共有

บทที่.8.

บทที่.8.

“ต้องไหวสิคะ ตอนนี้ชีวาก็ทำงานในไร่เป็นเกือบทุกอย่างแล้ว รถไถชีวาก็ขับได้แล้ว ไม่ได้ยากนี่คะหากเราคิดจะทำ ตอนนี้ใครๆ ก็หันมาทำการเกษตรกันแล้วค่ะ เพราะมันเป็นงานที่ยั่งยืน เราจะทำตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไงคะ ค่อยๆ ก้าว ค่อยๆ สร้างภูมิคุ้มกันให้คนในบ้านก่อน เรื่องซื้อที่คืนจากพี่แดนนั้นยังอีกยาวไกลค่ะแต่ชีวาจะซื้อคืนให้ได้แน่ๆ” หญิงสาวบอกด้วยรอยยิ้มมุ่งมั่น

“ใช่ค่ะ งานพวกนี้เก่งหมด แต่ทำอาหารไม่เป็น”

“โธ่ นมขา มันไม่ใช่แนวของชีวานี่คะ เป็นแค่ลูกมือนมน่ะดีแล้ว เพราะชีวาหั่นผักสวยกว่าใครๆ” หญิงสาวยิ้มกว้างไม่ได้รู้เขินอายที่ตนทำอาหารไม่เป็น 

“คุยอะไรกันอยู่จ๊ะสาวๆ” เสียงนุ่มทุ้มแสนสุภาพคุ้นหูดังขึ้น ชายแดน ชายหนุ่มที่ถูกพูดถึง เดินยิ้มร่าเข้ามาหาพร้อมทั้งไหว้นวลตองอย่างนอบน้อม

“พี่แดนมาพอดีเลยค่ะ ชีวากำลังนินทาพี่ค่ะ” หญิงสาวบอกยิ้มๆ ชายหนุ่มจึงหัวเราะเบาๆ

“สงสัยนินทาพี่เรื่องมาขอข้าวกินฟรีที่บ้านบ่อยๆ ล่ะสิ”

“แหม.. พี่แดนคิดว่าชีวางกหรือไงคะ”

“ถ้าไม่นินทาเรื่องนี้แล้วนินทาเรื่องอะไรจ๊ะ”

“ชีวากำลังคุยกับนมนวลเรื่องการขยับขยายกิจการของเราค่ะ พี่แดนมาก็ดีแล้ว ชีวามีเรื่องจะปรึกษาค่ะ” หญิงสาวบอกพร้อมทั้งเดินนำหน้าเขาไปยังม้านั่งใต้ต้นส้มต้นใหญ่ซึ่งเป็นต้นส้มต้นแรกที่บิดาของเธอปลูกไว้หน้าบ้านและมันก็แผ่กิ่งก้านสาขาเป็นร่มเงาให้ได้นั่งเล่นใต้ต้นของมันด้วย ส่วนนวลตองก็เดินเลี่ยงไปอย่างรู้มารยาท

“ชีวามีเรื่องอะไรจะปรึกษาพี่ว่ามาได้เลย”

“ชีวาต้องการเงินเพิ่มค่ะ พี่แดนพอจะหางานให้ชีวาทำเพิ่มได้ไหมคะ” หญิงสาวบอกเขาตามตรง สำหรับชายแดนเธอวางเขาไว้ในฐานะพี่ชายที่แสนดีมาเนิ่นนานและชายแดนก็รู้ซึ้งในข้อนี้ซึ่งเขาเองก็ไม่เคยคิดเกินเลยกับเธอมากไปกว่าน้องสาวเช่นกัน อาจจะเป็นเพราะบิดามารดาเป็นเพื่อนรักสนิทสนมกันและเขากับเธอก็เห็นกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยก็เป็นได้

“ชีวาอยากทำอะไรล่ะ”

