Masukชีวิตของเทียนหอมตั้งแต่จำความได้ก็เต็มไปด้วยความเรียบง่ายและความอบอุ่น แม้ว่าจะมียายนวลจันทร์เพียงคนเดียวที่ดูแลเธอ แต่ในทุกๆ วันก็เปี่ยมไปด้วยความรัก
เทียนหอมเติบโตมาในบ้านไม้หลังเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมคลอง เธอตื่นเช้าด้วยกลิ่นหอมของขนมไทยที่ยายเตรียมจะนำไปขายไม่ว่าจะเป็นขนมตาล ขนมกล้วยหรือขนมชั้น ตั้งแต่เด็กจนโตเทียนหอมก็ช่วยยายนวลจันทร์ทำขนม เธอเรียนรู้วิธีผสมแป้ง นวดแป้ง และนึ่งขนมด้วยความกระตือรือร้น แม้จะเหนื่อยแต่เธอก็รู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ได้ช่วยยาย ทุกเช้าก่อนออกไปเรียน เทียนหอมจะช่วยยายนำขนมใส่รถเข็นเก่าๆ แล้วพาไปขายที่ตลาด เธอยิ้มแย้มแจ่มใสเวลาเรียกลูกค้า เพราะรู้ดีว่ารายได้จากขนมเหล่านี้คือสิ่งที่ช่วยประคับประคองชีวิตของเธอและยาย หลังเลิกเรียนเทียนหอมจะกลับมาทำการบ้านใต้แสงไฟดวงเล็กๆ และช่วยยายคิดสูตรขนมใหม่ๆ เธอใฝ่ฝันว่าเมื่อโตขึ้น เธออยากมีร้านขนมไทยเป็นของตัวเองและจะทำให้คนรุ่นใหม่รู้จักและรักในรสชาติของขนมไทยที่มีเอกลักษณ์ให้ได้ แม้บางครั้งจะมีอุปสรรคอยู่บ้างทำให้รายได้ไม่พอใช้ บางวันตลาดก็เงียบเหงาไม่ค่อยมีลูกค้า แต่เทียนหอมก็ไม่เคยหมดกำลังใจ เธอเรียนรู้ที่จะมองหาความสุขในสิ่งเล็กๆ อยู่เสมอ รอยยิ้มจากยายนวลจันทร์หรือคำชมจากลูกค้าที่ชื่นชอบขนมฝีมือเธอ สำหรับเทียนหอมชีวิตนี้แม้จะไม่ได้หรูหราเหมือนกับเด็กคนอื่น แต่ชีวิตของเธอก็เต็มไปด้วยความหมายเพราะเธอมียายนวลจันทร์ที่เป็นทั้งครอบครัวและแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้เดินหน้าต่อไป ถึงแม้จะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีทางเลือก แต่เทียนหอมก็ยังคงยืนหยัดด้วยความหวังเล็กๆ ในใจ ว่าสักวันหนึ่ง ชีวิตอาจเปิดโอกาสให้เธอได้เลือกทางเดินที่เธอฝันได้ ตั้งแต่จำความได้ชีวิตของเทียนหอมก็ไม่เคยมีตัวเลือกมากมาย ทุกวันเต็มไปด้วยหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อความอยู่รอด เธอเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่เรียบง่ายแต่ก็เต็มไปด้วยความท้าทาย ความฝันที่เคยมีเมื่อวัยเด็กค่อยๆ เลือนลางเมื่อเธอเริ่มรู้จักความจริงของโลก เทียนหอมรู้ดีว่าการมีชีวิตที่มั่นคงนั้นต้องแลกมาด้วยความเหนื่อยยากและลำบากแค่ไหน เธอจึงไม่เคยคิดที่จะปฏิเสธสิ่งที่มีอยู่ แม้บางครั้งจะรู้สึกอยากหลีกหนีความเหนื่อยล้าและความกดดันในชีวิตก็ตาม แต่เทียนหอมก็เลือกที่จะก้มหน้าทำงานต่อไปเพื่อยายและเพื่อความหวังที่ยายมีต่อเธอ บรรยากาศในครัวของยายนวลจันทร์และเทียนหอมเป็นไปอย่างเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น เทียนหอมนั่งอยู่ตรงมุมโต๊ะไม้เก่าพร้อมกับกล่องใสที่ยายเตรียมไว้ เธอช่วยยายแพ็คขนมไทยอย่างตั้งใจ ทุกขั้นตอนเธอทำด้วยความประณีต แม้กล่องจะเรียบง่าย แต่ขนมที่อยู่ข้างในนั้นเต็มไปด้วยความรักและความใส่ใจของทั้งคู่ “ยายคะ เทียนอยากเปิดร้านขายขนมไทยค่ะ” เสียงของเทียนหอมดังขึ้นในขณะที่เธอกำลังปิดฝากล่องใบสุดท้าย