Share

บทที่ 8 จัดการอนุ

last update Последнее обновление: 2025-04-05 19:57:18

บทที่ 8 จัดการอนุ

วันต่อมาฟางเมี่ยวตื่นสายไปเสียหน่อย เนื่องจากนางมัวแต่อ่านตำราจนถึงยามดึก ลู่ชิงที่เห็นว่านายตนตื่นแล้ว จึงเข้ามาปรนนิบัติล้างหน้า เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ฟางเมี่ยวจึงหันไปเอ่ยกับลู่ชิง

"ข้าจะไปกินอาหารเช้ากับท่านพ่อที่เรือนใหญ่"

"เอ่อ ปกติบ่าวเห็นว่าคุณหนูไม่ชอบกินอาหารร่วมกับผู้ใดนี่เจ้าคะ"

"ก็ตอนนี้ข้าชอบกินกับผู้อื่นแล้วอย่างไรเล่า เจ้าจะถามไปทำไมให้มากความกัน ปากเจ้านี่หัดเงียบบ้างจะได้หรือไม่!!!"

"บ่าวไม่กล้าเจ้าค่ะ"

ฟางเมี่ยวคร้านจะสนใจลู่ชิงอีก นางจึงมุ่งหน้าไปที่เรือนใหญ่ในทันที เมื่อมาถึงที่หน้าเรือนก็พบว่ามีเสียงหัวเราะหวานใสของสตรีหลายนางและเสียงหัวเราะของท่านพ่อดังแว่วมาจากในเรือนใหญ่

ฟางเมี่ยวยกยิ้มมุมปากคราหนึ่ง งานศพท่านแม่เพิ่งจะผ่านพ้นไปไม่นาน ท่านพ่อก็รื่นเริงเสียแล้ว

นางหันไปจ้องมองสาวใช้ที่เฝ้าหน้าประตูทางเข้าเป็นเชิงว่าห้ามส่งเสียง ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปด้านในทันที

"แหมๆๆๆ ท่านพ่อนี่ดูรื่นรมย์เสียจริงนะเจ้าคะ งานศพท่านแม่เพิ่งจะผ่านไปไม่นานเลยด้วยซ้ำ"

เสนาบดีฟางเหลียนสะดุ้งโหยงก่อนจะหันมามองฟางเมี่ยวคราหนึ่ง

บัดซบ!! บุตรสาวตัวดีของเขามาที่นี่ทำไมกัน ร้อยวันพันปีไม่เห็นนางจะมา!!

"ท่านพ่อ"

"เอ่อ เมี่ยวเอ๋อร์ลูกรัก เจ้ามาหาพ่อมีเรื่องใดหรือ?"

"การที่ลูกจะมาหาท่านพ่อ ต้องมีเรื่องด้วยหรือเจ้าคะ?"

"เอ่อ ไม่ๆ"

เขาเอ่ยก่อนจะหันไปส่งสายตาให้เหล่าอนุสามนางที่ปรนนิบัติเขากินอาหารให้สำรวมกิริยาเสีย

ให้ตายเถิด!! เขาสัญญากับฟางฮูหยินก่อนตายว่าจะไม่มีภรรยาใหม่ให้ฟางเจี๋ยและฟางเมี่ยวต้องได้รับความอยุติธรรม แต่ทว่าเขายังไม่แก่ เรื่องเช่นนี้ย่อมขาดไม่ได้!!

ฟางเมี่ยวปรายตามองอนุทั้งสามก่อนจะเอ่ย

"ข้าเคยบอกพวกเจ้าแล้ว ว่าห้ามเสนอหน้ามาที่เรือนของท่านแม่ข้า แม้ว่าท่านแม่จะตายจากไปแต่อย่างไรก็ยังได้ชื่อว่าเป็นฮูหยินใหญ่ของจวนนี้ หรือว่าพวกเจ้าคิดจะมาแทนที่ท่านแม่ของข้า หวังจะปรนนิบัติให้ท่านพ่อพอใจ แล้วคิดวางแผนตั้งครรภ์บุตรชายเพื่อมาแย่งสมบัติของข้ากับพี่ใหญ่!!!"

