Share

๔ รุก

Penulis: Kaowsethong
last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-01 17:03:07

รุก

เช้าต่อมาบรรยากาศโดยรอบมีเมฆหนาพอสมควร ท้องฟ้าไม่มีแสงแดดเลยแม้แต่น้อยเพราะเมฆมาบดบัง ร่างบางเดินออกมาจากหอพักด้วยความเร่งรีบตอนนี้เธอสายมากแล้วกว่าที่จะขึ้นรถเมล์แล้วไปถึงบริษัทคงได้ลงชื่อสายแน่นอน

ใบหน้าหวานมีเหงื่อผุดขึ้นบริเวณไรผม เธอเช็ดอย่างเร่งรีบแล้วเดินออกมาโดยเร็วก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงแตรรถ

“ขึ้นมาสิ” แล้วก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อพบว่ารถที่มาจอดเทียบริมฟุตปาธแล้วกดแตรใส่เธอนั้นคือเจ้านายของเธอนั้นเอง

“คุณวีร์” ดูเหมือนการที่ชนวีร์จอดรถโดยไม่ได้เลี้ยวหลบทำให้เกิดปัญหาขึ้นเพราะตอนนี้ข้างหลังรถเริ่มติด เสียงแตรบีบดังเพราะความรีบของรถด้านหลัง

“ขึ้นมาเร็ว รถข้างหลังเขาบีบแตรไล่ฉันอยู่นะ”

ไม่ทันจะได้ขึ้นเพราะเขาจ้องเธอด้วยสายตาบังคับ จอมขวัญขึ้นรถมานั่ง ชนวีร์ก็ขับออกไป

“คุณวีร์มาทำอะไรแถวนี้คะ” ขึ้นรถมาได้เธอก็ถามเขา

ชนวีร์หันมามองคนข้างกายแล้วมองไปตรงทางข้างหน้า

“ก็แค่ผ่านมา เห็นพนักงานเดินข้างทางดูคุ้นๆ สงสารเลยรับมา ทำไมเหรอ” หญิงสาวส่ายหน้า แม้จะแอบคาดหวังสักนิดว่าเขามารับเธอแต่ก็คงเป็นได้แค่ความหวังเพราะความจริงไม่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เธอคิดแม้แต่น้อยเลยด้วยซ้ำ

บนรถตกอยู่ในความเงียบจนกระทั่งชนวีร์เลี้ยวรถไปที่ร้านอาหารเรียบหรูที่เปิดอยู่ในซอยตรงข้ามบริษัท

“คุณวีร์จะไปไหนคะ ไม่เข้าบริษัทเหรอ”

“บริษัทเข้าตอนไหนก็ได้ แต่ตอนนี้ท้องฉันถ้าไม่ได้กินข้าวมันต้องประท้วงแน่เลย”

ดูแล้วสายตาเขาออกจะเว้าวอนจนเธอปฏิเสธไม่ลง โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยเสียหน่อย ถ้าเธอคว้าเอาไว้คงไม่เสียหาย

“ก็ได้ค่ะ” จอมขวัญตอบรับ

ชนวีร์จึงจอดรถแล้วพาเธอลงไปรับประทานอาหารเช้าด้วยกันโดยไม่สนใจสายตาของพนักงานบางคนที่มากินข้าวที่นี่เลยแม้แต่น้อย เป็นจอมขวัญเองที่ดูจะเกร็งเมื่อพบว่ามีคนในบริษัทอยู่ด้วย

“คุณวีร์คะ มากินแบบนี้มันจะดีหรือ คนอื่นจะไม่เอาคุณวีร์ไปนินทาแย่หรือคะ”

“ฉันไม่กลัวนะ” ได้โต๊ะนั่งชนวีร์ก็บอกจอมขวัญอย่างไม่ยี่หระกับเรื่องพวกนี้ ชายหนุ่มจัดแจงสั่งอาหารของตนก่อนจะถามจอมขวัญ เธอเอาเพียงแค่ข้าวต้มเท่านั้นเพราะก่อนออกมาดื่มโอวัลตินไปแล้วหนึ่งแก้ว

รอไม่นานอาหารก็พร้อมเสิร์ฟ ทั้งสองนั่งกินโดยที่ชนวีร์ไม่ได้ใส่ใจต่อคนรอบข้าง

เมื่อเห็นข้าวผัดที่ยื่นมาตรงหน้าจอมขวัญก็เลิกคิ้วสงสัยก่อนส่งเสียงออกไป

“คะ”

“ทำไมชอบสงสัย ยื่นให้ขนาดนี้ก็ให้กิน อ้าปากแล้วกิน” คนพูดก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย ชายหนุ่มเอาข้าวจ่อที่ปากของจอมขวัญทำเอาร่างบางถึงกับเขินแต่ก็กินข้าวที่เขาป้อนให้

“อร่อยไหม” เคี้ยวเสร็จหญิงสาวจึงพยักหน้าให้ ชนวีร์ก้มลงกินข้าวต่อแล้วตักข้าวผัดใส่กุนเชียงที่เขาสั่งป้อนเธออีกจนจอมขวัญแสนจะอาย ใบหน้าหวานแดงก่ำ

“พอแล้วมั้งคะ”

ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ตอบรับ เขายื่นช้อนมาใกล้เธออีกจอมขวัญจึงต้องกินอีกคำอย่างเสียไม่ได้

“อร่อยก็กินเยอะๆ สิ แค่ข้าวต้มมันไม่อิ่มหรอก”

“แต่ว่าคุณวีร์จะอิ่มหรือคะ”

“ก็ถ้าเธออิ่มฉันก็อิ่มแล้วละ”

ไม่รู้ว่านั้นคือประโยคจีบหรือเปล่าแต่มันก็ทำเอาเธอเขินได้เหมือนกัน แม้ดวงตาของเขาจะไร้แววหวานอย่างที่ควรจะเป็นก็ตาม จอมขวัญก้มหน้ากินข้าวต้มโดยพยายามไม่สนใจคนรอบข้างและคนตรงหน้าที่เธอสัมผัสได้ว่าเขากำลังจ้องเธออยู่

เมื่อรับประทานอาหารเสร็จชนวีร์จึงพาจอมขวัญไปทำงาน เขาขับรถเข้าไปจอดแล้วเดินเข้าบริษัทพร้อมกับพนักงานใหม่ที่กำลังถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมาก

