LOGINซีรีส์ ชุด Return (รัก) นิยาย yaoi มี 3 เรื่อง 1. ขอรักเจ้าตัวร้าย "พี่ทะเล อยู่กับผม เราอยู่ด้วยกันตลอดไปเลยได้ไหม" "นายแน่ใจเหรอ" "ผมแน่ใจ" "งั้น... ฉันก็..." 2. Run to Love รีเทิร์น 2 รัก อาคเนย์มองสบดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่ยังคงรอคอยคำตอบจากเขาด้วยความสับสน จนกระทั่งถูกมือน้องน้อยกอดรัดเข้าให้ เพียงสัมผัสอุ่นร้อนที่ส่งผ่านปลายนิ้วระหว่างกันทำให้เขาใจเตลิด ไม่สนใจใครแล้วดีไหมนะ... เห็นแก่ตัวสักครั้งดีไหมนะ... อาคเนย์ชั่งใจครู่หนึ่งจึงกอดตอบแอลที่ผละออกเมื่อเห็นเขาไม่ตอบรับ "ก็ได้... งั้นคืนนี้เราอยู่ด้วยกันนะ" 3. Catch Me If You รัก เมื่อร้านหนังสือที่รักกำลังจะถูกปิด กวินรู้สึกใจหาย เขาอยากส่งต่อหนังสือที่รักให้ใครสักคน และคนที่เข้ามาคนนั้นก็คือ เจษฎ์ เขาจ้างกวินให้เป็นคนส่งหนังสือแทนความรู้สึกดีๆ เมื่อได้ใกล้ชิดก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ กวินจะทำยังไงกับคนที่ทำให้หัวใจสั่นไหวในฤดูหนาวนี้.
View Moreท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของเมืองใหญ่ ทะเลแนบใบหน้ากับกระจกสีชาของรถแท็กซี่ จ้องความสูงของตึกระฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงระยิบระยับของร้านรวงที่ตกแต่งประดับประดาไปด้วยแสงไฟแห่งการเฉลิมฉลอง
ใกล้ปีใหม่แล้วสินะ...
ชายหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นไม่คลายนับแต่ย่างเท้าก้าวลงมาจากรถไฟที่มุ่งตรงจากภาคเหนือมายังปลายทางกรุงเทพมหานคร
จะว่าเชยก็เชย...
ทะเลไม่เคยมากรุงเทพฯ เลยสักครั้ง ถึงแม้จะชื่อว่าทะเล แต่เขาก็ยังไม่เคยเห็นทะเลกับตาตัวเอง ไม่เคยรู้แม้กระทั่งว่าน้ำทะเลมีรสเค็มอย่างไร แล้วทำไมคนถึงชอบมาทะเล เขารู้แค่ว่าชื่อจริงของเขานั้นมีที่มาจากพ่อที่เป็นคนทะเล
อยากเจอจัง...
ทะเลอยากเจอพ่อ ก็เลยหมายใจว่ามาทำงานที่กรุงเทพฯ เขาจะออกตามหาพ่อ ไม่ว่าจะเจอหรือไม่ เขาก็อยากลองดูสักครั้ง
“ถึงแล้วครับ”
ทะเลมองผ่านกระจกหน้าต่างรถแท็กซี่ที่เพิ่งจอดสนิทลงตรงหน้าประตูรั้วของ ‘อคินพร็อพเพอร์ตี้’ คอนโดมิเนียมมิเนียมกลางเก่ากลางใหม่ใจกลางกรุง
เขาขยับตัวไล่ความเมื่อยขบแล้วหยิบกระเป๋าเป้เตรียมพร้อมก่อนจะล้วงกระเป๋าเงินขึ้นมาล้วงหยิบธนบัตรสีม่วงหนึ่งใบส่งให้
“ค่าโดยสารแพงเหมือนกันนะพี่ นั่งมาแค่นี้เกือบสองร้อยแล้ว”
“ก็น้ำมันแพงน่ะพ่อหนุ่ม มีแต่คนบ่นทั้งวัน ทุกวันเลย”
“ค่าครองชีพแพงขึ้นทุกวันจริงๆ” ทะเลบ่นพึมพำ แต่ก็ไม่พ้นรัศมีการได้ยินของคนขับไปได้
“ก็ต้องกัดฟันสู้กันไปแหละครับ”
“เหนื่อยเลยนะครับ ทั้งแดดร้อน ฝนตก รถติด คนก็มากยังกับมดกับหนอน”
“นั่นล่ะครับ ก็ต้องอยู่กันไปให้ได้ล่ะ” คนขับตอบพลางยื่นเงินทอนส่งให้
ทะเลสบตาเจ้าของรถที่ถึงแม้จะดูเหนื่อยล้าแต่ก็ยังพอมีรอยยิ้มก็รับเงินทอนมาเก็บใส่กระเป๋า ก่อนจะมองเงินที่เหลืออยู่พลางครุ่นคิด
จะอยู่รอดได้อีกกี่วันนะเรา...
