Masukเทียนหอมเดินออกมาสูดอากาศที่หน้าโรงพยาบาลด้วยใจที่เหนื่อยล้า เธอทิ้งตัวนั่งลงที่ม้าหินอ่อนราวกับคนหมดแรง ตอนนี้ในหัวของเธอมืดแปดด้านไปหมดจนต้องออกมาพึ่งอากาศบริสุทธิ์ที่อยู่ด้านนอก
ในขณะที่เทียนหอมนั่งอยู่ด้านนอกของโรงพยาบาล ใบหน้าของเธอสะท้อนถึงความเหนื่อยล้าที่ผสมผสานกับความกังวลภายในใจ หัวใจของเธอหนักอึ้งเหมือนถูกบีบจนแทบหายใจไม่ออก น้ำตาที่เธอพยายามกลั้นไว้ตลอดการสนทนากับคุณหมอเริ่มไหลออกมาช้า ๆ โดยไม่สามารถควบคุมได้ หญิงสาวรู้สึกว่าโชคชะตากำลังโยนภาระอันหนักหน่วงมาให้เธออีกครั้ง หนทางที่เธอเห็นอยู่ข้างหน้ามันมืดมิดและดูไร้แสงสว่าง เธอตั้งคำถามกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า “หนูจะต้องทำยังไงต่อไปดี? หนูจะต้องไปหาเงินจากไหน?” ความรู้สึกกดดันทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกล้อมรอบด้วยความมืด เธอเริ่มคิดถึงทุกอย่างที่เธอเคยทำมาถึงจุดนี้ เธอทำงานกลางคืน เธอเสียสละและตั้งใจทำทุกอย่างในชีวิตเพื่อยายมาตลอด หญิงสาวถือกระเป๋าสะพายคู่ใจขึ้นมาวางบนโต๊ะ มือบางค่อยๆ เปิดกระเป๋าออกอย่างตั้งใจ เพื่อที่จะนับเงินในกระเป๋าดูว่าทั้งหมดตอนนี้เธอมีเงินติดตัวอยู่เท่าไหร่และเธอจะต้องหาเงินอีกเท่าไหร่ถึงจะพอกับค่ารักษายาย ร่างบางนั่งนับเงินด้วยใจที่จดจ่อ ทั้งเนื้อทั้งตัวเธอมีเงินเพียงแค่ห้าพันบาท มือบางยกขึ้นกุมขมับด้วยท่าทางที่คิดหนัก เธอยังมองไม่เห็นทางออกเลยว่าชีวิตนี้จะไปหาเงินแสนมาจากไหน กับเวลาที่กดดันเพียงแค่สามวันเท่านั้น เทียนหอมกุมขมับนั่งนิ่งอยู่นานหลายนาที ความรู้สึกสับสน ความกลัว และความสิ้นหวังต่างก็วิ่งเข้ามาในหัวพร้อมๆ กัน แต่ลึกๆ ในใจเธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาจมอยู่กับความรู้สึกเหล่านี้ เธอต้องลุกขึ้นสู้และหาทางแก้ไขปัญหาให้ได้ ถึงแม้จะรู้สึกท้อแท้แต่เทียนหอมก็มีบางอย่างที่ยังคงขับเคลื่อนเธออยู่ นั่นก็คือความรักที่เธอมีต่อยายนวลจันทร์ เธอพูดกับตัวเองในเสียงเบาๆ “หนูจะต้องหาเงินมาช่วยยายให้ได้ ไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็ตามยายจะต้องได้รักษา หนูจะไม่ปล่อยให้ยายต้องนอนป่วยอยู่แบบนี้อย่างแน่นอน” ท่ามกลางความกดดันที่เธอต้องแบกรับ ความมุ่งมั่นภายในใจเริ่มก่อตัวขึ้น เธอลุกขึ้นจากม้านั่งพร้อมกับน้ำตาที่ยังไหลออกมา แต่เธอก็พยายามเช็ดมันออกไปอย่างตั้งใจ “หนูจะหาทางช่วยยาย หนูสัญญาว่าจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด” เทียนหอมพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นมากขึ้น ร่างบางเดินออกจากโรงพยาบาลไปด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เธอรู้ว่านี่อาจจะเป็นบททดสอบที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ แต่เธอก็ตั้งใจที่จะสู้ต่อไปเพื่อคนที่เธอรักที่สุดในโลก หลังจากที่เทียนหอมกลับจากโรงพยาบาล คำพูดของพี่รหัสกลับดังขึ้นในใจของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ‘แค่ยอมเปลืองตัวนิดหน่อยก็ได้เงินใช้ไม่ขาดมือ’ ถึงแม้ว่าเธอจะปฏิเสธมาตลอดว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เธอควรจะทำ แต่สถานการณ์ตอนนี้คือยายต้องได้รับก็การผ่าตัดอย่างเร่งด่วน ซึ่งทำให้เธอไม่มีทางเลือก เธอทิ้งตัวลงนอนบนเตียง แต่ก็นอนไม่หลับตลอดทั้งคืน ความคิดและคำถามต่างก็ผุดเข้ามาในหัวไม่หยุด “ถ้าเรายอมทำแบบนั้นจริงๆ ยายก็อาจจะได้รับการรักษาทันที ไม่ต้องรอให้เสียเวลา” เทียนหอมพยายามคิดทบทวนตัวเองอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจ ถ้าหากทำแล้วยายได้รักษามันก็คุ้มค่ากับสิ่งที่เธอเสียไป เพราะชีวิตของเธอไม่มีอะไรสำคัญเท่ายายอีกแล้ว ตลอดทั้งคืนเทียนหอมนอนพลิกตัวไปมา คิดซ้ำไปซ้ำมาในเรื่องเดิมจนถึงเช้า เธอตัดสินใจลุกขึ้นมานั่งและเธอก็รู้ดีว่าความลังเลในตอนนี้ไม่ได้ช่วยอะไร เธอต้องรีบคิดและหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุด ไม่ว่าสิ่งนั้นจะยากแค่ไหนก็ตาม หญิงสาวรีบอาบน้ำแต่งตัวไปมหาวิทยาลัยตั้งแต่เช้าตรู่ เธอเลือกที่จะมานั่งรอพี่รหัสที่หน้าตึกคณะ พร้อมกับใจที่เต้นแรงหลังจากที่เธอคิดมาตลอดทั้งคืนจนได้คำตอบที่แน่ชัด เทียนหอมนั่งรออยู่หลายชั่วโมงกว่าจะเห็นพี่รหัสเดินมา เธอสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อตั้งสติก่อนจะเดินไปหาพี่รหัสด้วยท่าทางจริงจัง “พี่เมล!” “อ้าวเทียนหอม! มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” พี่รหัสเอ่ยทักด้วยความสงสัยที่เห็นน้องรหัสมาหาตอนเช้าแบบนี้ “คือเทียนต้องการเงินมาช่วยยายค่ะ ยายจะต้องผ่าตัดด่วน พี่เมลพอจะช่วยเทียนได้ไหมคะ” เทียนหอมพูดเสียงเศร้า “หมายความว่ายังไง? เทียนตัดสินใจเรื่องนั้นได้แล้วเหรอ?” เมลขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “ค่ะ เทียนไปคิดดูแล้ว พี่เมลพูดถูกทุกอย่างเลย เทียนไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เทียนพร้อมที่จะทำทุกอย่างขอแค่ได้เงินมารักษายายก็พอค่ะ” เทียนหอมพยักหน้าตอบเสียงสั่น “คิดดีแล้วใช่ไหม? พี่เข้าใจนะว่ามันเป็นเรื่องยาก แต่พี่อยากให้เทียนคิดดีๆ เพราะถ้าหากตัดสินใจทำแล้วชีวิตเทียนจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป” เมลพูดกับน้องรหัสด้วยท่าทางหนักใจ ไม่คิดเลยว่าเทียนหอมจะตัดสินใจเร็วกว่าที่เธอคิด “เทียนคิดมาทั้งคืนแล้วค่ะ เทียนไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ ถ้าการทำแบบนี้แล้วช่วยยายได้ เทียนก็พร้อมที่จะทำค่ะ” เทียนหอมพูดพร้อมน้ำตาที่เริ่มไหลออกมา พี่รหัสมองหน้าเธอด้วยความลังเล ก่อนจะถอนหายใจลึกๆ ด้วยท่าทางลำบากใจ ตอนนี้เมลไม่รู้เลยว่าตัวเองคิดถูกหรือคิดผิดที่ยื่นมือช่วยเหลือน้องรหัสแบบนี้ “เทียนคิดมาดีแล้วค่ะ เทียนตัดสินใจแล้ว” เทียนหอมอ้อนวอนพี่รหัสทั้งน้ำตา เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ “โอเคๆ พี่จะช่วย แต่เทียนต้องพร้อมจริงๆ นะ พี่จะพาเทียนไปหารุ่นพี่ที่เขาสนใจเทียน แต่หลังจากนี้อะไรจะเกิดขึ้นมันก็ขึ้นอยู่กับเทียนแล้วนะ” เมลบอกกับน้องรหัสด้วยท่าทางคิดหนักแต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น ในเมื่อเธอเลือกที่จะยื่นมือเข้าช่วยแล้วเธอก็ต้องช่วยต่อไปให้สุดทาง “ค่ะ” เทียนหอมพยักหน้าและตอบรับด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น .. ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ เทียนหอมมาแล้วค่าาาาหนึ่งเดือนต่อมางานแต่งเล็กๆ จัดขึ้นในสวนของบ้านหลังใหญ่ บรรยากาศภายในงานก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น ดอกไม้ที่ใช้ในงานก็เต็มไปด้วยสีขาวสะอาดบ่งบอกถึงความรักที่บริสุทธิ์อาหารในงานแต่ละเมนูก็เป็นมาร์เวลที่เลือกเองกับมือ ทุกอย่างภายในงานต้องผ่านการคิดและการตัดสินใจของมาร์เวลทั้งหมด เพราะเขาทุ่มเทและตั้งใจกับการจัดงานแต่งในครั้งนี้เป็นอย่างมากงานแต่งครั้งแรกและเป็นงานแต่งครั้งเดียวในชีวิตทุกอย่างก็ต้องออกมาดีและสมบูรณ์แบบมากที่สุดแขกภายในงานเริ่มทยอยมาร่วมงานกันแล้ว มาร์เวลเลือกเชิญเฉพาะญาติที่เป็นคนสนิทและเชิญนักข่าวหลายช่องมาร่วมงาน เรียกได้ว่านักข่าวกับญาติที่มาร่วมงานนั้นมีจำนวนใกล้เคียงกันมากที่เขาเชิญนักข่าวมาร่วมงานก็เพราะมาร์เวลอยากประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาแต่งงานและมีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จะได้ไม่มีเรื่องเข้าใจผิดเข้ามาให้เขาต้องมีเรื่องปวดหัวอีกเทียนหอมอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ใบหน้าสวยถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางราคาแพงจากช่างแต่งหน้ามืออาชีพชื่อดังที่มาร์เวลเป็นคนจัดการและจ้างทุกอย่างแบบดีที่สุดเพื่อวันสำคัญที่สุดในชีวิตให้กับเธอ“เจ้าสาวสวยมากเลยค่ะ”ผู้ช่วยช่างแ
ตอนเย็นของวันวันนี้บรรยากาศภายในบ้านหลังใหญ่เต็มไปด้วยความอบอุ่น มาร์เวลกับเทียนหอมนั่งพูดคุยกันระหว่างรอแม่บ้านตั้งโต๊ะอาหารเย็นให้เรียบร้อย วันนี้เป็นวันที่เรียบง่ายแต่ก็เต็มไปด้วยความพิเศษนอกจากจะจดทะเบียนสมรสกันแล้วมาร์เวลก็ยังอยากสานฝันให้กับเทียนหอม เพราะเขาคิดว่าเธอก็คงจะมีความฝันเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“เราจัดงานแต่งดีไหม จัดงานให้ยิ่งใหญ่ให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอคือภรรยาของฉัน” ชายหนุ่มยังคงมองภรรยาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก“หนูว่า…” เทียนหอมไม่คิดเลยว่ามาร์เวลจะเซอร์ไพร์สเธอด้วยการชวนเธอจัดงานแต่งแบบนี้“มีอะไรหรือเปล่า?” มาร์เวลเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทางลังเลและคิดหนักของอีกฝ่าย ตอนแรกเขาคิดว่าเธอจะตอบตกลงเพราะเธออยากจัดงานแต่งและใส่ชุดเจ้าสาวเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ยายยังอยู่ หนูก็อยากจัดงานแต่งให้ยิ่งใหญ่ให้ยายได้เห็นและมาร่วมงานด้วย…” หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นมา“แต่ตอนนี้ไม่มียายแล้ว อีกอย่างหนูก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนจัดงานไปก็คงไม่มีความหมายหรอกค่ะ” เมื่อไม่มียายการจัดงา
