مشاركة

คอนที่23. มองรอบกาย

مؤلف: Bunmeebooks
last update آخر تحديث: 2024-11-12 20:48:49

อิงดาวหันมองรอบกาย ท้องฟ้ามืดลงทุกขณะ บริเวณที่เธอยืนอยู่ไม่ปรากฏเงาของผู้ใด เธอจึงคิดว่าหูคงจะแว่วไปเอง จึงตัดสินใจวิ่งต่อไปยังห้องเรียนรวมบนชั้น 6 แล้วผลักประตูบานใหญ่เต็มแรง จนประตูนั้น เปิดออก

พลั่ก !

“อาจารย์ประชาคะ”

อิงดาวตะโกนออกไป ทั้งห้องเงียบกริบ หันมามองเธอเป็นตาเดียว เธอไม่มีเวลาให้รู้สึกเขินอาย สิ่งเดียวที่เธอคิดอยู่ในใจคือ ต้องช่วยอาจารย์ธาวินให้ได้ เธอจึงรีบตะโกนบอกคนที่อยู่ในห้องว่า

“รถของอาจารย์ธาวินถูกตัดเบรกค่ะ ต้องรีบโทรแจ้งอาจารย์ ด่วนค่ะ”

สิ้นคำที่เธอบอกออกไป เธอรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงอื้ออึงก้องขึ้นในหู จากนั้นดวงตาของเธอก็พร่าเลือนแล้วมืดดับลงในที่สุด

.....พี่ดลคะ วดีจะไม่ยอมให้พี่เป็นอะไร...

.... ลืมตาขึ้นมาสิคะ....

.... วดีรักพี่ดล และจะรักตลอดไป.....

เสียงเย็นยะเยือกราวกับว่ากำลังร่ำไห้ในความมืดมิด

“เสียงใครน่ะ เสียงใคร”

อิงดาวตะโกนออกไป หันมองรอบกายมีเพียงความมืดมิด เวิ้งว้างกว้างใหญ่

“เมื่อสิ้นบุญวาสนาต่อกัน เหนี่ยวรั้งเอาไว้ก็มีแต่ทุกข์ จงตัดใจเสียเถิด และใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีความสุขเถิดหนา”

เสียงทุ้มกังวานดังตอบกลับมา

“คุณเป็นใคร ? ที่นี่ที่ไหน ?”

อิงดาวหันซ้าย แลขวาด้วยความหวาดผวา เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นเต็มหน้าผาก

“อิงดาว  อิงดาว”

นางจันทร์เรียกชื่อลูกสาวเบา ๆ พร้อมกับใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อบนหน้าผากร่างผอม 

อิงดาวได้ยินเสียงแม่เรียกชื่อเธอ จึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้น กะพริบตาสองสามครั้งเพื่อปรับภาพให้ชัดเจนขึ้น และเมื่อเห็นภาพชัดเต็มตา        เธอพบว่าตนเองนอนอยู่ในโรงพยาบาล เห็นเตียงคนไข้เรียงรายเต็มไปหมด กลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อคลักคลุ้งจนฉุนจมูก แม่กับน้องของเธอยืนอยู่ข้างเตียงด้วยใบหน้าเศร้าสลด

“แม่”

เธอรู้สึกว่าลำคอแห้งผากและเหนื่อยเกินไปแม้แต่เสียงก็ยังเปล่งออกมาได้เพียงแผ่วเบา

น้ำตาของนางจันทร์ร่วงเผาะ ลงที่แก้มลูกสาว นางกลั้นสะอื้น  ในอก เพราะไม่อยากให้ลูกรักที่พึ่งฟื้นสติขึ้นมาเสียขวัญเพราะความเศร้าโศกของผู้เป็นแม่

“อิงเจ็บตรงไหนไหม”

มีคำพูดมากมายที่อยากจะพูดกับลูกสาว แต่นางกลับเอ่ยออกมาได้เพียงเท่านี้ ดวงตาแดงก่ำมีน้ำใสคลอคล้ายกับคนที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก มือผ่ายผอมสั่นระริกลูบลงที่ศีรษะของลูกสาว      พลางทรุดนั่งลงเก้าอี้ข้างเตียงโดยมีลูกชายยืนขนาบข้าง

