“นมอุ่นๆ มาแล้วค่ะ...” หญิงสาววางแก้วนมลงบนโต๊ะทำงานของบิดาซึ่งบัดนี้มันเป็นของธีโอและเธอก็ไม่ขัดข้องหากเขาจะครอบครองห้องนี้ “พี่ไม่ได้สั่งนมสดเสียหน่อย..” ชายหนุ่มขมวดคิ้วยุ่ง “มันสามทุ่มแล้วนะคะ ถ้าดื่มกาแฟตอนนี้พี่ธีโอจะนอนตอนไหนล่ะคะ ดื่มนมสดอุ่นๆ สักนิดดีกว่าค่ะ ชีวาได้นมสดมาจากชาวบ้านที่เขาเลี้ยงวัวนมใกล้ๆ ไร่เราตอนออกไปดูคนงานทำงานค่ะ” “พี่โตแล้วไม่ดื่มนมสด แต่ถ้าเป็นนมอย่างอื่น ก็พอจะลองดูดดื่มดูได้..” หญิงสาวหน้าแดงกับคำพูดสองแง่สองง่ามของเขา ขัดเขินจนทำตัวไม่ถูก “เอ่อ..” ฝากติดตาม พี่ธีโอสามีแห่งชาติด้วยนะคะ
더 보기“คุณแม่ขาชีวันอยากได้ตุ๊กตาตัวนั้นแล้วก็ชุดเจ้าหญิงนั่นด้วยค่ะ” เสียงแจ๋วๆ สดใสของเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบในชุดสวยฟูฟ่องราวเจ้าหญิงร้องเรียกมารดาให้ซื้อสิ่งที่ตนต้องการให้ด้วยรอยยิ้มหวาน
“ได้สิจ๊ะลูกรัก ไหนอยากได้อะไรอีกคะลูก” ดวงพร ผู้เป็นมารดายิ้มกับ ดวงชีวัน ลูกสาวแสนน่ารักของตน
“ชีวันอยากได้ของเล่นเยอะๆ”
“แต่ของเล่นหนูมีเยอะแล้วนะลูก”
“แต่ชีวันอยากได้อีกนี่คะ ของพวกนั้นมันเก่าและน่าเบื่อแล้ว” เด็กหญิงเบ้หน้าอย่างเอาแต่ใจ
“โอเคจ้ะ งั้นเราไปเลือกซื้อของเล่นใหม่กันเลย” แล้วสองแม่ลูกก็เดินเข้าไปเลือกซื้อของเล่นกันอย่างเพลิดเพลินโดยไม่สนใจเด็กหญิงอีกคนที่มาด้วยซึ่งได้แต่กอดตุ๊กตาผ้าเก่าๆ ยืนมองคนทั้งสองด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ..
“คุณหนูชีวาคะ เราไปรอคุณแม่ที่รถเถอะค่ะ” นวลตอง แม่นมของเด็กหญิงพูดขึ้นเบาๆ เมื่อเห็นแววตาที่หม่นหมองของ ขวัญชีวา แฝดผู้น้องของดวงชีวันที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการเลือกซื้อตุ๊กตาแสนสวยและของเล่นหลากหลายตามใจปรารถนา ในขณะที่ขวัญชีวาซึ่งอยู่ในชุดเก่าที่ดวงชีวันทิ้งแล้วยืนมองอยู่ภายนอกร้าน
“ทำไมชีวาไม่ได้ของเล่นไม่ได้ชุดสวยใหม่ๆ เหมือนชีวันบ้างล่ะคะนมนวล..” เด็กหญิงถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือดวงตากลมโตที่มีแววอ้างว้างหม่นหมองมองแม่นมของตนอย่างไม่เข้าใจ ในความคิดของเด็กหญิงก็คือเหตุใด คุณแม่ไม่รักเธอเหมือนที่รักแฝดผู้พี่ทั้งที่พวกเธอหน้าตาเหมือนกัน
