Share

๒๑

last update Last Updated: 2025-05-02 13:23:19

คืนนี้เป็นอีกคืนที่พระจันทร์เต็มดวงให้ความสว่างไสวแก่ใต้หล้า บางคนอาจจะมีความสุขที่ได้นั่งดื่มสุราเคล้าแสงจันทร์ เห็นพระจันทร์เป็นสิ่งสวยงาม แต่สำหรับบางคนแล้วนั้น พวกเขาอาจจะเห็นพระจันทร์สีเหลืองในคืนนี้ถูกย้อมไปด้วยสีแดงเลือดก็ได้

ร่างสูงในชุดสีดำสนิทวิ่งขึ้นมาบนหลังคาของหอโคมเขียวขึ้นชื่อในเมือง เขามาที่นี่ไม่ใช่เพราะจะมาเสพสมร่วมระคากับสตรีในที่แห่งนี้ แต่เขามาเพื่อปลิดชีพบุรุษที่กำลังเล่นสนุกกับร่างกายของพวกนางต่างหาก

“อยู่ด้วยกันเช่นนี้ก็ดี จะได้จัดการได้ง่าย ๆ”

ร่างสูงกระโดดลงจากหลังคาโดยการเข้าทางหน้าต่างพร้อมห้อยโหนไปยังขื่อคานด้วยความรวดเร็ว คนที่อยู่ในห้องพิเศษห้องใหญ่นี้ไม่มีผู้ใดรับรู้การมาถึงของเขาเลยเพราะว่ากำลังมึนเมาได้ที่ อีกทั้งสตรีร่างอรชรอ่อนแอ้นในอ้อมแขนมันน่าสนใจกว่าสิ่งใดเยอะ

“พรุ่งนี้ข่าวคงดังกระฉ่อนไปทั้งเมือง บุตรชายคนเล็กของเจ้ากรมพิธีการและบุตรชายคนรองของแม่ทัพเซียวเข่นฆ่ากันเพราะร่ำสุราที่หอโคมเขียวจนมึนเมา พยานรู้เห็นเหตุการณ์ก็มี ดูสิว่าจะมาสืบเรื่องราวสาวต่อยังไง”

วิธีที่เขาเลือกใช้จัดการคนแม้จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เขาสำหรับในอีกฐานะหนึ่ง แต่เขาไม่สน ขอให้การกระทำในเรื่องคืนนี้ไม่ถูกโยงไปถึงนางได้เขาก็พอใจแล้ว

“ชาติหน้าอย่าได้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดแบบนี้อีกเลยนะ เสียดายโอกาสดี ๆ ของคนอื่นเขา”

สิ้นคำร่างกายของเขาก็สลายไปกลายเป็นกลุ่มควันสีดำลอยเข้าสู่ร่างหนาของบุตรชายแม่ทัพเซียว ดวงตาที่กำลังเคลิบเคลิ้มมีความสุขเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เป็นจะแข็งทื่อไร้สติรับรู้และควบคุม 

“นายท่านจะไปที่ใดเจ้าคะ”

เขาผละออกจากร่างนางโลมสาวก่อนที่จะพาตัวเองเดินไปยังโต๊ะตัวยาวซึ่งเป็นที่ที่ควรวางอาหารและเครื่องดื่ม แต่เพราะความอยากแปลกใหม่ บัดนี้บนนั้นจึงได้กลายเป็นเตียงที่มีชายร่างผอมนอนอยู่โดยมีนางโลมสาวสองคนช่วยทำให้เขามีความสุขทั้งบนและล่าง

“โอ๊ย”

ร่างผอมสูงของบุตรชายเจ้ากรมพิธีการลอยละลิ่วลงไปกองบนพื้นตามแรงเท้าของบุตรชายแม่ทัพเซียว เขาเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าคนที่ถีบตนเองกระเด็นตกลงมาบนพื้นนี้ก็คือสหายที่มาท่องราตรีด้วยกัน

“เป็นบ้าอะไร อยู่ดี ๆ มาถีบข้าทำไม!”

ลุกขึ้นมายืนได้อย่างมั่นคงแล้วก็ผลักบุตรชายแม่ทัพเซียวคืน แต่เพราะร่างกายที่แข็งแรงกว่ามากรวมทั้งมีพลังด้านมืดแฝงอยู่ ทำให้เป็นตัวเขาเองที่หงายหลังก้นจ้ำเบ้าอยู่บนพื้น

“นายท่าน…” 

เหล่านางโลมรีบช่วยกันพยุงเขาขึ้นมา หนึ่งในนั้นเห็นท่าไม่ดีจึงได้วิ่งออกไปด้านนอกห้องพิเศษเพื่อตามผู้คุ้มกันของหอโคมเขียวให้เข้ามาห้ามปราม

“ข้าเกลียดเจ้า อยากจะฆ่าเจ้าให้ตายไปตั้งนานแล้ว ทุกคนฟังให้ดี ข้าบุตรชายของแม่ทัพเซียวจะฆ่าเจ้านี่ให้สิ้นชีพ!”

“กรี๊ด”

เขาพุ่งตัวใส่ร่างของบุตรชายเจ้ากรมพิธีการจนสาวงามพากันหลบหนีออกห่าง ชายทั้งสองแลกหมัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ผลัดกันล้มผลัดกันสู้ท่ามกลางเสียงกรี๊ดร้องด้วยความตื่นกลัวของเหล่านางโลม เรียกให้ลูกค้าคนอื่นรีบวิ่งเข้ามาดูยังต้นเสียง 

ในขณะเดียวกันนั้นผู้คุ้มกันของหอก็วิ่งเข้ามาถึงเหตุการณ์พอดี จึงได้จับพวกเขาทั้งคู่ให้แยกออกจากกัน แต่ก็ยังช้าไปเมื่อพวกเขาทั้งสองใบหน้าแตกยับจนมองไม่เห็นเค้าเดิม 

เหตุการณ์ควรจะจบลงแค่นั้น ถ้าหากว่าบุตรชายเจ้ากรมพิธีการไม่ดึงดาบจากผู้คุ้มกันแล้วแทงเข้าที่บุตรชายแม่ทัพเซียวเสียก่อน! 

