เขาเอ่ยขึ้นกับฟ้าลดาและมองหญิงสาวด้วยความสงสัยจับใจ
“ฟ้า... ไม่เป็นไรค่ะพี่เล็ก”
หล่อนตอบว่าไม่เป็นไร แต่ยกมือป้ายน้ำตาหลายครั้งอย่างน่าสงสาร
“น้องฟ้าไปนั่งพักก่อนดีกว่า เดี๋ยวพี่เรียกแม่บ้านเข้ามาเก็บกวาดเอง”
“ไม่ค่ะ ฟ้าจะทำเองค่ะพี่เล็ก”
ฟ้าลดาส่ายหน้าปฏิเสธ และพูดออกมาเสียงจริงจัง
“มันเลอะขนาดนี้ พี่ว่าให้แม่บ้านทำดีกว่า เชื่อพี่นะ”
“พี่ใหญ่สั่งให้ฟ้าทำ... ฟ้าไม่อยากขัดคำสั่งของพี่ใหญ่น่ะค่ะ”
อิศราสงสารฟ้าลดาจับใจ แต่ก็ช่วยอะไรมากไม่ได้ เพราะมันคือเรื่องของหัวใจ
“แต่ถ้าไม่มีใครบอก พี่ใหญ่ก็ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนทำความสะอาด”
“ฟ้าไม่อยากทำให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนน่ะค่ะ ในเมื่อฟ้าเป็นต้นเหตุ ฟ้าก็อยากจะจัดการทำด้วยตัวของฟ้าเอง... พี่เล็กเข้าใจฟ้านะคะ”
เขาไม่เข้าใจหรอก แต่ก็ต้องพยายามทำเป็นเข้าใจต่างหาก
ความคิดความอ่านของผู้หญิงนี่ช่างซับซ้อน จนเขารู้สึกว่ามันละเอียดอ่อนยิ่งกว่าสิ่งมีชีวิตใดๆ ในโลกใบนี้ทั้งหมด
“งั้นพี่ช่วยนะครับ”
“อย่าเลยค่ะพี่เล็ก ฟ้าไม่อยากทำให้พี่เล็กลำบาก ฟ้าทำเองได้ค่ะ”
“งั้นพี่ให้แม่บ้านมาเป็นผู้ช่วย หรือว่าลูกมือก็ได้ โอเคไหม...” อิศราพยายามอย่างที่สุดที่จะอำนวยความสะดวกให้กับฟ้าลดา
“ฟ้าขอแค่อุปกรณ์ทำความสะอาดก็พอค่ะ ที่เหลือฟ้าจัดการเอง”
อิศราเป่าลมออกจากปากเบาๆ และตามด้วยการถอนใจ แต่ก็ยอมทำตามคำขอของฟ้าลดาแต่โดยดี
“ได้ครับ เดี๋ยวพี่ให้แม่บ้านเอาอุปกรณ์กับน้ำยาทำความสะอาดมาให้นะครับ”
“ขอบคุณมากค่ะพี่เล็ก”
อิศราเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยออกมา
“ขอบคุณพี่ด้วยการทำให้ตัวเองมีความสุขได้ไหมน้องฟ้า...”
“ฟ้า...”
“รู้ไหมว่าพี่เห็นน้ำตาของน้องฟ้าแล้ว พี่รู้สึกไม่สบายใจเลย พี่ยอมตัดใจจากน้องฟ้าก็เพราะพี่อยากให้น้องฟ้าได้อยู่กับผู้ชายที่ตัวเองรัก และพี่ก็ดีใจมากที่คนๆ นั้นคือพี่ชายของพี่...”
