บทที่1.วิวาห์พาฝัน
รีสอร์ตรินลดา...ภูเก็ต
ซุ้มดอกไม้สีอ่อนถูกจัดเตรียมไว้ที่ชายหาด ด้านหน้ารีสอร์ตรินลดา เป็นความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ บุษบันจึงถูกเกณฑ์มาเป็นลูกมือ ช่วยช่างฝีมืออีกแรงหนึ่ง เธอเอียงคอมองซุ้มดอกไม้ที่จัดสำเร็จ ด้วยดวงตาพริบพราว นี่เป็นความฝันอย่างหนึ่งของผู้หญิงอย่างเธอเช่นกัน ได้เดินรอดใต้ซุ้มดอกไม้แสนสวยกับคนรู้ใจ มีเพื่อนฝูงมาร่วมแสดงความยินดีในงานวิวาห์
“เจ้าสาวโชคดีมากเลยนะคะ ดูสิ!! สิ่งเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้เจ้าบ่าวยังใส่ใจแล้วก็เนรมิตให้” บุษบันชวนคุย หลังจากซุ้มเสร็จลงทันเวลา
คนจัดซุ้ม หันมามองพร้อมกับยิ้ม “เปล่าค่ะ นี่เจ้าสาวขอมาเอง...” หล่อนตอบ บุษบันจึงยิ้มเก้อ
“เจ้าบ่าวน่ะ...แค่แต่งหล่อก็พอมั้งคะ ดูเหมือนว่าคนที่ต้องการแต่งจะเป็นฝ่ายหญิงมากกว่า” เหมือนติดพันคนงานจัดซุ้มจึงยังเปรยต่อ บุษบันจึงได้แต่รับฟัง เวลานี้เธอยังไม่แข็งแรงพอ...เมื่อหัวใจของเธอกำลังกลัดหนอง ดังนั้นงานวิวาห์นี่จึงทำให้หญิงสาวยอกแสยงใจไม่น้อย
“ค่ะ” เธอรับคำแกนๆ ก้มลงเก็บเศษใบไม้บนพื้น พยายามไม่คิดถึงอดีตที่ทำให้เธอต้องระเห็จมาอยู่ที่นี่
“อย่างว่าแหละค่ะ คนรวยเขาก็ต้องคนรวยด้วยกัน คู่นี้เป็นคู่ที่เหมาะกันมากหากมองแค่เปลือก แต่ถ้าเจาะลึกตามข่าวเม้าท์ งานนี้ฝ่ายเจ้าสาวเสียเปรียบทุกประตูค่ะ ข้างว่าที่สามี มีแค่เปลือกหุ้ม” ไหนๆ ก็ได้เม้าท์ หล่อนเลยขยายต่ออย่างเมามัน
บุษบันฉุกใจ เรื่องราวที่กำลังถูกพาดพิงถึง มันคุ้นๆ หูพิกล เธอกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เธอภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่นึกระแวง!!
แต่ดูเหมือนทุกอย่างรอบตัวจะไม่เป็นใจเท่าไหร่...เงาปีศาจนั่นตามมาหลอกหลอนเธอจนได้
“เขาเม้าท์กันให้แซ่ดว่า...บ้านไชยยะนันน่ะ เหลือแค่เปลือกเท่านั้นแหละค่ะ”
ลมหายใจของบุษบันสะดุดกึก เธอเงยหน้าขึ้นมองคนพูดตาโตๆ
“คู่แต่งงานวันนี้ คือคุณนักรบกับคุณภารตีหรือคะ?”
