Share

ตอนที่ 10

last update Last Updated: 2025-04-11 06:27:55

ตอนที่ 10

หน่วยราชการลับ 2

หัวหน้าหน่วยราชการลับนั่งลงบนโซฟารับแขก เขาชะงักนิ่งจ้องมองดวงหน้างามหยดย้อยของดารินทร์อย่างล่วงเกิน

มีแวมไพร์เลอโฉมถึงเพียงนี้เลยหรือ... เขานึก

ภายในห้องทำงานสีขาวนวลอบอวลด้วยกลิ่นดอกไม้สดที่ปักลงบนแจกัน หญิงสาวนั่งบริเวณโต๊ะทำงานประจำของเธอ ทางด้านราอูลถือวิสาสะนั่งพิงโต๊ะทำงานกอดอกจ้องชายหนุ่มผิวคร้ามแดดตาเขม็ง

“มีอะไรก็พูดมาจ้องหน้ายัยนี่อยู่ได้” ราอูลเอ่ยเสียงเเข็งฉุดเรียกชายหนุ่มเผ่ามนุษย์หลุดจากภวังค์

“สวัสดีครับผมเตชิน หัวหน้าหน่วยราชการลับสังกัดกองกำลังพิเศษ ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณฟาร์อูลอนุญาตให้ผมสืบเบาะแสหาตัวผู้กระทำความผิดฝ่าฝืนกฎอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ร่วมกับคุณดารินทร์ครับ”

“พี่ฟาร์อูลน่ะหรอคะ ฉันยังไม่ได้คุยกับแกเลยน่ะ”

“ไม่เป็นไรครับ นี่เอกสารรายงานข้อมูลคดีฆาตกรรมผู้ตายที่ตายผิดธรรมชาติ” เตชินส่งมอบเอกสารสำคัญกองใหญ่วางลงบนโต๊ะทำงานของหญิงสาว

ร่างเล็กไล่เปิดเอกสารสำคัญตรงหน้า เธอไล่อ่านทีละหน้าอย่างตั้งใจ สีหน้าของเธอสลดลงเห็นได้ชัด สภาพศพของผู้ตายแต่ละคนช่างน่าสงสารเวทนา บางศพเรียกได้ว่าแทบจะไม่หลงเหลือเลือดภายในร่างกายแม้หยดเดียว

“หากเผ่าแวมไพร์เป็นผู้กระทำจริงตามร่างกายผู้เสียชีวิตก็จะต้องมีกลิ่นอายของแวมไพร์ตนนั้นนี่คะ” เธอปิดแฟ้มเอกสารลง ก่อนจะเงยหน้าจ้องมองมนุษย์ผู้นี้

“แต่ใช้ไม่ได้กับคดีเหล่านี้ครับ มันฉลาด หลังจากก่อเหตุมันใช้กลิ่นหญ้าสะวันนากลบกลิ่นกายซ่อนเร้นกลิ่นอายของมัน”

“หญ้าสะวันนา...” ใบหน้าสวยเคลือบแคลงชื่อของพืชชนิดนี้ มันคือพืชอะไรกันถึงได้มีฤทธิ์เดชกลบกลิ่นอายของเผ่าแวมไพร์ได้

“ยัยโง่...” ราอูลพูดเสียงแผ่วเบาราวกับต้องการให้ได้ยินเพียงเขาเเละเธอ

“หญ้าสะวันนาหนึ่งในสมุนไพรโบราณหายากของเหล่าเเวมไพร์ มีสรรพคุณช่วยซ่อนเร้นอำพรางกายและกลิ่นแวมไพร์ในยามคับขัน หากใช้เกินปริมาณจะทำให้แวมไพร์ตนนั้นสูญเสียสติสัมปัชชัญญะกลายเป็นกูลล์” ราอูลอธิบายให้เธอแจ่มแจ้ง

“กูลล์เป็นเผ่าพันธุ์ต่ำช้า ไร้ความรู้สึกนึกคิดควบคุมได้ยากที่แม้แต่เราก็ต้องกำจัด” แวมไพร์หนุ่มพูดน้ำเสียงหนักใจ กูลล์คือแวมไพร์ที่กลายร่างเป็นสัตว์ มีลักษณะคล้ายค้างคาวมี 5 ขา ดวงตาสีดำสนิท ลำตัวมีขนยาวสีน้ำตาล ที่ดื่มกินแม้กระทั่งเลือดจากซากสัตว์ ดุร้าย คลุ้มคลั่ง โจมตีทั้งแวมไพร์และนอกเผ่าพันธุ์

“แต่เท่าที่ข้อมูลของทางหน่วยบันทึกข้อมูล พวกกูลล์ไม่ปรากฎตัวมาหลายสิบปีแล้ว แต่มันพึ่งกลับมาไม่นานมานี้”