“เดี๋ยวคุณแม่ก็ซื้อมาเผื่อค่ะ คุณหนูอย่าคิดมากเลยนะคะ มาเถอะค่ะ แล้วนมนวลจะเย็บตุ๊กตาให้เล่นอีกตัวนะคะดีไหมคะ”
“จริงเหรอคะ” เด็กหญิงตาโตแววหมองเศร้าในดวงตากลมโตเมื่อครู่จางหายไป
“จริงสิคะ น้องใจดี ของคุณหนูจะได้มีเพื่อนเล่นไงคะ” นวลตองบอกอย่างอ่อนโยนมองตุ๊กตาผ้าที่ตนเย็บให้คุณหนูตั้งแต่สามปีก่อนด้วยความเวทนา เพราะตุ๊กตาเด็กผู้หญิงแสนสวยเมื่อก่อนหน้านี้เริ่มเก่าซีด เรือนผมสีทองของตุ๊กตาที่ทำจากไหมพรมก็เริ่มสีซีดจาง แม้ตุ๊กตาจะเก่าแสนเก่าแต่ก็ยังสะอาดไม่มีรอยด่างดำหรือขึ้นราเพราะเด็กหญิงเล่นมันอย่างทะนุถนอมและดูแลมันอย่างดี
“เรากลับไปรอคุณแม่ที่รถกันนะคะ” เด็กหญิงพยักหน้าแล้วทำตามที่แม่นมของตนบอกโดยดีไม่งอแง นวลตองแอบถอนหายใจเบาๆ แต่ความรู้สึกหนักอึ้งในอกไม่ได้ลดลงเพราะรู้สึกสงสารเด็กหญิงที่ตนจูงมืออยู่ในขณะนี้...
“นมนวลขา คุณแม่ไม่รักชีวาใช่ไหมคะ ชีวาไม่ใช่ลูกของคุณแม่หรือคะ..” เด็กหญิงอุ้มตุ๊กตาผ้าน้ำตาเปรอะเปื้อนแก้มใสนั้นทำให้นวลตองรู้ได้ทันทีว่าคุณดวงพรคงจะดุด่าทุบตีคุณหนูของตนอย่างแน่นอนจึงเข้าไปอุ้มเด็กหญิงเข้ามาในห้องพักของตนแล้ววางร่างเล็กลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน
“คุณแม่รักคุณหนูชีวาสิคะ คุณหนูเป็นลูกของคุณแม่ค่ะ อย่าร้องนะคะคนดีของนวล”
“แต่เมื่อกี้คุณแม่บอกว่าชีวาไม่ใช่ลูกของคุณแม่..” เด็กหญิงเบะปากร้องไห้โฮด้วยความเสียใจนวลตองลอบถอนใจแล้วโอบกอดร่างเล็กไว้ลูบศีรษะเด็กหญิงเบาๆ
“คุณหนูชีวาขา อย่าคิดมากเลยค่ะคุณแม่อาจจะอารมณ์ไม่ดีเลยพูดแบบนั้น นวลรักคุณหนูนะคะคนดี คุณพ่อก็รักคุณหนู คืนนี้นอนที่นี่กับนวลก็ได้ค่ะ มาค่ะไปแปรงฟันกัน” เด็กหญิงพยักหน้าช้าๆ แนบใบหน้าเล็กๆ ที่เศร้าหมองกับอ้อมอกอุ่นของแม่นมของตนอย่างรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย...
“คุณผู้หญิงขา นวลเวทนาคุณหนูเหลือเกิน.. คุณผู้หญิงช่วยปกป้องคุ้มครองคุณหนูด้วยนะคะ อย่าให้คนใจร้ายทำลายคุณหนูเลย..” นวลตองมองเด็กหญิงที่หลับสนิทอยู่บนเตียงเล็กของตนด้วยความเวทนาแล้วน้ำตาที่อดกลั้นไว้ก็ค่อยๆ ไหลออกมา..
