คืนนั้นท่ามกลางความมืด...ทะเลบิดตัวไปมาอยู่ใต้ร่างแข็งแรงที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเด็กหนุ่ม เขาพบว่าที่แท้แล้วความใคร่ระหว่างชายก็ไม่เข้าใครออกใครทะเลระเบิดความร้อนแรง กระตุ้นอารมณ์ดิบเข้าใส่อย่างเต็มกำลัง และเด็กหนุ่มคนนั้นก็ไม่ยอมแพ้ เด็กหนุ่มรั้งร่างขาวโพลนเข้าหา ปลดเปลื้องดำกฤษณาภายในเข้าใส่อย่างไม่มีใครยอมใคร จนในที่สุดสงครามปรารถนาก็สิ้นสุด ต่างคนต่างหมดแรง “นายไปเอาพละกำลังขนาดนี้มาจากไหนกัน”“รู้สึกดีใช่ไหมล่ะ” เด็กหนุ่มกระซิบทะเลย่นคอเพราะลมร้อนที่ปล่อยออกมาจากริมฝีปากเด็กหนุ่ม ทำให้เขาสะดุ้ง“เปล่าซะหน่อย” ทะเลตอบ“บอกมาสิว่าชอบผม” “ไม่ชอบ” “โกหก บอกมาก่อนว่าต้องการผม”“ไม่!”“บอกมา” “ก็ได้ ต้องการ ผมต้องการ” ทะเลตอบอย่างจำนนเด็กหนุ่มโถมตัวเข้าหา กักกดเขาไว้ด้านใต้ก่อนจะกระซิบบอก “ น่ารักมาก”“ก็รักสิ” ทะเลท้าทายจากนั้นทั้งสองก็ดำดิ่งอีกครั้ง ทะเลครางกระเส่า ริมฝีปากบางเฉียบถูกปิดด้วยเรียวลิ้นช่ำชองที่ส่งเข้ามาแทนที่และปิดปากเขาเสียสนิท ทั้งสองโถมเข้าใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร ฝ่ามือหนาโอบอูมทรวงอกนุ่มบดคลึงไม่ยั้ง ในขณะเดียวกันเด็กหนุ่มก็บดสะโพกใส่อย่
เด็กหนุ่มพูดจบก็ผลักทะเลไปทางห้องน้ำ ทะเลยังมึนงงตามไม่ทัน หันมาจะดุใส่แต่กลับถูกเด็กหนุ่มโยนผ้าขนหนูใส่อีก“ไปเร็วๆ ผมทำกับข้าวเตรียมไว้ให้แล้ว”“หา! ว่าอะไรนะ”“หูตึงเหรอ ผมบอกว่าทำกับข้าวไว้ให้แล้ว เร็วๆ รอตั้งนานก็ไม่ตื่นสักที ผมไม่รู้จะทำไง เลยไปซื้อของสดที่มินิมาร์ทหน้าคอนโดมิเนียมมาทำ อยู่ยังไงทั้งห้องไม่มีไรเลยเนี่ย”ทะเลหน้าชาเพราะถูกเด็กบ่นเป็นชุด เขามองอาหารบนโต๊ะแล้วถึงกับขยี้ตา “นี่ทำเองหมดเลยเหรอ”“อือ เร็วๆ อาบน้ำ ผมหิว” “แล้วเอาเงินไหนซื้อ”“มีก็แล้วกัน”“แต่ผมจำได้ว่าเมื่อคืนนายโดนพวกนั้นปล้นเอากระเป๋าตังค์ไปไม่ใช่เหรอ” ทะเลโพล่งถามสีหน้าเคลือบแคลงสงสัยเป็นอย่างมากเขาจำได้ว่ายังไม่ได้ไปซื้อของกินเข้าบ้าน ในตู้เย็นจึงมีเพียงไข่ไก่สดกับปลากระป๋องเก่าๆ สองสามกระป๋องและถั่วเหลืองกระป๋องที่เขาชอบกินตอนเช้า แต่นี่บนโต๊ะมีทั้งไข่ดาว เบคอน หมูแฮมแถมขนมปังฝรั่งเศส ซึ่งมันไม่ใช่สไตล์ของเขาเลย“เร็วๆ ดิ หนูคิตตี้”“โอ๊ย! บอกว่าไม่ชอบคิตตี้” ทะเลโวยอีก “บอกมาว่าไปเอาของพวกนี้มาจากไหน”“เอ่อ... “ เด็กหนุ่มอึกอักก่อนจะชี้นิ้วไปบนโต๊ะ “ผมเอาตังค์ในกระเป๋านั้นอะ”“หา!”“หาทำไม ผม