“ตระกูลเรามีหญ้าตัวนี้ด้วยหรอคะ” เธอเอ่ยถามกลับ

“ย่อมมี และไม่ใช่แค่เราที่มีหากแต่ท่านพ่อท่านแม่เป็นผู้เก็บรักษาสมุนไพรเหล่านั้นเพราะเห็นว่าไม่จำเป็นที่จะต้องใช้มัน ในเวลานี้ทั้งสองเข้าสู่สภาวะจำศีลย่อมไม่มีทางที่สมุนไพรจะตกไปอยู่ในมือแวมไพร์นอกรีต” แวมไพร์นอกรีตคือแวมไพร์ที่ไม่มีตระกูลคอยควบคุมดูแล พวกมันเปรียบเสมือนขอทานและกองโจรที่คอยปล้นเสบียงเหล่าแวมไพร์ด้วยกัน

“ดังนั้นเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย ผมจะขอสอดแนมดูคนในตระกูลของคุณอย่างเงียบๆ และหวังว่าคุณดารินทร์จะให้ความช่วยเหลือนะครับ” เตชินกล่าว

“งั้นก็แสดงว่านายสงสัยตระกูลของฉัน” ราอูลยิ้มเยาะ

“ไม่ใช่แค่ตระกูลเอนส์เวิร์ธครับ ตระกูลเอเธอนอลก็ถูกตรวจสอบเฉกเช่นเดียวกันครับ” มนุษย์หนุ่มบอกเขาตามความจริง ขณะนี้พนักงานแทบทั้งหน่วยทำงานหามรุ่งหามค่ำเร่งหาตัวคนร้าย รัฐบาลกดดันด้วยคำขู่จะยุบหน่วยงานราชการลับของเขา หากภายใน 15 วันยังจัดการผู้กระทำผิดไม่ได้

“ฉันยินดีให้ความช่วยเหลือคุณเตชินในการสืบสวนครั้งนี้ หากต้องการความช่วยเหลือติดต่อเบอร์โทรนี้ได้เลยค่ะ” ดารินทร์มอบนามบัตรสีหวานยื่นให้มนุษย์หนุ่ม

“เอาเบอร์ฉันแทน” ราอูลทำท่าจะคว้านามบัตรสีหวานกลับคืน มือหนาของอีกฝ่ายกลับไวกว่ารีบเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงด้วยสีหน้าของผู้ชนะ

“ไม่เป็นไรครับ คุณฟาร์อูลให้ผมติดต่อกับคุณดารินทร์”

‘หน๊อย...ไอหมอนี่มันกวนโอ๊ย’ ราอูลกัดฟันกรอด ใบหน้าไม่สบอารมณ์ เตชินจับความรู้สึกที่แฝงออกมาจากสีหน้าของแวมไพร์หนุ่มได้จึงได้โอกาสกล่าวลา

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณดารินทร์ ไว้ผมจะติดต่อกลับมา ไปล่ะครับคุณราอูล...”

“ค่ะคุณเตชิน” ร่างเล็กด้านหลังยิ้มรับอ่อนหวานตอบรับ

“......” ราอูลพยายามสงบสติอารมณ์ มนุษย์ผู้นี้ต้องการยั่วให้เขาโมโห

เมื่อเห็นว่ามนุษย์หนุ่มผู้นั้นเดินออกไปสุดสายตาแล้ว ดวงตาคมคายกลับมองมาทางหญิงสาวเรียบนิ่ง เธอรู้ดี เขาใกล้จะหมดความอดทนเต็มทีเรียกได้ว่าเกือบคลุ้มคลั่ง

“อะไรกันคะ ดารินทร์แค่ทำตามหน้าที่นะคะนายน้อย”

“ก็ยังไม่ได้ว่าอะไร”

“นายน้อยจะไปไหนต่อคะ” เธอมองนาฬิกาข้อมือบ่งบอกเวลา นี่มันก็ล่วงเลยเวลาเลิกงานแล้ว เธอรวบรวมกองแฟ้มเอกสารที่มนุษย์หนุ่มผู้นั้นส่งมอบให้เธอเก็บกลับบ้าน หวังช่วยสืบหาข้อมูลไม่มากก็น้อย

“ทำไมจะวิ่งแจ้นไปคลับไอฟาร์อูลอีกหรอ” ราอูลแดกดันหญิงสาว อารมณ์หึงหวงก่อตัวจนเก็บกลั้นไว้ไม่อยู่

“วันนี้ไม่แต่วันอื่นก็ไม่แน่นะคะ...” ดารินทร์เอ่ยเสียงหวาน ก็ดูคำพูดคำจาของเขาสิ มันน่าไหมล่ะ...