บทที่ 75. ตอนอวสาน“ชีวาจ๋า พี่ผิดไปแล้ว ลูกจ๋า พ่อผิดไปแล้ว ต่อไปพ่อจะไม่พูดแบบนี้อีก พ่อรักน้องธามที่สุดในโลก..” ธีโอแทบใจขาดเมื่อเจอลูกชายเมินหน้าหนี ชายหนุ่มหน้าเศร้าซีดเซียวจนขวัญชีวาสงสารสามี“น้องธามครับ เลิกงอนคุณพ่อนะครับ เห็นไหมคุณพ่อจะร้องไห้เพราะน้องธามงอนแล้ว คนดีของคุณแม่ รักคุณพ่อนะคะ เลิกงอนนะลูก รักกันๆ นะคะ..” ขวัญชีวาก้มลงพูดกับลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนน่าฟัง ธีโอลุ้นอย่างหนักว่าลูกชายตัวน้อยจะเลิกงอนและหันกลับมามองเขาหรือยอมให้เขาอุ้มหรือไม่เพราะหลังจากที่หลุดปากพูดประโยคแย่ๆ นั้นออกไปน้องธามก็นิ่งเงียบไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้พอใครจะเข้าใกล้ก็สะบัดตัวเหวี่ยงแขนไปมาทั้งยังขว้างปาของเล่นใส่ทุกคนที่เข้าใกล้อย่างเกเร“น้องธามครับ ที่รัก คนดี พ่อทูนหัวลูกรักของพ่อมาหาพ่อนะครับน้องธามจ๋า..” ธีโอขยับไปใกล้แล้วโอบกอดทั้งแม่ทั้งลูกไว้ในอ้อมแขน น้องธามเงยหน้าขึ้นมองสบตาผู้เป็นพ่อดวงตาใสๆ นั้นทำให้หัวใจของผู้เป็นพ่อเต้นแรง ลูกชายตัวแสบนี่ช่างเหมือนเขาเสียจริงๆ แต่โครงหน้าก็มีแววหวานเหมือนขวัญชีวา ยิ่งดวงตาใสๆ เหมือนแม่นี่ล่ะร้ายนักมองทีไรหัวใจเขาละลายทุกที เหมือนตอนนี้ไงล่ะ...น
บทที่ 74.“ถามอะไรหน่อยสิคะ”“ว่ามาเลยครับคนสวย” ธีโอเท้าแขนกับที่นอนมองสบตาภรรยา“ทำไมพี่ธีโอต้องลงทุนทำร้ายจิตใจชีวาขนาดนั้นด้วยคะ ความจริงพี่ธีโอบอกความจริงชีวา ชีวาก็เข้าใจและยอมรับแผนการพี่ธีโอได้นะคะ” หญิงสาวถามสิ่งที่เธอสงสัยอยู่ในใจ“ก็เพราะชีวาเข้าใจอะไรง่าย และรักทุกคนไงล่ะพี่จึงต้องผลักไสชีวาออกไปให้ห่างๆ” หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจ“ชายแดนบอกพี่ว่าชีวาน่ะดื้อเงียบได้น่าโมโหมากและรักทุกคนมาก จะยอมทุกทุกอย่างเพื่อให้คนที่รักปลอดภัยและจะไม่ยอมให้ใครอยู่สู้เพียงลำพัง..หากพี่บอกความจริงชีวา ชีวาก็จะไม่ยอมออกจากไร่ชีวาจะอยู่ช่วยพี่ซึ่งจะทำให้พี่เป็นกังวลและห่วงชีวากับลูกมากขึ้น และสิ่งที่พี่กลัวคือ กลัวว่าคุณดวงพรรู้ว่าชีวาท้องแล้วจะทำร้ายชีวากับลูกหรือไม่ก็อาจจะใช้ชีวาเป็นเครื่องมือต่อรองอะไรบางอย่าง...”“ก็เลยเลือกที่จะพูดร้ายๆ ทำตัวร้ายๆ กับชีวาน่ะเหรอคะ หากชีวาไม่เข้าใจ ชีวางี่เง่าจะทำไงคะ”ขวัญชีวายิ้มบางๆ ให้สามีและยอมรับว่าที่เขาพูดมาจริงทุกอย่าง หากเธอรู้ว่าเขากำลังทำอะไรเธอจะไม่มีวันทิ้งเขาและจะอยู่เคียงข้างเพื่อช่วยเขา แต่นั่นล่ะคือปัญหาเพราะธีโอจะห่วงเธอกับลูก
