ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี

ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี

last updateLast Updated : 2025-04-07
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
61Chapters
116views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ฟางเมี่ยว : นางเคยได้ชื่อว่าเป็นสตรีที่แสนจะร้ายกาจ ติดสุรา ติดการพนัน หลงผิดจนตัวตาย หลี่เยี่ยนเฉิน : เขาคือบุรุษที่รักนางที่สุด ยอมทุกอย่าง แต่ฟางเมี่ยวกลับใช้เขาเป็นเครื่องมือเพื่อไปหาบุรุษอีกผู้หนึ่ง เย่จิ้นหยาง : เขาคือท่านอ๋องรูปงาม เก่งการรบ ฟางเมี่ยวหลงรักเขาจนหมดใจ แต่ใจเขาไม่เคยมีนาง จางเสวี่ยฮุ่ย : สตรีที่เย่จิ้นหยางรักพียงคนเดียวเท่านั้น ชาติแล้วนางหลงผิด รักบุรุษที่ไม่เคยมีใจให้นาง จนสุดท้ายนางต้องพบกับจุดจบที่น่าอนาถ แต่สวรรค์กลับเมตตาให้นางได้ใช้ชีวิตใหม่อีกครา ชาตินี้นางจะไม่ยอมเดินซ้ำรอยเดิมอีก นางจะต้องมีชีวิตที่ดี และมีชีวิตเพื่อบุรุษที่นางเคยผลักไส แต่ทว่าเขากลับไม่ใส่ใจนางทั้งที่เคยรักนางอย่างลึกซึ้ง ปฏิบัติการณ์เกี้ยวท่านรองแม่ทัพมาเป็นสามีจึงเริ่มต้นขึ้น

View More

Chapter 1

บทที่ 1 ฟางเมี่ยวสตรีนิสัยเสีย

บทที่ 1 ฟางเมี่ยวสตรีนิสัยเสีย

"ไม่เจ้าค่ะ!! ลูกจะแต่งเข้าจวนอ๋องให้ได้ ต่อให้ต้องเป็นชายารองลูกก็จะแต่ง ท่านพ่ออย่ามาห้ามลูกเสียให้ยาก!!!"

ฟางเมี่ยวจ้องมองผู้เป็นบิดาพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดื้อรั้น ไม่ยินยอม จนผู้เป็นบิดาถึงกับถอนหายใจออกมา

เขามีนามว่าฟางเหลียน มีบุตรชายนามว่าฟางเจี๋ยและบุตรสาวนามว่าฟางเมี่ยว มารดาของบุตรทั้งสองตายจากไปตั้งแต่ฟางเมี่ยวอายุได้สิบสี่ปี ส่วนบุตรชายยามนี้นั้นอายุได้ยี่สิบปีแล้ว เพราะความรักบุตรทั้งสองเขาจึงไม่แต่งภรรยาใหม่อีก มีเพียงอนุในจวนสองสามคนที่ไม่กล้ามีปากมีเสียงใดๆ ทั้งสิ้นเพียงเท่านั้น

เขาเป็นถึงเสนาบดีกรมกลาโหม มีหน้ามีตาในบรรดาชนชั้นสูง คอยตรวจสอบเสบียงอาหารในกองทัพ ดูแลเรื่องเบี้ยเลี้ยงของกองทัพ ดูแลยุทโธปกรณ์ ปัจจัยต่างๆ ในกองทัพ อีกทั้งยังมีสหายสนิทเป็นถึงแม่ทัพใหญ่อีกด้วย เดิมทีเขาคิดจะให้ฟางเมี่ยวที่ยามนี้อายุสิบห้าปีแล้วแต่งงานกับหลี่เยี่ยนเฉินบุตรชายของสหายรักที่รั้งตำแหน่งรองแม่ทัพอนาคตไกล

แต่ทว่าบุตรสาวตัวดีของเขากลับไปถูกตาต้องใจ เย่จิ้นหยาง ชินอ๋องหนุ่มรูปงาม ผู้เป็นหลานชายของฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าอู๋ บิดาของเย่จิ้นหยางเป็นน้องชายร่วมมารดาเดียวกับฮ่องเต้เย่หมิงหล่าง

แต่ทว่าโชคร้ายสองปีก่อนกลับล้มป่วยจนจากไป เหลือไว้เพียงบุตรชายเพียงคนเดียวคือเย่จิ้นหยาง โชคร้ายซ้ำซ้อนมารดาของเย่จิ้นหยางก็มาตรอมใจตายตามสามีไปอีกคน ฮ่องเต้เย่หมิงหล่างสงสารหลานชายจึงแต่งตั้งให้เย่จิ้นหยางเป็นชินอ๋องต่อจากบิดาของตน เพราะอย่างไรเสียตำแหน่งนี้ย่อมสืบทอดได้ไม่ผิด เดิมทียามที่บิดายังมีชีวิตอยู่ เย่จิ้นหยางก็มีตำแหน่งซื่อจื่ออยู่แล้ว ฮ่องเต้เองก็เอ็นดูหลานชายผู้นี้ไม่น้อย เย่จิ้นหยางเองก็รู้ความ ซื่อสัตย์ ภักดี เป็นอย่างมาก