ฟ้าลดารู้สึกซาบซึ้งใจเหลือเกินกับความห่วงใยที่อิศรามอบให้มา หากหัวใจมันบังคับกันได้ หล่อนก็อยากจะรักอิศรา แทนอคิราห์เหลือเกิน
แต่หัวใจมันบังคับกันไม่ได้ แม้แต่เจ้าของหัวใจก็ยังไม่อาจจะควบคุมให้มันรักใครหรือไม่รักใครได้เลย หรือโชคชะตาลิขิตมาแล้วว่าหล่อนจะต้องเจ็บปวดเจียนตาย
“ฟ้า... มั่นใจค่ะว่าหลังจากแต่งงานแล้ว ฟ้าจะสามารถทำให้พี่ใหญ่รักฟ้า... ได้สักวันค่ะ...”
อิศราดึงมือนุ่มของฟ้าลดามากุมเอาไว้ พร้อมกับบีบเบาๆ ให้กำลังใจ
“จำเอาไว้นะ พี่ชายคนนี้จะอยู่เคียงข้างเสมอ วันใดต้องการความช่วยเหลือให้นึกถึงพี่ เพราะพี่ชายคนนี้ยินดีจะทำให้น้องสาวคนนี้มีความสุขที่สุด”
“ขอบคุณมากค่ะพี่เล็ก... ฟ้า... ขอบคุณมากค่ะ”
หญิงสาวสวมกอดอิศรา น้ำตาไหลทะลักเปียกชุ่มเสื้อทำงานของชายหนุ่ม
ทำไมนะ อคิราห์ถึงไม่ใจดีกับหล่อนเหมือนอิศราบ้าง แค่สักเสี้ยวหนึ่งของความใจดีที่อิศรามีให้หล่อนก็ยังดี
อิศรากลับไปก่อน เพราะมีนัดกับผู้หญิงของเขา หลังจากอยู่เป็นเพื่อนหล่อน ทำความสะอาดห้องทำงานของอคิราห์อยู่เกือบสองชั่วโมง
“เสร็จแล้ว...”
หญิงสาววางกระป๋องสเปย์น้ำหอมลงในตะกร้า หลังจากจำกัดกลิ่นของแกงเขียวหวานออกไปจากห้องทำงานของอคิราห์ได้ทั้งหมด
หล่อนยิ้มเศร้าๆ ให้กับตัวเอง หลังจากสายตาปะทะเข้ากับเก้าอี้หนังสีดำตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่หลังโต๊ะทำงานไม้ของผู้ชายที่ตัวเองรัก
เขาออกไปทานมื้อกลางวันกับเลขาฯ ของเขา และป่านนี้เกือบจะบ่ายสองแล้วก็ยังไม่กลับมา
บัวชมพูเป็นผู้หญิงคนเดียวที่สามารถติดตาม
อคิราห์ไปไหนต่อไหนได้ จนบางครั้งหล่อนอดคิดไม่ได้ว่าเขาทั้งสองคนอาจจะเป็นมากกว่าเจ้านายกับลูกน้องฟ้าลดาผ่อนลมหายใจออกมาแผ่วเบา บอกตัวเองให้หยุดคิดเรื่องไร้สาระได้แล้ว เพราะอีกไม่นานก็จะถึงวันแต่งงานของหล่อนกับอคิราห์ และชีวิตครอบครัวก็จะเริ่มต้นขึ้น
หญิงสาวหอบตะกร้าพร้อมกับรถใส่เครื่องมือทำความสะอาดตรงไปยังประตูห้องทำงาน และเปิดออกไป
เพล้งงงง!
ฟ้าลดาไม่คิดว่าจะเจอใครที่หน้าประตู แต่กลับชนปะทะกับร่างของบัวชมพูเข้าอย่างจัง ถ้วยกาแฟในมือเลขาของอคิราห์กระเด็นคว้าง ก่อนจะตกแตกกระจายเต็มพื้น
“ขอ... ขอโทษค่ะ”
ฟ้าลดารีบทิ้งอุปกรณ์ทำความสะอาดในมือ และคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อคลานเก็บเศษแก้ว ซึ่งบัวชมพูก็ทำเช่นกัน
“ไม่เป็นไรค่ะคุณฟ้า เดี๋ยวชมพูจัดการเองค่ะ อ๊ะ...”
