ถ้าเด็กมันจะยั่ว อยากได้เราเป็นผัวเราก็ต้องสนอง ถ้าคิดจะมีเมียเด็กต้องเช็คร่างกายให้พร้อม เด๋ียวเมียหาว่าแก่ ถ้าคิดจะมีผัวแก่ต้องยั่วให้เป็น ลีลาต้องเด็ด แต่งตัวให้ยั่ว ให้ผัวรักผัวหลงจนโงหัวไม่ขึ้น
view more“เป็นยังไงบ้าง เหน่ื่อยหรือเปล่าลูกไม่ค่อยกลับมานอนบ้านใหญ่เลยช่วงนี้”
เสียงแม่เลี้ยงกานดาเอ่ยถามลูกชายคนโตที่เดินเข้าบ้านมาด้วยท่าทางอิดโรย แต่ก็ยังคงความหล่อเหลาและดูดีอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ลูกชายของเธอจะทำงานหนักและไม่ค่อยได้พักผ่อนแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อเหลาของใบหน้าคมลดลงเลย กลับมีเสน่ห์ด้วยซ้ำเมื่อลูกชายยุ่งจนไม่มีเวลาโกนหนวดโกนเคราที่ขึ้นหร็อมแหร็มอยู่ตอนนี้ทำให้ใบหน้าขาวจึงดูเข้มขึ้นดึงดูดผู้พบเห็น ผิวที่ขาวอย่างคนที่อยู่ในอากาศเย็นและขาวตามยีนของผู้แม่ดูคล้ำลงเพียงแค่เล็กน้อยแต่ก็ถือว่ายังขาวอยู่เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ชายคนอื่นลูกชายเธอหล่อขนาดนี้ทำไมยังไม่มีแฟนนะ
เมื่อก่อนสมัยเรียนปริญญาโทลูกชายของเธอคบกับแฟนสาวจนถึงขั้นจริงจังจะขอแต่งงาน แต่ฝ่ายหญิงมาขอเลิกเสียก่อนเพราะพบรักกับเศรษฐีเมืองนอก ทำให้ชายหนุ่มอกหักจนไม่ได้คบใครอีกเลยและขอเรียนต่อปริญญาเอกจนจบ พอจบมาก็ไปหมกตัวในไร่ แต่ใช่ว่าจะไม่มีผู้หญิงมาจีบเพียงแต่ลูกชายเธอไม่สนใจต่างหากมัวแต่ขลุกอยู่ในไร่ชา จนตอนนี้ กิตติภูมิ เลิศธนาธีกานต์ หรือพี่บลู อายุ 29 ปี แล้วยังไร้คู่ครองมาข้างกาย แล้วเมื่อไหร่ที่เธอจะมีหลานย่ากับเขาเสียที
“ช่วงนี้ยุ่งครับแม่ ช่วงใกล้สิ้นเดือนต้องรีบปิดบัญชีต้องทำรายรับรายจ่ายและทำเรื่องเบิกค่าแรงคนงานครับเลยยุ่ง”
ร่างสูงกำยำถอดหมวกออกก่อนที่จะเดินมาหาผู้เป็นแม่แล้วหอมแก้มอิ่มที่เริ่มมีอายุแต่ยังคงความสวยงามอยู่เพื่อขอกำลังใจ คนเป็นแม่จึงลูบศีรษะลูกชายก่อนที่จะหอมแก้มลูกชายทั้งสองข้างตอบ
“หายเหนื่อยเลยครับ” ฝ่ายลูกชายยิ้มให้ผู้เป็นแม่ ลักยิ้มที่ปรากฏอยู่ข้างแก้มทั้งสองข้างทำให้ใบหน้าหล่อมีเสน่ห์ขึ้น แต่น่าเสียดายลักยิ้มนี้ถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวก็จะไม่ค่อยได้เห็น