เหล่าอนุทั้งสามนางรีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน ใบหน้าของพวกนางซีดเผือดเป็นอย่างยิ่ง

เสนาบดีฟางเหลียนที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยปรามบุตรสาวตนทันที

"เมี่ยวเอ๋อร์ เหลวไหลไปกันใหญ่แล้ว!!!"

ฟางเมี่ยวไม่สนใจคำพูดของผู้เป็นบิดา นางหันไปเอ่ยถามแม่นมหลิ่วที่ยืนอยู่ทันที

"แม่นมหลิ่วรายงานเรื่องที่ท่านรู้ให้ข้าฟัง"

แม่นมหลิ่วก้าวเข้ามาตรงหน้า ก่อนจะเอ่ย

"หลายวันก่อน บ่าวเห็นว่าอนุไป๋แอบเทน้ำแกงคุมกำเนิดทิ้งเจ้าค่ะ"

"เจ้าพูดจาเหลวไหล!!!"

อนุไป๋รีบปฏิเสธทันที แต่ทว่าเมื่อเห็นสายตาเย็นชาที่มองมาของฟางเมี่ยวนางก็แทบจะร้องไห้แล้ว

ผู้ใดจะรู้ว่าสตรีที่วันๆ ไม่สนใจสิ่งใดแม้แต่มารดาตนเอง วันหนึ่งกลับลุกขึ้นมาหาเรื่องนาง!!!

"อนุไป๋ เจ้าเทน้ำแกงคุมกำเนิดทิ้งอย่างนั้นหรือ?"

"เอ่อ..."

"ลากนางไปโบยสิบไม้และขับออกจากจวน!!"

"เมี่ยวเอ๋อร์!!!"

"ท่านพ่อ เดิมทีท่านเคยรับปากว่าเรื่องในจวนนับจากนี้จะให้ลูกเป็นคนจัดการ ลูกก็จัดการมิให้พวกนางเหิมเกริม ลูกเป็นสตรีเห็นแก่ตัวท่านพ่อก็รู้ ลูกจะไม่ยอมให้พวกนางตั้งครรภ์ ลูกไม่อยากมีน้องสาวหรือว่าน้องชาย ลูกไม่แบ่งสมบัติให้ผู้ใดทั้งนั้นนอกจากพี่ใหญ่ และจะไม่ยอมให้พวกนางมากดหัวลูกเหมือนที่เคยทำกับท่านแม่อีก ลูกผิดหรือเจ้าคะ หรือว่าท่านพ่อรักอนุมากกว่าลูก ไม่อยากมีลูกเป็นบุตรสาวแล้ว!!!"

"เมี่ยวเอ๋อร์ ไม่ใช่!! เฮ้อ ลากนางไปโบยเสีย!!!"

"นายท่าน!! ฮืออ นายท่าน!!!"

เสนาบดีฟางเหลียนทำได้เพียงปล่อยไป เพราะเขาเองก็รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้มารดาของฟางเมี่ยวต้องตาย

"พวกเจ้าสองคน หากอยากชูคอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ก็อย่าคิดมาตีตนเสมอท่านแม่ของข้า!!"

ฟางเมี่ยวเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา อนุเหล่านี้ในชาติที่แล้วรังแกมารดาของนางจนล้มป่วย นางจำได้ไม่ลืม!

นับว่านางเมตตามากแล้ว นางไม่อยากมีน้องสาวหรือน้องชายที่เกิดจากอนุมาสร้างความรำคาญใจให้นางอีก!!

"เมี่ยวเอ๋อร์ ตกลงเจ้ามาหาพ่อด้วยเรื่องใดหรือ?"

