อย่าบังคับให้ข้าต้องกลายเป็นนางร้าย

อย่าบังคับให้ข้าต้องกลายเป็นนางร้าย

last updateLast Updated : 2025-10-15
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
Not enough ratings
26Chapters
46views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

หลังตกน้ำไปครั้งนั้น นางตื่นจากฝันหวาน เห็นธาตุแท้พวกคนเลว ทั้งยังจำอดีตชาติและมีความสามารถติดตัว มองเห็นความชอบของคนอื่นที่มีต่อนาง นาง ซูเหยา! จะไม่สร้างภาพเป็นคนดี พี่น้องรักใคร่ ครอบครัวปรองดองอีก!

View More

Chapter 1

001

หญิงสาวนางหนึ่งนั่งพิงหัวเตียงไม้สลักอันประณีต ถอนหายใจหนักหน่วงด้วยความปลงอนิจจัง ใบหน้างดงามขาวซีดไร้สีเลือด ผมยาวดำขลับแผ่สลายลงตามลำตัว ริมฝีปากบางเม้มแน่น ดวงตารีเรียวทั้งสองข้างเหม่อมองไปยังเบื้องหน้าด้วยสายตาว่างเปล่าเจือความเปล่าเปลี่ยว ในใจไม่รู้กำลังคิดอันใดอยู่

แว่วเสียงด้านนอกพลันมีเสียงเดินกดฝีเท้าตามจังหวะหนักเบาทว่ารีบเร่งก่อนจะค่อยๆ ผ่อนฝีเท้าลงเมื่อถึงหน้าประตูไม้บานหนึ่ง เสียงเคาะเบาๆ ดังขึ้นสามครั้ง เนิ่นนาน ทว่าไม่มีเสียงตอบรับใดจากด้านใน

เมิ่งจูมองชามยาในมือเริ่มเย็นลงด้วยแววตาเศร้าหมอง นางลังเลอยู่นาน สุดท้ายเอ่ยเสียงเรียกหาคนอีกฟากฝั่งอย่างแผ่วเบา “คุณหนู”

นับตั้งแต่คุณหนูฟื้นขึ้นมา เมิ่งจูรู้สึกราวกับคุณหนูผู้สดใส ร่าเริง เปิดเผยที่นางรู้จักกลายเป็นคนเงียบขรึมเยือกเย็น ไร้ชีวิตชีวาไม่เหมือนกาลก่อน นางยิ้มขมด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจแทนเจ้านายของตน เหตุตกน้ำครานั้นเกือบคร่าชีวิตคนงามที่เป็นดั่งพระโพธิสัตว์ในใจของนางไปเสียแล้ว 

นับว่าฟ้ามีตา สวรรค์คุ้มครอง จับไข้ร่วมสิบวัน หลับใหลติดต่อกันอีกสามวันสามคืน จากเหตุการณ์วันนั้นก็ผ่านมาราวๆ ครึ่งเดือน ร่างกายอ่อนแอบอบบางพักฟื้นอยู่ในเรือนทว่ายังไม่มีวี่แววจะดีขึ้น เป็นเพราะมีเรื่องที่คิดไม่ตก ในใจคุณหนูจึงหม่นหมองเช่นนั้นหรือ คุณหนูที่เป็นเช่นนี้เมิ่งจูเคยเห็นเป็นครั้งที่สอง

ส่วนครั้งแรกน่ะหรือ อืม...เนิ่นนานมาแล้วจนนางเองก็จำได้ไม่ชัดแจ้ง

“เข้ามาเถิด” ความคิดที่กำลังล่องลอยของเมิ่งจูวกกลับมารวมกันอีกครั้งเมื่อเสียงอ่อนระโหยโรยแรงดังแว่วออกมา นางรีบเปิดประตูก้าวเข้าไปภายในห้องที่ฟุ้งไปด้วยกลิ่นฉุนของสมุนไพร หญิงสาวใบหน้าซีดเซียวบนเตียงนอนจ้องมองผู้เข้ามาใหม่ สายตาที่เหม่อลอยเมื่อสักครู่พลันเจือรอยยิ้มบางเบาออกมา

