พันธกรรีบวางโทรศัพท์ลงทันที ก่อนที่จะเดินขึ้นไปบนบ้านเพื่อเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเตรียมตัวไปเยี่ยมน้องชายลูกพี่ลูกน้องอย่างข้าวโพด เมื่อกี้เขาโทรศัพท์ไปถามข่าวคราวของน้องชายหลังจากที่ได้รู้ว่าอีกคนท้อง ปรากฏว่าข่าวคราวที่ได้รับกลับกลายเป็นว่าน้องชายของเขาโดนจับตัวไปและตอนนอนนอนอยู่ที่โรงพยาบาล พันธกรเลยต้องไปเยี่ยมน้องชายสักหน่อยแล้ว และวางแผนที่จะเที่ยวที่เชียงใหม่ด้วยสักอาทิตย์เพราะเขาทำงานหนักมานานไม่ค่อยได้เที่ยว ไหนๆ ก็ไปทั้งทีเลยถือโอกาสเที่ยวเสียหน่อยแล้วกัน ก่อนที่จะออกเดินทางชายหนุ่มแวะไปหาผู้จัดการไร่ฝากดูแลความเรียบร้อยในช่วงที่เขาไม่อยู่ ก่อนที่จะขับรถไป พอขับใกล้จะถึงเชียงใหม่พันธกรได้โทรหายายบุปผาถึงได้รู้ว่าข้าวโพดจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้เขาเลยขับรถมารอที่ไร่เลย พอมาถึงก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากยายบุปผาและแม่เลี้ยงกานดา ที่สำคัญแม่เลี้ยงให้เขาขึ้นไปนอนพักที่ห้องรับแขกที่จัดไว้ให้ก่อนเพราะขับรถมานานหลายชั่วโมงซึ่งพันธกรก็ไม่ขัดเพราะเขาง่วงและเพลียจริงๆ นั่นแหละ พอได้นอนพักอย่างเต็มที่เพียงไม่กี่ชั่วโมงพันธกรก็รู้สึกดีขึ้น เรียกพลังงานกลับมาได้ค่อนข้างเยอะ เขาจึงเดินลง
“ค่อยๆ เด็ดแบบนี้ครับ พอเด็ดเสร็จแล้วพี่ต้าหงก็เอามาใส่ในตะกร้าแบบนี้นะลูก” เสียงพ่อเลี้ยงกิตติภูมิสอนนายน้อยของไร่ในการเด็ดใบชา ทำเอาคนงานที่อยู่ใกล้ๆ ได้แต่ยิ้มด้วยความชื่นชมที่นายน้อยต้าหงอยากที่จะเรียนรู้ตั้งแต่เด็ก ตอนนี้นายน้อยต้าหงอายุได้หกขวบแล้วเป็นพี่ชายคนโตของน้องๆ อีกสองคนคุณหนูใบชากับคุณหนูทีทาม ลูกๆ ทั้งสามของพ่อเลี้ยงกิตติภูมิล้วนแต่มีชื่อเกี่ยวกับไร่ชาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นนายน้อยต้าหงเผา ที่มาจากชาที่แพงที่สุดในโลก เรียกไปเรียกมาเหลือแต่ต้าหงแต่ความหมายก็ยังดีมาก ส่วนน้องอีกสองคนเป็นฝาแฝดชายหญิงอายุสามขวบกว่า แฝดพี่เป็นเด็กหญิงผิวขาวน่ารักหน้าตาราวกับตุ๊กตาปั้นกับแฝดน้องเด็กชายผิวขาวปากแดงหน้าตาจิ้มลิ้มพอๆ กับพี่ใบชา ชื่อน้องทีทามหน้าตาของแฝดทั้งสองคล้ายไปทางคุณม๊าข้าวโพดจึงทำให้คนเป็นพ่อค่อนข้างจะหวงมาก “ป๊าฮะ ทำไมเอาแต่ยอดล่ะฮะ เด็ดเอาทุกใบไม่ได้เหรอจะได้ได้เยอะๆ” เด็กชายถามอย่างสงสัย เพราะคุณป๊าให้เด็ดแต่ยอดๆ ทั้งๆ ที่ใบก็ต้องเยอะ “เอาเฉพาะยอดครับลูกชาย เพราะสารต่างๆ ที่มีประโยชน์ของชาอยู่ที่ยอดชา ถ้าเอาใบแก่ไปชาจะขมไม่อร่อย” “โอเค พี่ต้าหง เข้าใจแล้วครับ” “หน