หล่อนได้ยินเสียงบัวชมพูอุทาน ก่อนจะเห็นนิ้วเรียวของเลขาสาวมีเลือดสีแดงสดไหลออกมา
“คุณบัวชมพู...”
“เอ่อ... ไม่เป็นไรค่ะ คุณฟ้าถอยออกไปก่อนนะ เดี๋ยวถูกเศษแก้วบาดค่ะ”
“แต่คุณบัวชมพูถูกบาดแล้วนะคะ ฟ้าว่าไปทำแผลก่อนดีกว่า ทางนี้เดี๋ยวฟ้าจัดการเองค่ะ” หล่อนพูดขึ้นอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเก็บเสร็จแล้วชมพูค่อยไปทำแผลค่ะ แผลนิดเดียวเอง”
“แต่ว่าเลือดไหลเยอะนะคะ” ฟ้าลดาพูดขึ้นอย่างไม่สบายใจ
“เกิดอะไรขึ้น”
เสียงห้าวของอคิราห์ดังขึ้น ก่อนที่เขาจะก้าวเข้ามาหยุดใกล้ๆ
“เอ่อ... พอดีชมพูซุ่มซ่ามน่ะค่ะท่านประธาน ก็เลยทำถ้วยกาแฟตกแตก”
“ไม่ใช่ความผิดของคุณชมพูหรอกค่ะพี่ใหญ่ ฟ้าเดินไม่ระวัง เลยชนเข้าน่ะค่ะ”
ฟ้าลดายอมรับความผิดของตัวเองออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
ดวงตาคมกริบเลือดเย็นมองมาที่หน้าซีดเผือดของหล่อน ก่อนจะกดต่ำลงไปมองที่พื้น ซึ่งแน่นอนว่าเขาเห็นหยดเลือดจากปลายนิ้วของบัวชมพูเข้าพอดี
“เศษแก้วบาดนี่คุณชมพู ผมว่าคุณไปทำแผลก่อนดีกว่า”
หล่อนเห็นอคิราห์ย่อตัวลงนั่งบนส้นเท้าอย่างรีบร้อน และดึงมือของบัวชมพูไปกุมเอาไว้ ความห่วงใยที่เขาแสดงออกมาต่อบัวชมพู มันทำให้หล่อนจุกไปทั้งหัวใจ
ตอนที่ 29. ตอนอวสาน“แล้วถ้าฟ้าปฏิเสธล่ะคะ”“ถ้าขนาดพี่ลงทุนขับรถต้นไม้ให้ตัวเองบาดเจ็บแล้ว ยังไม่สามารถทำให้ฟ้ายอมให้อภัยได้ งั้นพี่ก็ควรจะตายๆ ไปซะ” “พี่... ใหญ่ว่าอะไรนะคะ?” ฟ้าลดาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง หล่อนต้องฟังผิดไปแน่ๆ จะมีคนบ้าที่ไหนกล้าทำให้ตัวเองบาดเจ็บขนาดนี้ อคิราห์อมยิ้ม ก่อนจะพูดออกมาอีกครั้ง และครั้งนี้ชัดเจนเต็มสองหูเลย “ความจริงมันไม่ใช่อุบัติเหตุหรอก พี่ตั้งใจขับรถชนต้นไม้เองน่ะ” “พี่ใหญ่!”ฟ้าลดาอุทานตกใจอย่างไม่อยากเชื่อ“พี่แค่ตั้งใจจะให้หัวแตกนิดเดียว แต่ผิดพลาดไปหน่อย เลยขาหักด้วย” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาฟ้าลดายกมือตีท่อนแขนกำยำอย่างมันเขี้ยวระคนไม่พอใจ“ทำไมพี่ใหญ่ทำแบบนี้คะ ถ้าหากพลาดท่าเสียชีวิตไป จะทำยังไง”“ก็แค่ตาย”“แล้วฟ้าล่ะ... ฟ้าจะอยู่ยังไง คนบ้า... คราวหน้าคราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะคะ”อคิราห์อมยิ้มยกมือขึ้นลูบใบหน้าของภรรยาเอาไว้แผ่วเบา“พี่ยอมเจ็บกว่านี้ หากมันจะทำให้ฟ้ายอมกลับมาอยู่กับพี่”“ไม่ต้องมาพูดเลย... ห้ามทำแบบนี้อีกนะคะพี่ใหญ่”“ก็ถ้าฟ้าไม่หนีพี่ไปอีก พี่ก็จะไม่ทำอะไรแผลงๆ แบบนี้อีกค
