Share

บทที่ 2 หนีไม่ได้ชั่วชีวิต

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-12 00:02:12

“โกหก เจ้านักพรตชั่ว เจ้าโกหก” คหบดีถึงกับอยู่ไม่ติดที่

“ใช่ เจ้าโกหก ข้าเห็นกับตาว่านางไม่มีเลือดพรหมจรรย์” ภรรยาของคหบดีรีบเสริม

“ข้าเป็นนักพรตของราชวัง ผ่านมาเห็นเหตุวุ่นวายพอดี จึงยื่นมือเข้าช่วย พวกเจ้าว่าข้าจะโกหกเพื่ออะไรหรือ? เทพเจ้ามังกรได้แสดงอิทธิฤทธิ์แล้ว การที่นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นเครื่องยืนยันความบริสุทธิ์ของนาง พวกเจ้าสามีภรรยามีวิญญาณร้ายตามติดมากมาย ไม่รู้ว่าฆ่าอนุในจวนไปแล้วกี่คน คหบดีอย่างพวกเจ้า จะพูดอย่างไรก็ย่อมได้ แต่ไม่อาจลบล้างหลักฐานตรงหน้า”

“เจ้า..เจ้าหาว่าพวกข้าเป็นจอมโกหกหรือ” คหบดีโกรธจัด ชี้หน้านักพรตด้วยมือสั่นเทา 

ครอบครัวพวกเขาทำการค้ามาหลายปีเพื่อเลี้ยงครอบครัวจนมีเงินทองมากมาย มักถูกผู้คนนินทาลับหลังว่าเป็นพวกไม่น่าคบ เพราะผู้ที่มีวาทศิลป์ในการขายมักถูกดูถูกว่าไม่น่าเชื่อถืออยู่แล้ว แต่ปกติไม่เคยมีใครกล้าพูดต่อหน้าเขาตรงๆ เช่นนี้ เขาจึงโกรธมาก

ภรรยาเอกของคหบดีเฒ่าเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นนักพรตของราชวังจึงไม่อยากมีเรื่องด้วย รีบห้ามสามีและกระซิบกล่อมสามีให้ใจเย็นก่อน สุดท้ายพวกเขาได้แต่กัดฟันกล่าวโทษตัวเอง

“เป็นพวกข้าไม่ดีเอง เช้านั้นข้าดูไม่ถี่ถ้วนจึงเข้าใจผิดไป ต่อไปข้าจะระวัง ขอท่านนักพรตโปรดให้อภัย” ภรรยาคหบดีกล่าว

“ข้าจะให้บ่าวรับใช้รีบมารับตัวนางกลับขอรับ” คหบดีเฒ่ากล่าว

“ข้าไม่กลับ...” หลินโม่เหนียงพูดออกมาเป็นครั้งแรก 

“ลูกแม่ เจ้าเชื่อฟังสามีนะ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด ต่อไปก็อยู่บ้านสามีและเชื่อฟังพวกเขาก็พอ” แม่ของหลินโม่เหนียงรีบพูด นางกลัวว่าครอบครัวตัวเองจะได้รับผลกระทบอะไรอีก ตอนที่จับบุตรสาวถ่วงน้ำก็เพราะกลัวว่าท่านคหบดีจะไม่พอใจที่ได้บุตรสาวแปดเปื้อน และอาจมาทวงเงินที่ให้เป็นค่าสินสอดไปแล้ว 

“ข้าได้พบเทพมังกร เขาบอกให้ข้าบำเพ็ญเพียร ครองพรหมจรรย์ ห้ามพบผู้คนอีก” หลินโม่เหนียงรีบคิดเรื่องโกหก เพราะไม่อยากกลับไปเป็นอนุ ยิ่งไม่อยากกลับไปบ้านพ่อแม่ที่จับตัวเองฆ่าถ่วงน้ำทั้งเป็น

นักพรตหันมายิ้มให้เด็กสาว เขาพยักหน้ารับข้อเสนอของนาง แม้หลินโม่เหนียงจะเห็นว่าในแววตาของเขาไม่เชื่อเรื่องที่นางพูดสักครึ่งคำ แต่เขาก็ยังจัดการทุกอย่างตามที่นางโกหก

หลินโม่เหนียงถูกพาไปอยู่บนยอดเขาสูงนอกเมือง บนยอดเขามีเพียงเรือนไม้ที่สร้างง่ายๆ ข้าวของเครื่องใช้ก็เป็นของทั่วไป เสื้อผ้าที่นักพรตเตรียมให้เป็นเพียงผ้าฝ้ายหยาบ ไม่อาจเพิ่มความอบอุ่นบังลมหนาวได้แม้สักนิด แต่ด้านหลังเรือนกลับเป็นสระน้ำที่มีน้ำตกสายเล็กไหลลงมา เป็นทิวทัศน์ที่งดงามมากยิ่งนัก

