หน้าหลัก / รักโบราณ / ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70) / บทที่ 15 เกลียดขี้หน้าตั้งแต่แรกเจอ

แชร์

บทที่ 15 เกลียดขี้หน้าตั้งแต่แรกเจอ

ผู้เขียน: sanvittayam
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-22 15:07:41

บทที่ 15 เกลียดขี้หน้าตั้งแต่แรกเจอ

พอได้ยินเสียงเรียกที่ดูจะไม่พอใจ หญิงสาวจึงได้หันกลับมามองและขมวดคิ้วอย่างสงสัย เนื่องจากเธอไม่เคยพบหน้าผู้หญิงคนนี้มาก่อน

“คุณเป็นใครเหรอคะถึงมายุ่งกับเรื่องนี้ ฉันจะมีความสัมพันธ์อะไรกับพี่หมิงแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย ถ้าฉันจำไม่ผิด นี่คือครั้งแรกที่เราได้พบหน้ากัน”

หยางเหมยจินเชิดหน้าขึ้นพูดอย่างสง่างามสมกับเคยเป็นพระชายามาก่อน

“เธอไม่เคยเจอหน้าฉันหรอก แต่ฉันไม่ชอบที่เธอทำตัวไม่ต่างจากเป็นภรรยาของพี่เหวินหมิงทั้งที่ยังไม่แต่งงานกัน” หญิงสาวคนนั้นตอบกลับมาด้วยเสียงที่บ่งบอกว่าเธอไม่พอใจ สายตานั้นดูจิกกัดคล้ายว่าเธอไม่ชอบหน้าของคู่หมั้นตงเหวินหมิง

หยางเหมยจินยังคงขมวดคิ้ว แต่พอได้ยินน้ำเสียงของผู้หญิงตรงหน้าทำให้รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายน่าจะไม่พอใจเธอเข้าแล้ว และเรื่องนี้น่าจะเป็นเพราะฐานะของเธอที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของบ้านตง แต่อย่างไรเสียเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก มารยาสตรีเธอเห็นมานักต่อนักแล้ว มีหรือที่เธอจะใช้มารยาไม่เป็น ต่อให้เธอมาจากอดีตหลายร้อยหลายพันปี แต่ในฐานะที่เคยเป็นอดีตพระชายา อย่าคิดว่าเธอร้ายไม่เป็น

“แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันไม่ใช่ภรรยาของพี่หมิง และไม่ว่าเรื่องนี้จะจริงหรือไม่จริง แต่ฉันได้ชื่อว่าเป็นหญิงหนึ่งเดียวในใจของพี่หมิง อีกทั้งยังเป็นคู่หมั้นของเขาอีกด้วย แล้วเธอล่ะมีฐานะอะไร ถึงได้มาก้าวก่ายเรื่องของคนอื่นอย่างไร้มารยาทแบบนี้!!” หยางเหมยจินสวนกลับอย่างเหนือกว่า อย่างไรข้ออ้างที่เธอเป็นคู่หมั้นของตงเหวินหมิงย่อมชนะฝ่ายตรงข้ามไปหลายส่วนแล้ว

ตงฟางลี่ยืนอยู่ไม่ไกลได้ยินก็แอบยกนิ้วให้หยางเหมยจิน เนื่องจากเด็กสาวไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่ชอบทอดสะพานให้พ่อของเธอ

“หน้าด้าน หล่อนกล้าดียังไงพูดว่าตัวเองนั้นเป็นเมียพี่เหวินหมิง หล่อนเป็นคนมีประวัติหนีคดีมาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่อย่างนั้นคงไม่โผล่มาแบบนี้แน่ ๆ” หญิงสาวคนนี้พอโดนย้อนกลับก็ต่อว่าหยางเหมยจินเสียงดังมากกว่าเดิม

