Masukเทียนหอมลืมความเหนื่อยล้าที่มีไปจนหมดเพราะเป็นห่วงยายนวลจันทร์ เธอรีบเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์พยาบาลเพื่อสอบถามถึงยายของเธอทันที
“ขอโทษนะคะ” หญิงสาวรีบมองหาพยาบาลที่อยู่ในห้องเพราะตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบตีสามแล้วเธอต้องควบคุมสติให้ดี จะเสียงดังรบกวนผู้ป่วยคนอื่นในยามวิกาลแบบนี้ไม่ได้ “มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?” พยาบาลในห้องเดินมาถามด้วยความสงสัย “พอดีหนูมาหายายนวลจันทร์ที่อยู่เตียงแปดค่ะ ไม่ทราบว่ายายหนูอยู่ไหนคะ?” เทียนหอมรีบถามพยาบาลด้วยหัวใจที่สั่นไหว “รอสักครู่นะคะ” พยาบาลเดินไปดูข้อมูลในระบบให้ก่อนจะกลับมาหาหญิงสาวที่เป็นญาติผู้ป่วย “ยายนวลจันทร์อยู่ที่ห้องไอซียูค่ะ” พยาบาลตอบเสียงเรียบ “เกิดอะไรขึ้นคะ?” เทียนหอมแทบจะหมดแรงยืนมือบางจับที่เคาน์เตอร์เอาไว้แน่น “อาการคุณยายทรุดลงก็เลยต้องย้ายไปห้องไอซียูเมื่อตอนดึกค่ะ ทางเราพยายามโทรติดต่อญาติแล้วแต่เบอร์โทรที่ให้ไว้ก็โทรไม่ติดเลยค่ะ” พยาบาลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “อาการทรุดเหรอคะ?” เทียนหอมแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอได้ยิน เธอตั้งใจทำงานและหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่พอได้มาเห็นและมาได้ยินอะไรแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เธอหมดแรงจะสู้ต่อ “ใช่ค่ะ รีบไปติดต่อที่ห้องไอซียูเลยค่ะ” พยาบาลแนะนำเพราะทางโรงพยาบาลจะทำอะไรไม่ได้หากคนป่วยไม่มีญาติมาเซ็นรับรองเอกสาร เทียนหอมไม่รอช้ารีบวิ่งไปยังห้องไอซียูของทางโรงพยาบาลทันที ในใจก็ภาวนาขอให้ยายอย่าเป็นอะไรมาก เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ยายอาการดีขึ้น แม้ว่าจะต้องแลกกับอะไรในชีวิตเธอก็ยอม ขอแค่ให้ยายปลอดภัยก็พอ “ขอโทษนะคะอาการของยายนวลจันทร์เป็นยังไงบ้างคะ?” หญิงสาวถามพยาบาลที่อยู่หน้าห้องเสียงสั่น “น้องเป็นญาติของยายนวลจันทร์ใช่ไหม” พยาบาลเอ่ยถามเสียงเรียบ “ใช่ค่ะ” เทียนหอมพยักหน้ารัวๆ พร้อมคำตอบ “งั้นไปพบคุณหมอที่ดูแลอาการคุณยายเลยค่ะ” พยาบาลยิ้มบางๆ อย่างเป็นมิตร “ได้ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารัวๆ ด้วยท่าทางเร่งรีบ “ทางนี้ค่ะ” พยาบาลผายมือไปอีกทาง ก่อนจะเดินนำหญิงสาวไป “ขออนุญาตค่ะ ญาติของคุณยายนวลจันทร์มาแล้วค่ะ” พยาบาลเคาะประตูหน้าห้องเพื่อขออนุญาตคุณหมอประจำเวรห้องไอซียูวันนี้ “เข้ามาครับ” เสียงคุณหมอเอ่ยอนุญาตจากด้านใน “สวัสดีค่ะ” “น้องเป็นอะไรกับคุณยายนวลจันทร์” คุณหมอถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้งก่อนที่จะบอกอาการคนป่วย “หนูเป็นหลานค่ะ ยายหนูเป็นยังไงบ้างคะ” เทียนหอมตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนจะถามถึงอาการของยายนวลจัทร์ด้วยความเป็นห่วง “คือตอนนี้คุณยายอาการทรุดลงจากโรคเรื้อรังที่เกี่ยวกับอวัยวะภายใน เราจำเป็นที่จะต้องทำการผ่าตัดด่วนเพื่อช่วยชีวิต” คุณหมอวัยกลางคนอธิบายอย่างใจเย็น เพื่อให้ญาติได้เข้าใจ “แล้วจะต้องผ่าตัดวันไหนคะ” หญิงสาวถามคุณหมอกลับในทันที เพราะเธอพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยยายให้หายป่วย “อย่างที่น้องว่ารู้ทางโรงพยาบาลเราเป็นโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งทางโรงพยาบาลไม่ได้มีเครื่องมือผ่าตัดที่ครบวงจร อีกทั้งยังต้องรอคิวจากคุณหมอผ่าตัดที่ประจำอยู่โรงพยาบาลอื่น” คุณหมอยังคงอธิบายต่อ เพื่อให้ญาติคนไข้ได้เข้าใจเกี่ยวกับการรักษา “หมายความว่ายังไงคะ?” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณหมอพูด “ที่โรงพยาบาลผ่าตัดฟรี รักษาฟรีทุกอย่างก็จริง แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามคิวและขั้นตอนของทางโรงพยาบาล” “แล้วยายหนูจะได้ผ่าตัดวันไหนคะ” “คุณหมอที่ผ่าตัดคิวว่างเดือนหน้า” “เดือนหน้าเลยเหรอคะ” เทียนหอมเบิกตากว้างด้วยความตกใจไม่คิดว่าจะต้องรอนานขนาดนี้ “ใช่ แต่…” คุณหมอพยักหน้าตอบด้วยท่าทางคิดหนัก “แต่อะไรคะ?” “แต่ถ้าดูจากอาการของคุณยายแล้วก็กลัวว่าคุณยายจะรอไม่ไหว” คุณหมอตัดสินใจพูดทุกอย่างออกมาตามตรง “รอไม่ไหว… แล้วมีวิธีอื่นอีกไหมคะที่จะช่วยให้ยายอาการดีขึ้นได้” เทียนหอมรีบถามถึงวิธีที่จะช่วยยายทันที “ก็คงต้องย้ายไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลเอกชน ที่มีคุณหมอและอุปกรณ์ที่ครบทุกอย่าง” “งั้นหนูจะย้ายยายไปโรงพยาบาลเอกชนค่ะ” “แต่ค่ารักษาโรงพยาบาลเอกชนค่อนข้างสูงนะ” “ประมาณเท่าไหร่คะ หนูจะพยายามหาเงินมารักษายายให้ได้” เทียนหอมพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อยาย “ถ้าเป็นโรงพยาบาลเอกชนค่าใช้จ่ายก็ประมาณสองแสนได้ แต่มีเวลาไม่มากเพราะต้องดำเนินการผ่าตัดทันทีเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย” “แล้วหนูต้องทำยังไงบ้างคะ” “น้องก็ต้องหาเงินมาสำรองก่อนสักหนึ่งแสน เพราะก่อนผ่าตัดทางโรงพยาบาลเอกชนจะให้จ่ายเงินค่าผ่าตัดก่อน” หัวใจของเทียนหอมหล่นวูบ น้ำตาเริ่มคลอออกมาด้วยความเครียดและความกดดันที่มากขึ้น เธอจะไปหาเงินหนึ่งแสนมาจากไหน เธอยังมองไม่เห็นทางด้วยซ้ำ “หนูพอจะมีเวลาหาเงินอีกกี่วันคะ” เทียนหอมถามคุณหมอเสียงสั่น ตราบใดที่เธอยังสู้เธอก็ยังมีความหวัง “ไม่เกินสามวัน ถ้าหากปล่อยเวลาทิ้งไปนานกว่านี้อาการของคนป่วยอาจจะแย่ลง การผ่าตัดอาจจะไม่เห็นผลและไม่ได้ช่วยอะไรอีกต่อไป” “หนูจะหารีบหาเงินมารักษายายค่ะ” “ถ้ามีเงินแล้วก็มาติดต่อเจ้าหน้าที่หน้าห้องฉุกเฉินได้ตลอดเลยนะ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะทำเรื่องย้ายผู้ป่วยไปโรงพยาบาลเอกชนทันที” “ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ” เทียนหอมยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณคุณหมอที่แนะนำเธอเป็นอย่างดี หญิงสาวเดินออกมานั่งหน้าห้องไอซียูด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า ในหัวก็เต็มไปด้วยความกดดัน เธอรู้ดีว่าเธอไม่มีทางหาเงินจำนวนนี้มารักษายายได้อย่างแน่นอน แต่เธอก็ไม่อยากปล่อยให้ยายต้องเจ็บป่วยโดยที่ไม่ได้รับการรักษา