LOGINศรายุทธซื้อตัวบัวบงกชมาจากร้านอาบอบนวดแห่งหนึ่ง ด้วยเหตุผลที่จะให้เธอมาเป็นเมียลับๆ คอยเป็นที่บำเรอความใคร่ให้กับเขา เขาทำข้อตกลงเป็นระยะเวลาสองปี และสอนให้เธอทำทุกอย่างที่ภรรยาของเขาเคยปรนนิบัติเอาใจเขา แต่นานวันเข้าเขากลับค่อยๆ หลงรักเด็กสาว เขาขอให้เธออยู่ต่อแลกกับเงินจำนวนที่สูงขึ้น แต่บัวบงกชอยากมีอิสระ เธอไม่ต้องการเป็นเมียเก็บของใคร ศรายุทธจึงต้องหาทางรั้งเธอเอาไว้ให้เป็นของเขาคนเดียวตลอดไป (นิยายที่เกี่ยวข้อง "ฟังเสียงรัก" เรื่องราวของน้องชายพระเอก เนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกัน)
View Moreศรายุทธ หนุ่มใหญ่วัยสามสิบห้าปีที่มีหน้าตาหล่อเหลาคมคาย ดวงตาของเขาคมกริบ จมูกโด่งเป็นสัน ผมหยักศก และมีผิวสีแทนอย่างชายไทย กำลังเดินเข้าในร้านอาบอบนวดที่เขามาใช้บริการเป็นประจำในช่วงหนึ่งปีหลังมานี้
เมื่อปีที่แล้ว ศรายุทธสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รักไป เขาใช้เวลาอยู่นานกว่าจะทำใจได้ แต่ก็ยังไม่คิดจะหาใครมาแทนที่เธอ และหาวิธีปลดปล่อยความต้องการโดยการเที่ยวกลางคืนและใช้บริการที่ร้านจัดให้อย่างคุ้มค่า
พอศรายุทธเดินเข้าร้านก็มีสาวน้อยสาวใหญ่ส่งสายตาให้เขาเพื่อเรียกร้องความสนใจอยากเป็นตัวเลือกของเขากันทั้งนั้น เพราะศรายุทธมาเพียงสัปดาห์ละครั้ง แต่คนที่เขาพาขึ้นห้องแต่ละครั้งนั้นได้ค่าตอบแทนนอกเหนือจากค่าตัวที่ทางร้านจ่ายให้อีกคนละหลายพัน
“วันนี้มีเด็กใหม่เพิ่งเข้ามาทำงานค่ะ คุณยุทธมาได้ถูกวันเลย ให้เจ๊ไปเรียกมานั่งด้วยไหมคะ หรือจะเลือกดูน้องๆ ในร้านก่อน” ชมพูนุชหรือเจ๊นุชถามศรายุทธด้วยน้ำเสียงที่ดูเอาอกเอาใจ
“จัดมาเลยก็ได้ครับ” ศรายุทธบอก เขานั่งลงที่เก้าอี้ทรงสูงหน้าเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม แล้วส่งบรั่นดีมาหนึ่งแก้วเพื่อดื่มย้อมใจ
คำว่าเด็กใหม่ของชมพูนุช สำหรับศรายุทธก็คือใหม่สำหรับเขาในคืนนี้ แต่เก่ามาจากที่อื่นแล้วทั้งนั้น เขาไม่เคยวางในที่จะถอดถุงยางอนามัยกับใครได้เลยแม้แต่คนเดียว เพราะรู้ว่าผู้หญิงขายบริการในอาชีพหมอนวดเหล่านี้รับแขกมากหน้าหลายตาไม่มีใครปลอดภัยเลยสักคน
ชมพูนุชพาหญิงสาวที่แต่งกายด้วยชุดเดรสสั้นสีดำรัดรูปมานั่งกับเขา เธอโปรยยิ้มหวานใส่เขาแล้วนั่งคลอเคลียข้างๆ อย่างเอาอกเอาใจ ตามที่ชมพูนุชได้สอนเธอมา