เขาคงจะสนับสนุนหากว่าท่านอ๋องผู้นั้นมีใจชอบพอฟางเมี่ยวเช่นเดียวกัน แต่ทว่าเย่จิ้นหยาง กลับแต่งงานกับจางเสวี่ยฮุ่ยบุตรสาวจวนราชครูไปเสียแล้ว มิได้ชายตามองฟางเมี่ยวบุตรสาวของเขาเลยแม้แต่น้อย

ไม่กี่วันก่อนในวังหลวงจัดงานเลี้ยงขึ้น ฟางเมี่ยวก็ทำงามหน้า นางหลอกล่อเย่จิ้นหยางให้ไปหาที่ท้ายวังหลวง ก่อนจะเปลื้องผ้าให้เย่จิ้นหยางดู และให้สาวใช้นางไปตามเหล่านางกำนัลขันทีมา สร้างเรื่องว่าเย่จิ้นหยางลวนลามนาง ท้ายที่สุดฮ่องเต้ทรงพิโรธ จึงมีรับสั่งให้เย่จิ้นหยางรับนางเป็นพระชายารองเสีย

เรื่องงามหน้าเช่นนี้เขาอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี

สองวันก่อน เย่จิ้นหยางส่งคนนำตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึงกับทองคำอีกสิบหีบมาส่งที่จวน บอกว่าให้ฟางเมี่ยวเกล้ามวยผมออกบวชเสีย อย่าได้คิดจะแต่งเข้าจวนอ๋องของเขาเด็ดขาด แต่มีหรือที่ฟางเมี่ยวจะยินยอม เขาจึงต้องทุกข์ใจเช่นนี้

เมื่อมองบุตรสาวที่ยามนี้มีใบหน้าขุ่นเคืองราวกับจะฆ่าคน เขาก็ทุกข์ใจยิ่งนัก

"เมี่ยวเอ๋อร์ แต่ท่านอ๋องไม่ได้รักเจ้า ดูสิ เขาส่งของมามอบให้ แลกกับการให้เจ้ายอมล้มเลิกการเป็นชายารองเสีย!"

ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นก็กำมือแน่น พลางนึกถึงใบหน้าสวยหวานของจางเสวี่ยฮุ่ย ที่ทำท่าทีอ่อนแอ ราวกับต้องลมก็จะปลิวเสียอย่างนั้น นางเกลียดยิ่งนัก สตรีเช่นนั้นมีอันใดดีกัน เย่จิ้นหยางจึงไปหลงรักนาง!!

นางไม่ดีที่ตรงใดกัน นางงามกว่า อีกทั้งยังร่ำรวยไม่น้อย เหตุใดเขาจึงไม่เลือกนาง!!!

"ลูกไม่ยอม!! ลูกจะต้องเข้าจวนอ๋องให้ได้ ท่านพ่อ ท่านต้องกราบทูลฝ่าบาทนะเจ้าคะ ท่านพ่อไปคุกเข่าหน้าพระตำหนักสิเจ้าคะ ท่านพ่อ!!"

"เหลวไหล!!!"

"อ๊าาา!! ท่านพ่อไม่รักลูก!! ท่านพ่อไม่รักลูก"

ฟางเมี่ยวขว้างปาสิ่งของลงไปบนพื้นจนแตกละเอียด ดวงตาคู่งามแดงก่ำ ฉายแววอำมหิตจนเหล่าสาวใช้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันก้มหน้างุด แม้แต่จะหายใจก็ยังไม่กล้า

ฟางเหลียนอับจนหนทาง ท้ายที่สุดเขาจึงให้คนส่งของกลับไปที่จวนอ๋องเสีย เย่จิ้นหยางที่ได้เห็นเช่นนั้นก็นึกเกลียดชังสองพ่อลูกเจ้าแผนการยิ่งนัก เสด็จอาก็ทรงตำหนิเขาจนเขาหมดหนทางจะอธิบาย ท้ายที่สุดเขาก็จำต้องรับฟางเมี่ยวเข้าจวนมาในฐานะชายารอง

เรือนใหญ่จวนชินอ๋อง

"พระชายาเพคะ สตรีหน้าไม่อายนางนั้นเข้าจวนมาแล้วเพคะ!!"

"จะเสียงดังไปทำไมกัน?"

"พระชายา!!"

จางเสวี่ยฮุ่ยที่ในยามนี้กำลังนั่งปักผ้าเช็ดหน้าอยู่ในเรือนใหญ่ด้วยท่าทีที่เรียบเฉย ไม่ได้แสดงท่าทางตกใจที่รู้ว่าฟางเมี่ยวเข้าจวนอ๋องมาเลยแม้แต่น้อย

นางรู้ดีว่าในใจของเย่จิ้นหยางมีเพียงนาง และนางก็ไม่อยากจะทะเลาะกับฟางเมี่ยว ทำให้เกิดปัญหาจนเย่จิ้นหยางต้องไม่สบายใจ

แต่ไหนแต่ไรร่างกายของนางอ่อนแอมาแต่กำเนิด ล้มป่วยโดยง่าย แต่เย่จิ้นหยางก็ดูแลนางเป็นอย่างดี เขาทะนุถนอมนางราวกับไข่มุกในฝ่ามือ

ท่านแม่เคยสอนนางเอาไว้ การกุมใจสามีเอาไว้ได้ ต่อให้จะมีอีกสิบชายาหรือห้าอนุ ก็ไม่อาจมาแย่งตำแหน่งพระชายาเอกไปจากนางได้

เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางจึงวางผ้าเช็ดหน้าในมือลง ก่อนจะหันไปเอ่ยกับหลิงหลิง สาวใช้คนสนิทของนาง

"ข้าจะไปดูเสียหน่อย"

"แต่พระชายา..."