ภาพคนเลือดสาดต่อหน้าต่อตาเรียกเสียงกรี๊ดร้องจากผู้ที่เห็นเหตุการณ์นี้ไม่ว่าจะลูกค้าต่างสถานะหรือเป็นคนของหอโคมเขียวเอง แม่เล้าผู้ดูแลหอโคมเขียวมาถึงเป็นคนสุดท้ายแต่ก็มีสติพอที่จะให้คนไปตามหมอและกองปราบมาจัดการปัญหาตรงหน้าต่อ

“ไม่นะ นี่ข้าทำอะไรลงไป”

 บุตรชายเจ้ากรมพิธีการละมือออกจากดาบ สีหน้าตื่นตกใจสุดขีดเมื่อรู้ว่าตนเองเผลอทำอะไรลงไป ในสายตาคนนอกท่าทางเขาในตอนนี้ดูคลุ้มคลั่งไร้ซึ่งสติไปแล้ว 

“ข้าไม่ผิดนะ เจ้านั่นมันเตะข้าก่อน แล้วเมื่อครู่มันก็ยิ้มเย้ยหยันข้า ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดนะ มันสมควรโดนแบบนี้”

แม่เล้าส่ายหน้า ไหสุราที่ตั้งไว้อยู่เต็มห้องบ่งบอกว่าเขาดื่มไปมากพอควร ไม่มีใครเชื่อถือคำพูดของคนเมา แม่เล้าจึงสั่งให้คนคุ้มกันของหอจัดการคุมตัวบุตรชายเจ้ากรมพิธีการไว้ก่อน ส่วนเรื่องความเป็นมาอย่างไรก็ให้คนของกรมยุติธรรมเค้นความต่อเอาเอง

ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้นนี้ ไม่มีใครสังเกตเลยว่ามีกลุ่มควันสีดำมืดลอยออกมาจากร่างของบุตรชายแม่ทัพเซียว ค่อย ๆ ขยับเคลื่อนตัวออกมาเรื่อย ๆ จนมาถึงบ่อนลับแห่งหนึ่งในตรอกซอยแคบแล้วปรากฏเป็นร่างเนื้อในชุดดำเช่นเดิม

“ช่วยไม่ได้ หากตระกูลของพวกเจ้าไม่ส่งแม่สื่อมาตั้งแต่ทีแรก ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้”

รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นเหนือมุมปากก่อนที่ร่างสูงจะก้าวเข้าไปในบ่อนเพื่อตามหาเป้าหมายคนต่อไป…คุณชายสี่จากตระกูลถัง! 

เพราะเคยเห็นอยู่หลายครั้ง ทำให้คุ้นเคยกับรูปพรรณสัณฐานเขาเป็นอย่างดี แต่เดินหาอย่างไรก็ไม่พบจนกระทั่งเดินมายังส่วนด้านหลังของบ่อน สถานที่ที่คนมาใช้บริการมักจะมาปลดทุกข์

 “โอ๊ย โอ๊ย พอแล้ว อย่าทำข้า โอ๊ย” 

ภาพที่ปรากฎสู่สายตาเขาคือหลิวหลี่เฟยกำลังยืนกอดอกสั่งการให้คนเตะร่างของบุรุษผู้หนึ่งอยู่ ซึ่งก็เป็นเป้าหมายที่เขากำลังตามหาอยู่ในตอนนี้

“พอก่อน” หลิวหลี่เฟยยกมือห้ามจากนั้นก็เดินเข้ามายืนอยู่เหนือร่างที่นอนคุดคู้บนพื้น เท้าใหญ่สะกิดลงใบหน้าคุณชายสี่เพื่อเรียกสติ “นี่ อย่าเพิ่งมาสำออยอะไรตอนนี้ ลุกขึ้นมาตอบคำถามของข้าก่อน”

คุณชายสี่พยายามยันร่างกายบอบช้ำของตนเองขึ้นมา ริมฝีปากแตกยับสั่นระริก แต่ก็ยังพยายามจะพูดในสิ่งที่ตนเองต้องการสื่อออกมา

“ข้าจะฟ้องบิดา ข้า แน่ แค่ก ๆ ว่าเจ้า สั่งคนทำร้ายข้า!”

คำขู่นี้แน่นอนว่ามันไม่ได้ทำให้หลิวหลี่เฟยกลัวเลยสักนิด เขายกยิ้มเย้ยหยันพร้อมเตะร่างคุณชายสี่ไปสามครั้งเพื่อระบายอารมณ์โกรธที่สุมอยู่ในอก

“ครั้งแรกคือโทษฐานที่เจ้ากล้าปิดบังข้า ครั้งที่สองคือโทษที่เจ้ากล้าขู่ข้าและครั้งสุดท้ายคือโทษที่ตระกูลของเจ้ากล้าส่งแม่สื่อมายังตระกูลข้า” เขายกเท้ากระทืบที่หน้าอกคุณชายถังอีกครั้ง “กล้าดีอย่างไรมาทำกับข้าแบบนี้”

“พอเถอะ เดี๋ยวมันก็ตายหรอก” หนึ่งในคุณชายที่เพียงยืนดูเหตุการณ์เท่านั้นเอ่ยปรามหลิวหลี่เฟย “ขู่มันแล้วอย่างไรต่อ ให้มันแบกร่างช้ำ ๆ นี่กลับไปฟ้องบิดามันหรือ”

หลิวหลี่เฟยหันมาหาสหายและยักไหล่อย่างไม่กลัวอะไรทั้งนั้น 

“ข้าขอท้าให้มันฟ้องแล้วบอกเหตุผลที่ข้าทำกับมันแบบนี้เลยด้วยซ้ำ แอบแทงข้างหลังข้าโดยการให้มารดามันส่งแม่สื่อมาทาบทามน้องหญิงเล็ก ข้าไม่ฆ่ามันให้ตายก็บุญแค่ไหนแล้ว”

“หึ!” คำพูดของหลิวหลี่เฟยทำให้ร่างสูงในชุดดำเหยียดยิ้ม

หลิวหงเถาอาจจะคิดว่าพี่ชายฝาแฝดของตนนั้นมีนิสัยเหมือนคุณชายเสเพลทั่วไป แต่สำหรับเขาที่ไปไหนมาไหนกับคุณชายผู้นี้บ่อยครั้งรู้ดีว่าหลิวหลี่เฟยมีนิสัยที่แท้จริงเป็นอย่างไร แม้จะไม่เก่งวรยุทธ์แต่นิสัยของเขาโหดเหี้ยมยิ่งกว่าที่หลิวหงเถารู้นัก 

