Share

บทที่ 15

Author: ซุปเม็ดบัวน้ำตาลกรวด
น้ำตาไหลพรากไม่หยุด ราวกับไม่ต้องเสียเงิน แต่ก็สะอื้นไห้จนไม่มีเสียงออกมา ทำให้ทั้งตัวดูน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง ราวกับเด็กน้อยที่ถูกทอดทิ้ง

โม่ยี่หานตัวแข็งทื่อ บุตรชายสองคนของเขา คนหนึ่งไม่เคยร้องไห้ อีกคนถึงจะร้องก็ร้องไห้เสียงดังโวยวาย แค่เขาลงโทษสักทีก็หายแล้ว แต่ไม่เคยเห็นใครร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างไม่ส่งเสียง แต่ดูเศร้าและเจ็บปวด แถมยังดูน่าสงสารเหลือเกินอย่างเยว่เจี้ยนเวยเลย

ในชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังรังแกเด็กคนนี้

โม่อวิ๋นเจ๋อก็ตกใจเช่นกัน เขากล่าวว่า “บิดาข้าไม่ได้ตีหรือด่าเจ้าเลย แล้วเจ้าจะร้องไห้ทำไม?”

จากนั้นก็บ่นพึมพำเสียงเบาว่า “หน้าตาเหมือนผู้หญิง ร้องไห้ก็เหมือนผู้หญิง คงไม่ได้ไม่มีไอ้นกเขาเล็ก ๆ จริง ๆ หรอกนะ?”

โม่ยี่หานได้ยินดังนั้นก็จ้องมองโม่อวิ๋นเจ๋อ

โม่อวิ๋นเจ๋อจึงรีบหุบปากทันที และยังมองเยว่เจี้ยนเวยด้วยสายตาดูถูก พลางกลอกตาขึ้นฟ้าอย่างไม่พอใจ จากนั้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เดินไปหาโม่ชางหลานด้วยความรู้สึกน้อยใจ หยิบกระต่ายหูยาวที่เขาเลี้ยงไว้ขึ้นมากอดในอ้อมแขนและลูบขนมัน

เยว่เจี้ยนเวยได้ยินดังนั้นก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้นด้วยความน้อยใจ น้ำตาเอ่อล้นดวงตากลมโตเหมือนผลึก จนแทบจะไหลเป็นสาย แต่เขากลับไม่มองโม่ยี่หาน แต่จ้องมองไปที่โม่ชางหลานที่นั่งนิ่งราวกับภาพวาดอย่างแน่วแน่

“โม่อวิ๋นเจ๋อตายแน่”

“รอให้ข้าแต่งเข้าบ้านของเจ้าก่อนเถอะ ข้าจะทำให้เจ้าร้องไห้เป็นคนแรก”

“ไอ้บ้าเอ๊ย เกลียดที่สุดเวลาคนบอกว่าข้าเหมือนสตรี”

เยว่เจี้ยนเวยมีความคิดมากมายในใจ แต่กลับไม่แสดงออกทางสีหน้าเลยแม้แต่น้อย

เยว่สือไม่เคยเห็นเยว่เจี้ยนเวยร้องไห้แบบนี้มาก่อน จึงตกใจมาก รีบกอดเขาไว้ในอ้อมแขน พลางจ้องมองโม่ยี่หาน และกล่าวประชดประชันว่า “เป็นถึงเจ้าเมืองแห่งดินแดนหิมะขาวผู้ยิ่งใหญ่ แต่กลับ... เฮ่อ ข้าน้อยนับถือท่านจริง ๆ”

โม่ยี่หาน “...”

นี่มันอะไรกัน? พูดออกมาให้หมดสิ อย่ามาทิ้งท้ายค้าง ๆ คา ๆ แบบนี้ ทำให้เหมือนว่าข้ารังแกเด็กจริง ๆ อย่างนั้นแหละ