เพราะยังไม่มีเอกสารยืนยันตัวตน หยางเหมยจินจึงมีท่าทีชะงักไปทันที นั่นทำให้ลูกสาวบ้านหมิงอย่างหมิงเป้ยอิ๋งคิดว่าเธอนั้นคาดคะเนไม่ผิด หญิงสาวตรงหน้าต้องมีอดีตที่ไม่สามารถบอกใครได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีท่าทีเช่นนี้แน่ ‘แต่ทำไมพี่เหวินหมิงถึงยอมบอกทุกคนว่านังนี่เป็นคู่หมั้นล่ะ’ เธอคิดในใจ

“คิดไว้ไม่มีผิด ไม่อย่างนั้นหล่อนคงเถียงกลับแล้ว”หมิงเป้ยอิ๋งเชิดหน้าพูดอย่างเหนือกว่า

“เปล่าเลย ที่ไม่เถียงเพราะไม่รู้จะโต้ตอบไปทำไม พอพูดความจริงไปเธอก็ไม่เชื่อ และในเมื่อพี่หมิงแจ้งผู้นำหมู่บ้านแล้วเมื่อวานว่าเอกสารฉันหายตอนเดินทางมาที่นี่ ถ้าเธออยากจะรู้ว่าจริงหรือไม่ ก็ไปสืบหรือไปสอบถามที่สำนักงานพลเรือนสิ เธอคงได้รู้คำตอบเอง”

หยางเหมยจินเชื่อมั่นในตัวของตงเหวินหมิงไม่น้อย ไม่อย่างนั้นเธอไม่ตอบอีกฝ่ายอย่างมั่นใจแบบนี้ ก่อนหน้านี้ที่เธอชะงักเพราะหาคำพูดของยุคสมัยนี้มาโต้ตอบไม่ได้ต่างหากล่ะ ไม่ใช่เพราะกลัวเรื่องที่อีกฝ่ายกล่าวหา

“แล้วยังไง หากหล่อนเป็นคู่หมั้นของพี่เหวินหมิงจริง ทำไมหล่อนเพิ่งโผล่มาล่ะ ก่อนหน้านี้หล่อนไปที่ใดมา” หมิงเป้ยอิ๋งยังไม่ยอมเชื่อ เธอถามกลับมาทันที

“ฉันเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเธอเป็นสำนักงานพลเรือนที่อยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนในหมู่บ้าน เช่นนั้นฉันต้องรบกวนเธอไปเอาเอกสารยืนยันตัวตนให้ฉันหน่อยก็แล้วกัน ฉันจะได้อยู่ช่วยงานพี่หมิงอย่างสบายใจเสียที”

เมื่อได้ยินคำตอบของหยางเหมยจิน ทำให้หมิงเป้ยอิ๋งกระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ จนชาวบ้านบริเวณนี้ได้แต่ปิดปากหัวเราะชอบใจ 

“นี่หล่อน!”

หมิงเป้ยอิ๋งกระทืบเท้ายืนหน้าดำหน้าแดงด้วยความโมโหที่หาเรื่องอีกฝ่ายไม่ได้ แต่ก็ยังยกมือชี้หน้าหยางเหมยจินอย่างไม่พอใจ จนเกวียนรอบเช้าของหมู่บ้านเคลื่อนตัวมา ทำให้ชาวบ้านรีบขึ้นเกวียนเพื่อเข้าเมืองทันที แต่มีบางคนตะโกนมาเรียกลูกสาวบ้านหมิงเพราะรู้ว่าหมิงเป้ยอิ๋งจะเข้าเมืองเหมือนกัน

“เป้ยอิ๋ง หล่อนจะเข้าเมืองหรือเปล่า คนอื่นเขารอแล้วนะ ถ้าไม่ไปคนขับเกวียนจะได้เคลื่อนตัวออก”

“ไปสิ รอก่อนก็ไม่ได้รึไง ฝากไว้ก่อนเถอะนังตัวดี หล่อนไม่มีสิทธิ์ในตัวพี่เหวินหมิงจำไว้ พี่เหวินหมิงเป็นของฉัน”