จอมขวัญกลายเป็นหัวข้อสนทนาที่น่าสนใจที่สุดตอนนี้ เธอเดินเข้าบริษัทพร้อมประธานหนุ่มที่หล่อเหลาทำเอาสาวหลายคนต้องอิจฉาตาร้อนก่อนจะนำเอาเรื่องของเธอไปพูดต่อๆ  กันไปโดยไม่สนใจว่าเรื่องราวก่อนหน้ามันจะเป็นอย่างไรและจริงเท็จแค่ไหนก็ตาม

“สวัสดีค่ะทุกคน” ถึงที่ทำงานจอมขวัญก็กล่าวทักทายเพื่อนร่วมงานทันที

ดาหวันยิ้มให้เธอแล้วก้มลงดูรายละเอียดงานต่อ ส่วนสองสาวก็นั่งทำงานอย่างเคร่งเครียดเพราะเมื่อวานเธอกลับก่อนทำให้งานที่ได้รับยังไม่เสร็จและกองพะเนินจนหายใจแทบไม่ออก

“คุณจอมขวัญ เข้ามาพบผมด้วย” ปนิธิเดินออกมาจากห้องเรียกน้องสาวร่วมสถาบันเสียงขรึม ใบหน้าหล่อที่มักจะยิ้มแย้มเรียบสนิท จนสามคนที่ทำงานอยู่ต้องเงยขึ้นมามองแล้วก็ขนลุกไปตามๆ กันไม่เว้นแม้แต่จอมขวัญ

โหมดโหดของเจ้านายยังไม่เคยเห็นเลยสักครั้งและคิดว่านี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเต็มตาว่าปนิธิก็มีบทโหดกับเขาเหมือนกัน

“ค่ะ” ร่างบางเก็บของไว้ที่โต๊ะ เดินตามหัวหน้างานเข้าไปในห้องของเขาทันที

ห้องของหัวหน้าแผนกขนาดพอดีไม่ใหญ่เกินไปแต่มีมุมให้นั่งพักหรือคุยงานไว้อย่างน่ารักทางด้านขวาของห้อง

“ทำไมวันนี้มาสาย”

วันนี้แม้จอมขวัญจะไม่ได้เข้าเลตแต่ก็ช้ากว่าเวลาที่เธอมักมาปกติมากนัก ยิ่งเมื่อเช้าที่เขามาถึงบริษัทก็ได้ยินเรื่องของเธอกับท่านประธานยิ่งทำให้ชายหนุ่มร้อนใจ

“ขวัญขอโทษนะคะที่มาสาย ถ้าจะบอกว่าตื่นสายมันก็ดูจะเป็นการแก้ตัวแต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ค่ะ คือขวัญตื่นสาย ขวัญขอโทษนะคะ คราวหน้าขวัญจะไม่มาสายอีกแล้ว”

สิ่งที่จอมขวัญบอกไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากรู้สักนิด อันที่จริงปนิธิอยากถามใจจะขาดว่าทำไมถึงไปกินข้าวกับประธานบริษัทอย่างชนวีร์ได้

“เอาเถอะ พี่ก็แค่ห่วง ขวัญกลับไปทำงานได้แล้ว” มีเรื่องอยากจะถามมากมายแต่ถ้าเขาถามไปมากกว่านี้มันจะก้าวล้ำคำว่าพี่ชายหรือเปล่านั่นคือสิ่งที่ปนิธิคิด

..เขามีสิทธิ์อะไรที่จะไปหวงเธอในเมื่อเธอให้เขาเป็นได้แค่พี่ชายร่วมสถาบันเท่านั้น

จอมขวัญยิ้มให้ปนิธิแล้วเดินออกจากห้องไป วานิสาและอพิญญาที่เอาหูแนบประตูถึงกับผงะเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเปิดออกมาเร็วขนาดนี้ สองสาวรีบกลับไปนั่งโต๊ะทำงานของตนเองทันที

จอมขวัญมองทั้งสอง โดยไม่ได้ว่าอะไรแล้วเริ่มทำหน้าที่ของตนเองไปเรื่อยๆ งานใหม่เริ่มมา ดีที่เธอทำงานเก่าเสร็จแล้วจึงไม่มีงานค้างต้องให้สะสาง เมื่อถึงเวลาสิบเอ็ดนาฬิกาสามสิบนาทีงานที่เธอทำก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์

“พี่ดาคะ ขวัญทำงบประมาณปีนี้ให้เสร็จแล้วนะคะ”

ดาหวันที่กำลังตรวจเอกสารต้องเงยหน้าขึ้นมามองแล้วเรียกตรวจเอกสาร

“พี่เกือบลืมไปเลย เมื่อกี้พี่วิไลโทรมาหาพี่บอกว่าท่านประธานอยากดูงบประมาณปีนี้ ขวัญทำเสร็จแล้วก็เอาขึ้นไปให้ท่านดูเลยนะ” เธอยื่นเอกสารส่งกลับให้รุ่นน้องแล้วทำงานต่อ

จอมขวัญที่ได้รับคำสั่งก็ใจเต้นไม่เป็นส่ำ เธอไม่คิดว่าจะต้องเจอเขาบ่อยขนาดนี้ หญิงสาวถือแฟ้มเอกสารออกไปจากแผนกและเมื่อลับหลังร่างบางวานิสาและอพิญญาก็เลื่อนเก้าอี้หากันโดยอัตโนมัติ

“ฉันว่าท่านประธานต้องแอบชอบขวัญอยู่แน่เลย”

“ใช่ ฉันเห็นด้วย และฉันว่าน้องขวัญของเราก็ต้องแอบมีใจให้ท่านประธานชัวร์” สองเสียงต่างเห็นไปในทิศทางเดียวกัน

“ทำงานได้แล้ว กองพะเนินเป็นภูเขาอยู่เที่ยงนี้คงไม่ได้กินข้าวแล้วมั้ง” แม้ว่าตาจะจ้องเอกสารแต่ดาหวันก็พูดขึ้นเสียงดัง ทำให้สองสาวสปริงตัวออกจากกันอย่างรวดเร็วแล้วกลับมาทำงานตามหน้าที่ของตัวเองต่อไป

ดาหวันเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสารพลางคิดในใจ

‘หวังว่าเรื่องที่ได้ยินคงเป็นแค่ข่าวลือที่ไม่เป็นจริงเถอะนะ’