ตอนที่ 28. ฟ้าลดายิ้มออกมาอย่างโล่งอก และหันไปมองมารดาของตัวเอง “คุณแม่คะ ฟ้า... ขออยู่เฝ้าพี่ใหญ่นะคะ” “ได้สิลูก” ตอนนี้ไม่เหลือความแง่งอน ความน้อยใจใดๆ ติดหัวใจอีกแล้ว สิ่งเดียวที่ต้องการในตอนนี้ก็คือขอให้อคิราห์ฟื้นขึ้นมาโดยเร็วที่สุด อคิราห์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ความปวดหนึบอัดแน่นเต็มศีรษะ เขากัดฟันขยับตัวเล็กน้อย และก็ทำให้เห็นว่ามีใครคนหนึ่งฟุบหน้ากับเตียงคนไข้ และกำลังหลับอยู่ ผิวขาวเนียนแบบนี้ เส้นผมสีดำขลับแบบนี้ กลิ่นหอมกรุ่นคุ้นจมูกแบบนี้ ไม่มีทางเป็นใครไปได้หรอก นอกจาก... “ฟ้า...” ชายหนุ่มพึมพำเสียงแหบแห้ง หัวใจที่เคยห่อเหี่ยวตอนนี้แช่มชื้นอิ่มเอม รอยยิ้มพึงพอใจแต่งแต้มใบหน้าหล่อจัด ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กของฟ้าลดาอย่างระมัดระวัง แต่ถึงจะแผ่วเบาแค่ไหนก็ทำให้คนที่เผลอหลับไปสะดุ้งตื่นได้ไม่ยาก ฟ้าลดาผงกศีรษะขึ้น ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความดีใจ เมื่อเห็นว่าคนที่หล่อนนั่งเฝ้ามาตลอดทั้งคืนลืมตามองอยู่ “พี่ใหญ่...” หล่อนยิ้มอย่างโล่งใจ น้ำตาแห
ตอนที่ 27. “แต่พ่อใหญ่บอกแม่ว่าไม่ต้องการหย่า และก็อยากพบฟ้าเพื่อปรับความเข้าใจด้วย” ฟ้าลดากะพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่หยาดน้ำตาแห่งความเสียใจให้กลับเข้าไปข้างใน หล่อนพยายามสร้างกำแพงขึ้นมาปิดกั้นหัวใจตัวเอง โดยใช้ความร้ายกาจของอคิราห์ที่เคยกระทำเอาไว้กับหล่อนมาเป็นฐานราก เพื่อป้องกันการพังทลาย แต่ดูเหมือนว่ามันจะสั่นคลอนเสียทุกครั้งที่เห็นเขามาหา “คงเป็นความต้องการของคุณป้าวรรณก็ได้ล่ะ พี่ใหญ่ก็เลยต้องมาตามง้อฟ้าแบบนี้” “แม่คุยกับคุณป้าวรรณแล้ว ท่านบอกว่าไม่เกี่ยวกับท่านเลย พ่อใหญ่ต้องการปรับความเข้าใจกับฟ้าด้วยตัวเองของเขาเอง และคุณป้าวรรณก็ยังบอกอีกว่า พ่อใหญ่รักฟ้า...” น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ไหลร่วงอาบแก้ม ลำคอตีบตันด้วยความรวดร้าว “คนอย่างพี่ใหญ่... ไม่มีทางรักผู้หญิงที่เขาบอกว่าเกลียดอย่างฟ้าหรอกค่ะ” “แต่ถ้าพ่อใหญ่ไม่มีใจให้กับฟ้า แล้วทำไมพ่อใหญ่ถึงยอมแต่งงานกับฟ้าง่ายๆ ล่ะ ฟ้าลองคิดดูสิ” “ก็เพราะว่าพี่ใหญ่ขัดความต้องการของครอบครัวไม่ได้ไงคะ คุณแม่ไม่รู้อะไร พี่ใหญ่โมโหฟ้ามากที่ฟ้าเลือกพี่ใหญ่..