“เจ้าอยู่ที่นี่ มีของใช้จำเป็นครบ เดือนหนึ่งจะมีทหารมาส่งอาหารแห้งให้เจ้าหนึ่งครั้ง หน้าที่ของเจ้าคือศึกษาและบำเพ็ญเพียรให้ได้” นักพรตกล่าว

“ข้าไม่ได้พบเทพมังกร และข้าไม่ได้รับจุมพิตใดๆ ทั้งสิ้น” เด็กสาวสารภาพความผิด

“ข้ารู้”

“เช่นนั้น เหตุใดข้ายังไม่ตายเจ้าคะ”

“ข้าไม่รู้ แต่การมีอยู่ของเจ้าเป็นประโยชน์ต่อองค์จักรพรรดิ ดังนั้นเจ้าจึงต้องอยู่ที่นี่ ต่อให้เจ้าตาย ข้าก็จะต้องหาเจ้าคนใหม่มาอยู่ที่นี่ต่อไป” นักพรตอธิบาย

หลินโม่เหนียงพยักหน้าเข้าใจ นางขอเพียงไม่ต้องกลับไปพบพ่อแม่และคนอื่นๆ ที่จะมองนางด้วยสายตาประหลาด การอยู่คนเดียว แม้จะเงียบเหงาและน่ากลัวบ้าง แต่ย่อมดีกว่าการเป็นอนุของคหบดีเฒ่า

“ตอนแรกข้าไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านจึงยื่นมือช่วยสาวชาวบ้านเช่นข้า แต่พอคิดดูแล้ว ข้าเป็นเพียงเครื่องมือเพื่อกำจัดตระกูลซานใช่หรือไม่เจ้าคะ” 

โม่เหนียงไม่ได้เป็นคนโง่ นางคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะคหบดีเฒ่าคุยอวดนักหนาว่าเขาเป็นคนสนิทของอ๋องซาน ซึ่งก็มีข่าวลือว่าอ๋องซานซ่องสุมไพร่พลจำนวนมาก จักรพรรดิอาจระแวงว่าเขาจะก่อกบฏ จึงตัดกำลังด้วยการกำจัดแหล่งเงินทุนเช่นคหบดีเฒ่าก่อน นางเป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่งในกระดานหมากเท่านั้น

“หึ เจ้าก็ไม่ได้โง่ แต่ข้าแนะนำว่าให้สงบปากไว้จะดีกว่า” นักพรตพูด

“ข้าจะถูกใครตามฆ่าหรือไม่เจ้าคะ” นางกล่าวสิ่งที่กลัว

“ไม่ อ๋องซานไม่สนใจเจ้า และเจ้าเฒ่าตัณหากลับนั่นก็จะถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์จนอยู่ในเมืองหลวงไม่ไหว เนื่องจากเขาทำให้ท่านเทพมังกรพิโรธ ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล พืชผลไม่เจริญเติบโต ชาวบ้านจึงอดอยาก 

และเมื่อเจ้าเฒ่าคหบดีหนีออกนอกเมืองก็จะบังเอิญเจอโจรปล้น จนไม่อาจรักษาชีวิตไว้ได้ จึงไม่มีผู้ใดสนใจส่งคนมาฆ่าเจ้าอีก แต่น่าเสียดายที่ข้าเป็นผู้เอ่ยปากบอกว่าเจ้าได้รับจุมพิตมังกร 

อีกทั้งเจ้ายังแสดงตัวว่าต้องบำเพ็ญเพียรให้ได้ ข้าจึงพาเจ้ามาที่นี่ อยู่ห่างไกลผู้คน สถานที่ที่เกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีผู้ใดรู้เห็น หากมีเหตุจำเป็นจนต้องเปลี่ยนตัว ข้าจะได้อ้างกับผู้คนว่าเป็นผลจากการบำเพ็ญเพียรทำให้หน้าตาของเจ้าเปลี่ยนไป”

นักพรตอธิบายอ้อมๆ คล้ายเป็นการทำนายอนาคตล่วงหน้า แต่นางและเขาต่างรู้ดีว่าเรื่องที่เขาพูด ถูกวางแผนมาแล้วเป็นอย่างดี ไม่ว่าอย่างไร คหบดีก็ไม่อาจรักษาชีวิตไว้ได้ และนางก็ไม่อาจออกไปจากที่นี่อีกชั่วชีวิต