หากมันไม่มีใบหน้าแบบเดียวกับหลิวหงเถา ข้าคงฆ่ามันตายตั้งนานแล้ว

“ในเมื่อทางนี้เจ้าจัดการแล้ว ก็ยังเหลืออีกหนึ่งที่เจ้าไม่คิดจะจัดการสินะ เช่นนั้นทางตำหนักบูรพาข้าจะเป็นคนจัดการเอง!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๒๒

    ในยามดึกสงัดเช่นนี้บางคนอาจจะนอนหลับพักผ่อนกายาไปนานแล้ว แต่สำหรับว่าที่ฮ่องเต้องค์ต่อไปของชิงชิวยังต้องสะสางงานอีกมาก แคว้นชิงชิวเพิ่งสถาปนาได้ไม่นาน ทุกอย่างต้องเร่งสร้างเร่งพัฒนาอีกมาก นอกจากเสด็จพ่อของเขาที่ทรงงานหนักแล้ว ตัวเขาเองก็ต้องเบ่งเบาราชกิจต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุดเช่นกัน‘ระวังตัวด้วย ข้าได้กลิ่นปีศาจ’ในระหว่างที่กำลังคร่ำเคร่งกับฎีกาตรงหน้านั้น อยู่ ๆ ไท่จื่อก็ได้ยินเสียงร้องเตือนดังขึ้นมาในหัว “หือ”คิ้วเข้มพาดเฉียงเลิกขึ้นอย่างแปลกใจ แม้ผู้ที่ร้องเตือนจะอยู่กับเขามาตั้งแต่แรกเกิด แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดคุยกันบ่อยนัก ซึ่งส่วนมากที่ร้องเตือนภัยมักจะเป็นเหตุการณ์ร้ายที่เขาไม่อาจต่อสู้ได้เช่น ภูติ ผี หรือปีศาจที่โดนมารครอบงำ ครั้งล่าสุดที่เคยเผอิญได้เจอก็เมื่อสิบปีก่อน ไม่คาดว่าสิบปีไล่หลังมานี้จะได้พบเจออีกหน‘อนุญาตให้ข้าได้ปกป้องเจ้า มิเช่นนั้นเจ้าจะโดนควบคุม มันคืบคลานใกล้มากขึ้นแล้ว!’ไท่จื่อวรยุทธ์แกร่งกล้าไม่แพ้ใครในแคว้นนี้ หากเป็นมนุษย์กับมนุษย์ด้วยกันอย่างไรเขาก็พร้อมสู้ แต่เมื่อสิ่งที่กำลังคืบคลานไม่ใช่มนุษย์ เขาก็ต้องเชื่อฟังมังกรดำ สัตว์เทพที่คุ้มครองเขามาตั้ง

    Last Updated : 2025-05-02
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๒๓

    ข่าวดังที่สุดของเมืองหลวงในหลายวันที่ผ่านมาย่อมเป็นเรื่องฆาตกรรมที่เกิดขึ้นกับหอโคมเขียวชื่อดัง แต่เพราะว่าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นในช่วงใกล้วันอภิเษกขององค์ไท่จื่อ ดังนั้นเจ้ากรมยุติธรรมจึงเร่งสั่งให้ปิดคดีแล้วสรุปผลออกมาว่าเป็นเพียงเพราะเมาสุราแล้วเกิดการทะเลาะวิวาทกันเท่านั้น ผู้เสียชีวิตคือบุตรชายของแม่ทัพเซียวและผู้ที่เป็นฆาตกรก็ถูกสั่งให้จำคุก โดยสองขุนนางในราชสำนักกลายเป็นปรปักษ์กันไปตลอดกาลเมื่อมาถึงวันงานอภิเษก ข่าวทั้งหลายก็เงียบสงบลง มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังข้องใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น หนึ่งในนั้นคือไท่จื่อ เขาได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจโดยยังคงแอบสืบหาความจริงอยู่เรื่อย ๆวันงานอภิเษกจูจิ่วลี่และหลิวหงเถาถูกจินเซียนเหม่ยชวนมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วยกัน ความจริงหลิวหงเถาจะหาข้ออ้างปฏิเสธก็ได้หากไม่อยากมาเป็นสักขีพยานในงานแต่งผู้อื่นที่พระสวามีในอนาคตอาจจะเป็นคนเดียวกัน แต่เพราะว่านางอยากหลบหน้าชิงหมิน ไม่อยากอยู่จวนที่ทุกพื้นที่มีแต่เขาวนเวียนอยู่รอบกาย หลังจากที่จุมพิตกับเขาในคืนนั้น นางรู้สึกว่าอยู่ ๆ ก็มีความทรงจำไม่ทราบที่มาผุดขึ้น อย่างเช่นนางเคยให้น้ำแก่ขอทานผู้หน

    Last Updated : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๒๔

    นางหลบหน้าข้า!ชิงหมินตะโกนประโยคนี้ในใจเมื่อเห็นหลิวหงเถารีบหันกายหนี ตั้งแต่คืนนั้นพวกเขาสองคนก็ไม่ได้สทนากันอีกเลย กอปรกับชิงหมินกำลังฟื้นฟูพลังอยู่จึงไม่สะดวกไปคุยกับนางให้รู้เรื่องก็ว่า เมื่อก่อนข้าหายหน้าไปเกินหนึ่งวันต้องออกตามหาแล้ว แต่นี่หายไปหลายวันไม่ออกตามหา ที่แท้เพราะตั้งใจหลบหน้ากัน!“น้องหญิงเล็ก!”วันนี้ชิงหมินตามหลิวหลี่เฟยมาตลาด เผอิญได้พบหลิวหงเถาที่โรงเตี๊ยมเข้า ปฏิกิริยาตอบสนองแรกของนางคือตื่นตกใจอย่างกับเห็นพวกเขาเป็นผี จากนั้นก็วิ่งหนีขึ้นรถม้าไปในทันที“จะรีบไปไหนน้องหญิงเล็ก!”ขนาดหลิวหลี่เฟยวิ่งเข้าไปหาแล้วยืนเรียกข้าง ๆ รถม้า นางก็ยังไม่ยอมแม้แต่จะแง้มผ้าม่านออกมาพูดคุย ทั้งยังสั่งให้คนบังคับรถม้าออกตัวได้ ชิงหมินคิดว่าถ้าตนกระโดดขึ้นรถม้าในตอนนี้ หลิวหลี่เฟยก็คงจะตามมาด้วย ซึ่งเขาไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นจึงได้ใช้พลังปีศาจสะกดคนบังคับรถม้าให้เปลี่ยนเส้นทางไปที่นอกเมืองแทนข้าตัดสินใจแล้ว อย่างไรวันนี้จะต้องคุยกันให้รู้เรื่องทางฝั่งหลิวหงเถา“เฮ้อ คิดว่าจะหนีไม่พ้นเสียแล้ว”คนที่คิดว่าตัวเองสามารถหลบหน้าผู้อื่นได้ถอนหายใจยาว ระหว่างนั้นก็นั่งคิดวิธีที่จะทำใ