“ได้ได้ รอแป๊บ”หลังสบนัยน์ตาสีดำสนิทที่ปรือมองมา ทะเลก็ประหม่า รีบลุกไปที่ตู้เย็นหยิบขวดน้ำเย็นมาจัดการรินลงแก้วกระเบื้องดินเผาแล้ว เอามาให้เด็กหนุ่มที่ยันตัวขึ้นยืนโงนเงนพิงผนัง รับน้ำดื่มที่ทะเลส่งให้มาดื่มอั่กๆ ในคราวเดียวจนแทบลืมหายใจ“แค่กๆ”“ค่อยๆ จิบสิ สำลักจนได้สิน่า” ทะเลดุไม่พอยังประคองแก้วป้อนให้ “อะ อีกนิด จิบให้หมด”อีกฝ่ายผลักมือทะเลออกแล้วเอนหลังลงนอนกับพื้น ทะเลจึงวางแก้วแล้วนั่งยองๆ ช้อนหัวอีกฝ่ายขึ้นก่อนจะหยิบหมอนอิงบนโซฟามาสอดใต้คอให้“เป็นไง ดีขึ้นปะ”“ดี…” ทะเลมุ่นคิ้ว เคืองกับคำตอบที่ทั้งสั้นและห้วน “ดี ก็ดีแล้ว ผมจะออกไปข้างนอก”“เดี๋ยว”ทะเลถึงกับสะดุ้ง ดวงหน้าร้อนฉ่าขึ้นมาทันใด เพราะเจ้าของมือใหญ่ที่เหนี่ยวรั้งข้อมือเขาไว้โดยไม่ทันตั้งตัว “จะไปไหน”“ก็จะไปซื้อยาให้นาย แล้วก็ไปดูหน่อยว่าใช่เด็กพวกนั้นที่มันซ้อมนายรึเปล่า จะได้แจ้งตำรวจให้มารวบไปทีเดียวเลย”“แล้วครูไม่กลัวตกงานเหรอถ้าแจ้งตำรวจ”“แล้วเขารู้ได้ไงว่าคนแจ้งเป็นใคร”“ก็มีกี่คนที่รู้เรื่องในตรอกล่ะ”เออ...ก็จริง...ทะเลพยักหน้าเห็นด้วย “งั้นไปซื้อยาแป๊บ นายนอนพักผ่อนไปนะ”“นอนรอทุกลมหายใจเลยล่ะ”
เด็กหนุ่มเตะประตูห้องอีกหนด้วยความหงุดหงิดที่ไม่ได้อย่างใจ ทำให้ทะเลถึงกับสะดุ้ง ! “เป็นไรอะ”“เจ็บมือ ล้วงไม่ได้”ทะเลก้มมองดูสภาพมือที่เต็มไปด้วยบาดแผลก็พยักหน้าเห็นด้วย “ก็น่าจะเจ็บอยู่หรอก มา ล้วงให้”“จะดีเหรอ”“ทำไมล่ะ”“กลัวครูล้วงผิด”“บ้า!” ทะเลสวนทันควัน รู้หรอกว่าเด็กนี่คิดอกุศล เขาไม่คิดยังอดคิดไมได้จนเผลอหน้าร้อนเห่อแต่เสกลบเกลื่อน “อยู่ข้างไหนล่ะ”“ในเป๋าเกงไม่รู้ข้างไหน แต่ว่าลึ้กลึก หนูคิตตี้จะกล้าเหรอ” เด็กหนุ่มยั่วน้ำเสียงยานคางเป็นพิเศษทะเลถึงกับย่นจมูกกับลีลามากเรื่องของคนเตรงหน้า อยากจะด่ากับความลีลาให้ลืมโลก แต่ก็อดสงสารไม่ได้กับสภาพขนาดนี้“ตกลงข้างไหน”“ไม่รู้หาเอาเหอะ อะ...”เด็กหนุ่มยื่นสีข้างให้ ทะเลก้มมองแล้วลอบกลืนน้ำลายเพราะตาสอดส่ายไปทั่วจึงเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้าให้ “มองอะไร”“ก็ ก็กุญแจไง กำลังคิดว่าข้างไหนกันแน่” “อ้อ เห็นมองอย่างอื่น เป๋าเกงไม่ใช่เป้าเกงนะ”โถ่ ไอ้เด็กบ้าลามกนี่! ทะเลหน้าแดงก่ำรีบล้วงหากุญแจให้มันจบๆ ไป แต่กระเป๋าซ้ายว่างเปล่าแถมลึกและแน่นเพราะกางเกงเนื้อหนาสลิมฟิต ทำให้ทะเลหายใจไม่ทั่วท้อง หลังจากพยายามจะชักมือออกแต่ปลายนิ้