"หลิงหลิง ข้าเป็นพระชายาเอก ส่วนนางเป็นเพียงชายารอง ที่ข้าออกไปไม่ใช่เพราะข้าเกรงกลัวนาง แต่มันเป็นหน้าที่ ที่ภรรยาเอกเช่นข้าพึงกระทำ ไปเถิด อย่าให้บ่าวไพร่มานินทาข้าได้"

"เพคะ"

จางเสวี่ยฮุ่ยไม่รอช้า นางรีบเดินออกมาจากเรือนใหญ่ในทันที ก่อนจะพบกับสตรีน้อยนางหนึ่งที่สวมชุดสีชมพูปักลายดอกเหมย แต่งหน้าทาชาดค่อนข้างหนาจัด ในมือถือพัดโบกไปมา กำลังเดินเข้ามาในจวนอ๋อง

เป็นฟางเมี่ยว!!!

ฟางเมี่ยวยกยิ้มมุมปาก พลางพิจารณาจางเสวี่ยฮุ่ยเช่นเดียวกัน นางเบ้ปากเล็กน้อย สตรีแต่งกายจืดชืดผู้นี้ยิ่งเห็นก็ยิ่งรำคาญสายตา อยากจะเดินเข้าไปตบให้ใบหน้าซีดขาวเป็นรอยฝ่ามือเสียจริง!!!

"น้องสาวมาถึงแล้วหรือ?"

จางเสวี่ยฮุ่ยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะครุ่นคิดในใจ

ผู้ใดนับญาติกับเจ้ากันนังผีหน้าขาว!!!

แม้ในใจจะด่าทอ แต่ทว่าใบหน้ากลับมีรอยยิ้มเจิดจ้า

"เจ้าค่ะ รู้สึกเหนื่อยล้าไม่น้อย ต้องขนสินเดิมมาด้วยมากมายนัก อืม ช่วยไม่ได้นะเจ้าคะ ข้าเกิดมาบนกองเงินกองทอง สมบัติจึงมากหน่อย"

ฟางเมี่ยวจีบปากจีบคอพูด สร้างความหมั่นไส้ให้ผู้ที่ได้พบเห็นไม่น้อย

แต่สำหรับจางเสวี่ยฮุ่ยนางกลับคิดต่าง

มีหรือที่นางจะไม่รู้ว่าฟางเมี่ยวเอาความร่ำรวยโอ่อ่านี่มาข่มขู่นาง นางรู้ดีว่าถึงแม้นางจะเป็นบุตรสาวภรรยาเอกจวนราชครู ท่านปู่เป็นถึงท่านอาจารย์ที่ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันทรงให้ความสำคัญ เนื่องจากก่อนขึ้นครองราชย์ราชครูจางได้ช่วยเหลือ ร่วมกันต่อต้านขุนนางฉ้อฉลในรัชสมัยก่อนได้สำเร็จ คอยชี้แนะและให้คำปรึกษา เป็นกำลังสำคัญของฮ่องเต้ อีกทั้งยามนี้ยังเป็นท่านอาจารย์ขององค์รัชทายาทในรัชสมัยนี้อีกด้วย

ท่านพ่อของนางก็เป็นคนเก่งมีความสามารถความรู้กว้างขวาง เขาสอบได้เป็นจอหงวนจนฝ่าบาทมอบตำแหน่งอาจารย์ในสำนักศึกษาหลวงให้ อนาคตอาจจะได้รั้งตำแหน่งราชครูเช่นเดียวกับท่านปู่ก็เป็นได้ เดิมทีท่านพ่อก็ปฏิบัติต่อท่านแม่และนางเป็นอย่างดี แต่หลังท่านย่าตายจากไป ท่านพ่อก็เหิมเกริม หลงใหลอนุไม่สนใจนางและท่านแม่อีก ท่านปู่ก็ไม่สนใจเห็นว่าเป็นเรื่องทั่วไปของบุรุษ อนุจึงไม่เห็นหัวท่านแม่นาง เงินทองนางก็มีไม่มาก จะใช้จ่ายแต่ละครั้งย่อมยากลำบาก จนกระทั่งได้แต่งกับเย่จิ้นหยาง ท่านแม่นางจึงสุขสบายขึ้นมาได้บ้าง เพราะว่าท่านพ่อเห็นแก่หน้าเย่จิ้นหยาง

คนที่ผ่านความยากลำบากและมั่งมีมาเช่นนาง ย่อมไม่ใส่ใจกับสมบัติจอมปลอมเหล่านี้

"ลำบากน้องสาวแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็รีบไปพักเถิด"

"ท่านอ๋องเล่า ตั้งแต่ข้ามายังไม่เห็นท่านอ๋องเลย?"