    Last Updated : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๒๕

    ‘ตาแก่ขี้จุ้นจ้าน ไล่ข้าให้มาอยู่แดนมนุษย์ตั้งนานไม่เคยมาเหลียวแลกันเลยสักนิด พอข้าอยากมีความรักดี ๆ กับเขาบ้างมายุ่งจุ้นจ้านอะไรด้วย!’‘ก็เจ้ามันลีลาท่าเยอะ จอมปีศาจผู้นี้เห็นแล้วหงุดหงิดตาจึงช่วยให้ ไม่ได้หรืออย่างไร’‘ก็ไม่ได้นะสิ เรื่องของข้าข้าจัดการเองได้‘เหอะ! ขืนปล่อยให้เจ้าจัดการเองก็คงได้เผลอฆ่ามนุษย์ไปมากกว่านี้อีกแน่ รู้ทั้งรู้ว่าการทำลายมนุษย์เท่ากับเลือกเป็นศัตรูกับเแดนสวรรค์ หากเจ้ารักนางจริงเพียงทนรอเท่านั้น แม้มันจะมีอุปสรรคไปบ้าง แต่ระหว่างเทพเซียนกับปีศาจย่อมเป็นไปได้มากกว่าปีศาจกับมนุษย์’‘ท่านหมายถึงให้ข้ารอนางหมดอายุขัยของการเป็นมนุษย์ก่อนเช่นนั้นหรือ? แล้วข้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเมื่อนางกลับไปเป็นเทพเช่นเดิมแล้วจะยังรักข้า’‘น่าขัน! ทำอย่างกับว่าตอนนี้นางบอกรักเจ้าแล้ว’‘น่าขันตรงไหน ทำอย่างกับตัวเองรู้จักความรักดี’ชิงหมินนึกถึงบทสนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างตนกับจอมปีศาจเมื่อหลายชั่วยามก่อนหน้านี้“ข้ารู้ว่าท่านรักข้าจะตาย ใช่หรือไม่”น้ำเสียงอ่อนหวานถูกใช้ถามร่างบางที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ในห้วงนิทรา คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่เขาลอบเข้ามานั่งมองนางนอนหลับ การได้มองนางนอ

    Last Updated : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๒๖

    ‘ต้องตายจากการเป็นมนุษย์เพื่อกลับสู่การเป็นเทพ’นี่คือสิ่งที่หมินมิ่นบอกกับข้าเมื่อคืน ข้าจะต้องผ่านการใช้ชีวิตผ่านด่านเคราะห์ต่าง ๆ ไปให้ได้ก่อนเพื่อที่จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับเขาในฐานะปีศาจกับเทพเซียนได้ โชคดีมากที่ทั้งสองเผ่าสงบศึกกันแล้ว หากเป็นเมื่อก่อนที่ยังทำสงคราม ปะกันทีเป็นอันต้องหันดาบใส่กันทุกครั้งแต่หากข้าปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามที่ลิขิตไว้ เช่นนั้นข้าจะต้องถวายตัวเป็นเช่อเฟยของไท่จื่อหรือ ข้าก็ต้องมีอะไรกับคนที่ไม่ได้รักเช่นนั้นสิ“เหม่ออะไรอยู่หรือเถาเอ๋อร์ แม่เห็นเจ้าเอาแต่เขี่ยข้าวเล่น ไม่คีบทานเสียที”หลิวหงเถาหลุดออกมาจากภวังค์ความคิดแล้วหันไปมองหน้ามารดาที่คีบอาหารมาวางในชามให้นางเพิ่มเป็นการ ‘บังคับทาน’ อยู่กลาย ๆ “น้องเล็กดูแปลกไปขอรับท่านแม่ เมื่อวานเจอกันอยู่หน้าโรงเตี๊ยมก็เพิกเฉยใส่ ทำราวกับว่าไม่รู้จักกันเสียอย่างนั้น”หลิวหงเถาร้อง ‘เหอะ’ ออกมาเบา ๆ จากนั้นก็ตอกหน้าเขาออกไปอย่างเจ็บแสบ “ใครเขาอยากจะคุยกับอันธพาลเล่า อยู่ดี ๆ ก็ไปชกต่อยผู้อื่น ไม่โดนจับขังคุกไปก็ดีเท่าไรแล้ว”“ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ก็ไปชกต่อยผู้อื่นเสียหน่อย พี่ย่อมมีเหตุผล”คนเป็นพี่ที่คิดว่

    Last Updated : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๒๗

    หลิวหงเถาและจูจิ่วลี่ขอตัวกลับทันทีหลังจากที่มื้อเที่ยงได้ร่วมโต๊ะเสวยกับไท่จื่อเฟย ด้วยเพราะจูจิ่วลี่ยังไม่อยากกลับจวนในตอนนี้ นางจึงได้ชวนหลิวหงเถาไปหาอะไรทำสนุก ๆ ต่อ“เจ้าเคยเข้าหอศิลป์หรือไม่ โครงการที่ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยทรงริเริ่มทำได้ไม่นานมานี้ ข้าได้ยินมาว่าที่นั่นกำลังอยากได้งานฝีมือมาประดับหอศิลป์ไว้ ในอนาคตเอาไว้สำหรับใครที่ต้องการทำการกุศลก็ให้เอางานศิลปะแขนงต่าง ๆ ส่งไปที่นั่นได้ หากภาพใดที่ขายออก รายได้จะถูกบริจาคให้เด็กยากไร้ในชนบท”หลิวหงเถาไม่ได้ติดตามข่าวสารในช่วงนี้เลย นางจึงส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ในขณะเดียวกันนางก็ตั้งคำถามขึ้นมาด้วยว่า ‘งบราชการแผ่นดินไม่เพียงพอสำหรับเด็กยากไร้เลยหรือ’ แม้จะเห็นด้วยกับการกุศล แต่ใจมันก็ยังตั้งคำถามขึ้นมาอยู่ดี“ทำไม เจ้าอยากจะส่งผลงานอะไรทำการกุศลล่ะ ภาพจากฝีมือเจ้าจะขายได้หรือ”จูจิ่วลี่นิ่วหน้า “หยาบคาย กล่าวเช่นนี้ต่างอะไรกับการที่เอามือตบหน้าข้า…แต่ก็เอาเถอะ ตกลงจะไปด้วยกันหรือไม่”หลิวหงเถาส่ายหน้า ตอนนี้นางยังหาทางออกสำหรับชีวิตตัวเองไม่ได้เลย ไม่พร้อมจะไปช่วยเหลือใครหรอก“ข้าไม่ได้มีเวลาถึงเพียงนั้น เจ้าไม่มีสหายคนอื่นแล้วหรืออย