วันนี้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแล้ว 

ซูเหยามองตัวเลขสีแดงบนศีรษะของเมิ่งจู เมื่อวานขึ้นเลขหกสิบ วันนี้หยุดที่หกสิบเอ็ด

นางยื่นมือเรียวออกไปรับถ้วยยาขึ้นมาดื่มอย่างรู้หน้าที่ ดื่มทั้งหมดรวดเดียว รสขมฝาดยังติดอยู่บนปลายลิ้นไม่จางหาย หากเป็นเมื่อก่อนนางคงอิดออดไม่ยอมดื่มง่ายๆ แต่หลายวันมานี้กลับทำราวกับน้ำดำเหล่านี้เป็นเพียงน้ำเปล่าที่ไร้รสชาติ ช่วงแรกๆเมิ่งจูยังยื่นน้ำตาลก้อนให้นางหลังจากดื่มยาเสร็จ ทว่านางส่ายหน้าปฏิเสธด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก

ขมสิดี จะได้จำ! เตือนตัวเองไว้ อย่าให้โลกยิ้มเยาะเจ้าได้

ซูเหยา สตรีสองภพชาติอย่างนางทระนงตนมาตลอด คิดไปเองว่าตนเก่งกาจ ฉลาดกว่าใคร เห็นโลกมามาก จะใช้ชีวิตที่สองให้ดีนั้นมีอะไรยากกัน อาศัยความอวดฉลาดของนางทั้งหมดสิบหกปีเข้าร่วมแสดงละครฉากหนึ่ง ขนาดตัวนางเองยังไม่รู้เลยว่าจะได้รับเกียรติอันสูงส่งให้เป็นตัวเอกภายในเรื่อง แต่ถึงอย่างนั้นมันยังไม่น่าเศร้าเท่าไหร่นัก หากบทนักแสดงหลักฝ่ายหญิงที่นางได้รับนั้นเป็นบทนางเอก แน่นอนสตรีนามเหยา แซ่ซู อย่างนางจะโชคดีอย่างนั้นคงเป็นไปไม่ได้ นางไม่ใช่ผู้กำกับ ไม่ใช่ลูกรัก บทนางร้ายเท่านั้นแหละที่นางคู่ควร!

เรื่องราวตลกขบขันทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นเช่นนี้ พระเจ้าไหนเลยจะเมตตานางปานนั้น ชาติก่อนก็เท่านั้น ชาตินี้จะนับเป็นอะไรได้ แต่อันที่จริงให้นางมีชีวิตที่ยืนยาวมาสองชาติก็นับว่าคุ้มค่าที่สุดแล้ว ยังจะมีใครได้รับสิทธิพิเศษนี้บ้าง นางหลงคิดไปว่าชีวิตใหม่เหมาะแก่การเริ่มต้นใหม่ 

ดวงวิญญาณจากโลกปัจจุบันถูกส่งมาอยู่ในร่างแบเบาะของทารกในยุคโบราณที่ไม่ปรากฏในประวัติศาสตร์ของจีนหน้าไหนเลยนี้ แผ่นดินต้าเว่ยกว้างใหญ่ไพศาล บ้านเมืองสงบสุข การค้ามั่งคั่ง ชาวประชาเป็นหนึ่งเดียว มุมหนึ่งในเมืองหลวงมีเด็กทารกน้อยเติบโตอย่างสมบูรณ์พร้อมสุข บิดามารดาเอาใจใส่ พี่น้องรักใคร่ในจวนหย่งอันโหวแห่งนี้ หลังจากที่หลับใหลอยู่เป็นเวลานาน วันนี้ถึงได้ตื่นรู้

ละครที่ร่วมกันแสดงมานานนับสิบหกปี ควรปิดฉากลงได้แล้ว

“ท่านพ่อท่านแม่กลับมาหรือยัง” ซูเหยาขยับแขนขาที่เริ่มมีเรี่ยวแรงเล็กน้อย หันหน้าซีดขาวมองออกไปนอกหน้าต่างผ่านม่านขาวโปร่งบางที่ขยับไปตามแรงลมเบาๆ สายตานิ่งเรียบเปลี่ยนเป็นลุ่มลึก