ฟางเมี่ยวเอ่ยถามจางเสวี่ยฮุ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา จางเสวี่ยฮุ่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย เดิมทีนางพอจะทราบถึงความร้ายกาจของฟางเมี่ยวมาไม่น้อย แต่ไม่คิดว่านอกจากจะนิสัยเสียแล้วยังจะไร้มารยาทถึงเพียงนี้

"ท่านอ๋องยังไม่กลับจากประชุมยามเช้า"

"จะกลับมาเมื่อใด?"

"ข้าเองก็ไม่อาจทราบได้?"

"หึ!! หรือว่าเจ้าทราบ แต่ไม่ยอมบอกข้ากันแน่!"

หลิงหลิงที่เห็นว่านายตนถูกหยามเกียรติก็ทนไม่ไหว ไม่สนกฎระเบียบใดอีก

"พระชายารอง ทรงถามเช่นนี้เท่ากับไม่เคารพพระชายาเอกเลยนะเพคะ"

"หลิงหลิง!!! เจ้าหยุดนะ นางเป็นนายส่วนเจ้าเป็นบ่าว!!"

จางเสวี่ยฮุ่ยหันไปตำหนิหลิงหลิงคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยกับฟางเมี่ยว

"สาวใช้ข้าไม่รู้ความ ขายหน้าเจ้าแล้ว"

"เจ้านายเป็นเช่นไร บ่าวย่อมเป็นเช่นนั้น"

จางเสวี่ยฮุ่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็เพียงยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย

"ข้ายังมีเรื่องให้ต้องสะสาง เจ้าก็ไปพักที่เรือนของเจ้าเถอะ"

"ฝากบอกท่านอ๋องด้วย ว่าข้าจะรอเขาอยู่ที่ห้องนอน"

ฟางเมี่ยวเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินบิดสะโพกจากไปโดยไม่มีความเคารพต่อจางเสวี่ยฮุ่ยเลยแม้แต่น้อย

"พระชายาเพคะ!! นาง..."

"วันนี้เจ้าจงอดข้าวเย็นหนึ่งมื้อ สำนึกผิดที่ไม่รู้กฎระเบียบ"

"เพคะพระชายา"

ด้านฟางเมี่ยวที่มาถึงเรือนของตน ก็ถึงกับกำมือแน่น เรือนของนางไม่ได้กว้างขวางเช่นเรือนใหญ่ที่จางเสวี่ยฮุ่ยอยู่เลยแม้แต่น้อย นางทิ้งกายลงนั่งอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะหันไปมอง ลู่ชิง สาวใช้ที่ติดตามนางมาจากจวนตระกูลฟางคราหนึ่ง

ลู่ชิงยิ้มตาหยี พลางเข้ามาบีบนวดประจบเอาใจนายตน

"คุณหนู เอ่อ...พระชายารอง อย่าโมโหไปเลยเพคะ"

“ได้ ข้าจะไม่โมโห"

ฟางเมี่ยวส่งยิ้มเย็นให้ลู่ชิง ก่อนจะยกเท้าถีบเข้าไปที่กลางอกของสาวใช้คนสนิทอย่างเต็มแรง

"ฮือ พระชายา!!"

"บัดซบ!! เรือนเล็กกว่าจวนข้าด้วยซ้ำ!!! คอยดูเถอะ ข้าจะต้องเข้าไปอยู่ที่เรือนใหญ่แทนที่นังจางเสวี่ยฮุ่ยให้จงได้!!!"

พูดจบก็ง้างฝ่ามือตบเข้าไปที่ใบหน้าของลู่ชิงเพื่อระบายอารมณ์อีกคำรบหนึ่ง ก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นดื่มเพื่อคลายโทสะ

