ของเก่า
ฉันจ้องดูหน้าจอโทรศัพท์ด้วยหัวใจที่วูบไหว มันรู้สึกหน่วง ๆ แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่ยอมแพ้ และยังคงหวังให้เขากลับมา ในชีวิตของฉันไม่เคยมีใครที่ดีกับฉัน คอยปกป้องดูแลคอยให้คำปรึกษา นอกจากพี่ตั้ง แต่เขาก็กลับด่วนจากฉันไป ตอนนั้นฉันก็รู้สึกว่าไม่เหลือใครอีกแล้ว พ่อก็ไม่ค่อยสนใจ ท่านทำแต่งาน แล้วยังคอยกดดันให้ฉันในการเรียนตลอด ฉันราวกับคนที่ยืนอยู่ในที่มืดเพียงลำพัง จนกระทั่งได้มาพบกับพี่ทอย ผู้ชายคนเดียวและคนแรกที่ฉันรัก เขาทำหน้าที่แทนพี่ชายฉันเป็นอย่าง.เขาเป็นทุก ๆ อย่างให้กับฉัน แน่นอนว่าฉันไม่มีทางลืมเขาได้ ถึงแม้เหตุผลการบอกเลิกมันทำให้ฉันเสียใจมาก แต่ลึก ๆ ในใจฉันเชื่อว่าไม่ใช่เหตุผลที่เขาพูด มันต้องมีอะไรแน่ ๆ พี่ทอยไม่ใช่คนที่พูดจาทำร้ายใคร ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ทั้งที่ผ่านมาตลอดเวลาที่คบกัน เราไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้ง
ฉันขับรถต่อไปยังร้านอาหารที่เคยไปทานประจำกับพี่ตั้งเมื่อตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ ระหว่างฉันเหลือบเห็นโรงเรียนมัธยมที่พี่ตั้งเคยเรียน ซึ่งตอนนั้นฉันกับเขาเรียนคนละโรงเรียนกัน เพราะพ่อส่งฉันไปเรียนโรงเรียนสตรีล้วน จุดประสงค์ของพ่อคงจะรู้ดี ท่านไม่ต้องการให้ฉันมีแฟนในวัยเรียนนั้นเอง
พอเห็นตึกที่คาดว่าพี่ตั้งกระโดดลงมาก็รู้สึกเศร้าใจ ทำไมเพื่อนของเขาไม่ห้ามการกระทำสิ้นคิดของพี่ชายฉันเลย เอ๊ะ..เพื่อนภาพในหัวก็มีใบหน้าชายหนุ่มที่ฉันเพิ่งเจอที่เก็บอัฐิพี่ตั้งขึ้นมา
"เขาเป็นเพื่อนพี่ตั้ง?"ภาพในอดีตก็ผุดขึ้นมาในหัว.
.
.
ระหว่างที่ฉันกับพี่ตั้งทานอาหารอยู่ร้านประจำ (ซึ่งตอนนี้ที่ฉันจะไป) ก็ได้มีเด็กนักเรียนชายมอปลายเดินเข้ามาทัก
"ไอ้ตั้ง.."เขาเดินมาที่โต๊ะแล้วเรียกพี่ตั้งก่อนจะตวัดสายตามองมาที่ฉัน
"....ร้ายไม่เบาเลยนะพาสาวมาออกเดตด้วย"ว่าจบก็ตบไหล่พี่ตั้งเบา ๆ
"สาวที่ไหนกันล่ะ...นี่น้องกู"เด็กนักเรียนชายมอ.ปลายหุบยิ้มแล้วผงกหัวเชิงขอโทษฉัน
"ว่าแต่มึงมากินข้าว?"พี่ตั้งหันไปถาม
"เปล่า..กูผ่านมาเห็นมึงก็เลยเข้ามาทัก"
"แล้วมากับใคร"พี่ตั้งถามต่อแล้วส่งสายตามองไปด้านนอกผ่านกระจก
"กูมากับไอ้รณ..ว่าจะไปบ่อนพ่อมัน"
"อืม"
"กูไปก่อนนะ..."แล้วหันมาที่ฉัน
"...พี่ไปก่อนนะครับน้องสาวคนสวย"
"ไปไกล ๆ ตีนเลยอย่ามายุ่งกับน้องกู"พอพี่ตั้งพูดจบเพื่อนของเขาก็หัวเราะออกมา
"เหอะ ๆ หวงน้องด้วยเว้ย ไปล่ะ"หลังจากเพื่อนเขาไป ฉันก็เอ่ยถามพี่ชายทันที
"พี่ตั้ง เพื่อนพี่ชื่ออะไรอ่ะ"พี่ตั้งมองแรงใส่ฉัน
"อยากรู้ไปทำไม"เสียงเข้มใส่ด้วย
"ก็แค่อยากรู้เฉย ๆ นานทีจะเห็นเพื่อนพี่...หล่อเหมือนกันนะเนี่ย"ประโยคท้ายฉันแสร้งพูดอยากดูปฏิกริยาพี่ชาย
"หยุดคิดเลย!..ตั้งใจเรียนอย่างเดียว"
"เฮ้อ...แล้วตกลงเขาชื่ออะไร"ฉันก็ยังอยากรู้
"กั้ง...รีบกินข้าวจะได้กลับไปอ่านหนังสือต่อ"สุดท้ายแล้วฉันก็ได้ชื่อเพื่อนพี่ชายตามที่ขอ
.
