Share

บทที่ 8

last update Huling Na-update: 2025-10-31 17:30:25

ร่างใหญ่พาตัวเองมาถึงบ้านในช่วงค่ำ กันต์ธีกลับมาก็เห็นภรรยาสาวกำลังยืนคุยโทรศัพท์หัวเราะเสียงระรื่นกับไอ้คนที่เขาเพิ่งผละจากร้านเหล้าเมื่อครู่ ความหงุดหงิดที่คิดว่าจางลงไปแล้วระหว่างทางกลับปะทุขึ้นมาอีกครั้ง

นายแพทย์หนุ่มสาวเท้าเข้าไปกอดเอวของหญิงสาวจากด้านหลัง ครั้นพอเธอสะดุ้งเขาก็กระซิบเสียงไม่เบานักให้ได้ยินเข้าไปในสมาร์ตโฟน “ชุดนอนตัวนี้เซ็กซี่มากเลยหวาน ผมอยากเมกเลิฟกับคุณตรงนี้จัง”

“พี่กันต์” ข้าวหวานตกใจหันมาทำเสียงดุใส่ พร้อมกับยกเจ้าเครื่องสี่เหลี่ยมให้ไกลจากเสียงกระซิบห่ามๆ ของเขา

“นะครับ” ไม่พูดเปล่ากันต์ธียังใช้ฝ่ามือหนาใหญ่เลื่อนขึ้นไปคลึงเคล้นหน้าอกอวบอิ่มที่ไร้บราของภรรยา

ผ้าซาตินเรียบลื่นไม่อาจกั้นขวางความร้อนของฝ่ามือหมอ และจูบพะเน้าพะนอที่หลังใบหูอันเจนจัดของกันต์ธี ข้าวหวานกัดปากกลั้นเสียงน่าอาย ยกสมาร์ตโฟนกลับมาแนบข้างหูอีกครั้ง เอ่ยปากบอกลาวางสายกับเหนือฟ้าทันทีก่อนที่จะหลุดเสียงไม่น่าฟังออกไป

พอคนสวยกดตัดสาย คนหื่นเมื่อครู่ก็หยุดการเคลื่อนไหวไปทันทีเช่นเดียวกัน ข้าวหวานหน้าแดงก่ำด้วยอารมณ์พิศวาสที่ถูกเขาปลุกขึ้น หญิงสาวเงยหน้ามองสามีด้วยความงงงวย และเข้าใจแจ่มชัดในนาทีถัดมาว่ากันต์ธีเพียงต้องการแกล้งเธอกับเหนือฟ้าเท่านั้น

“มองผมแบบนั้นคืออะไร”

“นั่นสิคะ พี่กันต์ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร”

“แบบนี้นี่มันแบบไหน” นายแพทย์หนุ่มถามรวน ก่อนจะกวาดตามองร่างกลมกลึงของภรรยา “ไม่พอใจที่ผมไม่ต่อให้จบ หรือไม่พอใจที่ผมมาขัดจังหวะคุณกับอานอกไส้นั่นกันแน่”

“อย่าพูดถึงอาเหนือแบบนั้นนะคะ” คราวนี้ข้าวหวานเสียงแข็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สามีจะก่อกวนหรือทำตัวมึนตึงในยามที่ไม่ได้ดังใจกันแบบไหนก็ได้ แต่การที่เขาพยายามพูดถึงเหนือฟ้าและเธอในเชิงชู้สาว เธอไม่จำเป็นต้องอดทน

“อาคุณเด็กกว่าผมตั้งสี่ปี”