ฟางเมี่ยวทิ้งกายนั่งลงที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะเอ่ย

"ลูกอยากมากินอาหารกับท่านพ่อเจ้าค่ะ นับแต่นี้เวลาอาหารเช้าและเย็นลูกจะมากินกับท่านพ่อทุกมื้อ"

เสนาบดีฟางเหลียนที่ได้ยินเช่นนั้นความไม่พอใจในคราแรกก็หายไปจนหมดสิ้น เขายิ้มให้ฟางเมี่ยวก่อนจะเอ่ย

"ได้สิ เมี่ยวเอ๋อร์ของพ่อเติบโตขึ้นมากแล้ว"

ฟางเมี่ยวยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย

"ข้าหิวแล้ว ลู่ชิงมาทำความสะอาดโต๊ะแล้วจัดสำรับมาให้ข้ากับท่านพ่อใหม่ ส่วนผู้ใดที่ไม่เกี่ยวก็ไสหัวไป อย่าเสนอหน้ามาทำให้ข้ารำคาญใจอีก"

เหล่าอนุทั้งสองรีบจากไปทันที แม้จะไม่พอใจเพียงใดแต่ก็ไม่กล้าปริปาก เสนาบดีฟางเหลียนรักใคร่บุตรสาวผู้นี้มาก พวกนางคงทำได้เพียงจำยอมแล้ว

หลังจากที่รับสำรับเก็บเรียบร้อยแล้ว เสนาบดีฟางเหลียนจึงหันมาเอ่ยกับฟางเมี่ยว

"นี่เมี่ยวเอ๋อร์ อีกสองวันจวนตระกูลหลี่จะจัดงานเลี้ยงที่จวน พ่อจะพาเจ้าไปร่วมด้วย"

ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อย

นางจำได้ว่าหลังจากที่หลี่เยี่ยนเฉินและบิดาของเขากลับมาที่ต้าอู๋ จวนตระกูลหลี่ก็จัดงานเลี้ยงที่หลี่เยี่ยนเฉินได้เลื่อนขั้นเป็นรองแม่ทัพ ผู้คนต่างไปร่วมงานอย่างครึกครื้น

ในงานเลี้ยงครั้งนี้เองที่หลี่เยี่ยนเฉินสารภาพรักกับนาง

"เมี่ยวเอ๋อร์ ข้าชอบเจ้า เจ้าจะยินดีหรือไม่หากว่าข้าจะไปสู่ขอเจ้าที่จวน"

"เช่นนั้นเจ้าก็ไปบอกกับท่านพ่อข้าเถิด ท่านพ่อว่าอย่างไรข้าก็ว่าตามนั้น"

นางยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน แต่ทว่าในใจกลับครุ่นคิด

ข้าจะใช้เจ้าเป็นสะพานเพื่อข้ามไปหาเย่จิ้นหยาง พอเจ้าหมดประโยชน์ข้าก็จะไม่สนใจเจ้าอีก แต่งงานอันใดกัน ข้าไม่แต่งกับคนเช่นเจ้าหรอก!!

นางเสแสร้งทำเป็นทำอาหารและขนมไปส่งให้หลี่เยี่ยนเฉิน เขาไม่เคยสงสัยในจุดประสงค์แอบแฝงของนางเลยแม้แต่น้อย นางเสแสร้งแกล้งทำดีกับเขาเพื่อหวังใช้เขาเป็นบันไดไต่ไปหาเย่จิ้นหยาง

เมื่อบรรลุวัตถุประสงค์นางก็ถีบหัวส่งเขาจริงๆ

"ไหนเจ้าบอกว่าจะแต่งงานกับข้า!!"

"ข้าเคยรับปากเจ้าเมื่อใดกัน?"

"ฟางเมี่ยว!! เจ้าบอกให้ข้าไปสู่ขอเจ้ากับท่านพ่อเจ้า"

"แต่ข้ามิได้รู้เรื่องด้วยนี่!!"

