แชร์

บทที่7.

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-14 21:22:54

บทที่7.

“คุณแม่ไปแล้ว คุณแม่ทิ้งพวกเราไปแล้ว นมขาแล้วเราจะอยู่ยังไง..”

“อย่าร้องค่ะคุณหนู ถึงไม่มีคุณแม่เราก็อยู่กันมาได้ไม่ใช่เหรอคะ ที่ผ่านมาเราไม่เคยได้พึ่งพาอะไรจากคุณแม่เลยนี่คะ ไม่มีพวกเขาเราก็อยู่กันได้ค่ะ เชื่อนมสิคะ” นวลตองยิ้มให้บางๆ ขวัญชีวาพยักหน้าอย่างยอมรับในโชคชะตาของตน 

“อีกอย่าง การจดทะเบียนสมรสของคุณหนูกับคุณธีโอก็ไม่ได้มีผลอะไรเพราะเขาไม่สนใจคุณหนูเลยสักนิดซึ่งก็เป็นการดีแล้วนี่คะ อีกอย่างคุณหนูมีสิทธิ์เต็มที่ในการบริหารจัดการที่นี่เหมือนเดิม แค่ห้าปีเท่านั้นแล้วไร่นี้ก็จะกลับมาเป็นของคุณหนูเหมือนเดิม และคราวนี้จะไม่มีใครเอามันไปได้อีก.. สู้ๆ นะคะ เพื่อไร่ดวงใจและคุณพ่อ..” นวลตองเช็ดน้ำตาออกจากแก้มใสของขวัญชีวาเบาๆ

“จริงด้วยค่ะ แบบนี้ชีวาก็สามารถทำอะไรได้ตามใจโดยไม่ต้องกลัวว่าคุณแม่กับคุณพี่ดุด่าเอา”

“จริงค่ะ แบบนี้ล่ะดีแล้วไม่มีคนใจร้ายคอยรังแก” พี่ต้อยพี่ติ่งเสริมทันด้วยด้วยรอยยิ้มสดชื่น

“ขอบคุณมากๆ นะคะทุกๆ คน” ขวัญชีวายิ้มกว้างด้วยความรู้สึกปรอดโปร่งมากขึ้น... หญิงสาวสูดหายใจลึกๆ มองไปรอบๆ ด้วยความหวังอันเรืองรอง...

ทางด้านคุณดวงพรที่หอบเงินสินสอดกว่าห้าสิบล้านก็เดินทางมาสมทบกับดวงชีวันที่คอนโดฯ หรูกลางกรุงด้วยความชื่นมื่นโดยไม่สนใจว่าคนที่อยู่เบื้องหลังว่าจะเป็นอย่างไร

“ดีจังเลยค่ะคุณแม่ ทีนี้เราก็จะมีเงินชอปปิงกันสนุกไปเลย”

“ใช่แล้วลูก อยากได้อะไรซื้อเลย” 

“เต็มที่เลยค่ะคุณแม่ขา..” แล้วสองแม่ลูกก็ตรงดิ่งไปที่ห้างสรรพสินค้าสุดหรูกลางกรุงด้วยความชื่นบาน สองแม่ลูกเดินเข้าออกร้านเสื้อผ้าแบรนด์หรูกระเป๋าแบรนด์ดังกันอย่างครื้นเครงใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือยด้วยความสุขสำราญ ในขณะที่ทางไร่ดวงใจกำลังเผชิญกับความยากลำบากอย่างที่สุด...

