ข้าวต้มกุ้งตัวโต ๆ ส่งกลิ่นหอมชวนหิวและไหนจะได้ความหอมจากน้ำมันกระเทียมเจียวยิ่งชวนเพิ่มความหอมชวนน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นไปอีก
"ฮึก"แต่กลับไม่ใช่สำหรับต้นน้ำ เมื่อเธอได้กลิ่นอาหารก็ต้องรีบยกมือขึ้นปิดปากพยุงกายลุกขึ้นสาวเท้าวิ่งเข้าไปในห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว อ้วก อ้วก จริยารีบวางถาดอาหารไว้บนโต๊ะก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปภายในห้องน้ำด้วยความเป็นห่วงจับใจเมื่อได้ยินเสียงอาเจียนอย่างหนักของลูกสาว อ้วก อ๊วก "ว้ายต้นน้ำ หนูเป็นอะไรไปลูก"เสียงเอ่ยร้องถามดังขึ้นด้วยความกลัวดังเล็ดลอดออกไปถึงนอกห้องนอนซึ่งยังไม่ได้ปิดประตู ทำให้ต้นกล้าซึ่งเดินผ่านมาสะดุ้งด้วยความตกใจรีบวิ่งเข้าไปภายในห้องนอนของพี่สาว "แม่ครับ" "กล้า มาช่วยพยุงพี่ของเราหน่อย แม่จะไปตามพ่อ" "ครับ ๆ "ต้นกล้ารีบวิ่งเข้าไปช่วยพยุงร่างอันไร้เรี่ยวแรงของพี่สาวโดยแววตาตื่นตระหนกเพราะไม่เคยเห็นพี่สาวมีอาการรุนแรงแบบนี้ "พี่ต้นน้ำ ทำใจดี ๆ เอาไว้นะครับ" "กล้า พี่เหนื่อยจังเลย ฮึก"น้ำเสียงอ่อนแรงเอ่ยบอกน้องชายฝาแฝด ริมฝีปากเล็กซีดเซียวพวกแก้มไร้สีเลือดทุกอย่างมันเกิดเร็วมากจนไม่มีใครในครอบครัวตั้งตัวได้ทัน ติ๊ด ติ๊ด เสียงเครื่องวัดชีพจรดังขึ้นในท่ามกลางความเงียบ ผู้เป็นพ่อยืนอยู่นอกระเบียงห้องพักเงยหน้ามองท้องฟ้าด้วยดวงตาแดงก่ำ ทุกอย่างรอบตัวหยุดหมุนความรู้สึกเสียใจและผิดหวังถาโถมเข้ามาจนไม่สามารถทำใจยอมรับได้ ฮือ "แม่อย่าร้องไห้เลยนะครับ" "แม่เป็นแม่ที่แย่ใช่ไหมลูก ฮึก เลี้ยงลูกไม่ดีพอ ต้นน้ำได้ถึง" "ไม่ครับแม่ แม่กับพ่อเก่งที่สุด เราอย่าพึ่งตัดสินอะไรในตอนนี้เลยนะครับรอให้พี่ต้นน้ำฟื้นมาก่อนจะดีกว่า"ต้นกล้าเอ่ยปลอบโยนโอบกอดร่างของผู้เป็นแม่เอาไว้ เสียงสะอื้นร่ำไห้ด้วยความเสียใจบาดลึกเข้าไปถึงเนื้อในของคนฟัง ดวงตาคมกริบมองแผ่นหลังของผู้เป็นพ่อ ท่านคงปวดใจอยู่ไม่น้อยหลังจากได้ฟังอาการไม่สบายของพี่สาวฝาแฝด หลังจากคุณหมอบอกเกี่ยวกับอาการของต้นน้ำท่านทั้งสองก็แทบล้มทั้งยืนแม้แต่เขาเองแข้งขาก็ยังสั่น สมองหนักอึ้งคิดไม่ออกเลยว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นกับพี่สาวของเขาได้อย่างไร ถ้าได้อยู่ในเขตรั่วโรงเรียนเดียวกันเขาสาบานว่าจะไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้ได้เกิดขึ้น ช่วงเช้าของวันต่อมาเป็นเวลาที่ทุกคนรอคอยไม่เว้นแม้แต่ต้นกล้า