เธอหันไปมองยายนวลจันทร์ด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นและความหวัง “หนูฝันไว้แบบนั้นจริงๆ เหรอลูก?” ยายนวลจันทร์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะยื่นมือมาลูบศีรษะของเทียนหอมด้วยความรักและเอ็นดู “ใช่ค่ะยาย! เทียนอยากให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักและรักขนมไทยเหมือนที่ยายสอนให้เทียนรัก พอเทียนเรียนจบ เทียนจะเก็บเงินแล้วเปิดร้านขายขนมไทยเป็นของตัวเองค่ะ” เทียนหอมตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น แววตาของเธอเต็มไปด้วยความหวังและพลัง “ยายเชื่อว่าหนูทำได้ลูก เทียนหอมของยายเป็นเด็กที่เก่งและขยัน สักวันหนูจะทำได้อย่างแน่นอน” ยายนวลจันทร์ยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภูมิใจในตัวเทียนหอม “ค่ะยาย แต่ตอนนี้เทียนต้องตั้งใจช่วยยายก่อนค่ะ ขนมของยายอร่อยที่สุดเลย! ถ้าเปิดร้าน เทียนจะต้องสืบทอดสูตรของยายและทำให้มันสมบูรณ์แบบที่สุด!” เทียนหอมพูดพลางหยิบขนมมาเรียงใส่กล่องใหม่ “ถ้าร้านของเราดังขึ้นมา ยายขอไปนั่งมองดูเงียบๆ ข้างๆ นะลูก แค่ได้เห็นความสำเร็จของหนู ยายก็ดีใจแล้ว” ยายนวลจันทร์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนในขณะที่กำลังห่อขนมชั้นอีกถาด “ไม่ใช่แค่เงียบๆ หรอกค่ะ ยายจะต้องมานั่งดูแลร้านกับเทียนเลย เทียนไม่มีทางปล่อยให้ยายหยุดทำขนมแน่ๆ” เทียนหอมตอบพร้อมเสียงหัวเราะ รอยยิ้มของเธอเผยถึงความรักและความเคารพที่เธอมีต่อยายนวลจันทร์ ภายในบ้านหลังเล็กเต็มเสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังขึ้นในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรักและความมุ่งมั่น เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความผูกพันและความฝันที่ทั้งสองคนมีร่วมกัน แม้ชีวิตอาจจะไม่ง่าย แต่ความหวังของเทียนหอมและกำลังใจจากยายนวลจันทร์คือแสงสว่างที่คอยนำทางให้ทั้งสองเดินต่อไปได้เสมอ .. เช้าวันใหม่เทียนหอมตื่นขึ้นมาพร้อมกับแสงอาทิตย์ที่ส่องลอดผ่านหน้าต่างไม้เก่าบนบ้านหลังเล็ก เธอรีบลุกขึ้นมาช่วยยายนวลจันทร์เตรียมขนมเหมือนเช่นเคย “ข้าวเหนียวปิ้งไส้กล้วย” วันนี้ยายนวลจันทร์ตั้งใจทำเมนูนี้เพิ่มมาจากขนมไทยเดิมๆ ที่ขายเป็นประจำ เพราะอยากลองดูว่าลูกค้าจะสนใจมากน้อยแค่ไหน ในขณะที่เทียนหอมกำลังช่วยยายบรรจุขนมใส่กล่อง เธอเผลอนึกถึงความฝันของตัวเองอีกครั้ง เธอมองไปเห็นยายที่กำลังห่อใบตองด้วยความตั้งใจ สายตานั้นเต็มไปด้วยความรักและความทุ่มเทให้กับสิ่งที่กำลังทำอยู่ “ยายคะ เทียนสงสัยจังค่ะ ถ้าสักวันหนึ่งเราเปิดร้านขายขนม ยายคิดว่าขนมแบบไหนจะขายดีที่สุด?” เทียนหอมถามขึ้นในขณะที่มือยังคงปิดฝากล่องขนมอย่างคล่องแคล่ว ยายนวลจันทร์หยุดมือชั่วขณะ ก่อนจะยิ้มออกมา… “ยายว่าไม่ใช่แค่เรื่องขนมลูก แต่เป็นหัวใจของคนทำขนมมากกว่า ถ้าขนมเรามีใจใส่ลงไปด้วยคนกินเขาจะรู้สึกได้เอง” “เทียนจะจำไว้ค่ะ เทียนอยากให้ร้านขนมไทยของเราเป็นที่รู้จักของทุกคน ไม่ใช่แค่เพราะอร่อยแต่เพราะมันมีเรื่องราวและมีความหมาย” น้ำเสียงของเทียนหอมเต็มไปด้วยความตั้งใจ เธอรู้ว่านี่ไม่ใช่เพียงแค่ความฝันของตัวเอง แต่ยังเป็นการสานต่อในสิ่งที่ยายนวลจันทร์รักอีกด้วย “ยายรู้ว่าหนูทำได้แน่เทียนหอม ถ้าร้านของเราประสบความสำเร็จ ยายอยากให้หนูจำไว้ว่ามันเริ่มต้นจากครัวเล็กๆ ที่บ้านหลังนี้ เริ่มจากความรักและความพยายามที่เรามีให้กัน” ยายนวลจันทร์พูดพร้อมกับยกมือมาลูบศีรษะของเทียนเบาๆ เทียนหอมยิ้มอย่างภูมิใจในสิ่งที่เธอมี แม้ว่าชีวิตของเธอจะไม่ได้ง่ายหรือสมบูรณ์แบบ แต่เธอก็รู้ว่าความพยายามและความฝันที่เธอกับยายมีร่วมกันจะนำพาเธอไปสู่สิ่งที่ดีในวันข้างหน้า… .. สู้ต่อไปนะเทียนหอม ฝากนักอ่านติดตามและเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ🙏🏼🙏🏼🙏🏼หนึ่งเดือนต่อมางานแต่งเล็กๆ จัดขึ้นในสวนของบ้านหลังใหญ่ บรรยากาศภายในงานก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น ดอกไม้ที่ใช้ในงานก็เต็มไปด้วยสีขาวสะอาดบ่งบอกถึงความรักที่บริสุทธิ์อาหารในงานแต่ละเมนูก็เป็นมาร์เวลที่เลือกเองกับมือ ทุกอย่างภายในงานต้องผ่านการคิดและการตัดสินใจของมาร์เวลทั้งหมด เพราะเขาทุ่มเทและตั้งใจกับการจัดงานแต่งในครั้งนี้เป็นอย่างมากงานแต่งครั้งแรกและเป็นงานแต่งครั้งเดียวในชีวิตทุกอย่างก็ต้องออกมาดีและสมบูรณ์แบบมากที่สุดแขกภายในงานเริ่มทยอยมาร่วมงานกันแล้ว มาร์เวลเลือกเชิญเฉพาะญาติที่เป็นคนสนิทและเชิญนักข่าวหลายช่องมาร่วมงาน เรียกได้ว่านักข่าวกับญาติที่มาร่วมงานนั้นมีจำนวนใกล้เคียงกันมากที่เขาเชิญนักข่าวมาร่วมงานก็เพราะมาร์เวลอยากประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาแต่งงานและมีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จะได้ไม่มีเรื่องเข้าใจผิดเข้ามาให้เขาต้องมีเรื่องปวดหัวอีกเทียนหอมอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ใบหน้าสวยถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางราคาแพงจากช่างแต่งหน้ามืออาชีพชื่อดังที่มาร์เวลเป็นคนจัดการและจ้างทุกอย่างแบบดีที่สุดเพื่อวันสำคัญที่สุดในชีวิตให้กับเธอ“เจ้าสาวสวยมากเลยค่ะ”ผู้ช่วยช่างแ
ตอนเย็นของวันวันนี้บรรยากาศภายในบ้านหลังใหญ่เต็มไปด้วยความอบอุ่น มาร์เวลกับเทียนหอมนั่งพูดคุยกันระหว่างรอแม่บ้านตั้งโต๊ะอาหารเย็นให้เรียบร้อย วันนี้เป็นวันที่เรียบง่ายแต่ก็เต็มไปด้วยความพิเศษนอกจากจะจดทะเบียนสมรสกันแล้วมาร์เวลก็ยังอยากสานฝันให้กับเทียนหอม เพราะเขาคิดว่าเธอก็คงจะมีความฝันเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“เราจัดงานแต่งดีไหม จัดงานให้ยิ่งใหญ่ให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอคือภรรยาของฉัน” ชายหนุ่มยังคงมองภรรยาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก“หนูว่า…” เทียนหอมไม่คิดเลยว่ามาร์เวลจะเซอร์ไพร์สเธอด้วยการชวนเธอจัดงานแต่งแบบนี้“มีอะไรหรือเปล่า?” มาร์เวลเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทางลังเลและคิดหนักของอีกฝ่าย ตอนแรกเขาคิดว่าเธอจะตอบตกลงเพราะเธออยากจัดงานแต่งและใส่ชุดเจ้าสาวเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ยายยังอยู่ หนูก็อยากจัดงานแต่งให้ยิ่งใหญ่ให้ยายได้เห็นและมาร่วมงานด้วย…” หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นมา“แต่ตอนนี้ไม่มียายแล้ว อีกอย่างหนูก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนจัดงานไปก็คงไม่มีความหมายหรอกค่ะ” เมื่อไม่มียายการจัดงา