“ไม่เจ็บค่ะ หนูแค่เป็นหวัดเองนะคะ ทำไมหนูมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้คะ”

คำถามนั้นทำให้นางจันทร์ถึงกับน้ำตาไหลพรากอาบลงสองแก้ม

“แม่ แม่เป็นอะไร ร้องไห้ทำไมคะ”

อิงดาวตกใจมากที่เห็นแม่ร้องไห้ จึงพยายามดันตัวลุกขึ้น       แต่กลับพบว่าเธอไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับ จากนั้นก็สังเกตเห็นว่าที่แขนข้างซ้ายมีเข็มขนาดใหญ่ฝังลงไปใต้กล้ามเนื้อ เลือดสีแดงข้นกำลังไหลไปตามสายยางระโยงระยางไปสู่เครื่องมือทางการแพทย์บางอย่างที่กำลังส่งเสียงเบา ๆ มีไฟตัวเลขแสดงค่าบางอย่างกะพริบเป็นระยะ ๆ  จากนั้นเลือดของเธอก็ไหลออกจากเครื่องเข้าสู่ร่างกายเธออีกครั้งเป็นเช่นนี้หมุนวนไปเรื่อย ๆ

“หนูเป็นอะไรคะ”

คำถามแผ่วเบาหลุดออกมาจากปากบางซีดด้วยความตระหนกอย่างสุดขีด กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเธอ

บัดนี้นางจันทร์ปล่อยน้ำตาให้ไหลพรากออกมา จะขยับปากพูดทีไรเสียงสะอื้นก็กลบจนหมด แม่ไม่สามารถตอบเธอได้อีกแล้ว ส่วนน้องชายก็ยืนก้มหน้าหลบสายตาเธอ ใบหน้าที่เคยดื้อรั้น บัดนี้กับเศร้าหมอง

ความทรงจำสุดท้ายผุดขึ้นมาในห้วงความคิด ก่อนที่เธอจะสลบไป เธอวิ่งขึ้นไปบนชั้น 6 ของตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อยับยั้งไม่ให้อาจารย์ธาวินเกิดอุบัติเหตุจากการถูกตัดสายเบรก จากนั้น เธอก็หมดสติไป

- แล้วเหตุการณ์หลังจากนั้น เกิดอะไรขึ้น –

- ฉันมานอนอยู่ที่โรงพยาบาลได้อย่างไร –

- แล้วสลบไปนานแค่ไหน แล้วทำไมแม่ต้องร้องไห้-

อิงดาวถามตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าในใจ และก่อนที่ความคิดสับสนวุ่นวายจะผุดขึ้นมามากกว่านี้ นางพยาบาลในชุดสีขาว สวมหมวกคาดแถบดำก็เดินเข้ามาแล้วเอ่ยว่า

“คนไข้ฟื้นแล้วรึค่ะ อีกประมาณสิบนาทีเครื่องก็จะฟอกเลือดเสร็จแล้วค่ะ จากนั้นนอนพักสักสามสิบนาทีนะคะ เพื่อปรับสมดุลเพราะผู้ป่วยเพิ่งเข้ารับการฟอกเลือดเพื่อล้างไตเป็นครั้งแรก อีกทั้ง ตอนนี้ร่างกายคนไข้ค่อนข้างอ่อนแอนอนพักสักหน่อยค่อยกลับบ้านได้ค่ะ”

พยาบาลอธิบายขณะที่กำลังไล่สายตาไปตามสายยางเพื่อตรวจดูว่ายังอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมหรือไม่ เพื่อป้องกันเข็มเลื่อนหลุด เพราะหากเข็มขยับอาจจะทำให้เส้นเลือดแตกได้ โดยเฉพาะเด็กสาวคนนี้เส้นเลือดเธอก็คงจะเปราะบางไม่ต่างจากร่างผอมบางของเธอที่นอนซมอยู่บนเตียง