โม่ยี่หานสูดหายใจเข้าลึก ๆ กดเส้นเลือดปูดที่หน้าผากที่เต้นตุบ ๆ และกล่าวว่า “พวกเจ้าคงจะรู้ว่าความสัมพันธ์ของข้ากับ เยว่กูหยิ่งไม่ดีมาโดยตลอด และคนที่พวกเจ้าไปยุ่งด้วยก็ไม่ใช่คนที่ข้าจะไปมีเรื่องด้วยได้ อย่าว่าแต่ภรรยาของข้า เยว่ชิงหง ไม่อยู่ในดินแดนหิมะขาวตั้งนานแล้ว ถึงแม้ว่าวันนี้เขาจะตกลง พวกเจ้าก็ไม่มีทางที่จะอยู่ที่นี่ได้ ข้าในฐานะเจ้าเมืองแห่งดินแดนหิมะขาว ไม่สามารถเอาความปลอดภัยของราษฎรทั้งดินแดนหิมะขาวมาเสี่ยงได้”

ท่าทีของโม่ยี่หานนั้นเด็ดขาด เขาหันไปหาผู้อาวุโสจื่อชวนและกล่าวว่า “ผู้อาวุโสจื่อชวน ท่านช่วยเตรียมเงินค่าเดินทางให้พวกเขา แล้วให้พวกเขาไปซะ”

ผู้อาวุโสจื่อชวนพยักหน้าและกล่าวว่า “ขอรับ”

เยว่เจี้ยนเวยเงยหน้าขึ้น มองโม่ชางหลานอย่างเลือนรางผ่านม่านน้ำตา

การที่เขาร้องไห้เมื่อครู่ ส่วนหนึ่งก็เพื่อแสร้งทำเป็นน่าสงสาร อีกส่วนหนึ่งคือเขารู้สึกเสียใจและน้อยใจจริง ๆ เขาได้เห็นคนรักที่เขาเฝ้าคิดถึงมานับพันปีในชาติที่แล้ว และรู้สึกเพียงว่าสรรพสิ่งเปลี่ยนแปลงไปเพียงชั่วพริบตา แต่รูปลักษณ์ภายนอกกลับไม่เปลี่ยนเลยสักนิด เพียงเท่านี้ก็เหมือนสวรรค์เมตตาเขาแล้ว แต่เมื่อเห็นมังกรที่ถูกจองจำในกรง และหงส์ที่ติดอยู่ในพงหนาม ทั้ง ๆ ที่จิตใจของเขากว้างใหญ่ไพศาลเหมือนท้องนภา แต่กลับถูกผู้อื่นทำร้ายจนเป็นเช่นนี้ เขาก็รู้สึกเจ็บปวดในใจจนทนไม่ได้

เขารู้สึกสงสารอย่างยิ่งจึงอยากจะร้องไห้

เยว่เจี้ยนเวยสงบลง แต่กลับรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดของโม่ยี่หาน

ในถ้อยคำของโม่ยี่หาน ดูเหมือนว่าจะรู้แล้วว่าศัตรูของเขาคือใคร ต้องรู้ไว้ว่าในชาติที่แล้ว หลังจากที่เขานำจดหมายเลือดไปให้ตระกูลเยว่ หัวหน้าตระกูลเยว่อ่านจบกลับหัวเราะเยาะเยว่กูหยิ่งที่ตกต่ำถึงขนาดไม่มีปัญญาเลี้ยงลูกได้

ในฐานะคนที่ใช้ชีวิตมาอย่างยาวนาน เยว่เจี้ยนเวยก็ตระหนักได้ในไม่ช้าว่า บิดาของเขายอมเชื่อมั่นในตัวโม่ยี่หานมากกว่าที่จะเชื่อคนในตระกูลเยว่เสียอีก
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 84