"ฟางเมี่ยว เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเจ็บปวดเพียงใด ข้ารักเจ้า เจ้าก็รู้!! เจ้าเป็นคนพูดเองว่าเจ้ายินดีที่จะแต่งกับข้า"

"แต่ข้าไม่เคยรักเจ้า แล้วข้าเคยพูดเมื่อใดว่ายินดีแต่งกับเจ้า ข้าเพียงให้เจ้าไปลองถามท่านพ่อดู เจ้าคิดไปเองทั้งนั้น ข้าไม่แต่ง หากเจ้าทุกข์ใจมาก ก็ไปตายเสียสิ!!"

ฟางเมี่ยวหลับตาลง ความรู้สึกผิดเอ่อท่วมท้นในจิตใจของนางอย่างไม่อาจหลีกพ้น

เขาทำเพื่อนางทุ่มเทเพื่อนางทุกอย่าง แต่สุดท้ายนางกลับเห็นเขาเป็นเพียงบันไดปูทางตอบสนองความต้องการในใจของตนเอง

นางยังจำใบหน้าที่ดีใจอย่างลิงโลดของเขายามที่นางบอกว่าให้เขาไปสู่ขอนางกับบิดาของนางได้ไม่ลืม

รอยยิ้มที่บริสุทธิ์และอ่อนโยนเช่นนั้น ไม่ได้ทำให้ความเลวร้ายและมืดบอดในจิตใจของนางมลายหายไปได้เลยแม้แต่น้อย

สมควรแล้วที่นางต้องพบกับจุดจบเช่นนั้น!!

นางไม่รู้ว่าชาติก่อนเขาตายเช่นไร หลังจากปล่อยนางตกหน้าผาตายไปแล้ว เขาก็คงจะแต่งงานใหม่กับสตรีที่ดีพร้อมและมีบุตรหลานเต็มจวนสินะ

หลี่เยี่ยนเฉิน ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้วจริงๆ!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Комментарии (1)
goodnovel comment avatar
พัชรา ไชยสอน
ขอบคุณที่ให่อ่านฟรีมาจนบทนี้แล้วนิยายดีน่าอ่าน
ПРОСМОТР ВСЕХ КОММЕНТАРИЕВ

Latest chapter

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง1-4

    หลายเดือนต่อมา เจียงซูซูมาส่งใบลาให้เสิ่นจื่อหลาง บอกเพียงว่านางต้องติดตามท่านพ่อท่านแม่ไปจัดการธุระที่บ้านเดิมซึ่งอยู่นอกเมืองหลวงเสิ่นจื่อหลางให้นางลาสามวัน และบอกให้นางรีบกลับระหว่างทางที่มุ่งหน้ากลับบ้านเดิมนั้นไม่มีปัญหา จนกระทั่งยามที่นางและครอบครัวกำลังจะเดินทางกลับ กลับมีโจรบุกเข้ามาปล้นชิงครอบครัวของนาง พวกมันจับตัวพวกนางเอาไว้ เจียงซูซูหวาดกลัวไม่น้อย แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีเอาไว้นางไม่รู้ว่าพวกมันจับตัวนางมาไว้ที่ใด ได้ยินเพียงพวกมันบอกว่าจะสังหารท่านพ่อท่านแม่ของนางและส่งนางไปขายที่หอนางโลมเจียงซูซูพลันนึกถึงเสิ่นจื่อหลางขึ้นมา จู่ๆ ขอบตาของนางก็ร้อนผ่าว เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่านางกับเขาชาตินี้อาจะไม่ได้เจอนางอีก นางสัญญากับเขาเอาไว้แล้วว่าจะกลับไปอยู่เคียงข้างเขาเขาเป็นถึงฮ่องเต้ผู้สูงส่งแต่นางเป็นเพียงขุนนางหญิงต่ำต้อย กลับอาจหาญที่จะไปหลงรักเขาภายใต้ใบหน้าที่แสนเย็นชาของเขามันซ่อนความอบอุ่นเอาไว้ เขาไม่เคยตำหนินาง ไม่เคยลงโทษนาง อีกทั้งยังไม่ถือตัวกับนาง นางชอบทุกอย่างที่เป็นเขา รักทุกอย่างของเขาจู่ๆ เจียงซูซูที่เข้มแข็ง น้อยครั้งนักที่นางจะร้องไห้ แต่ทว่ายามนี้นางกลับ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-3

