INICIAR SESIÓNEP.17 สตอล์คเกอร์
ตอนเย็น @สนามแข่งรถ กรี๊ดดดดดด!!!! เสียงกรี๊ดกร๊าดดังระเบ็งเซ็งแซ่มาทางอัฒจรรย์ ตรงนั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังสนุกกับการลุ้นการแข่งรถในสนาม มิลินเร่งฝีเท้าเดินไปยังจุดนัดหมายตามที่มาร์ตินส่งรูปมาให้ “ทำไมนายหญิงถึงมาตามนัด”เพิ่งทราบพฤติกรรมของมาร์ตินจากปากมิลิน เตชินท์ก็ไม่อยากให้มิลินมาเหยียบที่นี่แม้แต่วินาทีเดียว “ถ้าแกไม่อยากมาก็กลับห้องไปเถอะ มันคงไม่มีอะไรสนุกหรอก” “…”เตชินท์ส่ายใบหน้าเป็นคำตอบ ยืนกรานว่าจะอยู่ตรงนี้ด้วย ยิ่งรู้ว่ามิลินมาหามาร์ตินยิ่งต้องตามมาดูแล หญิงสาวควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าเพื่อมาโทรหาผู้นัด เสียงรอสายดังไม่กี่วินาทีก็ถูกตัดพร้อมกับเจ้าตัวที่เดินมาต้อนรับเธอพอดี “คุณให้ฉันมาที่นี่ทำไม” มาเฟียหนุ่มคลี่ยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำทักทายเป็นประโยคคำถาม แม้เธอจะไม่ตรงเวลาแต่ไม่ได้ทำให้เขาอารมณ์เสีย เขาเดินเข้าไปใกล้ๆ ตวัดแขนโอบเอวคอดไว้หลวมๆ “สนามแข่งรถนี้ผมเป็นเจ้าของมันไง” “แล้วไง” “ตามผมมาเถอะ” ยังไม่บอกเหตุผลเพียงแค่พาเธอเดินไปยังห้องรับรองแขกที่ได้จัดเตรียมไว้ มิลินแม้ไม่รู้อะไรเลยก็จำยอมเดินตามมาร์ตินไป เมื่อก้าวขาเข้ามาในห้องรับรองเธอกลับพบว่ามีคนอีกหลายคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว มีทั้งหนุ่มสาวรุ่นราวคราวเดียวกันและเด็กวัยอนุบาล เธอไม่รู้จักหรือคุ้นหน้าคุ้นตาใครเลยนอกจากโอภาสที่เปิดประตูให้เมื่อสักครู่ “ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร”แพคทริคเป็นฝ่ายเปิดประเด็น ทุกสายตาจับจ้องมาที่มิลินจนเธอรำคาญจนไม่อยากจะอยู่ต่อ “ไม่ใช่เมียมึงละกัน” “ไม่ใช่อยู่แล้วเพราะเมียกูสวยกว่านี้” “อวด?” “ก็มีให้อวดไง” “เซอร์ไพรส์ที่ว่าคือมึงจะพาพวกกูมาเจอผู้หญิงคนนี้?”ขุนพลถามขึ้น “กูแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศเฉยๆ นัดพร้อมกันก็ไม่อยากผิดนัดใครก็เลยพามาเจอกันแค่นั้นเอง” “แน่ใจ?” “มึงว่ากูไล่ไอ้ภาสออกดีไหม แม่งเก็บความลับไม่ได้เลย”โอภาสก้มหน้าหลบตาทันทีที่โดนตำหนิ แม้จะถูกสายตากดดันให้ออกไปแต่โอภาสยังยืนนิ่งไม่ยอมไปไหน “ทุกคนนี่มีน ผู้หญิงของกู มีนนี่เพื่อนผม ไอ้เจ ไอ้แพค ไอ้ขุน และเฮียเค