.
พอฉันมาคิด ๆ ดู เพื่อนพี่ตั้งที่ฉันเจอในวันนี้เขามาหาพี่ตั้งเหมือนกันเหรอเนี่ย เป็นคนดีจังที่ยังคิดถึงเพื่อน
ฉันขับรถมาถึงร้านอาหารที่อยากทาน พอเข้ามาในร้านก็หาที่นั่งแล้วสั่งอาหารทันที เพราะหิวมาก หลังจากทานเสร็จก็ขับรถไปยังอู่ซ่อมรถ ซึ่งก่อนหน้าฉันแสร้งจะโทรไปถามทางกับพี่ทอยสักหน่อย ตัดสายฉันเฉย แต่ช่างเถอะ
ฉันได้ถามทางจากช่างเรียบร้อยแล้ว ระหว่างที่เลี้ยวรถเข้าไปในอู่ สายตาฉันก็สะดุดกับรถยนต์คันหรูที่คุ้นเคย
"พี่ทอย"ฉันรีบหาที่จอดรถ แล้วดับเครื่องลงจากรถอย่างรวดเร็วแล้วเดินไปหาเขา. ซึ่งเขากำลังยืนคุยกับช่างอยู่
"นั่นไงเจ้าของรถมาแล้ว"ช่างพูดขึ้นแล้วชี้มาที่ฉันระหว่างที่พี่ทอยหันหลังมามองด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะหันกลับไปบอกกับช่างว่า
"ไม่มีอะไรแล้วงั้นผมขอตัวก่อน"จากนั้นก็หันหลังก้าวขาเดินสวนกับฉัน โดยไม่ชายตามองฉันเลย หมั่บ! ฉันจึงรีบคว้าแขนเขาเอาไว้
"จะรีบไปไหนล่ะคะ"ชายหนุ่มร่างสูงหลุบตามองมือฉันที่จับแขนเขา
"ต้องรัก..."
"คุยกับต้องก่อนได้ไหม"ฉันแทรกพูดขึ้นก่อนเขาจะพูดจบ
"ปล่อย!"
"ปล่อยก็ได้...แต่พี่อยู่คุยกับต้องก่อนนะ"
"ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอ"
"พี่มาที่นี่ทำไม..."ฉันยอมปล่อยแขนแล้วเดินมายืนอยู่ตรงหน้าเขา
"...อย่าบอกนะว่าพี่เป็นห่วงรถของต้องก็เลยมาดูให้"พูดจบฉันก็คลี่ยิ้มหวาน ชายหนุ่มร่างสูงเบือนหน้าหนีแล้วลอบหายใจ
"เพ้อเจ้อ..ฉันจะมาดูรถของ'แฟนเก่า'ให้ทำไมกัน"เขาเน้นคำว่าแฟนเก่า
"ก็พี่ยังรักต้องอยู่ไง"
"หน้าด้าน...ฉันนี่นะจะยังรักเธอ รู้ไหมว่าฉันตีเธอเป็นของเก่าไปแล้วด้วย"ใช่ ฉันหน้าด้าน และตอนนี้ก็หน้าชาด้วย
"คุณต้องรักครับ.."ฉันหันไปที่ช่าง
"...เชิญทางนี้หน่อยครับ'
"ค่ะ"ฉันตอบรับแล้วหันไปที่ชายหนุ่มตรงหน้า
"คอยดูนะ...ต้องจะทำให้พี่กลับมารักต้องให้ได้"พูดจบ ฉันก็เดินฉีกยิ้มไปหาช่าง
.