“อย่ายั่วโมโหฉันถ้ายังไม่อยากเจ็บตัว ซาดิสท์ชอบหาเรื่องใส่ตัว”

“ก็ประเภทเดียวกับนายน้อยนะคะ ไม่งั้นเราคงเข้ากันไม่ได้หรอกนะคะว่าไหม “หญิงสาวกรีดยิ้มร้ายร้อนแรงยั่วยวนชายหนุ่มอีกครั้ง

“สาบานว่าเธอยังอยากกลับบ้าน ถ้าไม่ฉันจะได้จัดเธอตอนนี้เลย” ชายหนุ่มร่างสูงยกยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ ทำเอาหญิงสาวถอยถดออกห่างเล็กน้อย

“ดารินทร์อยากกลับบ้านมากกว่าค่ะ เดี๋ยวต้องไปคุยรายละเอียดคดีพวกนี้กับพี่ฟาร์อูลอีก”

“คุยกับฉันก็ได้ทำไมต้องเป็นมัน”

“คุยกับนายน้อย? แน่ใจนะคะว่าแค่คุยไม่ใช่อย่างอื่น” เธอหรี่สายตามองเขาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ดูเหมือนสถานการณ์ระหว่างเธอและเขาจะผ่อนปรนลง ไม่ตึงเครียดเหมือนก่อน วิธีของเธอเปลืองตัวยิ่งนักกว่าจะควบคุมเขาได้

“อย่ายั่วฉันก็พอเธอก็รู้ฉันไม่ใช่พวกที่มีความอดทนสูง” เขาปรามเธอ ทุกอากัปกิริยาของหญิงสาวเพียงเล็กน้อยก็สามารถกระตุ้นเพลิงร้อนในกายเขาให้ลุกโชนพร้อมแผดเผาพวกเขาทั้งคู่ได้ทุกเมื่อ

ดารินทร์ในตอนนี้ไม่ใช่หญิงสาวเผ่ามนุษย์ที่พึ่งกลายพันธุ์เป็นแวมไพร์สุดแสนจะอ่อนแอ ที่ยอมให้เขาข่มเหงรังแกเหมือนเดิม เธอในตอนนี้ฉลาด สู้คน เย่อหยิ่ง และแถมยั่วยวนเก่งเป็นที่หนึ่ง ขณะเดียวกันบางเวลาก็ออดอ้อนเอาใจเขาจนสามารถควบคุมเขาให้กลายเป็นลูกไก่ในกำมือ เชื่อฟังเธอ

แม้จะรู้เช่นนี้เขากลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย...

เพียงเธอเอื้อนเอ่ยเขาก็พร้อมตอบรับคำสั่งของเธอ...

อีกใจหนึ่งก็ยังทำท่าแข็งขืนต่อหญิงสาวไม่ให้เธอรู้...

“ดารินทร์ยังไม่ได้ยั่วนายน้อยเลยนะคะ” เธอแสร้งทำหน้าไร้เดียงสา ริมฝีปากกระตุกยิ้มมองดวงตาคมคายที่หลุบมองทางอื่น

“คืนนี้เธอเจอหนักแน่”

“อุ๊ย...คืนนี้นายน้อยจะมาหาดารินทร์ถึงที่เลยหรอคะ อดใจแทบไม่ไหว” ร่างเล็กเดินตรงไปหาชายหนุ่ม ศรีษระเล็กซบลงบนแผกอกแน่น สองแขนเรียววางทาบบนหัวไหล่หนาของเขา กลิ่นกายสปอร์ตแตะจมูกโด่งรั้น

ฉันจะล็อคประตูสาบาน!

จะว่าไปเขาก็ตัวหอมเหมือนกันนะเนี่ย...

“ยัยโรคจิต...” ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วแน่น วันสองวันมานี้เธอเปลี่ยนไปราวกับคนละคน ใช่ว่าเขาไม่ชอบแต่มันทำให้เขาเกิดความรู้สึกหึงหวง หากเธอทำแบบนี้กับใคร

“ยินดีรับคำชมค่ะนายน้อย”

ฟาร์อูลชะงักนิ่งเมื่อเห็นสองร่างเดินเข้ามาภายในบ้านพร้อมเพรียงกัน ครั้งนี้ไอน้องชายฝาแฝดเดินตามหลังดารินทร์ ไร้ทีท่ากระฟัดกระเฟียดเหมือนดังทุกครั้ง

“สงบศึกกันแล้วหรอสองคนนี้” ผู้เป็นพี่เอ่ยถามน้องสองคน

“ดูเหมือนศึกที่ผ่านมาจะเป็น เขา ฝ่ายเดียวมากกว่านะคะพี่ฟาร์อูล” เธอตอบพลันวางกองแฟ้มเอกสารคดีฆาตกรรมลงเบื้องหน้าเขา

“ยัยเลือดผสมฉันได้ยิน!” ในเวลานี้เธอก็กล้าที่จะหักหน้าเขาต่อหน้าไอพี่เวร

“ดูเหมือนจะเบาลงเยอะนะ” ฟาร์อูลยิ้มเล็กน้อย

‘แต่ฉันก็แลกอะไรมาเยอะนะคะพี่ฟาร์อูล’ เธอคิดในใจ

“ค่ะ...”