“แล้วยังไงคะ” บิดามารดาของเธอทำให้เหนือฟ้าต้องสูญเสียครอบครัวของเขาไป นี่เป็นความเสียใจและติดค้างไปชั่วชีวิต ปู่เพชรถึงได้รับอาเหนือมาเป็นลูกบุญธรรมในวันที่เขายังเรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัยชั้นปีที่สาม เธอกับเขาสนิทกันได้อย่างรวดเร็ว เพราะเด็กหญิงในชั้นมัธยมต้นก็อยู่ในภาวะสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก เราทั้งสองคนผ่านช่วงเวลาที่ต่างให้กำลังใจกันและกัน เขากลายมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเธอไปแล้ว และนั่นหมายความว่ากันต์ธีต้องยอมรับเหนือฟ้าด้วยเช่นกัน

“หวาน คุณอย่าบอกนะว่าไม่รู้เลยว่าไอ้เหนือฟ้านั่นมันคิดกับคุณยังไง” กันต์ธีขำเสียงเยาะ ก็อาการของไอ้เหนือฟ้ามันออกจะชัดเจนเสียขนาดนี้ ชัดเจนซะจนคนตาบอดยังรู้สึกได้

ชายหนุ่มยังจำว่าในวันแต่งงานที่ผู้คนต่างก็ชื่นชมยินดี สายตาของไอ้คุณอากำมะลอกลับไม่ได้มีร่องรอยของการแสดงความปีติใดๆ ทั้งสิ้น หลังจากงานวันนั้นมันก็บินหายไปทำธุรกิจบ้าบออะไรไม่รู้ที่ออสเตรเลีย แล้วก็โผล่หน้ากลับมาอีกครั้งเมื่อเดือนก่อน โผล่มาในวันเกิดของข้าวหวาน และพาหญิงสาวไปดินเนอร์สองต่อสองบนรูฟท็อปมีระดับกลางกรุง ถึงตัวเขาจะติดเคสผ่าตัดใหญ่ แต่อย่านึกนะว่าไม่รู้…

ถึงแม้ภรรยาจะจองโต๊ะอาหารภายใต้ชื่อของเขา แต่พอเขาไม่ว่างเข้าจริง อาจจะเรียกว่าลืมนั่นแหละ เธอก็หยามศักดิ์ศรีของสามีโดยการควงผู้ชายอื่นไปแทน

นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่หลังจากวันนั้น สถานการณ์ของเขากับข้าวหวานก็ยิ่งมึนตึงขึ้นเรื่อยๆ

“เอาเป็นว่าหวานกับอาเหนือไม่มีอะไรกันจริงๆ ค่ะ” หญิงสาวประนีประนอมด้วยวาจาที่อ่อนโยน ยิ่งได้กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งจากตัวเขา เธอก็ยิ่งไม่อยากจะโต้เถียงให้สถานการณ์มันบานปลาย

“จะมีหรือไม่มีไม่ได้สำคัญอะไรกับใจผมหรอก” คำพูดยโสโอหังออกจากปากของคนที่อยู่เหนือกว่าอีกครั้ง อย่างน้อยก็รู้สึกเหนือกว่าทางด้านจิตใจเพราะยังไงก็เป็นผู้ถูกรักมาโดยตลอด

“หวานไม่เคยมีความหมายกับพี่กันต์เลยใช่ไหมคะ” ภรรยาของนายแพทย์หนุ่มเอ่ยปากถามเสียงเครือ กันต์ธีคงไม่รู้ว่าตัวเองใจร้ายมากขนาดไหน วันนี้เขาทิ้งเธอที่หน้าโรงพยาบาลเสียดื้อๆ แต่เธอก็กลับมารอเขาที่บ้านเหมือนอย่างเคย

รู้ว่าชายหนุ่มขุ่นเคืองใจ แม้จะเป็นห่วงสักแค่ไหน โทรศัพท์สักครั้ง ข้อความสักคำยังไม่กล้าส่งไปถามให้เขายิ่งหงุดหงิด เมื่อครู่อาเหนือฟ้าโทร.มาบอกว่าเจอสามีหลานสาวที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งพร้อมกับเพื่อนที่ชื่อธาดา แถมยังยืนยันเสียงหนักแน่นว่าไม่มีสาวคนอื่นนั่งคลอเคลียด้วย เธอก็คลายความหมองเศร้าลง แต่ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นกันต์ธีก็สามารถทิ่มแทงและสาดความเศร้ากลับมาใส่เธอได้เช่นเดิม