ตอนที่ 26.คนเป็นแม่ถอนใจออกมา ความวิตกกังวลแน่นอก แต่ก็ต้องทำหน้าที่ปลอบใจลูกชาย“หนูฟ้าคงกำลังงอนน่ะพ่อใหญ่”อคิราห์ผ่อนลมหายใจออกมาทางปาก ใบหน้าเคร่งเครียด“แล้วผมก็รู้มาว่าฟ้าตัดสินใจจะไปเรียนต่อต่างประเทศครับ”“ตายจริง”มารดาของเขาอุทานอย่างตกใจ ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับเขาเลยเขาต้องตายแน่ๆ หากฟ้าลดาหนีหายไปไกลขนาดนั้น“แล้วนี่พ่อใหญ่จะทำยังไงล่ะ”“ผมจะพยายามปรับความเข้าใจกับฟ้าให้ได้ครับ”“ไม่น่าเชื่อเลยนะว่า บทจะใจแข็ง หนูฟ้าก็ใจแข็งเหมือนหินได้แบบนี้”“คงเพราะฟ้าหมดความอดทนกับผู้ชายปากร้ายอย่างผมแล้วน่ะครับ”น้ำเสียงของอคิราห์เศร้าหมองอย่างที่คนเป็นแม่ไม่เคยได้ยินมาก่อน“พ่อใหญ่ต้องสู้ๆ นะ ต้องพาหนูฟ้ากลับมาอยู่บ้านเราให้ได้”“ผมจะพยายามด้วยความสามารถทั้งหมดของผมครับ แต่ก็ไม่รู้ว่า ฟ้าจะให้อภัยผมได้ไหม...”ผู้เป็นแม่ยกมือขึ้นวางบนบ่ากว้างของลูกชาย และพูดให้กำลังใจ“แม่ว่าหนูฟ้าคงแค่งอน พ่อใหญ่ตามง้อหนักๆ สักหน่อยก็น่าจะยอมกลับมา”แต่เขากลับไม่ได้คิดเหมือนมารดาเลย เพราะการหนีจากไปคราวนี้ของฟ้าลดา มันราวกับว่าหญิงสาวหมดความอดทนทุกอย่างแล้ว“ขอบคุณครับคุณแม่”“แล้วนี่กินข้าวกินปลามาห
ตอนที่ 25.“สวัสดีครับคุณแม่” อคิราห์ยกมือไหว้พิมลวรรณผู้เป็นแม่ยายของตัวเอง ในขณะที่สายตามองไปรอบๆ ห้องรับแขกเพื่อหาฟ้าลดา“สวัสดีจ้ะพ่อใหญ่ วันนี้ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่ล่ะ”พิมลวรรณทักทายอย่างเป็นกันเอง พยายามจะไม่พูดถึงเรื่องระหองระแหงของลูกเขยกับลูกสาว“ผมมาพบฟ้าครับ”สีหน้าของพิมลวรรณเจื่อนลงเล็กน้อย และถูกแต่งแต้มด้วยความลำบากใจจนเต็มแน่นทุกอณู“น้องฟ้าเพิ่งขึ้นไปบนห้องน่ะพ่อใหญ่ แล้วก็คงไม่อยากพบพ่อใหญ่ตอนนี้หรอก”แววตาของอคิราห์ไหววูบ รู้สึกทรมานใจไม่น้อยเมื่อฟ้าลดาหมางเมินใส่ตนเองแบบนี้เมื่อก่อนฟ้าลดาเป็นฝ่ายที่ตามเขาตลอด