“ยังไม่ได้เลขาหรือผู้ช่วยมาทำบัญชีเลยเหรอลูก ประกาศไปนานแล้วนะทำไมหายากจัง” แม่เลี้ยงเหนื่อยแทนลูกชายเพราะเห็นหาคนงานมาทำบัญชีเป็นเดือนสองเดือนแล้ว
“คงไม่มีใครอยากขึ้นไปอยู่ลำบากในที่กันดาร ไร้แสงสีเสียงหรอกครับแม่ ไม่เป็นไรครับระหว่างรอคนบลูก็พอจะทำได้แต่อาจจะช้าหน่อยต้องใช้เวลาหลังเลิกงาน เลยอาจจะไม่ค่อยได้มาที่บ้านใหญ่บ่อยนะครับ”
กิตติภูมิบอกมารดาไปตามความจริงเพราะถึงเขาจะให้ค่าจ้างสูงมากในการจ้างผู้ช่วยและมีคนสนใจสมัครมากมาย แต่พอบอกสถานที่ไปก็มาทำกันได้ไม่ถึงเดือนก็มาขอลาออกเพราะไม่ชอบชีวิตลำบากไกลสีเสียง ไกลความเจริญ
“เมื่อไหร่จะได้เมียสักทีล่ะลูกทำตัวยุ่งซะขนาดนี้” คนอยากเป็นย่าคนเปิดประเด็น พลางลูบศีรษะลูกชายที่นั่งพับเพียบกับพื้นเอาหน้าแนบตักแม่เหมือนอ้อนพร้อมกับหลับตาคุยกับแม่ ทิ้งมาดพ่อเลี้ยงไร่ชาที่ดุดันจริงจังกับงานไป
“ขนาดหาผู้ช่วยมาช่วยงานยังไม่ได้เลยครับแม่ หาเมียน่าจะยากมากกว่า” เจ้าลูกชายบอกแม่เหมือนน้อยใจในวาสนาให้แม่เอ็นดู
“โถ โถ พี่บลูลูกแม่ งั้นก็ต้องหาเมียที่มาช่วยงานได้ หรือหาผู้ช่วยมาช่วยงานแล้วจีบเป็นเมียซิลูก จับปลาครั้งเดียวได้นกสองตัว” แม่เลี้ยงแนะนำลูกชาย
“ใช่ที่ไหนละครับแม่ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวรึเปล่า” ลูกชายค้านแม่เบาๆ
“อย่างน้อยแม่ก็ภูมิใจที่ลูกจำสุภาษิตไทยได้ ฮาฮาฮา ตกลงเอาอย่างที่แม่ว่านะดีไหมลูก” คนแกล้งพูดผิดบอกกับลูก
“แล้วคุณพ่อไปไหนครับเนี่ย ไม่เห็นหน้าเลย” ชายหนุ่มถามหาพ่อเลี้ยงธนาเพื่อพามารดาออกจากบทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องมีครอบครัวของตัวเอง
“ไปหายัยโบว์เห็นน้องบอกว่ามีลูกค้าที่รีสอร์ตถามหาคุณพ่อบอกเป็นเพื่อนเก่าก็เลยจะไปดูว่าใครมาหา”
ถึงบ้านใหญ่จะปลูกไว้ในส่วนของรีสอร์ตแต่ก็แยกโซนกันชัดเจน ตอนนี้พ่อเลี้ยงธนาพ่อของเขาได้โอนในส่วนไร่ชาให้ชายหนุ่มดูแล ส่วนรีสอร์ตธีรกานต์ กฤติยาภรณ์หรือโบว์น้องสาวของเขาดูแลอยู่ โดยทั้งสองที่มีส่วนของกิตติภพน้องชายคนเล็กที่เรียนแพทย์อยู่อย่างละยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์
“แล้ว นี่หลานไปไหนครับปกติเห็นอยู่กับคุณยายตลอด”
