ในที่สุดฤกษ์ดีก็มาถึงเสียงจากประทัดก็ดังขึ้น ยิ่งเรียกความสนใจของผู้คนด้านอื่น ๆ ให้มายังร้านแห่งนี้ได้ดี เมื่อสิ้นเสียงประทัดแล้วหลงจู๊หมิงจื่อก็ได้ประกาศ และอธิบายถึงสินค้าที่วางขายอยู่ด้านในร้าน ว่ามันคือสินค้าแบบใดใช้กับร่างกายอย่างไรแปะ ๆ ๆ “ทุกท่าน ๆ ๆ โปรดฟังทางนี้สักครู่ ตัวข้าหมิงจื่อเป็นห
ไหนจะร้านที่ให้เล่อเล่อเป็นหุ้นส่วนอีก”“ตอนนี้ยังคิดไม่ออกเจ้าค่ะ ไว้หลังจากขยายสาขาร้านค้าไปตามหัวเมืองต่าง ๆ แล้ว ค่อยมานั่งคิดอีกครั้ง ว่าจะทำการค้า เกี่ยวกับอะไรเจ้าค่ะ”เซียวหนิงหลงเอ่ยท้วงบิดาของตน ที่ถามเรื่องการค้าที่ลู่ชิงยังไม่ได้ทำขึ้นมา “แค่นี้ชิงเอ๋อร์ก็เหนื่อยแล้วขอรับ รอให้เรือสินค้
ร้านน้ำหอมเปิดวันแรกก็เรียกลูกค้าได้มากมาย ใครมากับสหายพวกเขาจะใช้วิธีรวมเงินกันเพื่อซื้อขวดใหญ่ แล้วค่อยไปแบ่งใส่ขวดแยกทีหลัง ถือว่าเป็นการประหยัดเงินได้ส่วนหนึ่ง ก่อนจะซื้อกลิ่นที่ชอบมีการทดลองสินค้า ทั้งดมและแต้มลงไปเล็กน้อย ยามเดินออกจากร้านค้า จึงมีกลิ่นหอมติดตัวไปด้วยมีทั้งบุรุษและสตรีที่ได้ก
“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนเจ้าค่ะ จะไปดูชุดสวย ๆ สำหรับฉินเอ๋อร์วันงานจะได้ไม่น้อยหน้าใครเจ้าคะ”“ไปเถิดข้าเองจะคุยเรื่องงานกับชุนเผิงเสียหน่อย”“เจ้าค่ะ”หลังจากหลีฮูหยินออกจากร้านไป ชิ่งซิ่นสือก็เรียกชุนเผิงเข้าพบ เพื่อมอบหมายงานสำคัญและต้องทำอย่างระมัดระวัง เพราะชิ่งซิ่นสือต้องการสินค้าในสภาพสมบูรณ์เท
ปึก!!!“ชิงเอ๋อร์!! ทำไมถึงวางถ้วยชาแรงนักมันยังร้อนอยู่นะ ดูสิมือเจ้าแดงไปหมดแล้ว มีอะไรในใจหรือไม่พูดมันออกมาเถิด”ลู่เวินเอ่ยกับลู่ชิงอย่างใจเย็น “ลูกพ่อเจ้าใจเย็นลงสักนิดเถิด อย่าเพิ่งนำอารมณ์โกรธมาทำร้ายตนเองเลย ทุกคนต่างก็เป็นห่วงเจ้านะ”“เดี๋ยวแม่ไปหยิบยามาทาให้นะ แล้วอย่าทำเช่นนี้อีก”คราแรก
ในยามห้ายของคืนวันถัดมา เซียวหนิงหลงกับตันเจียงตามมาสมทบกับลู่ชิง ที่มีก้งเยว่และก้งคุนติดตามข้างกาย ซึ่งทั้งสามคนมาถึงก่อนเขาได้ไม่นาน ลู่ชิงให้เสี่ยวไป๋ไป๋ออกมาด้วยยามนี้มันตัวโตขึ้นมากกว่าเดิมอีกแล้ว ทำเอาพื้นที่ในร้านค้าดูคับแคบไปถนัดตาแต่ยังพอมีที่ว่างสำหรับแขกที่จะมาเยือนในคืนนี้ เท่านั้นยังไ
รีบออกจากร้านนั่นเสีย และไปรอข้าที่หน้าจวนสวีก็แล้วกัน”“พวกข้าทำได้แน่นอนขอรับ คุณหนูวางใจได้เรื่องนี้สำเร็จแน่นอน ขอบคุณคุณหนูที่ให้โอกาสข้ากับน้องชายขอรับ”“แต่ว่าพวกเจ้าต้องจำเอาไว้ให้ขึ้นใจ ว่านี่คือโอกาสเพียงครั้งเดียวที่คู่หมั้นของข้าได้มอบให้ หากคิดจะทรยศหักหลังแม้จะหนีไปจนสุดหล้าฟ้าเขียว ข้
“หรือว่าที่วันนี้ร้านตระกูลสวีไม่เปิดเพราะสินค้าถูกคนขโมย นี่เถ้าแก่เนี้ยท่านขโมยสินค้าของผู้อื่น จากนั้นเอามาย้อมแมวขายบอกพวกข้าว่าเป็นของตนเองงั้นเรอะ ข้าไม่ซื้อแล้ว ๆ นี่มันของโจรชัด ๆ”“พวกเจ้าพูดบ้าอันใดกัน นี่เป็นสินค้าที่ร้านข้าได้มาจะเป็นของตระกูลสวีได้อย่างไร”“นี่น้องชายทั้งสองท่านช่วยบอกอ
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”