.
.
TOY
พอหญิงสาวเดินไป ชายหนุ่มก็หันไปมองแผ่นหลังเธอด้วยสายตาที่รู้สึกผิด
"พี่ไม่มีทางจะกลับไปรักเธอได้อีกแล้วล่ะ...ต้องรัก"ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนที่จะเดินออกมาจากอู่ ระหว่างที่เดินไปยังรถของตน เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ครืนนน ครืนน
เขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบมันขึ้นมา 'รณ' น้องชายต่างมารดาของเขาเมื่อเห็นสายที่โทรเข้า ก็รีบกดรับทันที
"ว่าไง"
(เจอตัวไอ้กั้งแล้ว)
"ที่ไหน"ชายหนุ่มรีบเอ่ยถามทันที
(แถว..xxx)
"จะรีบไป"สิ้นเสียงก็กดวางสายแล้วขึ้นรถขับไปที่นั้นทันที
ทินภัทรขับรถมาถึงสถานที่น้องชายบอกว่าเจอเพื่อนเก่าที่นี่ พอมาถึงก็เจอกับรณกรน้องชาย จึงรีบเดินไปหาทันที
"ไอ้กั้ง?"
"มันเห็นฉัน..มันก็หนีไปเลย"
"ทำไมไม่จับมันไว้"คนเป็นพี่เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์
"ทำไมต้องจับ...มันเป็นผู้ร้าย?"คนเป็นน้องพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ทำให้คนเป็นพี่ต้องพ่นหายใจออกมาพรืดใหญ่
"เรื่องมันก็ผ่านไปนานแล้ว..นายอยากจะรู้อะไรอีก"
"พี่แค่อยากรู้ว่ามันขึ้นไปบนนั้นกับไอ้ตั้งทำไมมันไม่ห้าม"
"นายเห็นเหรอว่ามันขึ้นไป"
"ฉะ..ฉันเห็นหลังจากที่เกิดเหตุมันวิ่งลงมาจากบันไดหนีไฟ"เมื่อนึกเหตุการณ์ในอดีต ทินภัทรก็รู้สึกเศร้า
"เฮ้อ...ลืม ๆ มันไปได้แล้ว"
"..."คนเป็นพี่ก้มหน้ายืนนิ่ง
"ได้ข่าวว่าต้องรักกลับมาแล้ว..นายเจอเธอหรือยัง"
"อืม"
"แล้วจะกลับไป..."
"ไม่มีวันนั้น...นายก็รู้ดีนิ"
"เฮ้อ"คนเป็นน้องถอนหายใจออกมา
"อีกอย่างนายก็รู้ว่าฉันมีแฟนแล้ว"
"นายคิดว่าไผ่มีนายคนเดียว?"ทินภัทรจ้องหน้าแล้วขมวดคิ้วมองรณกร
"ทำแต่งานสินะ..ว่าง ๆ ก็ไปดูแฟนบ้าง"
"นายจะพูดอะไร"
"อยากให้เห็นเอง"
"ไผ่ไม่ใช่คนแบบนั้น"
"นั่นสินะ...กลับบ้านไปหาลูกเมียดีกว่า"ว่าจบ คนเป็นน้องก็เดินล้วงกระเป๋าออกมา
ตอนจบ"เธอคิดเราจะไปปั๊มลูกที่ไหนกันดี"พอสิ้นเสียงฉันก็พลิกตัวหันไปที่สามีทันที"พี่หมายความว่าอะไร"ฉันขมวดคิ้วเอ่ยถามสามีสุดหล่อที่ยืนอมยิ้มตรงหน้า"ฮันนีมูนน่ะ..เธออยากไปที่ไหน""แล้วเกี่ยวอะไรกับทำลูก?"พูดจบสามีสุดหล่อก็กลั้วหัวเราะออกมาอย่างมีเลศนัย"เหอะ...ก็พ่อเธออยากอุ้มหลานไม่ใช่เหรอพี่ก็เลยอยากให้ท่านสมหวัง""ชิว์ คนบ้ากาม"ฉันพึมพำแล้วจัดการถอดเครื่องประดับตัวเองต่อ"ให้พี่ช่วยถอดเสื้อผ้าให้ไหม"เสียงทุ้มแฝงเซ็กซี่ดังเข้ามาข้าง ๆ ใบหู"พี่ทอย..