เขายอมขาดเรียนเพื่อเฝ้าดูอาการของพี่สาวฝาแฝดและอีกเหตุผลหนึ่งเขาอยากจะรู้ความจริงจากปากของพี่สาวอย่างต้นน้ำว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรกัน และมันก็ถึงเวลาเมื่อต้นน้ำลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยสภาพอ่อนแรงโดยมีสายตาของทุกคนจ้องมองไปยังร่างของเธอ "พ่อ แม่ ต้นกล้า"น้ำเสียงอ่อนแรงเอ่ยเรียกชื่อของคนในครอบครัว ความกลัวเกาะกินหัวใจเมื่อทั้งสามคนจ้องมองมาที่เธออย่างไม่วางสายตาราวกับว่าเธอไปทำผิดร้ายแรงอะไรมา "ตื่นแล้วเหรอต้นน้ำ" "คุณคะ"คนเป็นสามีตวัดสายตาดุดันไปมองภรรยาจนเธอต้องก้มหน้ามองฝ่ามือ แม้อยากจะปกป้องลูกแต่ครั้งนี้เธอคงไม่สามารถหักห้ามสามีได้ "หนูไม่สบายเป็นอะไรคะ ทำไมทุกคนถึงได้มองหนูด้วยสายตาแบบนั้น"แววตาหวาดหวั่นไล่มองทุกคน อยู่ ๆ น้ำตาตาก็รินรื้นขึ้นมาเสียดื้อ ๆ เมื่อสบเข้ากับแววตาราวกับคนไม่เคยคุ้นเคยจากผู้เป็นพ่อ "แกท้อง"น้ำเสียงขาดห้วงเอ่ยบอกความจริงกับลูกสาว สองเท้าสั่นเทาแทบจะก้าวขาไม่ออกเมื่อนึกถึงคำพูดของหมอ 'คนไข้ตั้งครรภ์ได้หกสัปดาห์แล้วนะครับ'นี่เป็นคงเป็นคำพูดที่ยากต่อคนเป็นพ่อแม่จะยอมรับไหว ส่งลูกไปเรียนโรงเรียนดี ๆ แต่กลับต้องท้องกลับมามันไม่ต่างอะไรกับผู้ชายสารเลวคนนั้นยกไม้ขึ้นมาตีแสกหน้าผู้ให้กำเนิด "ทำไมฮะต้นน้ำ พ่อกับแม่เลี้ยงแกไม่ดีพออย่างนั้นหรือไง ฉันยอมส่งเสียแกให้เรียนโรงเรียนดี ๆ แล้วดูที่แกทำตัวสิ แกทำกับทำตัวเหลวไหลแบบนี้ได้ยังไง"ลูกสาวนั่งตัวสั่นน้ำตาไหลด้วยความหวาดกลัวและตกใจ ไม่คิดว่าอาการที่เธอเป็น จะเป็นอาการของคนกำลังตั้งครรภ์ "พะ...พ่อคะ หนู" "แกไม่ต้องพูดแก้ตัวอะไรทั้งนั้น"ต้นน้ำเม้มริมฝีปากเข้าหาน้ำตาไหลพรากด้วยความเสียใจ เธอทำให้ผู้เป็นพ่อโกรธและเสียใจและเมื่อหันไปมองร่างของมารดาน้ำตาก็ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก "แม่คะ" "หนูขอโทษ" "ใครเป็นพ่อของเด็กในท้องแก"ต้นน้ำรีบส่ายหน้าไปมาเมื่อบิดาเอ่ยถามถึงพ่อของเด็กในท้อง พลางร้องไห้โฮออกมาอย่างน่าสงสารแต่วินาทีนี้คงไม่มีใครมานั่งเห็นใจเด็กสาวใจแตกท้องโตอย่างเธอ "ฉันจะถามแกอีกครั้ง ว่าใครคือพ่อของเด็กในท้อง" "ฮึก พ่อคะ หนูขอโทษ" "แกไม่ต้องมาขอโทษฉัน เพราะมันไม่สามารถลบล้างในสิ่งที่แกทำเอาไว้ได้"ผู้เป็นพ่อหัวใจแตกสลายหมายมั่นส่งเสียลูกสาวให้เรียนสูง ๆ โตไปจะได้มีงานมีการดี ๆ ไม่ต้องมาลำบากตรากตรำเหมือนเขา แต่นี่มีใครเคยบอกคุณไหมว่าให้ทำดีกับคนรักเอาไว้ให้มาก ๆ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราทั้งสองจะหมดบุญวาสนาตายจากกันไป