น้ำตาก็เริ่มไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ “หนูต้องหาเงินให้ได้... ไม่ว่าจะยากแค่ไหน หนูก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด” เทียนหอมบอกตัวเองทั้งน้ำตา พร้อมกับมองไปยังประตูหน้าห้องไอซียูด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เธอจะไม่มีวันปล่อยให้ยายนอนรอความตายโดยที่เธอไม่คิดจะทำอะไรอย่างแน่นอน เธอจะสู้ให้ถึงที่สุด สู้เพื่อที่จะทำให้ยายได้มีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกใบนี้… .. ใครก็ได้ช่วยเทียนหอมหน่อยค่าาาา ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะหนึ่งเดือนต่อมางานแต่งเล็กๆ จัดขึ้นในสวนของบ้านหลังใหญ่ บรรยากาศภายในงานก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น ดอกไม้ที่ใช้ในงานก็เต็มไปด้วยสีขาวสะอาดบ่งบอกถึงความรักที่บริสุทธิ์อาหารในงานแต่ละเมนูก็เป็นมาร์เวลที่เลือกเองกับมือ ทุกอย่างภายในงานต้องผ่านการคิดและการตัดสินใจของมาร์เวลทั้งหมด เพราะเขาทุ่มเทและตั้งใจกับการจัดงานแต่งในครั้งนี้เป็นอย่างมากงานแต่งครั้งแรกและเป็นงานแต่งครั้งเดียวในชีวิตทุกอย่างก็ต้องออกมาดีและสมบูรณ์แบบมากที่สุดแขกภายในงานเริ่มทยอยมาร่วมงานกันแล้ว มาร์เวลเลือกเชิญเฉพาะญาติที่เป็นคนสนิทและเชิญนักข่าวหลายช่องมาร่วมงาน เรียกได้ว่านักข่าวกับญาติที่มาร่วมงานนั้นมีจำนวนใกล้เคียงกันมากที่เขาเชิญนักข่าวมาร่วมงานก็เพราะมาร์เวลอยากประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาแต่งงานและมีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จะได้ไม่มีเรื่องเข้าใจผิดเข้ามาให้เขาต้องมีเรื่องปวดหัวอีกเทียนหอมอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ใบหน้าสวยถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางราคาแพงจากช่างแต่งหน้ามืออาชีพชื่อดังที่มาร์เวลเป็นคนจัดการและจ้างทุกอย่างแบบดีที่สุดเพื่อวันสำคัญที่สุดในชีวิตให้กับเธอ“เจ้าสาวสวยมากเลยค่ะ”ผู้ช่วยช่างแ
ตอนเย็นของวันวันนี้บรรยากาศภายในบ้านหลังใหญ่เต็มไปด้วยความอบอุ่น มาร์เวลกับเทียนหอมนั่งพูดคุยกันระหว่างรอแม่บ้านตั้งโต๊ะอาหารเย็นให้เรียบร้อย วันนี้เป็นวันที่เรียบง่ายแต่ก็เต็มไปด้วยความพิเศษนอกจากจะจดทะเบียนสมรสกันแล้วมาร์เวลก็ยังอยากสานฝันให้กับเทียนหอม เพราะเขาคิดว่าเธอก็คงจะมีความฝันเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“เราจัดงานแต่งดีไหม จัดงานให้ยิ่งใหญ่ให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอคือภรรยาของฉัน” ชายหนุ่มยังคงมองภรรยาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก“หนูว่า…” เทียนหอมไม่คิดเลยว่ามาร์เวลจะเซอร์ไพร์สเธอด้วยการชวนเธอจัดงานแต่งแบบนี้“มีอะไรหรือเปล่า?” มาร์เวลเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทางลังเลและคิดหนักของอีกฝ่าย ตอนแรกเขาคิดว่าเธอจะตอบตกลงเพราะเธออยากจัดงานแต่งและใส่ชุดเจ้าสาวเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ยายยังอยู่ หนูก็อยากจัดงานแต่งให้ยิ่งใหญ่ให้ยายได้เห็นและมาร่วมงานด้วย…” หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นมา“แต่ตอนนี้ไม่มียายแล้ว อีกอย่างหนูก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนจัดงานไปก็คงไม่มีความหมายหรอกค่ะ” เมื่อไม่มียายการจัดงา