ต้องเหนื่อย"ฉันรู้เจตนาของสามีว่าเขาต้องการอะไร จึงแย้งทันที"แต่พี่ไม่เหนื่อย พี่ทำให้เธอได้""เฮ้ออออ"ฉันพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่"ให้พี่ถอดให้นะ"ปากว่าแต่มือรูดซิบชุดราตรีที่ด้านหลังลงแล้วคืนเข้าหอ ฉันก็ไม่รอดพ้นน้ำมือพี่ทอย เขาจัดหนักจัดเต็มราวกับคนหิวโหย ปึก ปึก ปึก"อื้ออออ พี่ทอยพอได้แล้ว"ฉันใช้มือผลักหน้าอกแกร่งในขณะที่สามีป้ายแดงกำลังจะสอดท่อนเอ็นเข้ามาอีกครั้ง"อีกรอบเดียว..พอเลย"คนบนร่างพูดด้วยน้ำเสียงกระเส่า แล้วพอพูดจบ พรวด! ท่อนยักษ์ก็ได้สอดแทรกเข้ามาที่ร่องแคบของฉันแล้ว."อ่า~" ปึก ปึก ปึกเช้าวันต่อมาพี่ทอยพาฉันออกจากโรง
แต่งงานแผลที่ขาฉันดีขึ้นมากแล้ว พี่ทอยที่คอยแวะเวียนมาคอยดูแลฉันอยู่ตลอดหลังจากออกโรงพยาบาล. จึงได้บอกกับพ่อของฉันว่าจะพาพ่อของเขาและน้าเรอามาคุยเรื่องการสู่ขอ ซึ่งพ่อก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร เพราะหลังมานี้ท่านดูเอ็นดูพี่ทอยขึ้นมามาก และทำท่าอยากจะได้เป็นลูกเขยใจจะขาดวันนี้แหละเป็นวันที่พี่ทอยจะพาครอบครัวมา ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายแล้วฉันจะได้ลงเอยกับรักแรก ที่เคยเลิกลากันมาแล้วครั้งหนึ่งก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังมาจากนอกห้องพร้อมกับเสียงเรียกของป้าแม่บ้าน"คุณหนูต้องแต่งตัวเสร็จหรือยังคะ"ฉันลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตูทันที"เรียบร้อยแล้วค่ะ""พวกเขามากันแล้วค่ะคุณหนู รีบลงไปกันเถอะ"ฉันคลี่ยิ้มหวานแต่ภายในใจรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย ก้าวขาเดินตามป้าแม่บ้านลงมาจากห้อง.พอมาถึงที่ห้องรับแขกก็ได้พบกับพ่อพี่ทอยแล้วน้าเรอาจึงรีบยกมือไหว้ ก่อนที่จะนั่งลง.จากนั้นการเจรจาก็เริ่มขึ้น เราปรึกษาหารือกันร่วม ๆ สองชั่วโมง จึงได้ข้อสรุปว่า งานแต่งของฉันกับพี่ทอยจะเกิดขึ้นภายในสามเดือนข้างหน้า พี่ทอยยิ้มไม่หุบ กุมมือฉันไว้ตลอดเลยหลังจากตกลงกันเรียบร้อย พ่อฉันก็ชวนครอบครัวพี่ทอยทานข้