“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านมาก ข้าจะตั้งใจบำเพ็ญเพียรอยู่ที่นี่ตลอดไป” โม่เหนียงคุกเข่าขอบคุณนักพรต

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 16 ชีวิตแสนสุข (ตอนจบ)

    เสี่ยวอวี้ เสี่ยวหยาง เสี่ยวชิง และเสี่ยวหลันโผเข้ากอดนางแน่น ดวงตาเปียกชุ่มด้วยน้ำตาแห่งความปลื้มปีติ หลังจากที่ต้องทนทุกข์ใจกับข่าวร้ายที่ท่านน้ากระซิบบอกว่าอาจไม่ได้พบมารดาอีกหลายวัน หรือตลอดไป ไป๋อวิ๋นเหยาใช้เวลาปลอบโยนลูกๆ ที่ยังไม่คลายจากความหวาดหวั่น เสียงหัวเราะและรอยยิ้มกลับมาเติมเต็มจวนไป๋อีกครั้ง แต่ลึกลงไปในใจของนาง ความกังวลยังคงรุกล้ำเงียบงัน วันแล้ววันเล่า นางเฝ้ารอการกลับมาของสามีผู้เป็นที่รัก แต่มีเพียงสายลมหนาวยามค่ำคืนเท่านั้นที่ตอบกลับมา องค์หญิงหว่านหนิงถูกประกาศว่าถูกไฟไหม้เสียชีวิต เพราะเมามายเกินไประหว่างคืนเทศกาลโคมไฟ และจวนไป๋ก็ได้รับเงินมากมายจากราชสำนักเพื่อบำรุงซ่อมแซมจวน แต่ไร้เงาของเฉินซูเหยา เวลาล่วงผ่านไปนานนับเดือน แต่สามีของไป๋อวิ๋นเหยาก็ยังไม่กลับมา นางเฝ้ารอด้วยความทุกข์ใจจนแทบทนไม่ไหว ความเงียบงันที่ไม่มีแม้เงาของเขาทำให้นางตัดสินใจลงมือเอง แม้จะเป็นเพียงบุตรีของอดีตบัณฑิต แต่ด้วยแรงแห่งความรักและความหวัง นางจึงพยายามหาหนทางติดต่อองค์รัชทายาท ทุกก้าวของนางเต็มไปด้วยอุปสรรค สายตาดูแคลน และเสียงกระซิบวิจารณ์ แต่ไป๋อวิ๋นเหยาก็ไม่ยอมแพ้ กระทั่งวัน

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 15 สัญญาปากเปล่า

    ความรู้สึกผิดท่วมท้น นางเงยหน้ามองชายผู้เคยเป็นดั่งเงาในชีวิตด้วยน้ำตาที่รินไหล เขาต้องการให้นางเจ็บปวดเพื่อนางจะได้หันหน้าหนี เพื่อนางจะได้ปลอดภัย และนางก็เป็นเช่นนั้น เกลียดเขาจนวันสุดท้ายของชีวิต แม้เขาจะรอนางอย่างเดียวดายที่สะพานไน่เหอ หลายปี แต่นางก็ยังเกลียดเขา “ข้า..ข้ามันเห็นแก่ตัวนัก” เสียงแหบพร่าของไป๋อวิ๋นเหยาสั่นเทา นางสะอื้นน้ำตารื้น “..เหตุใดจึงเป็นเหยาเหยาเห็นแก่ตัวเล่า..ข้าต่างหากที่เห็นแก่ตัว ข้าต่างหากที่ทำให้เจ้าเจ็บปวด ทำให้เจ้าต้องเดือดร้อน” เขากอดรัดภรรยาไว้จนแน่น “เจ้าคิดจะตายลำพัง!” นางก่นด่า หากเมื่อคืนนี้นางไม่เข้าไปในเรือนหลัง เขาก็คงจะตายลำพังอีกแล้ว “ข้าเตรียมทางหนีไว้แล้ว เจ้าไม่เห็นหรือ ทางที่ข้าพาเจ้าหนีมาอย่างไรเล่า” เขาลูบหัวของภรรยาเบาๆ “แต่หากข้าไม่เข้าไป เจ้าก็จะรอจนแม่ทัพหนุ่มที่เผาภูเขาลูกนั้นเข้ามาในจวน แล้วเจ้าค่อยเผาใช่หรือไม่!!” นางเข้าใจความตั้งใจของเขาดี เขาคงคิดจะเสียสละชีวิตเพื่อลากทุกคนไปกับเขา “..เหยาเหยาไม่ต้องกังวล ข้าจะหาทาง” “แล้วเราจะทำเช่นไรต่อไปดี ข้า..ข้าทำให้เจ้า..ข้าทำแผนของเจ้าพัง” “เหยาเหยาไม่ต้องกังวล” เขาเพียงพูดพร