    อย่างไรก็ตาม หลังถูกเยว่เจี้ยนเวยแทรกเช่นนั้น โม่อวิ๋นเจ๋อก็มัวแต่โกรธจนไม่อยากร้องไห้ต่อแล้วเยว่เจี้ยนเวยและโม่อวิ๋นเจ๋อจึงอยู่ในศาลบรรพบุรุษอย่างเงียบงัน ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบเป็นเวลาหลายชั่วยามจากนั้น เยว่เจี้ยนเวยก็ทนไม่ไหว กล่าวว่า “ไหนเจ้าบอกมาสิ เหตุใดจึงต้องคอยหาเรื่องข้าด้วย มันก็แค่เตาปรุงยาเก่า ๆ ที่ไม่มีใครใช้แล้ว ขอยืมสักหน่อยจะเป็นไรไป? ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของเจ้า ทำไมต้องมาทำให้ข้าตกใจด้วย เวลานี้ดีแล้ว พวกเราต่างถูกลงโทษด้วยกันทั้งคู่ เจ้าคงพอใจแล้วสินะ?”โม่อวิ๋นเจ๋อถ่มน้ำลาย “ถุย” ทีหนึ่ง พลางกลอกตากล่าวว่า “ข้าย่อมยืนอยู่ข้างความถูกต้อง ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นเจ้าสมความปรารถนา”เยว่เจี้ยนเวยจึงหัวเราะด้วยความเจ้าเล่ห์เขาหัวเราะจนโม่อวิ๋นเจ๋อขนลุกซู่ ซ้ำยังขยับเข้าไปใกล้โม่อวิ๋นเจ๋อมากขึ้นอีกหลังจากนั้น โม่อวิ๋นเจ๋อก็เห็นว่า เยว่เจี้ยนเวยค่อย ๆ หยิบเตาปรุงยาอีกใบหนึ่งออกมาจากกำไลสรรพภพของตนเอง“ข้าลืมบอกท่านไป ข้าขโมยเตาปรุงยามาสองใบ ถูกยึดไปหนึ่งใบ ก็ยังเหลืออีกหนึ่งใบ ฮ่าๆๆๆๆๆ!”โม่อวิ๋นเจ๋อ “...”ย๊ากกกกกก!โม่อวิ๋นเจ๋อแทบคลั่ง ตนเองเพิ่งหยุดร้องไห้ได้

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 83

    โม่ชางหลานเลิกคิ้วเล็กน้อย ถามว่า “พลังวิญญาณของเขา แข็งแกร่งถึงระดับนั้นเชียวหรือ?”ผู้อาวุโสซางตอบ “เป็นไปได้สูง แต่ยังต้องสังเกตการณ์ต่อไปสักระยะ คุณชายใหญ่ หากพลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้จริง อีกทั้งยังเป็นพลังวิญญาณสองธาตุทั้งไฟและไม้ นั่นก็หมายความว่าเขาคือยอดอัจฉริยะที่หาได้ยากยิ่งนัก”ต้องรู้ไว้ว่า แม้แต่ระดับตบะของผู้อาวุโสซางเซวียนปัจจุบัน ก็ไม่สามารถทำให้ศิลาทดสอบพลังระเบิดได้เลยโม่ชางหลานนึกถึงภาพที่เยว่เจี้ยนเวยถือยาวิเศษลงจากเขาไปขาย ก็รู้อยู่แล้วว่าเยว่เจี้ยนเวยต้องมีความลับบางอย่าง แต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งถึงขั้นน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้โม่ชางหลานครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวว่า “เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา เรื่องนี้รบกวนผู้อาวุโสซางอย่าเพิ่งเปิดเผยต่อผู้ใด”ผู้อาวุโสซางพยักหน้า กล่าวว่า “เข้าใจแล้วขอรับ”ยามนี้ ศาสตร์การหลอมโอสถทั่วทั้งทวีปชางหมางมีแต่เสื่อมถอย หากปรากฏอัจฉริยะผู้มีพลังวิญญาณด้านการปรุงยาขึ้นที่ใด ก็จะดึงดูดสายตาผู้คนให้แอบจับตามองนับไม่ถ้วนในอดีตเคยมีปรมาจารย์นักปรุงยาอัจฉริยะผู้โด่งดังเพียงชั่วครู่ ถูกผู้อื่นแอบขโมยพลังวิญญาณด้านก

