“เข้าไปจัดการนางพร้อมกันเดี๋ยวนี้เลยไป”“ตายซะพวกคนชั่ว!”ปุ!! ปุ!! ปุ!! ปุ!! ปุ!! อั่ก ตุบ ตุบ ตุบลู่จื้อที่เห็นน้องสาวของตนสังหารคนด้วยท่าทางที่ดุดัน อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็มีตกใจอยู่บ้าง คนอื่น ๆ ที่หมอบอยู่บนพื้นก็ยังไม่อยากเชื่อสายตา ที่ลู่ชิงสังหารคนหลายคนโดยไม่กระพริบตาเช่นนี้ เป็นก้งเยว่
ของพวกมันทั้งนั้น ไม่กลัวท่านแม่จะตกใจรึถ้าเห็นสภาพของเจ้าน่ะ เชื่อพี่ใหญ่นะเจ้าใจเย็น ๆ ตอนนี้ทุกอย่างจบลงแล้วพวกมันถูกเจ้าสังหาร และทุกคนก็ยังปลอดภัยดี เก็บอารมณ์โมโหเอาไว้ก่อนนะ”“ก็ได้เจ้าค่ะ ครั้งนี้ข้าจะเชื่อพี่ใหญ่ แต่ว่าข้าสวีลู่ชิงขอประกาศต่อหน้าพวกท่านทุกคนไว้ตรงนี้ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไ
ลู่เวินกับลู่เสียนออกมาที่ลานกว้าง เพื่อช่วยลู่จื้อกับคนอื่นเก็บกวาดศพของพวกฉงม่อซาน ใส่เกวียนวัวก่อนจะนำไปที่ป่าด้านหลังของบ้านตนเอง และให้เจียวมิ่งกับสหาย จัดการเผาร่างของทั้งสิบคนเสีย หากทำการฝังอาจทำให้เกิดปัญหาในภายหน้าได้เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ทุกคนก็กลับมาชำระร่างกายและพักผ่อนทันที แต่
แต่ความเป็นจริงแล้วทุกคนกำลังจะเข้าสู่การฝึก เพื่อเพิ่มทักษะความว่องไว ฝึกประสาทสัมผัสทั้งห้าให้มีความแม่นยำมากขึ้น รวมถึงการใช้อาวุธปืนที่ลู่ชิงได้สอนให้พวกเจียวมิ่งใช้ พวกเขาชอบมากตั้งแต่วันนั้นที่เห็นลู่ชิงใช้มันสังหารศัตรู พวกมันล้มลงทันทีทั้งที่อยู่ไกลตัวเช่นนั้น นอกจากนี้ยังไม่เคยมีใครเคยได้ยิ
ขณะที่เซียวหนิวหลงนั่งคุยกับลู่เวิน ตันเจียงก็แยกไปคุยกับเจียวมิ่ง ลู่ชิงที่เดินมาอย่างแผ่วเบาจึงอยากแกล้งเซียวหนิงหลงเสียหน่อย แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของเซียวหนิงหลง ยังคงรวดเร็วอยู่เสมอลู่ชิงถึงได้เจ็บตัวไปเล็กน้อยหมับ!! “ใช่จะ...” พรึ่บ พรึ่บ “โอ๊ยยยยย เจ็บ ๆ ๆ พี่ชายเซียวปล่อยก่อนเจ้าค่ะ ข้าเอง ๆ ๆ
เมื่อถึงวันออกเดินทางกลับเมืองหลวง ลู่ชิงจึงเปลี่ยนให้เซียวหนิงหลง ฝึกหนักตอนที่หยุดพักระหว่างทางแทน เพราะจำนวนเกวียนวัวมีถึงยี่สิบเล่มและรถม้าคันใหญ่งดงาม ที่สั่งทำเป็นพิเศษอีกหนึ่งคันลู่ชิงอยากให้ขบวนดูยิ่งใหญ่เข้าไว้ยามไปถึงเมืองหลวงแล้ว ศัตรูได้รู้ข่าวว่าตระกูลสวียังมีชีวิตอยู่ครบกันทุกคน พวกมั
เพียงเพราะขบวนเกวียนยาวเหยียด ที่บนเกวียนขนหีบมากมายเข้าเขตเมืองหลวง ชื่อเสียงตระกูลสวีกลายเป็นที่พูดถึงในชั่วข้ามคืน ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตระกูลสวีกำลังจะขยับฐานะจากตระกูลพ่อค้าธรรมดาทั่วไป กลายเป็นคหบดีที่ร่ำรวยกว่าผู้ใดแม้ข่าวลือเรื่องนี้จะทำให้ตระกูลพ่อค้าทั้งหลาย เกิดความไม่พอใจอยู
“เรื่องนี้ข้าขอเป็นคนเล่าเองก็แล้ว หวังว่าท่านอ๋องจะทนฟังให้จบ”“เชิญนายท่านสวีเล่ามาเถิด”ลู่เวินอาสาเล่าถึงเหตุการณ์เลวร้าย ที่มีนักฆ่าต้องการสังหารครอบครัวของตน “พวกเราทุกคนที่อยู่รวมกันในบ้านที่มีรั้วรอบขอบชิด หลังจากเหตุการณ์น้ำป่าทุกอย่างยังคงปกติเช่นทุกวัน แต่แล้วก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นกั
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”