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 14 เรื่องที่สามีเล่า

    เฉินซูเหยากอดร่างของภรรยาไว้ในอ้อมแขน ร่างของนางที่ยังอ่อนแรงพิงเขาอย่างตกตะลึงในความจริง นางเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม“เจ้ากล้าโกหกข้าหรือ” ไป๋อวิ๋นเหยาท้วงติงไม่พอใจ เขาหัวเราะขบขัน ไม่เห็นการข่มขู่ของภรรยาอยู่ในสายตา เขาเพียงเริ่มเล่าถึงความหลังที่เกิดขึ้นต่อไปพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น มองภรรยาด้วยความรักใคร่ ไป๋เหวินหยาง เป็นขุนนางฝ่ายบุ๋น ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการศึกสงคราม แต่ก็เป็นบัณฑิตมากความสามารถ มีสายตาที่มองทะลุความสามารถของคน แม้จะรู้ว่าเฉินซูเหยาเป็นบุตรนอกสมรสของแม่ทัพหยวนกวน แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ก็ยังยื่นมือมาช่วยเหลือเฉินซูเหยาไว้ ช่วยปกปิดภูมิหลังของเขา ซ่อนเขาจากศัตรูของแม่ทัพ สั่งสอนเขาราวกับศิษย์คนหนึ่ง หลังจากเด็กหนุ่มสอบได้เป็นจอหงวน ชีวิตของเขาก็เริ่มรู้สึกสงบสุข ได้แต่งงาน เขาไม่เคยคิดแก้แค้นให้บิดาเลยแม้แต่น้อย เพราะกำลังของเขาไม่มากพอ และที่สำคัญ เขาแต่งงานกับหญิงสาวตรงหน้าแล้ว เขาไม่อยากให้ภัยอันตรายใดๆ มาถึงจวนไป๋ หรือครอบครัวของนาง เขาจึงเลือกที่จะวางอดีตลง หรืออย่างน้อยก็พยายามวาง แต่ในใต้หล้านี้ ความตั้งใจหรือจะสู้ฟ้าลิขิต หลังจากเฉินซูเหยาได้ร

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 13 รสรัก (NC)

    “อ้า..เหยาเหยา..” เขาครางแหบพร่าไป๋อวิ๋นเหยาแทบอยากจะกรีดร้อง เพราะรู้สึกว่าความร้อนแท่งใหญ่ที่ค่อยๆ ซึมเข้ามา เหมือนเปลวเพลิงกำลังกัดกิน ทุกอณูของร่างเริ่มร้อนจนเหมือนจะระเบิด ความกำหนัดที่เขาเพาะบ่มตลอดการย่างกำลังทวีขึ้น ความรู้สึกถูกเผาผลาญนั้นเหมือนจี้ถูกจุดร่างกายของไป๋อวิ๋นเหยาสั่นระริกโดยไม่อาจควบคุม พวยพุ่งความสุขสมออกมาจนท่วมรอบเอวสามี เขาไม่ได้รังเกียจ อีกทั้งยังกอดนางแน่นยิ่งขึ้น งัดเอวขึ้นเพื่อกดแท่งหยกซ้ำๆ บนจุดแสนหวานในร่องรักของภรรยา “เหยาเหยากล้าพวยพุ่งน้ำพุใส่ข้าแล้วหรือ” เขาล้อเลียน ยิ้ม บางเบาพึงพอใจ ระหว่างที่ยังคงบดสะโพกต่อไป ไป๋อวิ๋นเหยาใบหน้าแดงก่ำอยากร้องไห้ นางสั่นระริกสุขสมไปทั่วร่าง เขายังกล้าล้อเล่นเช่นนี้อีก เมื่อก่อนเขาชอบขอจะดูนางปลดเบา อย่างไรนางก็ไม่ให้ เขาจึงได้แต่ทำใจ วันนี้นางพวยพุ่งใส่เขาเช่นนี้ ไม่ใช่นางกล้าหาญหรือจงใจ แต่เพราะนางควบคุมไม่ได้จริงๆ และนางกล้าสาบานว่านี่ไม่ใช่การปลดเบาเขาต่างหากที่ทำให้นางควบคุมตัวเองไม่ได้เช่นนี้!“ชู่ว..ไม่เป็นไร ข้าไม่ถือ เหยาเหยาเย้ายวนยิ่ง” เขาชื่นชม ก้มลงจูบซับน้ำที่เอ่อล้นขอบตาของภรรยา ลิ้มเลียน้ำตาของ

