“นั่งยิ้มอะไรคุณ?” แมทธิวที่เดินเข้ามาในบ้าน หลังจากออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนที่เป็นนักธุรกิจเอ่ยถามขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ ถึงจะมาอยู่ที่บรูไนเป็นสิบๆ ปีแล้ว แต่หนุ่มใหญ่ก็เลือกที่จะพูดภาษาอังกฤษเสียเป็นส่วนใหญ่ จะพูดภาษาท้องถิ่นของที่นี่ก็ตอนที่ติดต่อธุรกิจแต่ก็น้อยครั้ง
“ก็เรื่องแต่งงานของนาตาเซียค่ะ” ดารียะห์หันมาตอบสามีเป็นภาษาอังกฤษด้วยเช่นกัน ในแววตาของเธอยังคงมีความรักให้สามีเสมอ เพราะตลอดเวลาที่แต่งงานมา แมทธิวซื่อสัตย์กับเธอมาโดยตลอด ใจจริงก็อยากให้นาตาเซียแต่งงานกับชาวยุโรปเหมือนเธอ แต่ก็กลัวว่าลูกสาวจะไปอยู่บ้านสามีจึงไม่สนับสนุน “แต่งงาน ตกลงนี่จะคลุมถุงชนลูกจริงๆ นะเหรอ?” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แมทธิวออกอาการเครียดเล็กน้อย เพราะไม่ค่อยชอบใจ อยากให้นาตาเซียตัดสินใจด้วยตัวเองมากกว่า “ค่ะ แต่ก่อนจะคลุมถุงชน ฉันยังให้โอกาสลูกได้พบกับว่าที่เจ้าบ่าวนะ ถือว่าดีแล้ว เพราะบ้านอื่นเขาจัดงานแต่งงานแล้วให้เจอหน้ากันตอนเข้าหอเสียด้วยซ้ำ” “ไม่ลองคิดดูใหม่เหรอคุณดารียะห์” “ฉันคิดดีแล้วค่ะ ถ้านาตาเซียมีแฟนจริงอย่างที่คุณกังวล ป่านนี้เราก็ต้องรู้เรื่อง ให้ลูกแต่งงานกับผู้ชายดีๆ ที่เราเลือกให้น่ะดีที่สุด” ดารียะห์ยิ้มกับความคิดของตัวเอง เพราะเธอมองคนไม่ผิดแน่นอน ถึงจะยังไม่เคยเห็นภีรดล แต่ดูจากพ่อแม่แล้วก็พอจะเดาออกว่าคงอบรมลูกชายเป็นอย่างดีแน่นอน แมทธิวที่ค้านเรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว แม้จะพยายามเปลี่ยนใจภรรยาแค่ไหนก็คงไม่สำเร็จ เพราะดารียะห์เป็นคนแน่วแน่ คิดอะไรแล้วต้องทำให้ได้ ถ้าฝ่ายนั้นเป็นผู้ชายที่ดีจริงก็ว่าไป แต่ถ้าไม่ดี เขานี่แหละจะเป็นคนขัดขวางให้ถึงที่สุดทางด้านครอบครัวว่าที่เจ้าบ่าว เมื่อเห็นภรรยาวางสายไปแล้ว ศุภกรก็ขยับเข้ามาใกล้แล้วเอ่ยถามภรรยาทันที เพราะจากคำพูดที่ได้ฟังตอนอัสมาห์คุยโทรศัพท์ เขายังไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่
“เป็นยังไงบ้างคุณ?” น้ำเสียงทุ้มของหนุ่มใหญ่ชาวไทยอายุห้าสิบกว่าปีเอ่ยถามขึ้น อายุก็ปูนนี้ แต่กลับยังปวดหัวด้วยเรื่องที่ลูกชายหมั่นก่อขึ้นเสียเหลือเกิน “หนูนาตาเซียบินไปยุโรป อีกประมาณหนึ่งเดือนถึงจะกลับ” อัสมาห์หันมาบอกสามี หลังจากคุยกับแม่ของว่าที่สะใภ้เรียบร้อย แต่เธอก็พูดเกริ่นไปแล้วว่าจะรอ “หนูนาตาเซียน่าจะกลับทันวันที่เราเดินทาง ผมจะพยายามยื้อเวลาเพื่อรอแล้วกัน” ศุภกรพยักหน้าให้ ตอนนี้คงมีทางเดียวเท่านั้น “ค่ะๆ แล้วถ้ามันไม่ทันการณ์ล่ะคุณ” อัสมาห์ยังคงเป็นกังวลอยู่ เพราะกลัวทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ จะยุ่งกันไปใหญ่ “งั้นเราก็ไปพูดคุยเรื่องสู่ขอจิตรานุชก่อน เพราะการแต่งงานของคนไทยต้องรอฤกษ์ เราใช้ช่วงเวลานั้นถ่วงเวลาจนกว่าหนูนาตาเซียจะกลับมา” “ค่ะ” อัสมาห์เห็นด้วยกับความคิดของสามี มีทางเดียวคือรอ และเธอค่อนข้างมั่นใจว่าภีรดลต้องชอบนาตาเซียมากอย่างแน่นอน ถ้าสองคนนั้นตกลงใจแต่งงานกัน เธอจะจัดงานแต่งให้ดังเป็นข่าวทั้งประเทศจนข้ามไปถึงประเทศไทยเลยยิ่งดี “ไมค์ก็เหลือเกิน เจ้าชู้จนได้เรื่อง” ศุภกรส่ายหน้าให้เมื่อพูดถึงลูกชาย ถ้าไม่เป็นเพราะความที่รักคนง่าย เข้าใกล้ใครที่ถูกใจมากหน่อยก็เพ้ออยากแต่งงานแบบนี้ ที่บ้านคงไม่เดือดร้อนวิ่งหาผู้หญิงให้มาแต่งงานด้วย เพราะภีรดลไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ชักอยากจะรู้แล้วว่าจิตรานุชเป็นคนยังไง ถึงหว่านล้อมให้พ่อปลาไหลที่รักใครไม่เป็นอย่างภีรดล อยากแต่งงานมากถึงขนาดนี้ “ใช่ ลูกชายของใครก็ไม่รู้” “ลูกชายผม แต่ไม่ได้เชื้อผมสักนิด” หนุ่มใหญ่เอ่ยรับ เพราะความเจ้าชู้ประตูดินนั้นเขาไม่เคยทำมาก่อน แม้ธรรมเนียมของที่นี่ ผู้ชายสามารถมีภรรยาได้ถึงสี่คน แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทำ แต่พ่อลูกชายตัวดีของเขาสี่คนคงไม่พอเป็นแน่ ถ้าแต่งงานไปแล้วไม่รู้จะไปหลงรักใครแบบนี้เข้าให้อีกหรือเปล่า “ค่ะ ฉันถึงต้องให้ไมค์แต่งงานกับผู้หญิงดีๆ จะได้เกรงใจ ไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้อีก” อัสมาห์ไม่รู้หรอกว่าลูกชายเธอจะลดความเจ้าชู้ได้หรือเปล่าหลังแต่งงาน แต่อย่างน้อยก็หวังให้ลดลงไปบ้าง ภีรดลต้องแต่งงานและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับนาตาเซียอย่างแน่นอน ได้สะใภ้เป็นถึงเชื้อพระวงศ์แม้จะห่างๆ ก็เถอะ อย่างไรก็ดีกว่าจิตรานุชร้อยเท่าพันเท่าแน่นอน แต่กว่าจะถึงวันนั้นก็คงต้องเฝ้าภาวนาให้นาตาเซียกลับมาไวๆบทที่ 85อดัมกลับมาที่โรงพยาบาลในตอนเช้า พร้อมด้วยอาหารที่น้ำอ้อยตื่นขึ้นมาทำให้ ทั้งของคนบาดเจ็บและคนเฝ้าก็รวมอยู่ในนี้หมดแล้ว ซึ่งน้ำอ้อยนั้นรู้ว่าละออกินได้แต่อาหารอ่อนจึงทำโจ๊กมาให้ นาตาเซียป้อนโจ๊กให้ละออ เมื่ออิ่มก็ให้กินยา ลูคัสกับอดัมแทบไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เมื่อกินยาละออก็นอนหลับอีกครั้ง ลูคัสเหมือนจะคิดอะไรออกจึงโทรศัพท์ไปหาคริสโตเฟอร์“ครับคุณลูคัส” ชายหนุ่มเอ่ยรับ เพราะวันนี้ได้ข่าวจากเลขาเจ้านายแล้วว่าลูคัสไม่เข้าบริษัท“นายจำเรื่องที่เสนอขึ้นมา แล้วฉันไม่เซ็นอนุมัติได้ใช่ไหม?”“ได้ครับ” มีหรือที่คริสโตเฟอร์จะจำเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะเสนอไปกี่ครั้ง มันถูกตีกลับลงมาเสียทุกครั้งไป เรื่องสร้างที่พักใหม่ให้เหล่าแรงงานไทย“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว นายเอาเอกสารฉบับนั้นมาที่โรงพยาบาลแล้วกัน ฉันจะเซ็นให้และช่วยจัดการให้ดีด้วย” คริสโตเฟอร์ดูจะแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน อะไรมาเปลี่ยนความคิดของลูคัสได้ แต่เรื่องนั้นก็ดูจะสำคัญน้อยไปกว่าลูคัสให้เขาเอาเอกสารไปให้ที่โรงพยาบาล&ldq