เสียงแหบแห้งเอ่ยถามทันทีหลังคนเล่าพูดจบ คนเล่ายิ้มแฉ่ง รีบพยักหน้าเร็วๆ ตอบ “ค่ะ นักรบ ไชยยะนัน หนุ่มไฮโซดีกรีว่าที่ดอกเตอร์ แต่...เขาเม้าท์กันนะคะ ครอบครัวนั้นกำลังล้ม เลยต้องรีบหาคนไปช่วยพยุง ก่อนที่ฟองสบู่จะแตก ความลับจะรั่ว”
ขาเม้าท์ๆ กระจาย หล่อนพูดอย่างออกรส เหมือนนั่งอยู่ใต้เตียงคนบ้านนั้น จนรู้ความลับในครอบครัวนั้นแบบละเอียดยิบ
บุษบันไม่รู้หรอกว่า ฐานการเงินของไชยยะนันเป็นอย่างไร ที่เธอ ‘รัก’ นักรบ และบูชาเขานั้น มันเกิดมาตั้งแต่แรกเป็นสาว เป็นการบูชาผู้ชายแสนดีโปรไฟล์หรูอลังการ แต่ก็ไม่เคยคิดจะเสนอหน้าให้เขารับรู้ เทพบุตรที่เธอฝันถึงต่างหากเล่า ที่โน้มกิ่งลงมาเกี้ยวพาราสีเธอเอง ก่อนเขาจะชิ่งหนีไป... เมื่อเขาพบคนที่ดีและเหมาะสมกับเขาที่สุด ทอดทิ้งคนจงรักภักดีไว้ด้านหลัง
“คนตระกูลนั้นน่ะ ใช้เงินมือเติบใครๆ ก็รู้...ตั้งแต่รุ่นพ่อ แม่ แล้วคนเป็นลูกจะจมลงได้ยังไง”
ข้อนี้เธอเห็นด้วย นักรบทำตัวฟุ้งเฟ้อ เขามักจะบ่นให้เธอฟังบ่อยๆ หากเจอใครก็ตามที่มาเหนือชั้นกว่า ชายหนุ่มจะไปขวนขวายหาสิ่งๆ นั่นมา และก็ย่อมเหนือกว่าคู่แข่งเช่นกัน เธอได้แต่มองห่างๆ เมื่อมันเป็นการใช้จ่ายแบบไร้สาระ ข้าวของเหล่านั้นจะถูกทิ้ง หลังหมดความสำคัญ
“ไม่ต้องเดาเลย ก้นหม้อข้าวไม่ทันดำแน่...อีกไม่นานก็คงต้องแยกย้าย...” หล่อนทำตัวเป็นหมอดู เดาอนาคตคู่แต่งงานนั่นเสียอีก
หญิงสาวผ่อนลมหายใจ ‘เขา’ จะเป็นอย่างไรก็ช่างเถอะ เมื่อเวลานี้บุษบันพยายามตัดผู้ชายคนนั้นออกไปจากใจ เมื่อเขาเผยธาตุแท้ให้เธอเห็นในวันที่บอกเลิกกับเธอ
‘บุษ...เราเลิกกันเถอะ’
เป็นการบอกเลิกแบบไม่ทันให้เธอตั้งตัว เมื่อมันไม่เคยมีวี่แวว แถมความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับนับรบก็ไม่ใคร่ชัดเจนเท่าใดนัก
‘คะ’ เธอกะพริบเปลือกตาปริบๆ ตอนที่เงยหน้ามองเขาชัดๆ มือที่กำลังปอกเปลือกกระเทียมสั่นระริก
‘ผมกำลังจะแต่งงาน’ เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางแสกหน้า มันเจ็บจี๊ดพร้อมกับใจหายแว๊บ!!
‘ค่ะ’ เธอพยักหน้ารับรู้ ก้มหน้าลง เพื่อรวบรวมสติที่แตกกระจัดกระจายไปกลับคืนมา
‘ผมไม่ได้รักภารตีหรอกนะ แต่ผมมีความจำเป็นต้องแต่ง ผมรักบุษ...แต่...’ นักรบพูดต่อ เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้ง พร้อมกับคำถามที่ถามวนอยู่ในใจ เขาจะบอกเธอเพื่ออะไร? ในเมื่อเขากำลังจะตีจากไปแต่งงาน!! ‘หากบุษรักผม...เราจะรักกันเหมือนเดิม แต่บุษจะต้องเก็บตัวไม่แสดงตัวให้คนอื่นรู้’
หญิงสาวขมวดคิ้ว!! นักรบพูดเช่นนี้ เขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่ เธอคิดตามไม่ทัน หรืออาจจะเป็นเพราะเธอโง่!!
‘บุษไม่เข้าใจค่ะ คุณรบต้องการบอกอะไรบุษคะ?’
‘บุษรักผมมั้ยล่ะ?” นักรบถามยิ้มๆ แต่บุษบันคิดว่านั่นคือความต้องการของเขาที่พยายามสื่อให้เธอรู้
เปลือกตากะพริบถี่ๆ หญิงสาวถอนใจแรงๆ เธอรู้ความนัยที่ซ่อนอยู่ในคำพูดนั้นแล้ว...และบุษบันรับไม่ได้!!