ชายหนุ่มถามถึงน้องบูมลูกชายของกิตติภพน้องชายของเขาที่แม่เขาขอเลี้ยงหลานเองระหว่างที่น้องชายเขาเรียนแพทย์อยู่ พูดถึงบอมบอมน้องชายเขาก็เจอมรสุมชีวิตที่หนักหน่วงต้องท้องในวัยเรียนทำให้ต้องหยุดเรียนกลางคัน กว่าจะเคลียร์ปัญหาชีวิตได้กว่าจะได้กลับไปเรียนต้องเสียเวลาเป็นปี ตอนนี้แม่เลี้ยงกานดาจึงต้องขอเอาหลานไว้ดูแลเองเพื่อไม่ให้น้องชายห่วงลูกมากนัก จนทำให้เด็กน้อยวัยสองขวบกว่าก็ติดคุณยายมาก
“โน่น คุณตาเค้าเอาไปอวดเพื่อน” แม่เลี้ยงกานดาพูดไปยิ้มไป นางมีความสุขทุกครั้งที่พูดถึงน้องบูมหลานรักของนาง
“เออ หิวหรือยังลูกไปอาบน้ำอาบท่าไปจะได้มาทานข้าว วันนี้นอนบ้านใหญ่ได้ไหมลูก” คนเป็นเเม่พูดเสียงเศร้าเพราะไม่ค่อยได้เห็นหน้าลูกชายช่วงนี้ แต่ใจจริงไม่อยากให้ลูกชายขับรถกลับไร่ตอนกลางคืนเพราะอยากให้พักผ่อนให้เต็มที่มากกว่า
“ได้ครับแม่ เดี๋ยวคืนนี้บลูนอนนี่ก็ได้ พรุ่งนี้เช้าบลูค่อยกลับไร่ก็ได้ครับ งั้นบลูไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ”
พอลูกชายบอกจะนอนค้างที่บ้านแม่เลี้ยงกานดายิ้มแก้มปริ นางอุตส่าห์แสดงละครทำหน้าเศร้าให้ลูกชายสงสารและก็ได้ผลในที่สุดลูกชายที่หายใจเข้าออกเป็นไร่ชาก็ยอมนอนค้างที่บ้านตั้งหนึ่งคืน เดี๋ยวต้องไปเตรียมกับข้าวไว้เผื่อให้ลูกชายเอากลับไปไว้ทานท่ี่ไร่ต่อพรุ่งนี้อีก
“คุณพ่อสวัสดีครับ” กิตติภูมิทักทายผู้เป็นบิดาหลังจากที่อาบน้ำแล้วลงมาเพื่อทานข้าว ก่อนที่จะนั่่งลงข้างพ่อเลี้ยงธนาผู้เป็นพ่อที่เล่นกับน้องบูมหลานชายตัวน้อยอยู่
“อ้าว ไอ้เสือมาแล้วเหรอลูก เป็นไงบ้างได้คนช่วยงานหรือยัง” พ่อเลี้ยงธนาเงยหน้าจากหลาน มาคุยกับลูกชายเพราะผู้ช่วยคนเก่าที่เคยทำงานกันมานานหลายปีมาลาออกกะทันหัน เพราะได้สามีชาวต่างชาติเลยต้องย้ายตามสามีไป ทำให้หาคนมาแทนไม่ทัน พอได้มาก็มาทำได้ไม่นานเพราะอยูู่บนดอยการเดินทางมาใช้ชีวิตในเมืองหรือกลับมาเยี่ยมบ้านลำบากก็ขอลาออกไปถึงสองคนแล้ว ลูกชายเลยต้องทำเองทุกอย่าง
“ยังครับพ่อ เดี๋ยวก็คงมีครับไม่เป็นไรบลูยังไหว” กิตติภูมิบอกเพื่อให้ผู้เป็นพ่อสบายใจ เขารู้ว่าทั้งพ่อและแม่เป็นห่วงแต่เขาก็อยากให้ทั้งสองที่ทำงานมาตลอดชีวิตพักผ่อนเลี้ยงหลานอยู่บ้าน เดี๋ยวปัญหาทุกอย่างเขาจะจัดการเอง