“คุณพยาบาลคะ ดิฉันป่วยเป็นอะไรคะ”

อิงดาวถามพยาบาลที่กำลังทำอะไรบางอย่างกับเครื่องมือทางการแพทย์ที่กำลังสูบเลือดของเธอออก

พยาบาลคนนั้นหันกลับมามองคนไข้สาวบนเตียง จากนั้นก็มองดูญาติของเธอที่กำลังกลั้นสะอื้นอยู่ข้างเตียง เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ซ้ำ ๆ หล่อนเห็นมันจนชินตา บางครั้งญาติกำลังใจดีกว่าคนไข้ บางครั้งเป็นคนไข้เสียเองที่ต้องปลอบญาติ และเธอเองก็เป็นเพียงผู้ที่ช่วยให้ความเจ็บปวดทางกายบรรเทาลง ส่วนกำลังใจในการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นนั้น อยู่ที่ตัวของคนไข้เอง

“คนไข้ป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายค่ะ”

พยาบาลตอบไปตามหน้าที่

คำตอบนั้นทำให้อิงดาวอึ้งไปชั่วขณะ โรคไตวายเรื้อรังเท่าที่เธอเคยทราบมา มักจะเกิดขึ้นกับผู้สูงวัยที่มีโรคประจำตัวเป็นความดัน หรือเบาหวานไม่ใช่เหรอ แล้วเธอป่วยได้อย่างไร

“หนูจะป่วยได้ไงคะคุณพยาบาล หนูเพิ่งจะอายุยี่สิบสี่เองนะคะ”

คำถามคล้ายกับยังไม่ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นออกมาจากปากบางซีด ดวงตาอิดโรยของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

พยาบาลจึงอธิบายให้เธอฟังต่อด้วยใบหน้าเรียบเฉยว่า

“โรคไตวายสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยค่ะ แม้แต่เด็กทารกที่เพิ่งคลอดก็เป็นได้ค่ะ ส่วนในกรณีของคนไข้นั้นซึ่งยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวระยะแรกที่เป็นจึงไม่แสดงออก และพบได้น้อยมาก คือ หนึ่งพันคนจะพบผู้ป่วยโรคไตในวัยนี้เพียงหนึ่งคนเท่านั้น เมื่อเป็นหนักเข้าจะเริ่มอ่อนเพลีย ตัวซีดมากขึ้น ตาเหลือง ตัวเหลือง มือเท้าบวม ปวดท้อง และผิวหนังมีรอยคล้ำเป็นจ้ำ ๆ”

استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • กี่ภพกี่ชาติ รักนี้ยังเป็นเธอ   ตอนที่60. ความจริงที่ซ่อนไว้  จบ

    ความจริงที่ซ่อนไว้ 8ฉันอาจจะเป็นผู้หญิงคนเดียวในโลกที่ Unlucky in love , Unlucky in gameเมื่อถึงรอบการประเมินเพื่อเลื่อนตำแหน่งจากพนักงานมหาวิทยาลัยระดับฝึกหัดเป็นระดับปฏิบัติการหากผ่านจะมีฐานเงินเดือนที่สูงขึ้น และมีความก้าวหน้าในสายงานอาชีพมากขึ้นปรากฏว่าฉันถูกประเมินว่า “ไม่ผ่าน” ซึ่งหัวหน้าสำนักงาน (พี่ณี) และท่านรองฯ ให้เหตุผลกับฉันว่า...เพราะเธอไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ (คงจะเป็นเมื่อครั้งที่ฉันรั้นจะจัดอบรมนอกมหาวิทยาลัย) มาสาย และบ่นลงเฟสบุ๊คเหตุผลแต่ละข้อที่กล่าวมา ทำให้ฉันหัวเราะทั้งน้ำตาการเลื่อนขั้นขึ้นเงินเดือนไม่ได้ดูที่ผลงานหรืองานที่พัฒนาขึ้น แต่วัดกันที่เหตุผลส่วนบุคคลของคนบางกลุ่ม จนบางครั้ง ฉันรู้สึกหมดแรงกับการทำงานตั้งใจทำงานเพื่ออะไร พัฒนางานไปเพื่ออะไรทำงานให้เสร็จเรียบร้อยเพื่ออะไรเพราะทำไปเงินเดือนก็ไม่ขึ้น ตำแหน่งก็ไม่ได้ สู้เอาแรงกายแรงใจไปนั่งเลียแข้งเลียขาเจ้านายดีกว่าไหมสุดท้าย....ฉันก็ต้องยอมรับกับผลการประเมินที่ไม่เป็นธรรมแต่จะให้เปลี่ยนตนเองเป็นคนเลียแข้งเลียขา หรือเช้าชามเย็นชามก็ไม่ไหวเพราะสิ่งที่ฉันยึดมั่นอยูในใจเสมอมา คือค่าของคนอยู