ยอมรับ"แฟนเก่าแก่น่ะ"ฉันได้ยินที่พ่อบอกก็หลุดหัวเราะออกมา"คิกคิก""จะให้เข้ามาไหม"จากนั้นพ่อก็ถามกลับมา"ให้เข้ามาสิคะ"ฉันพูดพร้อมกับฉีกยิ้มหลังจากที่พ่อรู้ว่าพี่ทอยไม่ได้เป็นคนที่ทำให้ลูกชายของท่านเสียชีวิต จึงลดทิฐิลงยอมเปิดใจรับฟังเรื่องราวพี่ทอยจากปากฉัน ซึ่งฉันก็รู้สึกดีใจและเล่าเรื่องของฉันกับพี่ทอยให้พ่อฟัง.ว่าเจอกันยังไง ใครจีบใครก่อน จนกระทั่งตอนที่เขาบอกเลิกโดยที่ตอนนั้นฉันเองก็ไม่รู้เหตุผล คอยไปดักเจอเขาจนเสียการเรียน ก็เป็นสาเหตุที่พ่อส่งฉันไปเรียนเมืองนอก พอฉันกลับมาก็ได้เจอเขาอีกครั้ง แต่ไม่ได้เล่าถึงความร้ายกาจที่พี่ทอยทำกับฉันนะ กลัวพ่อจะเกลียดเขา และกลัวว่าจะไม่ยอมให้เราคบกัน ถึงแม้ฉันก็ยังมาความแค้นใจอยู่บ้างตึก ตึก เสียงฝีเท้าหนักเดินเข้ามา ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาคลี่ยิ้มให้ฉันแบบเจื่อน ๆ"มีธุระอะไร"พี่ทอยหันขวับกลับไปที่คนถาม."เอ่อ..คือผมอยากมาเยี่ยมน้องอ่ะครับ"น้ำเสียงนุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยความประหม่า ฉันนั่งมองแฟนหนุ่มแล้วคลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเขาดูเกร็ง ๆ พออยู่ต่อหน้าพ่อของฉัน"...."พ่อฉันไม่พูดอะไรเลือกที่จะส่ายหน้าแล้วเดินไปนั่งที่โซฟามุมห้อง พี่ทอยยืนมอ
ความจริง 2TOYตกเย็นผมก็รีบเก็บของเตรียมตัวไปหาไอ้กั้งทันที วันนี้ในหัวผมคิดแต่เรื่องที่มันพูด ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินออกจากห้องทำงาน ก็สวนเข้ากับรณ น้องชายต่างมารดาของผมเข้า"ดูรีบร้อน..จะไปไหน"มันถามด้วยสีหน้านิ่งเรียบ"ไปหาไอ้กั้ง"ผมตอบกลับพร้อมกับจะก้าวขาเดิน แต่น้องชายต่างมารดาก็คว้าแขนผมไว้"มันออกมาแล้ว?"ผมผงกหัวรับ"ใครพามันออกมา ได้ยินว่าอามัน...""ไม่รู้เหมือนกัน ก็จะไปถามมันอยู่นี่ไง"ผมพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิดเพราะตอนนี้ผมอยากจะไปเจอกับเพื่อนเก่าที่เคยร่วมชั้นเรียนแล้ว."ฉันไปด้วย"พูดจบ ไอ้น้องชายหน้านิ่งก็เดินนำหน้าผมไป"เฮ้อ"ผมพ่นลมหายใจพรืดใหญ่แล้วจำยอมให้มันไปด้วย"มันพูดอะไรบ้าง"ระหว่างที่ผมขับรถน้องชายหน้านิ่งก็เอ่ยถามขึ้นมา"มันจะบอกความจริงเรื่องการตายของไอ้ตั้ง"พูดจบรณก็หันขวับมาที่ผม"การตายของไอ้ตั้ง?"แล้วพึมพำเบา ๆ"อืม..มันต้องรู้อะไรแน่"สิ้นเสียงผมก็รีบเหยียบคันเร่งทันทีเพื่อจะไปให้ถึงเร็วที่สุดพอมาถึงผมกับรณก็รีบลงจากรถแล้วเดินขึ้นบันไดหนีไฟไปยังชั้นดาดฟ้า"แฮ่ก ๆ"กว่าจะถึงผมกับรณก็ยืนหอบกันใหญ่"แก่แล้วก็งี้แหละ"ผมหันไปบอกกับน้องชายหน้านิ่ง."ฉันยังไม่แก่"พู