“เห็นทีเราจะต้องจัดการขายเครื่องเรือนบางชิ้นออกไปเพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายในไร่นะคะนม” ขวัญชีวาหน้านิ่วคิ้วขมวดปรึกษาหาทางออกกับคนในบ้านซึ่งเหลือเพียงแม่นมตองนวล พี่ต้อย พี่ติ่ง และลุงเชิด ผู้เป็นพ่อ ลุงเชิดนั้นก็ชรามากแล้ว

“ไม่ต้องขายหรอกครับคุณหนู เสียดายดูสิ เครื่องเรือนแบบนี้จะหาช่างฝีมือสมัยใหม่ทำเลียนแบบได้สวยเท่ารึก็หายาก เอาไปขายจะขายได้สักกี่บาทก็ไม่รู้ หากคุณท่านอยู่ก็คงไม่อยากให้ขายแน่ๆ” ลุงเชิดออกความเห็น

“จริงด้วยค่ะ คุณหนูชีวาอย่าขายเลยนะคะ พี่ว่าเราหาทางออกอื่นดีกว่า”

“ถ้าอย่างนั้นเราลองทำอะไรขายดีไหมคะ เงินก้อนที่คุณแม่ให้ไว้เหลืออยู่ไม่กี่พัน” ขวัญชีวาเสนอความคิดแล้วหยิบเงินในกระเป๋าผ้าซึ่งเธอเย็บเองออกมาเทต่อหน้าทุกคนแล้วนับจำนวนเพื่อให้แน่ใจว่าเงินที่เหลือจากการเคลียร์ค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าแรงคนงานที่ค้างคาอยู่นั้นเหลือมากน้อยเท่าไหร่

“เหลือตั้งห้าพัน” พี่ติ่งอุทานอย่างยินดี

“ใช่ค่ะ ตั้งห้าพันไม่ใช่แค่ห้าพัน” ตองนวลเอ่ยย้ำเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีคุณหนูผู้อาภัพของตน

“จริงด้วยค่ะ เงินห้าพันทำอะไรได้ตั้งเยอะ เงินเหรียญเศษที่เหลือก็เหลือตั้งหลายร้อย เรามาคิดกันดีกว่าค่ะว่าเราจะทำอะไรเพื่อต่อยอดเงินที่เรามี”

“ชีวาคิดว่าจะเอาส้มที่มีในไร่ไปขายแล้วแปรรูปเป็นอาหารหรืออะไรสักอย่าง เพราะเรามีวัตถุดิบแล้ว ดีไหมคะ”

“คุณหนูก็ทำสบู่ โลชั่น ครีมอาบน้ำสิคะ ในเมื่อทำใช้เอง เราก็ลองทำขายมั่งสิคะ”

“จริงด้วย ทำไมชีวาลืมไปนะ แต่ก่อนชีวาก็ทำขายให้เพื่อนๆ บ่อยๆ นี่นา ลืมไปได้อย่างไรกัน..” ขวัญชีวายิ้มกว้างเมื่อพอเห็นทางสว่างเรืองรอง

“ก็อาจจะลืมบ้างล่ะค่ะ เพราะคุณหนูทำอะไรๆ ตั้งหลายอย่างนี่คะ” แล้วทุกคนต่างก็ยิ้มให้กันด้วยความหวังและช่วยกันคิดหาทางทำเงินจากทุนที่มีอยู่ด้วยความแช่มชื่นขึ้นหลังจากที่เครียดกันมานาน...  สองปีผ่านไป...

เวลาผ่านผันไปอย่างรวดเร็ว ทุกๆ ชีวิตล้วนแต่ดำเนินไปตามวิบากกรรมของตนเอง ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขมนุษย์ทุกคนก็ย่อมจะได้รับรู้และผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นและไม่ว่าทุกข์หรือสุขก็มักจะเข้ามาแล้วผ่านไป จะนานหรือผ่านไปเร็วมันก็แล้วแต่ว่าบุคคลนั้นเรียนรู้ที่จะจัดการชีวิตของตนอย่างไร เช่นเดียวกับชีวิตของขวัญชีวาที่เริ่มจะดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้นเมื่อสามารถประคับประคองไร่ดวงใจและทำให้กิจการไร่ส้มที่ขาดทุนและสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะการก่อหนี้ของผู้เป็นแม่ให้ยังคงอยู่แม้เนื้อที่ของไร่จะลดน้อยลงและตอนนี้ในไร่ก็มีผู้อาศัยอยู่เพียงไม่กี่ชีวิต แต่ไร่ดวงใจยังคงได้รับการดูแลและปรับปรุงเอาใจใส่ดูแลจนแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