“ฮะ เฮีย เฮียข้าวโพดว่าข้าวเจ็บท้องคลอด มันเจ็บ เจ็บมากเฮีย” เสียงครางของเมียรักพร้อมกับแรงสะกิดที่ต้นแขนทำเอาคนที่นอนหลับอยู่ข้างๆ กับข้าวโพดถึงกับสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจและสีหน้าทั้งกังวลทั้งตื่นเต้นปนกันไปหมด “จะ จะคลอด เมียจะคลอด เมียเจ็บท้อง ลูกจะออกแล้ว ลูกเดี๋ยวอย่าเพิ่งออกมานะครับ” ประโยคที่เปล่งออกมาจากปากสั่นๆ ของพ่อเลี้ยงกิตติภูมิและท่าทางเก้ๆ กังๆ ลุกลี้ลุกลน ถ้าเป็นเวลาปกติข้าวโพดคงขำด้วยความเอ็นดู แต่เวลานี้กลับขำไม่ออกนอกจากจะขำไม่ออกแล้วยังทำให้ข้าวโพดเริ่มหงุดหงิดและไม่สบอารมณ์อีกต่างหาก “เออ ก็จะคลอดแล้วน่ะซิ เจ็บจะตายห่าอยู่แล้ว ไปตามหมอหรือพยาบาลมาซิวะ โอยยย ลูกจ๋าใจเย็นๆ แม่เจ็บ โอยยยย เร็วๆ ซิเฮียออกไปตามคุณพยาบาลมา” เสียงของข้าวโพดดังลั่นทั้งครางด้วยความเจ็บปวดทั้งสั่งให้คนเป็นสามีทำอะไรสักอย่าง จนพ่อเลี้ยงกิตติภูมินึกได้ว่าต้องไปตามพยาบาลให้เเจ้งคุณหมอถึงได้วิ่งออกจากห้องพักไป ก่อนวันนัดกำหนดคลอดด้วยความเป็นกังวลและไร่อยู่บนดอย การเดินทางตอนฉุกเฉินมันจะไม่สะดวก พ่อเลี้ยงกิติภูมิถึงได้จัดการให้ภรรยามานอนแอดมิทที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในเมืองเชียงใหม่เพื่อรอคลอ
“อ๊ะ อ๊าาาาาส์” ข้าวโพดรู้สึกได้ถึงความเย็นที่แท่งเนื้อสีอ่อนของตน เพียงเพราะว่าพ่อเลี้ยงเอาปลายลิ้นยาวมาตวัดเลียส่วนปลายของเขานี่เอง ก่อนที่จะรู้สึกอุ่นตามมาในเวลาต่อมาเพราะปากอุ่นได้อ้าอมเอาแท่งเนื้อของข้าวโพดไว้เข้าไปในปากเกือบหมด ส่วนก้นเนียนก็โดนลูบวนอย่างหลงใหลและหื่นกระหาย ก่อนที่ไรหนวดแข็งๆ ที่เริ่มขึ้นหรอมแหรมของคนเป็นสามีจะไปถูไถกับผิวเนื้อเนียนบริเวณร่องก้นของข้าวโพดทำให้รู้สึกเสียวอย่างบอกไม่ถูก และยิ่งเสียวมากขึ้นเมื่อนิ้วเรียวยาวแหย่แยงเข้าไปในรูจีบคับแคบ “อ๊ะ อุ๊ย ฮะ เฮีย ซี๊ดดด อ๊อย อืมมม เสียว ซี๊ดดดด” ข้าวโพดเผลอครางออกมา “เสียวเหรอคะเมีย ตรงนี้เสียวไหมคะเมีย ซี๊ดดดดด” พ่อเลี้ยงกิตติภูมิถามเมียรักเสียงกระเส่า ในขณะที่มือไม้ของคนตัวโตลูบไล้ตามก้นเนียนของผู้เป็นภรรยาและถอนนิ้วออกจากรูจีบ ก่อนที่จะตบก้นเนียนของภรรยาเบาๆ “หนูคะ หนูลงมานอนเร็วจะได้ไม่เมื่อย เดี๋ยวให้เฮียบริการเมียเองค่ะ” ข้าวโพดเคลื่อนตัวลงมานอนหงายที่กลางเตียง ตากลมมองอาการของพ่อเลี้ยงกิตติภูมิตอนนี้บอกได้เต็มปากว่าคนเป็นสามีช่างเหมือนคนที่กำลังหื่นกระหายเต็มที่ ทั้งสีหน้าแววตาของพ่อเลี้ยงมันทำ