‘ลาก่อนค่ะคุณรบ ขอให้คุณมีความสุขกับคนที่คุณเลือกนะคะ’
หญิงสาวกล่าวพร้อมน้ำตา สิ่งที่เขาต้องการ คือต้องการให้เธอเป็นตัวสำรอง โดยที่เขามีตัวจริงอยู่ข้างๆ ช่างเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัว จนสุดที่บุษบันจะทน
‘เธอเลือกเองนะบุษ ผู้ชายเพอร์เฟคอย่างผม ชั่วชีวิตเธอ ก็ไม่มีวันหาได้’
น้ำเสียงห้าวๆ ที่บุษบันไม่เคยได้ยิน วันนี้นักรบใช้เสียงแบบนั้นกับเธอ
นั่นเป็นความหลงตัวเองอย่างที่สุดของนักรบ และบุษบันเพิ่งแน่ใจ เธอดูผู้ชายคนนั้นผิดมาตั้งแรก เขาไม่ใช่ผู้ชายแสนดีเหมือนที่เธอคิด นักรบเป็นแค่ผู้ชายเห็นแก่ตัวคนหนึ่ง เธอจากมา และเริ่มต้นใหม่แบบช้ำๆ
หญิงสาวถอนใจ เธอหอบเศษดอกไม้ไปทิ้งในถังขยะ ดวงตาแสนเศร้ามองดอกไม้เหล่านั้นด้วยความเสียดาย...ดอกไม้ในถังขยะเป็นดอกไม้ช้ำๆ ที่รูปทรงไม่สมบูรณ์ มันถูกคัดทิ้ง...เพราะสภาพที่ไม่พร้อมใช้งาน และคงไม่ต่างจากตัวเธอ เป็นของเหลือใช้ที่ไม่มีใครเห็นคุณค่า เธอตัดใจเทดอกไม้เหล่านั้นทิ้ง ยังมีงานอีกมากรออยู่ บุษบันไม่มีเวลามายืนหายใจทิ้งเปล่าๆ
รีสอร์ตรินลดา เป็นรีสอร์ตที่แพรวนราเพื่อนสนิทของเธอฝากฝังให้มาทำงาน แพรวนรารู้... เวลานี้เพื่อนของเธอต้องการเวลาเยียวยาหัวใจ เมื่อกำลังบอบช้ำจนสุดที่จะปั้นหน้าชื่นหลอกตาคนใกล้ตัวได้
อีกอย่าง...ชายคาของบ้านไชยยะนัน ยิ่งทำให้บุษบันช้ำหนัก
หญิงสาวจึงหาที่สงบๆ ให้เพื่อนใช้เป็นที่พักใจ แต่ใครจะรู้ล่ะ คนเหล่านั้นก็ยังตามมาหลอกหลอนบุษบันอยู่ดี
สาวสุดชอกช้ำนึกอยากจะโทร. หาเพื่อนรักจับจิต แต่คงต้องรอให้งานด่วนครั้งนี้ผ่านไปเสียก่อน อย่างแรกที่เธอควรทำ คือพยายามอยู่ให้ไกลรัศมีของงานวิวาห์แสนหวานนี่ ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะเธอไม่อยากเห็นความหลอกลวงที่เกิดซึ่งหน้าจากผู้ชายคนนั้นอีก!!
“บุษๆ อยู่นี่เอง คุณรินมีเรื่องอยากไหว้วานพอดี”
“คะ” หญิงสาวขานรับลดถังขยะในมือลง เมื่อคนที่ร้องเรียกคือรินลดา เจ้าของรีสอร์ตและเป็นนายจ้างของเธอ ผู้หญิงเก่งที่เธอนับถือ อายุเลยเลข4ไปหลายปี แต่ก็ยังคงสง่างามจนสาวใสแอบทึ่ง
“พอดีเด็กเสิร์ฟขาดคนหนึ่ง คุณรินเลยอยากให้บุษไปช่วย...”
“ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะดังไล่หลังมา “อย่าวิ่งสิบุษ เธอท้องอยู่นะ!!” แต่เมื่อนึกขึ้นได้ ชายหนุ่มตะโกนห้ามเสียงหลง เมื่อบุษบันกำลังมี ‘เจ้าตัวเล็ก’ นอนตีพุงอยู่ในท้องเจ้าหล่อนสายเลือดกษิดิศชญาธร ที่มาในจังหวะเหมาะเหม็ง ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่มีข้ออ้างในการย้อนกลับมาหาเธอ “ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้บุษท้อง” เสียงเปรยแผ่วๆ ของผู้ชายตัวใหญ่...นรสิงห์เดินเข้าไปอีกห้องหนึ่ง เขาเองก็ต้องรีบอาบน้ำ จะได้ออกไปจัดการอะไรๆ ให้มันเสร็จสมบูรณ์สักที ไม่คิดว่าตนเองจะยอมทิ้งชีวิตอิสระ แต่เมื่อคิดดูดีๆ มันก็ไม่ได้แย่นัก หากจะมีคนยืนข้างๆ มีความห่วงใยให้กัน มีความผูกพัน...นับจากนี้ไปตลอดจนลมหายใจเฮือกสุดท้าย ตื้ด...&nbs
“แล้วเธอล่ะบุษ...คิดอะไรกับฉันมั้ย?” ชายหนุ่มย้อนถาม เขามองผิวแก้วสีระเรื่อตาพราว บุษบันหน้าร้อนฉ่า คำถามที่เธอรู้คำตอบดี แต่ตอนนี้ไม่มีความกล้าพอ... เมื่อผู้ชายตรงหน้า เป็นคนแรกที่เข้าถึงตัว ทุกสิ่งในร่างกายตนเองไม่ได้เป็นความลับสำหรับเขา...แถมซ้ำ...ในท้องเธอ มีสายเลือดของเขานอนตีแปลงอยู่ด้วย แบบนี้...เธอจะไม่รักเขา...ได้ยังไง แต่นรสิงห์ชิงพูดเสียก่อน... ‘The great big day in my life has begun when you come into my heart.’ วันดีๆ ในชีวิตฉัน...ได้เริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่วันที่ฉันมีเธอ... ผิวแก้มเธอร้อนฉ่า ดวงตาพร่าเพราะน้ำตาเอ่อ ไม่คิดว่าตัวเองจะมีความสำคัญกับเขาขนาดนั
“อะ!!” ร่างเล็กๆ สั่นระริก เธอขยุ้มผ้าใต้ฝ่ามือแน่น หลับตาพริ้มและเปล่งเสียงครางสั่นๆเมื่อเขาแทรกปลายนิ้วแข็งๆ เข้าไปด้านใน และขยับเคลื่อนไหวช้าๆ“อย่า...อย่าทำแบบนั้น ได้โปรด?!!” บุษบันครางเสียงหลง สะโพกผายส่ายสะบัดเหมือนปีกผีเสื้อ ไม่อาจจะขัดขืนความรู้สึกนี้ได้เลย เพราะเมื่อชายหนุ่มเข้าใกล้เขาทำให้เธออ่อนปวกเปียกเหมือนขี้ผึ้งถูกไฟรนทุกครั้ง...ร่างกายของเธอมันทรยศ มันไม่ฟังคำสั่งจากสมอง เมื่อมันสนองตอบชายหนุ่มและยินยอมให้เขาทำตามอำเภอใจมุมปากได้รูปกระตุกยิ้ม เข้าเหลือบมองใบหน้าบิดเบี้ยวของหญิงสาวหวานใจ ใบหน้างดงามแดงก่ำเธอแสดงออกถึงความพร้อมพรั่ง!! สารหล่อลื่นในร่างกายถูกขับออกมาจนเปียกเปรอะเนืองนอง และไม่ว่าเขาจะจับหันซ้ายหันขวา เธอก็พร้อมและเต็มใจที่จะสนองตอบอยู่แล้ว เสียงครางระส่ำช่วยยืนยันความคิดของเขาชายหนุ่มโหย่งตัวขึ้น ชักปลายนิ้วออกมาจากแอ่งสวรรค์ จรดแก่นกายแข็งตึงแนบเนินเนื้ออวบอิ่ม เขารวบเรียวขาเพรียวยาวไว้ที่ท้องแขนก่อนจะกดสะโพกสอบ บรรจงเสือกเสยความอลังการกับความอวบอูมเต็มแรง!!“อืมมมม...ซี๊ดดดดด