เช้าวันต่อมามาร์เวลตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วมองเทียนหอมที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ การที่เขาตื่นมาแล้วเจอเธอมันทำให้เขามีความสุข ไม่ว่าจะเป็นตอนหลับหรือตอนตื่นก็จะมีเธออยู่ข้างๆ เสมอ รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏบนใบหน้าหล่อ ผู้ชายที่นิ่งเงียบและเย็นชาตอนนี้กลับคลั่งรักและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนอกจากมาร์เวลจะอยากให้เทียนหอมมาอยู่บ้านด้วยกันแล้ว ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เขาอยากจะทำร่วมกันกับเธอ ซึ่งเขาจะไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า เขาจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องและสมบูรณ์แบบที่สุดมือหนาลูบปอยผมออกจากใบหน้าสวยอย่างอ่อนโยน เทียนหอมเป็นเหมือนเด็กที่ใสซื่อที่ต้องได้รับการปกป้องจากเขา ไม่คิดเลยว่าความสงสารในวันนั้นจะกลายเป็นความรักในวันนี้ มาร์เวลผ่านผู้หญิงมาตั้งมากมายแต่สุดท้ายก็ยกหัวใจให้เทียนหอมไปจนหมดชายหนุ่มขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าจะรบกวนเวลานอนของเทียนหอม วันนี้เขามีอีกหลายอย่างที่จะต้องทำและเขาก็ตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้องมาร์เวลลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวให้พร้อมก่อนที่เทียนหอมจะตื่น ซึ่งวันนี้เขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเธอ ถึงเธอจะไม่ได้ขอให้เขาหยุดงานแต่เขาก็เต็มใจ
เช้าวันต่อมามาร์เวลเป็นคนเตรียมอาหารเช้าให้กับเทียนหอมในทุกๆ วัน ถึงแม้ว่าเขาจะทำไม่เป็นแต่เทียนหอมก็จะได้ทานอาหารอร่อยๆ ทุกวัน เพราะด้านล่างของคอนโดจะมีร้านอาหารชื่อดังคอยเปิดบริการลูกค้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ซึ่งมาร์เวลก็ใช้บริการที่ร้านอาหารทุกวันหลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จทั้งสองก็นั่งเล่นกันอยู่ที่โซฟากลางห้อง บนโต๊ะก็จะมีจานผลไม้หลากหลายชนิดและน้ำผลไม้ที่คั้นสดใหม่ทุกแก้วที่เอาไว้สำหรับบำรุงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะมาร์เวลใส่ใจเทียนหอมทุกอย่างแม้แต่เรื่องเล็กน้อยวันนี้เป็นวันที่มาร์เวลดูเงียบผิดปกติ เหมือนกับมีเรื่องอะไรบางอย่างติดอยู่ภายในใจแต่เขาไม่กล้าที่จะพูดออกมา บรรยากาศภายในห้องดูเงียบจนน่าอึดอัด เขานั่งทำใจอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจพูดเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจออกมา“เทียนหอม…” ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวอย่างแผ่วเบา พร้อมกับจับมือเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยนใบหน้าสวยหันมองตามเสียงเรียกพร้อมรอยยิ้ม เพราะวันนี้มาร์เวลบอกกับเธอว่าเขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่กับเธอทั้งวันไม่ไปไหน“เราย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านกันไหม?” มาร์เวลพูดในสิ่งที่คิดและอยู่ภายในใจออกมา เขามองใบหน้าสวยอย่างเฝ้ารอและลุ