    วันเวลาเช่นนี้ผ่านไปวันแล้ววันเล่าเดือนแล้วเดือนเล่าจนล่วงมาเป็นปี เขาไม่ทันรู้ตัวว่าเปิดรับนางเข้ามาในใจตั้งแต่ยามใด รู้ตัวอีกคราสายตาของเขาก็เอาแต่มองหานางเสียแล้ว“ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่กำลังนั่งอ่านตำราพลันเงยหน้าขึ้นไปมองโจวกุ้ยเฟยที่กำลังเดินเข้ามาโจวกุ้ยเฟย นามเดิม โจวเย่หลัน นางเป็นหลานสาวของนายท่านโจว เป็นทายาทที่เกิดจากบุตรชายเพียงคนเดียวของโจวชิงเหยา บุตรชายของนายท่านโจวเขารับนางเข้ามาเป็นสนมได้ร่วมสองปีแล้ว นิสัยของนางค่อนข้างอ่อนหวาน เอาอกเอาใจ และมีเมตตาแต่ทว่าเขารู้ดีว่านี่คือเปลือกนอกที่นางแสดงให้เขาดูเพียงเท่านั้นสตรีวังหลังมีผู้ใดบ้างไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ หากไม่สนอำนาจเช่นนั้นจะเข้าวังหลวงมาทำไมกัน ไปบวชชีคงเหมาะเสียกว่า!!“โจวกุ้ยเฟย เจ้ามาหาข้ามีเรื่องใดหรือ?”โจวกุ้ยเฟยฉีกยิ้มอ่อนหวาน ก่อนจะเอ่ย“ทูลฝ่าบาท วันนี้หม่อมฉันคิดค้นสูตรอาหารขึ้นมาใหม่ จึงอยากมาชวนพระองค์ไปลองชิมที่ตำหนักเพคะ”“อืม ไว้มีเวลาข้าจะไป”“ฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่ได้ยินว่าโจวกุ้ยเฟยเอาแต่เรียกเขา ก็เงยหน้าไปมองนางด้วยแววตาที่เย็นชาจนนางลนลานหวาดกลัวไม่น้อย“เอ่อ หม่อมฉันขอทูล

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-2

    วังหลวงท้องพระโรงยามนี้เจียงซูซูอยากจะมุดแผ่นดินหนีหรือไม่ก็แทรกตัวเข้าไปหลบในเสาต้นใดต้นหนึ่งยิ่งนักบุรุษที่นางยืนด่าฉอดๆ เมื่อไม่นานมานี้ แท้จริงเขาคือฮ่องเต้ของต้าอู๋พระนามเสิ่นจื่อหลางเจียงซูซูเบะปากทำท่าคล้ายคนจะร้องไห้ เห็นทีตำแหน่งขุนนางหญิงที่นางใฝ่ฝันคงจะจบเห่แล้ว!!!เสิ่นจื่อหลางปรายตามองเจียงซูซูคราหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองสตรีอีกสองนางที่สอบได้ลำดับรองลงไป สตรีที่ได้อันดับสองมาจากจวนตระกูลหาน ได้ยินว่านางเก่งกาจด้านการใช้อาวุธ เขาจึงมอบตำแหน่งองค์รักษ์หญิงให้แก่นาง ส่วนสตรีอีกนางมาจากจวนตระกูลสวี ได้ยินว่านางรอบรู้ อีกทั้งยังช่างสังเกต เขาจึงให้นางไปเรียนรู้การทำงานที่ศาลต้าหลี่ ดูว่านางมีความสามารถเหมาะกับตำแหน่งใดในศาลต้าหลี่แล้วค่อยมอบตำแหน่งนั้นให้นางส่วนผู้ที่สอบได้อันดับหนึ่ง เขาตั้งใจที่จะให้นางทำงานอยู่ข้างกายเขา เขาไปที่ใดนางต้องไปตามคอยเป็นหูเป็นตาแทนเขา สามารถเป็นตัวแทนเขาในการทำงานต่างๆ ได้ สตรีมักจะทำงานรอบคอบและละเอียดมากกว่าบุรุษสตรีน้อยสองนางออกไปแล้ว ยามนี้เหลือเพียงเจียงซูซู เสิ่นจื่อหลางโบกมือให้คนอื่นๆ ออกไป ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหานาง เจียงซูซูที่เห็นเช