ในที่นี้มีไอ้ขุนกับผมที่ยังไม่มีลูก” “ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ”เธอประชดประชัน “ชื่อมีนเหรอ? คนนี้หน้าตาคุ้นๆนะ”เจอาร์กระซิบกระซาบกับขุนพลที่นั่งข้างๆ มือป้องปากตวัดสายตาไปที่เป้าหมายให้เนียนที่สุด “คนเดิมมั้ง ไอ้ตินยังไม่เลิกตามอีกเหรอวะ” “หลายปีแล้วด้วย โคตรโรคจิต” “ถ้ากูเป็นคนดีไอ้เหี้ยนี่ได้นอนคุกไปแล้ว เพื่อนมึงแม่งน่ากลัว” “แม่งจะตามอะไรขนาดนั้นวะ” “ผู้หญิงคนนี้เล่นของ มึงคงจะได้ยินจากไอภาสมาบ้างแล้วใช่ไหม น่าจะคนเดียวกันมั้ง” “อย่าบอกนะว่าผู้หญิงคนนี้ทำของใส่มัน” “ไม่ใช่หรอก เพื่อนมึงไม่น่าพลาด อาการมันตอนนี้กูว่าของขาดมากกว่า” “ฉันไม่ชอบเด็ก”มิลินพูดเสียงดังเพื่อให้ชายสองคนที่กำลังนินทาเธอหยุดการกระทำแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกันก็ตามแต่ปฏิกิริยาของเขาเธอเดาได้ไม่ยาก เสียงแข็งๆของมิลินไม่ได้ทำให้สองชายหนุ่มรู้สึกอะไร แต่เด็กที่ถูกกล่าวถึงรีบหลบหลังผู้ปกครองของตัวเอง บางคนทำท่าจะร้องไห้ หวาดระแวงมิลินที่ไม่คุ้นหน้าแถมดูไม่เป็นมิตร “หลานผมไม่ใช่เด็กดื้อหรอกครับ น่ารักทุกคน ไม่มีใครเอาแต่ใจหรือร้องโวยวายโดยไร้เหตุผล แต่ตอนนี้คงกลัวมีนเพราะมีนทำหน้าดุน่ะครับ เด็กๆไม่ชิน” “…” “มีนอยู่ด้วยนานๆอีกสักพักเด็กๆคงชิน” “ถามฉันยัง?” “ไม่ใช่ประโยคคำถามนะ”มาร์ตินมาหย่อนสะโพกลงบนโซฟาเข้ามาร่วมวงสนทนากับเพื่อนมาเฟีย โดยที่เธอถูกให้มานั่งไม่ห่างจากเขานักนับว่าเป็นการบังคับโดยไม่อาจเลี่ยง มิลินไม่รับเครื่องดื่มมึนเมา ส่งให้เตชินท์จัดการให้หมด ช่วงเวลาที่น่าเบื่อคือการนั่งฟังมาร์ตินกับเพื่อนสนทนากัน ความน่ารักน่าชังของเด็กหลายคนมันไม่ทำให้เธออารมณ์ดี ไม่มีความเอ็นดูกับความไร้เดียงสา เช่นกันการอ่อนโยนกับหลานของมาร์ตินก็ไม่ได้มองดูน่ารัก บุคลิกเวลาอยู่กับเพื่อนและอยู่กับเธอต่างกันลิบลับราวกับคนละคน “เอาไหม ไอ้สตอล์คเกอร์” ไม่รู้อะไรดลใจให้เจอาร์กล่าวหามาร์ตินแบบนั้น เจอาร์ยื่นแก้วเบียร์มาให้มาร์ติน ซึ่งมาร์ตินกำลังป้อนนมเด็กทารกที่เป็นลูกของเจอาร์ที่เขาอาสาเลี้ยงเองแบ่งเบาภาระ “ใคร? กูไม่ใช่”มาร์ตินปฏิเสธเสียงแข็ง “เมียมึงไปไหน ไงปล่อยให้ลูกอยู่นี่กับมึงล่ะ” “มาสนามแข่งรถ ก็คงไปดูพวกผู้ชายหล่อๆขับรถมั้ง ลืมลูกลืมผัว คิดว่าตัวเองโสดวันหนึ่ง”ขุนพลชิงตอบกวนประสาท ยั่วยุให้เพื่อนทะเลาะกับเมียอาจเป็นความสุขเดียวในตอนนี้ “ให้เมียเปิดหูเปิดตาบ้าง ถึงอย่างไรเมียกูก็เป็นของกู”เคลีสบุคคลที่เงียบที่สุดในกลุ่มแย้งขึ้นด้วยความรำคาญ “ฉันจะกลับได้ยัง น่าเบื่อ”เธอตั้งคำถามแต่มาร์ตินก็ไม่สนใจ “มึงจะมองเหี้ยอะไรนักหนา!!”