“คารวะท่านอ๋อง พระชายาขอรับ”“คารวะท่านอ๋อง พระชายาเจ้าค่ะ”“มานั่ง ๆ ๆ ไม่ต้องเป็นทางการมากนัก อย่าลืมสิว่าพวกเราเป็นคนกันเองแล้ว เพิ่งจะมาถึงนั่งพักให้หายเหนื่อยก่อนเถิด”“บิดามารดาพวกเจ้าสบายดีหรือไม่ ไยไม่มาเมืองหลวงด้วยกันหรือติดธุระที่ใดรึ” พระชายาไป๋ถามไถ่ไปถึงลู่เวินกับฟางซิน“ท่านพ่อท่านแม่
ส่วนลู่ชิงนั้นขลุกตัวอยู่ในจวนกับเซียวเยว่เล่อ เพื่ออบรมคนงานเกี่ยวกับขั้นตอนต่าง ๆ อีกครั้ง นางอธิบายรายละเอียดของกระปุกครีมแต่ละสี ที่พวกเขาจะต้องจดจำให้ดี เพราะมันมีราคาต่างกันอยู่พอสมควร รวมถึงทำอาหารสองสามอย่างเป็นการตอบแทนช่างหลวง ที่เซียวเยว่เล่อขอตัวมาช่วยปรับปรุงร้าน โดยให้ก้งคุนที่อาสานำอา
“ข้าก็นึกว่าสตรีไร้ยางอายจากที่ใด ที่แท้ก็คุณหนูอู๋เสี่ยวเซียนนี่เอง การที่ครอบครัวของข้าร่ำรวยอยู่กินอย่างสุขสบาย เพราะรู้จักทำมาหากินพวกข้าสามคนที่เป็นลูก ก็ไม่เคยนิ่งเฉยช่วยบิดามารดาทำงานทุกอย่าง แล้วผิดตรงไหนที่เลือกจะไม่ช่วยตระกูลอู๋ของเจ้า ที่ขับไล่ตัดขาดครอบครัวของข้าออกจากตระกูล พอกิจการตกต่
“ไม่จริง!! เจ้าโกหก ท่านแม่ข้าไม่ใช่คนเช่นนั้น เจ้าถูกสามคนพี่น้องนั่นจ้างมาแน่ ๆ เพื่อต้องการทำให้ข้าอับอายใช่หรือไม่ บอกกับทุกคนไปสิว่าเจ้าถูกจ้างมาน่ะ”“นี่คุณหนูอู๋เรื่องนี้ชาวบ้านชาวเมืองเขารู้กันทุกคน บุรุษผู้นี้ไม่ได้โกหก แต่เป็นเจ้าที่ถูกครอบครัวโกหกต่างหากเล่า”“ข้าไม่เชื่อ!! พวกเจ้าสามคน
ตลอดสิบห้าวันที่อยู่เมืองหลวง ลู่ชิงเข้าไปช่วยดูแลร้านเกือบทุกวัน แต่มีบ้างที่หยุดเพื่อไปดูร้านของครอบครัว ลูกค้าทั้งบุรุษและสตรียังคงลงชื่อจองเวลาไว้ เพราะคนที่ยังไม่ตัดสินใจทำ เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น จากคนที่ทำไปสองสามครั้ง ผิวหน้าที่เปล่งปลั่งน่ามองช่วยทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแม้แต่
“แล้วเจ้าล่ะเจียวซิ่ง ไปสืบข่าวจากผู้ใด”“เรียนซื่อจื่อ ข้าน้อยเข้าไปสืบข่าวในตำหนักของฮองเฮา คนที่ถูกใช้งานให้ติดต่อหรือส่งข่าว จะเป็นองครักษ์ที่ตามมาจากตงหนาน และมีแม่นมที่คอยดูแลติดตามมาเช่นกัน นอกจากจะทรงขอร้องฮ่องเต้ให้ช่วย ฮองเฮายังมีแผนการสำรอง โดยจะใช้เงินทองจำนวนมากเพื่อซื้อยาพิษที่รุนแรงที
“ขอรับ”ทางด้านตันเจียงกับเฟยฮุ่ยที่นำป้ายทอง และข้อความของเซียวหนิงหลงมาแจ้งกับทหารหน้าประตูวังหลวง เมื่อได้เห็นป้ายทองและได้ยินข้อความก็รีบเข้าไปแจ้งกับลิ่วกงกง ทั้งยืนรออยู่ด้านนอกตำหนัก“ทูลฝ่าบาท ทหารหน้าประตูวังหลวงเข้ามารายงานว่า มีผู้นำป้ายทองจากรองแม่ทัพแคว้นฉู่ต้องการเข้าเฝ้า ด้วยมีเรื่องส
แน่นอนว่ารัชทายาทย่อมเข้าใจ สิ่งที่เซียวหนิงหลงต้องการสื่อกับตน “เปิ่นไท่จื่อเข้าใจสิ่งที่รองแม่ทัพต้องการสื่อ และเปิ่นไท่จื่อเองสามารถแยกแยะได้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป”“เฮ้อ เจิ้นบอกกับท่านตามตรง เรื่องนี้เจิ้นเพิ่งหารือกับใต้เท้าโม่และแม่ทัพใหญ่เฉวียไปไม่นาน เจิ้นเองไม่ต้องการให้ราษฎรต้องเดือดร้อน แล
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”