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

Comments

No Comments
61 Chapters
บทที่ 1 ฟางเมี่ยวสตรีนิสัยเสีย
บทที่ 1 ฟางเมี่ยวสตรีนิสัยเสีย"ไม่เจ้าค่ะ!! ลูกจะแต่งเข้าจวนอ๋องให้ได้ ต่อให้ต้องเป็นชายารองลูกก็จะแต่ง ท่านพ่ออย่ามาห้ามลูกเสียให้ยาก!!!"ฟางเมี่ยวจ้องมองผู้เป็นบิดาพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดื้อรั้น ไม่ยินยอม จนผู้เป็นบิดาถึงกับถอนหายใจออกมาเขามีนามว่าฟางเหลียน มีบุตรชายนามว่าฟางเจี๋ยและบุตรสาวนามว่าฟางเมี่ยว มารดาของบุตรทั้งสองตายจากไปตั้งแต่ฟางเมี่ยวอายุได้สิบสี่ปี ส่วนบุตรชายยามนี้นั้นอายุได้ยี่สิบปีแล้ว เพราะความรักบุตรทั้งสองเขาจึงไม่แต่งภรรยาใหม่อีก มีเพียงอนุในจวนสองสามคนที่ไม่กล้ามีปากมีเสียงใดๆ ทั้งสิ้นเพียงเท่านั้นเขาเป็นถึงเสนาบดีกรมกลาโหม มีหน้ามีตาในบรรดาชนชั้นสูง คอยตรวจสอบเสบียงอาหารในกองทัพ ดูแลเรื่องเบี้ยเลี้ยงของกองทัพ ดูแลยุทโธปกรณ์ ปัจจัยต่างๆ ในกองทัพ อีกทั้งยังมีสหายสนิทเป็นถึงแม่ทัพใหญ่อีกด้วย เดิมทีเขาคิดจะให้ฟางเมี่ยวที่ยามนี้อายุสิบห้าปีแล้วแต่งงานกับหลี่เยี่ยนเฉินบุตรชายของสหายรักที่รั้งตำแหน่งรองแม่ทัพอนาคตไกลแต่ทว่าบุตรสาวตัวดีของเขากลับไปถูกตาต้องใจ เย่จิ้นหยาง ชินอ๋องหนุ่มรูปงาม ผู้เป็นหลานชายของฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าอู๋ บิดาของเย่จิ้นหยางเป็นน้องชาย
last updateLast Updated : 2025-04-05
Read more
บทที่ 2 หยิบยื่นความตาย
บทที่ 2 หยิบยื่นความตายล่วงเวลามาจนยามเย็น เย่จิ้นหยางก็กลับมาที่จวนอ๋อง เขาตรงมาหาจางเสวี่ยฮุ่ยที่เรือนใหญ่ในทันที จางเสวี่ยฮุ่ยที่เห็นเช่นนั้นก็ดูแลปรนนิบัติเขาเป็นอย่างดี เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางจึงเอ่ยกับเย่จิ้นหยางอย่างอ่อนโยน"ท่านอ๋องเพคะ นางมาแล้วเพคะ หม่อมฉันจัดให้นางอยู่ที่เรือนเล็กที่ท่านอ๋องเตรียมไว้ให้แล้วเพคะ"เย่จิ้นหยางที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะหันมาเอ่ยถามจางเสวี่ยฮุ่ยด้วยความสงสัย"เสวี่ยเอ๋อร์ นางที่เจ้าหมายถึงคือผู้ใดกัน?"จางเสวี่ยฮุ่ยที่ได้ยินเช่นนั้น จึงยิ้มให้เขาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบ"ฟางเมี่ยวอย่างไรเล่าเพคะ นางมาถึงตั้งแต่ยามเช้าแล้ว"เย่จิ้นหยางที่ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าที่อ่อนโยนเมื่อครู่นี้ ก็แปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชาขึ้นมาหลายส่วน เขาลืมไปเสียสนิทเลยว่านางจะต้องเข้าจวนอ๋องวันนี้ เขาเพียงให้คนนำเกี้ยวไปรับนางอย่างส่งๆ ไม่ได้สนใจไยดีนางเลยแม้แต่น้อย นางจะมาเช่นไร จะทนอยู่ได้หรือไม่ เขาไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย เขาเกลียดนางยิ่งนัก!!เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาจึงยื่นมือของตนไปจับมือของจางเสวี่ยฮุ่ยเอาไว้"เสวี่ยเอ๋อร์ ข้าทำให้เจ้าลำบากใจใช่หรือไ
last updateLast Updated : 2025-04-05
Read more
บทที่ 3 กลับมาอีกครา
บทที่ 3 กลับมาอีกคราแคว้นต้าอู๋รัชศกหมิงหล่างฮ่องเต้นามเย่หมิงหล่าง"คุณหนู ท่านฟื้นแล้วหรือเจ้าคะ!!!"เสียงของสาวใช้นางหนึ่งเอ่ยขึ้นมาด้วยความดีใจ เมื่อเห็นนายของตนฟื้นแล้ว เสียงเอะอะโวยวายนี้ทำให้ฟางเมี่ยวถึงกับขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะยกมือขึ้นมาจับที่ศีรษะของตนเอง ความรู้สึกปวดหนึบไหลเวียนไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย ศีรษะของนางราวกับถูกบีบรัดอย่างไรอย่างนั้น"ปวดหัวยิ่งนัก!!!""