“ถ้าหวานมันไม่มีความหมายเลยขนาดนั้น พี่กันต์จะมาตามหึงหวงหวานกับอาเหนือทำไมคะ”

“ตลกแล้วข้าวหวาน ผมเนี่ยนะหึงคุณ” หมอขี้หึงหัวเราะร่วนพร้อมกับเลื่อนฝ่ามือมาประคองแก้มเนียนภรรยาสาว ส่งยิ้มเยือกเย็นที่ไปไม่ถึงดวงตา

“แล้วไม่ใช่เหรอคะ”

“อย่าสำคัญตัวผิดไปเลย”

คำพูดของสามีทำให้ข้าวหวานถึงกับสะอึก เธอเป็นภรรยาที่ไม่ควรค่าแม้แต่การหึงหวงเสียด้วยซ้ำ “ดีค่ะ ถ้าอย่างงั้นต่อไปก็อย่าพูดหรือคิดกับหวานและอาเหนือแบบนั้นอีก”

“ทำไมจะพูดไม่ได้” กันต์ธีเสียงขรึม ยังใช้สายตาเยือกเย็นแบบเดิมเสียดแทงหัวใจของภรรยาสาว “ถึงผมจะไม่ได้รักคุณ แต่ผมก็เกลียดการถูกสวมเขาที่สุด หวังว่าไฮโซข้าวหวานคงจะเข้าใจจุดนี้และระวังตัวนะครับ”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • กังวานหวาน    ตอนพิเศษ 2 ความทรงจำ

    แซ็กโซโฟนเป็นเครื่องดนตรีที่มีชีวิต...ผมรู้สึกแบบนั้นมาตลอด เพราะทุกครั้งที่ได้ยินข้าวหวานเป่าเจ้าเครื่องดนตรีชนิดนี้ เธอใส่อารมณ์ ใส่ความรู้สึกรวมถึงเสน่ห์ของเธอลงไปด้วย เธอเซ็กซี่เสมอยามเมื่อยืนอยู่บนฟลอร์และสะกดคนด้วยเสียงเพลงอย่างเช่นคืนที่เราอยู่บนเรือสำราญด้วยกันจริงอยู่คนอื่นอาจจะเห็นเธอในมุมของนักดนตรี ไฮโซสาวพราวเสน่ห์แต่เสน่ห์อย่างอื่นของเธอมีมากมายกว่านั้นถึงแม้ครั้งหนึ่งผมจะหลับหูหลับตา มองเธอผ่านหน้ากากแห่งอคติ แต่ได้โปรดเข้าใจกันบ้าง ตอนนั้นผมคือผู้ชายที่จำใจแต่งงานโดยไม่ได้รักผมไม่ถึงกับโกรธเกลียดข้าวหวาน แค่ขวางหูขวางตานิดหน่อย ผมทำนิสัยแย่ เธอก็ยังยิ้มอ่อน ผมเย็นชา เธอก็ยังทำข้าวกล่องให้ไปกินที่ทำงานทุกเช้า บอกตรงๆ ผมค่อนข้างได้ใจข้าวหวานเป็นผู้หญิงที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเธอรักผมมาก รักแบบที่ไม่มีทางไปไหนรอดน่าขำ…ผมไปเอาความมั่นใจแบบนั้นมาจากไหนตลอดเวลาที่ผมเย็นชา เธออดทนเพราะหวังว่าผมคงอ่อนโยนขึ้นในวันหนึ่งข้างหน้าเวลาที่ผมทำนิสัยแย่ เธอมักจะยิ้มหรือนิ่งเงียบ นั่นเพราะเธอคงไม่อยากให้เราทะเลาะกันจนบานปลายการใช้ชีวิตคู่ที่เธอพยายามและเฝ้าทะนุถนอมมันเพียงฝ่ายเดีย