แม้เขาจะพูดจาร้ายๆ ทำร้ายหัวใจของหล่อนแค่ไหน แต่หล่อนก็ไม่เคยแสดงทีท่าห่างเหินแบบนี้เลย“ผมมีเรื่องต้องคุยกับฟ้าจริงๆ ครับคุณแม่”“แม่เข้าใจ แต่ฟ้าบอกกับแม่แล้วว่ายังไม่พร้อมจะเจอหน้าพ่อใหญ่ตอนนี้”อคิราห์พูดไม่ออก รับมือกับสถานะมึนตึงของฟ้าลดาได้อยากเหลือเกิน“อ้อ แล้วน้องฟ้าก็ฝากบอกด้วยว่า พ่อใหญ่พร้อมจะหย่าเมื่อไหร่ก็ให้แจ้งมา น้องฟ้ายินดีจะให้ความร่วมมือเต็มที่”“ไม่ครับคุณแม่ ผมไม่ได้มีความคิดจะหย่ากับฟ้าเลยนะครับ”อคิราห์ค้าน ความหวาดกลัวบางอย่างแล่นพล่
ตอนที่ 24.หายไปไหนมาพ่อใหญ่ ถึงกลับบ้านเอาสายโด่งแบบนี้น่ะ” อมลวรรณถามลูกชายคนโตด้วยความร้อนอกร้อนใจ“ผมไปนอนที่บริษัทฯ มาครับ”“ทะเลาะอะไรกันกับหนูฟ้าใช่ไหม”ผู้เป็นลูกชายพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะตอบออกไปตามความจริง“ก็นิดหน่อยครับ แต่ตอนนี้ผมอารมณ์เย็นลงแล้วครับ ว่าจะไปคุยดีๆ กับฟ้าสักหน่อย”คนเป็นแม่ส่ายหน้าไปมา แววตาเต็มไปด้วยความเป็นกังวล“หนูฟ้ากลับบ้านไปตั้งแต่เช้ามืดแล้วล่ะ”“ฟ้ากลับบ้าน?”“ก็ใช่น่ะสิ พ่อใหญ่ทำอะไรน้องเหรอ ปกติหนูฟ้าไม่ใช่คนงี่เง่า เอะอะอะไรก็หนีแบบนี้เลยนะ”คนที่ยืนอยู่รู้สึกเหมือนกับหมดแรง เขาเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ใบหน้าเคร่งเครียด“ก็เมื่อวาน ผมเห็นเขาออกไปกับเพื่อนผู้ชาย ผมก็เลยโมโห”“หึงหนูฟ้า?”ผู้เป็นลูกชายช้อนตาขึ้นสบประสานกับมารดา ก่อนจะยอมรับออกมา“ครับ”“ถ้าหึง ก็คงต้องรักด้วย ใช่ไหมพ่อใหญ่”“ผม... ผมไม่แน่ใจครับ”“ยังจะมาปากแข็งอีก นี่ถ้าพ่อใหญ่ไม่พูดอะไรออกไปบ้าง พ่อใหญ่อาจจะต้องเสียหนูฟ้าไปนะ”“ผมกับฟ้าแต่งงานกัน จดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ฟ้าจะหนีผมไปไหนได้ล่ะครับ อย่างน้อยก็แค่บ้านพ่อแม่ตัวเอง”อมลวรรณมองลูกชายอย่างหมั่นไส้“อว