ชายหนุ่มลอบถอนใจ ขณะก้าวลงจากรถแล้วรอจนรถแท็กซี่แล่นจนลับสายตาไป
เขาอยากจะประหยัดอยู่หรอก...
แต่ความที่ไม่รู้ทางทำให้ยากที่จะใช้บริการขนส่งมวลชนพร้อมกับกระเป๋าพะรุงพะรังสองสามใบที่ขนมาจากเชียงใหม่ได้
เฮ้อ...
เอาน่า...
ยังไงก็ต้องสู้ล่ะวะ!
ทะเล ก้าวเข้ามาภายในคอนโดมิเนียมกลางเก่ากลางใหม่ขนาดความสูงห้าชั้นด้วยความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ เขาอายุย่างยี่สิบสามปี เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีสารสนเทศเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่เชียงใหม่ด้วยเงินทุนจากรัฐบาล
เขาเป็นเด็กกำพร้า...
ครูบ้านใจสว่างที่อุปการะเขาไว้จึงแนะนำให้สอบเข้าบรรจุครูผู้ช่วยในโรงเรียนรัฐบาลชื่อดังประจำจังหวัด
เขาอยากเป็นข้าราชการเพื่อจะได้สิทธิประโยชน์ต่างๆ สำหรับวางรากฐานในอนาคต แต่มันยาก ทะเลก็รู้ว่าความหวังที่มีก็ยังคงริบหรี่เหลือเกิน เพราะผู้สมัครล้นหลามมากมายและทะเลไม่มีเส้นสายใดๆ จึงยากที่จะฝากความหวังไว้กับการรอคอยแต่เพียงอย่างเดียว
ยังไงก็คงต้องหางานทำแก้ขัดไปก่อน...
ระหว่างรองาน ทะเลจึงสมัครเข้าทำงานเป็นบรรณารักษ์ห้องสมุดที่โรงเรียนอคิราห์วิทยาในกรุงเทพแทนบรรณารักษ์คนเก่าที่ลาออกไปแต่งงานและโรงเรียนยังขาดคนที่มีความรอบรู้ด้านหนังสือมากพอจะมาทำงานด้านนี้ เพราะฉะนั้นเขาจึงเป็นตัวเลือกแรกทำให้ได้งาน
ทะเลรักการอ่าน...
นอกจากอยากเป็นครูแล้ว เขาก็ยังอยากจะเป็นนักเขียน การทำงานในห้องสมุดจึงนับว่าเป็นงานที่ไม่เลวสำหรับความฝันของทะเล
ไม่ใช่ไม่เลวสิ...
มันดีมากต่างหาก...
