LOGINในคืนหนึ่ง หลังจากมีนาออกจากโรงพยาบาลเธอเองก็เกิดน้ำนมคัด แถมยังมีไข้อ่อน ๆ มันสร้างความเจ็บปวดและทรมานให้เธอเป็นอย่างมาก แผลผ่าคลอดก็ยังไม่หายดี มีนาไม่มีทางเลือกเมื่อเธอต้องเผชิญกับความทรมานอย่างแสนสาหัส น้ำนมที่คั่งค้างทำให้เต้านมอวบใหญ่ของเธอหนักอึ้ง มันเจ็บปวดราวกับจะระเบิดออกมา ไหนจะพิษไข้ที่รุมเร้าจนร่างกายร้อนรุ่มราวกับเปลวไฟ เด็กสาวพยายามประคองร่างอันอ่อนเพลียเดินไปหน้าห้องนอนของพ่อสามี ก่อนจะเคาะประตูห้องนอนเพื่อขอความช่วยเหลือจากเขา ไม่นานนักเมื่ออินทัชได้ยินเสียงเคาะห้องก็ตื่นขึ้นจากการหลับใหล เขารีบเปิดไฟห้องนอนจนสว่าง ก่อนจะรีบเดินออกมาเปิดประตู แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดและเหงื่อที่ผุดพรายของมีนา ฉับพลันความงัวเงียของเขาก็หายไป
View Moreบ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ตั้งอยู่ริมทะเล ท่ามกลางธรรมชาติ เสียงคลื่นซัดสาดดังก้องกังวานและสายลมที่พัดโชยมาเป็นระยะทำให้บรรยากาศเงียบสงบ แต่ในความเงียบสงบนั้นกลับแฝงความรู้สึกบางอย่างที่ผิดปกติ ในความเงียบสงัด ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนกำลังเคลื่อนไหวอย่างแผ่วเบา
ไม่นานนัก เสียงร้องขอความช่วยเหลือที่ดังลอดออกมาจากห้อง ๆ หนึ่งก็ดึงดูดความสนใจของชายหนุ่ม ให้รีบขยับกายเข้าไปบริเวณนั้นทันที ก่อนจะค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้ ๆ แล้วตัดสินใจงัดประตูที่ปิดอยู่อย่างแผ่วเบา
แล้วสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือชายวัยกลางคนกำลังก้มหน้าก้มตาหาความสุขอย่างเมามันกับเรือนร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวคนหนึ่งที่นอนหมดสภาพในการช่วยเหลือตัวเอง เนื่องจากมือและเท้าของเธอถูกตรึงเอาไว้กับเตียงนอน และที่สำคัญเขารู้ว่าเธอกำลังตั้งท้องอ่อน ๆ
“เฮ้ย! ไอ้พจน์! มึงเข้ามาทำไมว่ะ” เสี่ยสุชาติเงยหน้าขึ้นมาตะคอกลูกน้องลั่นด้วยน้ำเสียงหยาบคาย หลังจากถูกขัดขวางความสุข ก่อนจะรีบผละออกจากร่างของเด็กสาวแล้วเอื้อมมือไปยังโต๊ะเล็ก ๆ ข้างเตียงเพื่อคว้าปืน
ทว่า...ก่อนที่มือของเขาจะได้สัมผัสกับอาวุธข้างกายที่วางไว้ ชายหนุ่มก็ไม่รอช้า รีบพุ่งเท้าเข้าใส่ร่างท้วมจากด้านหลังอย่างแรงเป็นผลให้ร่างของชายสูงวัยคนดังกล่าวล้มลง ร่างของเสี่ยหื่นกามล้มลงกระแทกพื้นอย่างจัง ศีรษะของเขาฟาดไปกับพื้นจนแน่นิ่ง ไม่มีแม้แต่เสียงร้องโอดโอย