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 82

    โม่อวิ๋นเจ๋อเบิกตากว้างทันที ร้องเสียงหลงว่า “ไม่ได้นะพี่ใหญ่ เตาปรุงยาพวกนั้น คงทำให้ข้าไม่มีเบี้ยเลี้ยงไปอีกเป็นสิบปีเลยนะ!”โม่ชางหลานกล่าว “สิบปีไหนเลยจะพอ ต้องร้อยปีถึงจะครบถ้วนต่างหาก”โม่อวิ๋นเจ๋อพลันชะงักกึกเยว่เจี้ยนเวยหัวเราะร่าอยู่ในใจ พลางคิดว่าเหตุใดไม่ทำตัวโอหังแล้วล่ะ? ให้ตายเถอะ คิดจะถอดเสื้อผ้าข้าใช่หรือไม่ คิดจะเปิดโปงข้าใช่หรือไม่ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า พี่ชางหลานของข้าช่างเด็ดขาดและยุติธรรมโดยแท้!ใบหน้าของโม่อวิ๋นเจ๋อแทบจะร้องไห้ออกมา แต่เขาคิดว่าถ้าตนเองร้องไห้ตอนนี้ นอกจากพี่ใหญ่จะไม่สนใจความรู้สึกแล้วคงต้องดุด่าเขาอีกชุดใหญ่เป็นแน่ จึงอดทนอดกลั้นเอาไว้ขณะที่เยว่เจี้ยนเวยกำลังแสร้งทำตัวน่าสงสารอย่างสุดความสามารถ ก็ได้ยินโม่ชางหลานกล่าวว่า “เยว่เจี้ยนเวย เหตุการณ์วันนี้ เจ้าก็มีส่วนผิดด้วยเช่นกัน”เยว่เจี้ยนเวยเงยหน้าขึ้น ตอบรับอย่างว่าง่าย “พี่ชางหลาน ข้ารู้ตัวแล้วว่าทำผิด ข้าไม่ควรขโมยของ รอให้ข้าหาเงินได้ในภายหลัง ย่อมชดใช้ให้แก่ผู้อาวุโสซางแน่นอน และต่อไปก็จะไม่ทะเลาะกับพี่อวิ๋นเจ๋ออีกแล้วขอรับ”โม่อวิ๋นเจ๋อเกร็งคอตะเบ็งเสียงว่า “ผู้ใดเป็นพี่เจ้ากัน? เจ้าอย่

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 81

    เยว่เจี้ยนเวยรีบกระชับอาภรณ์ของตน พร้อมกับร้องตะโกนว่า “มีคนลวนลาม! ช่วยด้วย คุณชายรองตระกูลโม่รังแกเด็กหนุ่มบริสุทธิ์แล้ว!”“หุบปากเดี๋ยวนี้! อย่าส่งเสียงโวยวายไปทั่ว!”“ข้าไม่หุบปาก เจ้าช่างไร้ยางอาย กล้าคิดถอดเสื้อผ้าข้ากลางวันแสก ๆ !”“ถ้าเจ้าไม่หุบปาก ข้าจะต่อยเจ้าเดี๋ยวนี้!”“ต่อยเลยสิ ดูว่าผู้ใดต้องเป็นฝ่ายกลัวกันแน่!”“...”..................ครึ่งชั่วยามต่อมา ในเรือนชมธาราเมื่อโม่ชางหลานมองเด็กหนุ่มสองคนที่เสื้อผ้าและทรงผมยุ่งเหยิง กำลังนั่งคุกเข่าแผ่นหลังเหยียดตรงพร้อมเพียงกันอยู่บนพื้น ก็ให้รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันทีด้านข้าง ยังมีผู้อาวุโสซางเซวียนที่เพิ่งรับประทานโอสถบำรุงหัวใจไปหลายเม็ดยืนอยู่ด้วย“ข้าแค่ลงไปหยิบของครู่เดียว กลับขึ้นมา ทั้งห้องก็อยู่ในสภาพยุ่งเหยิงไปหมด พวกเขาทั้งสองคนกอดกันกลิ้งไปมาอยู่บนพื้น เฮ้อ หัวใจข้าแทบจะระเบิดเสียให้ได้”ผู้อาวุโสซางเซวียนถอนหายใจไม่หยุด รู้สึกเจ็บปวดใจยิ่งนัก กล่าวว่า “เตาปรุงยาที่ข้าสะสมมาด้วยความยากลำบากหลายปี เสียหายไปสี่เตา หนึ่งในนั้นยังเป็นถึงวัตถุเวทมนตร์... ซึ่งก็คือเตาที่ดูสวยงามแต่ใช้งานจริงไม่ได้เตานั้นเอง”โ