เสียงบทสนทนาที่คุยกันอย่างออกรสเงียบลงกะทันหันเมื่อโอภาสสถบคำถามหยาบคายขึ้นมา ร่างใหญ่ไซต์บอดี้การ์ดขนาดที่ไม่จำเป็นต้องดุแค่พูดเสียงดังก็ทำให้ดูน่ากลัวได้จนทุกคนหยุดการกระทำทุกอย่างมองไปที่เขา สายตาโอภาสจับจ้องไปที่เตชินท์ที่ยืนมุมห้อง เพราะเตชินท์มองมาร์ตินราวกับคนไม่ถูกชะตามาตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้อง ลูกน้องอย่างโอภาสเห็นแล้วพาลหงุดหงิดใจอย่างมาก“มึงอยากมีเรื่องกับนายกูหรอ” “กูไม่เคยเห็นผู้ชายหน้าตากวนส้นตีนแบบนายมึง ก็เลยตื่นเต้นเป็นธรรมดา ขอมองนานๆได้ป่ะ เดี๋ยวกูหายาล้างตาเอง” “มึงปากดีนะ พูดแบบนี้หมายความว่าไง” “ไอ้ภาส!”เสียงของมาร์ตินข่มให้ลูกน้องที่ตั้งท่าจะมีเรื่องหยุดการกระทำลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ มาเฟียหนุ่มรับรู้ถึงสายตาที่แสดงออกถึงความไม่พอใจ แต่ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าส่งยิ้มให้แล้วแต่เตชินท์จะคิดว่ารอยยิ้มของเขาจะแสดงออกถึงบริบทไหน “เต ถ้าอึดอัดไปรอข้างนอกได้นะ ถ้าไม่จำเป็นฉันก็ไม่อยากอยู่ตรงนี้เช่นกัน” “ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่กับนายหญิงดีกว่า”เตชินท์หายใจเข้าลึกๆกับรอยยิ้มกวนประสาทของมาร์ติน ไม่ปล่อยมิลินไว้ในฝูงไฮยีนาคนเดียวแน่นอน “งั้นแกก็มานั่งนี่”เธอเว้นที่ว่างระหว่างเธอกับมาร์ตินให้เตชินท์มานั่งแทรก “อยากให้มีคนตายไหม”ตอนพิเศษ 4 ปัจจุบันที่สวยงามปัจจุบัน@หลายเดือนต่อมา“เรื่องที่มีนเล่าโคตรสะใจเลย”“เรื่องที่ตินเล่าก็ทำให้มีนรักตินมากขึ้นนะ แบบมากๆเลยนะ เสียดายมากนะ วันนั้นตินน่าจะอยู่รอมีนฟื้น เราจะได้เจอกันเร็วขึ้นกว่านี้”“หลังจากที่มีนฟื้นมาจากการจมน้ำช่วงนั้นผมยุ่งมากเลย ทำให้ไม่ได้ตามมีนต่อ ผมโคตรเป็นห่วงมีนเลย ต่อมาเจอมีนอีกทีมีนก็กลายเป็นยักษ์ขมูขีไปแล้ว”“ฮ่าๆๆ มีนชอบตัวเองตอนนั้นมาก ตอนนี้ความรู้สึกที่เล่าให้ตินฟังมันสะใจมากไม่ได้เจ็บปวดแล้วนะ”“นี่สิมิลินคนแกร่งของผม”“มีนยังร้ายอยู่นะแต่ซ่อนพิษตัวเองไว้ ซึ่งตอนนี้มีนเป็นนางฟ้าสุดสวยของตินนะ มีนจะไม่ใช้ความร้ายกาจกับตินอีก”“ครับ แม่นางฟ้าคนสวยของผม ผมก็จะไม่ทำให้พิษที่มีนซ่อนไว้เผยออกมาอีกแน่นอน”คนคลั่งรักกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันบนโซฟา กอดกันกลมอย่างมีความสุข โดยได้ยินเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากของลูกชายซึ่งเล่นกับทวดของเขาเสียงดังเล็ดลอดมาในห้องที่ปิดประตูไม่ค่อยสนิทนัก แต่ทั้งสองก็ยังคงหยอกล้อกันด้วยความมันเขี้ยว เติมความหวานให้กันในช่วงที่มีเวลา“มีนรักตินมากเลยอ่ะ ขอบคุณที่ตอนนั้นช่วยมีน คอยเอาเสบียงมาส่ง คอยตามดูมีนอยู่ห่างๆนะ”มิลิ
ตอนพิเศษ 3 คลุ้มคลั่งมาเฟียหนุ่มเปียกโซกหนาวสั่น เขายืนดูกู้ภัยปั๊มหัวใจของมิลินด้วยความห่วงใย ญาติของมิลินตามมาในทันที เขาจึงต้องหลีกออกไปเล็กน้อยเพื่อเปิดทางแต่ก็ชะเง้อมองดูห่างๆ“ผมว่าผู้หญิงคนนี้ต้องปลอดภัย นายกลับกรุงเทพเถอะครับ เดี๋ยวไม่ทันการ” โอภาสพยายามดึงมาร์ตินออกมา หากช้าไปกว่าเวลาที่กำหนดงานจะมีปัญหาหนักกว่าเก่า“แต่กูยังไม่อยากกลับ”“เดี๋ยวเธอก็ถึงมือหมอ ไปก่อนเถอะครับ”มาร์ตินจิ๊ปากด้วยความหงุดหงิดห่วงหน้าพะวงหลัง หากไปตอนนี้เขาก็คงไม่มีอารมณ์คุยงาน แต่ทางเลือกมีไม่มาก เขาต้องตัดใจจากมิลิน ปล่อยให้กู้ภัยช่วยชีวิตมิลินต่อ ส่วนตัวเขาต้องกลับไปทำงานต่อทันที@โรงพยาบาลมิลินเหม่อมองเพดานขาวโพลนของห้องพักผู้ป่วยอย่างหมดอาลัยตายอยาก เธอไม่รู้ว่าเธอจะมีชีวิตต่อไปทำไม ทำไมกู้ภัยต้องช่วยเธอไว้ หากรอดไปได้เธอคงโดนแม่บ่นจนหูชา ความรู้สึกตอนนี้คือเธออยากจะหนีออกจากโรงพยบาลและหายไปไม่อยากพบหน้าใคร“อยากออกไปจากที่นี่ ได้ยินไหม! ใครก็ได้ปล่อยฉันที!”มิลินขยับได้ยากลำบากเพราะมือและเท้าถูกมัดไว้กับเตียง แต่เธอก็พยายามดิ้นให้ถึงที่สุด“น้องคลุ้มคลั่งพี่จำเป็นต้องทำอย่างนี้นะ”พยาบ
ตอนพิเศษ2 ความเจ็บปวด@คอนโดโอมเมื่อเท้าเล็กก้าวพ้นขอบประตูเข้ามาในห้องโอม การฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีของมิลินก็หยุดลงทันที ไอความเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในห้องกระทบกายบ่งบอกว่าโอมอยู่ในห้อง เธอจะนำน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ที่ซื้อมาระหว่างทางไปเทใส่แก้วให้โอม เท้าเล็กดันไปเหยียบกับอะไรบางอย่างหน้าห้องเสียก่อน“ระ…รองเท้าใคร”ตั้งคำถามขึ้นมาแต่หัวใจดวงน้อยดันสั่นระรัว รองเท้าส้นสูงคู่นี้ไม่ใช่ของเธอแน่นอน แต่มันคุ้นตาเธอมากเสียจนเธอคิดในแง่ดีต่อไปไม่ได้ มือเรียวที่สั่นเทาหยิบขึ้นมาดู เธอต้องการคำตอบของความสงสัยทั้งหมดจึงรีบเดินไปหาโอม“…!”