"แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะทำไม่ได้เพราะจะมีคนคอยช่วยสอนให้เป็นระยะเวลาสามวัน หมายความว่าสี่วันที่เหลือจะต้องทำเองทุกอย่างทั้งหมดเพียงแค่สองคน คนอื่นข้าให้พักงานเป็นระยะเวลาสี่วัน"
"ข้อสุดท้ายก็คือในช่วงระยะเวลาการลงโทษนั้นจะต้องใส่ชุดข้ารับใช้หลวงผู้ชายไปจนกว่าจะหมดระยะเวลาการรับโทษ และเรื่องการกระทำความผิดครั้งนี้จะถูกเขียนรายงานส่งทางพระราชวังด้วยลายมือและตราประทับของผม"
"ส่วนเหตุผลนั้นไม่ยาก หากรู้จักละอายต่อความผิดในครั้งนี้แล้วนั้น จะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง" รอยยิ้มหวานที่เหมือนบาดลงไปในใจของแวมไพร์วัยหนุ่มทั้งสองนั้นไม่ได้ชวนให้ดูน่ารักแต่มันน่าสยดสยองเสียมากกว่าในเวลานี้ เสียงร้องโหยหวนร้องขอความตายดังออกมาจากทั้งคู่ทันที
"คุณชายขอรับ ช่วยให้ข้าตายเสียเถอะ หากลงโทษเช่นนี้" เมล์บอกด้วยใบหน้าหนักใจและอยากตายมากกว่ามีชีวิตอยู่ ไม่เพียงแต่เป็นการลงโทษที่ยากแต่ยังสร้างความอับอายให้เป็นประวัติเสื่อมเสียแก่วงศ์ตระกูลอีกต่างหาก
"ข้าด้วยขอรับ ถ้าลงโทษแบบนี้ได้โปรดใช้กริชเงินแทงที่หัวใจของข้าเสียดีกว่า ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน" คีเซินก็มีความคิดเห็นไม่ต่างจากฝ่ายตรงข้ามนัก หากเป็นเช่นนี้ยอมตายเสียดีกว่า
"หึ! ทียังงี้ล่ะ สามัคคีกันขึ้นมาเชียว คำสั่งออกไปแล้วไม่มีการเปลี่ยนแปลง"
"ไปห้องหนังสือกันเฟลิกซ์ ข้าอยากเขียนรายงานเรื่องนี้แล้ว"
"ขอรับ"
ไม่น่าเชื่อว่าเจ้านายที่น่ารักของเขาจะโหดถึงขนาดนี้ รู้บทลงโทษแบบนี้แล้วไม่มีทางกล้าทำอะไรผิดเด็ดขาด มันไม่ได้บาดเจ็บแต่ทำให้อับอายไม่รู้จะอายยังไงแล้ว ภาษาจักรวรรดิก็เหมือนจะเรียนรู้ได้เร็วถึงขนาดที่เขียนรายงานออกมาได้สละสลวยเช่นนี้ ความน่ากลัวทางสายเลือดมันคงเข้มข้นน่าดู
มาร์แชลไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีมุมที่โหดแบบนี้ด้วยเหมือนกัน ถึงจะไม่ใช่การลงโทษด้วยความตายแต่แบบนี้มันตายทั้งเป็นกันชัดๆ และเขาคิดว่ามันคงจะดีกับตนเองมากนัก หากหลีกเลี่ยงที่จะไม่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามโกรธกันแบบนี้ น่ากลัวเสียยิ่งกว่าความตายเป็นไหนๆ
คีย์กลับเห็นต่างจากหลายๆ คน เขามองว่านี่แหละคือความแข็งแกร่งของเผ่าพันธ์มังกรที่มีอยู่ในตัวของเด็กคนนี้ แต่ไหนแต่ไรมาประวัติของมังกรในเรื่องความกล้าหาญและเด็ดขาดถูกส่งต่อกันมารุ่นต่อรุ่น เด็กคนนี้ก็คงจะไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก หากศึกษาข้อมูลให้ดีอาจจะเป็นการช่วยจักรวรรดิได้ในภายภาคหน้าก็เป็นได้
"คุณชายไวท์ ข้าเองก็มาที่นี่ค่อนข้างนานแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะ" มาร์แชลที่เงียบมานานออกปากเพราะว่าเดี๋ยวจะถึงบ้านเป็นเวลาที่ดึกเกินไป และอยากไปตั้งรับสถานการ์ณให้ดีเสียก่อน คนตรงหน้าในตอนนี้ช่างน่ากลัวนัก
"ครับ คุณชายบลัฟเฟอร์ คลาวน์รบกวนไปส่งคุณชายหน่อย"
"ขอรับ คุณชาย"
แกร๊ก!
