“พี่ขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ…”พี่คีรีหันมาเอ่ยบอกฉันพร้อมกับชูโทรศัพท์เครื่องหรูของเขาให้ฉันดู
“ค่ะ^_^”ฉันยิ้มพร้อมกับพยักหน้าให้พี่คีรี เขาก็ยิ้มให้ฉันอย่างสุภาพบุรุษและเดินออกไปจากห้องนอนบนชั้นสองของฉัน ฉันเมื่อพี่คีรีไปแล้วก็หันกลับมาจัดแจงข้าวของของฉันต่ออย่างไม่ให้เสียเวลส “ที่นอนก็ใช้ได้นะ…ถึงจะไม่นุ่มเหมือนที่บ้านเราก็เถอะ…”ฉันพึมพำออกมาพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งบนที่นอนของฉันที่เป็นขนาดเตียงนอนห้าฟุตได้ถูกปูด้วยผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตา มีหมอนสองใบหมอนข้างหนึ่งลูกและผ้านวมอีกหนึ่งผืน ฉันเอามือลูบไปบนที่นอนและนึกถึงความสุขสบายเวลาที่อยู่บ้านของฉันที่ฉันอยู่มาตั้งแต่เกิด แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อคุณแม่ของฉันท่านไม่ได้แคร์ความรู้สึกของฉันเลยสักนิด ท่านไม่ถามฉันสักนิด…ว่าฉันอยากจะมีพ่อใหม่หรือเปล่า พรึบ “น้องเอยคะ!” “คะ?”ฉันรีบหันไปมองหน้าพี่คีรีที่เขาวิ่งกระหืดกระหอบมาตรงหน้าของฉันด้วยท่าทางรีบร้อนหน้าตาของเขาดูเคร่งเครียดนะ “พี่คีรีมีอะไรหรือเปล่าคะ?” “คือว่าพี่…มีธุระด่วนนะคะ…”พี่คีรีตอบฉันมาด้วยสีหน้าวิตกกังวล “อ้อค่ะ…งั้นพี่คีรีไปทำธุระเถอะค่ะ..ที่เหลือเดี๋ยวเอยจัดการต่อเองค่ะ…”ฉันเอ่ยบอกพี่คีรีไปพร้อมกับยิ้มให้เขา “ไม่ต้องห่วงเอยหรอกคะ…แค่นี้สบายๆมาก…” “ค่ะ…งั้นพี่ไปก่อนนะคะ…แล้วเดี๋ยวพี่เสร็จธุระแล้วโทรหา…” “ค่ะ…” “น้องเอยไม่ต้องไปส่งพี่หรอกครับ…น้องเอยอย่าลืมปิดบ้านใส่กลอนให้แน่นหนานะ…”พี่คีรีว่าด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง ฉันก็ยิ้มและลุกขึ้นยืน “รับทราบค่ะ^_^” พรึบ “ครับ…พี่เป็นห่วงนะ^_^”พี่คีรีว่าพร้อมกับยื่นมือมาลูบศีรษะของฉันอย่างแผ่วเบา “ค่ะ…รีบไปเถอะค่ะ…เดี๋ยวจะไปสายนะ^_^” “ครับ…ไว้พี่โทรหานะคะ^_^” “ค่ะ…ขับรถดีๆนะคะ^_^” “ครับ…บ๊ายบายครับ^_^” “บ๊ายบายค่ะ^_^”ฉันยกมือพร้อมกับยิ้มกว้างให้พี่คีรีไป เขาก็ยิ้มให้ฉันก่อนจะหันหลังและเดินออกจากห้องของฉันไป ฉันก็มองตามแผ่นหลังกว้างของพี่คีรี ฉันกับพี่คีรีคบกันมาได้สามปีแล้ว ที่จริงเราสองคนรู้จักและเติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เด็กน่ะ คุณพ่อของฉันกับคุณพ่อของพี่คีรีเป็นเพื่อนรักที่สนิทกันมาก เราสองคนเลยสนิทกันและเป็นเพื่อนเล่นกันมาตลอด จนกระทั่งพี่คีรีไปเรียนต่อเมืองนอก เราสองคนก็เลยต้องห่างกันไป จนกระทั่งพี่คีรีกลับมา เราสองคนมีโอกาสได้พบกันอีกครั้งในตอนที่เราทั้งคู่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว พี่คีรีเป็นฝ่ายเข้ามาคุยกับฉันก่อนและเราสองคนที่เคยเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยสนิทกันเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งพี่คีรีขอฉันเป็นแฟน เราเลยลองเปลี่ยนสถานะจากพี่ชายน้องสาวมาเป็นแฟนกัน เราก็คบกันนานมากเลยนะ ตั้งสามปีแหนะ พี่คีรีเป็นผู้ชายที่มีความเป็นสุภาพบุรุษมาก เอาใจเก่ง ใส่ใจฉันทุกรายละเอียดและที่สำคัญเขาเสมอต้นเสมอปลายกับฉันมากเลยล่ะ ฉันเลยรักเขาจนหมดใจ^_^ มีเเฟนทั้งหล่อทั้งแสนดีแบบนี้ ใครไม่รักก็บ้าแล้ว^_^5ปีต่อมา…ประเทศไทย….17:30น.บ้านAขวัญเอย กมลวรรณ….. ติ๊ด…“ฮัลโหลค่ะ…คุณแม่…”ฉันเอ่ยขานรับคุณแม่ไปในขณะที่กดรับสายคุณแม่พร้อมกับเอาโทรศัพท์แนบหูไปด้วย มือก็ยุ่งๆอยู่กับอาหารในกระทะ ที่ฉันตั้งใจทำมันสุดฝีมือ(ลูกรู้หรือยังว่าพรุ่งนี้เคนโซจะกลับมาแล้วนะ^_^)คุณแม่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจ ฉันก็ยิ้มกริ่มออกมา “รู้แล้วค่ะ…เคนบอกหนูแล้ว…”(รู้เหมือนกันเหรอจ๊ะ…เห็นเคนโซแอบบ่นกับแม่บ่อยๆนะว่าเราน่ะทำท่าทางหมางเมินห่างเหินกับเขา)(ถามคำตอบคำเหมือนไม่ค่อยเต็มใจจะคุยกับเขาสักเท่าไหร่…และก็ไม่สนใจเขา)คุณแม่ฉันร่ายยาวบ่นฉันมาเป็นชุด เคนโซนี่ขี้ฟ้องชะมัด! ต่อหน้าฉันล่ะทำเป็นกลัวฉันไม่เห็นพูดอะไรเลยเชอะ!“ก็หนูยุ่งหนิคะคุณแม่…ตอนนี้ที่บริษัทกำลังเปิดตลาดใหม่หนูก็ต้องทุ่มเทเวลาให้กับงานอยู่แล้ว…”ฉันเอ่ยบอกคุณแม่ไปตามความจริง พลางใช้ตะหลิวกลับเนื้อหมูสี่เหลี่ยมในกะทะให้มันพลิกเปลี่ยนด้านเพื่อให้สุกไปด้วย(ลูกก็ควรจะแบ่งเงลาของลูกไปให้เคนโซเขาบ้างนะจ๊ะ…เดี๋ยวเขาจะหาว่าลูกไม่รักเขานะ)“แม่คะ…เราโตกันทั้งคู่แล้วนะคะ…เราควรจะแยกแยะให้ออกและควรคิดให้ออกด้วยเช่นกัน…”ฉันว่าเสียงเข้มจริงจัง เพราะฉันอยากใ
1ปีต่อมา….สหรัฐอเมริกาLos Angelesมหาวิทยาลัยชื่อดังของแอลเอ….17:30น.เวลาของสหรัฐอเมริกา…เคนโซ คิณภพ…..พรึบ“มิสเตอร์เคน!”เสียงเข้มเอ่ยทักทายผมพร้อมกับแรงจับไหล่ผมเพื่อรั้งผมไว้ก่อนที่ผมจะก้าวขึ้นรถสปอร์ตของผมเพื่อจะกลับบ้านของผมตอนนี้ผมมาเรียนที่แอลเอได้หลานเดือนแล้ว โดยที่ผมมาเรียนคนเดียวโดยไร้เพื่อนไร้ญาติ ไร้มิตรและไร้คนรักของผม“แม็กซ์?”ผมหันไปมองเสียงอันคุ้นหู ก็ต้องเอ่ยเรียกชื่อของหนุ่มเมืองหนาวนัยน์ตาสีน้ำเงินคนสัญชาติอเมริกันรูปร่างสูงใหญ่ผิวขาวหน้าตาดีกำลังยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ผมอยู่ผมรู้จักกับแม็กซ์จากการเรียนคลาสเดียวกัน เขาเป็นเพื่อนที่ผมพอจะพูดปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องเรียนได้เป็นอย่างดี เพราะผมไม่ใช่คนที่เรียนเก่งอะไร เพราะตอนเรียนผมติดวิเวียนเลยทำให้ผมไม่สนใจการเรียนสักเท่าไหร่แต่ตอนนี้ผมได้กลับกลายเป็นคนใหม่แล้ว คนที่ดีของพี่เอย ผมกับเธอหมั้นกันได้มาหนึ่งปีเต็มแล้ว พอเธอเรียนจบปริญญาตรีที่ไทยเธอก็รีบเรียนต่อปริญญาโทที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษตามแบบแผนชีวิตที่เธอวางเอาไว้ผมเองก็มาเรียนมหาลัยที่แอลเอตามคำสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพี่เอย ว่าผมจะเรียนให้จบทั้งปริญญาตรีและปริญ