“มีเนื้อที่น้อยลงเราก็ดูแลได้ทั่วถึงมากขึ้นและไม่ต้องจ้างคนเยอะเหมือนเมื่อก่อน อีกอย่างตอนนี้เราก็มีกันแค่ห้าชีวิต นมว่าแบบนี้ก็ดีแล้วนะคะคุณหนู”

“ใช่ค่ะ อย่างน้อยๆ พื้นที่ที่ถูกขายไปก็อยู่ในมือของคนที่รู้คุณค่า ไว้ชีวามีเงินมากพอจะขอซื้อคืนจากพี่แดน” ขวัญชีวายิ้มบางๆ แล้วมองไร่ดวงใจที่เหลือเนื้อที่เพียงห้าสิบไร่จากสองร้อยไร่เศษในสมัยที่บิดาของเธอยังอยู่ซึ่งสมัยนั้นไร่ดวงใจรุ่งเรืองและทำเงินให้ครอบครัวของตนมหาศาลเลยทีเดียว 

“ผู้หญิงคนเดียว จะทำไหวหรือคะ ลำบากเปล่าๆ นมห่วงคุณหนูนะคะ..” นวลตองยังคงมองหญิงสาวตรงหน้าเหมือนดังเด็กหญิงชีวาผู้อาภัพอยู่ไม่เสื่อมคลาย ความรักความห่วงใยก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แม้ตอนนี้ขวัญชีวาจะอายุ 23 ปีแล้ว แต่ก็ยังเป็นคุณหนูชีวาเด็กหญิงตัวน้อยๆ ในสายตาของนางเสมอ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ขวัญชีวาซาตาน    บทที่ 75.  ตอนอวสาน

    บทที่ 75. ตอนอวสาน“ชีวาจ๋า พี่ผิดไปแล้ว ลูกจ๋า พ่อผิดไปแล้ว ต่อไปพ่อจะไม่พูดแบบนี้อีก พ่อรักน้องธามที่สุดในโลก..” ธีโอแทบใจขาดเมื่อเจอลูกชายเมินหน้าหนี ชายหนุ่มหน้าเศร้าซีดเซียวจนขวัญชีวาสงสารสามี“น้องธามครับ เลิกงอนคุณพ่อนะครับ เห็นไหมคุณพ่อจะร้องไห้เพราะน้องธามงอนแล้ว คนดีของคุณแม่ รักคุณพ่อนะคะ เลิกงอนนะลูก รักกันๆ นะคะ..” ขวัญชีวาก้มลงพูดกับลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนน่าฟัง ธีโอลุ้นอย่างหนักว่าลูกชายตัวน้อยจะเลิกงอนและหันกลับมามองเขาหรือยอมให้เขาอุ้มหรือไม่เพราะหลังจากที่หลุดปากพูดประโยคแย่ๆ นั้นออกไปน้องธามก็นิ่งเงียบไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้พอใครจะเข้าใกล้ก็สะบัดตัวเหวี่ยงแขนไปมาทั้งยังขว้างปาของเล่นใส่ทุกคนที่เข้าใกล้อย่างเกเร“น้องธามครับ ที่รัก คนดี พ่อทูนหัวลูกรักของพ่อมาหาพ่อนะครับน้องธามจ๋า..” ธีโอขยับไปใกล้แล้วโอบกอดทั้งแม่ทั้งลูกไว้ในอ้อมแขน น้องธามเงยหน้าขึ้นมองสบตาผู้เป็นพ่อดวงตาใสๆ นั้นทำให้หัวใจของผู้เป็นพ่อเต้นแรง ลูกชายตัวแสบนี่ช่างเหมือนเขาเสียจริงๆ แต่โครงหน้าก็มีแววหวานเหมือนขวัญชีวา ยิ่งดวงตาใสๆ เหมือนแม่นี่ล่ะร้ายนักมองทีไรหัวใจเขาละลายทุกที เหมือนตอนนี้ไงล่ะ...น

  • ขวัญชีวาซาตาน   บทที่ 74.