“ไปกินข้าวกันเถอะพี่หิวแล้วเดี๋ยวค่อยคุยเรื่องนี้ไปพลางๆ ระหว่างกินก็แล้วกัน” ฟาร์อูลมองแฟ้มเอกสารเบื้องหน้าก่อนจะถอนหายใจ

“ได้ค่ะ”

บนโต๊ะอาหารคือเหล่าเมนูอาหารของพวกมนุษย์ที่ถูกปรับเปลี่ยนให้แวมไพร์สามารถรับประทานได้โดยไม่มีอาการอย่างอาเจียน ฝีมือแม่ครัวคนเก่าคนแก่ของตระกูลยังรสดีเหมือนเดิม

“พี่ไม่คิดว่าผู้ชายคนนั้นจะเข้าไปหาน้องวันนี้ ขอโทษด้วยละกันที่ไม่บอกล่วงหน้า” ฟาร์อูลเอ่ย มือหนาตัดแฮมเบิร์กชิ้นสดเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

“ไม่เป็นไรค่ะพี่”

“แล้วช่วงนี้งานที่บริษัทเป็นไง”

“ราบรื่นดีค่ะ พี่ฟาร์อูลไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ”

“แล้วทำไมมึงถึงไปจัดการคนของตระกูลเอเธอนอลเมื่อวันก่อน” เขาถามน้องชายฝาแฝด เมื่อสายรายงานว่าราอูลนำแวมไพร์ฝีมือดีกลุ่มหนึ่งเข้าไปโจมตีนายน้อยพร้อมพวกของตระกูลเอเธอนอล

“......” เธอเงียบปล่อยให้เจ้าตัวเป็นฝ่ายพูดเอง เธอเองก็ไม่ทราบเรื่องนี้เช่นกัน พึ่งจะรู้ก็ตอนนี้

“เรื่องของกู ไม่ต้องเสือก กูจัดการได้”

“แต่มึงเรื่องนี้เกี่ยวพันกับความสงบของสองตระกูล มึงทำอะไรตามอารมณ์แบบนี้ ขืนอีกฝั่งเอาเรื่องขึ้นมาจะไม่เกิดการนองเลือดครั้งใหญ่หรือ...” ฟาร์อูลใช้เหตุผลเสมอในการกระทำสิ่งใด คำนึงถึงผลที่ตามมาเสมอ ทว่าราอูลกลับตรงข้ามเขาเสียทุกอย่าง เขามุทะลุ เลือดร้อน และกระหายการต่อสู้เป็นชีวิตจิตใจ

“กูทำอะไรไม่เคยลากตระกูลเข้าไปเดือดร้อนด้วย” ราอูลเอ่ยเสียงแข็ง

“แต่มึงใช้คนของตระกูล!”

“นั่นมันคนของกู กูฝึกพวกมันมาเองกับมือ มึงอย่าทึกทักว่าคนพวกนั้นเป็นคนของมึง!!!” ราอูลตะคอกเสียงดังลั่น เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกใช้งานคนของเขาเชียวหรือ... พวกนั้นมันติดตามเขามาตั้งกี่ปี เขาสูญเสียพลังแรงในการฝึกพวกมันตั้งเท่าไหร่ ใครจะรู้เท่าเขา ที่ตระกูลเวนส์เวิร์ธมีกองกำลังแวมไพร์ฝีมือดีนับหมื่นคน ไม่ใช่เพราะเขาหรอกหรือ

“......” ฝ่าเท้าเรียวเอื้อมไปไล่สัมผัสแก่นกายภายใต้กางเกงสีดำ ยามที่เขาใกล้จะอาละวาด วิธีนี้คงเปรียบเสมือนเอาน้ำเย็นเข้าลูบ

ได้ผลราอูลสงบลงเล็กน้อยสีหน้าสับสนมองเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

“มึงคือนายน้อยตระกูลเอนส์เวิร์ธจำใส่สมองของมึงด้วย อย่าพาลหาเรื่องเดือดร้อนให้ทุกคนในตระกูลก่อนที่ท่านพ่อท่านแม่จะตื่น!”