“นายท่านกับฮูหยิน ยังมีฮูหยินผู้เฒ่า คุณหนูใหญ่ และทุกคนกำลังรอต้อนรับซื่อจื่อ*กลับจวนอยู่ที่เรือนหลักเจ้าค่ะ” เมิ่งจูตอบเสียงเบาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ทุกครั้งที่คุณชายใหญ่กลับจวนมักทำตัวห่างเหินกับคุณหนู ไม่ว่าคุณหนูจะพยายามเข้าหามากเพียงใดก็ตาม

เมิ่งจูกลัวว่าคุณหนูจะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจจึงรีบกล่าวอย่างตื่นเต้น “ต้องเป็นเพราะซื่อจื่อได้ข่าวว่าคุณหนูป่วยจับไข้หลายวันแล้วยังไม่ดีขึ้น เป็นห่วงถึงได้กลับจวนกลับมาเยี่ยม จะว่าไปแล้ว เพลานี้สำนักศึกษายังไม่ปิดภาคการศึกษาเลยนะเจ้าคะ”

“อ้อ” รอยยิ้มบางเบาประทับอยู่บนมุมปากของซูเหยา ดวงตาเรียวละสายตากลับมา หลุบลงมองมือผอมแห้งทั้งสองข้างที่กุมกันอยู่ นอกจากขนตางอนยาวเป็นแพนั้นแล้วก็ไม่เห็นสิ่งอื่นใดอีก 

“พี่ใหญ่ห่วงกังวลถึงสุขภาพของข้านับเป็นเรื่องปกติ ยามนี้ข้าผู้เป็นน้องสาวดีขึ้นมากแล้ว ไม่ควรให้ซื่อจื่อกระวนกระวายใจจนเสียการเรียนเช่นนี้ ไป ช่วยข้าแต่งตัว ไปหาพี่ใหญ่ที่เรือนหลักกัน” น้ำเสียงของนางไม่ปกติราวกับมีบางสิ่งแฝงอยู่ในนั้นมากมาย ไร้ความกระตือรือร้นอย่างที่กล่าว ออกไปทางเฉยชาด้วยซ้ำไป