“คุณมีนา!!!” หนุ่มร่างสูงรีบเข้าไปโอบกอดร่างที่สั่นเทิ้มของหญิงสาวไว้แนบแน่น เพื่อปลอบประโลมเธอ ก่อนที่มือหนาค่อยๆ คลายปมเชือกที่มัดมือมัดเท้าของเธออย่างอ่อนโยน เมื่อหญิงสาวหลุดพ้นจากพันธนาการได้แล้ว ชายหนุ่มก็ประคองร่างของเธอให้ลงมาจากเตียงอย่างแผ่วเบา
“พจน์!!!... ฉันนึกว่านายจะไม่มาช่วยฉันแล้ว” เสียงสะอื้นของมีนาดังขึ้นอย่างแผ่วเบา เขารีบหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายให้เธอสวมใส่
“ก็ผมรับปากคุณมีนาเอาไว้แล้วนี่ครับ... ยังไงผมก็ต้องมา” เขาตอบพร้อมกับใช้มืออีกข้างลูบศีรษะเธออย่างปลอบโยน
“เราต้องไปแล้วครับ ก่อนที่ลูกน้องของเสี่ยมันจะแห่กันมาที่นี่” หญิงสาวที่ตั้งสติได้ก็รีบสวมใส่เธอผ้าของตนเองทันที ก่อนที่เสี่ยบ้ากามจะฟื้นขึ้นมา
“แล้วนายหลอกล่อพวกลูกน้องของเสี่ยได้ยังไงเหรอ”
“ผมลงทุนจ้างเด็กเอ็นมาให้พวกมันครับ ตอนนี้พวกมันกำลังนั่งร้องคาราโอเกะกันอยู่หน้าบ้าน”
หลังจากหญิงสาวแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย อัศวพจน์ก็รีบจูงมือมีนาให้วิ่งออกไปทางด้านหลังของบ้านพักทันที ทั้งสองคนวิ่งฝ่าความมืดเข้าไปในป่าที่รกทึบจนกระทั่งถึงรถมอเตอร์ไชด์ของเขาที่แอบเอาไปซุกซ่อนไว้
เมื่อหญิงสาวขึ้นคร่อมมอเตอร์ไชด์ได้เรียบร้อย อัศวพจน์ก็รีบบิดคันเร่งออกไปอย่างรวดเร็ว มีนายังคงรู้สึกสะเทือนใจไม่หายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เธอกอดเอวเขาไว้แน่น ชายหนุ่มยื่นมือข้างหนึ่งไปกุมมือเธอไว้
“ไม่ต้องห่วงนะครับคุณมีนา ผมสัญญาว่าจะพาคุณหนีจากเสี่ยให้ได้” เสียงทุ้มเอ่ยผ่านกระแสลมในยามค่ำคืน มีนาโอบกอดเขาแน่น ถึงแม้เธอจะยังมองไม่เห็นอนาคตว่าเขาเองจะเลี้ยงดูเธอได้อย่างไร เพราะเขาเองก็เป็นเพียงแค่ลูกน้องของเสี่ยสุชาติเท่านั้น แต่ในตอนนี้ก็เหลือเพียงเขาคนเดียวที่พอจะช่วยเหลือให้เธอให้หลุดพ้นจากเสี่ยสุชาติได้
เช้าวันรุ่งขึ้น ข่าวการเสียชีวิตของเสี่ยสุชาติก็ถูกเผยแพร่ออกมาทันที ซึ่งก็เป็นข่าวใหญ่ ดังไปทั่วประเทศ สร้างความตกใจให้แก่อัศวพจน์และมีนาเป็นอย่างมาก อัศวพจน์ไม่คิดเลยว่าการกระทำของตนเองเมื่อคืนนี้ จะทำให้เสี่ยสุชาติถึงกับต้องจบชีวิต และมันก็ทำให้เขาต้องตัดสินใจครั้งใหญ่อีกครั้ง
“นี่เราจะต้องหนีกันอีกแล้วใช่มั้ย” มีนาถามเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว
“ใช่ครับคุณมีนา!!! อีกไม่นานพวกลูกน้องของเสี่ยก็จะตามล่าเรา” เขาตอบอย่างหนักแน่น
“คุณรีบเก็บเสื้อผ้าเถอะ...เราต้องหนีกันแล้ว” ทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความกังวลและความกลัวในเวลาเดียวกัน