“น้องบูมว่าไงครับคนเก่ง คิดถึงป๊ะบลูไหม” กิตติภูมิถามหลานชายเพราะตอนแรกน้องบูมพูดคำว่าลุงไม่ได้เลยเรียก ปะบู ก่อนที่จะมาเป็น ป๊ะบลู
“คิดถึงมากๆ ฮะ ป๊ะบลูไม่ค่อยมา” เด็กน้อยน่ารักไม่เห็นหน้าของคนเป็นลุงผู้ใจดีนานเลยบอกคิดถึง และรีบลุกขึ้นกระโดดเข้ามาหอมเเก้มลุงบลูทันที
“โอ๊ย ขี้อ้อน น่ารักเหลือเกินหลานใครครับเนี่ย” คนเป็นลุงหลงหลานไม่ไหว ก่อนจะฟัดแก้มนุ่มๆ ของหลานซ้ายทีขวาทีด้วยความรัก
“หลานตากับหลานยายฮะ” หลานชายตอบฉะฉาน ทำเอาลุงที่รอฟังคำตอบที่อยากจะได้ยินแล้วชื่นใจว่าเป็นหลานตัวเองเก้อทันที
“ฮา ฮา ฮา ฮา อยู่เป็นจังเลยหลานตา ฟอดดด รักจังเลย ฟอดดด แกต้องมาให้หลานเห็นหน้าบ่อยๆ แล้วล่ะป๊ะบลู หลานถึงจะรัก” ชายหนุ่มหน้านิ่วเม่ื่อเจอคนเป็นพ่อขิงใส่
“ไม่งั้นต้องมีลูกเองแล้วล่ะตาบลูเอ้ย” คนเป็นแม่ยังไม่ลืมเรื่องอยากให้ลูกชายมีครอบครัว
“มันง่ายขนาดนั้นก็ดีซิครับแม่เลี้ยง สงสัยต้องแก่แล้วให้น้องบูมเลี้ยงแล้วล่ะ ใช่ไหมน้องบูม” ลูกชายโอดโอยพร้อมกับวางแพลนอนาคตตอนแก่ฝากไว้ที่หลานชาย
“พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงคะ ขออนุญาตค่ะ” เสียงของป้าบุปผาแม่บ้านของบ้านใหญ่เดินเข้ามาขออนุญาตคนเป็นนายทั้งสอง
“อ้าว มีอะไรหรือเปล่าล่ะป้าผา” พ่อเลี้ยงธนาถามคนงานของตัวเองที่อยู่กันมานาน พร้อมกับแปลกใจในท่าทีเกรงอกเกรงใจไม่กล้าพูดของป้าบุปผา
“เอ่อ พอดีป้าอยากจะขอลางานไปกรุงเทพสักอาทิตย์น่ะค่ะ หลานชายของป้าจะรับปริญญาป้าก็เลยอยากจะไปแสดงความยินดีกับเขา พอจะได้ไหมคะ” ป้าบุปผาเอ่ยบอกด้วยท่าทางเกรงใจเพราะนางขอหยุดหลายวันเกินไป กลัวว่านายจ้างจะว่าเอาเพราะเงินเดือนค่าจ้างที่ได้รับถือว่าเยอะมากเมื่อเทียบกับที่อื่น อีกทั้งกลัวตอนที่แกไม่อยู่คนอื่นจะทำงานไม่ถูกใจคนเป็นนาย
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะป้าผาแค่อาทิตย์เดียวเอง ตั้งแต่ทำงานมาป้าผายังไม่เคยขอหยุดงานเลยถ้าไม่บังคับให้หยุด” พ่อเลี้ยงธนาอนุญาตอย่างใจดีกับคนเก่าคนแก่ที่ภักดีกับตัวเอง
“ว่าแต่หลานชายป้าผาเรียนจบอะไรมาคะ พอจะรู้ไหม” แม่เลี้ยงกานดาถามต่ออย่างมีความหวัง
