LOGINมีนาเงยหน้าขึ้นมองอินทัชด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด พ่อเลี้ยงอินทัชคงจะรู้สึกโกรธเคืองที่เธอกับลูกเลี้ยงของเขาปิดบังเรื่องสำคัญขนาดนี้เอาไว้ จึงเอ่ยถามด้วยความรู้สึกผิด
“พ่อเลี้ยงโกรธหนูหรือเปล่าคะ” มีนาถามเสียงแผ่วเบา อินทัชยิ้มบางๆ ที่มุมปาก
“ไม่หรอก ฉันจะไปโกรธหนูทำไม...หืม์!!! ตรงกันข้ามฉันรู้สึกเห็นใจหนูต่างหาก ที่หนูต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้”
“ขอบคุณค่ะ” มีนากล่าวด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ เธอไม่เคยได้รับความเมตตาจากใครขนาดนี้มาก่อน
“แล้วหนูยังรักนพดลอยู่หรือเปล่า” อินทัชถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย มีนาส่ายหน้าเบา ๆ
“หนูเลิกตาบอดนานแล้วค่ะ เขาไม่เคยปกป้องอะไรหนูได้เลย ลูกแหง่...อย่างนพดลยังไม่โตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตใครหรอกค่ะ เพราะเขาเอาแต่เชื่อฟังแม่ของเขาอยู่ฝ่ายเดียว” อินทัชพยักหน้าอย่างช้าๆ ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเดิม
“ถามหน่อย หนูอายุเท่าไหร่แล้ว” อินทัชถามพลางมองสำรวจเรือนร่างของมีนา คืนนี้เธอสวมเสื้อชุดนอนซาตินสีขาวขาวบางเบาและกางเกงขาสั้นผ้าซาตินตัวใหญ่ที่เขาตั้งใจซื้อให้เธอใส่จะได้ไม่อึดอัด เพราะแผลผ่าตัดเธอยังไม่หายดี แต่ชุดนอนที่เรียบง่ายกลับเผยให้เห็นเรือนร่างที่บอบบางแต่มีส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างชัดเจน และนั่นทำให้เขารู้สึกหลงใหลในตัวเด็กสาวตรงหน้าอย่างไม่รู้ตัว
“พ่อเลี้ยงอยากรู้ไปทำไมเหรอคะ” มีนาถามกลับด้วยความสงสัย แต่แววตาที่สบกันทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง
“อยากรู้ว่าหนูกับพจน์ใครอายุมากกว่ากัน” อินทัชตอบพร้อมกับรอยยิ้ม พลางจ้องหน้าแดงระเรื่อของเธอ
“ปีนี้หนูย่าง 22 แล้วค่ะ”
“เพิ่งจะ 22 เองเหรอ” อินทัชย้ำ เมื่อรู้สึกถึงความแตกต่างในเรื่องอายุของตนเองกับเด็กสาว
“ก็อายุพอ ๆ กับพจน์เลยนี่”
“ค่ะ...แต่หนูอายุมากกว่าพจน์เค้าหนึ่งปี”
“หนูเรียนอยู่หรือทำงานแล้ว”
“ก็เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยค่ะ แต่พอรู้ว่าตัวเองพลาดตั้งท้องกับแฟน หนูก็ดรอปเรียนไปเลย” เธอตอบเสียงแผ่ว
“แล้วอยากเรียนต่อไหม”
“ก็อยากนะคะ ถ้ามีโอกาส เก็บไม่อีกกี่หน่วยกิตหนูก็จบแล้ว”
“แล้วพ่อกับแม่ของหนูล่ะ”
“หนูเป็นแค่เด็กกำพร้าค่ะ หนูอาศัยหาเงินส่งตัวเองเรียน” คำตอบของเธอทำให้หัวใจของอินทัชกระตุกวูบอย่างแรง เขาไม่คิดว่าเด็กสาวตรงหน้าจะต้องแบกรับความลำบากมากมายขนาดนี้
“หนูคงลำบากมากเลยสินะ” อินทัชถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสารและความเห็นใจ แต่ลึกๆ แล้วความรู้สึกนั้นเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความหลงรักอย่างเงียบงันโดยที่เขาเองก็ยังไม่รู้ตัว
