหน้าคมคายเข้าใกล้ใบหูขาวสะอาดพลางกระซิบถาม แล้วชำเลืองมองเธออย่างมีเลศนัย นิ้วแกร่งลูบไล้พวงแก้มเนียนใส
สัมผัสของเขาทำเธอร้อนวูบ ณิชารวบรวมพละกำลังผลักมาเฟียหนุ่ม
“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน”
“ทำไม! ชอบยุ่งกับคนมีเจ้าของเหรอ” เขาหมายถึงเธอไปยุ่งวุ่นวายกับไต้ฝุ่น แต่ณิชาไม่เข้าใจอีกคนกำลังเอ่ยถึงสิ่งใด
ถึงณิชาจะเป็นสาวสวย แต่ไม่เคยมีแฟนมาก่อน วัน ๆ เรียนหนังสือและทำงานอย่างเดียว ไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้สักเท่าไร
“คุณพูดอะไร ฉันไม่เคยยุ่งกับคนของใคร”
“ไม่เคยยุ่งกับคนของใครเหรอ แล้วที่เธอจงใจทำร้ายคริสล่ะ ไม่ใช่ว่าอยากได้แฟนคริสหรอกเหรอ”
“คุณพูดเรื่องอะไร เข้าใจผิดแล้ว” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน เพราะอะไรกันแน่เรื่องของสมายล์ดันกลายเป็นเรื่องของเธอซะงั้น
“เข้าใจผิดงั้นเหรอ” มาเฟียหนุ่มไม่เชื่อถ้อยคำจากปากเธอ เขาเชื่อว่าคนทำผิดมักไม่ยอมรับ
“ตามมา” คว้าข้อมือเล็ก ลากเธอให้เดินตามหลังขึ้นบันไดไปชั้นบน
ปลายลิ้นร้อนอุ่นตวัดเลียบนยอดถันสีหวาน ซึ่งกำลังท้าทายให้มาเฟียหนุ่มตักตวงตามความปรารถนา ก่อนฝ่ามือใหญ่อีกข้างจะยกขึ้นมาบีบขยำดอกบัวตูมอย่างหลงใหล“อื้อ อ๊า พี่เจย์คะ ทำไมดูดแรงแบบนี้คะ” เธอทั้งเสียวและรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน“แล้วไม่ชอบเหรอ” ผงกหัวมองใบหน้าหวานและถามขึ้นขณะยอดถันคาปากหยัก“อื้อ ชอบมากเลยค่ะ” พยักหน้าหงึก ๆ สติเริ่มเลือนรางทุกทีการสัมผัสของมาเฟียหนุ่ม ส่งผลให้ณิชาอ่อนระทวยง่ายดาย ร่างกายอ่อนปวกเปียก ยอมให้เขาแตะต้องได้เต็มที่เจย์เดนพรมจูบทั่วเรือนร่างงดงาม ไม่วายประทับตราสีแดงกุหลาบตามจุดต่าง ๆ เธอในช่วงตั้งครรภ์รูปร่างอวบอั๋นมาก ไม่ว่าจะจับตรงไหนเต็มไม้เต็มมือไปหมด แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาหลงได้ยังไง“อื้อ อ๊า ทำไมตัวเมียหอมแบบนี้”“อื้อ พี่เจย์”กายสาวดิ้นพล่านไปมาเมื่ออีกคนเริ่มแยกขาเรียวออกจากกันกว้างและนำปลายลิ้นสากตวัดเลียปุ่มกระสัน“อื้อ อ๊า ตรงนั้น สะ เสียวเหลือเกิน” ณิชาร้องครางไม่เป็นภาษา มือเรียวสอดเข้าไปในเส้นผมนุ่มของคนตัวโตพร้อมกับขยุ้มเบา ๆ เพื่อระบายความเสียวซ่าน“หวานเหลือเกิน เมียจ๋า”ไม่ว่าจะชิมตรงไหนก็หวานบาดลิ้นไปหมด แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาคลั่งไคล้ใน
ณิชากลับไปหาเจย์เดนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หลังจากได้เคลียร์ใจกับสมายล์เรียบร้อย ทำเอาคนตัวโตกำลังจ้องมองหญิงสาวเกิดความรู้สึกประหลาดใจ“มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมถึงจ้องณิแบบนั้น”“พี่แค่แปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่ณิหายไปเมื่อกี้”“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”“น่าสงสัย” มาเฟียหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันพลางสังเกตปฏิกิริยาของคนตัวเล็ก“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่เจย์ขี้สงสัยไปได้” คริสตัลแทรกขึ้น