เขาชอบหนังสือ ชอบกลิ่นหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือที่มีเรื่องราวต่างๆ ซ่อนอยู่ในนั้น ทะเลชอบจินตนาการตามข้อความในตัวหนังสือ แรงบันดาลใจที่ไหลผ่านตัวหนังสือคือสิ่งสำคัญของการมีชีวิตอยู่
ทะเลปล่อยใจคิดถึงอนาคตที่กำลังจะมาถึงจนกระทั่งเสียงทักจากใครคนหนึ่งดึงให้เขาตื่นจากภวังค์
“มาแล้วเหรอ... คนเก่ง”
“ครับ พี่แตง”
ทะเลพนมมือไหว้ แตงหรือ “จิราพร” รุ่นพี่ร่วมมหาวิทยาลัยที่เป็นครูบรรณารักษ์และกำลังจะแต่งงานในอีกไม่กี่วันนี้แล้วปล่อยห้องเช่าต่อให้ทะเล ซึ่งเขาก็ตอบรับแต่โดยดีเพราะจิราพรให้อยู่ก่อนจ่ายทีหลังได้ ซึ่งนับว่าดีมากสำหรับเขา
“ปะ พี่พาไปดูห้อง”
“ครับ”
“มาพี่ช่วยหิ้วกระเป๋า”
จิราพรบอกอย่างเอื้อเฟื้อแต่ทะเลรีบโบกมือห้าม
“ไม่เป็นไรครับพี่”
“ตามใจ ปะไปกัน”
ทะเลพยักหน้าหงึกหงัก แบกเป้ขึ้นหลังสองมือหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้ากับถุงสัมภาระที่บ้านใจสว่างให้มาเอาไว้กินระหว่างทาง
ทะเลแทบจะไม่มีทางเลือกให้ใช้เวลาผ่านไปวันๆ โดยไม่ทำอะไรได้ เขาจึงสมัครเข้ามาทำงานใน โรงเรียนที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมลูกคุณหนูไฮโซ และเป็นแหล่งรวมเด็กเกเรที่ขึ้นชื่อเรื่องต่อยตียิ่งกว่าโรงเรียนอื่นใด เป็นไงเป็นกัน งานนี้เห็นทีต้องลองสักตั้ง...
ค่ำนั้น...
ทะเลอาบน้ำอาบท่าหอมฟุ้ง หยิบห่อข้าวเหนียวกับหมูทอด แคบหมู กับน้ำพริกหนุ่มที่เหลือจากมื้อกลางวันขึ้นมาวางบนโต๊ะหน้าโทรทัศน์เก่าๆ ที่พี่แจงทิ้งไว้ให้
ทะเลปั้นข้าวเหนียวอั่วหมูทอดไว้ด้านในจิ้มน้ำพริกด้วยความเอร็ดอร่อยไปพลาง กดรีโมทเปิดดูข่าวสารหน้าจอโทรทัศน์ไปพลางจนกระทั่งข่าวจบ เขาจึงปิดแล้วหยิบโทรศัพท์มาเปิดท่องโซเชียลไปพลางๆ
ไม่ทันจะได้กินอิ่ม เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ทะเลจ้องภาพหน้าจอแล้วยิ้มออก
เขาโทรมาแล้ว...