“ก็คงจะเป็นงานที่ชีวาถนัดนั่นล่ะค่ะ สอนดนตรีไทย..” ขวัญชีวามีความสามารถในการเล่นดนตรีไทยแทบทุกชนิด และที่ถือว่าเป็นที่สุดของเธอก็คงจะเป็นขิมกับซอสามสาย ซึ่งหญิงสาวได้รางวัลจากเครื่องดนตรีทั้งสองชนิดนี้มาหลายรางวัลเลยทีเดียวและบิดาของเธอก็ได้สร้าง เรือนดวงใจ สำหรับให้เธอใช้เล่นดนตรีและเป็นที่เก็บเครื่องดนตรีทุกชนิดที่มีไว้ที่นั่นและขวัญชีวาโปรดปรานเรือนดวงใจอย่างที่สุดเมื่อรู้สึกโดดเดี่ยวหรือท้อแท้หมดหวัง หรือคิดถึงบิดาเธอก็มักจะมาหมดตัวอยู่ที่นี่

แต่เรือนดวงใจเป็นสถานที่ที่คุณดวงพรเกลียดที่สุด ร่ำๆ จะเผาทำลายที่นั่นทิ้งตั้งหลายหน แต่เหมือนมีโชคช่วยทุกครั้งที่นางคิดจะทำลายเรือนดวงใจมักมีเหตุการณ์ขึ้นขัดขวางอยู่เสมอ จนนางล้มเลิกความตั้งใจไปในที่สุด แต่ขวัญชีวาก็ไม่เคยวางใจมารดาเรื่องนี้

“จริงสิ พี่ได้ยินเพื่อนๆ ของพี่ที่มีลูกเล็ก ประมาณห้าหกขวบอยากเรียนอยู่ ประมาณสามคน ชีวารับมือไหวมั้ย”

“ไหวค่ะ ชีวาคิดราคาไม่แพงเลยค่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้าง

“โอเค แล้วพี่จะติดต่อพวกเขาให้ แล้วมีเรื่องอะไรอีกมั้ยที่จะให้พี่ช่วย”

“ไม่มีแล้วค่ะ”

“ถ้างั้นชีวาก็ช่วยพี่บ้างนะ” ชายหนุ่มบอกยิ้มๆ

“ค่ะ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงชีวายินดี”

“พอดีว่าอาทิตย์หน้าจะมีงานเกษียณของครูที่โรงเรียนคุณแม่พี่ ท่านก็เลยอยากให้ชีวาไปเล่นดนตรีไทยให้ท่านพอดีว่าคุณครูคนที่เป็นคนเล่นหลักในงานเขาป่วยและน้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน ท่านก็เลยนึกถึงชีวา”

“ได้เลยค่ะไม่มีปัญหา” ขวัญชีวารับภารกิจทันที

“แล้วเรื่องไร่เป็นไงบ้าง”

“ก็ดีค่ะ ตอนนี้ผักของเราก็ออกสู่ตลาดมากขึ้น ตอนนี้พวกพี่ๆ ก็ทำน้ำพริกขายกัน ได้เลขจัดแจ้งแล้วและกำลังจะเข้าโครงการโอทอปกับทางอำเภอ” ขวัญชีวายิ้มกว้างด้วยความสุข ใบหน้านวลผ่องแม้ขวัญชีวาไม่ได้ผิวขาวเป็นยองใยเช่นแฝดผู้พี่ แต่หญิงสาวก็มีผิวพรรณใสกระจ่างผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนน่ามอง ใบหน้ารูปไข่ดูสะอาดหมดจดดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายสุกใส ริมฝีปากระเรื่อดูสุขภาพดี ขวัญชีวาสวยน่ารักมีชีวิตชีวาเหมือนชื่อของเธอไม่มีผิด แต่ชายแดนก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับสาวสวยตรงหน้าเพราะรักเธอในฐานะน้องสาวมากว่า...

“ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าชีวาพาพวกพี่ๆ เขามาไกลขนาดนี้” ชายแดนชมจากใจจริง

“ก็เพราะได้พี่แดนนั่นล่ะค่ะ มีอดีตเกษตรอำเภอหนุ่มไฟแรงคอยช่วยไม่ได้ดีให้มันรู้ไปสิคะ”

“ปากหวานนะเรา..” ชายแดนหัวเราะเบาๆ กับคำชมของหญิงสาวแม้เขาจะลาออกมานานแล้วเพราะต้องมาช่วยงานในไร่ของครอบครัวแต่ความรู้ที่ได้เล่าเรียนมาเขาก็ไม่เคยทิ้งและนำมันมาปรับใช้ในไร่ของตนและสอนคนอื่นๆ ซึ่งมันทำได้ง่ายกว่าตอนที่มีตำแหน่งเป็นเกษตรอำเภอเสียอีก เพราะไม่มีข้อจำกัดเยอะไม่ต้องนายอนุมัติ ไม่ต้องรองบประมาณที่กว่าจะมาถึงชาวบ้านก็ถูกกัดกร่อนมาจนเหลือเพียงแค่เศษเสี้ยวจากงบประมาณจริงๆ ไม่ต้องรอให้นายปลื้มเพื่อจะได้ผลงานสวยหรู แต่ทุกอย่างสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยแรงพลังของคนในชุมชนที่รวมตัวกันจนเข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้เหมือนอย่างขวัญชีวากับพี่ๆ ในไร่นั่นเอง 

หนุ่มสาวนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนได้เวลาอาหารกลางวันชายแดนก็อยู่รับประทานอาหารกับขวัญชีวาและช่วยดูผลผลิตในไร่ว่ามีตรงไหนที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นซึ่งชายแดนจะสอนและแนะนำการทำเกษตรแบบผสมผสานและใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยหมักเป็นหลัก และเน้นการผลิตเองใช้เองในไร่เพื่อลดต้นทุนและหลังจากสองปีให้หลัง ไร่ดวงใจก็กลับมาเขียวขจีพืชพรรณให้ผลผลิตออกสู่ตลาดได้บ้างแล้วจนตอนนี้ขวัญชีวาสามารถปลดหนี้ที่คุณดวงพรก่อไว้จนเกือบหมดแล้ว แต่ไร่ดวงใจที่เหลือพื้นที่ไม่มากนักก็ยังคงดูเป็นไร่ที่ยังทรุดโทรมอยู่เพราะพื้นที่ที่เหลือนั้นยังไม่ได้รับการปรับปรุงดูแลเท่าที่ควร แต่ขวัญชีวาก็ใช้พื้นที่ซึ่งเหลืออยู่อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์ต่อตนเองมากที่สุด เพราะผักปลอดสารพิษจากไร่ดวงใจนั้นมีคนมารับซื้อถึงที่เลยทีเดียว...

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • ขวัญชีวาซาตาน    บทที่ 75.  ตอนอวสาน

    บทที่ 75. ตอนอวสาน“ชีวาจ๋า พี่ผิดไปแล้ว ลูกจ๋า พ่อผิดไปแล้ว ต่อไปพ่อจะไม่พูดแบบนี้อีก พ่อรักน้องธามที่สุดในโลก..” ธีโอแทบใจขาดเมื่อเจอลูกชายเมินหน้าหนี ชายหนุ่มหน้าเศร้าซีดเซียวจนขวัญชีวาสงสารสามี“น้องธามครับ เลิกงอนคุณพ่อนะครับ เห็นไหมคุณพ่อจะร้องไห้เพราะน้องธามงอนแล้ว คนดีของคุณแม่ รักคุณพ่อนะคะ เลิกงอนนะลูก รักกันๆ นะคะ..” ขวัญชีวาก้มลงพูดกับลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนน่าฟัง ธีโอลุ้นอย่างหนักว่าลูกชายตัวน้อยจะเลิกงอนและหันกลับมามองเขาหรือยอมให้เขาอุ้มหรือไม่เพราะหลังจากที่หลุดปากพูดประโยคแย่ๆ นั้นออกไปน้องธามก็นิ่งเงียบไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้พอใครจะเข้าใกล้ก็สะบัดตัวเหวี่ยงแขนไปมาทั้งยังขว้างปาของเล่นใส่ทุกคนที่เข้าใกล้อย่างเกเร“น้องธามครับ ที่รัก คนดี พ่อทูนหัวลูกรักของพ่อมาหาพ่อนะครับน้องธามจ๋า..” ธีโอขยับไปใกล้แล้วโอบกอดทั้งแม่ทั้งลูกไว้ในอ้อมแขน น้องธามเงยหน้าขึ้นมองสบตาผู้เป็นพ่อดวงตาใสๆ นั้นทำให้หัวใจของผู้เป็นพ่อเต้นแรง ลูกชายตัวแสบนี่ช่างเหมือนเขาเสียจริงๆ แต่โครงหน้าก็มีแววหวานเหมือนขวัญชีวา ยิ่งดวงตาใสๆ เหมือนแม่นี่ล่ะร้ายนักมองทีไรหัวใจเขาละลายทุกที เหมือนตอนนี้ไงล่ะ...น