“ได้ครับครู แล้วนี่ไปโดนใครซ้อมมา”“ผมก็ไม่รู้”“หรือว่าจะเป็นพวกเด็กเกเรกลุ่มเดิมที่ชอบมาเล่นยาแถวนี้““แถวนี้มีเด็กเล่นยาด้วยเหรอครับ” ทะเลถามหน้าตื่น“จะเหลือเหรอครับ”“แล้วไม่มีใครรู้เหรอ”“มันพูดยากครับครู ไม่มีใครอยากยุ่งกับเด็กพวกนี้หรอก มันแบ็คดีจะตาย”รปภ.ว่าไม่พอยังพยักหน้ายืนยันขณะกุลีกุจอเข้าช่วยอีกแรง ทะเลก็หิ้วปีกอีกข้างจับคนหมดสภาพให้ลุกยืน แต่ไม่สิ้นสงสัย “แสดงว่าเกิดเหตุในตรอกนี้บ่อยเหรอ” “ก็เดือนละหลายครั้งอยู่ครับ”“แล้วไม่แจ้งตำรวจล่ะ” ทะเลถามย้ำรปภ.หนุ่มแค่นยิ้มพลางส่ายหน้าดิก “ไม่มีใครกล้าแจ้งหรอกครับครู รู้ๆ กันอยู่ว่าเด็กพวกนี้ลูกใครแบ็คใหญ่ขนาดไหน”“แต่ผมคิดว่า...”ไม่ทันที่ทะเลนะได้บอกเจตนารมณ์ ก็ปรากฏเสียงเหมือนฝีเท้าคนวิ่งย่ำน้ำด้วยความเร็วมุ่งตรงมาทางนี้ ทั้งสองเฝ้ามองด้วยความระแวงระวังที่แท้เป็นหนึ่งในสามอันธพาลเมื่อครู่ที่วิ่งกระหืดกระหอบมาดักหน้า“เดี๋ยวก่อนครับ ผมเห็นครูเมื่อกี้๊““นายเห็นเหรอ แล้วพวกนั้นล่ะเห็นรึเปล่า”“ไม่เห็น จุ๊ๆ”“อะไร” ทะเลถามหน้าตื่นเด็กหนุ่มหน้าเครียดพลางถอนหายใจเหลียวซ้ายแลขวา ไม่เห็นใครอีกก็รีบบอก “ผมเ
“ไหนว่าพอแล้วไงพี่”“ก็เมื่อกี้น้องแอนกู”“ผมว่าพอเหอะ สั่งสอนมันแค่นี้มันก็หยอดน้ำข้าวต้ม เสนอหน้ามาให้น้องแอนพี่เห็นไม่ได้เป็นเดือนแล้วมั้ง” ตัวหัวโจกหัวเราะลั่นขณะจ้องเด็กหนุ่มที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ ดูไม่ยี่หระที่สภาพแบบนั้นด้วยซ้ำ“มึงดูดิ๊ว่ามันเป็นไงบ้าง”“รากเลือดแล้ว”“สมน้ำหน้า”เสียงทุ้มห้วนไม่พอยังใช้เท้าเขี่ยต้นขาคนเจ็บแล้วเอียงคอมอง ก่อนเตะเข้าที่บั้นเอวอีกหลายครั้งราวประกาศศักดา ทำให้เด็กหนุ่มร่างบอบช้ำหงายหลังผึ่งแน่นิ่งไปทันที“มันนิ่งไปแล้วอะพี่”“ดูดิ๊ว่ามันตายยัง”“ยังๆ อย่าตายเลย ผมกลัว”หนึ่งในลูกสมุนรูปร่างอ้วนเตี้ยทรุดนั่งเอามืออวบอ้วนตบหน้าคนนอนจมกองเลือดเบาๆ แต่ร่างนั้นแน่นิ่งไม่ไหวติงไปแล้ว“ไม่รู้ตายยัง”“เฮ้ย!”สมุนอีกคนนั่งยองๆ เอานิ้วอังจมูกที่เต็มไปด้วยเลือดของอีกฝ่ายแล้วถอนใจหนัก ก่อนลุกขึ้นยืนต่อหน้าลูกพี่ใหญ่ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก“ผมว่าพามันไปหาหมอเหอะ”“เรื่องสิ”“แต่ผมได้ยินว่ามัน...”“มันเป็นลูกใคร ก็ไม่เกี่ยวกับกู” คนเป็นลูกพี่ยักไหล่บอก “ซ่าดีนัก ก็ทิ้งไว้นี่แหละ”“แล้วถ้าเกิดมันตายล่ะลูกพี่”“ไม่ตายหรอก แต่ถึงมันตายแล้วใครจะเห็นวะ”สมุนสองคนรวมก