มาถึงหน้าห้องท่านประธานอย่างชนวีร์ เธอก็เคาะประตูเมื่อได้ยินเสียงเขาอนุญาตก็เปิดเข้าไป ตอนนี้ร่างสูงก็ยังคร่ำเคร่งกับเอกสารตรงหน้าอยู่โดยไม่ได้มองยังคนมาใหม่เลยด้วยซ้ำ

จอมขวัญเดินไปยื่นเอกสารก่อนจะนั่งลงเมื่อเขาผายมือเชิญนั่งแล้วเปิดดูเอกสาร

“เธอแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าตรวจสอบถูก” ดวงตาเรียวไล่มองตามตัวอักษร  บนกระดาษอย่างละเอียด

“ค่ะ”

ชนวีร์พยักหน้าแล้วเปิดเอกสารดู พร้อมกับดูข้อมูลในคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานของเขาด้วย ชายหนุ่มเจอข้อสงสัยบางอย่างก็ให้จอมขวัญช่วยดูพร้อมกับให้เธอแก้ไขส่วนที่ผิด หญิงสาวจะลงไปแก้ไขที่โต๊ะทำงานของเธอแต่ชนวีร์บอกให้ทำในห้องเขาแทนเธอจึงขัดคำสั่งไม่ได้

 ทั้งสองต่างเคร่งกับการทำงานของตนเองจนเมื่องานเสร็จสมบูรณ์จอมขวัญจึงเก็บเอกสารเตรียมกลับแผนกทันที

“เดี๋ยวก่อน” เสียงเรียกนั้นทำให้เธอชะงัก

ชนวีร์จัดการปิดคอมพิวเตอร์ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินมาหาเธอ

“เที่ยงครึ่งแล้วไม่หิวหรือ ไปกินข้าวกัน”

ไม่ใช่ประโยคคำถามหรือขอร้องแต่ดูแล้วจะเป็นประโยคคำสั่งเสียมากกว่าและเธอก็ปฏิเสธไม่ได้เสียด้วยเมื่อเขาคว้าแฟ้มหนาไปวางบนโต๊ะแล้วจูงมือเธอออกมาจากห้องทำงานพอดีกับที่คุณวิไลกลับมาจากรับประทานอาหารเที่ยง

“คุณวิไลผมอาจจะเข้าบริษัทช้านะ จะไปกินข้าว” สั่งเสร็จชายหนุ่มก็พาเธอเดินไปยังลิฟต์กดไปชั้นหนึ่ง

เมื่อออกมาทั้งคู่ก็ตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งบริษัทและลูกค้าที่เข้ามาติดต่อด้วยเพราะความสวยหล่อและเหมาะสมกันนั่นเอง พนักงานบริษัทผู้หญิงหลายคนเริ่มจับกลุ่มคุยกันเมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว

“คุณวีร์ ขวัญไม่ได้เอากระเป๋าลงมาด้วย”

“ช่างมัน ไม่หายหรอก”

เขาเดินมายังลานจอดรถแล้วบังคับให้เธอขึ้นไปก่อนจะขับพาเธอไปรับประทานอาหารเที่ยงที่โรงแรมซึ่งห่างจากบริษัทไม่มากนัก จอดรถเสร็จชนวีร์ก็พาเธอเข้ารับประทานอาหาร ซึ่งเขาได้โทรจองโต๊ะไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

“จะกินอะไร”

นั่งดูเมนูอาหารที่ละลานตาทำเอาจอมขวัญเลือกไม่ถูก

“เอาสเต็กปลาแซลมอนแล้วกันค่ะ” เธอสั่งเสร็จชนวีร์ก็หันไปสั่งบ้าง

พนักงานเก็บเมนูแล้วเสิร์ฟไวน์สำหรับคุณผู้ชายและน้ำส้มของคุณผู้หญิง

“คุณวีร์ไม่น่าลำบากพาขวัญมาเลยนะคะ”

“ก็ไม่ได้ลำบากตรงไหน ฉันจะมาอยู่แล้ว และการที่เธอมาด้วยมันก็ดีมากกว่าที่ฉันจะมาคนเดียว นอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังอิ่มใจอีกต่างหาก” มาอีกแล้วกับมุกหน้านิ่งของเขา

จอมขวัญเสมองไปทางอื่นพลางกัดริมฝีปากแก้เขิน เธอพยายามที่จะกลั้นยิ้มไว้อย่างสุดความสามารถ

“หน้าแดงนี่ไม่สบายหรือเขิน”

คำถามที่เถรตรงจนจอมขวัญต้องค้อนใส่เขาไปหนึ่งที

“ฮ่าๆ  ล้อเล่นน่ะ” รอยยิ้มของเขาผุดขึ้นทำเอาใจสาวกระตุก

..นานแค่ไหนแล้วนะที่เขาไม่ได้หัวเราะให้เธอ มันนานมากเธอแทบจะจำรอยยิ้มของเขาไม่ได้แล้ว รอยยิ้มที่เขามอบให้เพียงเธอเท่านั้น

“อาหารมาแล้ว กินเถอะ” เมื่ออาหารมาเสิร์ฟชายหนุ่มก็ไม่รอช้าที่จะชวนเธอกิน ราวกับโลกทั้งสองมีเพียงเธอและเขาเท่านั้น

จอมขวัญมองไปยังเทพบุตรตรงหน้าของเธอ ผู้ชายขี่ม้าขาวที่เธอรู้จักเมื่อเจ็ดปีก่อน แม้ต่อมาเขาจะกลายเป็นซาตาน ที่เขากำลังจะกลายร่างเป็นเทพบุตรของเธออีกครั้ง อาจจะยังไม่สมบูรณ์และเธอก็ยังไม่เชื่อสนิทใจว่าเขาจะดีกับเธอจริงหรือเปล่า

..แต่ว่าเป็นแบบนี้มันก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ

หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จชนวีร์ก็พาจอมขวัญกลับมายังบริษัทและตอนนี้ก็เป็นเวลาสิบสามนาฬิกายี่สิบนาทีแล้ว จอมขวัญวิ่งขึ้นไปยังแผนกแล้วก็ต้องพบว่าเธอลืมเอาเอกสารมาด้วย มันอยู่ที่ห้องของชนวีร์นั้นเอง เธอเดินขึ้นมาเอาเอกสาร

“ขอโทษนะคะ ขวัญลืมเอกสารไว้”

ชนวีร์พยักหน้าให้แล้วก้มลงทำงานต่อ และก่อนออกจากห้องไปร่างสูงก็พูดกับเธอ

“ทำงานเสร็จ ขึ้นมาหาฉันก่อนนะ จะไปส่ง”

