ณ ห้องนอนของคลาส
“เจ้ามีอะไรที่อยากจะบอกข้าหรือไม่ ตอนนี้มีเพียงเราสองคน ไม่มีผู้อื่นแล้ว” คลาสถามเพราะอยากให้น้องชายฝาแฝดพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาเสียที
“ข้าชอบไวท์ ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็เหมือนเดิม ความรู้สึกไม่เปลี่ยนแปลง” ครอสตอบคำถามตามที่แฝดผู้พี่อยากรู้
“ข้าเองก็ชอบไวท์ไม่ต่างจากเจ้าหรอก แต่ไม่ได้แสดงออกมากเช่นเจ้าเท่านั้นเอง” คลาสถอนหายใจออกมาเบา ๆ เพราะเป็นอย่างที่ตนเองคิด แฝดผู้น้องกำลังคิดเรื่องนี้
“วันนี้ข้าคุยกับไวท์มาแล้ว”
“ไวท์ว่าอย่างไรบ้างล่ะ”
“ลองไปคุยกับไวท์เรื่องนี้สักครั้งแล้วท่านพี่จะเข้าใจ ข้าในตอนนี้จะพยายามทำหน้าที่ของเจ้าชายให้ดีและปกป้องจักรวรรดิ ไม่มีเรื่องอะไรให้เป็นกังวลอีกต่อไป” ครอสบอกพลางเปิดประตูออกไปพักผ่อนห้องของตนเอง
แกร๊ก!
จู่ ๆ ภายในคอของรัชทายาทก็แห้งผาดเหมือนต้องการอะไรสักอย่างให้เข้ามาเติมเต็มพลังของตนเอง มือหนา
ณ ห้องนอนของคลาส“เจ้ามีอะไรที่อยากจะบอกข้าหรือไม่ ตอนนี้มีเพียงเราสองคน ไม่มีผู้อื่นแล้ว” คลาสถามเพราะอยากให้น้องชายฝาแฝดพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาเสียที“ข้าชอบไวท์ ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็เหมือนเดิม ความรู้สึกไม่เปลี่ยนแปลง” ครอสตอบคำถามตามที่แฝดผู้พี่อยากรู้“ข้าเองก็ชอบไวท์ไม่ต่างจากเจ้าหรอก แต่ไม่ได้แสดงออกมากเช่นเจ้าเท่านั้นเอง” คลาสถอนหายใจออกมาเบา ๆ เพราะเป็นอย่างที่ตนเองคิด แฝดผู้น้องกำลังคิดเรื่องนี้“วันนี้ข้าคุยกับไวท์มาแล้ว”“ไวท์ว่าอย่างไรบ้างล่ะ”“ลองไปคุยกับไวท์เรื่องนี้สักครั้งแล้วท่านพี่จะเข้าใจ ข้าในตอนนี้จะพยายามทำหน้าที่ของเจ้าชายให้ดีและปกป้องจักรวรรดิ ไม่มีเรื่องอะไรให้เป็นกังวลอีกต่อไป” ครอสบอกพลางเปิดประตูออกไปพักผ่อนห้องของตนเองแกร๊ก!จู่ ๆ ภายในคอของรัชทายาทก็แห้งผาดเหมือนต้องการอะไรสักอย่างให้เข้ามาเติมเต็มพลังของตนเอง มือหนา
“หึ พวกเจ้าเอ่ยเช่นนี้หมายความว่าจะตั้งใจจงรักภักดีต่อไวท์จากใจจริงสินะ”“พะยะค่ะ รัชทายาท”การประลองในครั้งนี้ทำให้ได้สิ่งที่อยากได้หลังจากส่งจดหมายไปหาตระกูลเชื้อพระวงศ์ทั้งหมดมาแล้ว จากนี้ไปจะมีตระกูลที่จงรักภักดีไม่ใช่แค่ต่อเขาแต่จะมีต่อไวท์ด้วยพลังของตนเอง ไม่ใช่การพึ่งพาบารมีของผู้อื่นอีกต่อไปแล้วพลังของครอสไม่ใช่เล่นเลย ทั้งแรงกดดันทั้งพละกำลังและเวทย์มนตร์ถือว่าสูงมาก ทำไมถึงได้อึดขนาดนี้กันแน่ แต่เป็นถึงเจ้าชายจะมาเอาชนะได้ง่าย ๆ ก็คงไม่ใช่แล้วล่ะ เขาเปลี่ยนพลังเวทย์จากทางมังกรมาเป็นเทพแทนแล้วร่ายออกมาตูม!