บทที่ 84“ไม่โกรธ ไม่ต่อว่าเลยเหรอ” ลูคัสเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง“ไม่...พอแล้วจ้ะ” ละออหันมาตอบลูกชาย โกรธไปก็มีแต่ทุกข์ใจเปล่าๆ ถ้าเป็นไปได้เธออยากเอาเวลานั้นมาอยู่กับอดัมและลูคัสมากกว่า“ละออ ขอบคุณมากที่ไม่เอาผิดเรื่องนี้” อดัมกุมมือภรรยาไว้แน่น ก่อนจะจรดกึ่งปากกึ่งจมูกลงไปหนักๆ ขอบคุณที่ละออคิดแบบนั้น“ค่ะ” คนบาดเจ็บตอบรับเพียงสั้นๆ ก่อนจะหลับลงไปอีกครั้ง เพราะฤทธิ์ยาในร่างกาย อดัมตกใจจึงรีบตามแพทย์เข้ามาดูอาการของภรรยา แต่แพทย์กลับบอกว่าละออไม่เป็นอะไรแล้วกลับออกไปจากห้อง ทั้งหมดจึงปล่อยให้ละออหลับอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้คงยาวถึงเช้าแน่นอน“พ่อกลับบ้านเถอะ ผมอยู่เฝ้าที่นี่เอง”“อ้าว...นั่นมันหน้าที่ฉันนะ” นาตาเซียแหวใส่ทันที เพราะตกลงกันแล้วว่าเธอจะนอนเฝ้าละออ ไม่อยากให้ใครมาแย่งหน้าที่นั้น“แต่คนเป็นลูกควรจะทำ”“ไม่ให้ทำ”“นี่เธอ” ลูคัสยืนเท้าสะเอวมองหน้านาตาเซีย เหตุผลที่เขาอยากอยู่คือละออ อีกหนึ่งคือนา
บทที่ 83“คงเป็นอย่างนั้น แต่ต่อจากนี้ไปเรื่องวุ่นๆ ก็คงจบลงซะที เราสามคนจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน”“ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยรับคำเพียงสั้นๆ มองไปยังละออนิ่งๆ“แกหายโกรธแม่แล้วใช่ไหม?”“ไม่รู้สิครับ ผมเองก็ให้คำตอบพ่อไม่ได้เหมือนกัน เพราะวันนี้เรื่องราวที่ผมได้รู้มันยากที่จะทำใจ ให้เวลาผมหน่อย” แค่ลูคัสไม่พูดตอบกลับมาว่าไม่ อดัมก็ดูจะพอใจสำหรับคำตอบของลูกชายแล้ว“ได้ เพราะแม่แกก็คงคิดแบบนั้นเหมือนกัน เขาดีใจมากนะที่พ่อจะพามาหาแกที่นี่ แม้จะกลัวว่ามาดามมิเชลจะรู้เรื่องเข้า แต่สุดท้ายก็ยอมมา เพราะอยากเห็นหน้าลูกชายเขาสักครั้ง”“แต่มาดามมิเชลก็รู้จนได้” ลูคัสยิ้มออกมา เพราะย่าเขาดูท่าทางหูตาจะเป็นสับปะรดเสียเหลือเกิน กับพ่อกลับหวงนักหวงหนา ไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้ แต่พอเป็นเขากลับหาผู้หญิงมาให้ ดูจะสลับกันไปเสียหมด“คงให้คนคอยจับตาดูพ่ออยู่แน่ๆ ไม่อย่างนั้นข่าวไม่เร็วขนาดนี้หรอก” อดัมพอจะรู้ว่าคนนั้นเป็นใคร อีกไม่นานคงเข้ามาสารภาพเอง เพราะเข
“ละออ...ฉันไม่ได้ยิงแกนะ แกเข้ามาขวางทางปืนฉันเอง” คำพูดเพ้อๆ ของมาดามมิเชลดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้คนที่กลัวความผิดคือมาดามมิเชลเสียเอง จากทีแรกแค่ขู่ แต่ความโมโหทำให้เธอลั่นไกปืนจนได้“หนูนาตาเซีย” น้ำอ้อยที่ยืนอยู่นอกห้องรับแขกก็ได้ยินเสียงปืนเช่นกัน พอเห็นนาตาเซียเดินออกมาพร้อมคราบเลือดในมือก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่“ปะ...