คุณหนู บ่าวจะไปตามหมอนะเจ้าคะ!!"เสียงที่คุ้นเคยทำให้ฟางเมี่ยวชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะค่อยๆ ตั้งสติ และเงยหน้าไปมองสาวใช้น้อยนางนั้นทันทีลู่ชิง!!!"ลู่ชิง เจ้า...""เอ? เป็นบ่าวเองเจ้าค่ะ คุณหนูคิดว่าเป็นผู้ใดกันเจ้าคะ รอสักครู่นะเจ้าคะ บ่าวจะไปเรียนนายท่านว่าคุณหนูได้สติแล้ว"ลู่ชิงลนลานลุกขึ้นยืนหวังจะไปบอกคนในจวน แต่ทว่าฟางเมี่ยวกลับร้องเรียกนางเอาไว้เสียก่อน"ช้าก่อน"ลู่ชิงยังไม่ทันที่จะได้เดินออกไปก็ถูกฟางเมี่ยวรั้งตัวเอาไว้ นางจึงหันมามองนายตนด้วยความงุนงง“คุณหนู?”"ข้ายังไม่ตายหรือ?"ลู่ชิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็มีท่าทีตกใจไม่น้อย ก่อนจะเอ่ย"ตายอันใดกันเจ้าคะ!!!""เช่นนั้นข้ามาอยู่ที่จวนได้เช่นไร หรือว่าข้ายังไม
last updateLast Updated : 2025-04-05
Read more
บทที่ 4 ตรวจสอบบัญชี
บทที่ 4 ตรวจสอบบัญชียามเช้าของวันต่อมาฟางเหลียนออกจากจวนไปร่วมประชุมเช้าที่วังหลวง หลังจากเสร็จสิ้นจึงกลับมาที่จวน ก็พบว่ายามนี้บ่าวไพร่กำลังวุ่นวายอยู่ในจวน เดินขวักไขว่กันไปมา เมื่อมองไปก็เห็นฟางเมี่ยวบุตรสาวของเขาที่กำลังยืนชี้นิ้วสั่งงานเหล่าบ่าวไพร่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มเขาขยี้ตาตนคราหนึ่ง นี่บุตรสาวเขาเสียใจที่มารดานางตายจนสติฟั่นเฟือนไปแล้ว?ยามนี้มิใช่ว่านางต้องออกนอกจวนไปผลาญเงินเขาเล่นหรอกหรือ?เอาเถิด เป็นเช่นนี้ก็ดีมิใช่หรือ?เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาจึงเดินตรงไปหาบุตรสาวตนทันที"เมี่ยวเอ๋อร์""ท่านพ่อ ท่านกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ลู่ชิง ยกน้ำชามาให้ท่านพ่อดื่มดับกระหาย"บริการน้ำชาด้วย!!!เสนาบดีฟางเหลียนคล้ายไม่คุ้นชินกับท่าทางเอาอกเอาใจเช่นนี้ของฟางเมี่ยวเอาเสียเลย เขารับถ้วยชามาดื่มจนหมดจอก ก่อนจะเอ่ย"เมี่ยวเอ๋อร์ เจ้ากำลังทำสิ่งใดอยู่หรือ?""อ้อ ลูกกำลังจัดการจวนใหม่เจ้าค่ะ อีกไม่นานพี่ใหญ่ก็จะกลับมาที่จวนแล้ว นี่พวกเจ้า!! ตัดต้นสาลี่ต้นนั้นออกด้วย"เสนาบดีฟางเหลียนที่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยทันที"ไม่ได้นะ สาลี่ต้นนี้แม่เล็กซางของเจ้าชอบมาก"ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นจึง
last updateLast Updated : 2025-04-05
Read more
บทที่ 5 วาสนา(ด้ายแดง)ขนมเปี๊ยะ
บทที่ 5 วาสนา (ด้ายแดง) ขนมเปี๊ยะหลังจากที่อนุซางถูกขับออกจากจวน บรรดาอนุทั้งหลายในจวนตระกูลฟางต่างก็ไม่กล้าเสนอหน้าหรือมีปากเสียงใดอีกแม้เพียงสักคน อีกทั้งยังสวมชุดสีอ่อนเพื่อไว้ทุกข์ให้อดีตฮูหยินอย่างว่าง่ายอีกด้วยเช้านี้อากาศค่อนข้างดีไม่น้อย เนื่องจากอยู่ในช่วงกลางฤดูใบไม้ผลิ ฟางเมี่ยวที่อาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ยามนี้นางกำลังจ้องมองอาภรณ์ในหีบที่มีอยู่ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับลู่ชิง"ลู่ชิง เจ้าจงไปหาช่างฝีมือดีมาหลายคนหน่อย ข้าจะตัดชุดใหม่ ชุดพวกนี้สีสันฉูดฉาดเกินไป ข้าไม่อยากใส่"ลู่ชิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย"เอ? ปกติคุณหนูชื่นชอบเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดนี่เจ้าคะ คุณหนูบอกว่ายิ่งสีชัดยิ่งดี คุณหนูจะได้เป็นที่จับตามองของเหล่าบุรุษ จะได้เด่นเกินหน้าเกินตาผู้อื่นอย่างไรเล่าเจ้าคะ!!"ฟางเมี่ยวหลับตาลงพลางยกมือนวดขมับ นางอยากจะยกเท้าถีบกลางหน้าอกของสาวใช้บัดซบผู้นี้เสียจริง!!แต่ช่างเถิด นางจะปรับเปลี่ยนตนเองใหม่ นางจะไม่เจ้าอารมณ์อีกเมื่อคิดได้เช่นนั้น นางจึงหันไปเอ่ยกับลู่ชิงอย่างมีความอดทน"ข้าสั่งให้เจ้าไป เจ้าก็ไป ไม่ต้องมาย้อนถามข้า""เจ้าค่ะคุณหน