“อิน!”“อินจัดการเอง”“แต่พี่ว่า...”“เถอะน่า...”แอลกระซิบแล้วก้าวผ่านอาคเนย์ที่ยืนนิ่งงันอยู่มาเผชิญหน้ากับเนติมาด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว เพียงแค่สบตาป้าครูที่เคารพรักเมื่อครั้งยังเด็ก เขาก็มือไม้สั่น แต่ก็กัดฟันสู้เพี่ออาคเนย์“ป้าครูครับ ผมขอโทษที่ทำผิดต่อป้าครูกับคุณลุงอีกแล้ว แต่อินรักพี่เนจริงๆ เราสองคนรักกันครับ”แอลไม่พูดเปล่า พนมมือไว้แล้วทรุดลงคุกเข่าต่อหน้าเนติมา ท่ามกลางความตกตะลึงของวาสนาและอาคเนย์“ผมขอโทษที่ทำให้พี่เนเกือบตาย แต่ผมอยากขอร้องป้าครูว่าอย่าดุด่าพี่เนเลยนะครับ เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะผมเองที่กลับเข้ามาในชีวิตพี่เน ผมลืมพี่เนไม่ได้ ผมรักพี่เนจริงๆ ผมขอโทษที่ดื้อรั้นไม่รักษาคำพูดที่เคยให้ไว้กับแม่ว่าจะไม่มารบกวนพี่เนอีก ผม ผม...” แอลพูดแค่นั้นก็ก้มหน้าน้ำตาไหลวาสนาเห็นลูกชายที่ปกติดื้อรั้นเป็นนิสัยใครว่าก็ไม่ฟัง ยอมก้มหัวอ่อนข้อร้องไห้ฟูมฟายให้กับความรักก็ถึงกับน้ำตาคลอเป็นเธอเองสินะ... เธอเองที่ทำร้ายความรู้สึกลูกชายคนเดียวของเธอตลอดมาวาสนาอยากจะทำเพื่อลูกสักครั้งด้วยการขอร้องเนติมาอีกแรง แต่ถูกตัดหน้าด้วยอาคเนย์ที่ทรุดนั่งลงคุกเข่าเคียงข้างแอล
วาสนาเห็นท่าทีของสามีแล้วลอบถอนใจ นิสัยน่าเบื่อคงส่งผ่านดีเอ็นเอไปหาปองพลที่เป็นคนประเภทเดียวกัน เพียงแต่ปองพลมุทะลุและคิดว่าตัวเองมีปมด้อยมากมายจนลืมไปว่าเพราะตัวเองด้อยค่าตัวเองทั้งที่มีมากกว่าคนอื่นมากนัก สุดท้ายก็เอาดีไมได้ต้องซังกะตายอยู่ในคุกอีกนานวาสนาหันไปเปิดประตูรถแล้วหยิบตะกร้าผลไม้ใบใหญ่ออกมาแล้วยื่นให้เนติมา“นี่ค่ะ แทนคำขอบคุณที่อาคเนย์ช่วยฉันกับลูก แล้วก็เอาของเยี่ยมมาขอโทษอาคเนย์กับคุณสองคนด้วยค่ะ คือ...” วาสนาพูดแค่นั้นก็เหลือบไปมองสามีที่ยืนถือไม้เท้าหน้าเชิดไปอีกทางด้วยความระอาก่อนเอ่ย “แล้วก็อยากพาเขามาขอขมาคุณที่ลูกชายเขาเกือบทำให้อาคเนย์ต้อง...”“โธ่ ไม่เป็นไรเลยค่ะ ตาเนสบายดีแล้วค่ะ” เนติมาตอบพลางรับกระเช้าส่งให้สามีอีกต่อ อรรถจึงรับกระเช้าไปแล้วผายมือเชิญ“แทนที่จะคุยกันหน้าบ้านแบบนี้ ผมว่าเชิญคุณสองคนที่บ้านดีไหมครับ ตาเนน่าจะอยู่บนบ้าน เดี๋ยวผมเรียกให้ลงมา”“ดีเหมือนกันจ้ะพ่อ” เนติมาตอบรับแรกทีเดียววาสนาลังเล เพราะเวลาที่ผ่านไปนานอาจทำให้รอยร้าวประสานยากอยู่สักหน่อย ถึงแม้จะรู้ว่าทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเธอมุทะลุและใจเร็วเกินไปพอทางปู่ย่าของแอลติดต่อมาว่าอดีตส