ตอนที่ 33 ตอนจบหนึ่งเดือนต่อมา ณัฐกิตติ์ยังคงกักขังศรุตาเอาไว้ในบ้านของเขา ในฐานะนางบำเรอที่เขาต้องการเมื่อไหร่ ก็จะลากเธอขึ้นเตียงทันที เพื่อระบายทั้งความแค้นและความใคร่ แต่ระยะหลัง ๆ มานี้ ความใกล้ชิดก็ยิ่งทำให้ทั้งคู่ต่างก็มีใจให้กันโดยไม่รู้ตัว สถานะของทั้งคู่จึงเปลี่ยนไปจากศัตรูกลายเป็นคู่รักณัฐกิตติ์หลงรักศรุตาอย่างหมดใจ จนยอมจ้างนักสืบฝีมือดีให้ไปสืบเรื่องราวในอดีตของเธอทั้งหมด และความจริงที่ได้รับรู้ก็ทำให้หัวใจแกร่งของเขาต้องสั่นคลอนนักสืบรายงานว่าในอดีตยายเลี้ยงที่ใจร้ายได้ขายศุรตาให้กับเสี่ยสุชาติ ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กสาววัยเพียง 15 ปี และเธอก็ตั้งท้องในเวลาต่อมากับเสี่ยสุชาติ ซึ่งตอนนั้นเสี่ยสุชาติก็กำลังอยากได้ลูกชายอยู่พอดี และเห็นว่าศรุตามีลูกชายกับเขาได้ จึงไม่ยอมขายเธอไปและเลี้ยงดูเธอเป็นอย่างดี หลังจากนั้นศรุตาก็จำใจต้องเอาใจเสี่ยสุชาติเพื่อความอยู่รอด ณัฐกิตติ์ได้ฟังเรื่องราวของเธอก็รู้สึกเจ็บปวดและสงสาร ความรู้สึกผิดกัดกินหัวใจเขาที่เคยทำร้ายจิตใจเธออย่างแสนสาหัส เขาจึงรีบโทรหาอินทัชเพราะอยากให้เพื่อนให้อภัยศรุตา“ฉันว่าแล้ว ยังไงแกก็ต้องใจอ่อนกับเธอสักวัน” อิ
ตอนที่ 32 ซาตานไร้หัวใจ NCณัฐกิตติ์รีบถอดเสื้อชุดนอนตามด้วยกางเกง ก่อนจะยื่นแท่งรักอันยาวใหญ่มาที่ริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ“เอาเข้าปากซะ...ถ้าไม่อยากตาย” ศรุตาอ้าปากแต่เขาไม่ทันใจ จึงใช้มือบีบปากเธอและยัดความใหญ่ยาวเข้าไปอย่างรุนแรง“อ๊อก ๆๆ” ศรุตาถึงกับสำลักความใหญ่โตที่อัดลงมาบริเวณคอหอย“เบา ๆ สิ จะฆ่ากันรึไง” หม้ายสาวโวยวาย“อมดี ๆ อย่ากัดนะ...ดูดแรง...อย่างนั้นแหละ” เขาออกคำสั่ง“ขอท่าหกเก้า” ณัฐกิตติ์เสนอ“ไม่ๆๆๆ” ศรุตาโวยวาย“อย่าคิดว่าผมหยิบปืนมาขู่คุณไม่ได้นะ” เขาขู่พร้อมกับจัดการตัวเองและเรือนร่างของเธอให้อยู่ในท่าที่ต้องการ“อะ..อร๊ายยย...อื้ยยย...อย่าดูดแบบนั้นสิ” เธอกรีดร้องด้วยความทรมาน แต่มันไม่ใช่ความเจ็บปวด“ขอเสียบเลยละกัน ผมไม่ไหวแล้ว” ณัฐกิตติ์บอกพร้อมกับจากร่างของเธอให้มานอนหงายในท่าปกติ ก่อนจะใช้แท่งรักสอดแทรกเข้ามาในตัวเธอ“อะ..อร๊ายยย...ใส่ถุงด้วย” เธอยังคงร้องโวยวาย“ถ้าใส่ถุงผมจะเย็.ดคุณต่อจากนี้อีกสามชั่วโมง...แต่ถ้าไม่ใส่ละก็...อีกครึ่งชั่วโมงผมก็เสร็จ...เอาไง!!!” ณัฐกิตติ์ยื่นข้อเสนอที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้“คุณแน่ใจได้ไงว่าฉันจะไม่เป็นโรค” ศรุตาขู่“ผมแน่ใจ...