หมิงเป้ยอิ๋งประกาศเสียงดังฟังชัดว่าตงเหวินหมิงนั้นเป็นของเธอ ทำให้ชาวบ้านได้แต่ส่ายหน้าระอา เนื่องจากลูกสาวบ้านหมิงมีทีท่าสนใจพ่อม่ายตงมาหลายปีแล้ว จนตอนนี้ก็ยังไม่ยอมแต่งงาน แต่จะว่าไป ใครอยากแต่งงานกับลูกสาวบ้านหมิงคนนี้กันล่ะ เธอคนนี้ขี้เกียจแทบจะไม่ทำอะไร วัน ๆ เข้าแต่ในเมืองหาซื้อของที่ชอบ แต่ก็ว่าไม่ได้ ในเมื่อบ้านหมิงมีฐานะแทบจะเป็นเศรษฐีประจำหมู่บ้านเลยก็ว่าได้

ส่วนหยางเหมยจินได้แต่ส่ายหน้าเหมือนกัน แต่เพราะเธอขำการกระทำที่กล้าหาญของหมิงเป้ยอิ๋งมากกว่า เนื่องจากการกระทำของหญิงสาวคนนี้ดูจะซื่อตรงต่อความรู้สึกดี ไม่เหมือนกับคนเมื่อวานที่ดูจะร้ายลึก

พอจบเรื่องตรงนี้แล้ว หยางเหมยจินจึงเดินกลับบ้านตง แต่ในระหว่างทางหญิงสาวกลับเดินเอ้อระเหยเพื่อชมบรรยากาศยามเช้าของหมู่บ้านแห่งนี้ เพราะคิดว่าชายหนุ่มคงออกไปทำงานแล้ว โดยที่ไม่รู้ว่าเขารอเธออยู่

“เที่ยงนี้คุณทำอะไรกินก่อนได้เลยนะ ผมจะเข้าเมืองเสียหน่อย กลับมาก็คงเข้างานช่วงบ่ายพอดี”

ตงเหวินหมิงเมื่อเห็นว่าหญิงสาวกลับมาแล้ว จึงบอกกล่าวเรื่องให้กินอาหารเที่ยงก่อนได้เลย แม้ว่าบ้านตงอาจจะไม่ได้ร่ำรวย แต่เรื่องกินอาหารนั้นชายหนุ่มมักจะทำกินสามมื้อ เนื่องจากลูก

ทั้งสองอยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต และเขาเองก็ทำงานใช้แรงงาน หากไม่ได้กินมื้อเที่ยงคงไหว แต่วันนี้เขามีธุระต้องเข้าเมือง ดังนั้นเลยตั้งใจว่าจะไปหาซื้อซาลาเปากินเพื่อรองท้องในเมืองเสียเลย

“ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันทำอาหารไปกินกับซื่อหลิน ว่าแต่พี่เถอะหาอะไรกินรองท้องก่อนเข้าเมืองดีหรือไม่ เดี๋ยวฉันทำซาลาเปาไส้เนื้อไว้ให้ จะได้เอาไปกินระหว่างทางได้ ส่วนฉันจะอยู่บ้านเงีบย ๆ ก็แล้วกัน” น้ำเสียงตอนท้ายของหญิงสาวดูหงอยไปหน่อย ไม่ต่างกับเด็กถูกทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียว

นั่นทำให้ตงเหวินหมิงอดยิ้มมุมปากไม่ได้ ก่อนจะพูดบางอย่างออกมา “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ยังไงผมก็ต้องไปเอาเอกสารยืนยันตัวตนของคุณอยู่แล้ว รอกินมื้อเที่ยงเสร็จค่อยไปก็ได้ แล้วคุณอยากจะไปด้วยไหม ผมจะได้ลางานช่วงบ่ายเสียเลย”

“จริงเหรอคะ พี่ให้ฉันไปด้วยจริง ๆ ใช่ไหมคะ”

หยางเหมยจินมีดวงตาตาเป็นประกายและยิ้มอย่างดีใจ เมื่อได้ยินว่าชายหนุ่มจะให้เธอไปในเมืองด้วย  