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ เสิ่นจื่อหลาง 1-1

    (เรื่องราวเกิดขึ้นหลังขึ้นครองราชย์6ปี)“ฝ่าบาท จะออกไปจริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ”ขันทีคนสนิทเอ่ยถามเสิ่นจื่อหลางอย่างร้อนรน ได้ยินว่าวันนี้ฝ่าบาทจะออกไปชิมอาหารที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์อีกแล้ว“ไม่ต้องตามข้า ข้าเพียงไปพบสหายเท่านั้น”เขาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะปลอมตัวเป็นองค์รักษ์เสื้อแพรออกไปที่นอกวังหลวงยามนี้อาอวี้รั้งตำแหน่งผู้บัญชาการองค์รักษ์เสื้อแพร อีกทั้งยังตงฉิน ทำงานอุทิศตนเพื่อบ้านเมือง มันทำให้เขามองเห็นตนเองเมื่อสมัยก่อนปีนี้เขามีอายุยี่สิบเจ็ดปีแล้ว ครองราชย์มาก็หลายปี แต่ทว่ายังคงไม่มีทายาทสืบทอดวันนี้เขามีนัดกับฟางเมี่ยวที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์ นางบอกมีสูตรอาหารแปลกใหม่อยากให้เขาได้ลิ้มลองเมื่อมาถึงเขาก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉิน น่าแปลกที่ยามนี้เขากับหลี่เยี่ยนเฉินกลายเป้นสหายสนิทกันไปเสียแล้ว“อาจื่อ เจ้าว่างมากหรือ จึงนัดพวกข้ามาพบ”“แน่นอนสิ ข้าไม่มีสิ่งใดทำ”“เหอะ”“เหอะอันใด รีบสั่งอาหารมาสิ แล้วนี่เมี่ยวเมี่ยวเล่า นางไปที่ใด?”“มาถึงก็เรียกหาภรรยาผู้อื่นเช่นนี้ใช้ได้หรือ กลับไปหาสนมเจ้าสิ!!!”“เจ้าหึงหวงหรือ ช่วยไม่ได้ เมี่ยวเมี่ยวสนิทกับข้านี่เจ้าก็รู้”“อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าทุบ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ หลี่เยี่ยนเฉินและฟางเมี่ยว