ตอนที่ 31 อาญาสวาท NC“ออกมา! แต่อย่าตุกติกนะ” ณัฐกิตติ์ลากศรุตาขึ้นมาบนห้องนอนของเขา ก่อนจะหยิบโซ่ที่เตรียมไว้ออกมา“นี่จะเอาโซ่มาทำไม” ศรุตาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ก็ล่ามคุณไง” ณัฐกิตติ์ตอบเรียบ ๆ“ฉันไม่ใช่นักโทษนะ บอกมาสิ ฉันไปทำอะไรให้คุณ”“อยากรู้จริง ๆ เหรอ”“อยากรู้...เพราะเราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน คุณต้องเข้าใจอะไรฉันผิดแน่ ๆ ““คุณฆ่าลูกของผมตาย” ณัฐกิตติ์พูดด้วยเสียงเรียบ“ฉันเนี่ยนะ!!!...ไปฆ่าลูกของคุณตาย ตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ...ฉันไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไร...เกิดมาฉันยังไม่เคยฆ่าใครตายด้วยซ้ำ คุณพามาผิดตัวแล้ว” ศรุตาพยายามอธิบาย“คุณมันผู้ร้ายปากแข็ง” เขาพูดอย่างไม่เชื่อ“แต่ก็ไม่เป็นไร...คืนนี้ผมจะทำให้คุณเปิดปากเอง ถอดเสื้อผ้าของคุณออกซะ”“ให้ฉันสาบานที่ไหนก็ได้ ฉันไม่ได้ฆ่าลูกของคุณจริง ๆ”“เรื่องนั้นผมจะให้คุณแก้ตัววันหลังก็แล้วกัน แต่ตอนนี้ คุณแก้ผ้าออกซะ”“ล่ามโซ่ที่ขาฉันแบบนี้ ฉันไม่ถนัดหรอกนะ ปล่อยฉันก่อนสิ แล้วฉันจะยอมคุณ” เมื่อการข้อร้องอ้อนวอนไม่ได้ผล เธอจึงเปลี่ยนมาใช้มารยาหญิง“ผมปลดให้ก็ได้ แต่อย่าคิดหนีก็แล้วกัน ไม่งั้นคุณได้เหลือแต่ชื่อแน่ แล้วผมก็จะ
ตอนที่ 30 ลักพาตัวศรุตาพยายามควานหาโทรศัพท์ของตัวเองในกระเป๋าสะพายอีกครั้ง เธอพยายามค้นหาตามช่องต่าง ๆ เพื่อจะโทรแจ้งความ แต่ก็หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ ซึ่งเธอก็หาแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว“ต่อให้คุณเทกระเป๋าออกมาทั้งหมด คุณก็หาสิ่งที่คุณต้องการไม่เจอหรอก...” ณัฐกิตติ์บอกด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน แววตาของเขาช่างเจ้าเล่ห์จนเธอรู้สึกหวาดกลัว“มันหายไปไหนว่ะเนี่ย...โว้ยย!!” เธอบ่นอุบเมื่อหามือถือและกระเป๋าสตางค์ใบเล็ก ๆ ของตัวเองไม่พบ ก่อนจะโยนกระเป๋าของตัวเองทิ้งในรถอย่างไม่ไยดี เมื่อไม่มีทั้งเงินและโทรศัพท์ เธอก็หมดหนทางหนี ศรุตาพยายามจะเปิดประตูรถ แต่ทุกอย่างก็ถูกล็อคจากฝั่งคนขับ แม้กระทั่งกระจกเธอก็เปิดมันไม่ออก“คุณหาของพวกนี้อยู่หรือเปล่าครับ” ณัฐกิตติ์หยิบโทรศัพท์พร้อมกระเป๋าสตางค์ใบเล็ก ๆ ของเธอขึ้นมาอวด“เอาของฉันมานะ พวกแกมันไอ้พวกมิจฉาชีพ!!!” ศรุตากำลังพยายามแย่งโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ของเธอที่อยู่ในมือของณัฐกิตติ์ จนทำให้รถเสียการควบคุม แถมเธอยังยื้อแย่งพวงมาลัย เพื่อที่จะให้เขาจอดรถ“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!! คุณอยากตายรึไง!!!” เขาพูดเสียงเข้มพร้อมกับหักพวงมาลัยหลบรถที่เกือบจะพุงเข้าไปชนได้อย่าง