“ก็สุดๆ ค่ะ หนูรับงานทุกอย่าง ยกเว้นขายตัว” คำตอบนั้นทำให้หัวใจของอินทัชกระตุกวูบอย่างแรง และนั่นก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกเห็นใจเธอมากยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่า ความสงสารที่เคยมีในตอนแรกเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความรัก... อย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน
คืนนั้นเอง หลังจากที่มีนาเข้านอนไปได้สักพักใหญ่ ๆ น้ำนมที่คั่งค้างทำให้เธอนอนกระสับกระส่ายไปมาอย่างทรมาน ก่อนที่เด็กสาวจะรู้สึกถึงความหนาว ๆ ร้อน ๆ ที่เข้าจู่โจมร่างกายสลับกันไปมาดุจเปลวเพลิงที่กำลังเผาผลาญเธอให้มอดไหม้ลงอย่างช้า ๆ
มีนาสะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึกพร้อมกับความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วทรวงอก สองมือเรียวบางเอื้อมไปปลดตะขอชุดชั้นในออก ก่อนจะสัมผัสเต้านมอวบที่หนักอึ้งและแข็งเป็นไต
มีนาติดกระดุมชุดนอนผ้าซาตินสีขาวบางเบาเพื่อปกปิดทรวงอกอวบใหญ่ ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง เธอก้าวมายืนอยู่หน้าห้องนอนของอินทัช พ่อเลี้ยงหนุ่มนอนหลับอยู่บนเตียงอย่างสงบ ท่ามกลางความเงียบงัน มีนาตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวเคาะประตูห้องนอนของเขา เพื่อขอความช่วยเหลือ
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...
ไม่นานนักเมื่ออินทัชได้ยินเสียงเคาะห้องก็ตื่นขึ้นจากการหลับใหล เขารีบเปิดไฟห้องนอนจนสว่าง ก่อนจะรีบเดินออกมาเปิดประตู แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดและเหงื่อที่ผุดพรายของมีนา ฉับพลันความงัวเงียของเขาก็หายไป
“มีนา....หนูเป็นอะไร!!!” อินทัชถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“หนู... หนูไม่ไหวแล้วค่ะ ไม่รู้เป็นไรมันร้อนหนาว ๆ แล้วปวดเต้านมไปหมดเลย” มีนาพูดเสียงสั่นเครือ อินทัชรีบประคองร่างเด็กสามเข้ามานั่งในห้อง เขารับรู้ได้ถึงความร้อนรุ่มในร่างกายของเธอ ก่อนจะเห็นน้ำตาคลอเบ้าของเด็กสาว และความทรมานที่ฉายชัดอยู่บนใบหน้า
มีนาในชุดในชุดนอนบางเบาที่ไม่มีบราสวมอยู่ด้านใน เผยให้เห็นทรวงอกอวบอิ่มที่เต่งตึงหนักอึ้งและหยาดน้ำนมที่ซึมเป็นดวง ๆ กระจายอยู่เต็มเนื้อผ้า ยอดปทุมถันสีชมพูเรื่อที่ชูชันท้าทายสายตาของพ่อเลี้ยงหนุ่ม จนเขาต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
“สงสัยหนูจะน้ำนมคัดแล้วล่ะ ดูสิ!!!! มันซึมออกมาเต็มเลย” เขาเอ่ยเสียงพร่า แต่สายตาก็อดไม่ได้ ที่จะจ้องมองไปยังยอดปทุมถันสีชมพูเรื่อของเด็กสาว
“ต้องเอาน้ำนมที่คัดออก หนูถึงจะหายปวด”