พลังเวทย์สีขาวที่โจมตีใส่เขาเมื่อกี้ไม่ใช่ของมังกรแต่เป็นเทพ เจ้าเด็กคนนี้จะพัฒนาตัวเองไปถึงเมื่อไหร่กัน ยอมให้ข้าบ้างไม่ได้หรือกระไรกัน ตอนนี้ใช้พลังทุกอย่างไปมากแล้ว น่าจะถึงเวลาตัดสินกันเสียทีในเวทย์มนตร์ครั้งนี้ล่ะ“หึ คิดจะตัดสินในครั้งนี้แล้วสินะ” เสียงทุ้มต่ำพูดออกมาอย่างรู้ทันเพราะเห็นจากสีหน้าของครอสแล
“ท่านพ่อจงใจให้พวกเรามาโดนไวท์อัดจนน่วมใช่ไหม” ครอสบ่นทันทีพลางประคบส่วนที่บาดเจ็บไปด้วย“ยังไงร่างกายของเจ้าก็ฟื้นตัวไวอยู่แล้ว จะบ่นไปทำไม” คลาสบอกพลางประคบเหมือนกัน“พวกเจ้าน่าจะรู้อยู่แล้วว่าการถูกส่งมาฝึกซ้อมเป็นการลงโทษ และจากที่เล่ามาโดนต่อยแค่นิดเดียวเองแต่คนอื่นปะทะตั้งนานจนบาดเจ็บกันขนาดนั้น ยังจะมาพูดอีกว่าโดนอัดจนน่วม ไม่ละอายใจบ้างรึ” เสียงทุ้มต่ำพูดพลางมองไปยังแวมไพร์คนอื่นที่มีสภาพหนักกว่าน้องชายของตนเองทั้งหมด“ท่านไวท์แข็งแกร่งขึ้นมากกว่าหกเดือนก่อนพะยะค่ะ” เฟลิกซ์รายงานเพราะว่าตนเองเฝ้าสังเกตมานานถึงจะมีความสามารถทางการต่อสู้อยู่แล้วแต่ว่ามันพัฒนามากขึ้นกว่าแต่ก่อนหลายเท่านัก“ข้าเชื่อเจ้าดูจากสภาพของแต่ละคนแล้ว ลำพังแค่สู้มือเปล่ายังสามารถเอาชนะแวมไพร์ได้มากขนาดนี้ ถ้าใช้เวทย์มนต์ล่ะก็...น่าจะไม่มีใครต้านทานได้อย่างแน่นอน”ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยทันทีเพราะว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างผ่านการต่อสู้ที่หนักหนาส
ณ ลานฝึกซ้อม“ถ้างั้นข้าจะแนะนำอีกสามท่านที่เพิ่งมาเมื่อวานแล้วกัน บารอนฟรัง เอิรล์สตุฟเฟล ลอร์ดโฟลช์ ทั้งสามท่านนับจากวันนี้เป็นต้นไปจะมาทำหน้าที่เป็นอัศวินของข้า ขอให้ทุกคนจดจำและไม่เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันในภายหลังด้วยขอรับ”“รับทราบ คุณชายริค” ทั้งสามคนขานรับ“ไม่ใช่ขอรับ ต้องพูดว่ารับทราบ ท่านไวท์ ไหนลองพูดอีกที”“รับทราบ ท่านไวท์”“วันนี้เจ้าชายคลาสกับเจ้าชายครอสจะมาเป็นคู่ฝึกซ้อมให้ข้าชั่วคราว ขอให้ทุกคนรอดูบริเวณด้านนอกแทน”“ขอรับ ท่านไวท์”“แล้วอาจารย์ล่ะไวท์” เอิรล์ฟาร์ดอนถามด้วยความสงสัยเพราะมาอยู่ที่นี่ไม่ถึงสามวันก็เปลี่ยนคู่ซ้อมแล้วเหรอ“ท่านอาจารย์ไปรอด้านนอกก่อนขอรับ เดี๋ยววันอื่นค่อยมาซ้อมด้วยกัน”“ได้”“แล้วจะเริ่มจากใครก่อนล่ะไวท์” คลาสถามเ