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 12 ขับยาพิษและหมูยาง

    มือของเขาเคลื่อนไปจับมือของนางที่อ่อนปวกเปียกเพราะพิษกำยาน และเริ่มนวดเบาๆ ที่ปลายนิ้ว ไล่ไปจนถึงฝ่ามืออย่างทะนุถนอม แม้มือของเขาเองจะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่มันกลับไม่หยุดความพยายามของเขาแม้แต่น้อย ราวกับจะทำทุกวิถีทางให้นางรู้สึกร้อนรุ่มขึ้น นางได้แต่มองเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความอึดอัดปนความสับสน แม้จะอยากปฏิเสธ แต่ความรู้สึกอ่อนโยนที่เขามอบให้ กลับทำให้นางไม่อาจห้ามหัวใจของตัวเองไม่ให้เต้นระรัว เด็กสารเลวนี่ วางแผนจะรวบนางนานแล้วหรือ! นางคิดว่าท่านพ่อบังคับเขาให้แต่งเสียอีก ที่แท้เขาก็ไม่ได้ใสซื่อมือของเฉินซูเหยาค่อยๆ เลื่อนต่ำลงมาที่ปลายเท้าของนางเขาเริ่มนวดที่ฝ่าเท้า ไล่ขึ้นไปจนถึงข้อเท้าอย่างแผ่วเบา สัมผัสของเขาช่างอ่อนโยนและตั้งใจ เหมือนพยายามจะบรรเทาความชาและขับพิษให้นางให้ได้มากที่สุด แต่สายตาหื่นกระหายกลับพูดสิ่งอื่น “เลือดลมของเจ้าจะต้องรีบขับออก” เขาพูดเบาๆ พลางจ้องมองใบหน้าของนางที่เริ่มแดงจนคล้ำ แม้ในใจไป๋อวิ๋นเหยาจะยังคงประท้วงอยู่ แต่ร่างกายกลับยอมรับสัมผัสของเขาอย่างเต็มใจ นางหลับตาลงเล็กน้อย ปล่อยให้ความร้อนรุ่มจากพิษสมุนไพรและสัมผัสของเขาไหลเวียนไปทั่วร่าง ท่ามกล

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 11 ยาแรง

    “...” ไป๋อวิ๋นเหยาส่งสายตาขุ่นเคืองไปยังเขา แต่กลับทำให้เขายิ่งหัวเราะชอบใจ “ดื่มเถิด ข้าจะช่วยพยุงเจ้าเอง” เขาประคองนางขึ้นอย่างระมัดระวัง แม้บาดแผลของเขาจะส่งผลให้ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไป ด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ไม่แสดงอาการใดๆ เพียงใช้แขนที่มั่นคงรองรับร่างของนางไว้ริมฝีปากของนางสัมผัสกับของเหลวสีเขียวเข้ม กลิ่นของมันไม่ชวนดื่มเอาเสียเลย ทว่าด้วยแรงผลักดันจากแววตาที่มุ่งมั่นน่ารัdของเขา ไป๋อวิ๋นเหยาจึงกล้ำกลืนมันลงคอไปอย่างยากลำบากเมื่อนางยอมดื่มจนหมด เฉินซูเหยาก็โยนถ้วยใบไม้ทิ้ง จากนั้นก็ก้มลงไปจุมพิตนาง เรียวลิ้นกวาดสัมผัสยาสมุนไพรขมๆ ในปากอิ่มของภรรยาอย่างหิวโหย ไป๋อวิ๋นเหยาเบิกตาโพลง ตกใจราวสาวน้อยที่เพิ่งเคยจุมพิตนางรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปพบกับเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดที่ขโมยจุมพิตแรกของนาง ราวเด็กหนุ่มเอาแต่ใจผู้นั้นยังคงอยู่ไม่หายไปไหน “เจ้ายังขยับไม่ได้ แต่เลือดเริ่มไหลเวียนดีขึ้นแล้ว อีกไม่นานเจ้าจะหาย” เขากระซิบบนริมฝีปากของภรรยา เหมือนปลอบเด็กน้อย เขาชอบทำเช่นนี้เสมอ ป้อนยานางและตามด้วยจุมพิตขมปนหวาน เขาทำเช่นนี้ทุกครั้งที่นางป่วย เอาใจใส่นางและกลั่นแกล้งนาง ร่างแน่นิ่งซึ่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status