ประโยคสุดท้ายทำให้เธอก้าวขาแทบไม่ออกยิ่งเมื่อมองดวงตาเขาเธอก็ทำอะไรไม่ถูก จอมขวัญก้มศีรษะลงโค้งให้ก่อนจะออกจากห้องไป หัวใจเต้นรัวราวกับกลอง เข้าลิฟต์มาได้จอมขวัญก็เอามือทาบหัวใจ

“ทำไมเต้นแรงจังนะ เดี๋ยวเขาก็ได้ยินหมดหรอกว่าเราตื่นเต้นแค่ไหนน่ะจอมขวัญ” พร่ำบอกตัวเองอย่างนั้นแต่ยิ่งทำให้ใจเต้นเร็วเข้าไปอีก

..เขารุกเธอหนักเกินไปแล้วและดูท่าว่าครั้งนี้เธอจะเต็มใจให้เขารุกเสียด้วย

“ถ้าขวัญจะทำตามคำสัญญาตอนนี้จะทันไหมทราย ถ้าขวัญจะขอพี่วีร์ ทรายจะอนุญาตไหม” ถามแผ่วเบาอย่างรู้สึกผิดแต่ความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้จริงๆ 

ติ๊ง!

เสียงลิฟต์เปิดจอมขวัญจึงออกมา ต่อจากนี้ไปให้เวลาและหัวใจเป็นตัวกำหนดทุกอย่างก็แล้วกัน

ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางเมือง บุษบามินตรากำลังตรวจร้านอยู่เพราะได้ยินมาว่าช่วงนี้ที่ร้านสาขาใหญ่กำลังมีปัญหาเรื่องมีเพชรปลอมเข้าปะปนจนลูกค้าไม่ไว้ใจและไม่มาซื้อเพชรกับทางร้านอีก ปัญหานี้ทำให้ร่างบางต้องลงมาดูแลเองอย่างใกล้ชิด เธอตรวจสอบเพชรน้ำงามแทบทุกเม็ดและก็ตอนนี้กำลังตรวจดูกล้องวงจรปิดอยู่

“มอง มองเธอมาแสนนาน” หลังจากไม่ได้ความคืบหน้าเธอจึงเดินออกมาหน้าร้านแล้วก็เห็นชายหนุ่มเพื่อนสนิทของพี่ชายยืนถือดอกกุหลาบสีขาวเพียงดอกเดียว ส่งยิ้มหวานมาให้พร้อมกับเดินตรงมายังเธอ

“ไม่ได้เจอนาน น้องมินคิดถึงพี่พีร์ไหมครับ”

ใบหน้าอันหล่อเหลาไม่ได้ทำให้บุษบามินตราหลงเลยสักนิด หญิงสาวยิ้มให้เขาแต่ไม่ได้ตอบคำถาม

“พี่พีร์ไม่ทำงานหรือคะ” เมื่อเขายื่นดอกไม้ให้เธอก็รับเอาไว้แล้วถามกลับทันที

พีรยศ อมรกุล หนุ่มหล่อที่ปีนี้ถูกยกให้เป็นขวัญใจสาวๆ ของวงการไฮโซชื่อดังกลับทำหน้างอเมื่อคนที่ตนหลงรักตอกกลับมาหน้าแทบหงาย

“พี่ทำงานเสร็จแล้ว งานไม่มี ว่างพอจะเป็นคนรู้ใจข้างกายน้องมินตลอดวันและตลอดไป” ตามสเต็ปเดิมของเขาหยอดคำหวานลงไปอีกด้วย

สาวน้อยไม่ได้เขินเธอกลับแสยะยิ้มให้เขา

“ถ้าอย่างนั้นเชิญเข้าไปดื่มน้ำก่อนไหมคะ”

“ดีเลย พี่คอแห้งมากเลยครับ” แน่นอนว่าไม่มีทางที่หนุ่มหล่อจะปฏิเสธ เขาเดินเข้าไปภายในที่รับรองแขกกับเธอ

พีรยศเป็นเพื่อนสนิทของชนวีร์และเจอกับบุษบามินตราเมื่อไปทำงานที่อังกฤษ ซึ่งตอนนั้นเธอไปเรียนที่นั่น ชนวีร์พาเขาไปแนะนำให้รู้จักกับน้องสาวของตนเอง หลังจากนั้นเป็นต้นมาผู้ชายเจ้าชู้อย่างเขาก็กลายเป็นทาสรักของเธอ

ร่างสูงนั่งคุยกับเจ้าของหัวใจได้สักครู่ก็ต้องกลับเพราะได้รับโทรศัพท์จากเลขาว่าลูกค้าที่ญี่ปุ่นมาคุยงาน เขาเลยต้องล่ำลาจากสาวน้อยหน้าหวาน อดเสียดายไม่ได้แต่ก็คิดว่าไม่นานก็ได้มาหาอีก ในเมื่อห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เป็นของเขา

“เฮ้อ” เมื่อลับร่างสูง บุษบามินตราก็แอบถอนหายใจเพราะเธอไม่ได้คิดอะไรกับเขาไปมากกว่าเพื่อนของพี่ชายเลยสักนิดแต่ก็ไม่อยากตัดสัมพันธ์ไปจึงทำเพียงแค่แบ่งรับแบ่งสู้เท่านั้นและเธอก็บอกเขาไปแล้วว่าให้ได้แค่สถานะเพื่อนของพี่ชายเท่านั้นซึ่งดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่เข้าใจเท่าไหร่เลย

ปนิธิเดินถือกระเป๋าออกมาจากห้องด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว เมื่อตอนเที่ยงวันเขาตั้งใจที่จะชวนจอมขวัญไปกินข้าวด้วยกันแต่ปรากฏว่าเธอไม่อยู่และบ่ายนั้นเองเขาก็ได้เห็นกับตาว่าเธอเดินเข้าบริษัทมาพร้อมกับท่านประธานหรือก็คือชนวีร์นั่นเอง

..ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าจอมขวัญแอบหลงรักชนวีร์ตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยแล้ว