    Last Updated : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๒๘

    หากอยากบรรจงสรรค์สร้างภาพวาดที่สื่อถึงความเป็นตัวเองขึ้นมา แน่นอนว่าหลิวหงเถาคงวาดป่าท้อ สระบัว สวนบุปผาในทางสายหวานให้เข้ากับใบหน้า แต่หากนางวาดเช่นนั้นก็คงดูจะไม่แตกต่างจนมาแทนที่ทุ่งบุปผางามในแดนสรวงสวรรค์แบบภาพเดิมได้คงต้องฉีกแนวอีกแล้วในระหว่างที่คิดว่าจะวาดภาพอะไรขึ้นมาดีนั้น หลิวหงเถาก็ได้ยินคำพูดที่ว่า ‘วาดข้าสิ มังกรดำ’ ดังขึ้นมาในหัวอยู่หลายครั้งนางมองซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นใครที่เป็นบุรุษอยู่ในที่แห่งนี้เลย ในห้องโถงที่ตั้งสำหรับการวาดภาพศิลปะนอกจากนางและจูจิ่วลี่แล้ว ก็มีสตรีอื่นอีกแค่ไม่กี่คนเท่านั้น“มองอะไรหรือ” จูจิ่วลี่ทักขึ้นเมื่อเห็นหลิวหงเถามองซ้ายมองขวา สีหน้าดูตื่นตะลึงยิ่ง“เจ้าไม่ได้ยินเสียงอันใดหรือ ข้าได้ยินเสียงบุรุษอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้”คนที่ตอนแรกตั้งใจอยากวาดพัดแต่ตอนนี้เปลี่ยนใจมาวาดร่มด้วยอีกคนส่ายหน้า แววตาฉายความตื่นตะลึงไม่น้อย เรื่องลี้ลับผีสางอะไรพวกนี้คือสิ่งที่นางกลัวจับใจ“อย่ามาล้อกันเล่นนะ ข้าว่าหูเจ้าเพี้ยนแล้ว!”“ไม่น่าใช่นะ” หลิวหงเถามั่นใจว่าตัวเองหูไม่ได้แว่วแน่ สองมือยกขึ้นจับใบหูทั้งสองข้าง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันยุ่งไม่น่าคิดไปเองว่าได้ยิน

    Last Updated : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๒๙

    “ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าความอิจฉาของข้าก็มีประโยชน์เหมือนกัน” คำพูดนี้เกิดขึ้นมาหลังจากที่ภาพวาดบนร่มของหลิวหงเถาถูกวางแทนที่ร่มลายบุปผาสวรรค์ ผู้มีพรสวรรค์เพียงแค่ไม่กี่ชั่วยามก็สามารถรังสรรค์ภาพงดงามแปลกตากว่าที่ใครทำได้ ร่มทั้งหมดที่ถูกเขียนมีแต่สีสันสวยงาม พอเจอมังกรดำตัดกับสีขาวของหลิวหงเถาไป ไม่แปลกหากจะตรึงสายตาของคนมองได้หลิวหงเถาได้รับเสียงคำชมจากทุกคนถล่มทลาย แต่เจ้าของผลงานแค่ยิ้มรับแสดงคำขอบคุณสำหรับคำชมเท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้นางตื่นเต้นจนร้อง ‘งื้อ’ ออกมาจากลำคอได้คือร่มสีชมพูมีพู่ห้อยระย้าของจูจิ่วลี่ต่างหาก“น่ารักมาก ข้าอยากได้อันนี้กลับจวน”เดิมทีจูจิ่วลี่รู้สึกหม่นหมองเป็นอย่างมาก ทุกคนพากันให้ความสนใจญาติตระกูลสายรองของนางกันไปเสียหมดจนละเลยคุณหนูตระกูลจินเช่นนาง โดยเฉพาะไท่จื่อที่สายตาจดจ้องเพียงแค่หลิวหงเถาเท่านั้นยังไม่ทันได้ถวายตัวเลย นี่ข้าจะแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเลยหรือ“ก็แค่ร่มดาดดื่นทั่วไปเท่านั้น ไม่เห็นจะน่าตื่นเต้นตรงไหน”คนเรามักมองไม่เห็นค่าในสิ่งที่ตัวเองทำและมักจะรู้สึกตายด้านกับสิ่งที่ได้รับอยู่เสมอ ต่อมความอิจฉาของหลิวหงเถาก็เช่นกัน นางดีใ

    Last Updated : 2025-05-04

Latest chapter

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ตอนพิเศษที่ 3 (จบบริบูรณ์)