last updateLast Updated : 2025-04-05
Read more
บทที่ 6 พบกันอีกครา
บทที่ 6 พบกันอีกคราฟางเมี่ยวขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้เห็นท่าทีที่ต่างไปจากเดิมของหลี่เยี่ยนเฉิน แววตาของเขาที่มองนางดูคล้ายไม่เหมือนเดิม ทุกคราที่ได้พบกัน แววตาของเขาช่างกระจ่างใสและบริสุทธิ์ เป็นแววตาของเด็กหนุ่มที่ไร้เดียงสา มีทั้งความอบอุ่นและอ่อนโยนมอบให้แก่นางแต่เหตุใดครั้งนี้นางจึงรู้สึกว่าแววตาของเขาดูเย็นชาและตัดพ้อนางในคราเดียวกันแต่ทว่าเมื่อหันไปมองอีกคราก็พบว่าหลี่เยี่ยนเฉินได้จากไปพร้อมกับขบวนกองทัพแล้ว เขาไม่แม้แต่จะส่งยิ้มทักทายให้นางเลยแม้แต่น้อยฟางเมี่ยวคร้านจะคิดสิ่งใดให้มากความอีก บางทีหลี่เยี่ยนเฉินอาจจะเดินทางเหนื่อยจึงไม่มีเวลาทักทายนาง หรือบางคราการเดินทางกลับอาจจะต้องรีบเร่งตามคำสั่งของฮ่องเต้ เขาจึงไม่มีเวลาส่งจดหมายมาบอกนาง แค่นางต้องสะสางเรื่องในจวนก็เหนื่อยมากพอแล้ว นางไม่มีเวลามาคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องอีกเอาเถิด อย่างไรเขากับนางย่อมต้องได้พบเจอกันอีกเป็นแน่ฟางเมี่ยวหยิบผ้าที่วางอยู่ขึ้นมาเช็ดมือ ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง นางกวาดสายตามองไปโดยรอบคราหนึ่ง ยามนี้โรงน้ำชาค่อนข้างคึกคักไม่น้อยแล้ว ผู้คนต่างแวะเวียนเข้ามาลองชิมชาชั้นดีและขนมเลิศรสที่โรงน้ำชาของนางนั
last updateLast Updated : 2025-04-05
Read more
บทที่ 7 ตำราคุณธรรมหญิง
บทที่ 7 ตำราคุณธรรมหญิงหลี่เยี่ยนเฉินละสายตาจากรถม้าของฟางเมี่ยว ก่อนจะมุ่งหน้ากลับจวนของตน เดิมทีที่เขามีเวลาออกมาดูนางได้นั้น เป็นเพราะต้องรอให้ฝ่าบาททรงเรียกตัวเข้าวังหลวง แม้จะมีความดีความชอบ แต่ยามนี้เป็นเวลาที่ฮ่องเต้และชินอ๋องผู้เป็นหลานชายต้องการสนทนาเรื่องราวบางอย่างกันตามลำพัง และให้เขาและท่านพ่อได้มีเวลาเตรียมตัวก่อนเข้าเฝ้าในเช้าวันพรุ่งนี้เมื่อกลับมาถึงจวน เขาก็พบว่ายามนี้ท่านแม่กำลังปรนนิบัติดูแลท่านพ่อเป็นอย่างดี ออกรบครานี้ครอบครัวไม่อยู่พร้อมหน้ากันเป็นเวลาร่วมหนึ่งปี เขาเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูล เป็นที่รักของท่านพ่อท่านแม่อย่างมากหลี่เย่ แม่ทัพใหญ่กำลังมองบุตรชายของตนคราหนึ่ง ก่อนที่หลี่ฮูหยินที่เห็นว่าบุตรชายของตนกลับมาถึงจวนแล้วก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง"เยี่ยนเอ๋อร์ เจ้ากลับมาแล้ว""ท่านแม่""เหนื่อยหรือไม่ แม่สั่งให้เหล่าสาวใช้ทำอาหารมารอเจ้าแล้ว""ขอบคุณท่านแม่มากขอรับ""รีบไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถิด แล้วรีบมากินอาหาร""ขอรับ"หลี่เยี่ยนเฉินพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องนอนของตน แล้วจึงจัดการให้ตงหยาง บ่าวรับใช้คนสนิท นำน้ำร้อนมาผสม
last updateLast Updated : 2025-04-05
Read more
บทที่ 8 จัดการอนุ
บทที่ 8 จัดการอนุวันต่อมาฟางเมี่ยวตื่นสายไปเสียหน่อย เนื่องจากนางมัวแต่อ่านตำราจนถึงยามดึก ลู่ชิงที่เห็นว่านายตนตื่นแล้ว จึงเข้ามาปรนนิบัติล้างหน้า เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ฟางเมี่ยวจึงหันไปเอ่ยกับลู่ชิง"ข้าจะไปกินอาหารเช้ากับท่านพ่อที่เรือนใหญ่""เอ่อ ปกติบ่าวเห็นว่าคุณหนูไม่ชอบกินอาหารร่วมกับผู้ใดนี่เจ้าคะ""ก็ตอนนี้ข้าชอบกินกับผู้อื่นแล้วอย่างไรเล่า เจ้าจะถามไปทำไมให้มากความกัน ปากเจ้านี่หัดเงียบบ้างจะได้หรือไม่!!!""