หญิงสาวรวบผ้าห่มชิดตัวมากขึ้น เมื่อใต้ผืนผ้าหนาๆ เธอมีแค่อันเดอร์แวร์สองชิ้น เสื้อผ้าชิ้นอื่นๆ อันตทานหายไปจนหมด ตั้งแต่ตอนที่เธอยังไร้สติ... “ฉันไม่สัญญาหรอกนะว่าจะทำตัวเป็นคนดี ฉันก็เป็นฉันแบบนี้แหละ แต่รับประกัน ฉันไม่ใช่คนเหลาะแหละ ฉันมั่นใจเชียว ว่าฉันสามรถดูแลเธอกับลูกได้ ในอนาคต” นรสิงห์ย้ำอีกครั้ง ก่อนจะทิ้งตัวนอนแผ่บนพื้นเตียง เตียงหนาไหวยวบ เมื่อน้ำหนักตัวนรสิงห์ไม่ใช่น้อยๆ เลย “บุษกลัวว่า...บุษจะทำให้คุณเดือดร้อน บุษอาจจะเป็นที่รังเกียจ แล้วจะทำให้เราไปกันไม่รอด” หญิงสาวแย้งเสียงอ่อย เธอกับคนในครอบครัวเขา จะมีทางญาติดีกันเหรอ ในเมื่อเธอเคยเป็นคนที่พวกเขาตั้งป้อมรังเกียจ!! ชายหนุ่มพลิกตัวนอนคว่ำ เขาเอามือรองใต้คาง ตอนที่เงยหน้ามองบุษบัน “น
คนตอบสำรวมเสียงสุดๆ เมื่อพอจะรู้ใจเจ้านายดี เวลานี้หัวหอกหนุ่มของเดอะเพรสกำลังร้อนเป็นไฟ แม้จะได้ตัวเจ้าสาวมาไว้ในกำมือแล้วก็ตาม แต่หากฟื้นขึ้นมาแล้วบุษบันยืนกรานคำเดิม...คนรอบตัวของนรสิงห์ คงได้โดนหางเลขกันเป็นแถวๆ ดอกไม้ดอกเล็กๆ ที่ประดับไว้บนเรือนผม ด้วยฝีมือสุดประณีตของช่างมือดี ส่งให้เส้นผมดำขลับดูงดงามออร่าพุ่งแต่ขัดนัยน์ตาของชายหนุ่มที่อุทิศตัวเป็นดั่งหมอนนุ่มให้บุษบันนอนอิงเสียจริงๆ เมื่อมือเร็วเท่าความคิด ดอกไม้สุดสวยนั่นจึงถูกแกะออกมาทีละดอก ช้าๆ เมื่อชายหนุ่มบรรจงเบามือที่สุด เพื่อกันไม่ให้คนหลับหมดสติรู้ตัว ในที่สุดก็ถึงจุดหมายปลายทาง บ้านพักบนเนินเขา ตัวบ้านตั้งโดดเด่น...เบื้องล่างคือน้ำทะเลใสแจ๋ว เสียงคลื่นดังไกลๆ เมื่อระยะทางจากตัวบ้านถึงชายหาด อยู่สูงกว่ากันไม่ใช่เล่น บ้านอีกหนึ่งหลังของกษิดิศชญาธร มีไว้เพื่อพักผ่อนโดยเฉพาะ เขาเลือกที่นี่ เพราะมันเดินทางยาก หากไม่มีรถยนต์ก็คงต้องเดินจนขาลาก กว่าจะถึงถนนที่มีรถยนต์วิ่งผ่านไป ผ่านมา&
“หึ!! หล่อนคงมีเป้าให้เกาะอยู่แล้วซิ ถึงได้กล้ากำแหง” วิภาวียังไม่วายค่อนคอด “ความจริง... หิรัญกับบุษบัน เขาเป็นคู่หมายที่ผู้ใหญ่เขาทาบทามไว้อยู่แล้วครับ เพียงแต่ผมเข้าไปแทรกไว้ก่อน” ความลับคับอก พรางพรูออกมาจากปากหนุ่มรุ่นน้อง ไม่ใช่เพื่อแก้ต่างให้บุษบัน แต่เป็นคนยืนยันเพื่อความบริสุทธิ์ของเจ้าหล่อน และมันคือความจริง “โอ้ย!! ฉันไม่อยากจะเชื่อ นี่เราหนีผู้หญิงที่ชื่อบุษบันไม่พ้นจริงๆ เหรอ?” “ตีไม่อยากจะเชื่อว่าคุณรบโกหกตี” สาวท้องแก่ครางเสียงระโหย ในคำพูดของนักรบ มีเรื่องไหนที่เป็นความจริงบ้าง “แกก็เลิกงมงายกับไอ้ผัวเฮงซวยนั่นได้แล้วล่ะ... แต่ต้องถามฉันยัยตี มีเรื่องไหนบ้างที่ผัวแกมันไม่โกหกบ้าง” วิภาวีเป็นมารดาที่รักบุ