    ตอนพิเศษที่ : 3เริ่มต้นชีวิตคู่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยณ ห้องหอของบ่าวสาวคู่ใหม่ในวังปีศาจ สองบ่าวสาวคล้องแขนกันดื่มสุรามงคลที่เถาฮวาเฉินเป็นผู้ทำขึ้นมาเอง แน่นอนว่ารสชาติที่ได้ย่อมต่างจากสุราทั่วไปที่นางให้ผู้อื่น“รู้หรือไม่ว่าสุราที่เราให้ฉางฉ่างดื่มจะทำให้ฉางฉ่างไม่สามารถไปดื่มสุราที่ใดได้อีก”“ข้ารู้”เถาฮวาเฉินเลิกคิ้วขึ้นสงสัย “เหตุใดถึงไม่แปลกใจหรือไม่สงสัยอันใดเลย ไม่คิดบ้างหรือว่าเราอาจจะวางยาอะไรใส่ให้ฉางฉ่างดื่มกินก็ได้”หยิ่นฉางยกยิ้ม ทั้งยังเทสุราใส่จอกแล้วยกดื่มให้นางดูอีกสามครั้ง เป็นการบอกว่าเขาไม่ได้สงสัยในสิ่งนี้ ช่างขยันในการพิสูจน์ด้านการกระทำสำคัญกว่าคำพูดจริง ๆ“ท่านรู้สึกแย่หรือไม่ ที่ข้าไม่ได้บอกท่านก่อนเรื่องที่ให้ท่านพ่อเตรียมงานแต่งงานของเราไว้”ท่าทางของเถาฮวาเฉินไม่แสดงออกว่าโกรธหรือไม่ แต่เขาก็ยังอยากรู้ความรู้สึกลึก ๆ ของนาง“อือ” นางทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่คนที่เฝ้ารอคำตอบกลับแอบกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว “อาจจะตกใจไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรนะ ฉางฉ่างก็อย่าคิดมาก เราเป็นคนตรง ๆ อยู่แล้ว คิดอย่างไรรู้สึกอย่างไรไม่เก็บมาคิดคนเดียวหรอก”“จริงหรือ”“จริงสิ

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ตอนพิเศษที่ 2

    ตอนพิเศษที่ : 2องค์ชายเล็กของแดนปีศาจ“ว้าว~นี่เป็นครั้งแรกเลยกระมังที่เราได้มาเยือนพระราชวังของแดนปีศาจ ใหญ่โตดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบเหมือนกันนะฉางฉ่าง”หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแนบชิดกันมาสามวัน คำเรียกของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปแล้ว จาก ‘หยิ่นฉาง’ ก็เป็น ‘ฉางฉ่าง’ และจากเถาฮวาก็เป็น ‘เถาเถ่า’“ต่อไปที่นี่ก็คือบ้านของเถาเถ่า ท่านพ่อต้องชอบท่านแน่ ไม่ต้องกังวลนะ เขาจะดีต่อท่าน”เถาฮวาเฉินพยักหน้ารับพร้อมสูดหายใจเข้าลึก ในใจคิดเหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าเพิ่งผ่านช่วงแต่งงานแล้วก็กลับมาเยี่ยมบ้านเจ้าสาวกันนะ ว่าแต่…“จอมปีศาจจะชอบสุราของเราหรือไม่ สุราหมื่นปีแบบนี้แม้จะเป็นของหายาก แต่ไม่ได้มีใครที่จะได้ดื่มกินบ่อย ๆ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะไม่คุ้นลิ้น อย่างช่วงงานฉลองราชย์ขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ เราเคยเอาสุราหมื่นปีถวายเช่นกัน แต่พระองค์มิใคร่พอใจนัก ช่างเอาใจยากจริง ๆ”หยิ่นฉางหัวเราะในลำคอเบา ๆ หากบิดาของเขาได้ยินคำบ่นนี้ของนางไม่วายหัวเราะชอบใจที่นางเอ่ยนินทาประมุขของเผ่าสรรค์เช่นนี้“ทุกคนรอเราอยู่ที่ท้องพระโรงใหญ่”“หือ ท้องพระโรงหรือ”เถาฮวาเฉินรู้สึกเอะใจกับคำพูดนี้ของเขามาก จนกระทั่งเขาพานางเดินมาถึงจ

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ตอนพิเศษที่ 1

    ตอนพิเศษที่: 1กิจกรรมที่คนคบกันเขาทำกัน ณ พระราชวังแคว้นชิงชิว “ท่านว่าเรามองนางอยู่เช่นนี้มานานแค่ไหนแล้ว”“ไม่รู้สิ หนึ่งชั่วยามได้แล้วหรือไม่ ถ้าท่านรู้สึกว่าเสียเวลาก็ไปทำงานที่คั่งค้างไว้ก่อนได้เลย ข้าขอดูนางต่ออีกหน่อย”หยิ่นฉางส่ายหน้าเบาๆ “ได้ใช้เวลาอยู่กับท่าน เช่นนี้ไม่เรียกว่าเสียเวลาหรอก แล้วอีกอย่างข้าก็ว่างมากด้วย”ตอนนี้เถาฮวาเฉินและหยิ่นฉางได้ลงมาโลกมนุษย์อีกครั้งเพื่อทำกิจกรรมที่คู่รักเขาทำกัน นั่นคือการทำอะไรก็ได้ให้ใช้เวลาร่วมกันมากที่สุด ซึ่งสิ่งที่เถาฮวาเฉินเสนอมาก็คือการนั่งมององค์หญิงสาม บุตรสาวของหลิวหงเถาที่กำลังนั่งอ่านตำราอยู่เถาฮวาเฉินละสายตาจากองค์หญิงสามเพื่อหันกลับมาจ้องมองหยิ่นฉาง “ใช้คำพูดรุกเราให้ใจเต้นรัวอีกแล้วนะ” จากนั้นก็จูงมือเขาออกจากศาลาที่องค์หญิงสามนั่งอยู่ ทั้งคู่พรางกายเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีมนุษย์ผู้ใดสามารถมองเห็นได้“ช่วงข้าวใหม่ปลามันจะให้แผ่วได้อย่างไร”ไม่เพียงแต่พูดเท่านั้น แขนยาวยังเอื้อมไปโอบไหล่นางพร้อมซบหน้าลงหัวไหล่ด้วย เถาฮวาเฉินไม่ได้ขัดขืนทั้งยังยกมือขึ้นลูบศีรษะเขาตอบ ทั้งคู่จับมือกันเดินผ่านสวนงดงามของวังหลวงและพูด