"กระรอกน้อย ในเมื่อของหวานที่เจ้าทำได้สังเวยให้กับการต่อสู้เมื่อกี้แล้ว พวกเราจะกินอะไรกันล่ะทีนี้" เสียงทุ้มต่ำถามพลางทำหน้าตาน่าสงสารเพราะอดกินขนมอร่อยๆ จากคนที่รัก
"ไม่เป็นไรครับ พี่คีย์ ผมไปเตรียมให้ตอนนี้เลยก็ได้ เพราะอาหารน่าจะถูกส่งเข้ามาในห้องรับประทานอาหารแล้ว" เห็นแล้วอดเอ็นดูไม่ได้ที่คนอายุมากกว่าอยากกินขนมฝีมือของเขาขนาดนี้
"ถ้างั้นรีบไปทำเลย เดี๋ยวพี่ไปรอที่ห้องอาหารนะ"
"ครับ" หลังจากที่ร่างสูงโปร่งปิดประตูลงปุ๊บ มือหนาก็ร่ายไฟเผารายงานฉบับนั้นทิ้งทันที หากรู้ว่ามีการทะเลาะกันเหมือนเด็กเช่นนี้หลุดรอดออกไปล่ะก็...มีหวังได้กลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน คีย์ไม่ยอมให้เกิดกรณีแบบนั้นอย่างแน่นอนเพราะว่าเมล์เป็นคนของเขา หากมีข่าวเสียหายเช่นนี้ออกไปจะมีผลกับการขึ้นครองราชย์ในอนาคตว่ามีคนใกล้ชิดทำตัวไม่เหมาะสม
"รัชทายาททำอะไรพะยะค่ะ ทำแบบนั้นเกิดคุณชายรู้เรื่องเข้าจะทำยังไงกัน" เฟลิกซ์ตกใจที่เจ้านายอีกคนของตนเผารายงานเหล่านั้นด้วยความรวดเร็วหลังจากคล้อยหลังคุณชายเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
"ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวข้าจะทำให้กระรอกน้อยลืมรายงานชิ้นนี้ได้เอง"
"ถึงจะเก่งแค่ไหนก็ตาม แต่เด็กก็คือเด็กวันยังค่ำ"
"ไม่มีทางทันเล่ห์เหลี่ยมของผู้ใหญ่ได้หรอกนะ หึๆๆ " สรุปได้เลยว่าในวังนี้ใครกันแน่ที่น่ากลัวที่สุด เห็นทีคงจะไม่พ้นรัชทายาทอย่างแน่นอน
ณ ห้องอาหาร
"ขนมที่นิ่มแล้วเด้งได้แบบนี้เรียกว่าอะไรงั้นรึ มันอร่อยนะแต่ชิ้นเล็กจัง"
"พุดดิ้งครับ วันนี้ทำมาให้ลองชิมหลายๆ รสชาติ หากชมรสไหนเป็นพิเศษจะได้เน้นทำรสนั้นให้เพิ่ม"
"วิเศษมาก! ถ้าเช่นนั้นเดือนหน้าหมั้นหมายกับข้าได้หรือไม่ ข้ารักเจ้าจริงๆ นะ" น้ำเสียงที่ดูมั่นคง หนักแน่น แววตาแน่วแน่ถูกถ่ายทอดส่งมาหาแม้ว่าจะนั่งไกลกันก็ตามแต่สัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายเอาจริง คิดจริง หมั้นจริง
"ผมเองก็ไม่รู้จะบอกว่าอะไรแต่ในตอนนี้ท่านพี่คือคนที่ผมอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด เหมือนพี่ชายในฐานะรุ่นพี่ที่ดูแลอย่างดี เลยยังไม่สามารถบอกอะไรไปได้มากกว่านี้ครับ" สีหน้าของคีย์หมองลงทันทีหลังจากได้รับคำตอบแบบนี้ บางทีเขาอาจจะเร่งรัดมากจนเกินไปเลยทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดใจก็ได้ ลองขยับตัวห่างกันให้มากกว่านี้เสียหน่อยแล้วกัน
พี่ขอโทษที่ทำให้หนักใจนะ อย่าเครียดไปเลย ยังมีเวลาอีกมากที่น้องจะตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้" คำพูดของเสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความอ่อนโยนแต่สีหน้าแฝงไปด้วยความเจ็บปวด ถึงจะอยู่ในโลกมนุษย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความรักไม่จำกัดเพศ แต่สำหรับเขาแล้วก็ยังไม่เคยเกิดขึ้นกับใครเลยสักคน ความทรงจำไปด้วยการเรียน การทำงาน ไม่ได้มีช่วงเวลาเล่นซนเหมือนเด็กคนอื่น คงยากต่อการเข้าใจในเรื่องความรักพอสมควร