ตอนเย็นของวันวันนี้เป็นวันหยุดที่แสนพิเศษเพราะมาร์เวลให้เลขาจองโต๊ะดินเนอร์ที่ร้านอาหารสุดหรูใจกลางเมืองเอาไว้ให้ เมื่อใกล้ถึงเวลาเขาก็พาเทียนหอมไปที่ร้านอาหารทันที จะได้มีเวลานั่งเล่นและทานอาหารเย็นด้วยกันอย่างสบายใจพอเดินเข้าไปภายในร้านพนักงานก็พาทั้งสองคนไปยังโต๊ะพิเศษที่จองเอาไว้ในทันที บรรยากาศภายในร้านดูโรแมนติก เสียงเปียโนบรรเลงเบาๆ สร้างความผ่อนคลาย แถมบนโต๊ะที่มาร์เวลจองเอาไว้ยังมีเทียนหอมหลากหลายรูปแบบวางเอาไว้ทำให้ดูมีความพิเศษกว่าโต๊ะอื่นเป็นอย่างมากเทียนหอมนั่งลงที่เก้าอี้ด้วยความสบายใจ โต๊ะที่จองไว้ก็อยู่มุมสูงห่างจากโต๊ะอื่นและมีความเป็นส่วนตัว หญิงสาวมองวิวใจกลางเมืองในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟ นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้มาทานร้านอาหารหรูแบบนี้ เรียกได้ว่ามาร์เวลเป็นคนที่พาเธอทำอะไรใหม่ๆ ในชีวิตอยู่ตลอด“ทำไมถึงพาหนูมาร้านแพงๆ แบบนี้คะ?” ถึงแม้ว่าเทียนหอมจะชอบบรรยากาศของร้าน แต่เธอก็พอจะรู้ว่าราคาของร้านแบบนี้คงจะแพงมากแน่ๆ ถึงจะชอบแต่เธอก็เสียดายเงินที่เขาจ่ายไปอยู่ดี“แค่อยากพามา ทำไมต้องมีเหตุผลด้วย” มาร์เวลตอบหญิงสาวตรงน้ำด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เต็มไปด้ว
สองเดือนต่อมาหลังจากที่กลับจากทะเลในวันนั้นมาร์เวลก็พาเทียนหอมไปฝากครรภ์ที่โรงพยายาลกับคุณหมอในทันทีเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่กับลูกที่อยู่ในท้อง โดยที่เขาเลือกโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียงและติดอันดับต้นๆ ในประเทศ ระดับประธานบริษัทอย่างมาร์เวลคงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนที่เขารักอย่างแน่นอนตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้มาร์เวลก็ทำหน้าที่ดูแลเทียนหอมเป็นอย่างดี เขาทำได้ทุกอย่างตามที่บอกกับเธอเอาไว้ ส่วนเรื่องเวลาของการทำงานก็ลดลงไปบ้าง เพราะเวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันเขาจะให้ความสำคัญกับเทียนหอมมากกว่างาน พอมีเวลาว่างเขาก็จะอยู่กับเธอชวนเธอไปทานอาหารอร่อยๆ หรือไม่ก็ไปเดินเล่นเปิดหูเปิดตาบ้างตอนนี้เทียนหอมก็เริ่มท้องโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เวลาที่เธอจะไปไหนก็จะมีมาร์เวลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เขาไม่ปล่อยให้เธอทำงานหรือทำอะไรที่รู้สึกเหนื่อย เพราะกลัวว่าจะมีผลต่อลูกในท้อง ถึงแม้ว่าจะมีบริษัทโทรมาบอกให้เธอไปทำงาน แต่เขาก็ได้ปฏิเสธและยืนยันว่าจะไม่ให้เธอทำงาน“พร้อมหรือยัง?” มาร์เวลเอ่ยถามหญิงสาวพร้อมกับโอบกอดเธอเอาไว้ ช่วงนี้ชายหนุ่มเสพติดการกอดเทียนหอมเป็นอย่างมาก เวลาเจอหน้าหรืออยู่ด้วยกันเขาก็