พี่ชายของนางคนนี้ นับว่าจริงใจกับนางมากทีเดียว

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
26 Chapters
001
หญิงสาวนางหนึ่งนั่งพิงหัวเตียงไม้สลักอันประณีต ถอนหายใจหนักหน่วงด้วยความปลงอนิจจัง ใบหน้างดงามขาวซีดไร้สีเลือด ผมยาวดำขลับแผ่สลายลงตามลำตัว ริมฝีปากบางเม้มแน่น ดวงตารีเรียวทั้งสองข้างเหม่อมองไปยังเบื้องหน้าด้วยสายตาว่างเปล่าเจือความเปล่าเปลี่ยว ในใจไม่รู้กำลังคิดอันใดอยู่แว่วเสียงด้านนอกพลันมีเสียงเดินกดฝีเท้าตามจังหวะหนักเบาทว่ารีบเร่งก่อนจะค่อยๆ ผ่อนฝีเท้าลงเมื่อถึงหน้าประตูไม้บานหนึ่ง เสียงเคาะเบาๆ ดังขึ้นสามครั้ง เนิ่นนาน ทว่าไม่มีเสียงตอบรับใดจากด้านในเมิ่งจูมองชามยาในมือเริ่มเย็นลงด้วยแววตาเศร้าหมอง นางลังเลอยู่นาน สุดท้ายเอ่ยเสียงเรียกหาคนอีกฟากฝั่งอย่างแผ่วเบา “คุณหนู”นับตั้งแต่คุณหนูฟื้นขึ้นมา เมิ่งจูรู้สึกราวกับคุณหนูผู้สดใส ร่าเริง เปิดเผยที่นางรู้จักกลายเป็นคนเงียบขรึมเยือกเย็น ไร้ชีวิตชีวาไม่เหมือนกาลก่อน นางยิ้มขมด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจแทนเจ้านายของตน เหตุตกน้ำครานั้นเกือบคร่าชีวิตคนงามที่เป็นดั่งพระโพธิสัตว์ในใจของนางไปเสียแล้ว นับว่าฟ้ามีตา สวรรค์คุ้มครอง จับไข้ร่วมสิบวัน หลับใหลติดต่อกันอีกสามวันสามคืน จากเหตุการณ์วันนั้นก็ผ่านมาราวๆ ครึ่งเดือน ร่างกายอ่อนแอบอบบางพ
last updateLast Updated : 2025-10-14
Read more
002
กว่าสองนายบ่าวจะเดินมาถึงเรือนหลักด้านนอกก็มืดสนิทเสียแล้ว จะโทษที่นางล่าช้าไม่ได้ คนป่วยน่ะแค่เดินสามก้าวก็เหนื่อยหอบ มือเท้าชื้นเหงื่อเต็มไปหมด ต่อให้บำรุงมาครึ่งเดือนเรี่ยวแรงก็ยังไม่กลับมาดังเดิม น้ำในสระเย็นเฉียบ นางตกลงไปนานขนาดนั้น ไม่ขาดอากาศหายใจตายต้องส่งสุมบุญมากี่สิบชาติกันจะว่าไปตกน้ำครั้งนี้คุ้มค่าไม่น้อย ความทรงจำชาติก่อนผนวกเข้ากับความพิเศษบางอย่าง ทำให้นางรู้เช่นเห็นชาติของคนพวกนี้อย่างไรล่ะ!บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของครอบครัว เสียงแว่วแห่งความสุขดังออกจากเรือนหลักเป็นระยะ มือเล็กที่กำลังยกขึ้นจับห่วงประตูชะงักไปเล็กน้อย ลมหนาวพัดผ่านหัวใจซูเหยาไปหอบหนึ่ง สั่นสะท้านไปทั้งกาย นางหลับตาเม้มปากเข้าหากันแน่น สูดหายใจเข้าลึกครั้งหนึ่ง เนิ่นนานค่อยลืมตาขึ้นมา มองประตูด้วยแววตาสงบนิ่ง สดับฟังสรรพสิ่งอย่างไร้ความรู้สึกซูเหยาเดินเข้าไป สาวใช้และบ่าวรับใช้ภายในเรือนชั้นนอกเข้ามาคารวะนางเหมือนในยามปกติ รอจนซูเหยาพยักหน้าเชิงรับรู้ จากนั้นค่อยทยอยกลับไปทำงานกันต่อ ทุกอย่างยังดำเนินไปตามเดิมเหมือนทุกครั้งที่นางมา ทว่าใจคนบางคนกลับเปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อมาถึงเรือนชั้นใน ซูเหยา