มิลินอ้าปากค้าง ชุดชั้นในของผู้หญิงกองเรี่ยราดอยู่เต็มพื้น เธอเดินตามมันไปก็พบเจ้าของของมันนอนอยู่บนเตียงเดียวกับโอมโดยทั้งสองปราศจากเสื้อผ้าห่อหุ้มร่างกาย มีเพียงผ้าห่มที่ปกปิดท่อนล่างไว้ ผู้หญิงที่นอนกับโอมก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเพื่อนที่คบกันมานานหลายปี เป็นคนที่เธอไว้ใจ เป็นเพื่อนที่เธอรักมากที่สุดในชีวิต น้ำตาไหลเอ่อออกมาอย่างไม่อาจกลั้นได้ หัวใจดวงน้อยเจ็บปวดคล้ายมันกำลังถูกทุบอย่างรุนแรงจนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แทบจะยืนไม่ไหว ชาไปทั่งร่างกรี๊ดดดดดดดด
ตอนพิเศษ1 อดีต@หลายปีก่อนหน้ามิลินในชุดนักศึกษาถูกระเบียบก้าวเท้าเข้ามาในสนามบาสเกตบอลในช่วงเย็นหลังจากเลิกเรียน เธอมองซ้ายมองขวามองหาโอมซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของเธอ เขาเป็นนักบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย เธอจึงนำน้ำและขนมติดไม้ติดมือมาฝากเขาด้วยเพื่อจะได้ให้เขามีแรงซ้อมและทุกครั้งที่มา มักจะเจอเพื่อนนักบาสของโอมซ้อมอยู่ก่อนแล้วในสนาม ซึ่งหากเจอผู้ชายคนอื่นเธอไม่อยากเข้าใกล้ เพราะเธอมักจะถูกพวกผู้ชายเหล่านั้นแซวเล่นหรือไม่ก็ถูกกลั่นแกล้ง“ไงจ๊ะ น้องมีน เอาเสบียงมาให้ไอ้โอมเหรอ”สิ่งที่เธอไม่ชอบก็เกิดขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ชายทั้งสี่คนเดินเข้ามาหาเธอ พวกเขามีจุดประสงค์จะมาเอาน้ำและขนมที่เธอซื้อมาให้โอมไปทาน บางครั้งเธอเลยต้องซื้อมาฝากพวกเขาด้วยเพื่อตัดปัญหา แต่วันนี้เธอตั้งใจนำมันมาให้โอมเพียงคนเดียวจึงรีบวิ่งหนี“จะหนีไปไหน เห้ย!พวกมึงตามดิ๊”“พวกพี่อย่ามายุ่งกับมีนสิ มีนเอาของมาให้พี่โอม ไม่ได้เอามาให้พวกพี่”“เป็นคนหวงกินตั้งแต่เมื่อไร”“พวกพี่มีตังก็ไปซื้อเองสิ อย่ามาแย่งของมีนนะ”“ใจร้ายจังครับคนสวย”“พี่ๆอย่ามายุ่งกับมีนนะ”ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทั้งสี่มายืนล้อมเธอหมายจะกลั่