“เดี๋ยวแป๊บนึงนะคะ ป้าเปิดดูก่อน นี่ค่ะคณะพานิชยศาสตร์และการบัญชี ค่ะ” ป้าบุปผาเปิดรูปหลานชายที่ถ่ายที่หน้าคณะมาให้ดูส่งให้แม่เลี้ยงกานดาดูทันที แกภูมิใจมากที่เงินค่าแรงจากอาชีพแม่บ้านของแกสามารถส่งเสียไปช่วยให้หลานชายเรียนจนจบปริญญา
“จบแล้วไปสมัครงานที่ไหนหรือยังจ๊ะป้าผา” แม่เลี้ยงถามยิ้มๆ
“ไปสมัครแล้วค่ะแม่เลี้ยงแต่รอเขาตอบกลับตอนนี้ก็ยังรอก่อนค่ะ ระหว่างรอที่กรุงเทพตอบรับเห็นว่าจะกลับมาลองสมัครแถวบ้านเราดูค่ะ”
“เอาอย่างนี้ไหมป้าผา ไม่ต้องไปรอสมัครที่ไหนแล้ว รับปริญญาเสร็จให้มาสมัครงานที่นี่เลย ตอนนี้ที่ไร่ชาขาดคนช่วยตาบลูทำบัญชีอยู่พอดี” แม่เลี้ยงเสนอทางออกให้ทางเลือกให้อย่างใจดี
“จริงเหรอคะแม่เลี้ยง ขอบพระคุณมากนะคะที่เมตตาเดี๋ยวป้าจะบอกข่าวดีกับหลาน เค้าคงดีใจที่จบแล้วมีงานทำใกล้บ้านค่ะ ว่าแต่คุณบลูจะรับหลานป้าจริงๆ ใช่ไหมคะ”
ป้าบุปผายังกลัวเจ้านายตัวจริงเจ้าของไร่ชาจะไม่รับหลานชายเพราะเจ้าตัวเขายังไม่เอ่ยปากว่ายังไง
“ครับ รับครับ” เจ้าของไร่พูดสั้นแต่ทว่าหนักแน่น
พ่อเลี้ยงกิตติภูมิพูดไม่เกินจริง เขาจับร่างบางที่แสนจะยั่วยวนเซ็กซี่กินอย่างมูมมามไม่รู้จักอิ่ม เขาจัดท่าร่วมรักให้หลายต่อหลายท่า และหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้แต่งตัวหน้ากระจก ในห้องน้ำ ข้างเตียง ล้วนแล้วแต่โดนพ่อเลี้ยงใช้เป็นสังเวียนรักหมด จนตอนนี้คู่ซ้อมอย่างข้าวโพดสลบเหมือดไปแล้ว แต่ท่อนเอ็นอนาคอนด้ายังมุดโยกอยู่ในถ้ำของแม่มันที่ตอนนี้ร้อนผ่าวไปหมด มือหนาคว้าเอาน้องน้อยเข้ามาไว้ในอ้อมกอดก่อนจะหลับไปด้วยกัน “โอ๊ะ ซี๊ดดดด เจ็บ” ข้าวโพดลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะความหิว แต่พอขยับตัวก็ต้องเผชิญกับความเจ็บระบมของร่างกายที่กรำศึกรักมาอย่างหนักหน่วง นึกแล้วโมโหตัวเองที่ไปคล้อยตามคนตัวโตที่เรียกร้องเอากับร่างกายเขาอย่างไม่รู้จักพอ โมโหไอ้พ่อเลี้ยงหื่นกามนั่นด้วย เป็นบ้าอะไรอยู่ๆ ก็เดินมาจับตัวเขามาปล้ำทำเรื่องอย่างว่า แฟนกันก็ไม่ใช่ หนำซ้ำไม่อ่อนโยนกับเขาเลย ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นครั้งแรก ทำไมมันถึงเจ็บราวกับตัวร้าวได้ขนาดนี้ หิวข้าวจังเลย ตั้งแต่ตื่นมาเมื่อเช้าก็ไปถ่ายรูปกับน้ำมนต์กะว่าถ่ายรูปเสร็จจะพากันไปกินข้าว แต่นี่กลับโดนจับมากินจนสลบไปก่อน ข้าวปลาก็ยังไม่ตกถึงท้อง จนจะบ่ายโมงแล้ว ข้าวโพ