“แน่นอนครับ ตกลงมีเรื่องอะไรกันแน่”“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เคร่งเครียดมากสำหรับที่นี่ และช่วยกันวางแผนอยู่นานหลายเดือนแต่เจ้ากลับพูดด้วยวิธีที่ง่ายดายเช่นนั้น ใครจะไม่ขำกันล่ะ แม้แต่ข้ายังพยายามกลั้นหัวเราะเลย” เขาเฉลยออกไปในที่สุดและพยายามไม่หัวเราะตามคนอื่นถึงแม้ว่ามันจะยากก็ตามที“ที่นี่ดูสนุกสนานกว่าที่คิดไว้แต่ว่าถ้าตามบ้านเกิดของผมถือเป็นเรื่องที่ทำกันประจำอยู่แล้วครับ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย”“สงสัยเพราะสภาพแวดล้อมวิธีการเลี้ยงดูเลยแตกต่างกันสินะ ข้าคิดว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”“ดียังไงเหรอครับ”“ความคิดของเจ้าอาจจะทำให้ครอบครัวของเราไม่ต้องเหนื่อยมาก และจะได้ทำงานกันอย่างสงบสุข”“แบบนั้นก็น่าจะเป็นผลดีที่สุดแล้วครับ” เสียงทุ้มนุ่มบอกพลางยิ้มหวานปึง!“แย่แล้วพะยะค่ะ!มีคนมาขอเข้าเฝ้าแล้วอ้างว่าเป็นบุตรของจักรพรรดิที่เกิดจากอนุภร
ณ ห้องรับแขก“อรุณสวัสดิ์ขอรับคุณชายริค ข้า บารอนฟรัง โรรอน”“อรุณสวัสดิ์ขอรับคุณชายริค ข้า เอิรล์สตุฟเฟล มิลาน”“อรุณสวัสดิ์ขอรับคุณชายริค ข้า ลอร์ดโฟลช์ คาลิด”“ในฐานะที่ข้ามีอำนาจสูงสุด ขอเป็นตัวแทนของทั้งสามตระกูล นับจากวันนี้ไปพวกเราจะเข้ามาคอยดูแลรับใช้ตลอดชีวิตของพวกข้า จะจงรักภักดีต่อคุณชายริค ไวท์ตลอดไป” หลังสิ้นสุดคำพูดของลอร์ดโฟลช์ทุกคนก็ทำความเคารพทันที“หลังจากนี้ไปขอฝากตัวด้วยขอรับ บารอนฟรัง เอิรล์สตุฟเฟล ลอร์ดโฟลช์”“ขอรับ คุณชาย / ขอรับ คุณชาย / ขอรับ คุณชาย”“คัสซัสพาทั้งสามท่านไปห้องพักด้วย ส่วนเฟลิกซ์ตามฉันกลับมาห้องทำงาน”“ขอรับ ท่านไวท์ / ขอรับ ท่านไวท์”หลังจากรับเอกสารของคีย์มาว่าจะมีคนจากทางเชื้อพระวงศ์มาเป็นคนรับใช้เพิ่มอีกสามคน ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่แต่น่าจะเกี่ยวกับในอนาคตที่จะก
ขาซ้ายเข้าเตะกลางลำตัวเข้าอย่างจังแต่เอิรล์หลบได้ทันแล้วออกหมัดซ้ายสวนกลับไป ซึ่งใบหน้าหวานหลบแล้วแต่เฉียดโดนนิดหน่อยทำให้ใบหน้าเป็นรอยขึ้นมาเล็กน้อย ปลายดาบของมือขวาวาดไปทางขวาหวังจะฟันให้โดนจุดสำคัญแต่อีกคนหลบได้ทันเช่นกันเคร้ง!!!เสียงดาบทั้งสองเข้าปะทะกันซึ่งหน้า ใบหน้าของทั้งสองคนไม่มีใครยอมใครเลย แม้ว่าจะเป็นเพียงการเรียนและการฝึกซ้อมแต่ดูจริงจังมากจนนึกว่าจะฆ่ากันจริง ๆ ไวท์อาศัยจังหวะที่เอิรล์สนใจแต่การปะทะด้านยกขาขวาขึ้นมาเตะกลางลำตัวอีกคนจนกระเด็นไปอีกทาง“ไหวหรือเปล่าขอรับ เอิรล์ฟาร์ดอน” ร่างสูงโปร่งรีบวิ่งตามไปในทิศทางที่อีกคนกระเด็นไปทันทีด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นไรหรอกขอรับ ว่าแต่ท่านเรียกผิดแล้ว” เอิรล์ส่ายหัวเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู“ผิดอย่างไรหรือขอรับ”“ท่านต้องเรียกข้าว่า อาจารย์ฟาร์ดอนต่างหาก”“ได้ขอรับ อาจารย์ฟาร์ดอน”แปะ! แปะ! แปะ!&