“อืม ยังไงเตรียมตัวไว้ก็แล้วกัน คุณจะได้ไปดูด้วยว่าคนที่นี่ว่าเขาแต่งตัวกันอย่างไร เผื่อว่าคุณจะได้ตัดชุดใส่ตามยุคสมัยของคนที่นี่” ตงเหวินหมิงพยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนจะพูดถึงสาเหตุที่เขาให้เธอไปในเมืองด้วย

“ตกลงค่ะ แต่ว่าพี่อย่าทำตัวห่างเหินกับฉันมากนัก อย่าลืมว่าเวลานี้เราทั้งสองมีฐานะเป็นคู่หมั้นกัน แม้จะไม่สนิทสนมแต่ก็ไม่ควรจะห่างเหินจนเกินไป และเมื่อไรที่พี่เจอคนที่พี่ต้องตาต้องใจก็ให้บอก ฉันยินดีจะอธิบายให้เธอคนนั้นฟังด้วยตัวเอง”

หญิงสาวตอบพร้อมกับย้ำถึงฐานะของทั้งสองคนที่ได้บอกชาวบ้านและคนอื่น ๆ ไว้ พร้อมกับยืนยันหนักแน่นว่าถ้าเขามีคนรักหรือคนที่ชอบแล้ว เธอจะรีบไปอธิบายด้วยตัวเองทันที 

“ครับ”

มีคำตอบเพียงเท่านี้กลับมา ก่อนที่ตงเหวินหมิงจะหมุนตัวเดินออกมาเพื่อมุ่งหน้าไปยังคอมมูนพร้อมกับรอยยิ้มที่ยากจะมีใครเคยเห็นของเขา

หลังจากที่ตงเหวินหมิงไปแล้ว หยางเหมยจินก็ปิดประตูบ้านและลงกลอนอย่างแน่นหนา ก่อนจะหายเข้าไปในมิติ

เมื่อเข้ามาด้านใน อันดับแรกหญิงสาวเดินเข้ามายังห้องเก็บผ้า เพื่อจะเลือกผ้าที่ต้องการและคิดว่าเหมาะกับทั้งสามคนออกมาเรียงไว้ โดยไม่ลืมเอาอุปกรณ์ตัดเย็บและด้ายสีต่าง ๆ ออกมาวางเรียงกันไว้ด้วย หญิงสาวใช้เวลาอยู่กับการวัดผ้าขนาดต่าง ๆ ที่ต้องการตามที่ได้วัดขนาดร่างกายของสามพ่อลูกเอาไว้

พอได้จำนวนผ้าแต่ละขนาดที่ที่ต้องการและคิดว่าวันนี้น่าจะเย็บไม่ทันเธอจึงวางไว้ พร้อมกับบิดร่างกายเล็กน้อยเพื่อคลายความเมื่อยล้า ก่อนจะเดินไปทางครัวใหญ่ เพราะต้องไปเตรียมอาหารไว้ให้ชายหนุ่มกินมื้อเที่ยง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 4 คุณพ่อจอมหวง