“ใหม่จริง เพราะผมไม่เคยเห็นหน้า” ศรายุทธบอก
“น้องบัวเพิ่งมาวันนี้เองค่ะ” ชมพูนุชบอก
“เจ๊บอกว่าเด็กใหม่ทีไร ผมก็คุ้นหน้าตลอดนั่นแหละ” ศรายุทธบอก
“แหม คุณยุทธก็ มาไม่ถึงเดือนก็ใหม่ทั้งนั้นล่ะค่ะ”
“ห้องว่างไหม ผมอยากลองเด็กใหม่แล้ว” ศรายุทธบอกแล้วบัวบงกชอย่างชื่นชม เธอประมาณยี่สิบต้นๆ แต่งหน้าจัดตามอาชีพที่ต้องทำ เลือกชุดที่รัดรูปและเย้ายวนสายตา แสดงว่าคงเจนจัดไม่ใช่น้อย
“ว่างค่ะ ห้องเดิมเลยนะคะเดี๋ยวให้เด็กเปิดห้องให้ค่ะ” ชมพูนุชพูดแล้วลุกชขึ้น เธอเดินกรีดกรายไปบอกผู้ชายอีกคนที่ทำหน้าที่เปิดห้องพาศรายุทธขึ้นไปใช้บริการห้องพักที่อยู่ด้านบน
ศรายุทธโอบเอวบัวบงกชเดินขึ้นไปข้างบนพร้อมกับแก้วบรั่นดีของเขา พอถึงห้องพักเขาก็ให้เธอไปอาบน้ำล้างตัวให้สะอาดแล้วไปรอเธอที่เตียง
“ชื่ออะไร” เขาถามเธอพอเป็นพิธี แต่ไม่คิดจะจำมัน
“ชื่อบัวค่ะ” หญิงสาวตอบขณะที่เดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูพันรอบตัวไว้ เธอเดินมานั่งข้างๆ เขาที่ขอบเตียงแล้วโน้มตัวลงทำท่าเหมือนว่ากำลังจะจูบปากเขา
“ฉันไม่จูบ” เขาบอกเธอ หญิงสาวชะงักแล้วยิ้มให้เขา เธอค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเขาออกแล้วถอดเสื้อให้เขา ขณะที่ศรายุทธเองก็ช่วยเธอปลดเข็มขัดและกางเกงของตัวเองออกไปกองไว้ที่พื้น
ศรายุทธกระตุกผ้าเช็ดตัวเธอออก เห็นแววตาที่ดูตระหนกนั่นแวบหนึ่ง แล้วก็ยิ้มออกมาเมื่อเธอนั้นทำเป็นว่าตัวสั่นเหมือนนี่เป็นครั้งแรก เป็นเทคนิคการขายที่ศรายุทธคิดว่าใช้ได้ ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้น แต่มันใช้ไม่ได้กับเขา
เขาดันเธอไปนอนแล้วก้มลงไปจูบที่หน้าอก ดันสะโพกแนบกับสะโพกของหญิงสาวแล้วถูไถไปมา ดูดชิมความหอมหวานจากหน้าอกของเธอแล้วไซร้ซอกคอพร้อมใช้มือลูบไล้สะโพกเธอไปมา ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนอนหงายเพื่อให้เธอใช้ปากให้กับเขา
หญิงสาวลุกขึ้นแล้วมองแท่งลำนั้นอย่างไม่เข้าใจว่าเขาจะให้เธอทำอะไรระหว่างใช้ปาก ใช้มือหรือว่าขึ้นคร่อมทับมันลงไป
“อมสิ” เขาบอกเธออย่างหงุดหงิด