“......” ดารินทร์ยังคงใช้ปลายเท้าลูบไล้แก่นกายตัวเขื่องที่เริ่มขยายใหญ่ขึ้น ดวงตากลมโตเลิกคิ้วหยอกเย้าชายหนุ่มที่นั่งตรงข้าม โดยที่ฟาร์อูลผู้นั่งบริเวณหัวโต๊ะไม่ทันสังเกตุว่าใต้โต๊ะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น

‘มันใช่เวลาไหมดารินทร์!’ เขาต้องมาสะกดกลั้นอารมณ์ในเวลาแบบนี้

“ทำไมมึงไม่ตอบ เป็นใบ้แดกหรอ!” ฟาร์อูลวางช้อนส้อมลงบนจานอาหาร เขาเริ่มจะไม่อร่อยกับอาหารมื้อนี้เสียแล้ว

“เออ!”

“เอออะไร!” ฟาร์อูลถาม

“มึงพูดเรื่องอะไรก็เรื่องนั้นแหละ”

“เออเข้าใจก็ดี แม่งกว่าจะเข้าใจ! กูไม่ดงไม่แดกมันละ น้องพี่ขอตัวก่อนนะเห็นหน้ามันแล้วพี่กระเดือกไม่ลง” จบประโยคฟาร์อูลเดินสะบัดหน้าออกไปจากห้องรับประทานอาหาร กระแทกฝีเท้าตามแรงอารมณ์ขุ่นเคือง พี่น้องสองคนนี้ไม่เคยจะคุยกันดีๆ ได้เกินสามประโยค เป็นอันต้องทะเลาะกัน ทุกคนภายในบ้านชินตากับเหตุการณ์นี้ดี

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำยำดันเก้าอี้ออกห่างจากโต๊ะเร็วแรง เดินปราดไปกระชากเรียวแขนเล็กให้เดินตาม หวังจะระบายความคับแน่นของตรงกลางเป้ากางเกงที่มันอัดอั้นจนปวดตุบด้วยฝีมือเธอให้สาสมใจ ทว่ากลับมีสาวใช้แวมไพร์คนสนิทของเธอมาห้ามปรามเสียก่อน

“นายน้อยอย่าทำร้ายดารินทร์อีกเลยนะคะ รอบก่อนเธอก็เจ็บเกือบตาย” อาหลินเอ่ยทักท้วงผู้เป็นนาย เธอคิดว่ารอบนี้นายน้อยคงจะทำร้ายร่างกายหญิงสาวอีกหน หวังระบายอารมณ์เป็นแน่

“หลีกไปอาหลิน ก่อนฉันจะหักคอเธอ” ราอูลกัดฟันกรอด ช่างประจวบเหมาะมาขัดจังหวะเขาเสียจริง

“ไม่หลีกค่ะ ยังไงรอบนี้หลินก็ไม่มีทางปล่อยให้นายน้อยรังแกดารินทร์อีกแน่ๆ ค่ะ ปล่อยนะคะ ไม่งั้นหนูจะไปฟ้องนายน้อยฟาร์อูล”

“......” หญิงสาวมองภาพเบื้องหน้า เธอกลั้นขำ ใครใช้ให้เมื่อก่อนเขาร้ายกาจใส่เธอนักเล่า กรรมตามสนอง...

“อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่นะอาหลิน หลีกไป!”

“ไม่ค่ะ! ถ้าไม่ปล่อยจะไปฟ้องจริงๆ นะคะ” อาหลินขู่ฟ่อ เธอยืดอกปกป้องเพื่อนคนเดียวภายในบ้านหลังนี้อย่างใจแข็ง

“อาหลิน!” ราอูลผละออกทำท่าจะทำร้ายอาหลินจริงดั่งคำขู่ มือเล็กรีบฉุดรั้งเอวสอบแทบไม่ทัน

“คืนนี้รอพี่ฟาร์อูลหลับก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวดารินทร์จะเข้าไปหาที่ห้อง” หญิงสาวกระซิบแผ่วเบา ขืนปล่อยไปแบบอารมณ์คั่งค้างเช่นนี้ คงได้โวยวายยกใหญ่

“ฝากไว้ก่อนเถอะอาหลิน!” เขายอมลงว่าง่ายตามคำนั้น ก่อนเดินตรงขึ้นไปบนห้องท่ามกลางสายตาของบรรดาสาวรับใช้ที่คอยสังเกตุการณ์ หากเขาฝืนลากเธอขึ้นมาเรื่องนี้คงถึงหูไอ้ฟาร์อูลในไม่ช้า

“ค่านายน้อย”

“เธอก็ช่างใจกล้าไม่กลัวเขาหักคอเลยหรือยังไง” ดารินทร์ส่ายหน้าเอือมระอาเล็กน้อย

“ไม่กลัวหรอก กลัวเธอตายมากกว่า”

“ขอบคุณนะจ๊ะอาหลิน”

“ไม่เป็นไรฉันสงสารเธอ เห็นเธอเจ็บตัวมาเยอะแล้ว”