    บทที่ 74.“ถามอะไรหน่อยสิคะ”“ว่ามาเลยครับคนสวย” ธีโอเท้าแขนกับที่นอนมองสบตาภรรยา“ทำไมพี่ธีโอต้องลงทุนทำร้ายจิตใจชีวาขนาดนั้นด้วยคะ ความจริงพี่ธีโอบอกความจริงชีวา ชีวาก็เข้าใจและยอมรับแผนการพี่ธีโอได้นะคะ” หญิงสาวถามสิ่งที่เธอสงสัยอยู่ในใจ“ก็เพราะชีวาเข้าใจอะไรง่าย และรักทุกคนไงล่ะพี่จึงต้องผลักไสชีวาออกไปให้ห่างๆ” หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจ“ชายแดนบอกพี่ว่าชีวาน่ะดื้อเงียบได้น่าโมโหมากและรักทุกคนมาก จะยอมทุกทุกอย่างเพื่อให้คนที่รักปลอดภัยและจะไม่ยอมให้ใครอยู่สู้เพียงลำพัง..หากพี่บอกความจริงชีวา ชีวาก็จะไม่ยอมออกจากไร่ชีวาจะอยู่ช่วยพี่ซึ่งจะทำให้พี่เป็นกังวลและห่วงชีวากับลูกมากขึ้น และสิ่งที่พี่กลัวคือ กลัวว่าคุณดวงพรรู้ว่าชีวาท้องแล้วจะทำร้ายชีวากับลูกหรือไม่ก็อาจจะใช้ชีวาเป็นเครื่องมือต่อรองอะไรบางอย่าง...”“ก็เลยเลือกที่จะพูดร้ายๆ ทำตัวร้ายๆ กับชีวาน่ะเหรอคะ หากชีวาไม่เข้าใจ ชีวางี่เง่าจะทำไงคะ”ขวัญชีวายิ้มบางๆ ให้สามีและยอมรับว่าที่เขาพูดมาจริงทุกอย่าง หากเธอรู้ว่าเขากำลังทำอะไรเธอจะไม่มีวันทิ้งเขาและจะอยู่เคียงข้างเพื่อช่วยเขา แต่นั่นล่ะคือปัญหาเพราะธีโอจะห่วงเธอกับลูก

  • ขวัญชีวาซาตาน   บทที่ 73.

    บทที่ 73.“เจมมี่ว่าเราจะต้องได้รับข่าวดีเร็วๆ นี้แน่ๆ เลยค่ะคุณชีวา”“นั่นสิ แต่อย่าเพิ่งไปแซ็วเขานะเจมมี่”“ฮ่ะ เจมมี่จะพยายามกดต่อมเผือกไว้อย่างสุดความสามารถ..” ทั้งสองหัวเราะให้กันธีโอขมวดคิ้วอย่างสงสัย“มีอะไรกันหรือสองคนนี้มีความลับอะไรกัน”“ไม่มีค่ะแค่มีอะไรดีๆ ที่ต้องรอ..” ขวัญชีวายิ้มหวานให้สามี“อะไรหรือ..”“ยังบอกไม่ได้ค่ะ เราไปหาพี่แดนกับริสากันดีกว่าได้ฤกษ์ส่งตัวแล้ว..” ขวัญชีวาควงแขนสามีไปหาบ่าวสาวที่ยิ้มแย้มด้วยความสุขชายแดนมองเจ้าสาวที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนห่มผ้าหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงกว้างที่โรยกลีบกุหลาบไว้จนเต็มที่นอนรวมไปถึงทั้งห้องนั้นเต็มไปด้วย PrincessNarisa ที่บานงดงามในวันแต่งงานของเขาและกลิ่นหอมอบอวลไปทั้งห้องหอ“ว้าเจ้าสาวหลับเสียแล้ว พี่แดนจะลักหลับเจ้าสาวดีมั้ยน้า..” ชายแดนแกล้งสอดเข้าไปใต้ผ้าห่มนุ่มและลูบไล้บั้นท้ายงามงอนเบาๆ คนที่หลับตานอนเกร็งอยู่นั้นลืมตาทันทีและทำท่าว่าจะต่อว่าเขาด้วย...“พะ พี่ แด...” เจ้าสาวคนสวยไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรออกมาเจ้าบ่าวที่จ้องจะพาเจ้าสาวเข้าหอมาตลอดก็ประทับจุมพิตเร่าร้อนลงบนกลีบปากงามทันทีปิดกั้นเสียงหวานไว้ด้วยเรียวป