ถึงครานั้นแม้เราอยากจะย้อนหมุนทวนเข็มนาฬิกาไปมากเท่าไหร่มันก็เป็นได้เพียงแค่ความคิดส่วนลึกของคนที่ยังมีลมหายใจอยู่เท่านั้นภายในห้องมืดทึบไร้ซึ่งแสงสว่างเปรียบเสมือนดั่งหัวใจของชายหนุ่มผู้นี้ ที่เอาแต่นั่งดูรูปคนรักพร้อมกับภาพอัลตร้าซาวด์ลูกน้อยซึ่งติดอยู่บนแผ่นกระดาษในสมุดฝากครรภ์เสียงสะอื้นร่ำไห้ยังคงดังติดต่อกันทุกวันทุกเวลานับตั้งแต่คนรักตัดสินใจโบกมือลาโลกใบนี้โดยไม่คิดจะหวนกลับมาหาหรือปรับความเข้าใจ"ฮึก ขอโทษ"หัวใจที่เต้นรัวแรงและความรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกคมมีดกรีดแทงเกิดขึ้นเพราะอะไรมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ดีอยู่แก่ใจ"ขอโทษที่ทำร้าย"น้ำตาหยดหนึ่งร่วงหล่นลงบนฝ่ามือด้วยความรู้สึกรวดร้าวอาลัยหัวใจของเขาร่วงดิ่งลงสู่ห้วงทะเลลึก"กลับมานะ กลับมารักกันเหมือนเดิม""...""ขอโทษที่โกหก ขอโทษที่เอาแค่ทำร้าย ขอโทษที่ปากบอกว่าไม่รัก""...""ผู้ชายสารเลวคนนี้ยังรักวาดฝันสุดหัวใจนะรู้ไหม"น่าเศร้ายิ่งนักที่เธอไม่ทันได้ฟังคำบอกรักจากปากของเขา ความโกรธแค้นเปรียบเสมือนเกาะกำแพงสูงใหญ่คอ
พิธีในช่วงเช้าใกล้จะเริ่มขึ้น เหล่าขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวเดินทางมาถึง ใบหน้าของเจ้าบ่าวประดับด้วยรอยยิ้มพลอยทำให้ท่านอาร์มันโด้และแองเจลิน่าสบายใจเมื่อท่านทั้งสองได้รับข่าวดีเรื่องล้มเลิกการแก้แค้น ส่วนเรื่องในอดีตของชัชชัยปล่อยให้เป็นไปตามหน้ากระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ"แดดดี้ดีใจนะที่ลูกคิดได้และยอมปล่อยวาง""ผมต้องขอขอบคุณแดดดี้กับมัมมากเลยนะครับที่คอยเตือนสติไม่ทำให้ผมหลงทำผิดไปมากกว่านี้""ที่มัมกับแดดดี้คอยกล่าวตักเตือนก็เพราะไม่อยากให้ลูกทำผิดพลาด แม้เราจะมีเงินมีอำนาจมากเท่าไหร่แต่มันก็ไม่สามารถช่วยให้เราย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้"คำสอนของท่านทั้งสองช่วยฉุดดึงไม่ให้เขาทำร้ายผู้หญิงที่ตนเองรักไปมากกว่านี้ "ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี ผมเองก็รู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อยที่ทำร้ายเธอ""มัมอยากจะขอให้ลูกเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นบทเรียน ต่อไปภายในภาคหน้าลูกจะต้องมีสติให้มากกว่านี้จะได้ไม่ทำผิดพลาดอีก มัมรักลูกนะโทมัส""แดดดี้ก็รักลูกเหมือนกัน"โทมัสอ้าแขนโอบกอดท่านทั้งสองด้วยความรัก แม้จะไม่ใช่พ่อแม่แท้ ๆ แต่ท่านทั้งสองก็เลี้ยงดูเขามาคอยเติมเต็มความรักให้อย่างไม่ขาดหายเช่นเดียวกับคามิล่าบุตรสาวแท้