“......” ดารินทร์กลั้นหัวเราะอีกรอบในความใจกล้าบ้าบิ่นของเพื่อนสาว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กราบเท้าฉันสิคะนายน้อย   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษดวงตาใสสุกสกาวดุจดวงดาราบนท้องฟ้าเปล่งประกายฉายแสงวิบวับ ยามจ้องมองดวงหน้าของผู้เป็นลุงอย่างฟาร์อูล ธายาร์ส่งเสียงร้องเอิ้กอ้ากชั่วครู่ ก่อนจะดูดนิ้วสั้นป้อมของเธอโครงหน้าอ้วนจ่ำม่ำเหมือนซาลาเปานึ่งสุกลูกใหญ่ ผิวขาวเนียนละเอียดสีชมพูระเรื่อ ท่อนแขนเป็นปล้องสองข้าง ไหนจะต้นขาอวบสั้นที่ดูน่ากัดของเธอ ใครเห็นเป็นต้องเอ็นดูไปเสียทุกรายปกติธายาร์จะโดนคุณปู่คุณย่ายึดเอาไว้ฟัดกันเพียงสองคน ดีหน่อยที่ช่วงนี้พวกท่านทั้งสองไปฮันนีมูนเติมความ เขาจึงพลอยมีโอกาสได้อุ้มหลานสาวกับเขาบ้างแม้ว่าปู่ย่าจะไปฮันนีมูนกันก็ไม่วางโทรมาขอดูหน้าหลานเช้า บ่าย เย็น เรียกได้ว่าขอดูหลานหลังมื้ออาหารให้ได้รอยยิ้มชโลมจิตอันเหี่ยวเฉาให้ชุ่มชื่น“กูว่าธายาร์เหมาะที่จะเป็นลูกกู ดูตาสิเหมือนกูยังกะแกะ” ฟาร์อูลกล่าว“ธายาร์เป็นลูกผมค้าบ ผมเป็นพ่อบุญธรรม” โจชัวเอ่ย เขาชะเง้อคอมองลูกสาวบุญธรรมบนตักฟาร์อูลด้วยความเอ็นดู“มึงก็ได้เป็นพ่อแค่ชื่อนั่นแหละ ถ้าน้องกูไม่งมงามเชื่อคำสาปแช่งของตาเฒ่านั่น กูไม่มีทางยอมให้หลานกูใช้นามสกุลมึงหรอก” ฟาร์อูลอดหมั่นไส้เขาไม่ได้ ดูสีหน้าระรื่นของมันน่าเตะจริง“คนจะได้เป็นพ่ออยู่

  • กราบเท้าฉันสิคะนายน้อย   ตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษเด็กน้อยหน้าตาน่ารักวัยห้าเดือนส่งเสียงร้องอ้อแอ้ปลุกผู้เป็นพ่อที่นอนขนาบข้างเบนกายกอดหญิงสาวผู้เป็นภรรยาสุดรัก“วันนี้ตื่นเร็วนะโป้งเหน่ง” ราอูลผงกศรีษระหันมองลูกสาวที่กำลังดูดนิ้วโป้งของเธอเล่น“แอ้~” ธายาร์ยิ้มกว้างจนตาหยีเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อลืมตามองเธอธายาร์หรือโป้งเหน่งเริ่มพลิกตัวคว่ำได้แล้ว เธอเฉลียวฉลาดและไม่งอแงเหมือนแรกคลอด ทุกคนภายในบ้านต่างเอ็นดูหลานสาวคนแรก จนแทบจะแย่งกันอุ้มแย่งกันเลี้ยง หากไม่โดนราอูลห้ามปรามเสียก่อนผู้เป็นพ่อสุดแสนจะหวงลูกสาวตัวน้อย เขาเลี้ยงเธอมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก เป็นธรรมดาที่จะรักและหวงแหนกว่าสิ่งใด จากชายหนุ่มที่ไม่เคยมีมุมอ่อนโยนกลับพูดคุยหยอกล้อลูกสาวเพียงคนเดียวได้ทั้งวัน“อย่าเสียงดังคุณแม่นอนอยู่เข้าใจไหมครับ” ราอูลเอ่ยบอกลูกสาวน้ำเสียงกระซิบ“......” ธายาร์ยิ้มรับก่อนจะผ่อนเสียงลงอย่างรู้ความ“ฉลาดจริงลูกสาวพ่อ”“แอ้~”ราอูลยันกายลุกจากเตียงนอน ท่อนแขนแกร่งโอบอุ้มลูกสาววัยห้าเดือนไว้ในอ้อมอก เขาจัดการอาบน้ำให้เธอด้วยความคล่องแคล่ว ก่อนจะเปลี่ยนใส่ชุดจั้มสีหวานเพิ่มความน่าเอ็นดูขึ้นอีกเท่า“ลูกตื่นแล้วหรอคะ...” ดารินทร์ชะเง้อคอมองสองพ