  • กังวานหวาน   ตอนพิเศษ 1 ความอบอุ่น

    แสงอาทิตย์อ่อนแสงลงจนดูอ่อนโยนกับท้องทะเล เด็กน้อยหลายคนและนกนางนวลหลายตัวกำลังเล่นลมอย่างสนุกสนาน ฉันมองภาพงดงามซึ่งเกิดขึ้นตรงหน้าอย่างมีความสุข แต่ใช่ว่าชีวิตจะมีเพียงภาพอันสว่างไสวเช่นนี้เพียงอย่างเดียวคนเราล้วนมีช่วงเวลาที่หวาดกลัวที่สุดในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น สำหรับฉันมันเกิดขึ้นตอนอายุสิบห้าคืนที่ฝนตกกระหน่ำเหมือนฟ้ารั่ว เศษกระจกแตกกระจัดกระจาย รถที่พลิกคว่ำ เลือดของฉัน พ่อและแม่ นองไปกับสายฝน กระดูกแขนขาหัก มันเจ็บปวดที่ต้องนอนมองคนที่รักตายอยู่ตรงหน้า แต่กระนั้นฉันก็ยังกลัวความตายที่กำลังคืบคลานมากัดกินฉันอีกคนความอบอุ่นของฝ่ามือมนุษย์แตะเบาๆ ที่ข้างคอของฉัน ผู้ชายที่เปียกโซกไปทั้งตัว เขายิ้มอย่างอ่อนโยนท่ามกลางความมืดและคาวเลือด นับแต่นั้นฉันฝังรอยยิ้มสว่างไสวของเขาไว้ในความทรงจำ“ไม่ต้องกลัวแล้วนะครับ น้องจะปลอดภัยแน่นอน” เขาพูดแบบนั้นและฉันก็ปลอดภัยจริงๆ แม้ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลของคุณปู่อยู่เกือบปีอาการทางกายของฉันดีวันดีคืนเพราะอยู่ในวัยที่ร่างกายแข็งแรง ทว่าอาการทางใจมันกลับย่ำแย่ลงเรื่อยๆฉันมักหายใจไม่ออกเสมอ หัวใจเต้นแรงอย่างไร้เหตุผล โดยเฉพาะในช่วงคืนที่ฝนตก

  • กังวานหวาน   บทที่ 65

    สถานตากอากาศบางปูในวันสุดสัปดาห์ผู้คนหนาแน่นกว่าปกติ โดยเฉพาะในช่วงเข้าใกล้ปลายปีแบบนี้กันต์ธีหยิบหมวกปีกกว้างสวมบนศีรษะของภรรยาสาวที่กำลังท้องแก่ อีกมือก็ก้มลงจูงเด็กชายเขตต์วัยสามขวบกว่าที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็นสิ่งรอบตัว ที่สำคัญคือลูกเขาซนมากอย่างที่เคยบอกนั่นแหละ หมอหนุ่มยังคงเป็นมนุษย์เย็นชาที่ไม่ชอบเด็กเอาเสียเลย ทว่าเขากลับรักเด็กคนนี้จับจิตจับใจ“เดินรอแม่ด้วยสิลูก” ผู้เป็นพ่อเอ่ยปากเตือน หนูน้อยที่อยู่ในช่วงพลังงานล้นเหลือก็ก้าวเท้าช้าลง ปล่อยมือจากบิดาและหันไปประคบประหงมมารดาแทน“คับ” เด็กชายเขตต์ยิ้มแฉ่งให้กับผู้เป็นแม่ที่ยังเดินอุ้ยอ้าย ฝีเท้าเล็กๆ ก็ขยับช้าลงฉับพลันกันต์ธีมองความอ่อนโยนของลูกชาย โชคดีที่เขตต์ได้รับนิสัยน่ารักแบบนี้มาจากฝั่งของข้าวหวาน เขาจำได้ วันที่รู้ว่าในท้องของภรรยาเป็นลูกสาวเขาก็บอกกับลูกชายคนโตว่าต่อไปจะมีน้องน้อยที่น่ารักเหมือนตุ๊กตาออกมาเป็นเพื่อนเล่นอีกคน เด็กชายเขตต์ก็ดีอกดีใจ ทุกวันนี้พี่ชายตัวโตก็มักจะวิ่งเข้าโอบกอดท้องกลมเหมือนลูกแตงโมของมารดาอยู่ทุกวัน“น้องเขตต์จับมือคุณพ่อไว้นะคะ” คุณแม่ยังสาวรีบเตือนบุตรชายเมื่อเดินพ้นระยะจากลานจอดร