"ผมไม่อยากเห็นพี่เจ็บปวดแบบนี้เลย มีอะไรที่จะพอช่วยได้ไหมครับ"
"แค่ไวท์ไม่รังเกียจที่ได้อยู่กับพี่ ก็มากเกินพอแล้ว"
"ไม่เคยรังเกียจเลยนะครับ ตั้งแต่มาถึงที่นี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันจนกระทั่งตอนนี้คุณคือคนที่ดีกับผมมาโดยตลอดอย่างไม่มีเงื่อนไข เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้ ส่วนเรื่องความรักที่ใครต่อหลายอยากจะให้ผมตอบตกลงนั้น ยังไม่รู้เลยครับว่าจะตัดสินใจยังไง"
ช่วงระยะเวลาสัปดาห์กว่าๆ ที่ผ่านมามีเรื่องเกิดขึ้นมากมายจนไม่มีเวลาคิดว่าควรใจเต้นกับใคร แต่อาการเขินอายนั้นก็ปิดเอาไว้แทบไม่มี หน้าแดงไปหมดแถมยังทำอะไรไม่ถูกอีกต่างหาก ไม่สามารถห้ามไม่ให้รู้สึกได้เลยสักอย่าง ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ตกน้ำแล้วข้ามมาอีกโลกนึง รู้เพียงแต่ว่าพยายามเอาชีวิตรอดให้ได้ก่อนจะมาสนใจเรื่องอื่น
ไม่มีบทสนทนาเกิดขึ้นอีกหลังจากการพูดของกระรอกน้อยที่เขาเอ็นดูมาโดยตลอด ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ใช้ความคิดเสียบ้างก็คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว มีเพียงเสียงกระดาษในการทำงานของทั้งคู่ที่ดังมาเป็นระยะเวลาพลิกหน้ากระดาษเท่านั้น ต่างคนต่างทำงานของตนเองที่ต้องรับผิดชอบกันไป ระยะเวลาอาจจะทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นก็เป็นได้
ยังมีข่าวลือเล็ดรอดออกไปถึงการลงโทษของคุณชายไวท์ที่กระทำต่อลอร์ดโฟลช์ เมล์ กับบารอนคีเซินถูกพูดกันปากต่อปากจนดังไปไกลยังขุนนางตระกูลต่างๆ ยิ่งตอกย้ำความแข็งแกร่งทางจิตใจที่มีมากต่อการเอาชนะแวมไพร์แม้ไม่ใช่เผ่าพันธ์เดียวกัน อีกทั้งยังเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าเป็นลูกหลานของตาแก่อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
“แต่ข้าก็ไม่อาจให้ลูกอยู่แดนมังกรได้ อาจจะถูกคนในดินแดนทำร้ายก็เป็นได้” ซิคฟรีดบอกพลางกัดฟันด้วยความขมขื่นในจิตใจ มันเป็นความจริงทั้งหมด เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของเธอ หากเธอดูแลไม่ได้อย่างน้อยถ้าส่งให้ อพอลโลก็ยังเลี้ยงดูได้ ด้วยนิสัยของเขาจะต้องทำเช่นนั้นเป็นแน่“สิ่งที่เจ้าคิดไม่ผิดนักหรอก แต่มันจะดีกว่านี้หากข้ารับรู้และเฝ้ามองการเติบโตของเขา อย่างน้อยก็ทำให้ไวท์รับรู้ว่ายังมีพ่อที่คอยมาหา” อพอลโลกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้า หากเขารู้เร็วกว่านี้น่าจะได้เห็นการเจริญเติบโต ช่วงเวลาที่น่ารักของลูกชายตัวน้อย แต่บัดนี้คงไม่น่าอยากได้ความรักจากเขาแล้ว“ความผิดพลาดของผู้ใหญ่ ทำให้เด็กได้รับความเสียหายทางจิตใจ”“ท่านเป็นจักรพรรดิยังไง ถึงได้พูดจาทำร้ายจิตใจข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า”“เจ้าเป็นถึงจักรพรรดินีแดนมังกร มีอำนาจทางทหารและการเมืองทัดเทียมกับข้า ข้าพูดความจริงผิดตรงไหน หากวันพรุ่งนี้เจอลูกของเจ้า