  • กี่ภพกี่ชาติ รักนี้ยังเป็นเธอ   ตอนที่59.

    ความบังเอิญครั้งที่ 4วันนั้น ฉันจัดประชุมคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์กว่าการประชุมจะสิ้นสุดลง ก็กินเวลาจวนเจียนจะบ่ายข้าวเที่ยงยังไม่ตกถึงท้อง น้ำย่อยในกระเพาะมันร่ำร้องให้ฉันพาตนเองไปทานข้าวที่โรงอาหารกลางเมื่อกินข้าวเสร็จก็ลุกขึ้นเพื่อเอาจานไปวางไว้ที่อ่างสำหรับเตรียมล้างนึกไม่ถึงเลยว่าจะเจออาจารย์ A กำลังนั่งทานข้าวอยู่ที่ด้านหลังเขานั่งหันหลังให้ฉันแม้หัวใจมันร่ำร้องอยากจะเข้าไปทักแต่สถานะที่เป็นอยู่ทำให้ฉันต้องข่มใจ แล้วเดินผ่านอาจารย์ไปฉันเดินออกจากโรงอาหารไปด้วยหัวใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวรู้สึกว่ายังไม่พร้อมที่จะขึ้นสำนักงาน จึงแวะที่ร้านกาแฟก่อนระหว่างที่นั่งรอกาแฟนั้น นึกไม่ถึงเลยว่าอาจารย์ A จะมาที่ร้านกาแฟเหมือนกันอาจารย์ A เปิดประตูเข้ามา ใบหน้าเรียบเฉย มองฉันแค่แวบเดียวแล้วมองผ่านเลย เหมือนคนไม่เคยรู้จักกันฉันกลืนก้อนแข็ง ๆ ลงคอในเมื่อเขาไม่อยากรู้จัก เราก็จะไม่ทักเขาให้ต้องระคายเคืองใจเมื่อได้กาแฟแล้ว ฉันก็รีบเดินออกจากร้านทันทีและสิ่งที่ทำให้ฉันตัดใจไม่ได้สักที คือผลจากแผนการที่วางเอาไว้ตั้งแต่ต้นที่ฉันเที่ยวไปประกาศปาว ๆ ว่างานอะไรที่เกี่ยวข้องก

  • กี่ภพกี่ชาติ รักนี้ยังเป็นเธอ   ตอนที่ 58.