เช้าวันต่อมามาร์เวลตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วมองเทียนหอมที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ การที่เขาตื่นมาแล้วเจอเธอมันทำให้เขามีความสุข ไม่ว่าจะเป็นตอนหลับหรือตอนตื่นก็จะมีเธออยู่ข้างๆ เสมอ รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏบนใบหน้าหล่อ ผู้ชายที่นิ่งเงียบและเย็นชาตอนนี้กลับคลั่งรักและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนอกจากมาร์เวลจะอยากให้เทียนหอมมาอยู่บ้านด้วยกันแล้ว ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เขาอยากจะทำร่วมกันกับเธอ ซึ่งเขาจะไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า เขาจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องและสมบูรณ์แบบที่สุดมือหนาลูบปอยผมออกจากใบหน้าสวยอย่างอ่อนโยน เทียนหอมเป็นเหมือนเด็กที่ใสซื่อที่ต้องได้รับการปกป้องจากเขา ไม่คิดเลยว่าความสงสารในวันนั้นจะกลายเป็นความรักในวันนี้ มาร์เวลผ่านผู้หญิงมาตั้งมากมายแต่สุดท้ายก็ยกหัวใจให้เทียนหอมไปจนหมดชายหนุ่มขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าจะรบกวนเวลานอนของเทียนหอม วันนี้เขามีอีกหลายอย่างที่จะต้องทำและเขาก็ตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้องมาร์เวลลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวให้พร้อมก่อนที่เทียนหอมจะตื่น ซึ่งวันนี้เขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเธอ ถึงเธอจะไม่ได้ขอให้เขาหยุดงานแต่เขาก็เต็มใจ
เช้าวันต่อมามาร์เวลเป็นคนเตรียมอาหารเช้าให้กับเทียนหอมในทุกๆ วัน ถึงแม้ว่าเขาจะทำไม่เป็นแต่เทียนหอมก็จะได้ทานอาหารอร่อยๆ ทุกวัน เพราะด้านล่างของคอนโดจะมีร้านอาหารชื่อดังคอยเปิดบริการลูกค้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ซึ่งมาร์เวลก็ใช้บริการที่ร้านอาหารทุกวันหลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จทั้งสองก็นั่งเล่นกันอยู่ที่โซฟากลางห้อง บนโต๊ะก็จะมีจานผลไม้หลากหลายชนิดและน้ำผลไม้ที่คั้นสดใหม่ทุกแก้วที่เอาไว้สำหรับบำรุงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะมาร์เวลใส่ใจเทียนหอมทุกอย่างแม้แต่เรื่องเล็กน้อยวันนี้เป็นวันที่มาร์เวลดูเงียบผิดปกติ เหมือนกับมีเรื่องอะไรบางอย่างติดอยู่ภายในใจแต่เขาไม่กล้าที่จะพูดออกมา บรรยากาศภายในห้องดูเงียบจนน่าอึดอัด เขานั่งทำใจอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจพูดเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจออกมา“เทียนหอม…” ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวอย่างแผ่วเบา พร้อมกับจับมือเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยนใบหน้าสวยหันมองตามเสียงเรียกพร้อมรอยยิ้ม เพราะวันนี้มาร์เวลบอกกับเธอว่าเขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่กับเธอทั้งวันไม่ไปไหน“เราย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านกันไหม?” มาร์เวลพูดในสิ่งที่คิดและอยู่ภายในใจออกมา เขามองใบหน้าสวยอย่างเฝ้ารอและลุ