“เฮ้ยยยย” เสียงของพ่อเลี้ยงกิตติภูมิดังขึ้น เมื่อถูกร่างบางใช้เท้ายันเข้าที่กลางลำตัว เพียงแค่ช่วงจังหวะที่เขาลุกขึ้นมาจากร่างบางเตรียมตัวที่จะเอาอนาคอนด้าของเขาเสียบเข้าไปในรูรักของข้าวโพดแทนนิ้วบ้าๆ นั่น ไม่นึกว่าจะโดนถีบจนหงายหลังไม่ทันได้ตั้งตัว ตกใจได้เพียงไม่นานข้าวโพดก็ทำให้เขาประหลาดใจและชอบใจในเวลาต่อมา เมื่อเขาเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบโดนอีกฝ่ายขึ้นคล่อมทับเอาไว้เสียเอง ก่อนที่ร่างบางจูบจับเอาอนาคอนด้าของเขาเอาไว้ในมือและค่อยๆ หย่อนสะโพกเนียนลงให้รูรักตรงกับส่วนหัวของอนาคอนด้า เด็กมันใจร้อนวุ้ย ข้าวโพดจับให้ท่อนเอ็นของพ่อเลี้ยงอยู่นิ่งๆ ในกำมือ มันรู้สึกได้ถึงความใหญ่โตมหึมาทันทีที่ได้สัมผัสเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะค่อยๆ หย่อนก้นลงให้รูจีบอยู่ตรงกับส่วนปลายของท่อนเอ็นทู่ อย่างที่เคยแอบดูในคลิป “อูยยย เจ็บ ไม่ไหว เจ็บอ่ะ เข้าไม่ได้เลยอ่ะ อูยยยย ทำไมตอนที่ดูในคลิปมันดูทำง่ายจัง” ข้าวโพดทะเลาะกับความคิดของตัวเองเสียงดัง จนอีกคนที่ได้ยินต้องกลั้นขำเอาไว้ นี่คงไปแอบดูคลิปลามกมาแน่เลย ข้าวโพดจะรู้ไหมว่าในคลิปที่ดูคนแสดงอาจจะผ่านมาจนเจนเวทีแล้ว ไม่ใช่เด็กไม่มีประสบการณ์อย่างข้าวโพด
“นี่ ปล่อย ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะพ่อเลี้ยง ปล่อย” ข้าวโพดที่เพิ่งจะตั้งสติได้ หลังจากที่หายตกใจกับสิ่งที่ร่างสูงของพ่อเลี้ยงกิตติภูมิกระทำต่อตนเอง มือเรียวกระหน่ำทุบที่ไหล่หนาของคนที่อุ้มเขาอยู่ พร้อมกับบอกให้อีกฝ่ายปล่อยให้ตัวเองลง แต่มีหรือคนตัวโตจะสะทกสะท้าน แรงเท่ามดมาริอาจทุบช้างอย่างเขา “ว้าย อุ้มดีๆ ซิ เดี๋ยวผมตก” ร่างบางร้องตกใจที่อยู่ๆ คนที่อุ้มตัวเองอยู่ทำท่าจะปล่อยมือให้เขาร่วง มือเรียวสองข้างรีบยกขึ้นไปคล้องคอร่างสูงทันที เสียงร้องง้องแง้ง ทำให้คนที่แกล้ง หัวเราะในลำคออย่างถูกใจ หึ หึ “คะ..