ท้องข้าวโพดตอนนี้ใหญ่ขึ้นทุกวัน พ่อเลี้ยงก็ขยันเข้าไปเยี่ยมเยือนลูกน้อยในครรภ์มากเหลือเกิน อ้างว่าไปต่อแขนต่อขาให้ลูกบ้างล่ะ เข้าไปถามไถ่ความเป็นอยู่ของลูกบ้างล่ะ ทั้งที่ที่จริงจากการตรวจสุขภาพของคุณหมอแล้วลูกน้อยในครรภ์แข็งแรงสมบูรณ์ดี มีพัฒนาการที่ดีตามอายุครรภ์ ข้าวโพดก็ไม่คิดจะห้ามสามีบ้างเลยกลับกันกลับรู้สึกชอบและสนับสนุนสามีซะงั้น ตั้งแต่ที่ข้าวโพดได้ชุดนอนไม่ได้นอนมาจากน้องบอม ข้าวโพดยังไม่กล้าพอและยังไม่มีโอกาสได้ใส่เลยสักครั้ง เจ้าตัวได้แต่แอบซ่อนไว้อย่างดีเพราะกลัวสามีจะเห็น มีวันนี้ที่พอทานอาหารเย็นเสร็จ คนเป็นสามีบอกว่าจะไปดูคนงานสักหน่อย ข้าวโพดเลยรีบอาบน้ำให้เสร็จก่อนที่พ่อเลี้ยงจะกลับมาและเลือกชุดมาใส่ วันนี้ข้าวโพดลองหยิบเอาชุดลูกไม้สีดำเป็นยกทรงกับบิกินี่และก็ถุงน่องเข้าชุดกันมาใส่ไว้ ก่อนที่จะสวมชุดนอนขายาวแขนยาวทับอีกที พอได้ยินเสียงเปิดประตูห้องนอนเข้ามาข้าวโพดก็รีบไปนั่งที่โต๊ะเครื่องเเป้งทำเป็นหวีผมอยู่ “อ้าว อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอครับที่รัก งั้นอย่าเพิ่งนอนนะครับรอเฮียอาบน้ำแป๊บเดียว หนูนอนรอที่เตียงก่อนก็ได้ แต่ห้ามหลับนะคะ” ข้าวโพดพยักหน้ารับอย่างง่ายๆ ตอนนี้
“มีอะไรกันหรือเปล่าวะ พวกมึง” พ่อเลี้ยงซึ่งโอบเอวของภรรยาลงบันไดมาเจอเพื่อนทั้งสองคุยกันหน้าเครียดอยู่เลยเอ่ยถามออกมา “ก็ไอ้พงศ์น่ะซิมันโวยวายว่าคนที่นอนห้องเดียวกันกับมันหายไป” บดินทร์หันมาบอกพ่อเลี้ยงเพื่อนรักอย่างยิ้มๆ เชิงว่าน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น “อ่อ พัน น่ะหรือ น้องเค้ากลับไปตั้งแต่เช้ามืดแล้ว ไม่ได้หายไปไหนหรอกป่ะ ไปกินข้าวกันเถอะเมียกูหิวแล้ว” เจ้าของบ้านบอกกับเพื่อนสนิททั้งสอง ก่อนที่จะเดินนำเพื่อนไปที่ห้องอาหาร ซึ่งตอนนี้ภรรยาเดินหนีเขาไปหาน้ำมนต์เพื่อนรักโน่น เวลาดูสองคนนี้อยู่ด้วยกันทีไรมันมุ้งมิ้งน่ารักไปหมด เขาคิดว่าไอ้ดินต้องคิดเหมือนกับเขาอย่างแน่นอน “เดี๋ยวนะไอ้บลู พันเค้าไปตั้งแต่เช้ามืดเลยเหรอ มึงรู้แล้วทำไมมึงไม่บอกกู” ภาณุพงศ์โวยวายกับเพื่อน ซึ่งคำพูดของภาณุพงศ์ทำเอาเพื่อนทั้งสองหันมามองแทบจะทันที ก่อนจะทำสีหน้าฉงนสงสัย “ไอ้พงศ์ แล้วทำไมกูต้องบอกมึง ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับมึงเลย หรือมึงมีอะไรบอกกูมา” พ่อเลี้ยงหันมาถามเพื่อนอย่างสงสัยในพิรุธของไอ้เพื่อนตัวดี “กะ ก็กูเห็นเค้าลืมของสำคัญไว้น่ะ กูว่าจะคืนเค้า” เสียงพูดตะกุกตะกักผิดวิสัยนายตำรวจยิ่งส่อพิรุธให้จับผ