  • กราบเท้าฉันสิคะนายน้อย   ตอนที่ 30

    ตอนที่ 30หญิงสาวรีบเดินไปขวางชายหนุ่มร่างใหญ่ที่กำลังฝืนเดินอย่างทุลักทุเลขึ้นไปบนห้อง เธอรีบประคองแขนแกร่งด้วยเกรงว่าเขาจะล้มหน้าคะมำคาบันได“อย่ามาแตะต้องฉันเอาเวลาไปดูแลผัวตัวเองเถอะ” ร่างสูงสะบัดท่อนแขนเรียวอย่างแรงจนเธอเซถลาเกือบตกบันได ดีที่ท่อนแขนแกร่งคว้าเอวเอาไว้ทัน“ทำดีๆ ได้ไหมคะนายน้อย ดารินทร์ท้องอยู่นะ” แม่มานเริ่มจะวีนแล้วนะ“ใครใช้ให้เธอมาวุ่นวาย” เขาตอบกลับหน้าตาย“เดินกระเผกแบบนี้เดี๋ยวก็ได้ตกลงไปคอหักตายหรอก”“เดี๋ยวนี้พูดจากับฉันแบบนี้แล้วหรอดารินทร์”“แล้วจะทำไมคะ” ร่างเล็กช้อนดวงตามองร่างสูงที่ทำท่าฮึดฮัดไม่พอใจ แต่ก็ยอมให้เธอเดินประคองไปส่งถึงหน้าประตูห้องนอน“ส่งเสร็จแล้วก็ไปดูแลผัวเธอนู้น ท้องโย้มายืนใกล้ฉันน่ารังเกียจ!”“นายน้อยพูดว่าไงนะคะ!”ดารินทร์ยืนเท้าสะเอวอย่างเหลืออด เขาพูดว่าเธอท้องโย้น่ารังเกียจอย่างนั้นหรอ ทั้งๆ ที่เธออุ้มท้องลูกของเขาเนี่ยนะ!“ฉันพูดผิดตรงไหน”“ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้เลยนะก่อนที่ดารินทร์จะโมโห”“ทำไมฉันต้องถอน ฉันไม่ถอน!”“ได้!”“ดารินทร์ดูแลนายน้อยมาตลอดแปดเดือนแถมยังอุ้มท้องลูกของเรา เหนื่อยก็เหนื่อย อึดอัดก็อึดอัด จะเดินเหินก็ไม่สะด

  • กราบเท้าฉันสิคะนายน้อย   ตอนที่ 29

    ตอนที่ 29เสียงลมหายใจหอบหนักของผู้นำตระกูลเอนส์เวิร์ธบ่งบอกถึงขีดจำกัดในการใช้พลังจิต กุซมันแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่าตัว ในขณะที่การตู่ส้อดำเนินไปอย่างดุเดือดตามเนื้อตัวมีร่องรอยบาดแผลขนาดใหญ่หลายจุด ซึ่งเกิดจากการสบประมาทของเขานั่นเอง ไม่โทษใครหลายปีมานี้ในขณะที่เขาเข้าสู่ช่วงจำศีล กุซมันเพิ่มพละกำลังโดยการดูดกินเลือดของผู้บริสุทธิ์นับหมื่น นั่นจึงทำให้เขาแข็งแกร่งกว่าผู้นำตระกูลเอนส์เวิร์ธ“ดูก็รู้ว่าแกเอาชนะฉันครั้งนี้ไม่ได้” กุซมันแสยะยิ้ม“แต่ฉันก็ไม่เคยหนีหางจุกตูด” มาโคลยังคงมีท่าทีเรียบนิ่งไร้กังวล“งั้นครั้งนี้ฉันมาส่งแกเพียงเท่านี้”สิ้นสุดประโยคฝ่ามือหนาส่งมวลพลังงานจิตแกร่งสีดำทะมึนหลายสายจับตรึงผู้นำตระกูลเอนส์เวิร์ธ ไอพลังจิตอาฆาตทะลวงทำลายสติสัมปัญชัญญะของมาโคลจนเสียการควบคุม เขากลายเป็นแวมไพร์คลุ้มคลั่งกระหายเลือด“ท่านพ่อ!” ราอูลดวงตาเบิกกว้างก่อนจะรีบถลาตัดพลังจิตสีดำหลายสายที่คอยพันธนาการผู้เป็นบิดาก่อนสายเกินแก้“......”ราอูลร่ายคาถาสงบจิตแก่บิดาก่อนจะทำให้เขาหลับไปดวงตาแข็งกระด้างสีนิลหันมามองต้นเหตุ ริมฝีปากหยักร่ายคาถาถ่ายเทพลังจิตจากแวมไพร์อาวุโสฝั่งตรงข้ามเข้