คนที่เคลื่อนท่อนอุ่นอยู่นั้น หัวเราะน้อยๆ และนำพาอินทัชไปเจียนจะแตะจุดสุดยอด แอลตัวโยกสั่นคลอนซ่านสยิวหนัก เขารับรู้ได้ว่าร่างกายตนเป็นเหมือนอาหารจานโปรดของอาคเนย์ “ไปต่อที่เตียงกันนะ” “อือ...”แอลครางไม่เป็นภาษาแล้วคราวนี้เพราะอาคเนย์ซึ่งแข็งแรงมากไม่ยอมปล่อยลง ยามนี้แอลจึงถูกล็อกขาทั้งสองข้างให้ลอยเหนือพื้นหนักกว่าเดิมไม่พอยังแยกกว้างเป็นรูปตัวเอ็มยิ่งกว่านั้นมีแก่นกายอีกฝ่ายสอดใส่ด้านในตัวเขาและขยับโยกไม่หยุด แอลเจ็บร้าวแต่ก็หฤหรรษ์อย่างถึงที่สุด เขาไม่กล้าแม้แต่จะลืมตามองกระจกตามที่อาคเนย์กระซิบบอก เขาขัดเขินอย่างที่สุด ปากก็แผดร้องราวกับกำลังเสพของเผ็ดร้อน เขาส่งเสียงหวานผสมการร้องบอกว่าคลั่งไคล้รสชาติการมีเซกส์ในครั้งนี้ยังไง “อื้อ... ไปถึงเตียงให้เร็วกว่านี้อีก เร็วๆ หมีน้อยอินไม่ไหว หมาใหญ่เนแสนดี บอกรักหมีน้อยอินไวๆ นะครับ อื้อ” “ได้สิ จัดไป” อาคเนย์กระซิบเสียงแผ่ว ไอร้อนผะผ่าวเป่ารดหูแอลจนเผลอหัวเราะออกมาด้วยความจั๊กจี้ พอไปถึงเตียงร่างของแอลก็ถูกวางด้วยความนุ่มนวล ทว่าแก่นกายอีกฝ่ายที่อยู่ข้างในตัวนั้น กร
“ได้เลย บอกไว้ก่อนนะว่าพี่ยอมให้หางหมีอันนี้เท่านั้นที่จะเข้าไปอยู่ข้างในตัวอินได้ ถ้าเป็นอย่างอื่นรับรองว่าไม่มีทาง” พูดจบหางหมีแสนน่ารักก็ถูกส่งเข้าไปในช่องรัดแน่นอย่างพอเหมาะพอดี แอลอึดอัดในตอนแรกก่อนจะเสียวซ่านสยิวเมื่ออาคเนย์ระดมจูบแผ่นหลังของเขารัวๆ พร้อมกับมือที่สาวแก่นกายให้ไม่หยุด ในตอนนี้แอลหวิดปล่อยความขาวข้นออกมาระรอกใหญ่แต่... “จะออกแล้วเหรอ”“อือ พี่เนแกล้ง” แอลตัดพ้อ“แต่หมาใหญ่ตัวนี้ไม่ยอมให้หมีน้อยขึ้นสวรรค์ก่อนหรอกนะ”“งื้อ งั้นก็รีบเข้าสิ” อาคเนย์ฟังแล้วหมั่นเขี้ยวสุดๆ ไม่กี่อึดใจต่อมาอาคเนย์ก็พลิกตัวแอลกลับมาเผชิญหน้าแล้วอุ้มร่างบอบบางที่กระโจนกอดเขาทั้งตัวไม่พอยังยกขาสองข้างกอดเอวเขาไว้ราวกับลูกหมีโคอาล่า ไม่นานต่อมาทั้งสองก็ไปหยุดอยู่บนโซฟาเบดตัวเก่าที่ทั้งกว้างและใหญ่ “พี่เน ตรงนี้เหรอ” “อือ พี่ชอบ” “แต่ตรงนี้เป็นที่เราทำการบ้านเมื่อตอนเด็กๆ นะ” “ก็ไม่เห็นเป็นไร ตอนนี้พี่จะทำการบ้านแบบผู้ใหญ่กับอินที่นี่ไง” “โว๊ย! พี่เน ทะลึ่งอีกแล้ว” แอลพูดจบก็ส่งเสียงหัวเราะคราวนี้อาคเน