    ความจริงที่ซ่อนไว้ 7ยิ่งคุยกัน.....ระยะห่างระหว่างเรายิ่งสั้นลงเรื่อย ๆไม่รู้ทำไม...ทุกครั้งที่จบการสนทนาในแชทบล็อกเราต้องนั่งอมยิ้มคนเดียวแล้วในหัวก็จะมีเรื่องของเขาวนเวียนอยู่ในหัวทันทีที่เริ่มรู้สึกรัก ฉันก็เริ่มรู้สึกเจ็บปวดอกหักทันทีที่รัก เพราะรู้ดีแก่ใจว่า รักครั้งนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ฉันตั้งใจขุดหลุมล่อหลอกอาจารย์ให้ตกลงไปเพื่อใช้อาจารย์เป็นเครื่องมือในการแก้แค้นหัวหน้ากลับกลายเป็นฉันที่ตกลงไปในหลุมเสียเองจนอยากที่จะปีนขึ้นไปในขณะที่ฉันเริ่มรู้ตัวว่าหลงรักอาจารย์จนยากจะตัดใจอาจารย์ก็เริ่มรู้ตัวว่าถูกฉันตามจีบการสนทนากันในแชทจึงเริ่มน้อยลง อาจารย์ A ถามคำตอบคำจนฉันเริ่มรู้ถึงการรักษาระยะห่างของเขาฉันจึงพยายามตัดใจจากเขา เพราะเข้าใจดีว่า ผู้ชายที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่มีทางมองผู้หญิงระดับต่ำกว่าแน่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา การศึกษา หรือฐานะดังนั้น ฉันจึงห้ามใจไม่ทักแชทไปอีก และหักดิบโดยการเลิกเป็นเพื่อนกับเขาทาง F******k เพื่อที่จะไม่ต้องรับรู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับเขาอีกแต่ดูเหมือนฟ้าจะยังคงสนุกกับการทรมานหัวใจของฉันยิ่งอยากตัดใจ ก็ยิ่งให้ฉันต้องบังเอิญ

  • กี่ภพกี่ชาติ รักนี้ยังเป็นเธอ   ตอนที่57.

    จนกระทั่งรถวิ่งผ่านสวนป่าข้างหนองน้ำ...“ ด้านซ้ายมือ... จะเห็นเครื่องออกกำลังกาย... สำหรับออกกำลังกายตอนเย็นๆ รอบหนองน้ำเป็นทางวิ่ง เขาเรียกกันว่า.... หนอง... หนอง....”อาจารย์ A หันมาสบตาฉันเพื่อขอความช่วยเหลือ...“หนองอิเจมค่ะ”ฉันตอบทันทีอย่างรู้งาน“ทำไมถึงชื่อ หนองอิเจมหรือครับ”วิทยากรสงสัย.......และแล้วอาจารย์ A ก็ได้รับอีก 1 หน้าที่ นั่นคือ นักเล่าประวัติศาสตร์หนองอิเจมของมหาวิทยาลัยจนกระทั่งในที่สุดรถก็เลี้ยวเข้าตึกสำนักงานอธิการบดีที่รถอาจารย์ A จอดไว้เครื่องมือแก้แค้นหัวหน้ากำลังจะลงจากรถแล้ว !ฉันเหลือบมองกระเป๋าอาจารย์ A ที่วางอยู่บนเบาะข้าง ๆสวรรค์ช่างเข้าข้างนัก !ฉันจึงถือกระเป๋าใบนั้นขึ้นมา ในขณะที่อาจารย์ A กำลังไหว้ลาวิทยากร แล้วเปิดประตูลงจากรถ“อาจารย์คะ กระเป๋าค่ะ !”ฉันตะโกนเรียกอาจารย์ พร้อมกับชูกระเป๋าให้ดู“อ๋อ... ขอบคุณครับ”ฉันยื่นกระเป๋าให้.....มือหนึ่งจับด้านข้าง.... อีกมือสอดไว้ใต้กระเป๋าอย่างจงใจ...อาจารย์ A ยื่นมือมารับกระเป๋า...มือนุ่มๆ ยาวเรียวของเขาประกบกับมือเล็ก ๆ ที่ฉันจงใจสอดไว้ใต้กระเป๋าหนังใบโต...Yes !เป็นไปตามแผน !... ฉันลิงโลดในใจ

  • กี่ภพกี่ชาติ รักนี้ยังเป็นเธอ   ตอนที่56.