“ข้าอยากจะบอกพวกท่านทั้งสองว่า บัดนี้ผู้เลี้ยงดูเด็กคนนี้ในโลกมนุษย์เสียชีวิตแล้ว ภายใต้การดูแลจักรวรรดิของพวกเรา” รัชทายาทเอ่ยบอกสิ่งสำคัญและก้มหัวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง“ไม่แปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะช่วงอายุของมนุษย์นั้นช่างสั้นนัก ถ้าเทียบกับพวกเราทั้งหมดในที่แห่งนี้นับว่ายาวนานกว่ามาก” อพอลโลบอกพลางก้มหัวเช่นกัน“เจ้าคิดเห็นอย่างไรในเรื่องนี้เหรอไวท์ ในฐานะที่เจ้าเป็นเจ้าของเรื่องทั้งหมด ข้าเป็นทั้งคู่หมั้นและผู้ปกครอง เจ้าอยากจะทำอะไร นับจากนี้” รัชทายาทถามด้วยความเป็นห่วง สิ่งที่น่ากังวลมากที่สุดคือสภาพจิตใจของไวท์ ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งในที่ประชุมนี้“ผมไม่รู้จะทำตัวยังไงดีครับ ตกใจ เสียใจ ดีใจ โล่งใจ มันสับสนไปหมดเลย” เขาไม่สามารถรับรู้ว่าควรทำตัวอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกอย่างมันรวดเร็วจนตั้งรับไม่ทัน“เจ้าไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นภรรยาข้า ต้องการสิ่งใด จงเอ่ยออกมา” รัชท
“เจ้าบ้านี่! อย่ามาล้อเล่นกับข้านะ!” อีกฝ่ายโกรธจนเลือดขึ้นหน้าใช้พลังเวทย์จู่โจมเข้ามาด้วยความเร็วของสัญชาติญาณแวมไพร์ เป็นความจริงที่ว่าแวมไพร์ยิ่งมีอายุขัยมากเท่าไหร่ ก็จะมีพลังมหาศาลมากขึ้นเท่านั้น แต่ใช้ไม่ได้ผลกับเผ่าพันธุ์ของมังกรกับเทพเลยแม้แต่น้อยโดยธรรมชาติของเผ่ามังกรนั้นมีพละกำลังมหาศาล รวมถึงเอกลักษณ์ในการเรียนรู้เวทย์มนตร์นั้นถือว่าเป็นเลิศ และมีพลังที่สามารถเอาชนะได้แม้กระทั่งพระเจ้า ถือเป็นสิ่งที่ชาวสวรรค์เกรงกลัวมากกว่าเผ่าอื่นเพราะมีข้อห้ามของสวรรค์อยู่ แต่สำหรับมังกรกลับไม่มีผลเช่นนั้นพลังของเทพเกิดจากแรงศรัทธาของมนุษย์ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ จะทำให้เทพที่ถูกบูชามีพลังมากพอที่จะปกปักษ์คุ้มครองแผ่นดินให้มีความปลอดภัย ช่วยเหลือยามถูกปีศาจรุกรานได้เป็นอย่างดี รวมถึงแสงสว่างของปีกเหล่าเทวดาหรือเทพเจ้าเองก็เป็นออร่ามากพอที่จะทำให้ได้รับความเคารพเรื่อยมา“ข้าไม่เคยคิดล้อเล่นกับเจ้า ทุกอย่างจริงจังเสมอ” มือทั้งสองข้างยกขึ้นมาพร้อมกันแล้