เช้าวันต่อมามาร์เวลตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วมองเทียนหอมที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ การที่เขาตื่นมาแล้วเจอเธอมันทำให้เขามีความสุข ไม่ว่าจะเป็นตอนหลับหรือตอนตื่นก็จะมีเธออยู่ข้างๆ เสมอ รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏบนใบหน้าหล่อ ผู้ชายที่นิ่งเงียบและเย็นชาตอนนี้กลับคลั่งรักและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนอกจากมาร์เวลจะอยากให้เทียนหอมมาอยู่บ้านด้วยกันแล้ว ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เขาอยากจะทำร่วมกันกับเธอ ซึ่งเขาจะไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า เขาจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องและสมบูรณ์แบบที่สุดมือหนาลูบปอยผมออกจากใบหน้าสวยอย่างอ่อนโยน เทียนหอมเป็นเหมือนเด็กที่ใสซื่อที่ต้องได้รับการปกป้องจากเขา ไม่คิดเลยว่าความสงสารในวันนั้นจะกลายเป็นความรักในวันนี้ มาร์เวลผ่านผู้หญิงมาตั้งมากมายแต่สุดท้ายก็ยกหัวใจให้เทียนหอมไปจนหมดชายหนุ่มขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าจะรบกวนเวลานอนของเทียนหอม วันนี้เขามีอีกหลายอย่างที่จะต้องทำและเขาก็ตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้องมาร์เวลลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวให้พร้อมก่อนที่เทียนหอมจะตื่น ซึ่งวันนี้เขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเธอ ถึงเธอจะไม่ได้ขอให้เขาหยุดงานแต่เขาก็เต็มใจ
เช้าวันต่อมามาร์เวลเป็นคนเตรียมอาหารเช้าให้กับเทียนหอมในทุกๆ วัน ถึงแม้ว่าเขาจะทำไม่เป็นแต่เทียนหอมก็จะได้ทานอาหารอร่อยๆ ทุกวัน เพราะด้านล่างของคอนโดจะมีร้านอาหารชื่อดังคอยเปิดบริการลูกค้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ซึ่งมาร์เวลก็ใช้บริการที่ร้านอาหารทุกวันหลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จทั้งสองก็นั่งเล่นกันอยู่ที่โซฟากลางห้อง บนโต๊ะก็จะมีจานผลไม้หลากหลายชนิดและน้ำผลไม้ที่คั้นสดใหม่ทุกแก้วที่เอาไว้สำหรับบำรุงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะมาร์เวลใส่ใจเทียนหอมทุกอย่างแม้แต่เรื่องเล็กน้อยวันนี้เป็นวันที่มาร์เวลดูเงียบผิดปกติ เหมือนกับมีเรื่องอะไรบางอย่างติดอยู่ภายในใจแต่เขาไม่กล้าที่จะพูดออกมา บรรยากาศภายในห้องดูเงียบจนน่าอึดอัด เขานั่งทำใจอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจพูดเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจออกมา“เทียนหอม…” ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวอย่างแผ่วเบา พร้อมกับจับมือเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยนใบหน้าสวยหันมองตามเสียงเรียกพร้อมรอยยิ้ม เพราะวันนี้มาร์เวลบอกกับเธอว่าเขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่กับเธอทั้งวันไม่ไปไหน“เราย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านกันไหม?” มาร์เวลพูดในสิ่งที่คิดและอยู่ภายในใจออกมา เขามองใบหน้าสวยอย่างเฝ้ารอและลุ