  • กังวานหวาน   บทที่ 64

    พ้นจากช่วงงานยุ่งติดพันมาพักใหญ่ ในที่สุดคู่สามีภรรยานักบริหารก็หาเวลาว่างมาล่องเรือสำราญกันได้สำเร็จแม้จะเป็นการมาพักผ่อนเพียงช่วงสั้นๆ ราวสามสี่คืน แต่นายแพทย์กันต์ธีก็เปี่ยมไปด้วยสุขที่เห็นภรรยาสาวผ่อนคลายลง เธอดูสดใสและเปล่งปลั่งขึ้นจนเขารู้สึกได้ ผิวขาวน้ำนมของหญิงสาวเหมือนจะเปล่งรัศมีเรืองแสง ยิ่งยามที่เธอเฉิดฉายอยู่ในชุดสีแดงแบบนี้ด้วย เขาไม่เหลือสายตาไปมองใครเลยแม้แต่วินาทีเดียว“เรือลำเดิมเลยค่ะพี่กันต์ จำได้หรือเปล่า”“จำได้สิครับ” ชายหนุ่มเดินโอบไหล่บอบบางพาไปยังบริเวณราวเหล็กด้านข้างเรือ ตั้งใจว่ารอให้แดดร่มลมตกกว่านี้ก่อนค่อยชักชวนภรรยาสาวขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าสำหรับดินเนอร์มื้อค่ำ“ที่บอกว่าจำได้เนี่ย คือจำว่ามากับหวาน หรือมากับดีเทลยาคนนั้นที่พากันเข้าห้องไปคะ” หญิงสาวเปิดปากกระแนะกระแหน ในใจก็นึกว่าจะไม่จิกกัดเขาเรื่องนี้อยู่แล้วเชียว แต่เมื่อก้าวขามาอยู่บนเรือสำราญ หัวใจมันคันยุบยิบ ปล่อยไปกันต์ธีก็เหมือนจะลอยตัว วันนี้เลยขอเคลียร์สิ่งที่ค้างคาสักหน่อย แล้วเธอจะมูฟออนจากเรื่องสาวๆ ของเขาเสียที“โธ่ หวาน”“อย่ามาทำเสียงแบบนั้นกลบเกลื่อนค่ะพี่กันต์ มันไม่ได้ผล” ไฮโซสาวยกแข