  • ขวัญชีวาซาตาน   บทที่ 72.

    บทที่ 72.“ชีวาขอโทษค่ะ..” ขวัญชีวาพูดเพียงเท่านั้นร่างบางก็หมดสติไปทันที“เจมส์ ตามหมอเร็ว..” ธีโอช้อนร่างภรรยาไว้ในวงแขนแล้วพาไปยังห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว เคนอยู่เคลียร์พื้นที่กับสารวัตรกวินอย่างรู้หน้าที่ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งแฝงตัวอยู่ในชั้นนี้ก็ค่อยๆ ออกมาทำหน้าที่ของตนอย่างรวดเร็วเช่นกัน งานนี้พวกเขาทำกันเงียบที่สุดให้คนรู้น้อยที่สุด เพื่อความปลอดภัยและของคนไข้และแพทย์พยาบาลรวมไปถึงชื่อเสียงของโรงพยาบาล...ขวัญชีวามองควันที่พวยพุ่งออกจากปล่องเมรุด้วยความโศกเศร้า แม้ตั้งแต่เล็กจนโตเธอกับดวงชีวันไม่ค่อยสนิทสนมกันนัก เรียกได้ว่าแทบไม่เคยได้พูดคุยกันอย่างสนิทสนมรักใคร่ประสาพี่น้องฝาแฝดเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับเธอนั้นดวงชีวันก็ยังคงเป็นพี่สาวเป็นญาติคนเดียวที่เธอเหลืออยู่ การจากไปก่อนวัยอันควรของดวงชีวันก็ทำให้เธอเสียใจอยู่ไม่น้อย...“อย่าเสียใจไปเลยค่ะคุณหนู คุณหนูยังมีพวกเรานะคะ” พี่ต้อยพี่ติ่งเดินมาโอบกอดคุณหนูของตน ขวัญชีวายิ้มให้ทั้งสองแล้วพยักหน้าช้าๆ“เรากลับกันดีกว่าค่ะพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่” ขวัญชีวาเดินกลับไปที่รถซึ่งธีโอกับคุณธัชยืนรออยู่พร้อมด้วยนมนวลกับเจมส์“เหนื่อยไหมที่

  • ขวัญชีวาซาตาน   บทที่ 71.