“มันเจ็บไปหมดเลยค่ะ...” มีนาครางบอกเสียงแผ่วเบาพร้อมแสดงสีหน้าเจ็บปวด อินทัชมองเด็กสาวด้วยความสงสาร ก่อนจะตัดสินใจช่วยเหลือมีนาอย่างไม่ลังเล เขาพอจะรู้วิธีบรรเทาความเจ็บปวดที่เธอกำลังเผชิญอยู่
ตอนที่ 12 สังเวยรักรุ่นลูก NCหลังจากนั้นอินทัชก็ไปนั่งเล่นบนแคร่ไม้ที่ตั้งอยู่หน้ากระท่อม เขาเอาผ้าห่มปูเป็นที่นอนหนึ่งผืนพร้อมกับหมอนคนละหนึ่งใบ ก่อนจะนำฟืนมาก่อกองไฟเล็กๆ เพื่อไล่ยุงและให้ความอบอุ่น มีนาอยู่ในชุดกาสะลองและผ้าถุงซึ่งเป็นชุดพื้นเมืองที่เผยให้เห็นทรวดทรงองค์เอวของร่างกายที่ดูงดงามน่าทะนุถนอมเด็กสาวเดินมานั่งลงข้างๆ อินทัชบนแคร่ไม้ ก่อนจะเอ่ยถามพ่อเลี้ยงหนุ่ม“ทำไมไม่เปลี่ยนกางเกงละคะ เดี๋ยวก็คันแย่หรอก” เธอถามด้วยความกังวล เมื่อเห็นเขาถอดแค่เสื้อผิงไฟเอาไว้“ไม่ค่อยถนัดใส่ผ้าขาวม้านะสิ” อินทัชตอบอย่างตรงไปตรงมา“ถอดผึ่งไว้สิคะ มันจะได้แห้ง”“ก็ได้ ๆ” เขารีบถอดกางเกงตัวนอกออก มีนานั่งมองอยู่ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ พอพ่อเลี้ยงหนุ่มถอดกางเกงบ๊อกเซอร์ออก เด็กสาวก็รีบหันหน้าไปทางอื่นทั้งสองนั่งอยู่ข้างกัน มองดูเปลวไฟที่ลุกโชน มีนาเอนศีรษะซบลงบนไหล่ของอินทัช“ขอบคุณนะคะพ่อเลี้ยง” อินทัชโอบกอดเธอไว้แน่น“ไม่ต้องขอบคุณหรอก ฉันเต็มใจ ฉันยอมให้หนูเป็นอะไรไปไม่ได้หรอก” “หนาวมั้ยคะ ไม่ได้ใส่เสื้อ” เด็กสาวถามพลางซบอกแกร่ง มือเรียวบางโอบกอดร่างหนาเอาไว้“รีบนอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้
อินทัชพาตัวมีนาเข้ามาในความมืดมิดของป่าทึบ ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความระแวดระวังและหวาดกลัว เสียงปืนที่ดังขึ้นเป็นระยะๆ ทำให้ทั้งสองต้องเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น“พวกนั้นยังตามมาอยู่เลยเอาไงดีคะ” มีนาถามเสียงสั่น ร่างกายเริ่มอ่อนแรงจนหายใจหอบถี่“ยังไงมันก็ไม่ปล่อยเราแน่ รีบหนีเถอะ” อินทัชตอบเสียงเข้ม เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มไม่ไหว เขาจึงหยุดพักเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถาม“ไหวมั้ย...มีนา!!!”ทันใดนั้น เสียงปืนก็ดังขึ้นอีกครั้ง อินทัชรีบช้อนตัวเธอขึ้นขี่หลังแล้วออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต“หนีก่อน…มีนา!” ในขณะที่วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต มีนาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกมันที่กำลังตามมา“พ่อเลี้ยงไหวมั้ยคะ” เธอร้องถามอย่างเป็นกังวล“ไม่ต้องห่วง ฉันยังไหว” อินทัชตอบอย่างหนักแน่น ก่อนจะแบกร่างของมีนาวิ่งหนีจนมาจนถึงทางตัน เบื้องล่างคือธารน้ำตกใหญ่ที่ไหลเชี่ยว“เอาไงดีคะพ่อเลี้ยง” มีนาถามเสียงสั่น“เกาะแน่นๆ นะมีนา!!!!” สิ้นเสียง อินทัชก็ตัดสินใจกระโดดลงหน้าผาทันที เด็กสาวกอดคอเขาแน่นหลับตาปี๋ เมื่อร่างของทั้งคู่ร่วงลงสู่ผืนน้ำตูม!!!!!เสียงน้ำแตกกระจายดังสนั่นไปทั่วป่า“เฮ้ย!!!...มันกระโดดลงไปได้ยังไงวะ” เสียงห