  • ขวัญชีวาซาตาน   บทที่ 74.

    บทที่ 74.“ถามอะไรหน่อยสิคะ”“ว่ามาเลยครับคนสวย” ธีโอเท้าแขนกับที่นอนมองสบตาภรรยา“ทำไมพี่ธีโอต้องลงทุนทำร้ายจิตใจชีวาขนาดนั้นด้วยคะ ความจริงพี่ธีโอบอกความจริงชีวา ชีวาก็เข้าใจและยอมรับแผนการพี่ธีโอได้นะคะ” หญิงสาวถามสิ่งที่เธอสงสัยอยู่ในใจ“ก็เพราะชีวาเข้าใจอะไรง่าย และรักทุกคนไงล่ะพี่จึงต้องผลักไสชีวาออกไปให้ห่างๆ” หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจ“ชายแดนบอกพี่ว่าชีวาน่ะดื้อเงียบได้น่าโมโหมากและรักทุกคนมาก จะยอมทุกทุกอย่างเพื่อให้คนที่รักปลอดภัยและจะไม่ยอมให้ใครอยู่สู้เพียงลำพัง..หากพี่บอกความจริงชีวา ชีวาก็จะไม่ยอมออกจากไร่ชีวาจะอยู่ช่วยพี่ซึ่งจะทำให้พี่เป็นกังวลและห่วงชีวากับลูกมากขึ้น และสิ่งที่พี่กลัวคือ กลัวว่าคุณดวงพรรู้ว่าชีวาท้องแล้วจะทำร้ายชีวากับลูกหรือไม่ก็อาจจะใช้ชีวาเป็นเครื่องมือต่อรองอะไรบางอย่าง...”“ก็เลยเลือกที่จะพูดร้ายๆ ทำตัวร้ายๆ กับชีวาน่ะเหรอคะ หากชีวาไม่เข้าใจ ชีวางี่เง่าจะทำไงคะ”ขวัญชีวายิ้มบางๆ ให้สามีและยอมรับว่าที่เขาพูดมาจริงทุกอย่าง หากเธอรู้ว่าเขากำลังทำอะไรเธอจะไม่มีวันทิ้งเขาและจะอยู่เคียงข้างเพื่อช่วยเขา แต่นั่นล่ะคือปัญหาเพราะธีโอจะห่วงเธอกับลูก

  • ขวัญชีวาซาตาน   บทที่ 73.