ก่อนหันไปยิ้มกรุ้มกริ่มกับณิชาราวกับอยากแกล้งมาเฟียหนุ่ม“ไม่ได้พาณิไปหาไอ้หนุ่มที่ไหนใช่ไหม” คนขี้หวงบอกอย่างไม่สบอารมณ์“ไม่รู้สิคะ” ยักไหล่ใส่พี่ชายอย่างไม่แยแส“คริส พี่ไม่ตลกนะเล่นแบบนี้”“ดุอะไรน้องล่ะ โน้นไปถามณิสิ” คริสตัลบุ้ยปากไปยังณิชาซึ่งเดินไปหาคาลอสกับคลอเดียตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว“ไม่กล้าไปถามณิละสิ” คริสตัลบ่นพึมพำ เธอรู้หรอกพี่ชายไม่กล้าดุหรือตำหนิณิชาเพราะกลัวโดนงอน อีกคนจึงมาเค้นถามจากเธออย่างนี้“บ่นอะไร”“เปล่า” ปฏิเสธเสียงสูง“พี่เจย์คะ เดินทางกลับอิตาลีอย่างปลอดภัยนะคะ ถ้าน้องว่างจะไปเยี่ยม”“อืม ดูแลตัวเองด้วยนะยัยตัวแสบ” ฝ่ามือหนาลูบหัวน้องสาวอย่างเอ็นดู แม้ว่าคริสตัลจะแต่งงานและมีลูกแล้ว แต่ยังคง
หลังจากทั้งสี่คนปรับความเข้าใจกัน คาลอสและคลอเดียก็ออกไปเล่นข้างนอกกับไททัน ส่วนณิชาถูกเจย์เดนรั้งไว้บนตักแกร่งพร้อมกอดแน่น“พี่เจย์ ปล่อยณิได้แล้วนะคะ”“อื้อ ไม่เอา ขออยู่แบบนี้หน่อย” เจย์เดนซบหน้าลงบนทรวงอกอวบอั๋นอย่างออดอ้อนราวกับลูกแมวน้อย “กลับไปทำงานได้แล้ว” เธอไม่ค่อยจะชินเลยกับเขาในโหมดนี้ เมื่อก่อนชอบทำหน้าดุและอารมณ์เสียใส่เธอเป็นประจำ“ทำไมชอบไล่พี่จังเลยครับ” ช้อนตามองคนตัวเล็ก“ถามจริงเถอะ ผู้ชายใจร้ายคนนั้นที่ชอบทำตัวเย็นชาใส่ณิหายไปไหนแล้ว”“อย่าพูดถึงมันเลย ไอ้คนนิสัยไม่ดีแบบนั้น รังแกได้แม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แบบนี้ได้ไง” ว่าแล้วมาเฟียหนุ่มเอามือเล็กขึ้นมาจูบพร้อมชำเลืองมองคนตัวเล็กด้วยสายตาเย้ายวน“คนบ้า” หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย สายตาของเขาจ้องมองปานจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว จนใบหน้าหวานร้อนผ่าว“คืนนี้มานอนห้องพี่นะครับ”“ไม่เอาค่ะ” ขืนไปนอนด้วยมีหวังไม่รอดแน่“ทำไมล่ะครับ ไม่สงสารพี่หรือไง” กะพริบตาปริบ ๆ อย่างเว้าวอนเพื่อขอให้หญิงสาวทำตามความปรารถนาของตัวเอง“พี่เจย์อย่ามาใช้หน้าตาหลอกล่อณิแบบนี้นะคะ” ยิ่งรู้อยู่ว่าเธอพ่ายแพ้ให้กับใบหน้าหล่อ ๆ ของเขา“พี่รักณิน
“ณิชา…พี่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น พี่ไม่ได้จะดูถูกณิเลยนะครับ พี่แค่ไม่อยากให้ณิพาลูกไปไหน” เงยหน้ามองแม่ของลูกทั้งน้ำตา เขาไม่อยากพบเจอการจากลาเหมือนในอดีต แค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว“เป็นอะไรของคุณ” เป็นครั้งแรกเห็นน้ำตาของคนตัวโต “ร้องไห้ทำไมคะ” นิ้วเรียวปาดน้ำตาบนแก้มอีกคนอย่างอ่อนโยน แต่เจย์เดนไม่หยุดร้องยังคงปล่อยน้ำตาไหลราวกับทำนบแตก“ถ้าครั้งนี้ทิ้งพี่ไปอีก พี่คงได้ตายแน่ ๆ”“เป็นอะไรของคุณ” คำพูดกับท่าทางของมาเฟียทำเอางุนงงไปหมด จู่ ๆ ทำไมถึงร้องไห้สวนทางกับตัวตนของเขาอย่างสิ้นเชิง ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้ใจเธออ่อนยวบ“ฮึก ฮือ ๆ พี่รักณินะครับ รักมากเหลือเกิน”“คุณเจย์” คำสารภาพรักของเจย์เดน ณิชาถึงกับชาวาบจนคิดว่าตัวเองหูแว่วหรือฝันไป“พี่รักณินะ รักมานานแล้ว ขอโทษเมื่อก่อนทำร้ายณิสารพัดโดยที่ไม่ฟังคำพูดณิสักครั้ง พี่มันแย่เอง” เจย์เดนพูดตัดพ้อมากมาย“หยุดร้องไห้ก่อนเถอะ คุณเจย์” ยิ่งช่วยซับน้ำตาให้เขามากเท่าไร อีกคนยิ่งปล่อยโฮมากเท่านั้น จนเธอรู้สึกเหนื่อยใจเหลือเกิน“ขอร้องนะคนดี อย่าทิ้งพี่ไปเลย” หยาดน้ำตาพรั่งพรูเปื้อนใบหน้าหล่อคมต่อเนื่อง ซึ่งไม่มีท่าทีจะหยุดง่าย ๆ“ใจเย็น