last updateLast Updated : 2025-10-14
Read more
003
หลายวันก่อนคนทางนั้นส่งกงกงจากในวังมาเยี่ยมเยียนซูเหยา เห็นนางไม่เป็นอันใดมากแล้ว วันนี้ถือเป็นฤกษ์งามยามดี องค์หญิงผิงอันจัดงานเลี้ยงชมบุปผา เชิญเหล่าคุณหนูตระกูลใหญ่มาร่วมงานไม่น้อย ในฐานะนางที่เป็นหนึ่งในตัวเอกของงาน ซูเหยาย่อมตอบรับคำเชิญซูเหยาชอบความสนุกสนานเป็นที่สุด ดังนั้นสถานที่ใดมีความครึกครื้น มีผู้คนรวมตัวกันจำนวนมากจึงจะสามารเผยโฉมหน้าของตนให้หญิงสาวทั้งหลายริษยากันตายไปเลย หากเป็นเมื่อก่อนนั้นคงทำเพียงร่วมชมความครึกครื้นอย่างเดียว ทว่านับตั้งแต่สมองนางจุติใหม่อีกครั้ง ซูเหยาจึงถือคติไว้ว่า ใช้ชีวิตตามแต่ใจตน กิน ดื่ม เงินทอง เสื้อผ้าอาภรณ์ต้องไม่ขาด นี่สิถึงจะเป็นกำไรของชีวิตนางคือซูเหยา คือหญิงงามอันดับหนึ่ง ทว่างามก็งามอยู่หรอกแต่ความคิดตื้นเขินไปสักหน่อย ในยุคที่บ้านเมืองสงบสุข ไร้ศึกสงคราม หญิงงามที่แท้จริงต้องมาพร้อมกับความสามารถที่มากล้น เป็นยอดหญิงชนชั้นสูงในสายตาของผู้คนถึงกระนั้นเหล่าสตรีที่วันๆไม่มีอะไรทำก็อดริษยานางไม่ได้อยู่ดี เบื้องหน้านอกจากชื่อเสียงด้านรูปโฉมงดงามที่ลือกันไปทั้งเมืองหลวงแล้ว นางยังเป็นบุตรีภรรยาเอกคนก่อน มีมารดาเลี้ยงที่รักใคร่ มีคนรัก
last updateLast Updated : 2025-10-14
Read more
004
ณ อุทยานหลวง“เหยาเหยา มาถึงรึยัง”“ยังไม่เห็นเลยเพคะ หรือคุณหนูรองซูจะไม่มาแล้ว” สตรีหน้าตาจิ้มลิ้มนั่งเป็นประธานอยู่ด้านหน้าชะเง้อคอมองทางเข้าตลอดเวลา เพื่อรอการปรากฏตัวของคนบางคน นั่นก็คือองค์หญิงผิงอัน เจ้าของงานเลี้ยงชมบุปผานี้นั่นเององค์หญิงผิงอัน เป็นเพียงธิดาองค์เดียวของฮองเฮา เนื่องจากฮองเฮาไม่มีพระโอรส พระนางจึงรักและตามใจพระธิดาเป็นอย่างมาก นับแต่เล็กองค์หญิงก็มีคู่หมั้นเป็นบุตรชายคนโตของจวนจ้าวกั๋วกง งานมงคลสมรสให้จัดขึ้นเมื่อนางอายุครบสิบแปดปี ครั้นถึงวัยปักปิ่นขององค์หญิงผิงอัน จ้าวลั่วหมิงแอบลักลอบมีสัมพันธ์กับท่านหญิงรั่วเจิน ธิดาของเหลียนอ๋องซึ่งเป็นโอรสองค์โตของอดีตฮ่องเต้ เรื่องนี้สร้างความอับอายให้องค์หญิงผิงอันและฮองเฮา นับแต่นั้นมาจวนท่านแม่ทัพใหญ่อู๋เหวินปั๋วที่เป็นดั่งไม้หลักพักพิงของฮองเฮากับจวนจ้าวกั๋วกงเป็นดั่งน้ำกับไฟ เจอกันที่ใด ไม่พ้นต้องมีเรื่องให้กระทบกระทั่งกัน ถึงแม้ไม่อาจทำอันใดเหลียนอ๋องได้ กระนั้นความสัมพันธ์อันดีที่มีมายาวนานก็เป็นอันห่างเหินเรื่องราวตอนนั้นเป็นที่โจษจัณทั่วทั้งเมืองหลวง ไม่มีตระกูลไหนกล้าตบแต่งกับคนของตำหนักเหลียนอ๋อง บ่าวรับ