ป้าจ๋า เรียกรถพยาบาลให้ฉันที” นาตาเซียเอ่ยบอกเสียงสั่น ยังคงหายใจหอบ สายตาเอาแต่จ้องมองคราบเลือดในมือ พยายามสั่งตัวเองว่าอย่ามาเป็นอะไรเอาตอนนี้เลย“ค่ะๆ” น้ำอ้อยพยักหน้าให้ ก่อนจะรีบโทรแจ้งรถพยาบาลให้มารับคนบาดเจ็บที่เธอก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดเลือดในมือของนาตาเซียให้ เพราะท่าทางของหญิงสาวจะกลัวมาก ตั้งแต่บอกให้เธอโทรตามรถพยาบาลก็ไม่ได้ขยับไปไหนเลยสักก้าวไม่ถึงสิบนาทีรถพยาบาลก็เปิดเสียงหวอเข้ามาในบ้านลูคัส ละออถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด ซึ่งลูคัสและอดัมนั่งในรถพยาบาลไปด้วย ส่วนนาตาเซียกับน้ำอ้อยก็ให้คนขับรถขับพาไปที่โรงพยาบาลเช่นกัน ภายในบ
บทที่ 81“แค่นี้พอแล้วค่ะ พอแล้ว ถ้ามาดามมิเชลไม่อยากพูด ดิฉันก็ไม่บังคับ แต่ขอร้องด้วยหัวใจของคนเป็นแม่ ว่ากรุณาให้ดิฉันได้อยู่กับลูคัส ให้ได้ทำหน้าที่แม่ด้วยเถอะ” ละออเอ่ยขอร้องด้วยแววตาและคำพูด เฝ้าหวังให้มาดามมิเชลเห็นใจ“ไม่มีทาง ถึงฉันจะไม่พูด ก็ใช่ว่าฉันจะให้โอกาสแบบนั้นกับแกง่ายๆ เพราะแกคนเดียวที่แย่งลูกชายฉันไป เพราะแก เขาถึงแบ่งปันความรักที่สมควรจะให้ฉันคนเดียวไปให้ผู้หญิงอย่างแก” มาดามมิเชลล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า ก่อนจะหยิบปืนพกออกมาแล้วจ่อไปยังละออ ทุกคนต่างตกใจ อดัมรีบเข้าไปยืนขวางละออกับปืนนั้นทันที“มาดามมิเชล/ย่า” อดัมและลูคัสต่างเอ่ยชื่อมาดามมิเชลออกมาแทบจะพร้อมๆ กันก็ว่าได้“หลีกไปให้ห่างนังผู้หญิงคนนี้อดัม ไม่งั้นฉันยิงลูคัส” ปลายกระบอกปืนของมาดามมิเชลหันไปจ่อที่เอวของลูคัสที่ยืนอยู่ไม่ห่างตัวเองนัก“ไม่นะคะ” ละออส่ายหน้าให้ ก่อนจะผลักอดัมออกไปสุดแรง ตอนนี้ละออขยับออกห่างทุกคนมายืนอยู่มุมห้อง ปลายกระบอกปืนเปลี่ยนทิศทางจากลูคัสมายังเธอแล้ว มาดามมิเชลส่ายกระบอกปืน
บทที่ 80“หรือไม่จริง” ผู้อาวุโสที่อายุมากแล้วแต่ยังคงแข็งแรงเอ่ยท้าทาย เพราะยังไงงานนี้ เธอก็ต้องชนะวันยังค่ำ“ไม่จริงค่ะ” ละออที่ทนฟังมานานแล้วเอ่ยขึ้นบ้าง“นังละออ นี่แกกล้าเถียงฉันอย่างนั้นเหรอ อย่าลืมว่าแกเคยสัญญาอะไรกับฉันไว้” มาดามมิเชลหันมาเอ่ยขู่ละอออีกครั้ง อย่าหวังว่าการพบกันครั้งนี้ ละออจะหนีพ้นไปได้ ขอเคลียร์เรื่องลูคัสก่อน แล้วเธอจะจัดการนังงูพิษแว้งกัดเธอทีหลังอย่างละออทันที“หยุดเถอะครับมาดามมิเชล ยี่สิบแปดปีที่ผ่านมายังไม่พอใจอีกหรือยังไงกัน ที่กีดกันผมกับละออจนเราพลัดพรากกันคนละทิศคนละทางแบบนี้ แถมยังขู่เธอว่าจะฆ่าผมกับลูคัสหากกลับมา”ลูคัสและมาดามมิเชลได้ฟังแบบนี้ก็อึ้งไปตามๆ กัน ลูคัสไม่คิดว่าย่าจะขู่ด้วยคำพูดแบบนั้น ส่วนมาดามมิเชลก็ไม่คิดว่าละออจะพูดเรื่องนี้ให้อดัมฟัง มันน่าฆ่าให้ตายเสียจริง“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้น คำพูดของคนที่หนีตามชู้ไป จะยกเมฆมาพูดให้ตัวเองดูดียังไงก็ได้”“จริงอย่างที่พ่อพูดหรือครับมาดามมิเชล” ลูคัสหันมาถาม