บ่าวไม่กล้าเจ้าค่ะ"ฟางเมี่ยวคร้านจะสนใจลู่ชิงอีก นางจึงมุ่งหน้าไปที่เรือนใหญ่ในทันที เมื่อมาถึงที่หน้าเรือนก็พบว่ามีเสียงหัวเราะหวานใสของสตรีหลายนางและเสียงหัวเราะของท่านพ่อดังแว่วมาจากในเรือนใหญ่ฟางเมี่ยวยกยิ้มมุมปากคราหนึ่ง งานศพท่านแม่เพิ่งจะผ่านพ้นไปไม่นาน ท่านพ่อก็รื่นเริงเสียแล้วนางหันไปจ้องมองสาวใช้ที่เฝ้าหน้าประตูทางเข้าเป็นเชิงว่าห้ามส่งเสียง ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปด้านในทันที"แหมๆๆๆ ท่านพ่อนี่ดูรื่นรมย์เสียจริงนะเจ้าคะ งานศพท่านแม่เพิ่งจะผ่านไปไม่นานเลยด้วยซ้ำ"เสนาบดีฟางเหลียนสะดุ้งโหยงก่อนจะหันมามองฟางเมี่ยวคราหนึ่งบัดซบ!! บุตรสาวตัวดีของเขามาที่นี่ทำไมกั
last updateLast Updated : 2025-04-05
Read more
บทที่ 9 งานเลี้ยงจวนตระกูลหลี่
บทที่ 9 งานเลี้ยงจวนตระกูลหลี่ผ่านมาร่วมสองวันจวนตระกูลหลี่ก็ส่งเทียบเชิญมาที่จวนตระกูลฟาง ฟางเมี่ยวจ้องมองเทียบเชิญฉบับนั้นอย่างเงียบๆ ในใจของนางรู้สึกเต้นระรัวอย่างรุนแรงนางบอกไม่ถูกว่ามันเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ที่ทำให้จิตใจของนางไม่สงบได้ถึงเพียงนี้ คล้ายว่านางรอคอยที่จะได้พบกับเขาและเฝ้ารอให้เขาพูดประโยคบอกรักนั้นกับนางอีกคราหากครานี้เขาพูดกับนางอีกครา นางจะตอบตกลงเขาอย่างไม่รีรอ นางจะแต่งกับเขา จะดูแลเขาให้ดีที่สุดฟางเมี่ยวละสายตาจากเทียบเชิญฉบับนั้น ก่อนจะสั่งให้ลู่ชิงช่วยนางเลือกชุดที่จะสวมใส่ไปที่จวนตระกูลหลี่ในอีกสองวันข้างหน้านางจำได้ว่าในชาติก่อนนั้น นางรู้ว่าในงานเลี้ยงครั้งนี้เย่จิ้นหยางจะมาร่วมด้วยเช่นกัน เพราะสนิทสนมกับหลี่เยี่ยนเฉินมาก นางจึงบรรจงแต่งกายสีสันฉูดฉาดไป เพื่อยั่วยวนเย่จิ้นหยาง โดยไม่สนใจหลี่เยี่ยนเฉินเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังหลอกใช้เขาฟางเมี่ยวไล่ความคิดเหล่านี้ออกไป นางมองดูชุดที่ตนเองจะสวมใส่ก่อนจะยิ้มออกมาคราหนึ่งสองวันต่อมางานเลี้ยงจวนตระกูลหลี่ยามนี้ภายในจวนตระกูลหลี่ค่อนข้างคึกคักเป็นอย่างมาก ขุนนางชั้นสูงจากทั่วทั้งเมืองหลวงต่างมาร่วมยินดีด้ว
last updateLast Updated : 2025-04-05
Read more
บทที่ 10 บรรยากาศแปลกไป
บทที่ 10 บรรยากาศแปลกไป"ถวายพระพรท่านอ๋องเพคะ"จางเสวี่ยฮุ่ยลุกขึ้นทำความเคารพเย่จิ้นหยางอย่างนอบน้อมและเขินอาย ฟางเมี่ยวที่หาทางปลีกกายออกไปไม่ได้ จึงทำได้เพียงลุกขึ้นยืนทำความเคารพเขาเช่นเดียวกันให้ตายสิ!! กระโดดถีบแทนได้หรือไม่เย่จิ้นหยางละสายตาจากจางเสวี่ยฮุ่ย ก่อนจะจ้องมองมาที่ฟางเมี่ยวคราหนึ่ง ฟางเมี่ยวมีสีหน้าเรียบเฉยไม่ยินดียินร้าย ทำให้เย่จิ้นหยางขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะเอ่ยถาม"แม่นาง ข้ารู้สึกว่าเจ้าไม่ชอบใจข้าเท่าใดนัก"ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นจึงหันมาจ้องมองเย่จิ้นหยางคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา แต่ทว่ารอยยิ้มของนางดูเย็นชาไม่น้อย"ท่านอ๋องทรงคิดมากไปแล้วเพคะ หม่อมฉันไม่เคยพบเจอท่านอ๋องมาก่อน จะไม่ชอบใจพระองค์เรื่องใดกัน""นั่นสินะ ข้าคงคิดมากไป ว่าแต่เจ้าคงจะเป็นสหายของเสวี่ยเอ๋อร์สินะ"เย่จิ้นหยางเอ่ยถามนาง ก่อนจะหันไปส่งยิ้มหวานให้จางเสวี่ยฮุ่ย ฟางเมี่ยวไม่ตอบเพียงพยักหน้าเล็กน้อยเท่านั้นคนบัดซบเช่นนี้ นางไม่อาจทำใจรักษากฎระเบียบใดกับเขาได้ แม้ยามนี้นางจะบอกตนเองเสมอว่าไม่ให้แค้นเคืองเขาในเรื่องเก่าก่อน แต่นางกลับรู้สึกว่าตนขัดหูขัดตาเขาไม่น้อย นี่แปลว่านางยังแค้นเขาใช่หร
last updateLast Updated : 2025-04-05
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status