ตอนเย็นของวันวันนี้เป็นวันหยุดที่แสนพิเศษเพราะมาร์เวลให้เลขาจองโต๊ะดินเนอร์ที่ร้านอาหารสุดหรูใจกลางเมืองเอาไว้ให้ เมื่อใกล้ถึงเวลาเขาก็พาเทียนหอมไปที่ร้านอาหารทันที จะได้มีเวลานั่งเล่นและทานอาหารเย็นด้วยกันอย่างสบายใจพอเดินเข้าไปภายในร้านพนักงานก็พาทั้งสองคนไปยังโต๊ะพิเศษที่จองเอาไว้ในทันที บรรยากาศภายในร้านดูโรแมนติก เสียงเปียโนบรรเลงเบาๆ สร้างความผ่อนคลาย แถมบนโต๊ะที่มาร์เวลจองเอาไว้ยังมีเทียนหอมหลากหลายรูปแบบวางเอาไว้ทำให้ดูมีความพิเศษกว่าโต๊ะอื่นเป็นอย่างมากเทียนหอมนั่งลงที่เก้าอี้ด้วยความสบายใจ โต๊ะที่จองไว้ก็อยู่มุมสูงห่างจากโต๊ะอื่นและมีความเป็นส่วนตัว หญิงสาวมองวิวใจกลางเมืองในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟ นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้มาทานร้านอาหารหรูแบบนี้ เรียกได้ว่ามาร์เวลเป็นคนที่พาเธอทำอะไรใหม่ๆ ในชีวิตอยู่ตลอด“ทำไมถึงพาหนูมาร้านแพงๆ แบบนี้คะ?” ถึงแม้ว่าเทียนหอมจะชอบบรรยากาศของร้าน แต่เธอก็พอจะรู้ว่าราคาของร้านแบบนี้คงจะแพงมากแน่ๆ ถึงจะชอบแต่เธอก็เสียดายเงินที่เขาจ่ายไปอยู่ดี“แค่อยากพามา ทำไมต้องมีเหตุผลด้วย” มาร์เวลตอบหญิงสาวตรงน้ำด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เต็มไปด้ว
สองเดือนต่อมาหลังจากที่กลับจากทะเลในวันนั้นมาร์เวลก็พาเทียนหอมไปฝากครรภ์ที่โรงพยายาลกับคุณหมอในทันทีเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่กับลูกที่อยู่ในท้อง โดยที่เขาเลือกโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียงและติดอันดับต้นๆ ในประเทศ ระดับประธานบริษัทอย่างมาร์เวลคงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนที่เขารักอย่างแน่นอนตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้มาร์เวลก็ทำหน้าที่ดูแลเทียนหอมเป็นอย่างดี เขาทำได้ทุกอย่างตามที่บอกกับเธอเอาไว้ ส่วนเรื่องเวลาของการทำงานก็ลดลงไปบ้าง เพราะเวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันเขาจะให้ความสำคัญกับเทียนหอมมากกว่างาน พอมีเวลาว่างเขาก็จะอยู่กับเธอชวนเธอไปทานอาหารอร่อยๆ หรือไม่ก็ไปเดินเล่นเปิดหูเปิดตาบ้างตอนนี้เทียนหอมก็เริ่มท้องโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เวลาที่เธอจะไปไหนก็จะมีมาร์เวลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เขาไม่ปล่อยให้เธอทำงานหรือทำอะไรที่รู้สึกเหนื่อย เพราะกลัวว่าจะมีผลต่อลูกในท้อง ถึงแม้ว่าจะมีบริษัทโทรมาบอกให้เธอไปทำงาน แต่เขาก็ได้ปฏิเสธและยืนยันว่าจะไม่ให้เธอทำงาน“พร้อมหรือยัง?” มาร์เวลเอ่ยถามหญิงสาวพร้อมกับโอบกอดเธอเอาไว้ ช่วงนี้ชายหนุ่มเสพติดการกอดเทียนหอมเป็นอย่างมาก เวลาเจอหน้าหรืออยู่ด้วยกันเขาก็