คุณ คุณจะทำบ้าอะไร อย่านะ” ข้าวโพดร้องโวยวายอย่างตกใจทันที เมื่อถูกพ่อเลี้ยงวางตัวเองไว้ที่เตียงหลังใหญ่ห้องหนึ่ง น่าจะเป็นห้องที่คนโตสูงเช็คอินไว้แน่เลย “ทำไม กลัวเหรอ จะกลัวทำไม ที่แต่งตัวโป๊ไปยั่วคนอื่นยังไม่กลัวโดนจับไปข่มขืนเลย” พ่อเลี้ยงพูดด้วยความหงุดหงิดเมื่อนึกถึงสายตาของไอ้สองหนุ่มเมื่อครู่ ที่มันมองร่างบางอย่างถูกใจอยากจะเคลมไปกิน ถ้าเขาไปไม่ทันมีหวังร่างบางเสร็จมันแน่ “ใครไปแต่งตัวยั่วยวนใคร ไม่มีใครเค้าคิดอกุศลอย่างคุณหรอก” ถึงปากจะเถียงกลับ แต่ร่างบางยังกระถดตัวถอยหนีอ
นี่มันเรื่องบ้าอะไรก็ไม่รู้ เขาถึงต้องนั่งรถมากับไอ้ตัววุ่นวายอย่างบดินทร์เพื่อนรัก ดึกแล้วแทนที่คุยกันเสร็จแล้วจะได้พักผ่อน มันดันลากเขาขึ้นรถออกมากับมันเพื่อที่จะมาเช็คอินที่รีสอร์ตเล็กๆ ไม่ไกลจากไร่ชาของเขา แทนที่เขาจะได้นอนพัก ได้คิดเรื่องผู้ช่วยของเขา ว่าจะจัดการยังไงต่อ เบื่อวุ้ยไอ้เพื่อนบ้าบ้านพักที่รีสอร์ตนี้อยู่บนเนินเขา แยกเป็นหลังๆ แต่ละหลังไม่ไกลจากกันมาก หลังที่เขาพักมีอยู่ห้องเดียว เขาเลยต้องนอนกับเพื่อนเตียงเดียวกัน“ไอ้ดิน มึงไปนอนโซฟาเลย เตียงมันเล็กกูเป็นแขก กูจะใช้สิทธิ์นอนเตียง” กิตติภูมิกะดูแล้วถึงเตียงจะกว้าง แต่ทว่าผู้ชายตัวใหญ่สองคนนอนด้วยกันมันจะอึดอัดมากกว่า บอกเพื่อนเสร็จร่างสูงก็ล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้าทันทีบดินทร์ได้แต่ส่ายหน้ามองเพื่อนรักที่มันชิงหลับไปบนเตียงก่อนเเล้ว ส่วนเขาก็เดินไปอาศัยโซฟาเบดตัวใหญ่สำหรับนอนคืนนี้ ตื่นมาพรุ่งนี้ค่อยมาจัดการตัวแสบ“ข้าวโพดนั่งท่านั้นก่อน แอ่นหลังให้โค้งๆ ก้นงอนๆ หน่อย น่านแหละดี หันหน้ามาทางนี้หน่อย ทำท่าให้มันยั่วๆ กว่านี้หน่อย อย่าเพิ่งยิ้มค้างไว้ท่านี้นะขอรูปนี้ก่อนนะ ดูเซ็กซี่มาก”เสียงใสๆ ของน้ำมนต์ที่ทำหน้