    บทที่ 71.“นั่นไงคุณแม่ของฉัน น้อยอยู่ที่นี่ล่ะไม่ต้องตามไป”“แต่.. น้อยเป็นห่วงนะคะ”“ไม่เป็นไรหรอก คุณแม่ไม่ทำอะไรฉันหรอก รออยู่นี่ล่ะ” ขวัญชีวาบอกพร้อมทั้งเดินไปหาคุณดวงพรในชุดพยาบาลที่กวักมือเรียกไวๆ น้อยมองตามเจ้านายสาวอย่างเป็นห่วงรู้สึกไม่ดีสักเท่าไหร่“อีน้อยทำถูกมั้ยวะเนี่ย ใครๆ ก็บอกว่าคุณท่านให้ดูแลคุณผู้หญิงดีๆ” น้อยเกาหัวแกรกๆ อย่างสับสนเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดึงเจ้านายของตนเข้าไปตรงบันไดหนีไฟอย่างไม่เบามือนัก...“เอาวะ เป็นไงเป็นกัน..” น้อยตัดสินใจเดินตามขวัญชีวาเข้าไปคิดในใจว่าเผื่อมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นตนอาจจะช่วยได้...“เบาๆ ค่ะคุณแม่ ชีวากำลังท้องอยู่ค่ะ” ขวัญชีวาร้องบอกเมื่อคุณดวงพรดึงกระชากเธอให้เดินตามไป หญิงสาวหอบน้อยๆ เมื่อเดินขึ้นบนไดมาแล้วสามชั้น ทางเดินหนีไฟไม่ค่อยมีคนใช้นักมันจึงเงียบสงัดจนเธอรู้สึกกลัว ยิ่งเห็นแววตาของคุณดวงพรขวัญชีวาไม่อยากยอมรับเลยว่าเธอคิดผิด... แต่มันคงสายไปแล้วตอนนี้เธอควรตั้งสติและหาทางเอาตัวรอดจากคุณดวงพรที่เหมือนคนบ้าไร้สติเข้าไปทุกที...“ก็ดีสิ..”“ค่ะ คุณแม่กำลังจะมีหลาน”หญิงสาวพยายามพูดให้คุณดวงพรเห็นแก่ชีวิตเล็กๆ ในตัวเธอ“ไหนคุณแม่ว่า

  • ขวัญชีวาซาตาน   บทที่ 70.

    บทที่ 70.ธีโอรู้สึกหงุดหงิดและใจไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก ดวงตาคมเฝ้ามองห้องนั่งเล่นซึ่งขวัญชีวาอยู่ที่นั่นตั้งแต่รับประทานอาหารกลางวันเสร็จ จนตอนนี้บ่ายคล้อยแล้วขวัญชีวายังไม่ยอมออกมาพบใครๆ ทั้งยังสั่งไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเธออีกด้วย“ผมจะพาชีวากลับไร่ คิดว่าสภาพแวดล้อมดีๆ จะทำให้ชีวาดีขึ้น” ชายหนุ่มพูดขึ้นในที่สุดเพราะคิดว่าหากพาเธอกลับไปไร่ได้พบบรรยากาศดีๆ บริสุทธิ์สดชื่นจะทำให้ขวัญชีวาดีขึ้น“ก็ดีนะคะ คุณหนูบ่นคิดถึงไร่ตลอด”“พาเมียไปเถอะ เดี๋ยวพ่อก็จะไปด้วย” คุณธัชบอกลูกชายและเห็นด้วยกับความคิดของธีโอ“แต่ผมว่าจะพาชีวาไปเยี่ยมชีวันก่อนกลับ อย่างน้อยๆ ก็ให้ทั้งสองได้พบกันก่อน.. สารวัตรกวินโทร. มาบอกว่าอาการของดวงชีวันเหมือนจะดีขึ้นหากเธอดีขึ้นจริงๆ ผมจะรักษาเธอให้หาย” ธีโอบอกเบาๆ เขาคิดจะทำอย่างนั้นจริงๆ อย่างน้อยดวงชีวันก็ถือว่าเป็นพี่สาวของขวัญชีวา“จริงๆ แล้วคุณหนูชีวันก็น่าสงสารนะคะ ถูกเลี้ยงดูมานั้นแทนที่จะได้รับการเลี้ยงดูที่ดีแต่ต้องมาถูกทำลายเพียงเพราะความอิจฉาริษยาของคนที่เป็นป้าแท้ๆ ของตัวเอง คุณดวงพรตั้งใจให้เด็กทั้งสองเกลียดกันเธอต้องการให้เด็กๆ พลัดพรากห่างไกลกันทั้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status