ณ วังหลวงส่วนจัดงานเลี้ยงบรรยากาศในงานออกมาแนวธีมสีอ่อนเพื่อให้เข้ากับภาพลักษณ์และนิสัยเจ้าของวันเกิด อาหารถูกนำมาเสริฟ์ด้วยเมนูรสชาติจืดแล้วค่อยไล่ระดับไปเผ็ด ขนมหวานและอาหารว่างที่ดูแปลกตาทั้งหมดถูกนำมาจัดวางภายในงาน แน่นอนว่าบุคคลผู้สอนการทำทั้งหมดเป็นฝีมือของไวท์นอกจากมีตำแหน่งเป็นบุตรบุญธรรมของตระกูลริค รวมถึงได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ดูแลการจัดการอาหารว่างอย่างเป็นทางการของวังหลวง และยังเป็นคู่หมั้นขององค์รัชทายาทอีกด้วย ถึงตำแหน่งในฐานะนักดาบยังไม่ได้มากมายแต่ตำแหน่งอื่นถือว่ามากพอที่จะสั่นคลอนจักรวรรดิได้มากทีเดียวองค์รัชทายาทและเจ้าชายฝาแฝดทั้งสองถูกเชิญกลับมายังเมืองหลวงอย่างถาวร มารับตำแหน่งและจัดการงานภายในวังหลวงแทนการดูแลเมืองในเขตปกครองห่างไกล เพื่อช่วยกันจัดระเบียบรวมถึงการให้ความสำคัญกับลำดับของทายาท และความมั่นคงของวงศ์ตระกูลแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์“จัดเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วใช่หรือไม่ ยังขาดเหลืออะไรอีกหรือเปล่า&
ณ พระราชวังของจักรพรรดิ“จักรพรรดิพะยะค่ะ เซอร์เรเวลมาขอเข้าเฝ้า” มีเทนรายงานให้ผู้เป็นนายฟังเพราะดูเหมือนว่าจะมีสมาธิแต่การทำงานจนไม่ได้ฟังสิ่งที่คนภายนอกรายงานเข้ามาเลย“อะแฮ่ม...ข้ามัวแต่ทำงานเพลิน ให้เข้ามา”“พะยะค่ะ” มีเทนขานรับแล้วเดินไปเปิดประตู“ถวายความเคารพองค์จักรพรรดิ”“ไม่ต้องมากพิธี มีอะไรก็ว่ามา” จักรพรรดิเร่งเพราะยังมีงานค้างที่ต้องจัดการอีกมาก การมาเข้าเฝ้าอย่างเร่งด่วนและไม่มีการขอล่วงหน้าคงจะมีเรื่องด่วนพอสมควร แต่ถ้าไม่ด่วนขนาดนั้นจะสั่งขังสักสิบวันแล้วค่อยให้มาทำงาน เป็นทหารมานานแต่ดันไม่รู้จักระเบียบของวังบ้างเสียเลย“ข้าจะมารายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับพลังของพระคู่หมั้นองค์รัชทายาทพะยะค่ะ” เรเวลตัดสินใจบอกออกไป เพราะอยากเลิกทำงานนี้เสียที เพราะต้องตามสืบคนเดียวมาตลอดหลายเดือน อยากให้มันสิ้นสุดเ
มือขวาดีดนิ้วทำให้วงเวทย์จำกัดการใช้พลังของพวกเราให้อยู่เพียงภายในวงเท่านั้น เพื่อไม่ให้คนอื่นได้รับผลกระทบไปด้วย เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าพลังของทั้งคู่มีมากน้อยแค่ไหน เขาจึงตัดสินใจใช้พลังของมังกรปิดกั้นมันไว้ทันทีก่อนจะออกตัวต่อสู้ผัวะ!แรงปะทะกันซึ่งหน้าทำให้ต่างคนต่างกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง ประสาทสัมผัสที่ดีเยี่ยมของมังกรได้เปิดใช้ทำงานเพื่อประเมินสถานการณ์แต่กลับพบว่าอีกฝ่ายไม่ได้ใช้ความรู้สึกเป็นศัตรูเพื่อมาสู้กับเขา หมายความว่านี่คือการทดสอบความสามารถสินะ ถ้างั้นมาลองกันสักตั้งแล้วกัน ขอไม่เกรงใจกันแล้วผัวะ! พลั่ก! ตุ้บ!ไวท์เร่งความเร็วทั้งพละกำลังและการต่อสู้อย่างเต็มกำลังเพื่อวัดกันไปเลยว่าสารวัตรต้องการจะตรวจสอบอะไรกันแน่ มาตรวจกันให้มันจบวันนี้ไปเลย ทุกกระบวนท่าที่เคยร่ำเรียนมาทั้งหมดใส่ไปให้หมดไม่ต้องปกปิดความสามารถเอาไว้เพราะว่าบุคคลนี้จะต้องนำเรื่องนี้ไปแจ้งแก่องค์จักรพรรดิอย่างแน่นอนคีย์สังเกตเห็น