“แม่ทัพใหญ่แต่ข้าเกรงว่าจะเป็นแผนของศัตรู หากท่านออกจากค่ายทหารไปและมีการลอบโจมตีเกิดขึ้นแล่าขอรับ” ผู่ฉิวคิดการณ์เผื่อเอาไว้เพราะกลัวจะเป็นแผนลวงมากกว่า“พวกแคว้นฉู่จะกล้าลอบโจมตีได้อย่างไร คนที่ไปสอดแนมตามชายแดนยืนยันว่า พวกมันเอาแต่ลาดตระเวน หรือไม่ก็ฝึกซ้อมอยู่ในเขตค่ายทหารเท่านั้น ยังไม่เห็นทหา
รุ่ยฉิงที่สังเกตเห็นหลูหมิ่นเค่อกลับมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี เดินหายเข้าไปในกระโจมแต่ไม่มีผู้ใดตามเข้าไป แม้แต่ผู่ฉิวยังแยกตัวออกไปอีกทางและเรียกหานายกอง เพื่อแจ้งข่าวเรื่องเสบียงของกองทัพที่หายไป ภายในใจของรุ่ยฉิงนั้นหัวเราะอย่างสะใจ แต่สีหน้าภายนอกกลับเล่นงิ้วตกใจเช่นคนอื่น ๆ แต่รุ่ยฉิงจะเข้าพวกกับทหา
เซียวหนิงหลงเกรงว่ากองหิมะที่หนา ระหว่างทางจะเป็นอุปสรรคยามต้องเดินทัพและศัตรูอาจพบเห็นได้ง่าย “ท่านพ่อคิดจะลงมือหลังจากหิมะหยุดตกหรือขอรับ แต่อากาศช่วงนั้นยังหนาวเย็นอยู่มาก รอให้อากาศอุ่นขึ้นสักหน่อย พวกเราค่อยฉวยโอกาสบุกเข้าโจมตีก็ยังทันนะขอรับ”“ยังหรอกอาหลง เพราะหิมะยังจับตัวหนาทหารจะเดินทางลำบ
“พี่ใหญ่เจาอย่าได้คิดกังวลจนเกินไปสิ ข้ากับสหายบังเอิญพบเจอถ้ำแห่งหนึ่ง ที่มีพวกเถาวัลย์บดบังสายตาผู้คน และเก็บสะสมเสบียงเอาไว้พอสมควร หากพวกเราออกไปจากที่นี่ได้ จะไปหลบอยู่ที่นั่นก่อนรอให้หิมะหยุดตก และเป็นเวลากลางคืนค่อยไปจากที่นี่ เป็นอย่างไรความคิดนี้ของข้ากับสหาย เพราะพวกข้าไม่อยากเอาชีวิตมาทิ้
เพราะว่าทหารจำนวนห้าหมื่นนายนั้น เซียวหนิงหลงได้ขอจากบิดาของตน เพื่ออ้อมไปด้านข้างลอบโจมตีค่ายทหารของหนานซวิ่น จะได้สร้างความเสียหายเพิ่มให้หนักมากกว่าเดิม หลูหมิ่นเค่อรีบควบม้าออกมาเผชิญหน้ากับเซียวชินอ๋อง ด้านหลังมีทหารถึงเจ็ดแสนคนที่ตามมาด้วยความเหนื่อยล้า แต่ต้องทำท่าทีเข้มแข็งให้ศัตรูได้เห็น“โ
“มาแล้วพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง พวกมันอยู่ในกรงนี้แล้ว จะให้ลงมืออย่างไรหรือพ่ะย่ะค่ะ”“แม่ทัพหลูช่วยข้าด้วย /ช่วยพวกเราด้วยขอรับแม่ทัพหลู /ข้ายังไม่อยากตายท่านแม่ทัพหลู”“นี่มันอะไรกัน! พวกท่านสามคนทำไมถึงถูกจับขังเช่นนั้น หรือว่าที่เป็นแบบนี้เพราะว่า…ฮึ่ยยยย บัดซบที่สุดเจ้าพวกโง่เขลาเบาปัญญา”“ข้ารับฝากด
เมื่อถอยทัพกลับมาถึงที่ค่ายทหารชินอ๋องพบว่า เซียวหนิงหลงกลับมาถึงก่อนพวกตน และได้เตรียมสิ่งที่จะช่วยให้อาการบาดเจ็บของทหารทั้งหลายทุเลา ซึ่งใช้เวลารักษาไม่นานมากนัก ทหารที่ต้องอยู่ดูแลเฝ้าระวังค่าย เห็นสหายได้รับบาดเจ็บกลับมา ก็รีบเข้าไปช่วยดูแลและไม่ลืมนำน้ำที่แบ่งใส่ถุงเก็บน้ำ ไปให้เหล่าสหายได้ดื่
รุ่ยฉิงเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่ดีมาก หากจะยุแยงให้ทหารหนีทัพให้ได้มากที่สุด จากการสอบถามนายกองที่เคยตีสนิทไว้ ทำให้ได้ข้อมูลจำนวนทหารที่ยังเหลือมาทั้งหมด ตอนนี้ทหารของหนานซวิ่นรวมแล้วเหลืออยู่แปดแสนกว่านาย จากหนึ่งล้านหนึ่งแสนนาย รุ่ยฉิงนำเรื่องนี้รายงานกลับไปให้เซียวชินอ๋องได้ทราบ และทำหน้าที่ของตนต่
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”