ตอนที่ 10 เป็นทุกอย่างให้เธอหลังจากแวะเยี่ยมอัศวพจน์ที่เรือนจำแล้ว อินทัชก็พามีนาไปโรงพยาบาลตามนัด หมอตรวจดูอาการของมีนาอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าเธอฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แล้ว“แผลผ่าตัดดีขึ้นมากแล้วนะครับ ส่วนมดลูกก็เข้าที่แล้ว” คุณหมอบอกพร้อมรอยยิ้ม“กลับไปก็พักผ่อนเยอะๆ นะครับ อย่าเพิ่งยกของหนัก แล้วก็ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ อีกหนึ่งเดือนค่อยมาตรวจอีกที” มีนาพยักหน้าอย่างโล่งอก“ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ” อินทัชยิ้มรับด้วยความดีใจ“ขอบคุณครับคุณหมอ” อินทัชกล่าวขอบคุณนายแพทย์ที่ทำการตรวจให้มีนาระหว่างเดินออกมาจากห้องตรวจ เด็กสาวก็หันไปมองพ่อเลี้ยงหนุ่ม“เห็นมั้ยคะ ว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง” มีนาเอ่ยขึ้นพลางยิ้มหวานให้เขา“ก็ไม่รู้สิ เห็นตัวร้อนเมื่อคืนก็คิดว่าแผลจะอักเสบ อีกอย่างวันนี้คุณหมอก็นัดตรวจอยู่แล้วนี่”“พ่อเลี้ยงเป็นห่วงหนูเหรอคะ”“ห่วงสิ ฉันรับปากอัศวพจน์แล้ว ว่าจะดูแลหนู”“ขอบคุณค่ะพ่อเลี้ยง”“ไม่ต้องขอบคุณหรอก” อินทัชเอ่ยอย่างอ่อนโยน“ฉันสัญญาว่าจะดูแลหนูแบบนี้ไปตลอด” คำพูดของเขาทำให้หัวใจของมีนาเต้นรัวอีกครั้ง เธอรู้แล้วว่านับจากนี้ชีวิตของเธอจะไม่ต้องเดียวดายอีกต่อไปแล้วหลังจากธ
หลังจากผ่านค่ำคืนที่แสนอบอุ่น อินทัชตื่นขึ้นในยามเช้าตรู่ เขาหันไปมองร่างบางที่นอนหลับอยู่ข้างกายอย่างสงบ ก่อนจะยื่นหลังมือสัมผัสไปที่หน้าผากมนของเด็กสาวอย่างแผ่วเบาอินทัชยิ้มอย่างดีใจเมื่อไข้ของมีนาลดลง เธอตัวไม่ร้อนเหมือนอย่างเมื่อคืนแล้ว เขาคิดอะไรบางอยากได้ก็รีบลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ให้เธอตื่นพ่อเลี้ยงหนุ่มเดินเข้าครัว เขามองเครื่องครัวด้วยสายตาที่ไม่คุ้นเคยนัก แต่ก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะทำข้าวต้มให้มีนาทานด้วยตัวเอง ป้าคำแก้วที่กำลังเตรียมอาหารอยู่เห็นพ่อเลี้ยงงก ๆ เงิ่น ๆ ทำบางอย่างอยู่ในครัวก็ถึงกับแปลกใจจนต้องเอ่ยถาม“ธัมโมสังโฆเต๊อะ.....ป้อเลี้ยงจะเยียะอะหยั๋งฮั้นหน่ะ มะมะป้าจะเยียะฮื้อ” (พ่อเลี้ยงจะทำอะไรเหรอ มา ๆ เดี๋ยวป้าทำให้) ป้าคำแก้วเอ่ยขึ้นก่อนจะรีบวางงานที่ตัวเองกำลังทำอยู่ แต่เห็นสาวใช้เดินเข้ามาพอดีจึงรีบสั่ง“คำเปียง มึงไปจ๋วยป้อเลี้ยงตางปุ๊น” (คำเปียง มึงไปช่วยพ่อเลี้ยงทางนู้น) ป้าคำแก้วสั่งสาวใช้ที่เป็นลูกมือของตัวเองให้ไปช่วยพ่อเลี้ยง“ไม่ต้องคำเปียง เดี๋ยวฉั้นทำเอง” พ่อเลี้ยงรีบบอก คำเปียงหันมามองหน้าป้าคำแก้วราวกับจะถามว่าเอายังไงต่อ ก็เมื่อเห็นสายตา