ป้านวลทำตามความต้องการของวาดฝันเธอนำซองใส่สิ่งของมาฝากไว้กับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นคนสนิทของโทมัสพร้อมกำชับไว้อย่างดีว่าให้ส่งซองใส่สิ่งของในซองนี้ให้โทมัสในตอนเวลาเสร็จจากงานแต่งงาน"ป้าเป็นใครกัน""ป้าชื่อป้านวล เป็นคนรับใช้ของคุณหนูวาดฝัน"มือขวาคนสนิทก้มมองสิ่งขอภายในมือก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋าเสื้อสูทรักษามันไว้อย่างดีรอนำส่งให้กับผู้เป็นเจ้านายในวันพรุ่งนี้ตามความต้องการของหญิงสาว"โทมัส ลูกคิดดีแล้วเหรอหนูวาดฝันเธอไม่รู้อะไรด้วยเลยนะ"อาร์มันโด้เอ่ยแย้มขึ้นทันทีเมื่อเขาเดินทางมาถึงประเทศไทยพร้อมกับภรรยาเพื่อเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวในพิธีการแต่งงาน"เธอกับพ่อของเธอคือคนละคน ลูกอย่าเอาความแค้นมาปิดบังความรักถ้าพรุ่งนี้เกิดอะไรขึ้นมันไม่สามารถย้อนเวลากลับมาแก้ไขอะไรได้แล้วนะ"แองเจลิน่าเกลี้ยกล่อมลูกชายเพราะไม่อยากให้โทมัสทำผิดไปมากกว่านี้ แม้การกระทำจะบอกว่าเกลียดและไม่ต้องการแต่ทั้งคู่รู้ดีว่าโทมัสยังรักวาดฝันเพียงแค่เจ้าตัวปากแข็งไม่ยอมรับความจริงเท่านั้น"คิดให้ดีนะโทมัส ล้มล้างความคิดในตอนนี้ก็ยังไม่สายแดดดี้ไม่อยากเห็นลูกเสียใจไปตลอดชีวิตนะลูก"ถ้อยคำสั่งสอนของบิดาและมารดาบุญธรรมเริ่ม
"ตอนนี้นายชัชชัยไปรับตัวคุณวาดฝันกลับมาอยู่ที่บ้านแล้วครับท่าน""ดี ฉันจะได้จัดการพวกมันทั้งสองคนเลยทีเดียว""แต่ท่านครับ คุณวาดฝันเธอกำลังตั้งท้องท่านคิดดีแล้วหรือครับที่จะ"ปัง"ชีวิตของกูต้องพังย่อยยับเพราะพวกมัน พี่สาวของกูต้องมาผูกคอยตาย กูต้องสูญเสียพี่สาวและลูกในท้องไปพร้อม ๆ กัน""...""พ่อของมันลงมือฆ่าพ่อแม่ของกูอย่างเลือดเย็น แล้วมึงคิดจะให้กูปรานีคนอย่างพวกมันสองคนอย่างนั้นเหรอ ฮะ"ความคับแค้นใจถูกกลั่นออกมาเป็นน้ำตา ภาพการตายในอดีตของครอบครัวมันยังคอยตามติดชีวิตของเขาไม่เคยเลือนหายไปไหน"แต่คุณวาดฝันเธอน่าสงสาร เธอไม่รู้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเลวที่พ่อของเธอได้ทำ""แดดดี้ส่งให้มึงมาพูดเกลี้ยกล่อมกูใช่ไหม"ลูกน้องคนสนิทยืนก้มหน้าอย่างจำยอม แม้อาร์มันโด้จะอยู่ห่างออกไปไกลแต่เรื่องที่เกิดขึ้นภายในบ้านเขารับรู้มันทั้งหมดผ่านการรายงานของบอดี้การ์ด"เธอเป็นคนรักของนายท่าน ผมรู้ว่านานท่านยังคงรักเธออยู่ อย่าทำร้ายผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เลยนะครับ""ออกไป""อย่าทำร้ายคุณวาดฝันกับคุณหนูเลยนะครับท่าน ท่านยังรักคุณวาดฝันอยู่ไม่ใช่เหรอครับ""กูไม่ได้รักเธอแล้ว มึงออกไปจัดการทุกอย่างตามที่กูสั
ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูไม้ดังขึ้นปลุกให้วาดฝันรู้สึกตัวตื่นนอนในยามรุ่งเช้า "ใครคะ""หนูเอาอาหารมาส่งค่ะ"เสียงคุ้นเคยของพนักงานหญิงดังขึ้นมาจากทางด้านหน้าของประตู โดยที่วาดฝันไม่ได้เอะใจหรือนึกสงสัย เธอก้าวขาลงจากเตียงรีบเดินไปเปิดประตูให้พนักงานสาวที่มักจะมาส่งอาหารให้เธอในทุก ๆ เช้า "คุณพ่อ"ริมฝีปากเรียวเปล่งเสียงเรียกชื่อของบิดาเมื่อเห็นว่าท่านกำลังยืนประกบหลังพนักงานผู้หญิงคนนั้นแถมยังมองมาที่เธอด้วยสายตาแข็งกระด้าง"นี่เงินของเธอ""ขอบคุณค่ะ"พนักงานสาวคนนั้นคว้าเงินอย่างลุกลี้ลุกลนรีบวิ่งออกไปโดยทันทีหลังจากได้รับเงินค่าจ้างเสร็จ"คุณพ่อมาที่นี่ได้ยังไงคะ""พ่อต้องเป็นคนถามลูกมากกว่าวาดฝันว่าลูกกำลังเล่นอะไรอยู่ ทำไมถึงได้หนีออกมาจากบ้านของคุณโทมัสเขาแบบนั้น""เขาให้คุณพ่อมาตามหนูเหรอคะ"ริมฝีปากซีดเซียวเม้มเขาหากันด้วยความประหม่า สองเท้าเล็กก้าวถอยหลังหมายจะปิดประตูหนีแต่ลูกน้องผู้ภักดีของผู้เป็นพ่อไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้น"หนูต้องกลับไปกับพ่อเดี๋ยวนี้วาดฝัน นี่คือคำสั่ง""ปล่อยหนูไปเถอะนะคะคุณพ่อ อย่าส่งตัวหนูไปให้ผู้ชายคนนั้นเลย"เธอวิงวอนแผ่วเบาด้วยความร้าวราน หัวใจเธอพลันดิ่งว
อ้วก อ้วกเสียงอาเจียนอย่างรุนแรงดังขึ้นภายในห้องน้ำพร้อมกับหยาดเลือดกำเดาไหลทะลักออกมา เส้นผมสีดำสนิทขับดวงหน้าซีดให้ขาวดังหิมะ ความมืดมิดไร้ขอบเขตกำลังห้อมล้อมรอบตัวของเธอเมื่อผลตรวจเลือดในครั้งนี้เป็นไม่น่ายินดีสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างเธอเลยสักนิด'คนไข้คิดดีแล้วหรือครับ ตอนนี้เซลล์มะเร็งมันลุกลามจนน่าเป็นห่วงถ้าคนไข้ยืนยันจะรักษาเด็กในครรภ์เอาไว้หมอเกรงว่า''ฝันไม่เป็นอะไรค่ะคุณหมอ ฝันทนได้''แต่ถ้าคนไข้ไม่รักษา ทั้งตั้งคนไข้เองรวมไปถึงเด็กอาจจะ...''แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะคะ ในเมื่อฝันไม่สามารถเลือกทางไหนได้'ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหนชีวิตของเธอมันก็จะต้องเกิดความสูญเสียขึ้น'ขอร้องเถอะค่ะหมอ เมตตาคนที่กำลังใกล้จะตายอย่างฝันด้วยเถอะนะคะ'"แม่ขอโทษนะลูก ถ้าหากชาติหน้ามีจริงขอให้เราสองคนได้เกิดมาเป็นแม่ลูกอย่าให้ได้มีเหตุร้ายทำให้เราสองคนต้องพลัดพรากกันอีกเลย"เธอไม่เคยท้อแท้หรือสิ้นหวังอะไรเท่านี้มาก่อน ชะตาชีวิตคงลิขิตให้เธอได้เจอแต่กับความทุกข์ไร้ความสุขจนวินาทีสุดท้ายสองเท้าก้าวไปยังเตียงนอนหลังจากจัดการอาบน้ำแต่งตัวในชุดใหม่แต่ใบหน้าสวยยังคงขาวซีดไม่มีชีวิตชีวา ขอบดวงตาบวมช้ำ