    ตอนพิเศษ 4 คุณพ่อจอมหวงวันเวลาล่วงเลยมาถึงวันที่สองพี่น้องฝาแฝดอย่างตงจี้หยวนและตงฟางลี่ก็เติบโตขึ้นและแม้ว่าทั้งสองคนจะรู้ว่าตัวเองเป็นใคร แต่ทั้งสองคนก็ยังคงใช้แซ่ตงเหมือนเดิม ส่วนแซ่เดิมของพ่อแม่นั้นจะเอาไว้ให้ลูก ๆ ในอนาคตเป็นผู้สืบทอด ตอนนี้ทั้งสองคนใกล้จะเรียนจบระดับมหาวิทยาลัยแล้ว คนพี่นั้นเริ่มเข้ามาช่วยดูแลงานในบริษัทของพ่อ และสมบัติที่พ่อแม่ที่แท้จริงทิ้งไว้ให้ เลยไม่ค่อยมีเวลาตัวติดกับน้องสาวเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ก็เหมือนกัน ชายหนุ่มจะต้องเข้าไปดูงานที่บริษัท แต่น้องสาวขอไปดูหนังกับเพื่อน“พี่ใหญ่ วันนี้ฉันขอไปดูหนังได้ไหม” ตงฟางลี่เอ่ยขอพี่ชายอย่างออดอ้อน“พี่น่ะให้ไปได้ ว่าแต่เราโทรขออนุญาตพ่อหรือยัง แล้วจะดูหนังรอบไหนกัน นี่ก็เย็นมากแล้วนะ”ชายหนุ่มตอบกลับน้องสาวอย่างไม่คิดอะไร สำหรับตัวเขานั้นไม่เท่าไร แต่พ่อนี่สิคงไม่ยอมอนุญาตง่ายๆ แน่ เพราะพ่อเป็นคุณพ่อจอมหวงลูกสาวเสียเหลือเกิน ดูอย่างน้องสาวคนเล็กที่อายุแค่ไม่เท่าไรสิ พ่อยังแทบจะไม่ให้ผู้ชายอุ้มแล้ว ความหวงของพ่อที่มีต่อน้องสาวเกินขอบเขตจริง ๆ และนี่ก็ไม่ต้องพูดถึงอาอี้ข่ายที่เป็นเหมือนกันราวกับถอดแบบกันมาเลยทีเ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 3 คุณพ่อลูกดก

    ตอนพิเศษ 3 คุณพ่อลูกดกหลังจากจบเรื่องตระกูลเกา ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติ ซึ่งเกาเทียนอี้และเกาซื่อหลินก็ไม่คิดจะกลับไปเหยียบตระกูลเกาอีกเลย และได้ข่าวว่าเกาเสี่ยวจิงถูกคนตระกูลหุ้ยบอกเลิกการหมั้นหมายและไม่คิดจะสานต่อความสัมพันธ์ส่วนสองแม่ลูกแม้จะอยู่ตระกูลเกาต่อ แต่สถานะของทั้งสองก็อยู่ยิ่งกว่าสาวใช้ สาเหตุที่ท่านนายพลไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป ก็เพราะไม่ต้องการอับอายคนในสังคม และที่สำคัญเขาได้เอาผู้หญิงที่เลี้ยงไว้นอกบ้านเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์และยกเป็นนายหญิงคนใหม่ เลยทำให้เฟ่ยเจียแค้นใจอย่างมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องยอมรับชะตากรรมที่ตนเองได้ก่อไว้พอเกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น ตงเหวินหมิงคิดจะจัดงานเลี้ยงเปิดตัวเองและภรรยารวมถึงทุกคนให้สังคมได้รับรู้ แต่กลับถูกภรรยาห้ามไว้ เพราะเธอกำลังท้องเลยไม่อยากจัดงานเลี้ยงขึ้นมา โดยได้บอกกับสามีว่าค่อยจัดงานเปิดตัวตอนเธอคลอดลูกแล้วก็ยังไม่สายแต่เมื่อถึงเวลา หยางเหมยจินก็บ่ายเบี่ยงอีก เพราะเธออยากอยู่อย่างสงบกับลูกไม่อยากวุ่นวายกับใคร เพราะการเปิดตัวนั้นคงทำให้มีแต่คนเข้าหาเธอในฐานะนายหญิงตงจนเวลานี้เธอตั้งท้องครั้งที่สามแล้ว เพราะสองท้องที่ผ่