    ความจริงที่ซ่อนไว้ 5และแล้ววันอบรมก็มาถึง !ฉันต้องดีดตัวเองลุกจากที่นอนตั้งแต่ไก่โห่ !แล้วแจ้นไปรับวิทยากรที่สนามบิน !….ส่วนอีกทีมหนึ่งฝากให้น้องนก กับพี่เกด คอยต้อนและรับเหล่าอาจารย์ ที่เข้าร่วมอบรมให้ขึ้นรถบัส แล้วไปสมทบกันที่ รีสอร์ต The best orchid….เริ่มต้นการอบรม เป็นไปอย่างสวยงาม ผู้เข้าร่วมอบรมต่างประทับใจวิทยากรกันยกใหญ่...ทึ่งกับความคิดที่ไม่เหมือนใครทึ่งกับแนวทางการก้าวสู่ “ตำแหน่งศาสตราจารย์” ที่อายุยังน้อยและทึ่งกับฉันที่สามารถขุดค้นศาสตราจารย์ท่านนี้มาได้น้อง ๆ พี่ทีมงานที่มาช่วยจัดอบรมต่างรู้กันดีว่า ฉันกำลังวางแผนจีบอาจารย์ A เพื่อแก้แค้นหัวหน้า ดังนั้น ทุกคนต่างสนับสนุนช่วยเหลือฉันอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็น ช่วยถ่ายรูปอาจารย์ A เอาไว้แทบจะทุกช็อตในระหว่างที่นั่งอบรมกันในห้องประชุมนั้นอาจารย์ A ขอน้ำดื่มเพิ่ม พี่เกดก็มาสะกิดฉันให้ยกน้ำดื่มไปเสิร์ฟอาจารย์แม้กระทั่งตอนพักเที่ยง....ฉันแอบชำเลืองมองไปที่โต๊ะอาหารที่กลุ่มอาจารย์คณะวิศวะฯ นั่งอยู่ เมื่อเห็นว่า กลุ่มอาจารย์กำลังลุกออกจากโต๊ะฉันจึงรวบช้อน รีบกลืนข้าวที่ยังเคี้ยวไม่ละเอียดให้ลงคอ แล้วตามด้วยน้ำ“หนู

  • กี่ภพกี่ชาติ รักนี้ยังเป็นเธอ   ตอนที่55.

    ความจริงที่ซ่อนไว้ 41 สัปดาห์ผ่านไป !อาจารย์ท่านอื่นๆ สมัครมาเกือบจะเต็มจำนวนที่เปิดรับแล้วอาจารย์ A ยังไม่ตอบรับมาเลย >เอาไงดี ๆ -ฉันกระวนกระวายในใจ“พี่เกด !” (นามสมมุติ)ฉันร้องเสียงหลง... ทันทีที่เห็นพี่เกดเดินเข้ามาในออฟฟิศ....ยังเช้าตรู่ ทั้งออฟฟิศมีแค่ฉันกับพี่เกด ดังนั้น ฉันจึงโหวกเหวกได้ตามใจ“แวะ ๆ แวะ โต๊ะหนูก่อน”ฉันลากพี่เกดมาที่โต๊ะ“พี่เกด หนูจะเชิญอาจารย์ A ไปอบรมกับหนูแบบเนียน ๆ”“หือ....”พี่เกดลากเสียง ตาวาว เพราะไม่มีใคร ไม่รู้จักความฮอต ของอาจารย์ผู้นั้น“หนูอยากจะทำความรู้จักกับอาจารย์ A ค่ะ”ฉันรีบบอกความต้องการของตนเองไปอย่างตรงไปตรงมา เพราะตอนนี้ความอยากแก้แค้น และเอาคืน มันมีมากกว่าความรู้สึกกระดากอาย“เอาจริง”“จริงแท้ แน่นอน”“เปลี่ยนเป้าหมายใหม่เถอะ ! เขาเป็นถึงตัวท๊อปของคณะวิศวะเลยนะ ! เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์เลยนะคะ”พี่เกดพูดพร้อมกับจะขยับตัวลุกขึ้น แต่คนมือไวคว้าหมับ รั้งไว้“ไม่เปลี่ยนใจค่ะ ! ให้หนูลองดูสักตั้งนะคะ”วินาทีนี้ ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนความตั้งใจของฉันได้ !สุดที่รักของหัวหน้าใช่ไหม ! คอยดู ! แล้วฉันจะสอยลงมาอยู่ในกำมือ

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status