เธอรีบก้มหน้าใช้ปากให้เขาเหมือนกับหนังเอวีที่เคยผ่านตา กระทำอย่างเบามือและดูดเลียเหมือนกับว่ามันคือแท่งหวานเย็นแท่งหนึ่ง เขาสูดปากครางอย่างพอใจแล้วดันหัวเธอออก ลุกขึ้นสวมใส่เครื่องป้องกันแล้วทาบทับเธอเอาไว้ จับเข่าแยกออกจากกันแล้วกดแท่งลำนั้นลงไปอย่างสุดแรง
“อื้อ” หญิงสาวกัดฟันร้องออกมาผ่านไรฟัน มือจิกผ้าปูที่นอนหลับตาปี๋ด้วยความอึดอัดและเจ็บที่เขาสอดใส่เข้ามาเต็มแรง
“บ้าเอ้ย” ศรายุทธสบถอย่างหัวเสีย
เขารีบก้มลงจูบบดริมฝีปากเธอแล้วค่อยบดควงสะโพกเบาๆ ไปด้วยยังไม่ได้ซอยเข้าออก จนหญิงสาวนั้นเอามือกอดแล้วลูบแผ่นหลังเขา แอ่นสะโพกเรียกร้องตามสัญชาตญาณ ศรายุทธจึงเริ่มขยับสะโพกเข้าออกเบาๆ
เธอครางเบาๆ ในลำคอ เป็นเสียงครางที่ฟังดูมีความสุข เขาก็เริ่มซอยถี่ขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกระแทกเข้าออกอย่างดุดันเมื่อเธอนั้นเริ่มตอดรัดเขาแน่นจนเขาแทบทนไม่ไหว
ศรายุทธกัดฟันรอจนคนข้างล่างนั้นตัวอ่อนลง เขาก็กระแทกหนักขึ้นแล้วปลดปล่อยออกมา พลางลุกขึ้นไปที่ห้องน้ำแล้วสบถออกมาไม่หยุด
พอเขาออกมาก็พบว่าเธอกำลังใส่เสื้อผ้าอยู่ แล้วพยายามหลบตาเขา
“นี่เธอยังไม่เคย ทำไมไม่บอกกันก่อน” เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ แล้วเดินไปหยิบแก้วบรั่นดีที่ถือขึ้นมากระดกดื่มมันจนหมดแก้ว
“บัวขอโทษค่ะ บัวกลัวว่าคุณจะไม่เลือกบัวถ้าหากรู้ว่าบัวไม่เคยมีประสบการณ์ พี่ๆ ที่เคยนอนบอกว่าคุณชอบเลือกคนที่มีประสบการณ์และให้ทิปหนัก บัวต้องการใช้เงินจริงๆ ค่ะ แต่บัวไม่เอาทิปก็ได้นะคะ แต่อย่าบอกเจ๊นุชเลยนะคะว่าคุณไม่พอใจบัว บัวกลัวโดนหักค่าตัว” เธอนั่งลงพนมมืออ้อนวอนเขาด้วยความร้อนใจ
“บ้าเอ้ย อายุเท่าไรแล้วถึงยังรอดมาจนถึงตอนนี้”
“ยี่สิบสองค่ะ” เธอตอบ ศรายุทธหันมาทำหน้าไม่พอใจ เขาไม่ได้ถามเธอแค่บ่นกับตัวเอง
“แล้วนี่จำเป็นอะไรนักหนาถึงอยากได้เงินด้วยวิธีนี้” เขาถามเธอเสียงเครียด
“พ่อกับแม่บัวเลิกกันค่ะ ต่างคนต่างมีครอบครัวใหม่ เลยเกี่ยงที่จะส่งเงินค่าเทอมให้บัว ปีนี้เป็นปีสุดท้ายแล้ว บัวต้องเรียนให้จบ จะได้ไปหางานดีๆ ทำ” บัวบงกชบอกเขา แต่ศรายุทธไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เธอเล่ามา
“นิทานที่เธอแต่งมันก็สนุกดีนะ แต่เอาเถอะ ฉันจะทำเป็นว่าเชื่อก็แล้วกัน” ศรายุทธบอก