คุณพ่อพาฉันมาหยุดยืนตรงหน้าของเคนโซที่เขายืนรอรับฉันอยู่ วันนี้เขาแต่งตัวหล่อดูดีจัง เคนโซสวมใส่โจงกระเบนสีทับทิมแดงและเสื้อไหมแขนยาวสีทับทิมแดงเช่นกัน เพื่อให้เข้ากับชุดไทยของฉันใบหน้าใสหล่อถูกเซ็ตผมให้เปิดหน้าผากขึ้นเพื่อเผยใบหน้าเรียวที่เป็นเบ้าหน้าฟ้าประทานให้คนอื่นได้เชยชม“วันนี้พี่เอยของผม…สวยมากเลยครับ^_^”เคนโซเอ่ยชมฉันเขามองฉันด้วยแววตาตื่นตะลึงและอึ้งในความสวยของฉัน ฉันก็กรีดยิ้มหวานให้เขา“ฉันสวยทุกวันอยู่แล้วยะ^_^”ฉันเบะปากพร้อมกับเอ่ยบอกเคนโซไปด้วยท่าทางมั่นใจ คุณพ่อณรงค์ก็แอบขำออกมาทำให้ฉันหันไปมองท่านอย่างงอนๆที่ท่านขำฉัน“อ่ะ…พ่อขอส่งต่อให้เคนโซล่ะกัน^_^”คุณพ่อณรงค์ว่าพร้อมกับยื่นแขนของท่านข้างที่ฉันคล้องอยู่ให้เคนโซ“ด้วยความยินดีครับ^_^”เคนโซก้มศีรษะพร้อมกับเอ่ยออกมาและยื่นแขนมาให้ฉัน ฉันก็ปล่อยแขนของคุณพ่อและไปคล้องแขนเคนโซแทนและเราสองคนก็พากันเดินไปนั่งที่ทำพิธีการสู่ขอหมั้นหมายในครั้งนี้พรึบฉันกับเคนโซคลานเข่าบนพรมขนแกะนุ่มนิ่มสีขาวมาหยุดด้านหน้าของคุณพ่อคุณแม่ของเคนโซที่ท่านมองฉันและยิ้มอย่างใจดีให้ฉัน โดยฝั่งฉันก็มีคุณแม่ฉันและคุณพ่อณรงค์นั่งอยู่บนเก้าอี้คู่
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา….บ้านเช่าAงานหมั้นของ ขวัญเอยกับเคนโซ08:30น.ขวัญเอย กมลวรรณ….“วันนี้ลูกสาวของแม่สวยมากจ้ะ…สวยที่สุดเลย^_^”คุณแม่เอ่ยชมฉันขึ้นพร้อมกับมองฉันที่หมุนตัวให้คุณแม่ตรวจตราดูความเรียบร้อยอยู่ฉันก็ยิ้มบางๆให้คุณแม่ที่ท่านเป็นคนเลือกชุดและจ้างออแกไนท์เซอร์มาตกแต่งบ้านเช่าหลังนี้ให้ดูดีและสวยงามอย่างแบบไทยๆเพราะชุดที่ฉันเลือกใส่เป็นชุดไทยวันนี้ฉันสวมใส่ชุดไทยจักรพรรดิเฉดสีชมพูอ่อนเผื่อขับผิวที่ขาวอมชมพูของฉันให้ให้ดูเปล่งปลั่งและมีออร่าเพิ่มขึ้นไปอีก ชุดไทยของฉันใช้ผ้ายกทองแบบมีเชิงในการตัดเย็บ ส่วนสไบชั้นล่างรองด้วยผ้าแพร และชั้นบนเป็นสไบปักดิ้นลวดลายโชว์หัวไหล่ขาวเนียนผุดผ่องของฉัน ผมของฉันเลือกเป็นมันรวบตึงไว้ด้านหลังและสวมใส่เครื่องประดับครบยกเซ็ต ซึ่งประกอบไปด้วย ลูกไม้ปลายมือ 1 คู่ ปะวะหล่ำ 1 คู่ กำไล 1 คู่ รัดแขน สังวาล สร้อยคอ ทับทรวง ต่างหู ปั้นเหน่ง เข็มขัด ปิ่นปักผมซึ่งเป็นสีโทนเดียวกับสีชุดไทยของฉัน“ขอบคุณค่ะ…คุณแม่^_^”ฉันเอ่ยขอบคุณคุณแม่ ท่านก็ยิ้มปริ่มอย่างปลื้มใจก่อนจะอ้าแขนกว้างออก“ขอแม่กอดลูกหน่อย^_^”“ได้ค่ะ^_^”ฉันตอบคุณแม่ไปและเดินเข้าไปสวมกอดท่าน