    บทที่ 73.“เจมมี่ว่าเราจะต้องได้รับข่าวดีเร็วๆ นี้แน่ๆ เลยค่ะคุณชีวา”“นั่นสิ แต่อย่าเพิ่งไปแซ็วเขานะเจมมี่”“ฮ่ะ เจมมี่จะพยายามกดต่อมเผือกไว้อย่างสุดความสามารถ..” ทั้งสองหัวเราะให้กันธีโอขมวดคิ้วอย่างสงสัย“มีอะไรกันหรือสองคนนี้มีความลับอะไรกัน”“ไม่มีค่ะแค่มีอะไรดีๆ ที่ต้องรอ..” ขวัญชีวายิ้มหวานให้สามี“อะไรหรือ..”“ยังบอกไม่ได้ค่ะ เราไปหาพี่แดนกับริสากันดีกว่าได้ฤกษ์ส่งตัวแล้ว..” ขวัญชีวาควงแขนสามีไปหาบ่าวสาวที่ยิ้มแย้มด้วยความสุขชายแดนมองเจ้าสาวที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนห่มผ้าหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงกว้างที่โรยกลีบกุหลาบไว้จนเต็มที่นอนรวมไปถึงทั้งห้องนั้นเต็มไปด้วย PrincessNarisa ที่บานงดงามในวันแต่งงานของเขาและกลิ่นหอมอบอวลไปทั้งห้องหอ“ว้าเจ้าสาวหลับเสียแล้ว พี่แดนจะลักหลับเจ้าสาวดีมั้ยน้า..” ชายแดนแกล้งสอดเข้าไปใต้ผ้าห่มนุ่มและลูบไล้บั้นท้ายงามงอนเบาๆ คนที่หลับตานอนเกร็งอยู่นั้นลืมตาทันทีและทำท่าว่าจะต่อว่าเขาด้วย...“พะ พี่ แด...” เจ้าสาวคนสวยไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรออกมาเจ้าบ่าวที่จ้องจะพาเจ้าสาวเข้าหอมาตลอดก็ประทับจุมพิตเร่าร้อนลงบนกลีบปากงามทันทีปิดกั้นเสียงหวานไว้ด้วยเรียวป

  • ขวัญชีวาซาตาน   บทที่ 72.

    บทที่ 72.“ชีวาขอโทษค่ะ..” ขวัญชีวาพูดเพียงเท่านั้นร่างบางก็หมดสติไปทันที“เจมส์ ตามหมอเร็ว..” ธีโอช้อนร่างภรรยาไว้ในวงแขนแล้วพาไปยังห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว เคนอยู่เคลียร์พื้นที่กับสารวัตรกวินอย่างรู้หน้าที่ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งแฝงตัวอยู่ในชั้นนี้ก็ค่อยๆ ออกมาทำหน้าที่ของตนอย่างรวดเร็วเช่นกัน งานนี้พวกเขาทำกันเงียบที่สุดให้คนรู้น้อยที่สุด เพื่อความปลอดภัยและของคนไข้และแพทย์พยาบาลรวมไปถึงชื่อเสียงของโรงพยาบาล...ขวัญชีวามองควันที่พวยพุ่งออกจากปล่องเมรุด้วยความโศกเศร้า แม้ตั้งแต่เล็กจนโตเธอกับดวงชีวันไม่ค่อยสนิทสนมกันนัก เรียกได้ว่าแทบไม่เคยได้พูดคุยกันอย่างสนิทสนมรักใคร่ประสาพี่น้องฝาแฝดเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับเธอนั้นดวงชีวันก็ยังคงเป็นพี่สาวเป็นญาติคนเดียวที่เธอเหลืออยู่ การจากไปก่อนวัยอันควรของดวงชีวันก็ทำให้เธอเสียใจอยู่ไม่น้อย...“อย่าเสียใจไปเลยค่ะคุณหนู คุณหนูยังมีพวกเรานะคะ” พี่ต้อยพี่ติ่งเดินมาโอบกอดคุณหนูของตน ขวัญชีวายิ้มให้ทั้งสองแล้วพยักหน้าช้าๆ“เรากลับกันดีกว่าค่ะพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่” ขวัญชีวาเดินกลับไปที่รถซึ่งธีโอกับคุณธัชยืนรออยู่พร้อมด้วยนมนวลกับเจมส์“เหนื่อยไหมที่

  • ขวัญชีวาซาตาน   บทที่ 71.