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๓

    เถาฮวาเฉินพูด :“อื้อ~สบายจัง”ข้าบิดขี้เกียจพร้อมกล่าวเสียงอู้อี้ออกมาขณะที่ดวงตายังคงปิดสนิทอยู่ ข้ารู้สึกที่นอนนั้นช่างหนานุ่ม สามารถดูดวิญญาณของข้าให้อยู่บนนี้ได้ทั้งวัน แต่เดี๋ยวก่อนนะ…“ข้ามีเตียงแบบนี้ด้วยหรือ”“...จากที่ข้าลอบเข้าไปดูที่แดนดอกท้อ ไม่มีนะท่าน”เฮือก!เพียงแค่ได้ยินเสียงของเขาเท่านั้นข้าก็เด้งตัวขึ้นมานั่ง จากที่ไม่อยากลืมตาสู้แสง ดวงตากลับแจ่มชัดไร้ความพร่ามัว“นี่ท่าน…”กำลังจะตั้งคำถามว่า ‘นี่ท่านมาอยู่ห้องของเราได้อย่างไร’ แต่สุดท้ายก็เงียบไป เพราะคิดได้ว่าตนเองต่างหากที่มาอยู่ในดินแดนของผู้อื่น“ว่าต่อสิ หรือกำลังคิดอยู่ว่าข้าได้ทำอะไรท่านหรือไม่”หยิ่นฉางถามขึ้นยิ้ม ๆ ทั้งยังถอยห่างออกจากข้าดั่งกับว่าเขาอยากให้ข้ารู้สึกปลอดภัย ไม่โดนคุกคามอยู่ นั่นจึงทำให้ข้ารู้สึกดีต่อการกระทำนี้ของเขามาก“เราเปล่าคิดเช่นนั้นสักหน่อย ว่าแต่ท่าน…”ข้าไล่สำรวจเขาทั้งร่าง ตอนแรกก็แค่รู้สึกว่าเขามีอะไรเปลี่ยนไปสักอย่าง พอสำรวจอย่างละเอียดอีกที ที่แท้เป็นเพราะชุดสีขาว“ข้าดูแปลกตาไปใช่หรือไม่ ท่านจึงได้จ้องตาไม่กะพริบถึงเพียงนี้”หยิ่นฉางถามด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ก่อนที่จะยื่นมือม

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๒

    สิ้นคำที่หยิ่นฉางปฏิเสธว่าตนไม่ใช่ ‘สุภาพชน’ เขาก็แสดงอาการตรงข้ามกับคำพูดนี้ทันทีโดยการอุ้มร่างบางเข้าสู่อ้อมแขนแล้วหายวับกลับถิ่น ณ ดินแดนปีศาจในทันทีตุบ!“โอ๊ย!”หยิ่นฉางวางเถาฮวาเฉินลงบนเตียงอย่างแรงจนร่างบางรู้สึกเจ็บจนต้องร้องออกมา ใบหน้างามชักสีหน้าใส่เขา แต่หยิ่นฉางหรือจะสน ร่ายมนตร์สร้างอาณาเขตไว้เพื่อไม่ให้เถาฮวาเฉินใช้พลังหนีออกจากที่นี่ไปได้จนกว่าจะสนทนากันให้รู้เรื่อง“ท่านรู้หรือไม่ว่าตอนนี้ ข้าก็นับว่าเป็นปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดตนหนึ่งในแดนปีศาจ มีทั้งประสบการณ์ด้านการต่อสู้ ไม่ว่าจะทั้งสัตว์อสูรร้ายหรือแม้กระทั่งเทพเซียนที่แข็งแกร่ง ข้าก็ผ่านมาแล้ว สำหรับท่านที่วัน ๆ หมักแต่สุรา...”พูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป อีกทั้งยังส่ายหน้าน้อย ๆ สองครั้ง ทำเอาคนถูกสบประมาทเดาคำว่า ‘สำหรับข้าไม่นับว่าเป็นอะไร จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด’ จากท่าทางของหยิ่นฉางได้แล้ว“เมื่อก่อนท่านไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่เหตุใดถึงได้เปลี่ยนมาเป็นเช่นนี้”หยิ่นฉางเลิกคิ้ว “ก็ไม่ใช่ว่าท่านบอกให้ข้าลืมเลือนเรื่องในอดีตหรอกหรือ นี่อย่างไร ข้าก็ลืมความอ่อนโยนที่เคยมีให้แล้วแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาแล้ว ตกลงจะเอาอย่าง

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๑

    “หึ! โดนเสด็จพ่อของพวกเจ้าลงโทษเรื่องใดมาเล่า ถึงได้มากวาดลานวัดเช่นนี้”“ท่านน้า”องค์ชายแฝดทั้งสองทิ้งไม้กวาดแล้ววิ่งเข้าไปหา ‘ท่านน้าหยิ่นฉาง’ ผู้ที่เวลาไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย เมื่อก่อนมีรูปลักษณ์เช่นไรตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิมไม่แปรเปลี่ยน“พวกเจ้านี่นะ โตจนป่านนี้แล้วยังทำตัวเหมือนกับลูกลิงอยู่ได้ รักษาภาพลักษณ์องค์ชายแห่งแคว้นบ้างเถิด”องค์ชายใหญ่พ่นลมหายใจออกจากจมูกอย่างแรง ก่อนที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“ท่านน้า ภาพลักษณ์ของพวกเราไม่เหลือตั้งแต่ที่เสด็จพ่อให้มากวาดลานวัดเช่นนี้แล้วขอรับ”“แต่ข้าว่าไม่เหลือตั้งแต่ไปก๊งเหล้าที่ร้านนั้นแล้วละ”อ๋องน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนที่จะเดินเข้ามารวมกลุ่มด้วย ที่จริงเขาไม่ได้โดนลงโทษให้มากวาดลานวัดเช่นนี้ แต่มีหรือที่องค์ชายแฝดจะปล่อยให้เขารอดไปได้ ทั้งยังกล่าวว่า…‘มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ก็ต้องร่วมฝ่าฝันไปด้วยกัน’“หือ” หยิ่นฉางเลิกคิ้วถาม “ร้านใดกันที่ทำให้ท่านอ๋องน้อยแห่งตำหนักชินอ๋องถึงขั้นไปลิ้มลองได้”องค์ชายรองเป็นคนอธิบายคำถามนี้ “เป็นร้านสุราดอกท้อข้างทางเล็ก ๆ ร้านหนึ่งขอรับท่านน้า คนขายเป็นพ่อค้าหน้าหยก รสชาติสุราเป็นร