ตอนเย็นของวันวันนี้เป็นวันหยุดที่แสนพิเศษเพราะมาร์เวลให้เลขาจองโต๊ะดินเนอร์ที่ร้านอาหารสุดหรูใจกลางเมืองเอาไว้ให้ เมื่อใกล้ถึงเวลาเขาก็พาเทียนหอมไปที่ร้านอาหารทันที จะได้มีเวลานั่งเล่นและทานอาหารเย็นด้วยกันอย่างสบายใจพอเดินเข้าไปภายในร้านพนักงานก็พาทั้งสองคนไปยังโต๊ะพิเศษที่จองเอาไว้ในทันที บรรยากาศภายในร้านดูโรแมนติก เสียงเปียโนบรรเลงเบาๆ สร้างความผ่อนคลาย แถมบนโต๊ะที่มาร์เวลจองเอาไว้ยังมีเทียนหอมหลากหลายรูปแบบวางเอาไว้ทำให้ดูมีความพิเศษกว่าโต๊ะอื่นเป็นอย่างมากเทียนหอมนั่งลงที่เก้าอี้ด้วยความสบายใจ โต๊ะที่จองไว้ก็อยู่มุมสูงห่างจากโต๊ะอื่นและมีความเป็นส่วนตัว หญิงสาวมองวิวใจกลางเมืองในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟ นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้มาทานร้านอาหารหรูแบบนี้ เรียกได้ว่ามาร์เวลเป็นคนที่พาเธอทำอะไรใหม่ๆ ในชีวิตอยู่ตลอด“ทำไมถึงพาหนูมาร้านแพงๆ แบบนี้คะ?” ถึงแม้ว่าเทียนหอมจะชอบบรรยากาศของร้าน แต่เธอก็พอจะรู้ว่าราคาของร้านแบบนี้คงจะแพงมากแน่ๆ ถึงจะชอบแต่เธอก็เสียดายเงินที่เขาจ่ายไปอยู่ดี“แค่อยากพามา ทำไมต้องมีเหตุผลด้วย” มาร์เวลตอบหญิงสาวตรงน้ำด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เต็มไปด้ว
สองเดือนต่อมาหลังจากที่กลับจากทะเลในวันนั้นมาร์เวลก็พาเทียนหอมไปฝากครรภ์ที่โรงพยายาลกับคุณหมอในทันทีเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่กับลูกที่อยู่ในท้อง โดยที่เขาเลือกโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียงและติดอันดับต้นๆ ในประเทศ ระดับประธานบริษัทอย่างมาร์เวลคงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนที่เขารักอย่างแน่นอนตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้มาร์เวลก็ทำหน้าที่ดูแลเทียนหอมเป็นอย่างดี เขาทำได้ทุกอย่างตามที่บอกกับเธอเอาไว้ ส่วนเรื่องเวลาของการทำงานก็ลดลงไปบ้าง เพราะเวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันเขาจะให้ความสำคัญกับเทียนหอมมากกว่างาน พอมีเวลาว่างเขาก็จะอยู่กับเธอชวนเธอไปทานอาหารอร่อยๆ หรือไม่ก็ไปเดินเล่นเปิดหูเปิดตาบ้างตอนนี้เทียนหอมก็เริ่มท้องโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เวลาที่เธอจะไปไหนก็จะมีมาร์เวลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เขาไม่ปล่อยให้เธอทำงานหรือทำอะไรที่รู้สึกเหนื่อย เพราะกลัวว่าจะมีผลต่อลูกในท้อง ถึงแม้ว่าจะมีบริษัทโทรมาบอกให้เธอไปทำงาน แต่เขาก็ได้ปฏิเสธและยืนยันว่าจะไม่ให้เธอทำงาน“พร้อมหรือยัง?” มาร์เวลเอ่ยถามหญิงสาวพร้อมกับโอบกอดเธอเอาไว้ ช่วงนี้ชายหนุ่มเสพติดการกอดเทียนหอมเป็นอย่างมาก เวลาเจอหน้าหรืออยู่ด้วยกันเขาก็