แชะ!เสียงกดชัตเตอร์จากกล้องถ่ายรูปราคาแพงทำให้มิลินที่นั่งอยู่บนรถไหวตัวด้วยความตกใจ แต่เมื่อเธอหันมาเห็นกล้องจึงโพสต์ท่าให้ตากล้องส่วนตัวถ่ายทุกอิริยาบถของเธอเก็บไว้ “ดึงเกาะอกขึ้นนิดนึง มันจะเห็นทั้งเต้าละนะครับ”“อย่างนี้เหรอ”เธอดึงลงมาอย่างยั่วยวน เผยความเซ็กซี่ให้เขาเห็นโดยไม่ปิดบัง“อยากโดนอีกรอบเหรอครับ”เขาเข้ามาดึงเกาะอกให้กลับที่เดิม“มีนชอบยั่วตินเฉยๆ”“ชุดมีนมันจะแหวกกี่ที่ครับ”“ก็ชอบแบบนี้ รูปที่ตินถ่ายออกมามันก็ดูไม่ได้โป๊นะ”ภาพที่เขาถ่ายให้มันถูกใจเธออีกเช่นเคย จนอดใจที่จะเก็บไว้ดูคนเดียวไม่ได้ต้องโพสต์ภาพลงโซเชียลส่วนตัว‘คุณแม่แซ่บมากเลย เกาะอกจริงๆ เซ็กซี่มากแม่’‘คนท้องที่แซ่บที่สุดอยู่ตรงนี้ ใครอย่ามาเทียบเคียงหญิงมีนของฉันนะยะ’‘นางแบบสวยที่สุด ตากล้องรู้ใจสุด อยากได้ตากล้องส่วนตัวแบบนี้บ้าง’‘ถ่ายหนึ่งได้ถึงสอง อวดความสวย อวดผัวที่ถ่ายรูปเก่ง น่าอิจฉา’ มิลินคลี่ยิ้มกว้างด้วยความสดใส ยื่นโทรศัพท์ไปให้มาร์ตินดูคำชมของคนในโซเชียล เธอไม่รู้ว่ามีใครอิจฉาเธออย่างที่พูดรึเปล่า แต่ตอนนี้เธออิจฉาตัวเองที่มีความสุขมากขึ้นทุกวัน“ตินเคยไปเรียนถ่ายรูปจริงจังไ
EP.74“มองเหี้ยอะไรนักหนา”เสียงของโอภาสดังขัดจังหวะสวีทหวานของเจ้านาย เขาไม่อาจทนเพื่อรักษาบรรยากาศได้เพราะเตชินท์กวนประสาทและตั้งใจหาเรื่องเขาก่อน“มึงนั่นแหละมองอะไรวะ”ผั๊วะ!เตชินท์เป็นฝ่ายเริ่มปล่อยหมัดหนักๆใส่โอภาส โอภาสจึงไม่ยอมง่ายๆกระทำแบบเดียวกันคืน จากนั้นทั้งสองก็ปล่อยหมัดใส่กันไม่ยั้งมิลินกับมาร์ตินยืนมองนักมวยมือสมัครเล่นอย่างเอือมระอา ปล่อยให้ทั้งสองก่นด่าและต่อยกันคนละหมัดจนมีรอยแผลบนใบหน้าคนละแผล“หยุด!”มาร์ตินใช้น้ำในแจกันดอกไม้มาสาดใส่ทั้งสองจนเปียกปอนทำให้ทั้งสองแยกตัวออกห่างจากกันได้ “เป็นหมารึไง อยู่บ้านเดียวกันจะทะเลาะกันทำไม”“…”“ตอบ!”“…”ไร้คำตอบจากปากของทั้งคู่มีเพียงการก้มหน้ารับผิดที่ไม่อาจรู้ได้ว่าสำนึกจริงๆรึเปล่า“มึงจะทะเลาะกันทำไม”“ตินคืนนี้ฉันอยากให้ลูกน้องเราทั้งสองนอนด้วยกัน จะได้ละลายพฤติกรรมกัน และรักกันมากขึ้น”“โถ่นายหญิง ไม่เอาครับ”เตชินท์รีบปฏิเสธทันที คงจะอยู่ร่วมห้องกับคนที่ไม่ชอบไม่ได้“ผมเห็นด้วยนะ”มาร์ตินยกนิ้วโป้ง เห็นด้วยกับความคิดมิลินเสียงจิ๊ปากของโอภาสดังพอๆกับเสียงถอนหายใจของเตชินท์ คงไม่อาจหนีได้ ผู้เป็นนายสั่งอย่า