  • กราบเท้าฉันสิคะนายน้อย   ตอนที่ 28

    ตอนที่ 28ข่าวคราวของผู้นำและนายหญิงตระกูลเอนส์เวิร์ธกระจายหนาหู ใบหน้าเหี่ยวย่นเต็มไปด้วยริ้วรอยคลี่รอยยิ้มเหี้ยม เขารอวันนี้มานาน วันที่จะต้องสะสางความแค้นให้จบสิ้น“เรามาจัดการให้มันจบกันคืนนี้เถอะ”“ครับนายท่าน” “คืนนี้ไม่มันก็เราต้องตายกันไปข้าง กูไม่ยอมรามือปล่อยให้พวกมันมีความสุขแน่ กล้าหยามเกียรติกูถึงเพียงนี้” กุซมัน ผู้นำตระกูลคาสโตรที่เก็บซ่อนตัวมานานเปิดผ้าคลุมบดบังใบหน้าออก“ปล่อยให้้เป็นหน้าที่ของพวกเราเถอะครับนายท่าน” มือขวาคนสนิทเอ่ยเขาไม่อยากให้นายท่านลงมือด้วยตนเอง นายท่านร่างกายทรุดโทรมก็เป็นผลพวงจากการละความแค้นที่มีภายในใจวางลงไม่ได้ มันมากมายเสียจนกัดกินอวัยวะภายในของกุซมัน“กูรอมานานแล้ว คืนนี้จะเป็นวันตายของใครก็ให้รู้ดำรู้แดงกันไป...”“นายท่านอย่าลืมนะครับว่ายังมีคนของตระกูลคาสโตรที่จงรักภักดีต่อนายท่านอยู่ พวกเราอยู่เคียงข้างท่านมายาวนาน”“เรื่องนั้นกูรู้ดี กูซาบซึ้งใจจนไม่รู้จะตอบแทนอีมึงยังไง หากคืนนี้กูเป็นอะไรไปตำแหน่งผู้นำตระกูลพร้อมตราประจำตระกูล กูยกให้มึง...”“นะ นายท่าน ไม่ได้นะครับ”“กูคิดมาดีแล้ว” มือหนายกสะบัดหนึ่งที เขาไม่ต้องการพูดเรื่องนี้อีก

  • กราบเท้าฉันสิคะนายน้อย   ตอนที่ 27

    ตอนที่ 27นี่เมียผมเช้านี้ดารินทร์ตื่นนอนแต่เช้าตรู่สวมชุดเดรสลูกไม้สีแดงเบอร์กันดีเดินลงมากล่าวทักทายผู้อาวุโสของบ้านทั้งสอง ขณะรับชมรายการข่าวผ่านโทรทัศน์“อรุณสวัสดิ์ค่ะท่านพ่อท่านแม่”“อรุณสวัสดิ์จ๊ะลูกมานั่งข้างแม่นี่มา”“อรุณสวัสดิ์ลูกสาวพ่อ”วันนี้ดารินทร์นิ่งเงียบผิดปกตินั่งเหม่อลอย คิ้วเรียวหนาขมวดเป็นปมครุ่นคิดอะไรบางอย่างคนอยู่เดียว“เป็นอะไรทำไมวันนี้หน้านิ่วคิ้มขมวดแต่เช้า” มาโคลผู้สังเกตุเห็นเอ่ยทัก“อะ อ๋อ น่าจะตื่นเช้าเลยเบลอนิดหน่อยค่ะท่านพ่อ” เธอรีบตอบปัดปฏิเสธความกังวลก่อตัวขึ้นภายในหลังฉุดคิดนึกถึงคำพูดของชายหนุ่ม เขาต้องการที่จะเปิดเผยสถานะของเราทั้งคู่ แม้เธอจะกังวลว่าท่านทั้งสองจะรับได้หรือเปล่า...“ว่าไงน้องพี่วันนี้ตื่นเช้าจัง” ฟาร์อูลเดินหาววอดลงมา ท่าทางยังไม่ตื่นเต็มตา“นอนไม่ค่อยหลับค่ะพี่ฟาร์อูล”“พี่สร้างเรื่องไว้ให้หรอ...” ฟาร์อูลยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขานั่งลงข้างผู้เป็นพ่อ“......” เธอไม่ตอบเพียงมองค้อนส่งให้พี่ชายตัวแสบ“สรุปเรื่องหมั้นหมายของเด็กสองคนนี้เอายังไงกันดีครับ”“หนูว่าไงละลูก” มิเชลหันมองใบหน้าลูกสาวคนสวย“หนูกับคุณโจชัวไม่ได้รักกันค่ะท่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status