  • กังวานหวาน   บทที่ 63

    ทริปล่องเรือสำราญล่มไม่เป็นท่าเพราะนายแพทย์หนุ่มป่วยจนไข้ขึ้นถึงแม้กันต์ธีจะพยายามผงกหัวแล้วร้องโวยวายเสียงแหบพร่า บอกกับหญิงสาวว่าให้เตรียมตัวไปทริป แต่ด้วยสภาพของเขาที่มันตรงกันข้าม พอเริ่มงอแงหนักข้อขึ้น ไฮโซสาวก็เปลี่ยนมายืนเท้าเอว พลิกจากลูกโอ๋เป็นดุเสียงเข้มแทน“ก็ได้ค่ะ ถ้าพี่ยืนยันจะไปล่องเรือ หวานจะได้ไม่ต้องขนของกลับมาที่นี่”“ทำไมล่ะ” คนป่วยเบิกตาโต เสียงแห้งไปกว่าเดิมอีกพันเท่า พร้อมกับทิ้งตัวลงนอนหมดเรี่ยวหมดแรง“ก็หวานจะเอาวันหยุดของเรา ย้ายของซะหน่อย ถ้าพี่กันต์อยากไปเที่ยวมาก งั้นเรื่องขนของกลับมาที่นี่ค่อยว่ากันทีหลังก็ได้ค่ะ”ได้ยินเหตุผลของหญิงสาว คนดื้อก็เด้งตัวขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าซีดเผือดเริ่มกลับมามีสีเลือดพร้อมกับทำเสียงจริงจัง จนคนที่แอบมองอยู่ต้องอมยิ้ม “ได้ยินกรมอุตุบอกว่าช่วงนี้คลื่นลมแรง เราอยู่บ้านก็ดีเหมือนกัน”“พูดง่ายๆ แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อยค่ะ”“แล้วรักไหม” ไม่ใช่เพราะพิษไข้นี่หรอกที่ทำให้เขาอยากออดอ้อน แต่เพราะความรักที่ท่วมท้นล้นเอ่อ ในหัวใจมันรู้สึกหวานๆ คล้ายอยากให้เธอเติมคำว่ารักเข้ามาเพิ่ม อยากได้ยินอยู่แบบนั้นราวกับมันเป็นเสียงดนตรีบรรเลงที่อยา

  • กังวานหวาน   บทที่ 62

    หลังส่งมารดาขึ้นรถกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว นายแพทย์หนุ่มก็เดินเข้าครัวเพื่ออุ่นซุปเยื่อไผ่กระดูกอ่อน เดือดพลุ่งทั่วหม้อเขาก็ยกลงตักใส่ถ้วยกระเบื้อง พยายามฝืนกลืนให้ตัวมีแรง ในใจคิดไปว่าฝีมือมารดาคงอร่อยมากหากได้กินในช่วงเวลาปกติ ทว่าตอนนี้ปากของเขาเริ่มขมปร่าไม่รู้รสชาติเสียแล้ว กลิ่นที่ควรหอมฟุ้งจากน้ำต้มซุปกระดูกหมูก็ไม่พาเข้าสู่โสตประสาทใดๆเมื่อท้องอุ่นขึ้น คนใกล้ป่วยก็พาตัวเองไปยังห้องนอนกว้างข้าวหวานมักหาเวลามานอนค้างด้วยที่นี่เป็นบางครั้ง แต่หลังจากค่ำคืนที่หญิงสาวกลับไป เขาจะยิ่งทุรนทุรายด้วยความคิดถึงกว่าเดิมเมื่อต้องอยู่เพียงลำพัง เฉกเช่นคืนนี้ที่หลานสาวเจ้าสัวต้องควงปู่เพชรไปงานเลี้ยงที่สมาคม ส่วนเขาเร่งมือเคลียร์งานจึงไปกับเธอไม่ได้ ช่วงเวลาของการได้พบหน้าในตอนกลางวันมันไม่เพียงพอ ทั้งที่รู้สึกอ่อนเพลียขนาดนี้ แต่กันต์ธีก็ยังหลับไม่ลง‘นอนหรือยังคะ’ ข้อความที่เด้งขึ้นจากแอปพลิเคชันสนทนา ทำให้คนที่กำลังน้อยอกน้อยใจเปิดปากยกยิ้ม เขารีบพิมพ์กลับไปทันทีแบบไม่เล่นตัว‘ยังไม่นอน คิดถึงข้าวหวานจัง’ครู่ต่อมาเสียงโทรศัพท์ก็แผดร้องขึ้น ชายหนุ่มที่นอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงยกขึ้นปัดรับด้

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status