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 2 ทวงคืนสินเดิมของแม่

    ตอนพิเศษ 2 ทวงคืนสินเดิมของแม่หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น สองแม่ลูกจากตระกูลเกาแทบจะนอนไม่หลับ เพราะกลัวว่าตงเหวินหมิงจะบุกมาพบกับท่านนายพลถึงตระกูลเกา แต่เมื่อเวลาผ่านมาเป็นสัปดาห์ก็ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ทำให้ทั้งสองคนกลับมาเชิดหน้าเหมือนเดิม“คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า เหมือนว่าสัปดาห์ก่อนคุณจะพูดอะไรเหรอ” นายพลเกาเอ่ยถามภรรยาหลังจากสะสางงานตนเองเสร็จแล้ว ตอนนั้นเขากำลังวุ่นกับงานอยู่ เลยไม่ได้ฟังอะไรเธอมากมายนัก“ไม่มีอะไรแล้วค่ะ เรื่องไม่สำคัญแล้วล่ะ คุณทำงานของคุณเถอะ จริงสิ ฉันลืมบอกคุณไปว่าต้นเดือนหน้าทางตระกูลหุ้ยจะเข้ามาพูดคุยเรื่องหมั้นหมายระหว่างลูกชายบ้านนั้นกับเสี่ยวจิงของเรานะคะ” เฟ่ยเจียตอบกลับไปอย่างอ่อนหวานและเปลี่ยนเรื่องไปพูดในเรื่องที่เธอมีความยินดีอย่างมากจะว่าไปเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับเฟ่ยเจียไม่ใช่เรื่องของตระกูลตงจะเข้ามาที่นี่หรือไม่ แต่เป็นเรื่องการแต่งงานและหมั้นหมายของลูกสาวมากกว่าพอท่านนายพลเกาได้ยินเรื่องการแต่งงานของลูกสาวคนเล็ก ก็อดคิดถึงลูกสาวคนโตที่หายไปจากบ้านหลายปีแล้ว รวมถึงลูกชายที่ไปเป็นทหาร ซึ่งไม่รู้เวลานี้ทั้งสองเป็นอย่างไรบ้างเพราะขา

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 1 หาเรื่องใส่ตัว

    ตอนพิเศษ 1 หาเรื่องใส่ตัวหลังจากที่ย้ายมาอยู่ที่ปักกิ่ง เกาซื่อหลินก็ยังคงช่วยงานของหยางเหมยจินเหมือนเดิมพร้อมกับดูแลพี่สาวบุญธรรมไปด้วย วันนี้ทั้งสองออกมาซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าเพียงลำพัง เพราะสองแฝดไปเรียนหนังสือ ตงเหวินหมิงกับตู้อี้ข่ายก็ไปทำงาน“นี่เสี่ยวหลิน ไม่ต้องคอยระมัดระวังขนาดนั้นก็ได้ พี่แค่ท้องนะไม่ใช่คนป่วยสักหน่อย” หยางเหมยจินพูดพึมพำออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ เพราะตั้งแต่เธอตั้งท้อง ทุกคนก็แทบจะไม่ให้เธอทำอะไรเลย เธอแทบจะเป็นง่อยอยู่แล้ว“พี่เหมยจินก็พูดไป ถ้าเกิดพี่เดินไม่ระวังแล้วสะดุดล้มขึ้นมาจะทำอย่างไรล่ะ ต่อให้มีคนของพี่เขยติดตามมาด้วย ใช่ว่าจะมีคนกล้าแตะต้องตัวพี่นะ หน้าที่นี้เป็นของฉัน อย่างไรฉันก็ต้องคอยดูไว้ก่อน” เกาซื่อหลินโต้แย้งกลับทันที เพราะเธอต้องระวังความปลอดภัยให้กับพี่สาวคนนี้ เลยทำให้ต้องดูเหมือนทำเกินจริงไปหน่อย แต่ป้องกันไว้ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ“เอาเถอะ แล้วแต่เธอก็แล้วกัน นั่นร้านขายขนมฝรั่งเปิดใหม่หรือเปล่า เราลองเข้าไปดูกันเถอะ” หยางเหมยจินคร้านจะเถียงกับอีกฝ่าย เมื่อเห็นร้านขนมเปิดใหม่จึงชวนอีกฝ่ายไปดู เนื่องจากขนมพวกนี้เธอกินแล้วติด