last updateLast Updated : 2025-10-14
Read more
005
“คุณหนูรองซู เชิญเจ้าค่ะ องค์หญิงกำลังรออยู่ทางนี้เจ้าค่ะ” นางกำนัลเห็นขบวนของซูเหยาเดินเข้ามาใกล้ก็ให้ดีใจ สังเกตนางกำนัลสองสามนางที่อยู่ด้านหลังซูเหยาคล้ายมาจากตำหนักคังโซ่ว รอยยิ้มของนางกำนัลกว้างขึ้นกว่าเดิม เดินเข้ามาต้อนรับซูเหยาอย่างกระตือรือร้นเห็นว่านางกำนัลอาสานำทาง ซูเหยาก็ไม่ตระหนี่โยนถุงเงินให้นางกำนัลอย่างใจดี นางชอบบ่าวรับใช้ที่รู้จักพูด เป็นงานเป็นการอย่างนี้ที่สุด คนยิ่งมากยิ่งคึกคัก ขบวนเปิดตัวยิ่งใหญ่อลังการ “ไปกันเถิด เวลาไม่เช้าแล้ว”องค์หญิงผิงอันกวาดตามองบรรดาหญิงสาวภายในอุทยานพลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย บ้างจับกลุ่มคุยกัน บ้างเงียบขรึม บ้างสงบเสงี่ยม บ้างกินของว่างดื่มด่ำกับมวลบุปผาขณะที่นางทนไม่ไหวกำลังจะเรียกนางกำนัลข้างกายให้ไปสอบถามข่าวคราว พลันได้ยินเสียงหัวเราะเฮฮาจากด้านนอกอุทยานดังแว่วเข้ามา จากนั้นไม่นานขบวนดาวล้อมเดือนพลันปรากฏอยู่ในสายตา ใบหน้าเฉื่อยชาพลันหลุดยิ้ม ส่งเสียงเรียกด้วยความตื่นเต้น “เหยาเหยา เจ้ามาแล้ว”“องค์หญิง ขออภัยที่มาช้าเพคะ ที่นี่ช่างครึกครื้นยิ่งนัก หากพลาดโอกาสไม่มา หม่อมฉันคงเสียใจไปอีกหลายวัน” ซูเหยายอบกายคำนับ องค์หญิงผิง
last updateLast Updated : 2025-10-14
Read more
006
“พอรู้ว่าเจ้าจัดงานเลี้ยงชมบุปผา อาหารรสเลิศต้องไม่ขาดเป็นแน่ ข้าจะไม่มาชิมได้อย่างไร” องค์ชายแปดพูดยิ้มๆ เดินตรงมาหาพวกนางโดยเพิกเฉยต่อสายตาหญิงงามทั้งหลายที่มองตามทุกฝีก้าว ซูเหยาคิดว่าในบรรดาโอรสของฮ่องเต้มีเพียงคังอ๋องและองค์ชายแปดที่ดูดีที่สุด แม้ว่าหน้าตาขององค์ชายแปดจะด้อยกว่าคังอ๋องหลายส่วน แต่เมื่อรวมเข้ากับท่วงท่างามสง่าราวกับเทพเซียนนี้แล้ว ก็ยังไม่แน่ว่าใครอยู่เหนือกว่าใคร ซูเหยารู้สึกถึงอุณภูมิในอุทยานแห่งนี้กำลังสูงขึ้นอีกเป็นเท่าตัวซูเหยาลุกขึ้นคำนับทั้งสอง “ถวายพระพรเสียนเฟยและองค์ชายแปดเจ้าค่ะ”“ร่างกายเจ้ายังไม่หายดี ไม่จำเป็นต้องมากพิธี” องค์ชายแปดพยักหน้าให้นาง รอยยิ้มบางเบาปรากฏขึ้นที่มุมปากราวกับสายลม จากนั้นหันไปประคองเสียนเฟยที่ยืนอยู่ข้างๆ“เด็กๆ จัดที่นั่งให้เสียนเฟยและองค์ชายแปดที” องค์หญิงผิงอันไม่ได้ให้ซูเหยาย้ายที่นั่งแต่อย่างใด เพียงจัดที่นั่งให้ทั้งสองนั่งข้างนางอีกฝั่งหนึ่งเท่านั้น เห็นได้ชัดเจนว่าระดับความสำคัญในใจของนาง ซูเหยามาเป็นอันดับหนึ่ง หากคนที่มาไม่ใช่เสด็จพ่อ เสด็จแม่หรือไทเฮา นางไม่มีทางสละที่นั่งของสหายรักให้แก่ผู้ใดแน่นอน“นอกจากอาหารที่
last updateLast Updated : 2025-10-14
Read more
007