บทที่ 73.“เจมมี่ว่าเราจะต้องได้รับข่าวดีเร็วๆ นี้แน่ๆ เลยค่ะคุณชีวา”“นั่นสิ แต่อย่าเพิ่งไปแซ็วเขานะเจมมี่”“ฮ่ะ เจมมี่จะพยายามกดต่อมเผือกไว้อย่างสุดความสามารถ..” ทั้งสองหัวเราะให้กันธีโอขมวดคิ้วอย่างสงสัย“มีอะไรกันหรือสองคนนี้มีความลับอะไรกัน”“ไม่มีค่ะแค่มีอะไรดีๆ ที่ต้องรอ..” ขวัญชีวายิ้มหวานให้สามี“อะไรหรือ..”“ยังบอกไม่ได้ค่ะ เราไปหาพี่แดนกับริสากันดีกว่าได้ฤกษ์ส่งตัวแล้ว..” ขวัญชีวาควงแขนสามีไปหาบ่าวสาวที่ยิ้มแย้มด้วยความสุขชายแดนมองเจ้าสาวที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนห่มผ้าหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงกว้างที่โรยกลีบกุหลาบไว้จนเต็มที่นอนรวมไปถึงทั้งห้องนั้นเต็มไปด้วย PrincessNarisa ที่บานงดงามในวันแต่งงานของเขาและกลิ่นหอมอบอวลไปทั้งห้องหอ“ว้าเจ้าสาวหลับเสียแล้ว พี่แดนจะลักหลับเจ้าสาวดีมั้ยน้า..” ชายแดนแกล้งสอดเข้าไปใต้ผ้าห่มนุ่มและลูบไล้บั้นท้ายงามงอนเบาๆ คนที่หลับตานอนเกร็งอยู่นั้นลืมตาทันทีและทำท่าว่าจะต่อว่าเขาด้วย...“พะ พี่ แด...” เจ้าสาวคนสวยไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรออกมาเจ้าบ่าวที่จ้องจะพาเจ้าสาวเข้าหอมาตลอดก็ประทับจุมพิตเร่าร้อนลงบนกลีบปากงามทันทีปิดกั้นเสียงหวานไว้ด้วยเรียวป
บทที่ 72.“ชีวาขอโทษค่ะ..” ขวัญชีวาพูดเพียงเท่านั้นร่างบางก็หมดสติไปทันที“เจมส์ ตามหมอเร็ว..” ธีโอช้อนร่างภรรยาไว้ในวงแขนแล้วพาไปยังห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว เคนอยู่เคลียร์พื้นที่กับสารวัตรกวินอย่างรู้หน้าที่ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งแฝงตัวอยู่ในชั้นนี้ก็ค่อยๆ ออกมาทำหน้าที่ของตนอย่างรวดเร็วเช่นกัน งานนี้พวกเขาทำกันเงียบที่สุดให้คนรู้น้อยที่สุด เพื่อความปลอดภัยและของคนไข้และแพทย์พยาบาลรวมไปถึงชื่อเสียงของโรงพยาบาล...ขวัญชีวามองควันที่พวยพุ่งออกจากปล่องเมรุด้วยความโศกเศร้า แม้ตั้งแต่เล็กจนโตเธอกับดวงชีวันไม่ค่อยสนิทสนมกันนัก เรียกได้ว่าแทบไม่เคยได้พูดคุยกันอย่างสนิทสนมรักใคร่ประสาพี่น้องฝาแฝดเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับเธอนั้นดวงชีวันก็ยังคงเป็นพี่สาวเป็นญาติคนเดียวที่เธอเหลืออยู่ การจากไปก่อนวัยอันควรของดวงชีวันก็ทำให้เธอเสียใจอยู่ไม่น้อย...“อย่าเสียใจไปเลยค่ะคุณหนู คุณหนูยังมีพวกเรานะคะ” พี่ต้อยพี่ติ่งเดินมาโอบกอดคุณหนูของตน ขวัญชีวายิ้มให้ทั้งสองแล้วพยักหน้าช้าๆ“เรากลับกันดีกว่าค่ะพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่” ขวัญชีวาเดินกลับไปที่รถซึ่งธีโอกับคุณธัชยืนรออยู่พร้อมด้วยนมนวลกับเจมส์“เหนื่อยไหมที่