“ข้าไม่ใช่พี่ชายของท่าน ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรกัน” เสียงทุ้มนุ่มตอบพลางกางมือออกแล้วสับไม้ให้ขาดออกจากกันเป็นสองท่อน“ฝีมือของคุณชายริค สมบูรณ์แบบมากจริง ๆ ”“ขอบคุณสำหรับคำชม แต่ว่าอยากจะลองฝึกด้วยกันไหมล่ะขอรับ” เสียงทุ้มนุ่มถามหลังจากเห็นอีกคนมองด้วยความสนใจมานาน“น่าสนใจขอรับ ต้องเริ่มจากอะไรก่อน” เอิรล์ฟาร์ดอนไม่มีทางปฏิเสธคำชวนอยู่แล้ว เพราะหลังจากสังเกตดี ๆ ช่างเป็นอะไรที่ประหลาดและแตกต่างนักเอิรล์ฟาร์ดอนตั้งใจเรียนสิ่งที่อีกคนสอนอย่างตั้งใจ ถึงจะเข้าใจทั้งหมดแล้วลองทำตามแต่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้องใช้พละกำลังที่มหาศาลและสมาธิสูงพอสมควร ดูด้วยตาเปล่ายังไม่สามารถทำตามได้ในทันที“จะทำยังไงต่อไปหรือพะยะค่ะ รัชทายาท” เมล์ถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้วว่าผู้เป็นนายกำลังหวงพระคู่หมั้นของตนเอง“หวังว่าจะผลัดกันแลกเปลี่ยนวิชาเฉย ๆ เพราะข้าผูกพันธะสัญญาเลือดกับไวท์แล้ว ถึงจะมาชอบยังไงคงจะไม่มีทางเป็นไปได้อีก เลิกหวังสิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้เสียดีกว่า” เสียง
“อร่อยขอรับ รสชาติแตกต่างจากที่เคยกินมา” ใบหน้าของฟาร์ดอนบ่งบอกถึงความพอใจหลังชิมนมสดของคุณชายริค ไม่ได้โกหกเรื่องรสชาติ อร่อย กลมกล่อม ไม่เหมือนที่เคยกินมาเลย“ถ้างั้นจะลองช่วยกันทำขนมไหมครับ อยากได้คนช่วยนวดแป้ง”“ไม่มีปัญหาขอรับ งั้นให้ทำตรงไหนบ้าง”เสียงหัวเราะของทั้งสองคนระหว่างช่วยกันทำขนมดังพอสมควรจนกระทั่งเฟลิกซ์เดินผ่านมาเห็นพอดี เหมือนผู้เป็นนายของเขาจะมีเสน่ห์มากจนใครเห็นก็เอ็นดู แต่ว่าเอ็นดูอย่างเดียวก็พอ อย่ามีความรู้สึกอื่นเข้ามาด้วย“เจ้าไปตามไวท์มาดูเอกสารตรงนี้สิ คิดว่าน่าจะอยู่ห้องครัว”“พะยะค่ะ รัชทายาท”เมล์จะเดินมาเรียกคุณชายริคให้ไปหาแต่มาเห็นกำลังตั้งใจทำขนมเลยกลายเป็นไม่กล้าเรียกแล้วหยุดยืนรอจนกระทั่งเวลาผ่านไปสักพัก...“เมล์มีอะไรจะคุยกับผมหรือเปล่าครับ ยืนรอนานแล้วไม่ใช่เหรอ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยทักโดยที่ยังคงพยายามผสมแป้งอยู่ด้านในครัว ทำให้ทุก