วันนั้นที่เขาตั้งใจจะสารภาพรักกับจอมขวัญก่อนที่เขาจะเรียนจบ ทำให้ได้รู้ว่าคนที่อยู่ในใจของเธอคือชนวีร์ เพราะไดอารี่ที่หญิงสาวเขียนถึงแฟนหนุ่มของเพื่อนได้ตกที่พื้นหลังจากที่เธอชนกับเขา จอมขวัญคงรีบเกินไปจนไม่รู้ตัวว่าของสำคัญหายไปและเขาเองก็เห็นแก่ตัวเกินกว่าที่จะคืนเธอไป

..เขาคิดว่าในเมื่อสิ่งที่เรียกว่าบันทึกความทรงจำของเธอหายไป เธออาจจะลืมผู้ชายคนนั้น แต่ไม่เลย เธอไม่เคยลืม

“กลับนะครับทุกคน” ปนิธิบอกลาแล้วยิ้มให้อย่างทั่วถึง จอมขวัญยิ้มให้เขาก็ยิ้มกลับแต่เป็นรอยยิ้มที่มีความเจ็บปวดเคลือบแฝงอยู่

หลังจากนั้นไม่นานผู้คนต่างก็ทยอยกลับทั้งแผนก จึงเหลือเพียงจอมขวัญคนเดียว หญิงสาวทำงานเสร็จก็ปิดคอมพิวเตอร์เก็บของเดินไปขึ้นลิฟต์กดชั้นสูงสุดของตึกมายังห้องประธานหนุ่มสุดหล่อ

คุณวิไลยิ้มให้เธอก่อนที่หญิงสาวจะเข้าไปในห้อง ชนวีร์ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาเพราะเขากำลังยุ่งอยู่กับเอกสารกองโตที่ต้องดู

“นั่งรอก่อนนะ ฉันขอทำงานแป๊บเดียว” พูดแม้จะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเธอ

จอมขวัญจึงไปนั่งโซฟารับรองแขกภายในห้องแทน เธอนั่งอ่านนิตยสารรอเป็นการฆ่าเวลา ในขณะที่เงยหน้ามองเขาทำงานเป็นระยะ ร่างบางอดชื่นชมเขาในใจไม่ได้เพราะรูปร่างสูงใหญ่นั้นช่างสง่างามยิ่งนัก ใบหน้าคมเข้มที่มีไรนวดขึ้นพอประมาณปรับลุกให้ดูเป็นเพลย์บอยยิ่งชวนให้หลงใหล ตาเรียวราวกับเหยี่ยวมองทีไรพานทำให้แข้งขาอ่อนร่ำไป จมูกโด่ง ริมฝีปากที่ไม่หนารับกับจมูกโด่งทำให้เขาดูหล่อเหลาและมีเครื่องหน้าที่ชวนหลงใหล

“มองขนาดนี้เอาฉันห่อกลับบ้านด้วยเลยดีไหม” พูดจบประโยคเขาก็เงยหน้าขึ้นมาส่งสายตาที่แม้ไม่หวานแต่ก็มีความรู้สึกละมุนจนเธอต้องรีบก้มหน้าลงอ่านนิตยสารโดยไม่ได้ตอบคำถามนั้น จึงไม่เห็นแววตาเขาที่มองเธออย่างสมเพช

..ใช่ ทุกอย่างมันก็แค่ละครฉากหนึ่งเท่านั้นเอง

ผ่านไปสามสิบนาทีร่างบางนั่งปิดปากหาวมาตลอดจนชนวีร์ปิดแฟ้มงานลุกขึ้นเดินมาหาเธอ ชายหนุ่มจับข้อมือบางแล้วดึงให้ลุกขึ้นจนอีกฝ่ายที่ไม่ทันได้ตั้งตัวสะดุ้ง

“กลับกันเถอะ”

สองคนเดินออกมาจากบริษัทในเวลาหกโมงกว่า ตอนนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มฟ้าร้องเสียงดังจนจอมขวัญรู้สึกราวกับว่าแผ่นดินสะเทือนไปตามเสียง

ชนวีร์เปิดประตูให้หญิงสาวก่อนจะเดินอ้อมมาฝั่งคนขับ ช่วงเวลานี้รถมักจะติดเสมอและเขาก็ยังไม่ชินเสียที

“คุณวีร์คะ ขวัญขอเปิดเพลงได้ไหม” เพราะรู้สึกว่าบนรถเงียบเกินไปเธอจึงคิดว่าเพลงน่าจะช่วยได้

“เอาสิ” เขาจัดการเปิดวิทยุให้ก็เจอกับเพลงสากลที่ความหมายช่างหวานเสียเหลือเกินจนคนฟังต้องเสมองออกไปนอกหน้าต่างทันที

“คุณวีร์ชอบเพลงแนวนี้หรือคะ”

“ก็ไม่เชิง แค่ฟังได้”

แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงชอบเพราะว่าคนรักชอบฟังเพลงสากล แนวเพลงอาร์แอนด์บี ทรายทิพย์ชอบยิ่งนักเขาจำได้ เธอชอบเพลงอะไรมักจะชวนเขาฟังเสมอและซื้ออัลบั้มเพลงเก็บไว้ ตอนนี้ในห้องของเธอเขายังคงเก็บไว้ให้อยู่

“เธอล่ะ ชอบไหม”

“ก็ไม่เชิงเหมือนกันค่ะ ขวัญฟังได้” ร่างสูงมองหน้าหวานก่อนจะพยักหน้าถามต่อ

“แล้วเธอชอบเพลงแนวไหนล่ะ”

“ขวัญไม่มีแนวหรอกค่ะ แค่ฟังแล้วรู้สึกว่าเพราะขวัญก็ชอบแล้ว”

ทั้งสองแลกเปลี่ยนความชอบเรื่องเพลงกันไปเรื่อยก่อนที่ชายหนุ่มจะฝ่าด่านรถติดมาส่งเธอถึงหอพักได้

จอมขวัญส่งยิ้มให้เขาจนตาหยีแล้วยกมือไหว้ขอบคุณ

“ขอบคุณค่ะที่มาส่ง”

“เต็มใจ” เขาพูดแค่นั้นแต่ทำเอาใบหน้าหวานซับสีเลือดทันที

..ช่วงนี้ทำไมเขาขยันพูดให้หัวใจเธอเต้นแรงเหลือเกินนะ

ซ่า!