    บทที่ 71.“นั่นไงคุณแม่ของฉัน น้อยอยู่ที่นี่ล่ะไม่ต้องตามไป”“แต่.. น้อยเป็นห่วงนะคะ”“ไม่เป็นไรหรอก คุณแม่ไม่ทำอะไรฉันหรอก รออยู่นี่ล่ะ” ขวัญชีวาบอกพร้อมทั้งเดินไปหาคุณดวงพรในชุดพยาบาลที่กวักมือเรียกไวๆ น้อยมองตามเจ้านายสาวอย่างเป็นห่วงรู้สึกไม่ดีสักเท่าไหร่“อีน้อยทำถูกมั้ยวะเนี่ย ใครๆ ก็บอกว่าคุณท่านให้ดูแลคุณผู้หญิงดีๆ” น้อยเกาหัวแกรกๆ อย่างสับสนเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดึงเจ้านายของตนเข้าไปตรงบันไดหนีไฟอย่างไม่เบามือนัก...“เอาวะ เป็นไงเป็นกัน..” น้อยตัดสินใจเดินตามขวัญชีวาเข้าไปคิดในใจว่าเผื่อมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นตนอาจจะช่วยได้...“เบาๆ ค่ะคุณแม่ ชีวากำลังท้องอยู่ค่ะ” ขวัญชีวาร้องบอกเมื่อคุณดวงพรดึงกระชากเธอให้เดินตามไป หญิงสาวหอบน้อยๆ เมื่อเดินขึ้นบนไดมาแล้วสามชั้น ทางเดินหนีไฟไม่ค่อยมีคนใช้นักมันจึงเงียบสงัดจนเธอรู้สึกกลัว ยิ่งเห็นแววตาของคุณดวงพรขวัญชีวาไม่อยากยอมรับเลยว่าเธอคิดผิด... แต่มันคงสายไปแล้วตอนนี้เธอควรตั้งสติและหาทางเอาตัวรอดจากคุณดวงพรที่เหมือนคนบ้าไร้สติเข้าไปทุกที...“ก็ดีสิ..”“ค่ะ คุณแม่กำลังจะมีหลาน”หญิงสาวพยายามพูดให้คุณดวงพรเห็นแก่ชีวิตเล็กๆ ในตัวเธอ“ไหนคุณแม่ว่า

  • ขวัญชีวาซาตาน   บทที่ 70.

    บทที่ 70.ธีโอรู้สึกหงุดหงิดและใจไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก ดวงตาคมเฝ้ามองห้องนั่งเล่นซึ่งขวัญชีวาอยู่ที่นั่นตั้งแต่รับประทานอาหารกลางวันเสร็จ จนตอนนี้บ่ายคล้อยแล้วขวัญชีวายังไม่ยอมออกมาพบใครๆ ทั้งยังสั่งไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเธออีกด้วย“ผมจะพาชีวากลับไร่ คิดว่าสภาพแวดล้อมดีๆ จะทำให้ชีวาดีขึ้น” ชายหนุ่มพูดขึ้นในที่สุดเพราะคิดว่าหากพาเธอกลับไปไร่ได้พบบรรยากาศดีๆ บริสุทธิ์สดชื่นจะทำให้ขวัญชีวาดีขึ้น“ก็ดีนะคะ คุณหนูบ่นคิดถึงไร่ตลอด”“พาเมียไปเถอะ เดี๋ยวพ่อก็จะไปด้วย” คุณธัชบอกลูกชายและเห็นด้วยกับความคิดของธีโอ“แต่ผมว่าจะพาชีวาไปเยี่ยมชีวันก่อนกลับ อย่างน้อยๆ ก็ให้ทั้งสองได้พบกันก่อน.. สารวัตรกวินโทร. มาบอกว่าอาการของดวงชีวันเหมือนจะดีขึ้นหากเธอดีขึ้นจริงๆ ผมจะรักษาเธอให้หาย” ธีโอบอกเบาๆ เขาคิดจะทำอย่างนั้นจริงๆ อย่างน้อยดวงชีวันก็ถือว่าเป็นพี่สาวของขวัญชีวา“จริงๆ แล้วคุณหนูชีวันก็น่าสงสารนะคะ ถูกเลี้ยงดูมานั้นแทนที่จะได้รับการเลี้ยงดูที่ดีแต่ต้องมาถูกทำลายเพียงเพราะความอิจฉาริษยาของคนที่เป็นป้าแท้ๆ ของตัวเอง คุณดวงพรตั้งใจให้เด็กทั้งสองเกลียดกันเธอต้องการให้เด็กๆ พลัดพรากห่างไกลกันทั้

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status