ตอนที่ 8 ของดีมีประโยชน์ NCท่ามกลางความเงียบงันในห้องนอน อินทัชจับมือเรียวบางที่กำลังสั่นเทาของเด็กสาวเอาไว้แน่น ก่อนจะปลอบประโลมเธอ“ไม่เป็นไรนะมีนา เดี๋ยวฉันจะช่วยหนูเอง” เขาพูดปลอบโยน ก่อนจะค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อชุดนอนของเธอออกอย่างเบามือ เด็กสาวจับมือเขาเอาไว้แน่น ก่อนจะทำท่าลังเล แล้วจ้องหน้าเขาเขม็ง“ฉันไม่ได้คิดอะไรกับหนูหรอก แค่จะช่วยเฉย ๆ” เขาเอ่ยสิ่งที่ตรงกันข้ามกับหัวใจ“เราพอจะหาซื้อที่ปั๊มนมได้ไหมคะ” มีนาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“กลางดึกเช่นนี้จะไปหาจากที่ไหนกันล่ะ” เขาส่ายหน้าเบา ๆ พลางมองใบหน้าของเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย เมื่อสองเต้าของเธอถูกปลดเปลื้องจนเปลือยเปล่า อินทัชค่อย ๆ ประคองร่างบางมานั่งบนตักในลักษณะหันหน้าเข้าหากัน เด็กสาวยอมทำตามอย่างว่าง่าย“ฉันจะดูดระบายน้ำนมออกให้นะ” สิ้นเสียงทุ้ม พ่อเลี้ยงหนุ่มก็รีบโน้มตัวลงอย่างช้า ๆ ประคองเต้านมอวบเต่งตึงของเธอขึ้นอย่างแผ่วเบา แล้วใช้ปากครอบดูดหัวนมของเด็กสาวอย่างนุ่มนวล อุ้งปากร้อน ดูดดึงมาจนถึงลานนม ไม่นานนักน้ำนมที่คั่งค้างก็พุ่งเข้าปากของเขา “อื้มมม...อย่าค่ะพ่อเลี้ยง อร๊ายย!!! เบา ๆ ค่ะ อื้มมม”“เจ็บเ
ตอนที่ 7 ช่วยหนูหน่อยค่ะ NCมีนาเงยหน้าขึ้นมองอินทัชด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด พ่อเลี้ยงอินทัชคงจะรู้สึกโกรธเคืองที่เธอกับลูกเลี้ยงของเขาปิดบังเรื่องสำคัญขนาดนี้เอาไว้ จึงเอ่ยถามด้วยความรู้สึกผิด“พ่อเลี้ยงโกรธหนูหรือเปล่าคะ” มีนาถามเสียงแผ่วเบา อินทัชยิ้มบางๆ ที่มุมปาก“ไม่หรอก ฉันจะไปโกรธหนูทำไม...หืม์!!! ตรงกันข้ามฉันรู้สึกเห็นใจหนูต่างหาก ที่หนูต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้”“ขอบคุณค่ะ” มีนากล่าวด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ เธอไม่เคยได้รับความเมตตาจากใครขนาดนี้มาก่อน“แล้วหนูยังรักนพดลอยู่หรือเปล่า” อินทัชถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย มีนาส่ายหน้าเบา ๆ “หนูเลิกตาบอดนานแล้วค่ะ เขาไม่เคยปกป้องอะไรหนูได้เลย ลูกแหง่...อย่างนพดลยังไม่โตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตใครหรอกค่ะ เพราะเขาเอาแต่เชื่อฟังแม่ของเขาอยู่ฝ่ายเดียว” อินทัชพยักหน้าอย่างช้าๆ ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเดิม“ถามหน่อย หนูอายุเท่าไหร่แล้ว” อินทัชถามพลางมองสำรวจเรือนร่างของมีนา คืนนี้เธอสวมเสื้อชุดนอนซาตินสีขาวขาวบางเบาและกางเกงขาสั้นผ้าซาตินตัวใหญ่ที่เขาตั้งใจซื้อให้เธอใส่จะได้ไม่อึดอัด เพราะแผลผ่าตัดเธอยังไ