“โอ๊ะ! ฝนตกแล้ว” เพียงไม่นานเม็ดฝนก็หล่นลงมาเม็ดใหญ่

ชนวีร์มองหาร่มทันทีแต่ไม่มีเลย ก่อนที่เขาจะนึกได้ว่ามันอยู่ที่บ้านเพราะเขาเพิ่งเอาลงเมื่อวานนี้เอง

“ฉันไม่มีร่มด้วย เอาอย่างนี้เดี๋ยวฉันเดินลงไปส่ง”

“คุณจะลงไปได้อย่างไรคะ ฝนตกขนาดนี้เดี๋ยวก็เปียกหรอก” เธอค้านอย่างไม่เห็นด้วยสักนิดด้วยความเป็นห่วงเขา

“เอาเถอะน่า ฉันไปได้แล้วกัน รอก่อนนะ” ชนวีร์หยิบเสื้อสูทของตัวเองแล้วเปิดประตูรถลงมา ชายหนุ่มยกเสื้อสูทขึ้นมาบังเม็ดฝนวิ่งตรงไปหาจอมขวัญเปิดประตูให้เธอลงมา

“มาเร็ว ฉันจะไปส่งข้างใน”

ร่างบางอึ้งสักพักก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วลงไปอยู่ภายใต้เสื้อสูทตัวหนาของเขาทันที ชนวีร์กดรีโมตล็อกรถแล้ววิ่งไปส่งหญิงสาวที่หน้าหอพัก ระหว่างทางจอมขวัญใจเต้นแรงไม่คิดว่าจะได้ใกล้ชิดกับเขาถึงเพียงนี้

“ฉันเข้าไปไม่ได้ใช่ไหม มันเป็นหอหญิง” จอมขวัญพยักหน้าให้เขา   ชายหนุ่มตอนนี้เปียกไปหมดทั้งตัวจนเธออดสงสารเขาไม่ได้

“ขอบคุณนะคะคุณวีร์ แล้วคุณจะกลับสภาพแบบนี้หรือคะ” และคำตอบของเขาก็คือการพยักหน้า แต่ดีที่มีชุดลำลองอยู่ภายในรถอยู่เขาคิดว่าคงจะไปจอดเปลี่ยนชุดที่ปั๊มน้ำมันเสียก่อน

“คงเป็นอย่างนั้น เธอขึ้นห้องได้แล้ว เจอกันพรุ่งนี้” พูดจบร่างสูงก็วิ่งกลับไปที่รถโดยมีเสื้อสูทเป็นร่มชั้นดีให้ตนเอง

จอมขวัญมองตามเขาไปด้วยดวงตาที่ทอประกายแห่งรักอย่างเต็มเปี่ยม

..เธอตกหลุมรักเขาอีกแล้วละ และดูเหมือนว่าครั้งนี้มันจะเป็นไปได้ด้วยดี

เมื่อเห็นรถคันหรูหายไปลับตาจอมขวัญจึงเดินขึ้นไปบนห้องตนเอง

..ความรักครั้งนี้เหมือนกับที่เธออ่านในนิยายเลย พระเอกโกรธนางเอกแต่เมื่อเวลาผ่านไปความโกรธจางหายความรักก็ปรากฏ เธอหวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้น หวังว่าเธอจะเป็นนางเอกที่โชคดีคนนั้น

ร่างบางคิดอย่างยิ้มๆ  ไขกุญแจเข้าห้องอย่างมีความสุข

เมื่ออาบน้ำและเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อกล้ามสีเทากับกางเกงขายาวเสร็จแล้วจอมขวัญก็ชงโอวัลตินดื่ม เธอไม่ชอบกินข้าวเย็นเสียเท่าไหร่เพราะมันจะแน่นท้องทำให้นอนไม่ค่อยหลับจึงกินอะไรที่มันเบาท้องแทน ผมที่ยังไม่แห้งเธอก็ไปนั่งผึ่งพัดลมเป็นการเป่าผมไปในตัว ใบหน้าหวานแต้มรอยยิ้มบางเมื่อคิดถึงเรื่องราวของเธอและชนวีร์ ก่อนจะสลดลงเมื่อคิดถึงทรายทิพย์เพื่อนรักของเธอ ใช่ว่าจะไม่รู้สึกผิดต่อเพื่อนแต่ตอนนี้เธอขอดื่มด่ำไปกับความรักครั้งนี้ได้หรือไม่

กุกกัก ตุ้บ!

เสียงที่ระเบียงห้องทำให้จอมขวัญชะงัก ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นเงาตะคุ่มที่ระเบียงนั้น ใบหน้าหวานมองรอบห้องเพื่อหาอาวุธป้องกันตัวก่อนจะเจอโคมไฟขนาดพอดีที่ข้างหัวเตียง ร่างบางเดินไปหยิบโคมไฟมาถือไว้แล้วย่องไปที่ระเบียงห้อง เธอระมัดระวังตลอดและมองไปที่เงาของคนข้างนอก จอมขวัญค่อยๆ เลื่อนประตูเปิดและยกโคมไฟขึ้นสูงเตรียมจะทุบไปที่ศีรษะของโจรร้ายแต่กลับต้องอึ้งเมื่อพบว่าเงานั้นล้มเข้ามาในห้องเธอ

“ขะ คนใช่ไหม” เอ่ยเสียงสั่นก่อนจะจิ้มไปที่ไหล่ของอีกฝ่ายก็ต้องโล่งอกเมื่อพบว่าเป็นคนแต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่คนร้ายหรือไม่ เธอค่อยๆ พลิกเขากลับมาก็ต้องตาโตด้วยความตกใจ

“คุณวีร์!”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • กลซ่อนรัก   ตอนพิเศษ ...รักวุ่นๆ ของหนุ่มตัวอ้วน