สายลมยามเย็นพัดพลิ้วกระทบผิวกายคนตัวเล็กซึ่งนั่งปูเสื่อใต้ต้นไม้ใหญ่ ส่วนเด็ก ๆ วิ่งเล่นบริเวณนั้นโดยป้าแม่บ้านคอยดูแลอย่างใกล้ชิดหลังจากรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ลูกคนที่สาม พักหลังมานี้หญิงสาวค่อนข้างเหม่อบ่อยเป็นพิเศษ ใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว เนื่องจากคิดไม่ตกเรื่องเด็กในท้อง กลัวว่าหากคลอดออกมาแล้วจะลำบากกว่าเดิม ลำพังเลี้ยงดูคาลอสกับคลอเดียแทบไม่ไหวอยู่แล้ว ถึงกระนั้นไม่คิดจะเอาเด็กออกเด็ดขาดหรือบอกเจย์เดนให้รับรู้เช่นกันในเมื่อเขาไม่ได้รักเธอ ฉะนั้นไม่อยากเอาลูกมาเป็นข้อผูกมัดระหว่างกัน อีกอย่างไม่คิดยกลูกให้เขาเช่นกัน เธอเคยมีประสบการณ์เรื่องพ่อแต่งงานใหม่แล้วโดนแม่เลี้ยงรังแก ซึ่งไม่ปรารถนาให้ลูกพบเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบเดียวกับเธอ ไม่ต่างจากฝันร้าย“กลุ้มใจจังเพราะท้องหรือเปล่านะถึงคิดมากแบบนี้” ใบหน้าหวานเหลือบมองวิวข้างหน้า เป็นแม่น้ำที่มีผู้คนปั่นเรือเป็ดอย่างเพลิดเพลิน“หม่ามี้ครับ” คาลอสตะโกนเรียกผู้เป็นแม่พลางวิ่งมาหาณิชาก่อนนั่งลงด้านข้าง“เล่นจนเหนื่อยแล้วเหรอ” ว่าแล้วชำเลืองมองคลอเดียกำลังวิ่งเล่นอย่างไม่รู้จักเหนื่อย จากนั้นส่งยิ้มหวานให้กับลูกชายตัวน้อย“ไม่สนุกเลยค
อากาศเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศราคาแพงกำลังทำงาน ส่งผลให้ณิชานอนหดตัวด้วยความหนาวสะท้านทั่วทั้งกาย แขนบอบบางวาดวงพื้นที่ว่างข้างกายก่อนพบความว่างเปล่า“หายไปไหน” เบิกตาขึ้นเชื่องช้าและกลอกตามองหาทั่วห้องหลังจากจบศึกรักเมื่อคืนเธอจำได้แค่ว่าตอนอยู่ในห้องน้ำ เธอกับเขากำลังแช่น้ำสมุนไพรในอ่าง จากนั้นภาพตัดไปเลยและตื่นขึ้นมาอีกทีในเช้าวันใหม่“คาลอส คลอเดีย” ณิชาเพิ่งนึกขึ้นได้ทิ้งลูกไว้ในห้องนอนอีกห้องตามลำพังจึงเด้งตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนก้มหน้าสำรวจตัวเองอยู่ในสภาพชุดนอนซึ่งไม่ต้องบอกพอเดาออกใครเป็นคนสวมใส่ให้“ห๊ะ!! สิบโมงแล้วเหรอ” ดวงตากลมโตปะทะกับนาฬิกาบนโต๊ะข้างหัวเตียง จากนั้นกระโดดลงจากเตียงด้วยความเป็นห่วงลูก ๆ ทันทีที่เท้าเล็กแตะพื้น ร่างเล็กทรุดกองกับพื้นด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบทั่วสรรพางค์กาย“อึก เจ็บจัง” แขนเล็กยกขึ้นกุมหน้าท้อง ถึงกระนั้นเธอไม่ได้นั่งอ้อยอิ่ง พยายามแบกร่างกายปวดระบมออกไปข้างนอก“หม่ามี้” ทันทีณิชาปรากฏเด็ก ๆ ทั้งสองคนวิ่งมาโอบกอดขาผู้เป็นแม่อย่างดีใจ“หม่ามี้ขอโทษนะคะ คาลอสกับคลอเดียหิวแย่เลย” หญิงสาวนั่งย่อง ๆ อยู่ระดับเดียวกับลูกทั้งสองและลูบหัวเด็กน้