“ขอบคุณนะคะที่จะไม่บอกเจ๊นุช” บัวบงกชไหว้ขอบคุณเขาแล้วรีบแต่งตัวให้เสร็จเพื่อที่จะรีบลงไป
“จะรีบไปไหน” เขาถามเธอเสียงเครียด
“ลงไปทำงานต่อค่ะ” บัวบงกชบอกเขาด้วยท่าทางที่ดูซื่อ ต่างจากจริตเย้ายวนก่อนหน้าตอนที่เธอมานั่งคลอเคลียเขาอย่างกับคนละคน
“ฉันบอกให้ลงไปแล้วเหรอ” เขาถามเสียงเครียดก่อนจะโทรหาชมพูนุชเพื่อคุยเรื่องเธอ
“มีอะไรหรือเปล่าค่ะคุณยุทธ น้องบัวทำอะไรให้ไม่พอใจอะไรหรือเปล่า” เธอถามเขา
“เด็กคนนี้ทำงานประจำที่นี่หรือว่ามีคนฝากมา” เขาถามเธอเสียงจริงจังจนชมพูนุชนั้นกลัวว่ากำลังจะมีเรื่อง
“น้องอยากทำงานค่ะ เลยมีคนแนะนำมาที่นี่อีกที เจ๊ก็จ่ายค่านายหน้าไปสองหมื่น วันนี้น้องทำงานคืนแรก คุณยุทธก็เป็นแขกรายแรกค่ะ” เธอรีบบอกเขา กลัวว่าหากผิดพลาดอะไรมาเธอจะต้องรับผิดชอบ
“งั้นผมซื้อตัวเธอต่อห้าหมื่นเดี๋ยวเขียนเช็คให้” ศรายุทธบอก ชมพูนุชถึงกับเสียดายที่ไม่บอกเขาไปสูงกว่านี้ แต่ด้วยศรายุทธเป็นแขกวีไอพีและมีเส้นสายอยู่มาก เธอเลยต้องยอมปล่อยบัวบงกชไปกับเขาทั้งๆ ที่ควรสร้างกำไรได้มากกว่านี้
บัวบงกชได้ยินสิ่งที่เขาพูดก็ตกใจที่เขานั้นซื้อเธอไป เธอไม่รู้ว่าเขาจะเอาเธอไปขายต่อให้ใคร การแต่งตัวของเขานั้นก็ดูดี ไม่น่าจะเป็นพวกแมงดา หรือว่าเขาอาจจะเป็นนายหน้าค้าผู้หญิงก็ได้ บัวบงกชคิดอย่างเป็นกังวล กลัวไปหมดว่าต้องเจอกับอะไรข้างนอก
“บัวไม่ไปนะคะ บัวจะทำงานที่นี่” เธอบอกเขา ศรายุทธถึงกับอึ้ง ที่เธออยากนอนกับคนมากหน้าหลายตามากกว่าไปเป็นของเขาแค่คนเดียว
“เธอหมดสิทธิ์เลือกแล้วล่ะ เจ๊นุชตกลงยกเธอให้ฉันแล้ว” เขาบอกแล้วมองบัวบงกชด้วยสายตาที่ดูน่ากลัวสำหรับเธอ
*********************
ศรายุทธกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาดึกแล้ว ช่วงนี้เขาเขาไม่เห็นสินีนาถมารอต้อนรับเขากลับบ้านเหมือนอย่างเคยก็รู้สึกสบายใจขึ้น ที่อย่างน้อยก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจมากเหมือนอย่างเคยหลังจากที่สินีนาถพูดเปิดใจกับเขาตอนนั้น เขายอมรับว่ายิ่งอยากกลับบ้านให้น้อยลง เพราะลำบากใจที่จะเจอเธอแล้วต้องคอยทำเหมือนว่าไม่รับรู้อะไร ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าเธอคิดอย่างไรสินีนาถขออนุญาตให้มีเพื่อนผู้ชายมาหาเธอที่บ้าน นั่นเป็นการดีที่จะทำให้เธอได้เปิดใจให้คนอื่นบ้าง เขายินดีสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ลึกๆ ในใจอยากให้เธอรีบแต่งงานแล้วย้ายออกไปด้วยซ้ำ เพราะเธอไม่ใช่ญาติของเขาโดยตรง และพ่อแม่ของศรายุทธเองก็เคยเตือนเรื่องนี้กับเขาแล้วว่ามันไม่เหมาะสมแต่ติดตรงที่ว่าสิริพิชญ์ฝากให้เขาดูแลสินีนาถ เธอถึงยังอยู่ที่นี่ได้ในฐานะน้องสาวของสิริพิชญ์ เพราะศรายุทธไม่อยากเสียคำพูดที่ให้ไว้กับอดีตภรรยาของเขา“พี่ยุทธเพิ่งมาหรือคะ” สินีนาถถามขึ้นขณะเดินลงบันได“อืม แล้วนาถลงมาทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ” ศรายุทธถามเธอ“นาถลงมาอุ่นนมดื่มค่ะ พอดีนอนไม่ค่อยหลับ” สินีนาถบอกแล้วยิ้มให้เขา ก่อนจะขอตัวไปที่ห้องครัวศรายุทธมองตามแล้วถอนหายใจอย
บัวบงกชที่นอนคิดมากทั้งคืนเพราะศรายุทธไม่พอใจเธอก็มาทำงานตามปกติ เธอหันซ้ายหันขวากลัวว่าจะเจอผู้ชายคนนั้นอีก เพราะศิรินุชบอกว่าเธอให้ฝ่ายบุคคลแจ้งเตือนเขาไปแล้วว่าไม่ให้ทำเรื่องอย่างนั้นอีก บัวบงกชเลยกลัวว่าเขาจะโกรธแล้วยิ่งหาเรื่องเธอบัวบงกชก้าวเข้าไปในลิฟต์ ประตูกำลังจะปิดแต่ก็มีมือมาขวางเอาไว้ก่อน ประตูเลยเปิดออกอีกครั้ง เป็นชายหนุ่มคนเมื่อวานอย่างที่เธอกลัว“พี่ไปด้วยคนสิครับ” เขาบอกแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และดูไม่เป็นมิตรสำหรับบัวบงกชเขากดปิดลิฟต์แล้วก็มีมือใครบางคนมาขวางเอาไว้อีกรอบ เป็นศรายุทธที่ขวางประตูลิฟต์นั้น เขาไม่อยากเชื่อว่าเขาจะมาแอบดักรอเธอขึ้นลิฟต์ และพอเจอพนักงานหนุ่มจอมตื้อแอบรอเธออยู่ก่อนหน้านี้ เขาก็ยิ่งแทบทนไม่ไหว แต่ถ้าจะรังแกพนักงานตัวเล็กๆ ก็คงดูไม่ดีอย่างที่บัวบงกชบอก เขาเลยต้องอดทนและทำตัวให้นิ่ง“ผมไปด้วยคนสิ” เขาพูดเสียงเรียบ แล้วก้าวเข้าไปในลิฟต์บัวบงกชดีใจที่อย่างน้อยก็มีศรายุทธอยู่ในลิฟต์ด้วย ถึงจะกังวลเรื่องที่เขากำลังโกรธเธออยู่ แต่ก็อุ่นใจที่เขาอยู่ตรงนี้“วันนี้ท่านประธานมาเช้าจังเลยนะคะ” บัวบงกชพูดกับเขา“พอดีอยากลองเข้างานเช้าดู เผื่อว่าจะได้เห็