ขณะที่ทางนี้พูดอย่างออกรสออกชาติ ทางด้านองค์หญิงผิงอันก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน บรรยากาศทั้งสองอย่างรวมอยู่ในที่เดียวกันชวนให้รู้สึกแปลกประหลาดยิ่งนัก มีเพียงซูเหยาที่วางตัวเองอยู่นอกวงสนทนาทั้งที่เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากนาง นางยังกินดื่มปกติ เสียดายที่กินไม่กี่คำก็ไม่รับรู้รสชาติเสียแล้ว สุดท้ายก็ยอมแพ้ วางตะเกียบลงแต่โดยดี“อาหารไม่ถูกปากหรือ เดี๋ยวข้าให้คนครัวไปทำมาให้ใหม่ดีหรือไม่” องค์หญิงผิงอันเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล นางจัดงานเลี้ยงเพื่อมาสังสรรค์กับสหาย กลับกลายเป็นว่าทำให้สหายกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกเสียเอง น่าตายนักสองคนนั้นต้องการล่มงานเลี้ยงของนางหรืออย่างไร ยิ่งคิดยิ่งไม่สบอารมณ์ซูเหยาส่ายหน้า โคลงศรีษะเล็กน้อย หันไปยิ้มอ่อนๆ ให้ทีหนึ่ง “ทานไปเยอะถึงเพียงนี้แล้วนะเพคะ หากพระองค์ทรงโปรดให้พวกเขายกเข้ามาอีก เห็นทีท้องน้อยๆของหม่อมฉันคงรับไว้ไม่หมดเป็นแน่”“ข้าว่าไม่ใช่กระมัง เจ้าคงไม่ได้เห็นพี่ห้าของข้าแล้วกินไม่ลงหรอกหรือ หากเป็นอย่างนั้นก็แย่หน่อย เขาไม่ได้ตั้งใจเจ้าเองก็อย่าได้ถือสา” องค์หญิงโซ่วคังพูดไปพลางยิ้มไปพลาง รอบด้านเงียบลงทันตา บรรยากาศกระอักกระอ่วนขึ้
last updateLast Updated : 2025-10-14
Read more
008
“มู่หรงไป๋อี้? ไม่เคยได้ยินมาก่อน” ดูท่าบุรุษรูปงามที่องค์หญิงผิงอันกล่าวถึงจะไม่ใช่คนเมืองหลวง แต่นางก็พอรู้จักตระกูลมู่หรงอยู่บ้าง ตระกูลพ่อค้าที่ร่ำรวยที่สุดในต้าเยว่ มีรกรากอยู่เขตทางใต้ กิจการร้านรวงเผยแพร่ทั่วราชอาณาจักร แม้ว่าไม่มีอำนาจในราชสำนัก ก็อย่าได้ดูถูกอำนาจเงินตรา บ่อยครั้งที่เงินทองพูดได้เสียงดังกว่า มีเงินมากเวลาทำอันใดก็กลายเป็นเรื่อง่ายดาย“ข้าเองก็ไม่เคยเห็นหรอก เพียงแค่ได้ยินคำเล่าลือ” สายตาองค์หญิงผิงอันดูเพ้อฝัน “แต่ข้าเคยเห็นภาพวาดของโหรวกุ้ยเฟยในห้องทรงพระอักษรของเสด็จพ่อ งดงามไม่แพ้ท่านน้าหรูซินเลยล่ะ”ซูเหยาไม่เคยเห็นคนตระกูลมู่หรง มีเพียงครั้งเดียวที่มารดาของนางพูดถึงโหรวกุ้ยเฟย พระนางเป็นบุตรีจากตระกูลมู่หรง มารดานางเคยกล่าวไว้ว่า เหนือมีฟาง ใต้มีมู่หรง อนิจจาคนงามมักอายุสั้น“สนใจหรือไม่ บุรุษที่รวยทั้งรูปโฉมและทรัพย์เช่นนี้ หาไม่ง่ายหรอกนะ หากข้าไม่เห็นเจ้าเป็นพี่น้อง เรื่องดีๆ อย่างนี้ให้ตายก็ไม่ยอมบอกหรอก” นางยิ้มกรุ้มกริ่ม กระทุ้งแขนซูเหยาเบาๆ“แล้วทำไมเจ้าไม่เก็บไว้เอง” ซูเหยาเหล่ตามองอย่างหมั่นใส้“ตำราคุณธรรมสตรีสอนไว้ว่า เมื่อเจอของดี ต้องเสียสละ
last updateLast Updated : 2025-10-14