บทที่ 71.“นั่นไงคุณแม่ของฉัน น้อยอยู่ที่นี่ล่ะไม่ต้องตามไป”“แต่.. น้อยเป็นห่วงนะคะ”“ไม่เป็นไรหรอก คุณแม่ไม่ทำอะไรฉันหรอก รออยู่นี่ล่ะ” ขวัญชีวาบอกพร้อมทั้งเดินไปหาคุณดวงพรในชุดพยาบาลที่กวักมือเรียกไวๆ น้อยมองตามเจ้านายสาวอย่างเป็นห่วงรู้สึกไม่ดีสักเท่าไหร่“อีน้อยทำถูกมั้ยวะเนี่ย ใครๆ ก็บอกว่าคุณท่านให้ดูแลคุณผู้หญิงดีๆ” น้อยเกาหัวแกรกๆ อย่างสับสนเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดึงเจ้านายของตนเข้าไปตรงบันไดหนีไฟอย่างไม่เบามือนัก...“เอาวะ เป็นไงเป็นกัน..” น้อยตัดสินใจเดินตามขวัญชีวาเข้าไปคิดในใจว่าเผื่อมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นตนอาจจะช่วยได้...“เบาๆ ค่ะคุณแม่ ชีวากำลังท้องอยู่ค่ะ” ขวัญชีวาร้องบอกเมื่อคุณดวงพรดึงกระชากเธอให้เดินตามไป หญิงสาวหอบน้อยๆ เมื่อเดินขึ้นบนไดมาแล้วสามชั้น ทางเดินหนีไฟไม่ค่อยมีคนใช้นักมันจึงเงียบสงัดจนเธอรู้สึกกลัว ยิ่งเห็นแววตาของคุณดวงพรขวัญชีวาไม่อยากยอมรับเลยว่าเธอคิดผิด... แต่มันคงสายไปแล้วตอนนี้เธอควรตั้งสติและหาทางเอาตัวรอดจากคุณดวงพรที่เหมือนคนบ้าไร้สติเข้าไปทุกที...“ก็ดีสิ..”“ค่ะ คุณแม่กำลังจะมีหลาน”หญิงสาวพยายามพูดให้คุณดวงพรเห็นแก่ชีวิตเล็กๆ ในตัวเธอ“ไหนคุณแม่ว่า
บทที่ 70.ธีโอรู้สึกหงุดหงิดและใจไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก ดวงตาคมเฝ้ามองห้องนั่งเล่นซึ่งขวัญชีวาอยู่ที่นั่นตั้งแต่รับประทานอาหารกลางวันเสร็จ จนตอนนี้บ่ายคล้อยแล้วขวัญชีวายังไม่ยอมออกมาพบใครๆ ทั้งยังสั่งไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเธออีกด้วย“ผมจะพาชีวากลับไร่ คิดว่าสภาพแวดล้อมดีๆ จะทำให้ชีวาดีขึ้น” ชายหนุ่มพูดขึ้นในที่สุดเพราะคิดว่าหากพาเธอกลับไปไร่ได้พบบรรยากาศดีๆ บริสุทธิ์สดชื่นจะทำให้ขวัญชีวาดีขึ้น“ก็ดีนะคะ คุณหนูบ่นคิดถึงไร่ตลอด”“พาเมียไปเถอะ เดี๋ยวพ่อก็จะไปด้วย” คุณธัชบอกลูกชายและเห็นด้วยกับความคิดของธีโอ“แต่ผมว่าจะพาชีวาไปเยี่ยมชีวันก่อนกลับ อย่างน้อยๆ ก็ให้ทั้งสองได้พบกันก่อน.. สารวัตรกวินโทร. มาบอกว่าอาการของดวงชีวันเหมือนจะดีขึ้นหากเธอดีขึ้นจริงๆ ผมจะรักษาเธอให้หาย” ธีโอบอกเบาๆ เขาคิดจะทำอย่างนั้นจริงๆ อย่างน้อยดวงชีวันก็ถือว่าเป็นพี่สาวของขวัญชีวา“จริงๆ แล้วคุณหนูชีวันก็น่าสงสารนะคะ ถูกเลี้ยงดูมานั้นแทนที่จะได้รับการเลี้ยงดูที่ดีแต่ต้องมาถูกทำลายเพียงเพราะความอิจฉาริษยาของคนที่เป็นป้าแท้ๆ ของตัวเอง คุณดวงพรตั้งใจให้เด็กทั้งสองเกลียดกันเธอต้องการให้เด็กๆ พลัดพรากห่างไกลกันทั้
댓글