ตลอดระยะที่บัวบงกชมาฝึกงานที่บริษัทของศรายุทธ ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่มีใครสนใจเธอเลย แต่เพราะเธอทำงานอยู่หน้าห้องของศรายุทธจึงไม่มีใครกล้าแวะเวียนเข้ามาจีบ เพราะชั้นที่บัวบงกชอยู่นั้นมีแต่ระดับผู้บริหารนั่งอยู่ทั้งนั้นดังนั้นเวลาที่บัวบงกชเดินเข้ามาในบริษัทและกำลังขึ้นลิฟต์เท่านั้นที่เป็นนาทีทองของคนที่สนใจเธอ“สวัสดีครับ” เสียงทักทายดังขึ้นขณะที่บัวบงกชอยู่ในลิฟต์กับเขาเพียงลำพัง“สวัสดีค่ะ” บัวบงกชตอบกลับและยิ้มให้ตามมารยาท เธอไม่เคยสังเกตเลยว่าชายหนุ่มนั้นแอบสนใจตั้งแต่วันแรกที่เธอมาทำงานแล้ว“ชื่อน้องบัวใช่หรือเปล่าครับ” เขาถามเธอ“ค่ะ” บัวบงกชตอบตามมารยาท ในใจลุ้นอยากให้ประตูลิฟต์รีบเปิดเพราะไม่อยากสนทนากับเขานานๆ เกรงว่าศรายุทธรู้แล้วจะไม่พอใจเธอเข้าตอนนี้ทางบ้านของเธอกำลังเดือดร้อนหนัก จากที่เคยคิดว่าจะไม่ขอเงินจากเขา แต่ว่าก็ไม่สามารถทำได้แล้วในตอนนี้ และเธอต้องทำตัวดีให้มากๆ ไม่ให้เขาต้องไม่พอใจเธอ“น้องบัวมีแฟนหรือยังครับ” เขาถามเธอตรงๆ เป็นนัยให้รู้ว่าอยากจะจีบเธอ“มีแล้วค่ะ” บัวบงกชโกหกออกไป ประตูลิฟต์เปิดออกชั้นที่ชายคนนั้นกด แต่เขาก็กดปิดประตู ไม่สนใจว่าจะเข้าทำงานทันเวลาหร
บัวกงกชมารายงานตัวกับฝ่ายบุคคลของเลิศประจักษ์กรุ๊ปแล้วถูกส่งตัวให้ไปหาเลขานุการของศรายุทธศิรินุชคือสาวใหญ่วัยสี่สิบห้าปีที่เป็นเลขานุการของศรายุทธที่ทำงานกับเขามาตั้งแต่บิดาของเขายังไม่วางมือจากตำแหน่งประธานบริหารศิรินุชพอใจที่บัวบงกชใส่กระโปรงนักศึกษาที่ไม่รัดรูปและยาวคลุมเข่า ซึ่งหาได้ยากในสมัยนี้ เธอสอนวิธีจัดตารางงาน วิธีการดูตารางเวลานัดหมาย และขั้นตอนการนำเอกสารไปให้ศรายุทธเซ็น รวมถึงวิธีชงกาแฟให้ศรายุทธด้วยว่าเขาดื่มกาแฟประเภทไหน และควรเสิร์ฟเวลาไหนบ้าง“ท่านประธานปกติจะเข้างานไม่เกินเก้าโมงเช้า กาแฟถ้วยแรกเสิร์ฟตอนสิบเอ็ดโมง บ่ายสอง กับสี่โมงเย็นตามลำดับ” ศิรินุชอธิบายกับบัวบงกช เธอพยักหน้าเรียนรู้งานได้อย่างรวดเร็วศรายุทธเดินเข้ามาพร้อมกับผู้ติดตามอีกสองคน เขามองหน้าบัวบงกชด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งขรึมและเป็นทางการกว่าปกติ แล้วพยักหน้าทักทายศิรินุชเบาๆ ก่อนจะเข้าห้องไปกับผู้ติดตาม เพื่อคุยธุระของเขาศิรินุชรอจนผู้ติดตามของศรายุทธออกมาจากห้อง เธอก็เคาะห้องสามที ก่อนจะเปิดประตูพาบัวบงกชไปแนะนำตัว“ท่านประธานคะ นี่บัวบงกช เป็นเด็กฝึกงานที่จะมาฝึกงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาค่ะ ดิฉันจะใ