    ตอนพิเศษ...รักวุ่นๆ ของหนุ่มตัวอ้วนเด็กหญิงตัวน้อยกำลังร้องไห้งอแงเพราะโดนพี่ชายคนกลางแกล้ง แขนเล็กพยายามจะตีพี่ชายแต่อีกฝ่ายก็ทำท่ายึกยักจะโดนก็ไม่โดนพอเธอเอามือออกพี่ชายก็เข้ามาใกล้“กาง กาง ฮือ” ยังพูดเป็นประโยคไม่ได้แต่เธอก็พยายามจะสื่อสารออกมา“ตากลางแกล้งอะไรน้องอีกล่ะลูก” คุณแม่คนสวยเดินเข้ามาหาลูกสาวคนเล็กในห้องที่เต็มไปด้วยของเล่นของเด็กน้อย อันที่จริงเธอกับสามีซื้อให้ลูกไม่ได้เยอะขนาดนี้ แต่เป็นของพี่ๆ ที่ตกทอดมาสู่น้อง และบริษัทคู่ค้าของสามีก็ขยันส่งของมาดีเหลือเกินจนห้องเต็มไปด้วยของเล่นเด็กแทบไม่มีที่จะเดินแล้ว“เปล่านะครับแม่ กลางแค่มาหยอกน้องเอง น้องจะหัวเราะอารมณ์ดีไง” เด็กแสบยิ้มประจบมารดาหลังจากที่เธออุ้มลูกสาวพลางลูบหลังปลอบจนเด็กน้อยคลายความหงุดหงิดที่พี่ชายมากวน“แม่ ตี ตีกาง” ยายน้องหรือคุณหนูลูกจัน จันทนิภา กิจขจรไพศาลเด็กหญิงวัยสองขวบที่เพิ่งจะพูดได้ไม่กี่คำบอกแม่ให้ทำโทษพี่ชายตัวเอง“ตีหรือคะ พี่กลางแกล้งหนูใช่ไหม” คุณแม่หันมาถามซึ่งสาวน้อยก็พยักหน้าทันที“อะไรกัน พี่ไม่ได้แกล้งน้องสักหน่อย”“เดี๋ยวเถอะตากลาง แม่จะไม่ทำขนมให้ลูกกินนะครับ”ได้ยินแม่ขู่แบบนั้น

  • กลซ่อนรัก   บทส่งท้าย

    บทส่งท้ายหลังจากผ่านเรื่องร้ายต่างๆ มา ชนวีร์ก็ได้เข้าไปขอขมาครอบครัว จอมขวัญอย่างเป็นทางการเมื่อเขาหายจากอาการบาดเจ็บพอที่จะเดินเหินสะดวกแล้ว พร้อมทั้งยังพูดเรื่องแต่งงานกับเธออีกด้วยแต่ครอบครัวจิดากุลบอกว่าทางบ้านถือเรื่องแต่งงานทั้งที่ยังท้องว่าจะทำให้เลิกกันจึงบอกให้รอลูกออกมาเสียก่อนค่อยจัดงานแต่ง ซึ่งก็มีทั้งที่บ้านของฝ่ายหญิงก่อนจะมาฉลองที่บ้านฝ่ายชายด้วยเช่นกัน“ขวัญเป็นอย่างไรบ้างครับ” ร่างสูงวิ่งกระหืดกระหอบมา หลังจากประชุมเสร็จ ใบหน้าคมเข้มมีเหงื่อผุดขึ้นเต็มเพราะวิ่งขึ้นบันไดมา รอลิฟต์ก็แสนจะช้าไม่ทันใจคุณพ่อมือใหม่ตอนนี้ครอบครัวจอมขวัญรอหน้าห้องคลอดมีทั้งพ่อตูมตาม แม่ยิ้ม ยายขิม ตาเม่นและกองทัพซึ่งลาหยุดเพื่อมาดูหน้าหลานคนแรกโดยเฉพาะ“ไม่รู้เหมือนกัน รอนานแล้วยังไม่ออกมาเลย” แม่ยิ้มตอบด้วยความกังวล“น้ำไหมพี่” กองทัพเอ่ยทักก่อนยื่นน้ำเปล่าให้ชนวีร์เขารับแล้วกรอกเข้าปากทันทีด้วยความเหนื่อยอีกทั้งตื่นเต้นด้วยว่าลูกจะออกมาหน้าตาอย่างไร แข็งแรงไหม จะหน้าเหมือนพ่อหรือเหมือนแม่ ตอนจอมขวัญท้องเขาดูแลไม่ห่างซื้อหนังสือมาอ่านโดยเฉพาะรอบรู้มากกว่าคุณแม่เสียอีก“ขอบใจมาก” เขาต

  • กลซ่อนรัก   ๒๕ จากนี้และตลอดไป

    ๒๕จากนี้และตลอดไปการเดินทางไปกลับระหว่างกรุงเทพฯ กับขอนแก่นของชนวีร์ทำให้เขาเมื่อยล้ากว่าที่คิดมากนัก เขานั่งเครื่องบินบ้างและให้คนขับรถให้บ้างสลับกันไปงานที่บริษัทก็หนัก บางครั้งก็ต้องบินไปต่างประเทศเพื่อติดต่องานกับลูกค้า เหลืออีกเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้นก็จะครบสามเดือน แต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่ามันนานเหลือเกินอาจจะเป็นเพราะว่าเขาต้องทำงานหลายอย่างก็เป็นได้วันนี้ชนวีร์เคลียร์งานทุกอย่างแล้วขับรถมาขอนแก่นเพียงลำพังไม่ได้ให้ลูกน้องตามมา“สวัสดีครับ” เขาแวะเข้ามาที่บ้านผู้ใหญ่บ้านเพื่อทักทายสวัสดีก่อน เป็นแบบนี้ทุกครั้งก่อนจะกลับไปอยู่ที่กระท่อมโล่งซึ่งตอนนี้เขาก็เริ่มชินกับมันเสียแล้ว ลมธรรมชาติเย็นสดชื่นเสียยิ่งกว่าเครื่องปรับอากาศเสียอีก“มาเสียค่ำเชียว กินข้าวกินปลาหรือยัง” แม่ยิ้มเอ่ยถามเพราะตอนนี้ครอบครัวของนางกำลังจะรับประทานอาหารจอมขวัญที่ถือข้าวมาก็หันมามองเขาสักครู่ก่อนเดินเลี่ยงไปทางอื่น ชนวีร์มองหน้าหล่อนแล้วก็ชื่นใจ แค่เห็นเท่านี้เขาก็พอใจมากแล้ว“ยังเลยครับ” กะจะพูดต่อว่าขอฝากท้องด้วยแต่พ่อตูมตามก็เดินมามองตาขวางเสียก่อน“งั้นเอ็งก็มากินด้วยกัน จะได้รีบกลับไปอาบน้ำ