“นี่ไงข้าวโพด จะไม่ให้น้ำมนต์โมโหได้ยังไง เพราะถ้าไอ้พี่ดินไม่ปากดีหาว่าเราขี้เหร่ หาผัวไม่ได้ หาว่าเราแรดนะ ไม่งั้นเราก็ยอมตกลงแล้ว” น้ำมนต์เล่าเรื่องที่ตนบังเอิญไปได้ยินบดินทร์พูดโทรศัพท์กับใครสักคนถึงตัวเอง ทั้งที่ยังไม่เคยได้เห็นหน้าในแง่ไม่ดีเลยขอเลื่อนงานหมั้นและงานแต่งงานไปก่อน ซึ่งผู้ใหญ่ก็ตามใจน้ำมนต์ “อ้าว แล้วนี่พี่ดินไม่ว่าอะไรเลยเหรอ” ข้าวโพดถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะคิดว่าหน้าตาสวยๆ น่ารักๆ อย่างน้ำมนต์น่าจะสเปคของบดินทร์ “ก็ไม่เห็นว่าไงนะ อาจจะชอบใจด้วยซ้ำที่ไม่ต้องมาแต่งงานกัับคนขี้เหร่อย่างน้ำมนต์ ฮึ คอยดูนะ น้ำมนต์จะหาคู่ควงคนใหม่ให้หล่อๆ กว่าไอ้พี่ดินคอยดู” น้ำมนต์พูดด้วยความหมายมาด ถึงแม้บดินทร์จะตรงตามสเปคของตัวเองก็เถอะแต่ปากไม่ดีก็ต้องอดไป “โอ๋ๆๆ ไม่หงุดหงิดนะน้ำมนต์คนงาม มาเร็วมากินหมูกระทะกันจะได้อารมณ์ดี” ข้าวโพดรีบจัดโต๊ะเพื่อที่จะกินหมูกระทะที่ทางรีสอร์ตจัดมาให้ “อูยยยย ข้าวโพดอ่ะมายั่วน้ำลายกัน นี่แหละเค้าบอกว่า หมูกระทะเยียวยาทุกสิ่ง” น้ำมนต์ต่อว่าเพื่อนก่อนที่จะเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามเพื่อกินของโปรดกัน เพื่อนซี้ทั้งสองนั่งลงมือจัดการกับหมูและผักตรงหน
“สวัสดีครับคุณลุงเด่น สวัสดีครับคุณป้านวล” น้ำมนต์กล่าวสวัสดีทักทายพร้อมยกมือไหว้คุณเด่นชัยกับคุณนวลพรรณผู้เป็นเพื่อนพ่อกับแม่ของตัวเองอย่างนอบน้อม และเป็นพ่อแม่ของบดินทร์คู่หมั้นที่ไม่เคยเห็นหน้า แต่ผู้ใหญ่ได้ทาบทามจัดการไว้ตั้งแต่ยังเด็กวันนี้คุณเด่นชัยกับคุณนวลพรรณได้เชิญครอบครัวของน้ำมนต์มาทานอาหารที่บ้าน เพราะอยากให้คนที่เป็นคู่หมั้นคู่หมายกันได้เห็นหน้าค่าตากันบ้างหลังจากที่คลาดกันไปมาหลายครั้ง ครั้งนี้พวกผู้ใหญ่เลยไม่ยอมต้องลากทั้งคู่ออกมาเจอกันให้ได้ น้ำมนต์จึงจำใจต้องตามพ่อกับแม่มาทานข้าวที่บ้านของบดินทร์อย่างเลี่ยงไม่ได้“สวัสดีหนูน้ำมนต์ ไหว้พระเถอะลูก”“สวัสดีจ๊ะหนูน้ำมนต์ลูก น่ารักจังเลยว่าที่ลูกสะใภ้แม่ ขอคุณแม่กอดหน่อยม่ะ ฟอดดดด น่ารักจังเลย” คุณป้านวลพรรณกล่าวชมว่าที่ลูกสะใภ้อย่างน้ำมนต์ลูกของเพื่อน นานๆคุณนวลพรรณเธอจะเจอน้ำมนต์ทีเพราะอีกฝ่ายไปเรียนที่กรุงเทพ แต่เจอทีไรนำ้มนต์ก็ดูหน้ารักใบหน้าสวยเหมือนเพื่อนเธอขึ้นทุกวัน เธอจะดีใจมากถ้าบดินทร์ลูกชายแต่งงานกับน้ำมนต์เพราะเธอรักและเอ็นดูน้ำมนต์ตั้งแต่ยังเด็ก“ตามสบายเลยนะลูก เดี๋ยวรอแม่บ้านจัดเตรียมอาหารก่อน หิวกันหรือย
Mga Comments