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 80

    ผู้อาวุโสซางแปลกใจจนเคราแทบร่วง พร้อมกับกล่าวว่า “เหลวไหล หินก้อนนี้ใช้งานมาหลายร้อยปีไม่เคยมีปัญหาอะไร ข้าว่า เป็นเพราะพลังวิญญาณในร่างกายเจ้ามากไปต่างหากที่ทำให้มันรับไม่ไหวจนระเบิดเช่นนี้”เยว่เจี้ยนเวยรู้สึกว่าเหตุผลนี้ก็มีความเป็นไปได้ ถึงแม้ในตอนที่เขาปรุงยาจะไม่ได้รู้สึกสัมผัสถึงว่าพลังวิญญาณจะมีความมหาศาลอะไร แต่นอกจากเหตุผลนี้ก็ไม่มีเหตุผลอื่นอีกแล้วเยว่เจี้ยนเห็นดังนั้นจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงร่าเริงว่า “ท่านอาวุโสซาง หรือเป็นไปได้ไหมว่าข้าคืออัจฉริยะด้านการปรุงยาเพียงหนึ่งเดียวในโลก? เอาตรง ๆ ช่วงนี้เวลาข้านอนหลับข้าก็รู้สึกอยู่ว่าร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณอบอวลอยู่ในร่างกายข้าจนแทบจะระเบิด ณ เวลานั้นข้าอยากจะลุกขึ้นมาหยิบเตาปรุงยามาฝึกจนใจจะขาด วันนี้ในเมื่อไม่ใช่ความผิดของก้อนหิน งั้นก็คงเป็นข้าเองที่เก่งกล้าเกินไป ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”ผู้อาวุโสซาง “…”เขาแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองถึงแม้ว่าผู้อาวุโสซางจะพอเดาพรสวรรค์ของเยว่เจี้ยนเวยได้อยู่ แต่พอได้ยินเจ้าเด็กที่อยู่ตรงหน้ากล่าวโอ้อวดตนอย่างไม่เขินอาย ก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกปากอย่างไม่เห็นด้วยก่อนจะกล่าวขึ้นมาว่า

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 79

    ผู้อาวุโสซางเซวียน “...”ไม่เป็นความจริงเลยสักนิด เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ผ่านมา โม่อวิ๋นเจ๋อยังมาหาเขาพร้อมกับสาบานอย่างคับแค้นใจด้วยความโกรธว่าจะหักเงินจากค่าขนมของเยว่เจี้ยนเวยในแต่ละเดือนเพื่อมาชดใช้ค่ายาที่แสนแพงชิ้นนี้และแน่นอน ในเมื่อเยว่เจี้ยนเวยเอ่ยชมเชยโม่อวิ๋นเจ๋อขนาดนี้ ผู้อาวุโสซางจึงเล็งเห็นว่าการปกป้องภาพลักษณ์อันเฉลียวฉลาดและเก่งกล้าสามารถของคุณชายรองนั้นสำคัญกว่า จึงพนักหน้าพร้อมกับกล่าวต่อว่า “ใช่แล้ว คุณชายรองเป็นคนเช่นนี้แหละ เจ้าโชคดีจริง ๆ ”เมื่อผู้อาวุโสซางสอนวิชาเสร็จ จึงเดินมาดูเยว่เจี้ยนเวยและกล่าวขึ้นว่า “ข้าได้ยินมาว่า เจ้าตั้งใจจะศึกษาเคล็ดโอสถวิเศษ”เยว่เจี้ยนพยักหน้าพร้อมตอบกลับว่า “ใช่ขอรับ ข้าสนใจเคล็ดโอสถวิเศษอย่างมาก”ผู้อาวุโสซางกล่าวต่อว่า “เคล็ดโอสถวิเศษค่อนข้างน่าเบื่อ ในระหว่างการฝึกฝนต้องใช้ความอดทนอย่างสูง เจ้ายังเด็ก กำลังอยู่ในวัยชอบเล่นสนุก เจ้าคิดว่าตัวเองสามารถนั่งอยู่เฉย ๆ เป็นเวลาสิบชั่วโมง หรือเป็นวัน เป็นเดือน เป็นปีได้สักเท่าไร?”เยว่เจี้ยนเวยฉีกยิ้มที่ดูนอบน้อมและน่ารัก รอยยิ้มที่กว้างจนเผยให้เห็นลักยิ้มเล็ก ๆ บนแก้มของเขา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status