เช้าวันต่อมา….08:00น.ห้องนอนขวัญเอยขวัญเอย กมลวรรณ…“อื้ออ…”ฉันค่อยๆขยับตัวไปมาอย่างยากลำบากเพราะมีมือหนาของเคนโซกอดแนบร่างของฉันอยู่ ฉันจึงทำได้เพียงแค่พลิกตัวหันกลับมานอนมองหน้าเขาที่ตอนนี้เขากำลังหลับตาพริ้มอยู่ฉันมองหน้าเขาและยิ้มออกมา จมูกโด่งคิ้วหนาริมฝีปากหยักสีชมพูผิวหน้าขาวใสผู้ชายคนนี้หล่อดูดีไม่มีที่ติจริงๆ^_^“นอนมองหน้าผมแบบนี้…คิดจะลักหลับผมเหรอครับ^_^”เคนโซเอ่ยเสียงทุ้มออกมาทั้งๆที่ดวงตาเขายังไม่เปิดมองฉันด้วยซ้ำ ฉันนี่รีบทำหน้าร้อนรนตกใจที่เขารู้ว่าฉันกำลังแอบมองเขาอยู่และรีบเสเเสร้งมองไปทางอื่น เขากระตุกรอยยิ้มที่มุมปากขึ้นก่อนจะกอดรัดเอวคอดของฉันแน่นขึ้นและให้เบียดเสียดแนบไปกับร่างกายที่เปลือยเปล่าของเขา ความอบอุ่นจากร่างกายของเขาแผ่ซ่านมาถึงผิวเนื้อของฉันให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายของฉันได้รับเช่นกัน“ฟอดดดด”ฉันหลับตาพริ้มรับสัมผัสที่กดลงมาแนบหน้าผากมนของฉันอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยนจากผู้ชายที่นอนกอดก่ายฉันอยู่“ผมรักพี่เอยนะครับ…”เคนโซผละใบหน้าออกมาจากหน้าผากของฉันอย่างช้าๆและเอ่ยเสียงนุ่มนวลบอกรักฉัน ฉันก็ยิ้มกริ่มกับคำบอกรักของเขาก่อนจะยื่นมือไปกอบกุมโครงหน้าหล่อขอ
พรึบ“อ๊าาาาห์….”คิณภพจ้องกมลววรณที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของเขาตาไม่กระพริบพร้อมกับร้องครางกระเส่าออกมาเมื่อเธอถอดกางเกงสแล็คของเขาออกไปจากท่อนล่างของเขาเรียบร้อยแล้วเหลือไว้เพียงกางเกงชั้นในสำหรับผู้ชายและเธอกำลังใช้ปลายจมูกโด่งสูดดมกลิ่นของลำกายใหญ่ที่ตั้งตระหง่านแข็งตัวจนมองเป็นลำกายได้อย่างชัดเจนอยู่ภายใต้กางเกงชั้นในสีขาวของเขา“กลิ่นหอมจัง….”คำพูดสื่อลามกของกมลวรรณทำให้คิณภพถึงกับหน้าแดงขึ้นมา เขามองการกระทำของเธอพร้อมกับความเสียวซ่านที่ร่างบางมอบให้เขาพรึบ“เดี๋ยวเอยจะทำความสะอาดให้นะคะ…”กมลวรรณว่าเสียงกระเส่าหลังจากที่เธอถอดกางเกงชั้นในออกมาจากท่อนล่างของคิณภพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมือเล็กของเธอกำลังกอบกุมลำกายใหญ่โตของเขาอยู่ในขณะนี้“ครับ…”คิณภพตอบเสียงแหบพร่า พลางแอ่นลำกายใหญ่สู้กับริมฝีปากนุ่มของกมลวรรณ เธอยิ้มกริ่มและค่อยๆยื่นปลายลิ้นเล็กร้อนของเธอตวัดเลียไปรอบๆบริเวณส่วนหัวสีชมพูที่เบ่งบานน้ำสีใสไหลซึมออกมาจากรอยแยกพอให้เธอได้ดื่มชิม“อ๊าาาาาาาห์…."คิณภพครางกระเส่าพร้อมกับเอื้อมมือไปจับศีรษะของกมลวรรณที่ตอนนี้เธอได้ดูดดื่มลูกบอลสองลูกน้อยของเขาอยู่เต็มโพรงปากของเธอ รส