    เขาจำได้ดีว่าในปีนั้นเป็นช่วงฤดูร้อน ฮ่องเต้เย่หมิงหล่างมีรับสั่งให้เหล่าขุนนางตามออกไปล่าสัตว์อีกครา หลังจากที่เกิดเหตุการณ์น่ากลัวที่เหล่านักฆ่าลอบสังหาร ก็มีการเพิ่มกำลังการคุ้มกันแน่นหนาขึ้น“วันนี้พี่เยี่ยนช่างรูปงามยิ่งนัก”หลี่เยี่ยนเฉินปรายตามองฟางเมี่ยวคราหนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี นางตามมาเกี้ยวพาเขาอีกแล้วฟางเมี่ยวจ้องมองหลี่เยี่ยนเฉินด้วยท่าทีหยอกเย้า ไม่ได้ใส่ใจท่าทีที่เอือมระอาของเขาเลยแม้แต่น้อย“พี่เยี่ยน”“หยุดเรียกข้าสักที”เขารีบควบม้าหนีนางไปทันที ฟางเมี่ยวไม่ยอมลดละรีบควบม้าตามเขาไปอย่างรวดเร็วแต่ทว่าม้าของนางกลับพยศ มันวิ่งเข้าป่าไม่หยุดจนเกือบจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ หลี่เยี่ยนเฉินตื่นตระหนกยิ่ง รีบกระโดดเข้ามาคว้าตัวนางลงจากหลังม้า ก่อนที่คนทั้งสองจะกลิ้งตกลงเขาไปด้วยกันฮ่องเต้เย่หมิงหล่างสั่งให้คนออกตามหาพวกเขาทั้งสองคนแต่กลับไม่พบฟางเมี่ยวขยับกายเล็กน้อย นางรู้สึกปวดไปทั้งตัว แต่ว่าเมื่อได้มองเห็นหลี่เยี่ยนเฉินที่นอนสลบอยู่ ก็ตกใจไม่น้อย บนหน้าผากของเขามีเลือดไหลซึมออกมา คาดว่าอาจจะถูกกิ่งไม้แหลมขูดหน้าผาก ฟางเมี่ยวรีบใช้ผ้าสะอาดที่นางนำติดมาด้วยซับเลือดให้เขา

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 56 บทสรุป

    รัชศกจื่อหลางปีที่ 1ยามนี้เสิ่นจื่อหลางขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้หนึ่งปีแล้ว นับแต่ที่เขาขึ้นครองราชย์นั้นนับว่าเป็นช่วงที่รุ่งเรืองไม่น้อย แคว้นต่างๆ ยอมศิโรราบ แคว้นใดคิดเป็นกบฏจะถูกสังหารอย่างไม่ละเว้น ผู้ทำผิดถูกลงโทษไม่เว้นว่าจะเกิดในตระกูลใด เด็กๆ ที่ยากจนได้มีสถานที่เรียน ซึ่งทางราชสำนักเป็นคนต่อตั้งขึ้นสำหรับครอบครัวที่ยากจนสามปีต่อมาอาอวี้ที่มีอายุจะครบสิบห้าปีแล้วสามารถสอบเป็นจอหงวนได้สำเร็จ หลังจากนั้นอีกหลายปี เพราะความสามารถของเขาที่เก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๊ จึงได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ทำงานรับใช้ฝ่าบาทอย่างใกล้ชิดฟางเจี๋ยพี่ชายของนางได้รับตำแหน่งเสนาบดีกรมกลาโหม ส่วนท่านพ่อนั้นก็ออกมาพักผ่อนและเลี้ยงลูกๆ ของฟางเจี๋ยและหลิวจืออยู่ที่จวนส่วนหลี่เยี่ยนเฉินนั้นยามนี้สงครามสงบ ไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำ เขาจึงติดตามภรรยาไปค้าขายต่างแคว้นอย่างมีความสุข ทั้งคู่ยังไม่มีบุตรจนหลี่ฮูหยินร้อนใจ สั่งให้ฟางเมี่ยวห้ามออกจากจวนไปทำงาน อยู่ทำลูกกับหลี่เยี่ยนเฉินทุกวันยามที่มีเวลาว่าง ฟางเมี่ยวมักจะไปที่หลุมศพของจางเสวี่ยฮุ่ย บอกเรื่องราวความเป็นไปในแต่ละช่วงเวลาให้นางฟังฟางเมี่ยวเชื

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status