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๐

    “ต้าเกอ วันนี้กระบวนท่าไม่เลวเลย ฝีมือท่านพัฒนาขึ้นมาก”“เป็นเอ้อร์ตี้ออมมือให้ต่างหาก มิเช่นนั้นเราคงไม่เสมอกันเช่นนี้ เอาเป็นว่าขอบคุณที่ทำให้ต้าเกอไม่เสียหน้าก็แล้วกัน ไม่สิ! ต่อให้แพ้ แต่แพ้เอ้อร์ตี้ ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอายอะไร”“ต้าเกอก็ชมข้าเกินไปแล้ว มา! เอ้อร์ตี้คารวะให้ท่านหนึ่งจอก”“ได้เลย”สองบุรุษหน้าตาคล้ายกันเกือบสิบส่วนเอื้อนวาจาเยินยอกันเองก่อนที่จะยกจอกสุราชนกัน ทั้งสองคนที่ว่าก็คือองค์ชายใหญ่และองค์ชายรองของแคว้นชิงชิวนั่นเอง ก่อนทั้งสองกลับวังตนเองทั้งคู่ได้ชวนกันมาร่ำสุราที่ร้านข้างทางเล็ก ๆ ร้านหนึ่ง“อือ สุราดี”รสชาติของสุราทำให้ทั้งสองพอใจเป็นอย่างมาก ขนาดที่ทั้งคู่หันไปชมเถ้าแก่ร้านหน้าละอ่อนไม่หยุด“เถ้าแก่ สุราดอกท้อของท่านรสชาติดียิ่ง ท่านทำเองหรือว่ารับมาขาย”เถ้าแก่ร่างบางตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาก่อนที่จะแย้มยิ้มรับคำชมนั้นอย่างภูมิใจ“แน่นอนว่าข้าย่อมหมักเอง คุณชายทั้งสองสนใจซื้อในปริมาณมากหรือไม่ ข้าน้อยจะคิดราคาให้เป็นพิเศษเลย”“โอ้ เช่นนั้นข้าขอสั่งสักสิบไหได้หรือไม่ เถ้าแก่เชิญคิดราคามาได้เลย”“สิบไหเป็นห้าตำลึงเงินก็แล้วกัน ราคากันเอง”ไม่เพียงองค์ชายทั้

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๔๙

    หลิวหงเถาพูด:เวลาของโลกมนุษย์และดินเแดนเบื้องบนต่างกัน หนึ่งวันของแดนสวรรค์เท่ากับหนึ่งปีของโลกมนุษย์ ระยะเวลารวมที่ข้าเซียนจากแดนแห่งการชำระล้างจากไปเป็น 40 วัน ของแดนสวรรค์ ในเมืองมนุษย์ก็เท่ากับ 40 ปีใช่! ตอนนี้ข้าตายจากการเป็นมนุษย์และได้กลับมายังดินแดนชำระล้างแล้ว พลังบริสุทธิ์ที่คุ้นเคยทำให้ข้ารู้สึกร่างกายคล้ายกับได้รับการเยียวยา พลังวิญญาณแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก …ที่แท้ความรู้สึกของการเลื่อนขั้นเป็นเช่นนี้ข้าเดินเข้าไปที่ห้องโถงใหญ่อันมีดอกไม้นานาชนิดประดับตกแต่งไว้ ทั้งการจัดโต๊ะ ทั้งบรรยากาศโดยรอบให้ความรู้สึกถึงงานเลี้ยงฉลองไม่มีผิด ทันใดนั้นข้าก็ได้ยินเสียงของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น“ยินดีต้อนรับเซียนเถาฮวา ไม่ใช่สิ! ยินดีต้อนรับเทพเถาฮวากลับสู่แดนชำระล้าง ทั้งหมดนี้คืองานฉลองการต้อนรับกลับบ้าน”คนแรกที่ข้าเห็นยามเดินเข้ามาในห้องโถงคือท่านหัวหน้าดินแดน สิ้นประโยคของนางก็เกิดคลื่นพลังมากมายหลากสีขึ้นมาในห้องโถง พร้อมกับการปรากฏตัวของเทพเซียนองค์อื่น ๆ“ยินดีต้อนรับเถาฮวาเฉิน” พวกนางกล่าวต้อนรับข้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ข้าจึงมอบรอยยิ้มจริงใจส่งกลับไปให้ทุกคนเช่นกัน“ขอบคุณ

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๔๘

    เมื่อยามที่ก้าวเท้าเดินเข้าไปในตำหนักแล้วได้ยินเสียงอ้อแอ้ของเด็กหญิง เสียงพูดไม่ชัดของเด็กชาย เสียงใสของสตรีอันเป็นที่รัก มันทำให้ข้ารู้สึกถึงคำว่า ‘ครอบครัว’นึกอยากขอบคุณเสด็จอาในวันนั้นที่บอกให้เขาอย่าได้สัญญาว่าจะไม่แตะต้องนาง มิเช่นนั้นคืนวันเหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้นในชีวิตเขา“เสด็จพ่อ”‘อีเกอ’ พระโอรสองค์แรกของเขาวิ่งเข้ามาเกาะขา ร่างสูงก้มตัวลงแล้วอุ้มบุตรชายขึ้นแนบอก กดจมูกหอมแก้มซาลาเปาอย่างหมั่นเขี้ยว การที่มีคนหน้าตาคลายคลึงนางเพิ่มมาถึงสามช่างดีจริง ๆ“ฝ่าบาท…”ฮองเฮาคู่บัลลังก์ของเขาเพียงแค่ส่งยิ้มมอบให้เท่านั้น ไม่ได้ลุกขึ้นทำความเคารพ เพราะเขาเคยห้ามไว้ไม่ให้นางทำในเวลาส่วนตัวเช่นนี้“เป็นอย่างไรบ้าง ตำหนักใหม่ถูกใจฮองเฮาหรือไม่”ฮ่องเต้หนุ่มถามนางขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงความนุ่มนวลไว้หลายส่วน นางพยักหน้ารับเบา ๆ แล้วส่งบุตรีคนที่สามมาให้เขาอุ้ม ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏรอยยิ้มเมื่อเห็นเหงือกสีชมพูอ่อนไร้ฟันแย้มยิ้มดีใจที่เขาจะอุ้มนาง“เสี่ยวเม่ยของพ่อ”ไทเฮาโปรดหลานสาวคนนี้มากกว่าใคร ฮ่องเต้หนุ่มทราบว่าพระมารดาอยากมีองค์หญิงน้อยมาตลอด แต่ว่าสภาพร่างกายไม่เอื้อต่อการมีบุต

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status