Read more
009
อืม...จะเป็นอย่างไรหากวันหนึ่งบุรุษที่เป็นที่เลื่องรืออย่างมู่หรงไป๋อี้กับสหายรักของนางยืนคู่กัน ต้องเป็นภาพที่ราวกับไม่ใช่ความจริงเป็นแน่ สายตาของนางคงพร่าเลือนเพราะความงาม นางชักจะอยากเห็นขึ้นมาแล้วสิ ไปขอร้องเสด็จพ่อให้เชิญคุณชายมู่หรงมาเข้าเฝ้าดีหรือไม่นะอยู่ๆซูเหยาก็ขนลุกซู่ไปทั้งตัว มององค์หญิงผิงอันอย่างหวาดระแวง รอยยิ้มนั้นนางตระหนักดี องค์หญิงผู้นี้ต้องคิดอันใดแปลกประหลาดอีกแล้วเป็นแน่มือเรียวลูบแขนตนเองไปพลางพูดไปพลาง “เจ้าไม่รู้สึกว่าหรูเฟยเซียงน่าสนใจหรอกหรือ”สีหน้าครุ่นคิดจริงจังขององค์หญิงผิงอันช่างไม่เข้ากับความทะเล้นของนางเลยสักกะผีก “หากตัดเจ้าออกไป ก็จริงตามที่เจ้ากล่าว นางโดดเด่นไม่ใช่น้อย ดูเหมือนจะเข้าตาแม่ลูกเสียนเฟยเข้าซะแล้ว”“หึหึ เห็นทีพี่แปดของเจ้าอยากจะล่าเหยื่อขึ้นมาซะแล้วล่ะ” ในที่สุดศึกชิงบัลลังค์ของเหล่าองค์ชายกำลังจะเริ่มแล้วสินะ องค์ชายแปดที่กำลังจะได้รับตำแหน่งอ๋องเร็วๆนี้ ก็เริ่มมองหาพรรคพวกเช่นเดียวกัน องค์หญิงผิงอันรับจอกสุราจากนางกำนัลข้างกายขึ้นมาดื่มอีกจอก สีหน้าเบื่อหน่ายมีแววสนุกสนานขึ้นมาหลายส่วน สายตาซุกซนมองเหล่าพี่น้องอย่างมีเลศนัย “เ
last updateLast Updated : 2025-10-14
Read more
010
เสียงปรบมือดังขึ้นเมื่อซูม่านม่านก้าวสู่แท่นคัดอักษรทุกสายตาจับจ้องมาที่นางอย่างไม่กะพริบ อากัปกิริยาสง่างาม อ่อนหวานสมกับฐานะคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลซู สายตาทุกคู่จับจ้องอย่างไม่คลาดเคลื่อน บ้างก็ด้วยความชื่นชม บ้างด้วยความริษยาทุกสายตาต่างคาดหวังความงามของอักษรที่กำลังจะปรากฏ แต่ในหัวใจของซูเหยา ความรู้สึกเยือกเย็นอย่างประหลาด รู้ดีว่านี่คือโอกาสที่พี่สาวต่างมารดากำลังใช้เพื่อทำให้ตนเองเปล่งประกาย ภาพลักษณ์ของผู้เป็นเลิศสมบูรณ์แบบดั่งแม่บัวขาวจะถูกตอกย้ำอีกครั้งซูเหยาหยิบผลเชอร์รี่จากจานใกล้มือขึ้นกัดครึ่งหนึ่ง พร้อมยกยิ้มบาง แฝงไว้ด้วยความเย้ยหยัน นางกระซิบเบาๆ กับองค์หญิงผิงอันที่นั่งข้างกัน"นางช่างเป็นคนเสียสละยิ่งนัก ไม่ว่าจะเรื่องใดก็มัก 'ช่วย' ข้าทั้งนั้น"องค์หญิงผิงอันหลุดหัวเราะออกมา แต่รีบกลบเกลื่อนด้วยการยกพัดขึ้นมาปิดปาก “หากพูดถึงเสียสละแล้ว ข้าว่าวันนี้พี่สาวของเจ้าเหมาะจะเขียนตำราคุณธรรมสตรีเสียจริงๆ”ซูเหยาหันมามองเพื่อนสนิทด้วยสายตาประหลาดใจ ก่อนหัวเราะออกมาเบาๆ พลางตอบ"ถ้าเช่นนั้น เราคงต้องตั้งชื่อว่า ‘คู่มือเสียสละ...เพื่อความสำเร็จของข้า’ แทนกระมัง"เสียงหัวเราะ
last updateLast Updated : 2025-10-14
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status