  • กลซ่อนรัก   ๒๔ บทพิสูจน์

    ๒๔บทพิสูจน์วันต่อมาชนวีร์ก็ยังกลับมาที่หน้าบ้านเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้แปลกที่เขาได้ถูกเชิญให้เข้ามาภายในบ้านหลังนี้ดวงตาเรียวสำรวจรอบบ้านที่ถูกตกแต่งไว้อย่างน่ารัก มีรูปครอบครัววางไว้บ้างในบางมุม เขาดูรูปจอมขวัญตอนเด็กแล้วก็ต้องยิ้มออกมาเมื่อคิดว่า..ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปมากเพียงใดเพื่อเขา แล้วต่อจากนี้ไปเขาจะตอบแทนด้วยการดูแลเธอไปตลอดชีวิตเอง“นั่งลงสิ จะยืนอีกนานไหม” ตาเม่นพูดเสียงเข้มแม้จะไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้จอมขวัญขอตัวออกไปข้างนอกเพราะไม่อยากทนที่จะเห็นหน้าเขาในบ้านของตัวเอง ตอนนี้จึงมีตาเม่น ยายขิม พ่อตูมตาม แม่ยิ้ม แล้วก็กองทัพเท่านั้น“สวัสดีครับ” เขานั่งลงบนโซฟาแล้วยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อมแต่บุรุษสองคนกลับไม่ยอมรับจนเขาอดหน้าเสียไม่ได้“สวัสดีนะครับ ผมกองทัพน้องชายของพี่ขวัญ” ลูกชายคนเดียวของบ้านแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความเป็นมิตรอยู่ในนั้นเลย..แน่นอนละถ้าไม่เห็นว่าพี่สาวของเขารักผู้ชายคนนี้มากขนาดไหนคงไม่มีวันที่เขาจะยอมยกจอมขวัญให้หรอก“ครับ ผมชนวีร์” เขาเอ่ยแนะนำตัวบ้างก่อนที่พ่อตูมตามจะเอ่ยขึ้นมา“เอาละ ที่ผมยอมให้คุณเข้ามาไม่ได้มาจากความเต็มใจเลย”

  • กลซ่อนรัก   ๒๓ จนกว่าเธอจะใจอ่อน

    ๒๓จนกว่าเธอจะใจอ่อน“พ่อทำแบบนี้ได้ยังไง” เสียงแม่ยิ้มเอ่ยถามสามีตนเองด้วยความผิดหวังหลังจากเพื่อนบ้านมาถามไถ่ถึงเรื่องผู้ใหญ่บ้านสามีของนางเอาปืนยิงชายหนุ่มตัวสูง เธอเดาได้ทันทีว่าคนที่กล่าวถึงเป็นใครก่อนจะตามมาถามสามีถึงในไร่“ทำอะไรแม่” กำลังคุมคนงานอยู่ก็ต้องหันมาถามภรรยาที่รักว่าเกิดอะไรขึ้น“พ่อยิงคุณชนวีร์ใช่ไหม” ถามเสียงเครียดแต่พ่อตูมตามกลับไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร“แค่ถากไม่โดนหรอก” ตอบมาอย่างไม่ยี่หระต่อสิ่งที่ตนเองทำแม้ว่าจริงๆ แล้วจะรู้สึกผิดอยู่บ้างแต่ด้วยทิฐิที่มีมากจึงทำเป็นนิ่งเฉย“แล้วถ้าเขาฟ้องพ่อจนติดคุกติดตารางขึ้นมา จะทำยังไง ทำไมไม่คิดบ้างนะ หัวมีแต่ขี้เลื่อยหรือไง” ยิ่งพูดยิ่งอารมณ์เสียกับสามี..ปกติเป็นคนอ่อนโยนแท้ๆ แต่ทว่ามาคราวนี้กลับมุทะลุจนคนเป็นเมียตามแทบไม่ทัน เข้าใจแล้วก็วันนี้ว่าเหนือพ่อของตนเองยังสามีที่หวงลูกสาวมากขนาดไหน“พ่อขอโทษจ้ะแม่”“คนที่พ่อควรขอโทษไม่ใช่แม่ ไปขอโทษคุณวีร์เขานู่น” ว่าจบก็ไม่ฟังคำตอบอะไรอีกแม่ยิ้มเดินออกมาจากสวนขับมอเตอร์ไซค์ออกไปทันทีปล่อยผู้ใหญ่บ้านมองตามตาละห้อย..ทะเลาะกับเมียไม่เว้นวันจริงๆ ไอ้ตูมตามเอ๊ย“ไม่มีทางหรอก” ว่าแ

  • กลซ่อนรัก   ๒๒ ลูกเขยไม่ซ่าเพราะพ่อตาสุดโหด

    ๒๒ลูกเขยไม่ซ่าเพราะพ่อตาสุดโหดร่างหนาบนเตียงเริ่มขยับ ทำให้คนที่เฝ้าหันไปมองด้วยความสนใจทันที ตาเรียวยาวค่อยๆ ปรือมองบริเวณโดยรอบก่อนจะเห็นคนที่นั่งเฝ้าก็อดถอนหายใจไม่ได้..ไม่เคยได้ญาติดีกันเลยแต่คราวนี้ทำไมคนที่เฝ้าเขาดันเป็นลูกน้องที่แอบหลงรักเมียเขาไปเสียนี่“หมอบอกว่าให้คุณพักผ่อนให้พอ ฉีดยาให้แล้วเพราะคุณเป็นไข้ อ่อนเพลีย”สองหนุ่มมองหน้ากันนิ่งราวกับจะหยั่งเชิงกันและกันเป็นปนิธิที่ถอนหายใจออกมาเสียก่อน เขาลุกออกไปทิ้งไว้เพียงชนวีร์ที่มองตามก่อนจะเริ่มสังเกตโดยรอบว่าที่นี่เป็นเพียงสถานีอนามัยเล็กๆ มีที่นอนเหมือนห้องพยาบาลที่โรงเรียน มีเพียงม่านกั้นเตียง เตียงก็เล็กประมาณสามฟุต อยากจะลุกขึ้นแต่ร่างกายกลับล้าไปหมดเลยทำได้เพียงแค่นั่งพิงหัวเตียง มองด้านข้างก็เห็นน้ำเปล่าเขาจึงดื่มเข้าไปด้วยความกระหาย“ที่ผมมาหาขวัญวันนี้ก็กะว่าจะเอาของสำคัญมาให้เขา แต่ผมคิดว่าคนที่ควรจะได้มันน่าจะเป็นคุณ” สมุดเล่มหนึ่งถูกวางไว้ตรงหน้าตักชนวีร์“ขอให้หายเร็วๆ นะครับท่านประธาน แล้วเจอกันที่ทำงาน” ร่างสูงกล่าวจบก็หันหลังจะเดินออกไปแต่กลับคิดอะไรบางอย่างออกมาได้ “ขวัญเขารักคุณมากนะ ถ้าคุณได้โอกาสจากเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status