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทส่งท้าย ครอบครัวที่ต้องการ

    บทส่งท้าย ครอบครัวที่ต้องการสามปีต่อมา... หลังจากวันนั้นวันที่ตงเหวินหมิงกลับมา นั่นจึงทำให้หยางเหมยจินคลายความกังวลและรู้สึกดีใจที่เขาปลอดภัย โดยที่ตงเหวินหมิงเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังเธออย่างละเอียด แล้วยังบอกอีกว่าเวลานี้เขาล้างมลทินให้ตระกูลตงเรียบร้อยแล้ว รวมถึงตระกูลของพี่เขยด้วย ก่อนจะบอกความจริงกับเด็กน้อยทั้งสอง ซึ่งแม้ทั้งสองคนจะรับรู้ว่าตนเองนั้นไม่ใช่ลูกแต่เป็นหลาน แต่ทั้งสองก็ยังคงเรียกตงเหวินหมิงว่าพ่อ และเรียกหยางเหมยจินว่าแม่เหมือนเดิมส่วนเรื่องบ้าน ทั้งหมดได้ย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองเรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านที่รู้ความจริงว่าตงเหวินหมิงคือนายท่านหยางก็พากันตกใจ บางคนก็เสียดาย ที่ก่อนหน้านี้พวกตนน่าจะทำดีกับบ้านตงไว้ ส่วนซูหว่านแทบจะเสียสติ ที่ชายที่เธอหมายปองนั้นคือคนที่มีอิทธิพลของเมืองนี้ แถมยังร่ำรวยมากอีกด้วยแต่เพราะทางบ้านซูของเธอไม่อยากมีปัญหากับบ้านตงและรู้ว่าซูหว่านคงไม่จบเรื่องบ้านตง บ้านซูจึงตัดสินใจหาสามีที่อยู่ต่างเมืองให้เธอทันทีทำให้สามปีที่ผ่านมาไม่มีใครคอยมาวุ่นวายกับสองสามีภรรยามากนัก ทุกวันนี้ตงเหวินหมิงจึงรู้สึกสบายใจอย่างมาก“ตอนนี้เรื่องราวทุกอย่างที่

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 52 จบสิ้นปัญหา

    บทที่ 52 จบสิ้นปัญหาหลายวันต่อมา...ในหมู่บ้านมีคนแปลกหน้าเข้ามาทำงานในคอมมูนไม่น้อยเลย แถมหัวหน้าคอมมูนยังให้ชาวบ้านช่วยกันสร้างที่พักให้ นี่จึงทำให้ใครหลายคนพากันแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะก่อนหน้านี้หัวหน้าคอมมูนบอกเองว่าทางการยังไม่ได้ส่งคนเข้ามา แต่ทำไมวันนี้กลายเป็นว่ามีคนมากมายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านล่ะ“พวกเราคิดว่ามันแปลกหรือไม่ ที่จู่ ๆ ก็มีคนเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านจำนวนไม่น้อยเลย” ชาวบ้านคนหนึ่งถามขึ้น“จะขี้สงสัยไปทำไมกัน คนมาทำงานจะคิดมากไปทำไม หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น หัวหน้าหมู่บ้านคงบอกแล้วล่ะ” อีกคนตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจการพูดคุยของกลุ่มชาวบ้านแม้ว่าแปลกใจและสงสัยแต่ก็เลือกที่จะไม่ถาม เพราะรู้ดีว่าทุกคนมีหน้าที่การงานของตนเองซึ่งเรื่องนี้มีแค่หัวหน้าคอมมูนเท่านั้น ที่รู้ว่าเป็นคนของใครที่ถูกส่งเข้ามา เขาไม่คิดว่าคนเคยปลอมเป็นชาวบ้านมางานแต่งของตงเหวินหมิงกับหยางเหมยจินจะเป็นถึงนายท่านหลู่ นายท่านผู้ลึกลับแต่ทรงอิทธิพล และเขาก็ไม่คิดว่าท่านจะส่งคนมาบอกเรื่องที่จะให้ คนมาทำงานในคอมมูน โดยปลอมเป็นชาวบ้านที่มาทำงานในคอมมูนที่หมู่บ้านแห่งนี้เพื่อที่จะปกป้องใครบางคน ซึ่งต่อให้ช

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status