ความจริงเช้าวันต่อมาประธานบริษัทใหญ่ เดินทางมายังที่โรงพักซึ่งเป็นสถานที่กักคุมเพื่อนของลูกชาย การมาของเขาครั้งนี้ก็เพราะมายื่นประกันตัวชายหนุ่มรุ่นลูกด้วยความสงสาร และเห็นใจ โดยเขาได้ให้ตำรวจเปลี่ยนสำนวนคดีจากการพยายามฆ่า เป็นแค่ทำร้ายร่างกายเท่านั้น จากนั้นก็ให้ทนายยื่นประกันตัวคดี ฉ้อโกง รวมถึงการทำร้ายร่างกายเขาและลูกสาวหลังจากที่ประกันตัวเรียบร้อย กั้งก็ได้เดินออกมาด้วยสีหน้าเศร้า ดวงตาแดงก่ำ วิโรจที่รู้สึกรักและเอ็นดูลูกชายของเจ้านายก็รีบเดินเข้าไปหาด้วยความดีใจ"ขอบคุณนะครับอาโรจ"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น และรู้สึกเสียใจ ที่พอได้รู้ความจริงทุกอย่างจากปากคนสนิทของพ่อตัวเอง.ว่าโดนอาแท้ ๆ หลอกใช้ ยังรู้อีกว่าเขายังมีส่วนร่วมในการตายของพ่อแม่อีกด้วย"คนที่คุณกั้งควรจะขอบคุณก็คือคุณต้อ"วิโรจบอกพร้อมกับหันไปที่ประธานบริษัทใหญ่ จากนั้นชายหนุ่มรุ่นลูกก็เดินไป แล้วคุกเข่า"จะทำอะไร..."ประธานวัยกลางคนเอ่ยถามด้วยสีหน้าตกใจ แต่ชะงักอึ้ง เมื่อชายหนุ่มรุ่นลูกก้มกราบเท้าของเขา"ผมขอโทษ...ฮึก"ชายหนุ่มรุ่นลูกเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเทาพร้อมกับกลั้นร้องไห้ แต่น้ำตาก็ยังไหลออกมา เงยมองหน้าพ่อของเพื
อยากมีลูก"ถ้าอายงั้นให้พี่อาบเป็นเพื่อนไหม"โอ๊ย ฉันเขินจะบ้าอยู่แล้ว ทำไมมีทอยของฉันแพรวพราวแบบนี้นะ"อย่ามาหื่น! ต้องเจ็บอยู่นะ"ฉันเอ็ดเขาแล้วก้มมองไปยังแผลที่อยู่ยิงมาตรงขา"แค่อาบน้ำเป็นเพื่อนไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย"คนตัวโตพูดขึ้นพร้อมกับไหวไหล่ราวกับว่าที่เขาพูดเป็นเรื่องปกติ"ออกไปได้แล้ว..ต้องจะอาบน้ำเอง""แต่พี่อยากอาบน้ำให้"พี่ทอยสวนกลับมาทันที"เฮ้อ"ฉันพ่นลมหายใจหนักใส่เขา"นะครับ"เขาส่งน้ำเสียงที่ออดอ้อน"ก็ได้"สุดท้ายฉันก็ใจอ่อน เพราะรักเขาแหละพี่ทอยปลดเปลื้องเสื้อผ้าของฉันจนถึงชิ้นสุดท้ายที่เป็นกางเกงชั้นใน ฉันเขินนะแต่พยายามทำให้ตัวปกติ เพราะอยากจะอาบน้ำให้มันเสร็จไว ๆ"อีกหน่อยพอเราแต่งงานกัน..."แฟนหนุ่มพูดในขณะที่ถอดกางเกงชั้นในฉันออกจากขาซึ่งต้องทำอย่างเบามือเพราะมีแผล."...พี่จะอาบน้ำกับเธอทุกวันเลย""ตลกล่ะ"ฉันสบถออกมาเบา ๆ"ไม่ตลกพี่จริงจัง พออาบน้ำเสร็จก็เอากันต่อ"เพียะ! ฉันตีเขาที่แขนทันที"เหอะ ๆ"พี่ทอยกลั้วหัวเราะด้วยสีหน้าแสดงออกว่าเขาชอบใจที่ทำให้ฉันเขินแฟนหนุ่มอาบน้ำให้ฉันอย่างระมัดระวัง เขาบีบเจลอาบน้ำใส่มือแล้วถูตัวฉันเบา ๆ"สระผมด้วยไหม...."เสียงทุ้มเอ่